ซวยฉิบหาย! ถ้ากูร้าย...ก็อย่ารัก

10.0

เขียนโดย DPR_Fox

วันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2556 เวลา 11.59 น.

  15 ตอน
  5 วิจารณ์
  38.78K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2557 22.17 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

12) Special Chapter : วันฮาโลวีนหรรษา2

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
01/12/13
Special Chapter : วันฮาโลวีนหรรษา2

พี่ลุกซ์พาผมไปที่ร้านเสริมหล่อขนาดใหญ่ร้านหนึ่ง  ภายในร้านถูกยึดครองด้วยหนุ่มหล่อเป็นสิบ  สาวแท้สาวเทียมที่เป็นช่างต่างก็ร้องวี้ดว้ายอย่างตื่นเต้นแต่ดูเหมือนทุกๆ คนจะสนิทกับช่างในร้านซะเหลือเกิน  สงสัยจะมาร้านนี้กันบ่อยล่ะมั้ง
“เจ๊ดาด้า แต่งแฟรงเก้นสไตล์ให้หมอนี่ด้วยนะครับ” พี่ลุกซ์พาผมเข้าไปหากระเทยแต่งตัวฉูดฉาดที่คาดว่าน่าจะเป็นเจ้าของร้านพลางฝากฝังผม
“ได้จ้า  อรๆ มาแต่งหน้าทำผมให้น้องลุกซ์หน่อย” เจ๊ดาด้ารับปากก่อนจะกวักมือเรียกสาวสวยในร้านให้มาแต่งให้พี่ลุกซ์
“อรติดทำผมให้น้องคิมอยู่อ่ะเจ๊” พี่อรบอกพลางเดินสวนไปมากับช่างในร้านอย่างวุ่นวาย
“ไอ้ลุกซ์  มึงมาทีหลัง มารอกับพวกกูตรงนี้เลย” พี่เคย์ตะโกนเรียกพี่ลุกซ์ขณะที่ไปนั่งสุมหัวกันกับคนอื่นๆ ที่ยังไม่ได้แต่ง
“ไม่อ่ะ กูรออยู่ตรงนี้ดีกว่า” พี่ลุกซ์พูดพลางลากเก้าอี้มานั่งเปิดนิตยสารดูอยู่ข้างๆ ผม
“แหม ต้องคอยตามติดแบบนี้เดี๋ยวไอ้เปอร์มันก็เบื่อหรอก” พี่ถังที่อยู่ในกลุ่มคนยังไม่ได้แต่งแซวบ้าง
“มันไม่กล้าเบื่อผมหรอก ใช่ไหม?” พี่ลุกซ์หันมาถามผมด้วยสายตาดุๆ
“เบื่อแล้ว แบร่” ผมแลบลิ้นใส่พี่ลุกซ์พลางยกแขนขึ้นกันไม่ให้พี่ลุกซ์เข้ามาทำโทษ
“อะไรกันสองคนนี้? มีอะไรไม่ชอบมาพากลนะเนี่ย?” เจ๊ดาด้าที่กำลังดูแบบแต่งหน้าที่ผมเปิดให้ดูถามอย่างเย้าหยอก
“โหเจ๊ ก็สองคนนั้นเขาเป็นผัวเมียกันนี่ครับ” ไอ้พี่ไทที่นั่งอยู่เก้าอี้ข้างๆ กันบอกทำให้พี่มันโดนช่างดุเพราะกำลังแต่งหน้าอยู่
“จริงป่ะเนี่ย?” เจ๊ดาด้าถามอย่างตกใจ
“จริงครับ” พี่ลุกซ์ตอบ
“ตายจริง  ไม่น่าเชื่อว่าคาสโนว่าตัวพ่ออย่างน้องลุกซ์จะหันมาควงหนุ่มน้อยน่ารักแบบนี้  เมื่อก่อนเห็นพาผู้หญิงมาที่ร้านเจ๊บ่อยๆ  มาแต่ละครั้งแทบไม่ซ้ำหน้ากันเลย คึๆ” เจ๊ดาด้าพูดทำให้ผมหน้างอง้ำทันที
“เจ๊ อย่าพูดเรื่องที่มันผ่านมาแล้วสิ  เดี๋ยวไอ้นี่มันก็งอนผมหรอก” พี่ลุกซ์ขมวดคิ้วนิดๆ
“ว้ายตาย นี่แคร์ด้วยเหรอเนี่ย? ปกติถ้าน้องๆ หนูๆ ของน้องลุกซ์งอนน้องลุกซ์จะไม่มีทางง้อเลยนี่นา” เจ๊ดาด้าพูดพลางปรับเบาะให้ผมนอนเอนลงเพื่อสะดวกต่อการแต่งหน้า
“คนนี้ไม่ได้เด็กของผมนี่ครับ” พี่ลุกซ์พูดทำให้ผมเหลือบตาไปมองก็พบว่าพี่มันกำลังมองผมด้วยสายตาจริงจัง
“มีตัวจริงกับเขาซักที  เจ๊ดีใจด้วยนะ” เจ๊ดาด้ามองผมกับพี่ลุกซ์สลับกันสักพักก่อนจะยิ้มออกมาพลางพูดแสดงความยินดี
“ครับ” พี่ลุกซ์ตอบรับก่อนจะนั่งดูนิตยสารเงียบๆ ต่อไป
   
ในที่สุดพวกเราทุกคนก็แต่งตัวกันเรียบร้อยครับ  พี่ลุกซ์แต่งเป็นแดร็กคิวลาซึ่งไม่ได้แต่งหน้าแต่งตาอะไรมากมายหรอกครับส่วนผมแต่งเยอะหน่อยเพราะแฟรงเก้นสไตล์ต้องหน้าซีดๆ มีแผลที่ใบหน้าส่วนน็อตบนหัวผมใส่เป็นหมวกที่ตัดออกมาเป็นรูปน็อต  ส่วนคนอื่นๆ ก็แต่งเป็นแวมไพร์บ้าง มนุษย์หมาป่าบ้างและอีกหลายๆ ผีมากมาย
“เปอร์จ๊ะ วันนี้ค้างซะที่นี่นะลูกนะ” แม่วิเดินมากอดแขนผมแล้วเอ่ยชวน
“คือว่าต้องขับรถให้พ่อกับแม่น่ะครับ” ผมบอก  ผมไม่อยากให้พ่อกับแม่ขับรถกลับเองดึกๆ นี่ครับ
“ไม่เป็นไรหรอกเปอร์  ค้างที่นี่ให้แม่วิเค้าดีใจหน่อย  นานๆ ทีจะได้มาหา” แม่ของผมพูดยิ้มๆ
“แต่ว่า...” ผมขมวดคิ้วเพราะเป็นห่วงพ่อกับแม่
“นี่เปอร์  ฉันไม่ได้แก่ขนาดที่ขับรถไม่ไหวหรอกนะ  เป็นห่วงอะไรไม่เข้าเรื่องจริงๆ” พ่อของผมส่ายหน้าไปมาพลางยืดตัวตรงและยืดอก
“งั้นผมไปส่งพ่อกับแม่แล้วค่อยมาก็ได้” ผมบอกเพราะกังวลจริงๆ ผมไม่อยากให้พ่อกับแม่เหนื่อยนี่นา
“เอาล่ะๆ แกกับนภาก็ค้างซะที่นี่แหละเดี๋ยวลูกก็เป็นห่วงเปล่าๆ” พ่อลิตพูดขึ้น
“ไม่ได้หรอกเฮีย  ผมต้องกลับไปดูคนที่บ้านซักหน่อย  เดี๋ยวกินข้าวเสร็จก็จะกลับแล้วล่ะครับ” พ่อผมหันไปบอกพ่อลิต
“เอางี้ละกันครับ  เดี๋ยวผมกับไอ้เปอร์จะไปส่งพ่อกับแม่แล้วกลับมาที่นี่  โอเคไหมครับ?” พี่ลุกซ์ที่นั่งจิบไวน์อยู่ไม่ห่างจากจุดที่ผมกับพวกพ่อๆ แม่ๆ อยู่พูดขึ้น
ตอนนี้พวกเราจัดปาร์ตี้กันอยู่ริมสระน้ำโดยอาหารเป็นแบบบุฟเฟ่ต์และอาหารเหล่านั้นก็เป็นอาหารที่พวกเราเป็นคนทำค้างเอาไว้และมีผู้ใหญ่มาช่วยทำต่อแถมยังมีเครื่องดื่มเบาๆ และมีเสียงเพลงจากชุดเครื่องเสียงบ้างกับเสียงเพลงสดจากพวกพี่เคย์บ้างทำให้บรรยากาศมันดีสุดๆ
“เอางั้นก็ได้” พ่อผมพยักหน้ารับด้วยสีหน้านิ่งๆ  พ่อน่ะยังวางท่าดุใส่พี่ลุกซ์อยู่ตลอดเลยครับ  แหม...เก๊กใส่เขาแบบนั้นที่จริงก็ชอบเขาใช่ไหมล่ะพ่อ คึๆ
“งั้นเดี๋ยวผมขอไปสนุกกันคนอื่นๆ ก่อนนะครับ” ผมยิ้มนิดๆ ก่อนจะรีบวิ่งไปรวมกลุ่มกับคนอื่นๆ
   
“อ๊ะ ขอโทษครับ” ผมที่เดินถอยหลังไม่ดูตาม้าตาเรือดันถอยไปชนกับคนคนหนึ่งเข้าทำให้ผมต้องรีบหันไปขอโทษ
“ขอโทษครับ” คนคนนั้นที่แต่งชุดฟักทองน่ารักยกมือไหว้ผม
“เอ่อ...น้อง...เป็นใครอ่ะ?” ผมถามอย่างสงสัยที่เห็นผู้ชายหน้าตาน่ารักเดินอยู่ในงานด้วย
“เอ่อ...ผมชื่อคิทครับ  มากับไอ้คีตะ...เอ่อ...คิทน่ะครับ” น้องคิทพูดยิ้มๆ ผมจึงพยักหน้ารับก่อนจะจ้องหน้าน้องชัดๆ อีกที  หน้าตาน้องน่ารักมากเลยครับ  น่ารักอ่ะ...อยากพากลับบ้าน ฮ่าๆ
“เดี๋ยวนะ  น้องเป็นแฟนไอ้คิทป่ะ?” ผมถามเมื่อนึกขึ้นได้  ไอ้ย่ะ! ไม่คิดว่าไอ้เด็กตัวตึกอย่างไอ้คิทจะมีแฟนเป็นตัวเป็นตนกับเขาบ้างนะเนี่ย  แถมแฟนยังเป็นเด็กหนุ่มหน้าตาจิ้มลิ้มน่าลักพาตัวซะด้วย
“เอ่อ...ครับ” น้องตอบอย่างเขินๆ พลางเกาแก้มนิดๆ อ๊ากกกก! น่ารักจังโว้ย!!
“พี่เปอร์ มองอย่างนั้นหมายความว่าไง  ไปหาผัวตัวเองนู่นไป!” ไอ้คิทเดินดุ่มๆ เข้ามาดึงฟักทองน้อยน่ารักไปยืนข้างๆ ตัวเองอย่างหวงๆ
“อะไรวะคิท? เมื่อก่อนยังไม่สนับสนุนพี่กับพี่ลุกซ์นี่หว่า คึๆ” ผมแซวมันขำๆ พลางนึกถึงเรื่องที่มันเคยช่วยผมจากพี่ลุกซ์เอาไว้  ตัวมันใหญ่เลยได้เปรียบมาก  แค่มันมายืนข้างหน้าผมมันก็บังผมมิดแล้ว ฮ่าๆ
“ไม่รู้ล่ะ  ถ้าพี่มองหมอนี่ด้วยสายตากรุ้มกริ่มอีกอย่าหวังเลยว่าพี่จะรอดชีวิตจากพี่ลุกซ์” ไอ้คิทมันคาดโทษผมเอาไว้ก่อน
“น้องคิทๆ ไอ้หมอนี่มันดุอย่างกับพ่อ  เลิกกับมันเลย” ผมยุพลางยักคิ้วหลิ่วตาให้ไอ้คิทอย่างกวนๆ
“ไม่ดุนะครับ  เชื่องออก คิกๆ” น้องคิทมองไอ้คิทอย่างขำๆ ก่อนจะพูดกวน
“ชนินทร์” ไอ้คีตะข่มตามองน้องคิทด้วยสายตาดุๆ
“บู่! ดุอีกละ  ไปหาพี่ไอดีกว่า” น้องคิทแลบลิ้นใส่ไอ้คีตะแล้วหันมายิ้มให้ผมก่อนจะรีบวิ่งไปหาพวกไอ้ไอ
“นี่ คนนี้จริงจังใช่ป่ะ?” ผมถามเมื่อเห็นไอ้คิทมองตามแฟนตัวเองไป
“ที่สุด” ไอ้คิทบอก
“ดีใจด้วยนะ  พอได้รักใครซักคนแล้วหน้าตาดูสดชื่นขึ้นนะ  ไม่เหมือนเมื่อก่อนที่เอาแต่ทำหน้าเย็นชาไม่ยิ้มไม่หัวเราะ” ผมพูดพลางยื่นมือออกไปตบไหล่ไอ้คิท  ห่า...ตัวมึงสูงไปไหนวะ  ดูเหมือนมันจะสูงกว่าพี่ลุกซ์เกือบสิบเซน แล้วพี่ลุกซ์ก็สูงกว่าผมเกือบสิบเซน บ้าจริง! ไอ้เด็กนี่สูงกว่าผมตั้งเกือบยี่สิบเซน!
“ก็เหมือนพี่นั่นแหละครับ  เมื่อก่อนเอาแต่ทำหน้าอมทุกข์” ไอ้คิทว่าผมบ้าง
“หน้ากูออกขนาดนั้นเลยเหรอ?” ผมเลิกคิ้วถามพลางหัวเราะในลำคอ  พอนึกถึงเรื่องเมื่อก่อนแล้วขำแฮะ  เมื่อก่อนพี่ลุกซ์ร้ายกับผมสารพัดอย่างแต่วันนี้พี่มันเปลี่ยนมาเป็นรักผมมากซะงั้น
“ออก อยู่ต่อหน้าพี่ลุกซ์ทีไรพี่เปอร์ชอบทำหน้าเหมือนจะร้องไห้  พอไม่ได้อยู่ด้วยกันพี่ก็เอาแต่ทำหน้าซึม” ไอ้คิทบอก
“เอาน่าๆ ตอนนี้เราก็มีความสุขแล้วเพราะงั้นไปสนุกกันดีกว่า” ผมพูดพลางควงแขนไอ้คิทแล้วลากมันไปรวมกลุ่มกับคนอื่นๆ ที่กำลังเต้นอยู่ริมสระ
“พี่เปอร์ปล่อยได้แล้ว  เดี๋ยวเมียหึง” ไอ้คิทกระซิบบอกเมื่อน้องคิทที่กำลังหัวเราะอยู่หน้าบูดบึ้งทันทีที่เห็นพวกเรา
“หน้าตอนหึงก็น่ารัก” ผมเพ้อ 
“พี่เปอร์  บอกแล้วไงว่านั่นน่ะเมียผม  ชิ! ปล่อยเลย  เดี๋ยวผัวพี่ก็มาแดกหัวผมหรอก” ไอ้คิททำท่าหงุดหงิดก่อนจะดึงแขนออกแล้วเดินไปง้อน้องคิท
ผมมองตามอย่างขำๆ ก่อนจะเดินไปที่เคาน์เตอร์เครื่องดื่มเพื่อดื่มน้ำส้ม  ก็พี่ลุกซ์ไม่ให้ผมดื่มแอลกอฮอร์และน้ำอัดลมผมก็เลยต้องมากินน้ำส้มคั้นนี่แหละครับ
“เมื่อกี้ทำอะไร? ควงแขนผู้ชายคนอื่นต่อหน้ากูเลยนะ” เสียงเย็นๆ ดังขึ้นข้างหลังทำให้ผมต้องรีบหันไปมองจึงพบว่าพี่ลุกซ์นั่นเองที่มายืนซ้อนข้างหลังผม
“อะไรครับ? ไอ้คิทมันก็น้องนะ” ผมเอื้อมมือไปแตะไหล่พี่ลุกซ์ทั้งสองข้าง  วันนี้พี่ลุกซ์หล่อมากเลยล่ะครับ  ใส่ทักซิโดสีดำมีผ้าคลุมสีแดงดำแล้วก็เอาผมขึ้นเปิดเหม่งเต็มที่
“น้องก็ไม่ได้” พี่ลุกซ์ส่ายหน้าไปมา
“ผีขี้หึง” ผมยิ้มกว้างพลางดึงแก้มพี่ลุกซ์ทั้งสองข้างอย่างหมั่นเขี้ยว
“ถ่ายรูปกันไหม?” พี่ลุกซ์ชวนผมจึงรีบพยักหน้า  ร้อยวันพันปีพี่ลุกซ์ไม่เคยชวนผมถ่ายรูปก่อนเลยแฮะ
“ถ่ายตรงไหนดี?” ผมถามพลางหามุม
“ไปหย่อนขาที่มุมสระป่ะ” พี่ลุกซ์บอกพลางย่อตัวลงแล้วพับขากางเกงขึ้นให้ผม
แชะ!
“ภาพนี้เด็ด  ถ้าเอาไปเผยแพร่คงไม่มีใครเชื่อว่าคนอย่างเฮียลุกซ์อดีตประธานปกครองคณะวิศวะที่ขึ้นชื่อว่าโหดแสนโหดจะมาทำแบบนี้  คึๆ” พี่ขลุ่ยที่แต่งตัวเป็นชัคกี้ถือกล้องพลางถ่ายรูปพวกเราเอาไว้
“อย่านะมึงไอ้ขลุ่ย” พี่ลุกซ์ลุกขึ้นแล้วชี้หน้าพี่ขลุ่ยอย่างข่มขู่
“เหวอ ไปถ่ายรูปที่รักของเค้าดีกว่า คึๆ” พี่ขลุ่ยทำหน้ากวนๆ กวนจะรีบวิ่งไปหาไอ้เมฆ
“กวนตีนจริงๆ แต่ละคน  เฮอะ!” พี่ลุกซ์ส่ายหน้าไปมาอย่างระอาก่อนจะพับขากางเกงตัวเองบ้าง
   
หลังจากนั้นผมกับพี่ลุกซ์ก็ไปนั่งหย่อนขาถ่ายรูปกันที่มุมสระ  บอกเลยว่าเราถ่ายรูปกันได้หวานมาก  พี่ลุกซ์กอดคอผมเอาไว้แล้วหอมแก้มบ้างจูบบ้าง  บางครั้งเราก็ยิ้มให้กันและรูปที่ถ่ายออกมาก็หวานสุดๆ ด้วย
“พี่ลุกซ์ หวานเกินไปแล้ว” ผมพูดขึ้นหลังจากที่พี่ลุกซ์ถ่ายรูปตอนที่เราเอาหน้าผากชนกันแล้วพี่มันก็ใช้นิ้วโป้งไล้ที่ริมฝีปากผมเบาๆ
“ชอบไม่ใช่เหรอ? เห็นชอบไปอิจฉาคู่อื่นๆ ก็เลยทำให้  ไม่ดีรึไง?” พี่ลุกซ์ถามแล้วจูบแก้มผมเบาๆ
“ดีครับ” ผมตอบเสียงอ่อนอย่างอายๆ
“วันนี้ยกให้หนึ่งวัน  อยากได้อะไรให้บอก” พี่ลุกซ์กระซิบบอก
“ไม่อยากได้อะไรแล้ว” ผมบอกพลางจิ้มไหล่พี่ลุกซ์เล่นๆ
“แต่กูอยากได้” พี่ลุกซ์ลุกขึ้นก่อนจะเดินมานั่งซ้อนด้านหลังแล้วกอดผมไว้ทั้งตัว
“อยากได้อะไร?” ผมเอียงหน้าถาม
“อยากได้มึงไง” พี่ลุกซ์พูดพลางคลอเคลียอยู่ที่แก้มของผม
“ไปส่งพ่อแม่ก่อนนะ” ผมบอกแล้วเบี่ยงหน้าไปหอมแก้มพี่มันบ้าง
“อืม ถ่ายรูปต่อนะ” พี่ลุกซ์พูดพลางยกกล้องขึ้นถ่ายผมจึงเอนตัวพิงพี่มันแล้วชูสองนิ้วขึ้น
“อย่าให้มันเยอะนะเว้ย” พ่อของผมที่แกล้งเดินกอดอกด้วยท่าทางนิ่งๆ ผ่านมากระแอมใส่เสียงเข้มทำให้พี่ลุกซ์หันไปมองแล้วแกล้งหอมผมไปมาจนพ่อผมโมโห
“พี่ลุกซ์ อย่าแกล้งพ่อ” ผมดุพี่ลุกซ์พลางทำท่าจะลุกออกไปแต่พี่มันก็รั้งเอาไว้
“ไอ้ลุกซ์! หนอยแก!” พ่อผมขบเขี้ยวเคี้ยวฟันอย่างโมโห
“คุณ  อย่าไปกวนลูกน่า  มานี่เลย มาดื่มไวน์กับพี่ลิตเร็วๆ” เมื่อเห็นพี่กับพี่ลุกซ์ตั้งท่าจะตีกันแม่ก็รีบเดินมาดึงพ่อไปทันที
“พี่ลุกซ์ชอบแกล้งพ่อผมอ่ะ” ผมขมวดคิ้วใส่พี่มันอย่างไม่ชอบใจ
“ก็พ่อมึงชอบขัดกูนี่หว่า” พี่ลุกซ์พูดอย่างเซ็งๆ
“ก็พ่อเค้าหวงลูกนี่ครับ” ผมยิ้มนิดๆ
“เออ หวงได้หวงไป  สุดท้ายมึงก็เป็นเมียกูอยู่ดี” พี่ลุกซ์พูดทำเอาผมเขินเลยทีเดียว
“ปากดีไปเถอะ  ถ้าพ่อผมเปลี่ยนใจไม่ยกผมให้แล้วจะหนาว” ผมขู่
“ไม่ให้ก็ฉุด”
“เถื่อนมาก” ผมหัวเราะนิดๆ แล้วผลักพี่มันออกเพื่อลุกขึ้น  พอลุกขึ้นได้ผมก็ยื่นมือไปให้พี่มันจับ
“เถื่อนแล้วไง?” พี่ลุกซ์ยักไหล่ก่อนจะกดดูรูปในโทรศัพท์ผมจึงเข้าไปดูด้วย
“ห้ามโพสต์นะ  อายเขา” ผมบอกเพราะรูปแต่ละรูปมันมีแต่รูปที่ผมกับพี่ลุกซ์สวีตกันทั้งนั้น
“เออ” พี่ลุกซ์ตอบรับก่อนจะเก็บมือถือไว้ในกระเป๋ากางเกงก่อนจะชวนผมเดินไปที่เคาน์เตอร์เครื่องดื่มเพื่อชนแก้วกับคนอื่นๆ ที่เริ่มทยอยกันไปรวมกันที่นั่น  ยิ่งดึกพวกเรายิ่งคึกและอยากจะเมาครับ
   
ก่อนที่ผมกับพี่ลุกซ์จะดื่มกันไปมากกว่านี้พ่อกับแม่ก็จะกลับบ้านพวกเราจึงไปส่งและนั่นก็ทำให้ทั้งผมและพี่ลุกซ์ไม่ดื่มจนเมาต่างจากคนอื่นที่เริ่มจะคลาน
“กลับไปก็อย่าดื่มให้มันเยอะมากล่ะ” พ่อพูดเตือนเมื่อมาถึงบ้าน
“ไม่ดื่มแล้วล่ะครับ  ผมจะพามันขึ้นนอนเลย” พี่ลุกซ์บอก  แหม...แน่เหรอว่าจะให้นอนเลยน่ะ?
“ก็ดี” พ่อพูดแค่นั้นก่อนจะลงจากรถโดยที่ผมกับพี่ลุกซ์ยกมือไหว้ตาม
“ดูแลกันดีๆ นะลูก” แม่บอกก่อนจะลงจากรถแล้วเดินตามพ่อไป
 
พอกลับมาถึงบ้านคนอื่นๆ ก็ยังคงสนุกกันต่อ  ตอนแรกๆ พวกนั้นเล่นกีตาร์ร้องเพลงกันอย่างธรรมดาแต่ตอนนี้กีตาร์ไม่มีแล้วครับ  อะไรอยู่ใกล้มือพวกนั้นจับมาเป็นเครื่องดนตรีซะหมดแถมเสียงที่ร้องเพลงของแต่ละคนยังยานคางจนแทบจะฟังไม่เป็นเพลงกันเลยทีเดียว
“พี่ลุกซ์เดี๋ยว  อาบน้ำก่อน” ผมบอกเมื่อพี่ลุกซ์เข้ามานัวเนียทันทีที่เข้ามาถึงห้องเดิมของพี่ลุกซ์
“อืม” พี่ลุกซ์ปล่อย ผมจึงรีบไปเปิดตู้เสื้อผ้าหาชุดมาสวมหลังอาบน้ำ
ครั้งนี้พี่ลุกซ์ไม่ดันทุรังเข้ามาอาบด้วยแต่ยอมรออยู่เฉยๆ จนผมกลัว  เวลาพี่ลุกซ์นิ่งๆ ยอมง่ายๆ แบบนี้ผมบอกเลยว่าผมรับศึกหนักแน่นอน
พอผมออกจากห้องน้ำพี่ลุกซ์ก็เข้าต่อทำให้ผมเริ่มกดดัน  ถ้าพี่ลุกซ์ออกมาผมต้องทำตัวยังไงดี  แกล้งนอนหลับดีไหมนะ? แต่ว่าวันนี้วันเกิดพี่มันนี่นา  ถ้าพี่มันอยากได้ผมก็ควรจะให้สินะ  แล้วผมจะให้พี่มันยังไง? ให้แก้ผ้ารอเหรอ? ไม่มีทางอ่ะ
จังหวะที่ผมกำลังนั่งคิดหาวิธีเอาใจพี่ลุกซ์อยู่พี่มันก็เดินออกมาจากห้องน้ำโดยสวมแค่กางเกงนอนขายาวส่วนเสื้อไม่ใส่  พี่ลุกซ์ที่ยืนเช็ดผมอยู่หน้าประตูห้องน้ำทำให้ผมเริ่มมีอารมณ์ขึ้นมาทันที  ใครบอกให้พี่มันเซ็กซี่ล่ะ
“เป็นไร?” พี่ลุกซ์ถามขณะที่เอาผ้าเช็ดตัวไปแขวน  ที่พี่มันถามก็เพราะผมนั่งชันเข่าขึ้นพลางเม้มปากแน่นด้วยสีหน้ากระอักกระอ่วน  ก็ผมอายนี่ครับที่ผมดันมีอารมณ์ขึ้นมาอย่างง่ายดาย
“ปละ...เปล่าครับ” ผมส่ายหน้าไปมาแล้วกัดริมฝีปากแน่น  ไอ้อวัยวะเฮงซวย  อย่าดิ้นสิเฮ้ย!
“เมาหรือเปล่า? หน้าแดงๆ นะ” พี่ลุกซ์ยืนเป่าผมที่หน้าโต๊ะเครื่องแป้งพลางเหลือบตามองผมเป็นระยะๆ
“อาจจะมั้งครับ” ผมตอบ  เมาอะไรเล่า? หน้าแดงเพราะอยากนี่แหละ  รีบๆ มาสิเฮ้ย  ไปยืนเป่าผมอยู่ได้
“งั้นมึงนอนก่อนก็ได้นะ  ถ้าเหนื่อย” ไอ้บ้า! กูขึ้นขนาดนี้ยังจะมาบอกให้นอนอีก  แกล้งกันหรือเปล่าวะเนี่ย!?!
“อื้อ” ผมทำปากยื่นก่อนจะล้มตัวลงนอนตะแคงแล้วบีบไอ้เปอร์น้อยแน่นอย่างทรมาน
“ฮึๆ แอบมาช่วยตัวเองต่อหน้ากูแบบนี้ไม่กล้าไปหน่อยเหรอ?” พี่ลุกซ์ปิดไดร์ก่อนจะเดินมานอนทับผม
“คนบ้า” ผมเม้มปากแน่นอย่างทรมาน  ระหว่างนั้นพี่ลุกซ์ก็เอื้อมมือมาจับน้องชายของผม
“เป็นขนาดนี้แล้วเหรอเนี่ย? ฮึๆ” พี่ลุกซ์ไล้มือไปมาพลางหัวเราะในลำคอ
“อึ๊! อย่ามาล้อนะ” ผมกัดฟันพูด
“ฮึๆ” พี่ลุกซ์หัวเราะอีกครั้งก่อนจะยื่นหน้ามาจูบที่ริมฝีปากแล้วถอนออกไป  พวกเราองหน้ากันนิดหน่อยแล้วจูบกันอีกรอบ  จังหวะที่กำลังจูบกันอยู่พี่ลุกซ์ก็จับตัวผมพลิกให้นอนหงายแล้วแทรกตัวมาอยู่ตรงกลางระหว่างขาของผม
“อื้อออ” ผมครางฮือเมื่อพี่ลุกซ์สะกิดปลายยอดของส่วนกลางของร่างกาย
จุ๊บ จุ๊บ จุ๊บ
เสียงริมฝีปากของพวกเรากระทบกันดังขึ้นทุกครั้งที่พวกเราจูบกัน  พี่ลุกซ์จูบไล่ลงมาเรื่อยๆ และมาหยุดอยู่ที่คอเพื่อฝากรอย
“อื้มมม เปอร์ หันหน้ามา” พี่ลุกซ์เลื่อนขึ้นมาจูบที่แก้มผมก่อนจะกระซิบบอกเบาๆ ผมจึงหันไปหาพี่มัน
“อึ๊ อือ” ผมครางเบาๆ เมื่อริมฝีปากล่างถูกกัดดึงไปมา
ผมยื่นหน้าไปจูบปากพี่มันเบาๆ ก่อนจะค่อยๆ ดันตัวพี่มันให้นอนหงายแล้วขึ้นไปคร่อมด้วยตัวเอง  ผมนั่งทับช่วงเอวของพี่มันแล้วค่อยๆโน้มลงไปจูบที่ซอกคอและหน้าอกของพี่มันบ้าง
“ดูดแรงๆ สิ ฮึๆ” พี่ลุกซ์บอกพลางดันช่วงเอวขึ้นแนบชิดกับบั้นท้ายผมให้มากยิ่งขึ้น
“อ๊ะ อื้อ” ผมผละปากออกมาแล้วเม้มแน่นเมื่อรู้สึกถึงความร้อนภายใต้ร่มผ้าที่กำลังดันบั้นท้ายผมอยู่
“ขยับขึ้นมาสิ” พี่ลุกซ์บอกแล้วประคองเอวผมและดันให้ผมขยับขึ้นไปทำให้ช่วงอกของผมคร่อมอยู่ตรงหน้าของพี่มัน
“อ๊ะ อื้อออ” ผมเม้มปากครางเสียงกระเส่าเมื่อถูกไล้เลียที่ยอดอกอีกทั้งพี่ลุกซ์ยังค่อยๆ ถอดกางเกงผมออกไปแล้วบีบก้นผมเพื่อกระตุ้นอารมณ์ “พี่ลุกซ์ อย่าเพิ่ง อ๊ะ เจ็บ” ผมรีบบอกเสียงสั่นๆ เมื่อนิ้วเรียวๆ เริ่มดันเข้ามาในช่องทางด้านหลัง
“โทษๆ” พี่ลุกซ์บอกก่อนจะพลิกตัวผมนอนลงแล้วขยับไปเล้าโลมให้ผมด้วยปาก
“อ๊า!” ผมร้องครางเมื่อพี่ลุกซ์เม้มส่วนปลายของส่วนกลางกายผมทำให้ผมถึงกับสะดุ้ง
พี่ลุกซ์ช่วยผมจนกระทั่งผมไปจากนั้นพี่มันก็ให้ผมทำให้บ้างและนั่นก็ทำให้ผมมีอารมณ์อีกครั้ง  ขณะที่ผมกำลังเล้าโลมให้พี่มันอยู่  พี่มันก็จับตัวผมให้ขึ้นไปคร่อมในลักษณะกลับหัวกับหางแล้วให้ปากกับด้านหลังของผมและใช้มือกับด้านหน้า
“ฮืมมม” พี่ลุกซ์ครางในลำคอในขณะที่ลิ้นทำหน้าที่เป็นอย่างดี
“อ๊ะ อ๊ะ อึ๊ อ๊า” ผมครางรัวเมื่อพี่ลุกซ์สอดนิ้วเข้ามาแล้วกดไปที่จุดกระสันรัวๆ ทำให้ผมใช้ปากกับพี่มันต่อไปไม่ไหวจึงเปลี่ยนมาใช้มือแทน
ผมฟุบลงให้ตัวผมแนบชิดกับตัวพี่ลุกซ์เพราะมันสยิวจนแข้งขาอ่อนไปหมด  หน้าของผมแนบลงกันต้นขาของพี่ลุกซ์ส่วนมือก็ขยับให้พี่มันรัว
“ตรงนี้พร้อมแล้วนะ” พี่ลุกซ์ใช้นิ้วเขี่ยปากทางเข้าเล่นจนตัวผมกระตุกเบาๆ  เขี่ยไม่พอพี่มันยังหันหน้าไปกัดต้นขาด้านในผมอีก
“อื้อ ไม่ไหวแล้ว” ผมเม้มปากแล้วค่อยๆ พลิกตัวลงไปนอนหงายพลางหนีบขาเอาไว้อย่างอายๆ
“ฮึๆ แดงไปทั้งตัวเลยนะมึงเนี่ย” พี่ลุกซ์ขยับตามมาคร่อมผมไว้พลางจับขาผมแยกออกกว้างแล้วดันเอวของตัวเองให้เข้ามาชิดกับผม
พี่ลุกซ์ขยับไปเอาเจลที่หัวเตียงก่อนจะกลับมาประจำที่  พี่มันเทเจลราดลงบนส่วนนั้นของตัวเองแล้วราดลงที่บั้นท้ายของผม  ความเย็นจากเจลทำให้ผมสะดุ้งแล้วบิดตัวไปมา
“อื้อ อึ๊” ผมครางกระเส่าเมื่อพี่ลุกซ์โน้มตัวลงมาจูบที่ปากแล้วจูบไล่ลงไปเรื่อยๆ กระทั่งถึงที่อก  พี่มันไล้เลียและกัดดึงจนผมต้องแอ่นตัวรับอย่างช่วยไม่ได้อีกทั้งมือของพี่มันยังขยับเข้าออกที่ช่องทางด้านหลังอีกด้วย
“ซี้ดดด” พี่ลุกซ์สูดปากอย่างหื่นกระหายเมื่อจับขาทั้งสองข้างของผมไปพาดบ่าแล้วใช้ส่วนนั้นไล้ไปมาที่ร่องบั้นท้าย
“อะ...อึ๊ อ๊า!!” ผมกรีดร้องเสียงดังเมื่อพี่ลุกซ์ดันตัวเองเข้ามารวดเร็วจนสุดความยาว  ผมกัดริมฝีปากและหลับตาแน่นพลางบิดตัวไปมาเพราะหวิวในช่องท้อง
“อยากขยับเองไหม?” พี่ลุกซ์โน้มตัวลงมาคร่อมตัวผมแล้วพูดชิดริมฝีปากขณะที่เอวก็เริ่มขยับเข้าออก
“อื้อ ไม่ อึ๊ อึ๊” ผมส่ายหน้าปฏิเสธพลางยกแขนขึ้นโอบรอบคอของพี่มัน
จุ๊บๆๆ พี่ลุกซ์เอียงหน้ามาจูบผมอยู่หลายครั้งทั้งๆ ที่เอวยังขยับไม่หยุด  ผมเองก็ครางเสียงแผ่วเพราะถูกจูบปิดปากอยู่ตลอด
“รู้ไหมว่าเวลาจูบกัน ปากมึงจะแดงตลอดเลยนะ แดงสดจนกูหยุดกินไม่ได้เลยล่ะ” พี่ลุกซ์พูดชิดริมฝีปากผมพลางใช้นิ้วโป้งไล้เบาๆ ที่ริมฝีปากล่างก่อนจะจูบอีกครั้ง
“บะ...บ้า อึ๊ เคยพูดแบบนี้กับใครหรือเปล่า?” ผมถามเพราะผมเขินกับคำพูดเมื่อกี้มาก
“จะให้กูไปพูดกับใคร? กูมีมึงคนเดียวนี่” คำตอบของพี่ลุกซ์ทำให้ผมเขินมากจนไม่อาจมองหน้าพี่มันได้อีก  ทำไมวันนี้ตานี่หวานขนาดนี้นะ  ไม่คุ้นเลยอ่ะ  หวานจนผมเขินแทบระเบิดตัวได้แล้วเนี่ย
“ถ้าไม่มีผมคนเดียวพี่ตายแน่” ผมพูดพลางทำปากยื่นอย่างอ้อนๆ  เอาวะ  เขาหวานมาเราก็อ้อนกลับก็ได้นี่หว่า
“งั้นกูคงเป็นอมตะเพราะกูมีแค่มึง” พี่ลุกซ์พูดแค่นั้นก่อนจะจูบปิดปากผมแล้วขยับเอวระรัวเร็วจนร่างผมสั่นคลอน
สักพักพี่ลุกซ์ก็ดึงให้ผมขึ้นไปนั่งคร่อมตักตัวเองที่นั่งอยู่เหมือนกันก่อนจะจับเอวผมให้โยกไปมาซึ่งพี่มันก็ขยับสวนเข้ามาจนผมร้องครวญครางไม่เป็นภาษา  และเพียงไม่นานพวกเราก็ต่างคนต่างไปโดยที่พี่มันออกด้านในทำให้ผมต้องไปล้างตัวอีกรอบ  สุดท้ายเราก็ทำกันอีกรอบก่อนนอน
“สุขสันต์วันเกิดนะครับพี่ลุกซ์”
   
ผมตื่นขึ้นมาอีกทีตอนสายๆ และตื่นขึ้นมาในอ้อมแขนของพี่ลุกซ์เพราะเรานอนกอดกันทั้งคืน  เมื่อผมขยับตัวพี่ลุกซ์ก็รู้สึกตัวขึ้นมาบ้าง
“หืม? ร่างกายเป็นไงบ้าง?” พี่ลุกซ์กระชับอ้อมแขนพลางถาม
“เจ็บอ่า” ผมทำหน้าแหยๆ
“สงสัยไม่ได้ทำนานเลยเจ็บ  ต่อไปนี้คงต้องทำบ่อยๆ จะได้ชิน” พี่ลุกซ์พูดพลางยิ้มที่มุมปากทำให้ผมยิ้มตามไปด้วย
“คนบ้า มีเวลาให้ผมด้วยเหรอ?” ผมแกล้งทำปากยื่นอย่างงอนๆ เพราะพี่ลุกซ์ไม่ค่อยมีเวลาให้มากเท่าที่ควร
“ถ้าไม่มีเวลาให้เมียแล้วจะให้กูเอาเวลาไปให้ใคร?” พี่ลุกซ์ถามก่อนจะจูบที่จมูกผมเบาๆ
“ให้งานน่ะสิ” ผมทำปากยื่น
“ก็ถ้าไม่ทำงานกูจะเอาอะไรไปเลี้ยงมึงล่ะ  กูจะเก็บเงินไว้เยอะๆ เผื่อลูกของเราในอนาคตไง” พี่ลุกซ์พูด
“บ้าเหรอ? จะไปเอาลูกมาจากไหน?”
“เดี๋ยวกูทำให้”
“ไม่เอา!” ผมทำหน้าบึ้งพลางพยายามผลักพี่มันออกให้ห่างตัวอย่างเคืองๆ
“พูดเล่นเฉยๆ ทำเป็นงอนไปได้” พี่ลุกซ์รั้งผมเข้าไปใกล้เหมือนเดิม
“ถ้าผมบอกว่าผมจะไปมีผัวอีกคนล่ะ พี่จะรู้สึกยังไง?” ผมขมวดคิ้วพูดพลางทุบอกพี่ลุกซ์รัวๆ
“ก็ไม่รู้สึกอะไร  เพราะกูรู้ว่ามึงมีใครอีกไม่ได้” พี่ลุกซ์พูดอย่างรู้ทัน
“แน่ใจเหรอว่าผมมีใครอีกไม่ได้? ฮึ! คนไม่ค่อยมีเวลาอย่างพี่ลุกซ์น่าเบื่อจะตาย” ผมแกล้งพูด
“เปอร์!!” พี่ลุกซ์โมโห
“เป็นไงล่ะ? รู้สึกยังไงบ้างเวลาถูกพูดด้วยแบบนี้?” ผมทำปากยื่น
“โอเคๆ ขอโทษครับ” พี่ลุกซ์ว่า
“ให้มันรู้ซะบ้างว่าใครเป็นใคร” ผมกอดอกทำหน้าหยิ่งๆ
“อวดดีจังนะ” พี่ลุกซ์กัดฟันพูดก่อนจะพลิกตัวมากดผมเอาไว้แล้วหอมซ้ายหอมขวาด้วยท่าทางหื่นๆ
“ว้ากกกกก” ผมร้องโวยวายแต่สุดท้ายก็เสร็จพี่มันอยู่ดี
ถึงเราจะทะเลาะกันได้ตลอดเวลาแต่ถ้าคุยกันให้รู้เรื่องพวกเราก็เข้าใจกันได้ไม่ยาก  ผมมันก็นิสัยไม่ดี ขี้งอน ขี้ประชด  พี่ลุกซ์ก็นิสัยแย่ชอบแกล้ง ชอบโมโหแต่เราก็ขาดกันไม่ได้  ขาดไม่ได้แม้ซักวินาที... +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ จบกันไปแล้วกับตอนพิเศษ ลป นะคะ หลังจากนี้ไรเตอร์ติดสอบเพราะฉะนั้นคงไม่ได้มีอัพอีกนานเลยล่ะค่ะ  ประมาณ 15 วันต่อจากนี้ได้มั้ง ยังไงก็ติดตามกันต่อไปนะคะและขอให้เข้าใจนิดนึงว่าที่หายไปเพราะติดสอบจริงนะจ๊ะที่รัก
     

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา