[SHAM] รักนี้ไม่มีลวง
8.4
เขียนโดย หมาน้อยพิทักษ์ดวงดาว
วันที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2556 เวลา 08.17 น.
12 ตอน
1 วิจารณ์
17.85K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2556 08.25 น. โดย เจ้าของนิยาย
2) [SHAM] รักนี้ไม่มีลวง #02
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ[2]
“แกทำเอาหมอนั้นอึ้งไปเลยนะ” โจลันยังไม่หยุดหัวเราะ แม้ว่าตอนนี้เขากำลังขับพาคอลล์ไปที่จุดมุ่งหมายต่อไปก็ตาม “สงสัยจะเกลียดขี้หน้าแกไปอีกนานที่บังอาจตอกหน้ากลับไปแบบนั้น เฮ้ย เลิกยุ่งกับผมสักทีได้มั้ย...”
คอลล์หันไปทำตาดุใส่พี่ชายก่อนจะหันกลับไปมองตัวเองในกระจกอย่างสมเพช รู้สึกเสียดายเอฟโฟอย่างสุดซึ้ง
“แต่ว่าน่ากลัวชะมัดเลยนะ” โจลันขวางมือเรียวของน้องสาวที่พยายามจัดแต่งทรงผมตัวเอง “ที่แกหน้าเหมือนฉันขนาดนี้”
คอลล์พ่นลม “ถ้าไม่เหมือน เขาจะเรียกว่าแฝดมั้ย?” ยังไม่ยอมเลิกจ้องตัวเองในกระจก “แล้วนี่จะไปไหน” เธอมองทิวทัศน์รอบตัวแล้วหยุดอยู่ที่พระอาทิตย์สีส้มแสดที่กำลังจะลับขอบฟ้า ส่งแสงทองทอลงบนผืนน้ำของทะเลกว้าง
“คอนโดของฉันไง ต้องให้แกเปลี่ยนชุดก่อน”
แฝดน้องทำหน้านิ่ว “อย่าบอกนะว่าชุดแบบนาย”
“เอ้า ไอนี่ จะปลอมตัวเป็นฉันก็ต้องใส่ชุดฉันสิ”
“เซ็ง”
โจลันเผลอเอามือไปเขกหัวน้องสาวอย่างตั้งใจ ให้คอลล์ได้ทำตาขวางใส่เขาเล่น
ทั้งสองคนเดินไปตามพื้นหินอ่อนของคอนโดหรูสามสิบชั้นอย่างค่อนข้างเร่งรีบ โจลันไขประตูหนึ่งในสองบานบนชั้นสามสิบและรีบพากระเป๋าเดินทางใบโตไปตั้งทิ้งไว้บนพรมขนสัตว์สีขาวสะอาดที่รองรับชุดโซฟาหนังสีขาวชุดใหญ่
คอลล์ถอดบูทสั้นเก็บไว้ในตู้รองเท้าหน้าประตูแล้วเหยียบเท้าเปล่าลงบนพื้นไม้ปาเก้เย็นๆ ส่วนสายตากำลังชื่นชมความลงตัวของสถาปัตยกรรมที่เรียบง่ายภายในห้องชุดกว้างขวาง ที่มีผนังด้านหนึ่งเป็นกระจกทรงโค้ง เธอลูบเคาน์เตอร์หินอ่อนสีเทาของมุมครัวอย่างถูกใจ และลองหย่อนก้นลงนั่งบนโซฟาตัวหนึ่งแล้วยิ้มออกเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ลงจากเครื่อง ก่อนจะลุกต่อไปเปิดม่านบางสีนวลเผยให้เห็นทะเลสีส้มเบื้องหน้า
“อะแฮ่ม ก่อนที่แกจะจมดึ่งเข้าสู่สุนทรีย์แห่งความสวยงามของทิวทัศน์ที่ฉันเลือกสรรมาอย่างดีแล้ว ช่วยหันกลับมาสู่โลกแห่งความจริงก่อนได้มั้ย” โจลันประชดแต่ดูภูมิใจที่ตัวเองตัดสินใจถูกที่เลือกซื้อห้องชุดแห่งนี้ไว้ตอนที่มันลดราคายี่สิบเปอร์เซ็นต์
คอลล์ชะงักมือที่กำลังจะเลื่อนประตูกระจกเพื่อออกไปรับลมเย็นข้างนอกและหันกลับไปทำตาขวางใส่พี่ชาย
โจลันเดินเร็วๆ หายไปตามทางเดินที่พาไปห้องนอน สักครู่จึงกลับมาพร้อมชุดสูทสองสามชุดในมือ เขาดึงตัวน้องสาวที่เอนตัวนั่งสบายอยู่บนโซฟาขึ้นและเทียบดู “เอาตัวไหนดี?”
คอลล์ส่งสายตาเคืองๆ ไปที่ชุดพวกนั้น ไม่นึกฝันว่าตัวเองจะต้องมาใส่ชุดแบบนี้ “สีดำ”
โจลันส่งชุดสีดำให้น้องสาว “รีบแต่งตัวซะ”
แฝดน้องรับชุดสูทนั้นมาอย่างเสียไม่ได้ และเดินเอื่อยๆ เข้าไปเปลี่ยนชุดในห้องนอนโล่งๆ ที่มีเพียงเตียงและตู้เสื้อผ้ายาวไปตลอดผนังด้านหนึ่งกับโคมไฟตั้งพื้นตรงหัวเตียงอีกหนึ่งตัว
คนเป็นพี่อ้าปากค้างเมื่อเห็นคอลล์เดินออกมาจากห้องในลุคใหม่ เขาเข้าไปลองจับไหล่น้องสาว“นี่ฉันไม่ได้กำลังส่องกระจกอยู่ใช่มั้ย?”
“จะตะลึงอะไรนักหนา ทำอย่างกับทั้งชีวิตนี้นายไม่เคยมีฝาแฝดงั้นล่ะ” คนน้องทำหน้าหงิกอีกครั้งที่โดนหาว่าเหมือนพี่ชายทั้งที่เธอพยายามอย่างหนักมาตลอดเพื่อหลุดพ้นคำว่า ‘เหมือน’ นี้ไป ...คอลล์หัวเราะเชิงเจ็บใจกับตัวเองเมื่อคิดได้ว่า อย่างน้อยก็มีสิ่งหนึ่งที่เธอไม่เหมือนพี่ชาย...
“จำเอาไว้นะว่าตอนนี้แกคือฉัน” โจลันสะกดจิตน้องสาวขณะที่กำลังใช้เยลแต่งผมให้คอลล์
“คร้าบ...” คนที่นั่งนิ่งให้พี่ชายทำผม ตอบยาวอย่างเกียจคร้าน
โจลันดูฝีมือตัวเองผ่านกระจกบานใหญ่ รู้สึกแปลกๆ ที่จู่ๆ คนตรงหน้าที่ดูจะพยายามไม่ทำอะไรเหมือนเขามาตั้งแต่จำความได้ กลับมาเหมือนเขาอย่างกับกดคอนโทลซี
ร้านอาหารขนาดกลางบรรยากาศอบอุ่นดูไม่วุ่นวายที่ซ่อนตัวอยู่ภายใต้ต้นไม้ใหญ่หลายต้นปรากฏกายอยู่ต่อหน้าสองพี่น้อง โจลันจอดห่างจากร้านเล็กน้อยแล้วกราดสายตาสำรวจไปรอบๆ ก่อนจะหันมากำชับกับคอลล์อีกครั้ง
“ตอนนี้แกเป็นฉันอยู่นะ...”
“เออ รู้แล้ว” อีกคนตอบรำคาญ “ถ้านายพูดอีกที ฉันจะขูดสาวของนายให้เป็นรอยเลย”
โจลันถลึงตาใส่น้องของเขา
“นั่น พ่อมาแล้ว” โจลันชี้ไปที่รถยนต์สีดำคันหนึ่งซึ่งเคลื่อนเข้าไปภายในลานจอดรถของร้านอาหาร “ฉันจะจอดรอแกอยู่ตรงนี้นะ โชคดี แล้วอย่าลืมว่าแกคือฉัน...”
คอลล์กรอกตาก่อนจะลงจากรถ และแกล้งปิดประตูรถแรงๆ แล้วยิ้มยิงฟันกวนๆ ให้พี่ชายที่นั่งแทบไม่ติด เธอเดินเข้าไปภายในบริเวณร้าน แอบที่หลังต้นไม้สักครู่เพื่อให้พ่อของเธอเข้าร้านไปก่อน
คนที่ต้องปลอมตัวเพิ่งก้าวขึ้นบันไดขั้นแรก โทรศัพท์มือถือในกระเป๋ากางเกงก็สั่นขึ้น ให้เจ้าของตกใจจนเกือบก้าวเท้าพลาด คอลล์ล้วงออกมาดูแล้วพ่นลมหายใจ เธอมองหาที่เงียบๆ แล้วสายตาก็เห็นป้ายบอกทางไปห้องน้ำ
“มีอะไร” คอลล์ส่งคำถามไปให้ปลายสายทันทีที่เข้ามานั่งบนชักโครกในห้องน้ำห้องหนึ่งแล้ว
“คือแบบว่า” เสียงโจลันตอบกลับมาแบบเลิ่กลั่ก “พอดีว่าสาวที่ฉันจีบอยู่ผ่านมาพอดี ฉันก็เลยว่าจะตามหล่อนไปต่อที่คลับใกล้ๆ นี้หน่อย ฉันจะทิ้งรถไว้ให้แกนะ เสร็จธุระเมื่อไหร่ก็ขับกลับไปได้เลย...”
“เห็นหญิงดีกว่าน้องรึไง” คอลล์เท้าคางเซ็งๆ
“น่าๆ คนนี้เพิ่งจีบต้องรีบทำคะแนนหน่อย...แล้วเจอกัน บาย” ปลายทางตัดสายไปเรียบร้อยแล้ว
“ให้มันได้งี้สิ” คอลล์บ่นพึมพำ แต่จะทำไงได้ก็เธอพลาดไปตกปากรับคำพี่ของเธอแล้วนี่
“กรี๊ด...” เสียงนั้นดังขึ้นทันทีที่คอลล์เปิดประตูห้องน้ำออกมา
คนที่ยืนอยู่หน้ากระจกมองคนที่เพิ่งออกมาจากห้องน้ำด้วยหน้าตาตกใจพอๆ กับคอลล์
“ไอ..ไอโรคจิต ไอบ้ากาม” สาวคนนั้นตะโกนด่า ความตกใจเมื่อครู่หายไปแล้ว เธอฉวยแจกันดอกไม้ใกล้มือขึ้นมาเตรียมทุ่ม
“เดี๋ยวๆ ใจเย็นก่อน...” คอลล์หันรอบตัวหาทางหนีและเพิ่งเห็นว่าตัวเองเข้ามาในห้องน้ำหญิงด้วยความเคยชิน “ฉันแค่เข้าห้องน้ำผิด กำลังจะออกไปแล้ว”
คนที่ถือแจกันส่งแววตาเดือดๆ ไปให้คอลล์ที่ตอนนี้กลายเป็นชายหนุ่มไปแล้ว “อย่ามาโกหก นายเป็นพวกโรคจิต คิดจะทำอะไรไม่ดีอยู่ล่ะสิ”
คอลล์ยกมือเชิงยอมแพ้และค่อยๆ ขยับไปที่ทางออก “ใจเย็นนะ ฉันไม่ได้จะทำอะไร และตอนนี้ฉันกำลังจะไปแล้ว...” พอสบโอกาสเธอก็รีบวิ่งปรู๊ดออกมาจากห้องน้ำหญิงนั่นทันที
มีเสียงกรี๊ดเบาของสาวคนนั้นตามหลังมาให้ได้ยิน จนคอลล์ขนลุก
“เกือบไปแล้ว” เธอสูดหายใจโล่งอกก่อนจะรีบไปให้ห่างจากห้องน้ำให้เร็วที่สุด
“เฮ้ โจลัน ทางนี้” ชายสูงวัยชูมือขึ้นส่งสัญญาณให้คอลล์เห็น
คอลล์เดินหลบกลุ่มโต๊ะไปที่ที่นั่งพิเศษบนยกพื้นด้านในสุดของร้าน พร้อมยิ้มกว้างให้คาร์ลอย่างยินดี พ่อของเธอดูแข็งแรงและมีความสุขดีกว่าที่เธอคิด
“อะไร?” ชายสูงวัยมองลูกชายงงๆ
“เปล่าครับ” คอลล์บอกเก้อๆ
คาร์ลเลิกคิ้วอย่างสงสัย แต่เมื่อคอลล์ในฐานะโจลันนั่งลงที่โต๊ะ คาร์ลจึงแนะนำคนที่นั่งฝั่งตรงข้าม “นี่เบน เพื่อนฉันเอง”
“สวัสดีครับ” คอลล์รู้สึกประหม่านิดหน่อยที่ต้องสวมบทโจลัน
“สวัสดี..สวัสดี นี่สินะเจ้าโจลันที่นายพูดถึง โตเป็นหนุ่มแถมหล่ออีกต่างหาก” ชายสูงวัยที่มีผมขาวแซมไปทั่วหัวหัวเราะชอบใจกับเพื่อนรัก “แล้วก็ นี่ลูกสาวคนโตของฉันเอง...” เขายิ้มมุมปากเมื่อเห็นชายหนุ่มมองลูกสาวของตัวเองอยู่นานสองนาน
“สวัสดีค่ะคุณโจลัน ฉันชื่อเอวีน่า เรียกฉันว่าเอวี่ก็ได้นะคะ” สาวสวยในชุดสีชมพูหวานยิ้มเขินๆ ที่ถูกอีกฝ่ายจ้อง
“คะ..ครับ” คอลล์พยายามคุมหัวใจตัวเองให้มันเต้นเป็นปกติที่สุดเท่าที่จะทำได้
“เช็คน้ำลายบ้างเหอะแกน่ะ” คาร์ลแซวลูกชาย เพราะรู้นิสัยโจลันดี
คอลล์ขยับตัวเล็กน้อยก่อนจะละสายตาจากรอยยิ้มหวานของเรียวปากสวยนั้นได้ แน่นอนทั้งสองคนต่างเขินไม่แพ้กัน...
“ขอโทษค่ะที่มาช้า” เสียงเล็กนั้นดังขึ้นใกล้ๆ
คอลล์เงยหน้ามองคนที่เพิ่งนั่งลงข้างเอวีน่า และได้สบตากับเด็กสาวที่แต่งตัวเปรี้ยวเข็ดฟันคนนั้นอย่างบังเอิญ
เด็กสาวในชุดเกาะอกรัดรูปสีดำพลันลุกขึ้นแล้วชี้หน้าชายหนุ่มคนที่นั่งหน้าเหวออยู่ตรงข้าม
“นายมัน... ไอโรคจิต!” เธอขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน ดูเหมือนอยากกระโจนเข้าจิกกัดชายหนุ่มเหลือเกิน
“ใจเย็นก่อนจ้ะเซน่า” เอวีน่าดึงตัวน้องสาวของตัวเองให้นั่งลงอย่างยากลำบาก
“นั่นสิลูก นี่คุณโจลัน ลูกชายของลุงคาร์ลนะ ไม่ใช่ไอโรคจิตอย่างที่ลูกว่าหรอก” เบนหน้าเสียแต่เขาก็ดูเคยชินกับการกระทำหุนหันของลูกสาวคนเล็กคนนี้เสียแล้ว
“ว่าไงล่ะแก” คาร์ลเป็นคนเดียวที่ดูไม่ตกใจที่ลูกชายโดนกล่าวหา
แต่คอลล์ก็ไม่แปลกใจในท่าทีของพ่อ เพราะเธอรู้ดีว่ากิตติศักดิ์ของพี่ชายฝาแฝดของเธอนั้นเป็นอย่างไร แต่ตอนนี้เธอไม่ใช่โจลัน และเธอก็ไม่อยากให้สาวสวยในชุดน่ารักสีชมพูคนนั้นต้องเข้าใจผิดไปมากกว่านี้
“คือเมื่อกี้ผมเข้าห้องน้ำผิดครับ”
“อย่ามาโกหก นายตั้งใจต่างหาก” เด็กสาวที่ดูอายุไม่มากแต่แต่งหน้าจัดไม่ยอมเลิกรา “ป๊ะป๋าอย่าไปเชื่อนะคะ เจ้านี่มันต้องหวังเข้าไปแอบดูผู้หญิงเข้าห้องน้ำแน่ๆ”
“พอได้แล้วเซน่า...” เบนดุ “คุณโจลันก็บอกแล้วว่าเขาเข้าห้องน้ำผิด ใช่มั้ย” เขาหันไปถามชายหนุ่ม
คอลล์พยักหน้า “ต้องขอโทษจริงๆ ครับ ผมไม่ทันเห็นป้ายจริงๆ” เธอหันไปมองเด็กสาวผมหยักศกที่ทาปากสีแดงเข้มอย่างหาเรื่อง และยิ้มสยองให้ “ขอโทษนะครับ” เสียงแข็งอย่างตั้งใจ
“ให้เรื่องมันแล้วไปเถอะนะหนูเซน่า ลูกชายของลุงคงไม่ตั้งใจจริงๆ” คาร์ลออกปากจนได้
เซน่ากำมืออย่างขัดเคือง แต่เมื่อเห็นสายตาของผู้ใหญ่ทั้งสอง เธอจึงยอมนั่งลง แต่ไม่วายแอบเตะหน้าแข้งของคอลล์ พร้อมยิ้มหวานอย่างเลือดเย็นให้คอลล์ที่กำลังเหงื่อตกเพราะความเจ็บ
“เออ งั้นเรามาสั่งอาหารและคุยเรื่องงานกันดีกว่านะ” เบนรีบเปลี่ยนเรื่องและเรียกพนักงานทันที
“โครงการนี้ฉันจะเข้ามาดูแลเอง ดังนั้นถ้าคุณโจลันมีปัญหาอะไร ติดต่อฉันได้ตลอดนะคะ” เอวีน่าส่งนามบัตรให้โจลันหลังจากที่อาหารบนโต๊ะเกลี้ยงแล้ว
“แน่นอนครับ” คอลล์ส่งยิ้มหวานให้หญิงสาว
เซน่าพ่นลมเสียงดังอย่างตั้งใจ “คุยเฉพาะเรื่องงานแน่หรอ” เธอสบประมาทคอลล์ในฐานะโจลัน
คอลล์ทำเป็นไม่สนใจคำพูดของเด็กสาว และนั่นยิ่งทำให้เซน่าเดือดจัดขึ้นไปอีก
หลังจากเบนเป็นเจ้ามือเลี้ยงอาหารมื้อนี้แล้ว ทุกคนก็ลุกขึ้นจากโต๊ะ คาร์ลกับเบนนั้นเดินลิ่วๆ ไปพร้อมกัน ส่วนเอวีน่าขอตัวไปห้องน้ำ ตอนนี้คอลล์จึงต้องติดอยู่กับเด็กสาวที่จ้องหาเรื่องตลอดเวลาคนนี้
“ฉันไม่ยอมให้ไอ้โรคจิตอย่างนายมาจีบพี่ฉันหรอกนะ” เซน่าเริ่มเปิดศึก
คอลล์ยิ้มเยาะ
“ยิ้มบ้าอะไร” เด็กสาวเตะเข้าที่ขาของคอลล์แต่เสียหลักเพราะส้นสูงหลายนิ้วนั้นไม่รักดี
คนตัวสูงกว่า (เยอะ) คว้าเอวบางของคนตรงหน้าไว้ได้ทัน และหัวเราะในคอ “เป็นเด็กเป็นเล็กน่ะ แต่งตัวให้มันสมวัยหน่อย”
เซน่าหน้าแดงและพยายามดิ้น แต่คอลล์ยกเธอขึ้นทั้งที่ยังคล้องเอวเล็กนั้นอยู่
“ชุดวาบหวิวแบบนี้น่ะไม่ได้ทำให้เธอสวยสักนิด ดูสิเกือบเห็นลิงน้อยแล้วเนี่ย” คอลล์ตีก้นเด็กสาวอย่างหมั่นไส้
“ไอโรคจิต ไอบ้ากาม” เซน่ากรี๊ดลั่นจนพนักงานและลูกค้าหันมามองเป็นตาเดียว
คอลล์จึงต้องยอมปล่อยตัวเซน่าลง เด็กสาวปล่อยหมัดใส่ท้องของคอลล์ไปสองหมัดก่อนจะกรี๊ดใส่หูของคนตัวสูง
“อย่าหวังว่านายจะได้อยู่เป็นสุขเลย”
คอลล์ยิ้มมุมปากแล้วดึงต้นแขนเล็กของอีกฝ่ายไว้ และขยับเข้าไปกระซิบข้างหูของเด็กสาว
“นี่ รู้อะไรมั้ย... ที่จริงฉันเห็นลิงน้อยของเธอแล้วนะ...น้องหมีสีชมพู...” พูดจบเธอก็รีบเดินหนีไป ปล่อยให้เด็กสาวเต้นเร่าๆ ที่โดนแกล้งคืน
เซน่าทำตาขวางใส่ร่างสูงที่เดินหายไปจากสายตา หมายมั่นอยู่ในใจว่าจะต้องจัดการเจ้าโรคจิตนั้นให้ได้...คอยดู...............................................................................................................................................................
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.8 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ