คุณหนูหน้าร้ายกับสาวใช้หน้าปลวก(yuri)
เขียนโดย rinjung
วันที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2556 เวลา 13.10 น.
แก้ไขเมื่อ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2556 22.04 น. โดย เจ้าของนิยาย
2) คนอย่างเธอต้องเจอฉัน
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความเดือนหยาดได้ฟังเสียงโหวกเหวกจากห้องของลูกสาวและยิ้มพึงพอใจ เพียงแค่นี้รินลดาจะได้รับบทเรียนที่เจ็บแสบชนิดที่ลืมไม่ลง ทำเขาไว้เยอะเจอตอบสนองจนสาสม
“คราวนี้สมใจอยากแล้วละซิ ลูกตัวแสบ”
"นั่นมันเสียงคุณหนูนี่ค่ะ คุณนาย"ส้วมได้ยินเสียงโวยวายรีบวิ่งเข้ามาดูพลางมือเกาหัวหยิกๆ
"เห็นหน้าคนใช้คนใหม่ดีใจจนเนื้อเต้น"กล่องความสุขถูกเปิดออกจึงทำให้เดือนหยาดกลับมาหัวเราะได้อีกครั้ง
ความหวังเดียวของเดือนหยาดคืออยากเห็นรินลดาลืมเรื่องในอดีตที่มีต่อบิดาที่จากไปมีครอบครัวใหม่มองแค่ปัจจุบันที่ตนทำหน้าที่ทั้งพ่อและแม่
“ไม่ได้ยินหรือไง ฉันบอกให้เธอออกไปจากห้องฉันไง”บุษบาค่อยๆ ย่างก้าวเข้าไปหาอย่างช้าๆ บรรยากาศรอบๆ เริ่มน่ากลัวขึ้นเรื่อยๆ รินลดานั่งตัวหดแม้อยากจะวิ่งหนีแต่ขาไม่รักดีสั่นหงึกหงัก
“ฮึ ฮึ”เสียงหัวเราะอันน่าสะพรึงกลัวนั้นดังอยู่ไม่ไกลหันหลังกลับไปอีกครั้งสาวใช้หน้าปลวกก็กระโจนเข้ามาหาและคร่อมรินลดาไว้
“กรี๊ดดดดด ออกไปนะ”ดวงตาสีเข้มเบิกโพล่งด้วยความหวาดกลัวหวดฝ่ามือลงบนใบหน้าบุษบาจนทิ้งรอยฝ่ามือให้เห็นและเริ่มเกิดอาการแสบๆร้อนๆ
“คุณหนูตบ แก้วจูบ เหมือนหนังในละครน้ำเน่าจัง ฮี่ ฮี่”รินลดาพลิกหน้าหนีออกแรงผลักบุษบาแต่ใบหน้าก็โน้มเข้ามาใกล้แววตาและรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ของปีศาจร้ายช่างเขย่าหัวใจของเธอให้แตกเป็นเสี่ยง
“อย่านะ อย่าทำอะไรฉันเลย”มือขยุ้มคอเสื้อพูดเว้าวอนทั้งโกรธเกรี้ยวและตื่นกลัวลมหายใจผ่อนออกเชื่องช้าและค่อยหายใจเป็นปกติเมื่อบุษบาผละกายออกจากเธอ ชั่ววินาทีที่มีโอกาสมือเรียวกำลงกับหมอนแน่นรัวฟาดหมอนใส่บุษบาจนบุษบาหนีแทบไม่ทัน
“โอ๊ย คุณหนู แก้วก็เจ็บเป็นนะคะ”รินลดายังคงระดมฟาดหมอนใส่สาวใช้อย่างไม่รีรอ
“แค่นี้มันยังน้อยไป”บุษบาไม่รอที่จะให้รินลดาฟาดอีกครั้งรวบสองมือเล็กที่กำลังประทุษร้ายเธอดึงเข้ามาฉกริมฝีปากจูบที่แก้มใส ดวงตาสวยเบิกโตอ้าปากหวอหน้าร้อนผะผ่าว อารมณ์โกรธสุดจะกลั้นออกแรงผลักบุษบาจนล้มลงฝ่ามือน้อยๆ รีบปาดลงที่หน้าจนเป็นรอยช้ำ กัดปากแน่นกลั้นสะอื้นน้ำตาหล่นลงมาเรื่อยๆ สุดท้ายก็ปล่อยสะอื้นจนตัวโยน บุษบาหัวใจอ่อนยวบเห็นน้ำตาไหลอาบสองแก้มพยายามพยุงตัวเองขึ้นความรู้สึกเจ็บปวดที่สะโพกประดังเข้ามาหาอย่างรวดเร็วแต่ทว่าเป็นห่วงคนที่กำลังสะอื้นอยู่ในขณะนี้ทำให้ต้องฟืนลุกขึ้นเดินเข้ามาปลอบใจ
“แก้วขอโทษคะ อย่าร้องให้เลยนะ”บุษบากำลังจะคว้าต้นแขนแต่กลับถูกฝ่ามือกระแทกเข้าลงที่หน้าด้านขวาอย่างแรง
“ออกไปให้พ้น ฉันไม่อยากเห็นหน้าเธอ”บุษบาสูดลมหายใจเฮือกใหญ่ ตอนนี้คงไม่เหมาะที่จะสนทนากัน ปล่อยให้รินลดาอยู่กับตัวเองสักพักแล้วจะกลับมาใหม่
ม่านตาของที่เต็มไปด้วยน้ำตาที่แสนรังเกียจ ดูถูก เหยียดหยาม เมื่อถูกผู้หญิงหน้าตาอัปลักษณ์ขโมยจูบแก้ม ฝ่ามือเรียวยกขึ้นถูจนแก้มบอบบางช้ำแล้วช้ำอีก ไม่เพียงแค่นั้นเธอวิ่งเข้าไปในห้องเก็บยาหยิบแอลกอฮอล์มาเช็ดขันติแทบแตกกระเจิงเช็ดไปเจ็บใจไป สัญญากับตัวเองในใจสาวใช้หน้าอัปลักษณ์จะต้องกระเด็นออกจากบ้านหลังนี้ไม่ช้าก็เร็ว ไม่อย่างนั้นเธอก็ต้องฝันร้ายทุกวันทุกคืนแน่ๆ
“สงสัยเราคงต้องรบกันไปอีกนาน หมูอ้วน”เสียงนุ่มเอ่ยยิ้มแย้มหน้าระรื่นที่เต็มไปด้วยความสุขนึกถึงตอนที่ดวงตาคมโตนั้นดูร้ายกาจกำลังจ้องเธอเขม็ง รับได้ถึงความรู้สึกที่ถูกเกลียดชัดเจน นี่เพียงแค่เจอกันไม่กี่วินาทียังทำให้รินลดาเกลียดเธอจนเข้าไส้ขนาดนี้ แล้วถ้าอยู่นานขนาดนี้จะเกลียดมากขนาดไหน
“คุณแม่ทำแบบนี้หมายความว่ายังไงค่ะ”รินลดาเปิดประตูเข้ามาโวยวายเสียงดังลั่น เดือนหยาดยิ้มกรุ่มกริ่ม
“แม่ไปทำอะไรให้ถึงได้โกรธจนตัวสั่นขนาดนี้”เดือนหยาดลุกขึ้นจากโต๊ะทำงานเดินเข้ามาหาลูกสาวทำหน้าไขสือ
“คุณแม่อย่ามาทำเป็นไม่รู้เรื่องหน่อยเลยค่ะ ถ้าคุณแม่ไม่ไล่มันออก พิมพ์จะหนีออกจากบ้านเดี๋ยวนี้”เดือนหยาดเลิกคิ้วพยักหน้าเบาๆ ส่งเสียงหัวเราะ
“ถ้าแกหนีออกจากบ้าน ไปมหาวิทยาลัยแกก็ต้องโหนรถเมล์ กลับจากมหาวิทยาลัยไม่มีคนใช้คอยปรนนิบัติ ต้องไปอยู่ห้องเช่าแคบๆ ไม่สะดวกสบาย ถ้าชอบแบบนั้น แม่จะไม่ขัดใจ”
“คุณแม่ คุณแม่ทำแบบนี้ได้ยังไง ทำแบบนี้กับพิมพ์ได้ยังไง พิมพ์ไม่ยอม พิมพ์ไม่ยอม”รินลดาเต้นเร่าๆ เหมือนเด็กเอาแต่ใจ เดือนหยาดไม่ได้ใส่ใจเดินกลับไปที่โต๊ะก้มหน้าทำงานต่อ
“คุณแม่ใจร้าย คุณแม่ใจดำ คอยดูต่อไปก็แล้วกัน พิมพ์จะไม่มีวันยอมแพ้”ครั้นไม่ได้ดั่งใจต้องการรินลดาเดินกระทืบเท้าออกไปอย่างโกรธจัด
“ส้วมบอกว่าคุณป้าเรียกพบ มีอะไรหรือเปล่าค่ะ”เดือนหยาดเงยหน้าจากการอ่านประวัติการศึกษาของบุษบาที่กลอยแก้วได้ให้ไว้เกียรตินิยมอันดับหนึ่งใช้เวลาเรียนแค่สามปีครึ่ง คณะบริหารธุรกิจ เรียนดี กิจกรรมเด่น ดูลูกสาวเธอซิยังไม่คืบหน้าไปถึงไหนเลย เอาแต่กิน เที่ยว เล่น ไร้สาระไปวันๆ แต่ทุกอย่างที่รินลดาทำตนเองก็รู้อยู่แก่ใจว่าทำไม
“ตะกี้นี้ได้ยินเสียงยัยพิมพ์โวยวายหรือเปล่าละ”บุษบาหัวเราะมองตาเดือนหยาดอย่างรู้กัน
“ได้ยินชัดเจนเลยค่ะ บ้านแทบแตก”
“ถ้าป้ามีลูกสาวแบบบุษคงจะดีไม่น้อย ดูลูกสาวป้าซิ ไม่เอาไหนซะเลย เรียนก็ไม่รู้จักเรียน เหลวไหล ไม่ได้เรื่อง เทียบบุษไม่ได้สักนิด ทั้งที่รุ่นเดียวกันแต่บุษเรียนจบเร็วกว่า กลอยคงจะภูมิใจในตัวบุษพอๆกับที่ป้า”
“คุณป้าก็ชมบุษมากเกินไป…คุณป้าค่ะ จะละลาบละล้วงมากเกินไปหรือเปล่าคะ หากบุษอยากถามคุณป้าว่าทำไมพิมพ์เขาถึงได้เป็นแบบนี้”คำถามที่ไม่คิดอยากจะตอบ ทำให้เดือนหยาดนิ่งไปสักพักก่อนจะค่อยๆ อธิบายเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้ฟัง
หลังจากที่ได้รู้ความจริงจากปากของเดือนหยาด ความรู้สึกหลากหลายในใจพรั่งพรูออกมาสายตาสบประสานกับเดือนหยาดอย่างเห็นใจ ดวงตาคู่นั้นเริ่มมีน้ำคลอใส่อยู่ที่ริมขอบตา แม้เดือนหยาดจะดูกล้าหาญ เด็ดเดี่ยว เข้มแข็งแค่ไหน หากเจอเรื่องแบบนี้เข้า เป็นใคร ก็คงเสียใจเหมือนกัน และหากเธอเป็นรินลดาคงตกอยู่ในสถานการณ์ไม่ต่างกันหรืออาจจะแย่กว่า แค่เพียงถูกเพื่อนในวัยเรียนประณามว่าเป็นลูกไม่มีพ่อแต่เธอก็ไม่เคยเสียใจ เพราะเธอรู้ว่าพ่อของเธอได้เสียชีวิตไปตอนที่เธอยังเด็กและพอจำความได้ แต่โดนล้อบ่อยเข้าก็สะกิดความรู้สึกให้เขวไปได้เหมือนกัน
“เข็มแข็งไว้นะคะ คุณป้า”บุษบาเอื้อมมือไปกุมมือของเดือนหยาดอย่างให้กำลังใจ
“บุษต้องช่วยป้านะ ทำยังไงก็ได้ให้ยัยพิมพ์กลับมาเหมือนเดิมที ป้าไม่อยากเห็นเขาประชดชีวิตด้วยการทำตัวเหลวไหลแบบนี้ ป้ามีบุษคนเดียวที่ช่วยป้าได้”เดือนหยาดอ้อนวอนทั้งน้ำตาบุษบาพยักหน้ารับเป็นการสัญญา แม้ไม่รู้ว่าจะช่วยได้สักแค่ไหนแต่ก็จะพยายามให้ถึงที่สุดเพื่อรินลดาหมูอ้วนที่เธอเฝ้าคิดถึง ภาวนาอยากจะเจออยู่ทุกค่ำเช้า
“คุณป้าไม่ต้องเป็นห่วงค่ะ พิมพ์ก็เหมือนคนในครอบครัวเดียวกันกับบุษ บุษไม่ปล่อยให้เขาเป็นแบบนี้แน่นอน วางใจเถอะค่ะ”เดือนหยาดซึ้งในน้ำใจโผเข้ากอดบุษบา
บุษบาเปิดประตูออกมาจากห้องทำงานของเดือนหยาด พบรินลดาที่แนบหูแอบฟัง พอโดนรู้ทันเข้าก็ทำหน้าเป็นเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ตีหน้าเก็กอีกต่างหาก เห็นแล้วน่าหยิกนัก
“ประจบอะไรคุณแม่ฉันอีกละ ยัยปลวก เห็นเข้าไปตั้งนานสองนาน”รินลดาถามพลางทำปากเบ้
“ก็ขอขึ้นเงินเดือนนะคะ เงินเดือนแค่สองหมื่นสามหมื่นมันไม่พอ เพราะต้องดูแลคุณหนูที่ทั้งดื้อ ทั้งเอาแต่ใจ พยศอีกต่างหาก มันไม่ค่อยคุ้มนะคะ”
“มันจะมากไปแล้วนะยัยหน้าปลวก แกคิดจะขูดเลือดขูดเนื้อคุณแม่ฉันใช่ไหม ฮะ”บุษบาหัวเราะร่ายิ่งเร่งอารมณ์รินลดาให้ยิ่งโกรธ
“เอะอะ อะไรกันยัยพิมพ์ เสียงดังเชียว”เดือนหยาดตำหนิลูกสาว
“คุณแม่ทำแบบได้ยังไงค่ะ คุณแม่ไปขึ้นเงินเดือนให้มันทำไม ทำแบบนี้มันก็ยิ่งได้ใจ ไอ้พวกคางคกขึ้นวอ ไม่รู้จักเจียมตัว”เดือนหยาดทำหน้างงๆ บุษบาขยิบตา เดือนหยาดร้องให้ทันที
“แล้วจะแปลกตรงไหน เขาทำงานดี แม่พอใจ แม่ก็ต้องตอบแทนเขาซิ แกก็เลิกโวยวายได้แล้ว”
“คุณแม่ คุณแม่จะหลงมันมากไปแล้วนะคะ แค่มันประจบคุณแม่แค่นี้ คุณแม่ก็หลงไปกับมัน”เดือนหยาดส่ายหัวปิดประตูเพื่อกลบเสียงแว๊ดๆ ของลูกสาว
“ยัยแม่มด ยัยหน้าปลวก แกเป่ามนต์ดำใส่แม่ฉันใช่ไหม”บุษบาหยักไหล่ทำเป็นไม่สนใจ ปล่อยให้รินลดาโวยวายไปตามประสา
“ยัยบ้า ยัยปลวก กลับมาเดี๋ยวนี้นะ ฉันยังพูดไม่จบ”บุษบาหัวเราะทิ้งทวนปล่อยรินลดาเต้นเร่าๆ ยังกับถูกผีเข้า
“เฮ้อ ยัยหมูอ้วน ไม่เจอกันหลายปี ทำไมเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้นะ”บุษบาหยิบอัลบั้มภาพวันเก่าๆ ของเธอและรินลดา จากเด็กน้อยหน้าตามอมแมมเปลี่ยนเป็นสาวสวยสะพรั่ง ทุกครั้งที่ได้มองภาพเหล่านี้ทำให้ต้องยิ้มได้ทุกครั้ง แต่มาวันนี้ได้เห็นตัวเป็นๆ อีกครั้งหัวใจมันพองโตอย่างบอกไม่ถูก ยิ่งได้เห็นปากเชิดๆ ตารั้นๆ ยิ่งอยากจะ..
“คิดอะไรอยู่ บ้าไปแล้วเรา”บุษบาปิดอัลบั้มภาพลงอย่างแรง อยู่ดีๆ ก็หน้าแดง เย็นวาบๆสลับร้อน สลับหนาวๆ เพียงแค่คิดถึงเจ้าปากแดงๆ ของเจ้าหมูอ้วน-----------------------------------------------------------------------------------------------------------
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ