สามใจหนึ่งฝัน
เขียนโดย api3api
วันที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 เวลา 23.52 น.
แก้ไขเมื่อ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 09.10 น. โดย เจ้าของนิยาย
13) ตอนพิเศษ ศึก20ทมิฬ ตอนที่สี่
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ"ทั้งหมดตรง ทำความเคารพ"
หน่วยเรนเจอร์เรียงแถวหน้ากระดานต้อนรับหัวหน้าที่เริ่มงานในวันนี้
พยัคเดินพยักหน้า แล้วยืนตรงหน้าแถวในท่าระเบียบพัก
"ผมจะตั้งทีมในการสำรวจป่าดงดิบ"
ทึกคนตั้งใจฟังนิ่ง รอฟังหัวหน้าของเขาพูดต่อ
"สืบเนื่องมาจากคดีที่แล้วมันเกิดเรื่องโดยเราไม่ทันรู้ทัน แสดงว่าต้องมีซ่องสุมของพวกมันในป่าประสานงานกับคนข้างนอก ในเรื่องคนข้างนอกผมกับไสวค่อนข้างแน่ใจว่ามี"
ไสวพยักหน้าท่าทางขึงขัง
"มันเกิดขึ้นไกล้กับป่าลับลา"
"เดี๋ยวหัวหน้า"
มิ่งผู้เจนจัดยกมือขึ้นพยัคเลยพยักหน้าให้พูดต่อ
"ป่าลับลาคนอยู่ไม่ได้แน่ ที่นั่นประชากรเสือโคร่งชุมยิ่งกว่ายุงเสียอีก อย่าบอกนะว่าหัวหน่าจะเข้าไปสำรวจ"
ทุกคนฮือฮา พยัคส่งสัญญาณให้ทุกคนเงียบ
"เปล่าพี่มิ่ง ผมอยากจะสำรวจรอบๆเพื่อหาดูช่องทางและร่องรอยของผู้บุกรุก"
มิ่งพยักหน้ารับทราบ แต่ไสวยกมือขึ้นแย้ง
"จะเข้าก็เข้าสิ พี่มิ่งเก่งอยู่แล้ว"
มิ่งตบฉาดหัวไสวแต่ไสวหลบทัน
"ครับไอ้รองหัวหน้าเอ็งนำหน้าเลย"
ทุกคนหัวเราะชอบใจ พยัคยังอดยิ้มไม่ได้เขาสั่งเลิกแถวโดยให้ไสวทำรายชื่อของทีมสำรวจ
"ไม่ไหวมั้งพยัค ป่าลับลามันอ่อนไหวต่อความรู้สึกของคนในหมู่บ้านนี้ไม่เว้นแม้แต่พวกเรา นอกจากเอ็งคนไม่มีใครกล้าเข้าไปหรอก"
ไสวพูดกับพยัค เขาทำท่าอ่อนใจ
"ข้าก็ไม่กล้าหรอกถ้าข้าไม่ได้เกิดเรื่องในป่านั้น"
พยัคพูดไปพลางจับเครื่องรางเขี้ยวเสือไปพลางมันเป็นของดูต่างหน้าพ่อและแม่ของเขา ไสวพยักหน้ารับ
พยัคไปเคารพศาลที่เขาทำไว้ให้พ่อและแม่ของเขาทุกปีไสวรู้ดี ก่อนที่จะตั้งชื่อป่านั้นพ่อกับแม่ของพยัคพาเขาที่ยังเด็กเข้าไปหาของป่าและถูกเสือโจมตี พยัคในตอนนั้นยิงปืนสั้นของพ่อที่ถูกเสือยักษ์ขย้ำอยู่จนตาบอดเขี้ยวหักข้างนึงแต่นั่นมันนานมาแล้ว
พยัคเชื่อว่าเขี้ยวอันนั้นมีวิญญานของพ่อและแม่ของเขาสถิตอยู่ ใช่เพราะเขาไม่เคยถูกเสือจู่โจมเลยเวลาเข้าป่าลับลา
วันต่อมาทีมสำรวจออกลาดตะเวณแต่เช้าตามปกติ สภาพป่าที่อุดมสมบูรณ์ทำให้พยัคชื่นใจ กวางเป็นฝูงแทะหญ้าสีเขียว แมกไม้นานาพรรณเขียวขจี ระบบนิเวศน์ที่อุดมสมบูรณ์ นี่คือสิ่งที่พวกเขาอยากปกป้องให้อยู่คู่ชาติไทยไปยาวนาน
ไสวเห็นเพื่อนมีความสุขเขาก็ดีใจและแข็งขัน
แต่มัจจุราชร้ายกำลังมาเยือน
พยัคกำลังถูกกล้องทางไกลที่มีพิกัดเป็นขีดๆเล็งอยู่
พยัคส่องกล้องดูฝูงสัตว์ป่าด้วยความปิติกับฝูงควายป่าที่พึ่งโตน่ารัก
กล้องอีกที่หนึ่งขยายภาพพยัคขึ้นอีกพร้อมเสียงหายใจถี่ๆ นิ้วมือของมันเลื่อนไปที่ก้านเหล็กมันวาวแล้วกดลงไป
เปรี้ยงเสียงระเบิดในที่ห่างไกล ไกลจนพวกพยัคไม่ได้ยิน
"เออนี่พยัค ...."ไสวหันมาหาพยัคแต่มันเกิดขึ้นเร็วมาก และต่อหน้าทุกคน
พยัคปลิว หมุนเหมือนตุ๊กตาเชือกขาดด้วยฤทธิ์ของลูกปืนไรเฟิล สติของเขาหายไปทันที
จนรู้สึกตัวเขาเห็นหมอชุติพรและไสวกำลังโกลาหลเขาอยู่ที่อนามัย
เจ็บ เจ็บแทบขาดใจ มือเขาไขว่คว้าปัดป้องอย่างไร้จุดหมาย
"ไสวกดพยัคไว้"
ชุติพรสั่งไสวเขากดพยัคให้ขยับไม่ได้ เขาเห็นหมอชุติพรเตรียมเข็มฉีดยาในสติที่เลือนลาง
"พยัค นายจะหายเจ็บเชื่อเรา"
จากนั้นหมดสติไป....
กระสุนไรเฟิลฉีกไหล่ของพยัคเป็นแผลใหญ่ เขาถูกเย็บทัวไหล่ถึงสามสิบเข็ม หมอชุติพรหมดแรงหลับข้างๆเตียงของพยัค ส่วนไสวหลับลงกับพื้น สำลีสีแดงด้วยเลือดเกลื่อนเต็มไปหมด
ไม่รู้ว่านานเท่าไหร่แต่พยัคก็ได้สติ
อาการเจ็บแปร๊บขึ้นสมองแขนข้างซ้ายเขาตึงไปหมดขยับไม่ได้
หมอชุติพรยืนเครียดข้างเตียงเขา
"มีใครเป็นอะไรใหมหมอ"
คำถามของพยัคทำเอาชุติพรเครียดหนักแต่เธอยังสวมบทหมอ
"โชคไม่ดีมีแค่เธอพยัค"
"เหรอดีจัง"
พยัคถอนหายใจ แต่หมอตบโต๊ะดังปัง
"ดีตรงใหน แค่รอยขาดที่เสื้อ ฉันก็ไม่คิดว่าโดนแค่ไหล่แล้วพยัค"
พยัคเงียบเพราะหมอชุติพรน้ำตาซึมออกมาโวยวายเสียงดัง
"ถ้านายเป็นอะไรไป...."
"ถ้านายเป็นอะไรไป ฉันจะทำยังไง"
หมอเว้นช่วงพูดอย่างลำบากเนื่องจากสะอื้น พยัคนิ่งเงียบไม่โต้ตอบ
เขาใช้มือข้างไม่เจ็บปาดน้ำตาหมอคนสวย ใบหน้าที่เปลื้อนน้ำตาแววตาสีหน้าที่พร้อมละลายใจคน
ช่างสวยสด
"หมอน่ารัก น่ารักจนผมกลัว กลัวจะรักหมอจนรักป่าน้อยลง ถ้าหมอจะทิ้งผมให้ทำเสียตอนนี้ แล้วหมอจะไม่ทรมานกับบาดแผลผมอีกเพราะมันจะมีอีกแน่ๆ"
หมอกัดฟันทรมานกับคำพูดของพยัคทั้งดีใจที่ถูกรักและลำบากใจที่ต้องเลือก
"เราจะไม่ทิ้งนาย และนายจะต้องไม่ทิ้งเรา สัญญาได้ใหม"
หมอยกนิ้วก้อยขึ้นมาพยัคยกนิ้วก้อยขึ้นมาเกี่ยว
"ผมจะรักหมอเท่าที่ผู้ชายคนนึงจะรักได้"
หมอเอามือปิดปากกันเสียงสะอื้นลอดออกน้ำตาใสใสอาบแก้ม
ไสวนอนฟังอยู่ถึงกับน้ำตาซึม
...................................................................
สามวันต่อมาพยัคออกมารักษาตัวที่บ้าน เขาต้องใช้ผ้าคล้องแขนข้างที่เจ็บ เขาใช้มือที่เหลืออีกข้างรดน้ำต้นกล้าไม้ เขาถูกพักจนกว่าแผลจะหายดี
"เฮ้ย พยัคไปด้วยกันหน่อยสิ"
ไสวมาฉุดแขนเขาไปจากโรงเพาะชำ
"ไปใหนวะ ปล่อยก่อน"
"ไปจีบสาว เขินน่ะไปเป็นเพื่อนที"
ไสวปล่อยแขนยิ้มร่า พยัคยิ้มส่ายหัวเขาเดินตามไสวไป เหมือนเขาจะรู้จักที่นี่
บ้านของ กิ่งแก้ว กับโฉมงาม
"เฮ้ยไอ้เป็ดตายไปยังไม่นานเลย นี่จะจีบน้องมันอีก"
ไสวส่ายหัวเสียอารมณ์
"เขาต้องการคนปลอบใจไงเพื่อน"
ไม่นานแก้วกับโฉมก็ลงมาจากบ้าน ไสวจู๋จี๋คุยกับแก้ว ส่วนโฉมยืนห่างๆ เหมือนพยัคยืนพิงต้นไม้อยู่ห่างๆ
โฉมจึงเดินมาหาพยัค
"เพื่อนพี่ตาบอดเลือกนางมารร้ายไปแล้ว"
พยัคยิ้มแทบกลั้นเสียงหัวเราะไม่ไหวกับคำพูดนั้น
"ว่าแต่เราไม่มีใครมาจีบเหรอ"
โฉมหน้ามู่ส่ายหน้า
"โอ้ยขี้โรค อย่าเอาไปลำบากเลย ใครจะทนดูแลฉัน เดี๋ยวก็เบื่อแย่"
พยัคยิ้มเขานึกถึงหมอขึ้นมาทันที
"โฉมสวยออกน่ารักด้วย ยิ้มหวานๆ ขี้คร้านคนจะรัก"
สาวโฉมทำตาหยี ไอค่อกแค่ก
"นี่แพร่เชื้อซะ พี่ขี้หลี"
ทั้งสองมองและยิ้มให้กันจนสบตากันเงียบ
"พี่เจ็บมากใหม"
โฉมลูบแขนข้างที่พันแผลเข้าเฝือกอ่อน เขาพยักหน้า
"พ้วง หายเร็วๆ"
โฉมงามเสกคาถางึมงัมเป่ามาที่แขนพยัคเขาหัวเราะ
ทั้งสองไม่รู้เลยว่าไสวกับแก้วมองทั้งสองว่าน่ารักกว่าพวกเขาซะอีก
////////////////////////////////////////////////////
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ