Love Never Die
2) งานเต้นรำใต้แสงจันทร์สีเลือด
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความนี่ก็2อาทิตย์แล้วที่ข้ามาพังอาศัยชั่วคราวอยู่กับมนุษย์หญิงผู้แปลกประหลาดคนหนึ่งซึ่งเลี้ยงปีศาจะเอาไป666ตนแถมยังได้รับความภักดีจากพวกมันอย่างแท้จริง ซึ่งข้าก็อาจจะเป็นหนึ่งในนั้นด้วยเพราะข้าก็คอยดูแลและทำงานต่างๆตามที่นางสั่ง
นางมีฐานะเป็นเจ้าหญิงรองรัชทายาทและเคยเป็นปราชญ์ทำนายผู้โด่งดัง แต่เมื่อไม่นานมานี้นางถูกปลดและเปิดให้รับตำแหน่งขุนนางเฉพาะกิจควบกันไป
และเมื่อไม่กี่วันก่อนก่อนหน้านี่ข้าก็เพิ่งรู้ว่าข้าอยู่ในหอคอยข้างทะเลสาบในป่าที่พวกมนุษย์ใช้ชื่อว่า "ป่ามนต์ดำ" หรือ "อาณาจักรพฤกษา"
ว่าแต่สมัยนี้สตรีเป็นขุนนางได้แล้วหรือนี่?
(และนั่นก็จงเป็นคำถามต่อไปเพราะข้าพเจ้าผู้แต่งก็หารู้ไม่ว่ามีหรือเปล่า)
ตอบตามตรงนะขอรับอยู่กับนางมาเป็นเวลาหลายชั่วโมงหลายนาทีแล้วข้ายังไม่รู้จักนิสัยใจคอนางดีเลย
ก๊อกๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้น2ครั้งก่อนจะเปิดออกโดยไม่รอเสียงร้องอนุญาตจากบุคคลในห้องซึ่งกำลังนั่งจมกองเอกสารที่กระจัดกระจาย
ภายในห้องทำงานมืดสลัวมีแต่ชั้นหนังสือ กองหนังสือและเอกสารอีกเป็นกองภูเขาที่คาดว่าน่าจะเอาไปถมคลองหรือสร้างเขื่อนได้สบายๆ
"ซีเรฟ พี่บอกแล้วไม่ใช่หรือไงว่าไม่ต้องไปแย่งงานเจ้าพวกขี้ประจบนั่นทำ"เสียงเอะอะเอ็ดตะโรที่ฟังดูไม่น่ากลัวเลยสักนิดดังขึ้นพร้อมกับร่างเพียวลมของหญิงสูงศักดิ์ที่มียศเป็นเจ้าหญิงรัชทายาท เธอไม่ได้เดินเข้ามาบ่นน้องสาวด้วยมือเปล่า ในมือของเธอมีถ้วยชาที่ยีงมีไออุ่นลอยคลุ้งอยู่ "พี่ว่าเจ้าควรจะใช้หนังสือเกะกะบนพื้นนี่ไปจุดดยนใส่เตาผิงเสียนะ ห้องนี่เย็นจริงๆ!"
"ท่านพี่นั่นแหละอย่ามาแย่งงานของข้า ข้าเป็นขุนนางเฉพาะกิจ คดีหรืองานที่มีปัญหาหนักก็ควรเป็นของข้า ท่านควรจะไปบอกฝ่ายคัดกรองงานให้ดูให้รอบคอบหน่อยนะ ข้าหละสงสัยจริงๆว่าทำไมงานของข้ามีใบขอเบิกงบประมาณ แผนงานรับสมัครทหารที่ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ ใบของเบิกยุทธภัณฑ์ทางการสงคราม ใบขอลาหยุดพักผ่อน แฟ้มงานคดีที่ปิดแล้วรออนุมัติ แผนงานการเกณฑ์แรงงานและทหารเพิ่ม ข้าไม่เห็นว่ามันจะมีปัญหาตรงไหน" เสียงบ่นอู้อี้ดังมาจากใต้กองเอกสารที่ขยับยุกยิกไปมา
"ฝ่ายคัดกรองเอกสารมีปัญหา และนั่นข้าจะไปเฉ่งฝ่ายการทหาร ฝ่ายงบประมาณ ฝ่ายบุคลากร ศาลหลวง เจ้าพวกบ้านี่เริ่มออกอาการไม่เห้นหัวน้งข้า..." แล้วนางก็บ่นพึมพำไม่หยุดปากเหมือนป้าแก่ๆก่อนจะทำจดหมายฉบับหนึ่งมาวางลงบนกองเอกสารกองหนึ่ง "งั้นก็เอาคดีนี้ไปทำ นี่เป็นงานอย่างเดี๋ยวที่ควรมาถึงมือเจ้าในช่วงสองสามวันนี้ ส่วนเรื่องพวกคนด้อยคุณภาพ..."
"ไม่เป็นไรหรอกท่านพี่ ข้าจัดการเองได้ ข้าแค่ต้องการคำยืนยัน" เด็กสาวผมดำโผล่หัวออกมากองเอกสารแล้วคว้าซองจดหมายมาเสียบในแฟ้มงานเปล่าๆเล่มหนึ่งซึ่งเขียนหน้าแฟ้มาว่า "งานที่ต้องสะสาง"
"ซีเรฟ ถึงเวลาทานยาและทานอาหารเที่ยงแล้ว" ชายหนุ่มผมเงินในชุดเสื้อเชิ้ตกับกางเกงขายาวปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับเด็กหนุ่มผมดำอีกคน
"ท่านแม่ครับ ข้าบอกแล้วว่างานพวกนั้นไม่ใช่งานของท่าน อย่าดื้อมากนักสิครับ" คาโน่กล่าวอย่างอ่อนโยนในขณะที่เอาเอกสารไร้สาระทั้งหมดโยนใส่เตาผิงและเผามันให้อุณหภูมิในห้องสูงขึ้น เขาไม่แคร์เลยว่าพวกเจ้าของเอกสารจะมีชะตากรรมอย่างไร้ แต่ที่แน่ๆคือเขาสะใจที่ได้ทำให้คนที่ทำให้ซีเรฟลำบากใจต้องรันทดอดสูยิ่งกว่า
เด็กสาวผมดำมองเปลวเพลิงในเตาผิงก่อนที่จะหันมามองรอบๆตัวที่สะอาดเรียบร้อยขึ้นเยอะแถมยังมีโต๊ะกับโซฟาซึ่งเธอเคยเอาไปยัดไว้ที่ไหนสักแห่งในหอคอย ที่จริงมันเป็นชุดรับแขกที่อยู่ในห้องเอกสารแต่เธอไม่ชอบและรำคาญเวลามีพวกคลั่งลัทธิมานั่งบ่นในห้องและลูบไล้สิ่งของของเธอ เธอจึงเอาชุดรับแขกไปซ่อนและลืมเองว่าเอาไปซ่อนไว้ที่ไหน
"ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ทานไปคุยไปก็แล้วกันนะครับ เดี๋ยวผมกับเดธจะไปยกอาหารเข้ามา คุยกันตามสบายนะครับ" พูดจบคาโน่ก็ลากชายหนุ่มผมเงินออกไปจากห้องเกสารอย่างรู้หน้าที่
หลังจากประตูไม้ปิดลงจนมั่นใจว่าไม่มีใครแอบฟัง เด็กสาวผมดำใช้มีดเปิดซองจดหมายอย่างนิ่มนวลแล้วดึงขึ้นมาอ่านอย่างใจเย็น เนื้อความในจดหมายไม่มีอะไรสำคัญเท่าหัวข้อเรื่องและภารกิจที่ได้รับมอบหมายซึ่งมีเนื้อความแค่2บรรทัดบนสุดเท่านั้น
"เป็นคดีฆาตรกรรมที่เกิดขึ้นในเมืองทางเหนือหนะ ในช่วง2อาทิตย์ที่ผ่านมามีหญิงสาวเสียชีวิตไป14คน ทั้งหมดเป็นพลเรือนธรรมดา หน้าตาดี แต่เสื้อผ้าและทรัพย์สินที่ติดตัวก่อนตายกลับไม่สอดคล้องกับฐานะ ทุกคนสวมชุดทรงแบบที่พวกอวดรวยชอบใส่" เมอรี่อธิบายอย่างคร่าวๆแล้วยกถ้วยชาขึ้นดื่มในขณะที่ทองน้องสาวสุดที่รักกำลังจุดไฟเผาจดหมายของทางการอย่างไม่ใบดี
"สภาพศพถูกควักลูกตาออก ถูกกรีดแทงด้วยของมีคมทั่วทั้งร่างและโรยด้วยกลีบกุหลาบมีขาว นับวันมนุษย์จะยิ่งวิปริตขึ้นทุกวันจริงๆ" ซีเรฟพึมพำเบาๆในขณะที่มองบัตรที่แนบมากับจดหมายซึ่งเธอไม่ได้เผาทิ้ง 'บัตรเข้างานเต้นรำ' เธอเก็บมันเข้าไปในกระเป๋าแล้วเอ่ยถาม "ข้าต้องไปจริงๆหรือท่านพี่ ปกติแล้วเขาจะเชิญทายาทที่มีชื่อตามหลังว่าเดอะไลธ์มิใช่หรือ"
"ฆาตรกรส่งสารเตือนมาว่าจะฆ่าหญิงสวที่สวยที่สุดในงานและสร้างศิลปะสีแดงฉานบนกำแพงห้องโถงงานเลี้ยงให้เป็นขวัญตา ที่จริงข้าจะไปเองแต่ท่านพ่อส่งคดีอื่นให้ข้าทำแทนหนะ อ้อ เวลาอยุ่ในงานอย่าใช้ภาษาโบราณแบบที่เราสนทนากันอยู่เป็นอันขาด" เมอรี่เอ่ยเตือนก่อนจะกล่าวเบาๆว่า "เชิญ"
คาโน่และเดธเดินกลับเข้ามาพร้อมกับถาดเงิน2ถาดที่เต็มไปด้วยจานอาหารที่ส่งกลิ่นหอมโชยมายั่วน้ำลาย พวกเขาวางจานอาหารลงบนโต๊ะแล้วทำท่าจะเดินผละออกไปจากห้องเนื่องจากไม่อยากรบกวนเด็กสาว2พี่น้องที่นานทีจะได้เจอหน้ากันและอีกเหตุผลคือมันไม่เกี่ยวกับพวกเขาเลยแม้แต่นิดเดียว ถ้าอยากบอกพวกนั้นคงบอกเองแหละนะ
"อยู่ทานข้าวด้วยกันเลยสิ เดธ คาโน่ ฉันว่าคืนนี้เราได้ไปเที่ยวงานเต้นรำนะ"
"ท่านแม่ ผมไม่ชอบงานแบบนี้เลยจริงครับ" เด็กหนุ่มผมดำในชุดขุนนางกล่่าวอย่างหัวเสียง เขาสวมเสื้อเชิ้ตแขนยาวแต่งลูกไม้สีขาว เสื้อกั๊ก กางเกงขาสั้นสีดำ ถุงเท้าสีขาวและรองเท้าหนังรัดส้นสีดำ ซึ่งทำให้เขาดูสูงศัหดิ์และน่ารักไปอีกแบบหนึ่ง
"เราก็ไม่ชอบเหมือนกันแหละ" เด็กสาวผมดำในชุดราตรีสีครามประดับลูกไม้สีดำ ไหล่และคอของเธอถูกหุ้มด้วยผ้าไหมแก้วโปร่งแสง เอวของเธอถูกรัดเข้ารูปด้วยแผ่นหนังสีดำผูกโบว์สลับไขว้กัน บนลำคอยาวระหงส์ของเธอมีสร้อยเงินห้อยจี้รูปปีกสีดำนิล เส้นผมสีดำเป็นมันวาวยาวสยายถึงกลางหลัง ใบหน้าขาวเนียนของเธอยังคงงดงามและเรียบเฉยยากจะหาใครเปรียบได้แต่ ดวงตาสีแดงฉานดั่งกุหลาบแย้มบานของเธอดูน่าหวาดหวั่นนักสำหรับมนุษย์ธรรมดา
"ซีเรฟ ดวงตาของคุณจะไม่เด่นไปหน่อยหรือไง" และสุดท้าย ชายหนุ่มร่างสูงโปร่ง หน้าตาดีเจ้าของผมสีเงิน เขาพูดโดยไม่ดูตัวเองเลย ทั้งสีผมและสีตาของเขาล้วนโดดเด่นเสียจนน่ากลัว ผมสีเงินตรงยาวประบ่าที่ทิ้งตัวเรียบไม่มีชี้ฟู นัยน์ตาสีเงินที่ดูราวกับดวงตาที่พร่าบอด เขาสวมเสื้อเชิ๊ตแต่งลูกไม้สีขาว เสื้อโค้ตยาวสีน้ำเงินขอบดำแบบติดกระดุมข้าง กางเกงขายาวและรองเท้าหนังสีดำ
"ว่าแต่ท่านแม่ นายก็เหมือนกันแหละน่า!" คาโน่หันไปแขวะก่อนจะเดินไปยื่นบัตรให้ชายสวมสูทร่างยักษ์ตรงประตู
ว่าแต่ข้า พวกเจ้าสิแปลก! ซีเรฟและเดธต่างประท้วงในใจก่อนจะเิดินควงกันเข้างานไปตามมารยาทโดยมีคาโน่เดินตามอยุ่ข้างๆแบบที่ครอบครัวขุนนางอื่นทำกัน (ถึงแม้นี่จะเป็นครอบครัวที่ไม่มีอะไรจริงสักอย่างก็ตาม)
ทำตามแผนที่วางไว้ซะ ซีเรฟ อย่าออกนอกแผนเด็ดขาด มองหาผู้ต้องสงสัยที่ว่าแล้วจัดการซะ! ซีเรฟเตือนตัวเองในขณะที่โปรยยิ้มบางๆให้กับชายที่ยกแก้วไวน์ชวนเธอดื่ม ข้าต้องยิ้มไปอีกนานไหม! ตะคริวจะกินหน้าอยู่แล้วเนี่ยให้ตายเถอะ!
"คุณผู้หญิงครับ รู้ไหมว่าคุณดูงดงามที่สุดในงานนี้เลย..." เสียงของชายคนหนึ่งดังขึ้นจากด้านหลังเด็กสาวทำให้เธอต้องหันไปมอง
ใบหน้าของเธอเกือบจะชนเข้ากับแผ่นอกกว้างของชายร่างสูงตรงหน้าทำให้เขาต้องถอยหลังไปก้าวหนึ่งเพื่อที่จะไห้ยลโฉมของเด็กสาวได้ถนัดตา เขามีเส้นผมสีดำยาวรวบเป็นหางม้าและนัยน์ตาสีเขียวมรกตราวกับว่ามีมนตราที่สามารถสะกดให้หญิงสาวทั้งหลายหลงไหลไปกับคำพูดหวานหูและสายตาเล้าโลมนั้น...
ใช้ไม่ได้กับข้าหรอกย่ะ!... แต่หมอนี่... อาร์ค ซามูเอล พี่ชายขององครักษ์ของพี่ข้านี่หน่า แต่ทำไมข้าถึงได้รู้สึกว่าเขาน่าสงสับแปลกๆยังไงไม่รู้
"ขอบคุณค่ะ ดิฉันว่าคุณคงทราบชื่อฉันดี แล้วคุณอาร์คมากับใครหรือค่ะ?" ซีเรฟแสร้งส่งยิ้มให้เขาแบบที่เธอทำจนหน้าจะเป็นตะคริวในงานนี้ "คุณคงไม่คิดจะัชวนเด็กสาวที่เลี้ยงลูกอย่างฉันเต้นรำหรอกนะคะ" เธอพูดในขณะที่โอบคอคาโน่ซึ่งจับแขนเสื้อเธอไม่ยอมปล่อย แหงหละมีพวกคุณนายป้าจ้องเขาด้วยสีหน้าท่าทางเหมือนหมาในเห้นชิ้นเนื้อซะขนาดนั้นใครจะกล้าอยู่ห่างเกราะคุ้มภัยเล่า!
"ครับ คุณผู้หญิงสีดำ ผมทราบชื่อคุณดี แค่อยากจะคุณเรื่องคดีหนะครับ" อาร์คกล่าวพร้อมกับรอยยิ้มอบอุ่น เขาเป็นฝาแฝดกับอาเธอร์เพียงแต่ว่าสีตาและสีผมต่างกันเท่านั้นเอง
ดีจริงที่หมอนี่ไม่รู้ว่าขุนนางใหม่ เจ้าหญิงและผู้พยากรณืเป็นคนเดียวกัน
"ไม่ได้" เดธเดินเข้ามาแทรกกลางด้วยสีหน้าท่าทางเย็นชาแข็งกร้าวจนผิดวิสัย นัยน์ตาสีเงินของเขาวาวโรยจนดูน่ากลัวเสียยิ่งกว่านัยน์ตาสีเลือดของเด็กสาวเป้นไหนๆทำเอาหญิงโสดในงานที่แอบมองเขาถึงกับผงะและเป็นลมกันไป
ทำตามแผน เดธ เสียงของเด็กสาวดังขึ้นในโสตประสาทของชายหนุ่มทันทีที่เขากล่าวปฏิเสธอย่างก้าวร้าว เขาส่งเสียงอย่างไม่พอใจแล้วพึมพำเบาๆว่า "รู้แล้วน่า คุณต้องกลับมาในอีก15นาทีนะครับ ผมเป็นห่วง" ก่อนจะหลีกถอยออกไปปล่อยให้เด็กสาวผมดำเดินไปกับชายหนุ่มไม่น่าไว้ใจคนนั้น
สังหรณ์ไม่ดีเลยจริงๆ เดธถอนหายใจเบาๆในขณะที่พยายามเล่นไปตามบทคุณพ่อที่ดีต่อไป
"ผมว่างานเลี้ยงนี้เริ่มจะน่าเบื่อแล้วนะครับ" อาร์คกล่าวในขณะที่มือขวาก้พยายามจะโอบเอวบางของเด็กสาวให้ชิดกับตัวมากที่สุด รอยยิ้มล่อลวงปรากฏขึ้นที่ริมฝีปากของเขาซึ่งนั่นทำให้เด้กสาวนึกสะอิดสะเอียนอยากจะฆ่าปิดปากคนขึ้นมากระทันหัน
"ก็ว่างั้นแหละค่ะ ไปหาอะไร 'สนุกๆ' ทำกันดีกว่าค่ะ" เด็กสาวแกล้งทำเป็นเป็นคล้อยตามในขณะที่มองเขาจากด้านล่งด้วยสายตาหว่านล้อมหวานหยดนั้น ทั้งๆที่ในใจเธอ เธออยากจะกระโดดหักคอไอ้หมอนี่จะตายอยู่แล้ว
รอยยิ้มพรั่งพรายบนเรียวปากของชายหนุ่มยิ่งชัดเจนและแย้มขึ้นจนแทบจะเรียกว่าปากฉีกก็เป็นได้ ในขณะที่กลิ่นหอมเย็นๆของผงปีกภูตน้ำแข็งเริ่มอบอวลไปทั่วทั้งห้อง
"งั้นก็หลับซะนะครับ" อาร์คพูดจบร่างของเด้กสาวก็อ่อนยวบลงอย่างไร้ทางขัดขืน
พลาดท่า... จนได้
คาโน่ เดธ อย่ามา...
อย่ามา...
เดธรู้สึกเหมือนร่างทั้งร่างแข็งทื่อไปเมื่อได้ยินเสียงอ่อนระโหยโรยแรงของเด็กสาวจากจากสื่อสารจิตทางไกล
ซีเรฟ ซีเ้รฟ เฮ้ย เจ้ามนุษย์ประหลาด ไหนบอกว่าไม่เป็นไรไง แต่ไม่ว่าชายหนุ่มจะพยายามเท่าไหร่ก็ไม่ได้รับการติดต่อกลับมาจากเด็กสาวเลย
เคร้ง เสียงโลหะกระทบพื้นดังขึ้น คาโน่ยืนตัวแข็งทื่ออยู่กับที่ราวกับว่าลืมสิ้นทุกสิ่งว่ากำลังทำอะไรอยู่ เขาก้มลงเก็บดาบโบราณผุพังที่ตนทำตก รอบตัวของเขามีกลิ่นไอของบางสิ่งที่ไม่ใช่มนุษย์และมันยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆเมื่อความรู้สึกและหน้าที่ขัดแย้งกัน
"คาโน่ เจ้าจัดการตรงนี้แล้วกันเดี๋ยวข้าจะไปดูเอง ยมทูตไปมาสะดวกกว่าและไม่มีมนุษย์หรือปีศาจจับได้ด้วย" เดธลูบหัวเด็กหนุ่มร่างเล็กอย่างอ่อนโยน ใบหน้าเรียบเฉยของเขาพลั้นแสดงความอ่อนโยนออกมาราวกับพ่อลูกกันจริงๆ "ข้าเชื่อว่านางอยากให้เจ้าปลอดภัย" เขาขยี้หัวเด็กน้อยเบาๆแล้วหายวับไปจากที่ตรงนั้นราวกับหมอกมายาที่หาตัวจับไม่ได้
เสียงโหวกเหวกตะโกนโวยวายและเสียงโหยหวนดังขึ้นในโสตประสาทที่พร่าเลือนของเด็กสาวทำให้เธอรู้สึกตัวและลืมตาตื่น แต่เมื่อพยายามจะลุกกลับลุกไม่ขึ้นเมื่อเธอถูกพันธนาการแขนทั้ง2ให้ติดผนังและให้อยู่ในท่านั่งที่ไม่ค่อยสบายนัก ตรงหน้าเธอมีซี่ลูกกรงและผ้าเนื้อดีสีแดงสด
"คาเลีย! และนี่ก็ถึงกาลที่สมควรที่จะแสดงศิลปะอันวิจิต ดวงตาที่หายากที่สุดบนพิภพแห่งนี้ ดวงเนตรลูซิเฟอร์ ว่ากันว่าเป็นยาอายุวัฒนะชั้นเลิศและให้พลังอำนาจแก่ผู้ครอบครองเชียว และตอนนี้คุณผู้หญิงสีดำได้อยู่ในมือผมแล้ว!" เสียงป่าวประกาศของชายหนุ่มคนหนึ่งดังขึ้นซึ่งเธอก็จำเสียงนั้นไำด้ดี... อาร์ค
ผ้าคลุมกรงถูกดึงออกทำให้มองเห้นทัศนียภาพโดยรอบซึ่งข้างเธอมีกรงใส่หญิงสาว2กรงซึ่งมีศพอันไร้ชีวิตและดวงตาถูกพันธนาการไว้เช่นเดียวกับเธอ ตรงหน้าของเธอมีเพียงชายหนุ่มที่เธอตามมาเท่านั้นนอกจากนั้นยังมีตุ๊กตาเลียนแบบคนตัวเท่าคนจริงๆอีกหนึ่งตัว มันมีผมสีดำลอนยาวถึงกลางหลังและนัยน์ตาสีฟ้าซึ่งทำจากลูกแก้ว มันสวมชุดแต่งงานงามสง่า
"พวกผู้หญิงโสโครกที่มีครอบครัวแล้วแต่ยังจะไปมีคนอื่นมันต้องได้รับบทเรียน ฮึๆๆๆๆ ดูสิคาเลียนางพวกนี้ใช้ชีวิตที่เธอปรารถนาที่จะมีอย่างสูญเปล่าทิ้งขว้าง!" อาร์คเอ่ยอย่างคนเสียสติแล้วใช้กริชเล่มหนึ่งที่มีคราบเลือดเกรอะกรังชี้ไปยังเด็กสาวด้วยท่าทางเหมือนคนบ้า ดวงตาเบิกโพลนและรอยยิ้มน่าสะอิดสะเอียนที่ฉีกไปจนจะถึงหู "ฉันจะทำให้พวกแกไม่ได้มองเห็น และไม่มีลมหายใจ!"
"ฮึ! ทำได้ก็เอาสิ" ซีเรฟเอ่ยท้าไปอย่างไม่เกรงกลัว
อาร์คซัดกริชเล่มนั้นใส่เธอหมายจะขว้างให้โดนดวงตาสีเลือดอันเย่อหยิ่งทะนงและไม่เกรงกลัวนั้น
เด็กสาวหลับตาลงเตรียมรอรับมือกับความเจ็บปวด แต่ถ้าเป้นไปได้เะอหวังเหลือเกินว่าเธอจะสามารถใช้เวทย์ได้เร็วพอที่จะป้องกันกริชนั่นได้ทันกาล
ฉึก!
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ