ขอให้ได้รักนายตัวแสบ
4.8
1) ความฝัน
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความฉันเบื่อบรรยากาศในประเทศที่ฉันไม่รู้จักดี ฉันเบื่อพ่อที่เอาแต่ใจและเบื่อแม่ที่ยอมพ่ออยู่เรื่อยไป ถึงชีวิตฉันจะอยู่ในกรอบแต่ใช่ว่าฉันจะเป็นเด็กมีปัญหา ฉันมีย่าที่คอยอบรบสั่งสอนฉันที่เป็นเด็กเบื่อโลกภายนอก ฉันรักย่ามากกว่าพ่อและแม่เพราะย่าจะคอยอยู่ข้างฉันเสมอ จนกระทั่งครั้งนี่ย่าก็อยู่ข้างฉัน
"ผมจะไม่ยอมให้ยัยวาไปประเทศไทยอีก!!!!" เสียงตะโกนที่แสนจะทรงพลังนี่ดังมาจากห้องของพ่อฉันที่กำลังคุยกับคุณย่าอยู่ ฉันที่ยืนรออยู่หน้าประตูนั้นถึงกับสะดุดในน้ำเสียงที่ถึงจุดเดือดของคุณพ่อแต่ก็ไม่ได้แสดงอาการอะไรออกมากมายเพราะคุณแม่ที่ยืนอยู่ข้างๆนั้นก็กระวนกระวายไม่แพ้ฉันเหมือนกัน
"แกจะขัดขวางยัยหนูของฉันทำไมกัน ชีวิตเป็นของยัยหนู ถ้ายัยหนูตัดสินใจที่จะเดินไปต่อที่ไหนด้วยตัวเองแกก็ต้องดีใจไปด้วยสิไม่ควรขัดขวางยัยหนูแบบนี่!!!" คุณย่าเองก็ไม่ยอมแพ้คุณพ่อเหมื่อนกันฟังจากน้ำเสียงแล้วคุณย่าคงตะคอกคุณพ่อกลับ
"คุณแม่ค่ะหนูไม่ไปก็ได้ค่ะ ถ้ามันลำบากซะขนาดนี่ " ฉันพูดก่อนจะเดินกลับไปที่ห้องของตัวเองพอถึงห้องนอนของตัวเอง ฉันก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาก่อนจะกดเบอร์โทรล่าสุดออกไป
(ว่าไงยัยวาวา พร้อมหรื่อยัยเพื่อนร๊ากกกที่จะไปตามฝัน) ยัยการ์ตูนเพื่อนรักที่สุดของฉันกรอกเสียงพูดก่อนอย่างรวดเร็วเร็ว
"ยัยตูนแกไปเถอะ ฉันคงไปไม่ได้แล้วละ" ฉันพูดก่อนจะกดวางสายไปเฉยๆ โดยไม่รอคำพูดใดๆจากเพื่อนสนิททั้งสิ้น
ปิโลริน ปิโลรินปา ปิโลริน
ผ่านไปไม่ถึง5นาทีเสียงโทรศัพท์ของฉันก็ดังขึ้นมา ฉันมองก่อนจะถอนหายใจออกยาวๆและกดรับสาย
"ว่าไง" ฉันพูดด้วยอารมณ์ขุ่นมัว
(ถ้าแกไม่ไปฉันก็ไม่ไป ความฝันเราสร้างมาด้วยกันไม่มีแกความฝันก็จบเพียงเท่านี่แหละ) ยัยการ์ตูนพูดด้วยน้ำเสียงที่เฉียบขาดและโดนใจฉันอย่างมาก ฉันถือโทรศัพท์เว้นช่วงหายใจไว้นานเกินทำให้ยัยการ์ตูนอารมณ์เสียอย่างมากกดตัดสายฉันไปเฉยๆ ฉันที่ขี้เกียจโทรไปจึงส่งข้อความไปแทน
(ฉันไม่ยอมให้ความฝันเราจบแค่นี้แน่ ความฝันเราต้องไปถึงฝั่ง)
เมื่อฉันพิมพ์ข้อความเสร็จก็เดินออกนอกห้องไปก่อนจะเดินเข้าห้องคุณพ่ออย่างใจกล้าขึ้นมาเมื่อนึกถึงความฝันของตน
"หนูอยากไปเป็นที่1ของเมืองไทย เมืองเกิดของหนู" ฉันทำใจกล้าพูดออกไปต่อหน้าคุณพ่อที่กำลังเดือดจัด
"แกเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่าเมืองเกิดของแกอยู่ที่นี่ ไม่ใช่เมืองไทย!!!" ฉันยืนนิ่งอยู่กับที่ไม่แสดงความรู้สึกใดๆเพราะกลัวเรื่องราวจะใหญ่โตถ้าทำเป็นชักสีหน้า
"แต่หนูพูดไทยได้ มีเชื้อชาติไทยแท้ หน้าก็ไทย" ฉันพูดก่อนจะมองหน้าผู้มีพระคุณอย่างนิ่งๆ
"ไม่ใช่ซักนิด แกมีสายเลือดฉันแกไม่ใช่คนไทย หน้าแกก็ไม่ไทยดูแค่นี่ก็มองออกว่าแกเป็นคนญี่ปุ่นเอาหน้าแกไปให้คนไทยดูสิแล้วถามว่าแกเป็นคนเชื้อชาติอะไร!!!"
คุณพ่อยังคงไม่ยอมแพ้ง่ายๆ ฉันเองก็จะไม่ยอมเพราะฉันยอมมามากพอแล้วถึงต้องเถียงมากกว่านี่ก็ยอม
"หนูจะไปเมืองไทยทำตามความฝันของหนู ไม่ว่าใครก็ขัดหนูไม่ได้"
ฉันพูดก่อนจะเดินออกนอกห้องคุณพ่อไป พร้อมทั้งเริ่มกลับของใส่กระเป๋าของตัวเองไป ฉันเชื่อว่าต้องมีคนในบ้านนี่เข้าใจฉันและไม่ถือโทษเอาเรื่องนี่เป็นบาปติดตัวฉันไป เพราะความฝันของฉันมันยิ่งใหญ่จริงๆไม่งั้นฉันคงไม่กล้าหือกับคุณพ่อขนาดนี่ พอฉันเก็บของเสร็จฉันก็เดินไปห้องคุณย่าเพื่อลาท่าน
"คุณย่าค่ะหนูต้องไปแล้วนะค่ะ" ฉันเดินเข้าไปพร้อมทั้งคุกเข่ามองดูหน้าคุณย่าที่แสนจะใจดีกับฉันมาตลอด
"พ่อเขาให้ไปแล้วเหรอ" คุณย่ากล่าวออกมาอย่างเป็นห่วง ฉันมองท่านก่อนจะส่ายหน้าไปมาอย่างเหนื่อยใจ
"ความฝันของหนูคงจะยิ่งใหญ่มากถึงขนาดยอมขัดคำสั่งของพ่อ" คุณย่ายิ้มให้ฉันอย่างออ่นโยนนั้นทำให้ฉันเริ่มรู้สึกผิดขึ้นมาเล็กน้อย
"ถ้าคุณย่าพูดอีกคนว่าจะไม่ให้หนูไปหนูก็จะไม่ไป" ฉันพูดพร้อมทั้งยิ้มให้ท่านอย่างไม่รู้สึกแค้นเคืองอะไร
"ย่าคงไม่ขัดยัยหนูหรอกเพราะมันเป็นความสุขของตัวยัยหนูเองย่าดีใจด้วยที่ยัยหนูของย่าค้นพบแล้วว่าควรไปเริ่มต้นชีวิตของตัวเองได้แล้ว และต้องไปเริ่มที่ไหนอีก ถ้าเป็นเด็กคนอื่นคงยังไม่รู้เลยว่าโตขึ้นตัวเองอยากเป็นอะไรย่าดีใจจริงๆ"
คุณย่าพูดก่อนจะร้องไห้ออกมานั้นทำให้ฉันไม่อยากจะจากคุณย่าไปเลยแต่จะทำไงได้เมื่อฉันฝันแล้วก็ต้องไปให้ถึงไม่งั้นคงต้องรออีก10ปีข้างหน้าเลย ฉันยิ้มเป็นการจากลาจากคุณย่าเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะเดินออกไปจากห้องของท่านและเดินไปหาแม่ที่นั่งอยู่ที่ริมระเบียงแทน
"ลูกจะไปจริงใช่ไหม" เมื่อฉันเดินไปถึงท่าน ท่านก็พูดออกมาอย่างเสียงเศร้าๆ
"หนูกลัวความฝันจะหลุดมือไป หนูทนเรียนที่ญี่ปุ่นก็เพราะว่าอยากจะไปเป็นนักร้องที่ดีที่สุดในเมืองไทยแม่ว่าความฝันของหนูต๊องไหมค่ะ" ฉันพูดก่อนจะหัวเราะออกมาเล็กน้อย
"ไม่จ้ะ ถ้าลูกว่างั้นก็ไปเถอะความฝันของลูกมันยิ่งใหญ่มากนะ พอถึงเมืองไทยต้องโทรหาแม่ทันทีนะอย่าลืมละ "
แม่ยิ้มทั้งน้ำตาก่อนจะขับรถพาฉันไปส่งที่สนามบิน พอถึงสนามบินแม่ก็ให้เงินฉันพกติดตัวมา และให้บัตรเอทีเอมมาหนึ่งใบจะได้ส่งเงินให้ฉันได้ พอฉันพร้อมแล้วแล้วก็โทรหายัยการ์ตูนเพื่อที่จะให้ยัยนั้นมาสนามบินเหมือนยัยนั้นจะรู้จากข้อความฉันแล้วจึงมารอฉันที่สนามบินก่อนล้วนหน้าตั้ง3ชั่วโมงอึดจริงๆเพื่อนฉัน ต่อจากนี้ขออย่าให้เจออุปสรรค์อีกเลยแค่นี้ก็เจ็บปวดจะแย่อยู่แล้วเฮ้อ.......
"ผมจะไม่ยอมให้ยัยวาไปประเทศไทยอีก!!!!" เสียงตะโกนที่แสนจะทรงพลังนี่ดังมาจากห้องของพ่อฉันที่กำลังคุยกับคุณย่าอยู่ ฉันที่ยืนรออยู่หน้าประตูนั้นถึงกับสะดุดในน้ำเสียงที่ถึงจุดเดือดของคุณพ่อแต่ก็ไม่ได้แสดงอาการอะไรออกมากมายเพราะคุณแม่ที่ยืนอยู่ข้างๆนั้นก็กระวนกระวายไม่แพ้ฉันเหมือนกัน
"แกจะขัดขวางยัยหนูของฉันทำไมกัน ชีวิตเป็นของยัยหนู ถ้ายัยหนูตัดสินใจที่จะเดินไปต่อที่ไหนด้วยตัวเองแกก็ต้องดีใจไปด้วยสิไม่ควรขัดขวางยัยหนูแบบนี่!!!" คุณย่าเองก็ไม่ยอมแพ้คุณพ่อเหมื่อนกันฟังจากน้ำเสียงแล้วคุณย่าคงตะคอกคุณพ่อกลับ
"คุณแม่ค่ะหนูไม่ไปก็ได้ค่ะ ถ้ามันลำบากซะขนาดนี่ " ฉันพูดก่อนจะเดินกลับไปที่ห้องของตัวเองพอถึงห้องนอนของตัวเอง ฉันก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาก่อนจะกดเบอร์โทรล่าสุดออกไป
(ว่าไงยัยวาวา พร้อมหรื่อยัยเพื่อนร๊ากกกที่จะไปตามฝัน) ยัยการ์ตูนเพื่อนรักที่สุดของฉันกรอกเสียงพูดก่อนอย่างรวดเร็วเร็ว
"ยัยตูนแกไปเถอะ ฉันคงไปไม่ได้แล้วละ" ฉันพูดก่อนจะกดวางสายไปเฉยๆ โดยไม่รอคำพูดใดๆจากเพื่อนสนิททั้งสิ้น
ปิโลริน ปิโลรินปา ปิโลริน
ผ่านไปไม่ถึง5นาทีเสียงโทรศัพท์ของฉันก็ดังขึ้นมา ฉันมองก่อนจะถอนหายใจออกยาวๆและกดรับสาย
"ว่าไง" ฉันพูดด้วยอารมณ์ขุ่นมัว
(ถ้าแกไม่ไปฉันก็ไม่ไป ความฝันเราสร้างมาด้วยกันไม่มีแกความฝันก็จบเพียงเท่านี่แหละ) ยัยการ์ตูนพูดด้วยน้ำเสียงที่เฉียบขาดและโดนใจฉันอย่างมาก ฉันถือโทรศัพท์เว้นช่วงหายใจไว้นานเกินทำให้ยัยการ์ตูนอารมณ์เสียอย่างมากกดตัดสายฉันไปเฉยๆ ฉันที่ขี้เกียจโทรไปจึงส่งข้อความไปแทน
(ฉันไม่ยอมให้ความฝันเราจบแค่นี้แน่ ความฝันเราต้องไปถึงฝั่ง)
เมื่อฉันพิมพ์ข้อความเสร็จก็เดินออกนอกห้องไปก่อนจะเดินเข้าห้องคุณพ่ออย่างใจกล้าขึ้นมาเมื่อนึกถึงความฝันของตน
"หนูอยากไปเป็นที่1ของเมืองไทย เมืองเกิดของหนู" ฉันทำใจกล้าพูดออกไปต่อหน้าคุณพ่อที่กำลังเดือดจัด
"แกเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่าเมืองเกิดของแกอยู่ที่นี่ ไม่ใช่เมืองไทย!!!" ฉันยืนนิ่งอยู่กับที่ไม่แสดงความรู้สึกใดๆเพราะกลัวเรื่องราวจะใหญ่โตถ้าทำเป็นชักสีหน้า
"แต่หนูพูดไทยได้ มีเชื้อชาติไทยแท้ หน้าก็ไทย" ฉันพูดก่อนจะมองหน้าผู้มีพระคุณอย่างนิ่งๆ
"ไม่ใช่ซักนิด แกมีสายเลือดฉันแกไม่ใช่คนไทย หน้าแกก็ไม่ไทยดูแค่นี่ก็มองออกว่าแกเป็นคนญี่ปุ่นเอาหน้าแกไปให้คนไทยดูสิแล้วถามว่าแกเป็นคนเชื้อชาติอะไร!!!"
คุณพ่อยังคงไม่ยอมแพ้ง่ายๆ ฉันเองก็จะไม่ยอมเพราะฉันยอมมามากพอแล้วถึงต้องเถียงมากกว่านี่ก็ยอม
"หนูจะไปเมืองไทยทำตามความฝันของหนู ไม่ว่าใครก็ขัดหนูไม่ได้"
ฉันพูดก่อนจะเดินออกนอกห้องคุณพ่อไป พร้อมทั้งเริ่มกลับของใส่กระเป๋าของตัวเองไป ฉันเชื่อว่าต้องมีคนในบ้านนี่เข้าใจฉันและไม่ถือโทษเอาเรื่องนี่เป็นบาปติดตัวฉันไป เพราะความฝันของฉันมันยิ่งใหญ่จริงๆไม่งั้นฉันคงไม่กล้าหือกับคุณพ่อขนาดนี่ พอฉันเก็บของเสร็จฉันก็เดินไปห้องคุณย่าเพื่อลาท่าน
"คุณย่าค่ะหนูต้องไปแล้วนะค่ะ" ฉันเดินเข้าไปพร้อมทั้งคุกเข่ามองดูหน้าคุณย่าที่แสนจะใจดีกับฉันมาตลอด
"พ่อเขาให้ไปแล้วเหรอ" คุณย่ากล่าวออกมาอย่างเป็นห่วง ฉันมองท่านก่อนจะส่ายหน้าไปมาอย่างเหนื่อยใจ
"ความฝันของหนูคงจะยิ่งใหญ่มากถึงขนาดยอมขัดคำสั่งของพ่อ" คุณย่ายิ้มให้ฉันอย่างออ่นโยนนั้นทำให้ฉันเริ่มรู้สึกผิดขึ้นมาเล็กน้อย
"ถ้าคุณย่าพูดอีกคนว่าจะไม่ให้หนูไปหนูก็จะไม่ไป" ฉันพูดพร้อมทั้งยิ้มให้ท่านอย่างไม่รู้สึกแค้นเคืองอะไร
"ย่าคงไม่ขัดยัยหนูหรอกเพราะมันเป็นความสุขของตัวยัยหนูเองย่าดีใจด้วยที่ยัยหนูของย่าค้นพบแล้วว่าควรไปเริ่มต้นชีวิตของตัวเองได้แล้ว และต้องไปเริ่มที่ไหนอีก ถ้าเป็นเด็กคนอื่นคงยังไม่รู้เลยว่าโตขึ้นตัวเองอยากเป็นอะไรย่าดีใจจริงๆ"
คุณย่าพูดก่อนจะร้องไห้ออกมานั้นทำให้ฉันไม่อยากจะจากคุณย่าไปเลยแต่จะทำไงได้เมื่อฉันฝันแล้วก็ต้องไปให้ถึงไม่งั้นคงต้องรออีก10ปีข้างหน้าเลย ฉันยิ้มเป็นการจากลาจากคุณย่าเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะเดินออกไปจากห้องของท่านและเดินไปหาแม่ที่นั่งอยู่ที่ริมระเบียงแทน
"ลูกจะไปจริงใช่ไหม" เมื่อฉันเดินไปถึงท่าน ท่านก็พูดออกมาอย่างเสียงเศร้าๆ
"หนูกลัวความฝันจะหลุดมือไป หนูทนเรียนที่ญี่ปุ่นก็เพราะว่าอยากจะไปเป็นนักร้องที่ดีที่สุดในเมืองไทยแม่ว่าความฝันของหนูต๊องไหมค่ะ" ฉันพูดก่อนจะหัวเราะออกมาเล็กน้อย
"ไม่จ้ะ ถ้าลูกว่างั้นก็ไปเถอะความฝันของลูกมันยิ่งใหญ่มากนะ พอถึงเมืองไทยต้องโทรหาแม่ทันทีนะอย่าลืมละ "
แม่ยิ้มทั้งน้ำตาก่อนจะขับรถพาฉันไปส่งที่สนามบิน พอถึงสนามบินแม่ก็ให้เงินฉันพกติดตัวมา และให้บัตรเอทีเอมมาหนึ่งใบจะได้ส่งเงินให้ฉันได้ พอฉันพร้อมแล้วแล้วก็โทรหายัยการ์ตูนเพื่อที่จะให้ยัยนั้นมาสนามบินเหมือนยัยนั้นจะรู้จากข้อความฉันแล้วจึงมารอฉันที่สนามบินก่อนล้วนหน้าตั้ง3ชั่วโมงอึดจริงๆเพื่อนฉัน ต่อจากนี้ขออย่าให้เจออุปสรรค์อีกเลยแค่นี้ก็เจ็บปวดจะแย่อยู่แล้วเฮ้อ.......
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
6.2 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
3.2 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
5 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ