SOTUS พี่ว้ากครับ...ผมรักพี่
10.0
เขียนโดย faiisis
วันที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 เวลา 21.39 น.
11 ตอน
4 วิจารณ์
17.92K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 22.23 น. โดย เจ้าของนิยาย
9) บทที่แปดของน้องปีหนึ่ง.
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ8
____________________________________________
“เดี๋ยวสิ...” แรงกระตุกเบาๆจากคนตัวเล็ก แต่กลับทำให้ผมเซและล้มลงไปบนเตียงอีกครั้ง หน้าที่เฉียดกันไปเพียงนิดเดียว ระยะห่างเพียงเท่าฝ่ามือ ผมรีบลุกขึ้นออกจากเตียงทันที
คิดว่าคนตัวเล็กจะตื่นแล้วแต่หันไปมองกลับไม่ใช่
ละเมอเหรอ...
“ที่ไนท์อย่าทิ้งให้ไนน์นอนคนเดียวสิ” เสียงที่อู้อี้ที่ออกมาจากปากสวยๆของคนที่นอนอยู่ บอกให้รู้ว่าละเมออีกแล้ว ผมแกะมือของคนตัวเล็กแต่ก็ไม่ยอมปล่อย จึงจำใจนั่งรออยู่บนเตียง ข้างๆกับคนตัวเล็กอยู่เป็นเพื่อนจนพี่ไนท์กลับมา
“อ้าวซิกยังอยู่เหรอ” พี่ไนท์ถามขึ้นทันทีที่เปิดประตูเข้ามาแล้วยังเห็นผมนั่งอยู่
“ผมอยู่เป็นเพื่อนไนน์น่ะครับ อยู่คนเดียวมันอันตราย” ผมพูดกึ่งโกหกออกไป จะให้บอกว่าไนน์ละเมอเรียกให้อยู่ต่อก็คงจะแปลก
“งั้นผมขอตัวกลับก่อนนะครับ”
“ขอบใจมากนะ อ้าว แล้วนั่นเสื้อซิกหรือเปล่า?” พี่ซิกถามพลางชี้ไปที่เสื้อที่คลุมตัวไนน์อยู่
“อ่อครับ แต่ไม่เป็นไรครับวันหลังค่อยคืนก็ได้”
“โอเค งั้นขอบใจมากๆนะ” พี่ไนท์พูดจบผมก็ยิ้มให้เล็กน้อยก่อนจะเดินออกมา แล้วกลับไปนอนสู่เตียงกว้างๆของตัวเอง
23:50
ผมพลิกตัวมาอีกฝั่งเป็นรอบที่หลายร้อย ตั้งแต่กลับมาอาบน้ำเสร็จจากที่มีความรู้สึกว่ามันง่วงมากถึงมากที่สุด แต่พอนอนแล้วมันกลับนอนไม่หลับ ไม่เข้าใจเหมือนกันว่ามันเป็นอะไร แต่มันไม่ใช่เรื่องที่ดีแน่ๆ เพราะถึงพรุ่งนี้ผมจะหยุด แต่ก็มีเรื่องที่จะต้องทำ
Rrrrrrrrrr
ผมกวาดมือหนาไปทั่วใต้หมอนที่ผมนอนทับอยู่ นี่ก็ดึกมากพอแล้วยังจะมีใครโทรมาอีก
“ฮัลโหล”
(ฮัลโหลเออไอ้ซิก น้องไนน์เป็นไงบ้างวะ) เสียงรนๆจากปลายสายที่ถามหาอาการจากคนตัวเล็กที่อยู่บ้านข้างๆกับผม
“ตอนกูอยู่ยังไม่ตื่น น่าจะหลับต่อจนพรุ่งนี้เลยมั้ง”
(น้องเขาไม่เป็นไรแน่นะเว้ย เออแล้วนี่มึงรู้ได้ไงว่าบ้านน้องเขาอยู่ไหน?)
“ขี้เกียจเล่าอะ กูง่วง”
(ถ้าไม่เล่า กูจะเล่นให้มึงไม่ได้นอนยันเช้าเลย)
“มึงก็ถามไอ้ฟิวส์ดูดิ ว่าแม่งเคยทำหัวใครแตกรึเปล่า” นึกถึงเรื่องวันนั้นก็ขำขึ้นมา คนที่ทำน้องมันหัวแตกก็ไม่ใช่ผม แต่ก็ต้องไปรับผิดชอบเขาอีก ฮ่าๆ
(เห้ยนี่มึงรู้จักน้องเขามาก่อนเหรอวะ หรือว่ามึงเคยไปบ้านน้องเขามาก่อนแล้ว เล่ามาๆ) ไอ้จินถามกลับมาอย่างตื่นเต้นบวกกับความสอดรู้สอดเห็นประจำตัว ยิ่งทำให้มันอยากรู้มากขึ้นอีกเป็นเท่าตัวแน่นอน
ด้วยความดีที่มีอยู่ในตัวเพียงน้อยนิดของผม จึงเล่าเหตุการณ์วันนั้นทั้งหมดให้มันฟัง
(ถือเป็นความโชคร้ายของน้องเขาที่หนีมึงคนเหี้ยๆอย่างมึงไม่พ้น เจอที่เชียร์ไม่พอยังเจอยันห้องนอน เหี้ยจริงๆ) สาบานได้ว่านี่คือเพื่อนรักที่คบกันมาตั้งแต่มอต้น ถ้าไม่เห็นว่าเป็นเพื่อนกันมันคงไม่น่าด่าผมว่าเหี้ยหรอกเนอะ
“สรุปว่ากูนอนได้ยัง”
(จะนอนหรือจะสาวแหนก็แล้วแต่มึงเลยครับ บาย) พูดทิ้งท้ายไว้อย่างน่ารักก่อนที่มันจะวางสายไป ปล่อยให้ผมสบถอยู่กับตัวเอง
ผมสอดโทรศัพท์ไว้ใต้หมอนอย่างเก่า พยายามข่มตานอนอีกครั้ง แต่มันก็ไม่ได้ช่วยให้ผมนอนหลับเร็วขึ้นเลย ผมตัดสินใจลุกขึ้นไปหยิบบุหรี่ไปจุดสูบที่ระเบียง
ผมพิงระเบียงมองท้องฟ้าสีดำที่มืดมิดตอนนี้ มีเพียงแสงดาว และแสงจันทร์ที่ส่องให้สว่างอยู่ตอนนี้ พ่นควันสีขาวขุ่นออกจากปากช้าๆ ปกติผมไม่ใช่คนชอบสูบบุหรี่อะไรพร่ำเพรื่ออะไรขนาดนั้น มีแค่เวลาเครียด นอนไม่หลับ หรืออยากมากจริงๆเท่านั้น
คือนี้มันคงมีอะไรหลายๆอย่างพิเศษ
...งั้นเหรอ?
แต่มันคงจะไม่มีอะไรพิเศษมากมาย แค่…
มองไปบนฟ้าแล้ว...มีหน้าใครบางคนลอยขึ้นมา
...แค่นั้นเอง...
“ไนน์ๆ ตื่นได้แล้ว”
“หือ ไม่อาว จะนอน...” ผมงัวเงียอีกครั้ง มือปัดป่ายไปทั่ว ปัดไปก็ไม่โดนอะไร หลับตาปัดอะจะเอาอะไรมากห๊ะ
“ไม่เอาๆ นี่จะเที่ยงแล้วนะไนน์ ตื่นไปกินข้าวก่อนเร็ว ทำไมขี้เซาแบบนี้” เสียงเข้มยังคงออกคำสั่งปนๆดุอยู่ ผมยกสองมือขึ้นมาปิดหูทันที
“วันนี้ไม่ย้ายของไปหอเหรอ หืม?” เอ๊ะ! เมื่อกี๊พูดว่าอะไรนะ
“ถ้าไม่ตื่นก็ไม่ต้องไปมันแล้วนะหงหออะไรนั่นอะ”
“ตื่นแล้วๆๆๆๆๆๆก็ด๊ายยยยยยยยยย” ผมเด้งตัวขึ้นมานั่งขัดสมาธิกระชากผ้าห่มออกจากตัวปาไปลงไปบนพื้นอย่างนิ่มนวลทันที
เงยหน้ามองพี่ไนท์ที่ยืนมองอยู่อย่างขำๆ การลบกวนคนนอนนี่มันเป็นบาปอันสูงสุดในระบอบประชาธิปไตยนะเว้ยพี่ไนท์ จะนอนๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ฮึกฮือ TOT
“พี่ไนท์แกล้งไนน์อะ” ว่าพลางยกหมอนที่วางอยู่ข้างตัวเขวี้ยงใส่คนตัวสูงที่ยืนขำอยู่ทันที
“ก็ไม่ได้แกล้ง ก็ให้ไปกินข้าว แล้วก็เตรียมย้ายของไปอยู่หอได้แล้ว”
“ก็ได้ๆ อ้าวแล้วนี่เสื้อใครอะ” ผมตอบไปปัดรำคาญ เตรียมตัวจะไปอาบน้ำ ส่วนพี่ไนท์ก็ออกจากห้องไปแล้ว ทันทีที่ลุกขึ้นก็มีเสื้อหล่นจากมาจากตัว เป็นเสื้อแขนยาวหนาหน่อยๆสีขาว ถ้าภายในสามวิไม่มีใครแสดงตัวเป็นเจ้าของนี่โบ้ละนะ โอเคเริ่ม
1 วิ
2 วิ
3 วิ
หมดเวลา เสื้อตัวนี้เป็นของข้า ขอบคุณพระเจ้าที่ได้ส่งเสื้อสวยๆมาให้ข้าสวมใส่ พอดีเลยช่วงนี้ไม่มีเสื้อใส่ วันนี้เทสเสื้อละกัน ใส่วันแรกเลย อิอิ
“พี่ไนท์ๆๆๆๆๆนี่ๆๆๆๆไนน์หล่อไหม นี่เสื้อใหม่ด้วย” ผมกระโดดไปดักหน้าพี่ไนท์ทันทีที่ลงบันไดมา หน้าพี่ไนท์แทบจะเหวอทันที
“เห้ย ทำไมใส่มั่วซั่วแบบนี้” และก็ไม่วายโดนเอ็ดอีกเช่นเคยนะฮาร์ฟ แค่เสื้อเองอะอาหารเช้าเกี่ยวไร หมายถึง ซีเรียลอะ เออไม่ใช่โทษๆครับ ซีเรียสเนอะ
“อ้าว ก็ไม่ได้มั่วซั่ว แค่ใส่เสื้อ ไปละไนน์จะขนของ” เดินจากลาพี่ไนท์ไปอย่างไม่สนใจคำพูดของพี่ไนท์ มายกของบนห้องที่เตรียมไว้หลังจากอาบน้ำเสร็จนั่นแหละ อันที่จริงก็ไม่ได้เอาอะไรไปเยอะนะ ของใช้นิดหน่อย เดี๋ยวเพื่อไว้มาหาพี่ไนท์อีกบ่อยๆเลย
“พี่ไนท์ๆๆ รถอยู่ไหนอะ ไหนบอกจะย้ายของไปหอ” ผมเรียกพี่ไนท์เสียงดังลั่นบ้าน อันที่จริงเกือบลั่นซอย แต่ไม่อยากเว่อร์ขนาดนั้น ผมขนของมาวางไว้หน้าบ้านแล้วแต่ประเด็นคือรถพี่ไนท์หายไปไหนอะแล้วจะขนของยังงายยยยยยยยยย
“ยกของไปไว้บนรถที่จอดอยู่หน้าบ้านเลย” เสียงพี่ไนท์ที่ตะโกนมาจากในครัวใช้ในยกของไปก่อน แล้ว
รถคันนี้หรอกเหรอ?
“รถบีเอ็มเหรออออออออ” ผมถามกลับไปเสียงดัง ให้ทายว่าพี่ไนท์ก็คงไม่ได้ยินแหละ คิดเองเออเองแล้วกัน
ผมเปิดท้ายรถบีเอ็มป้ายแดงที่จอดอยู่หน้าบ้านเพื่อยกของใส่ ว่าแต่พี่ไนท์ไปเอารถใครมา แล้วรถเขาไปไหน?
“เก็บเสร็จรึยัง?” เสียงทุ้มหูดังขึ้นจากด้านหลัง ขณะที่ผมกำลังจัดของให้เข้าที่เข้าทาง
“อ้าวพี่ไนท์มะ...” ผมผงะถอยหลังจนชนรถแทบจะทันที เมื่อหันมาคิดว่าจะเป็นพี่ไนท์ แต่ที่ไหนได้...
“พะ พี่ซิก”
“หลีกทางบ้างสิ ผมจะยกของบ้าง มันหนักนะ” ร่างสูงชูสองมือที่ยกกระเป๋าขึ้นมาให้ดู ผมจึงรีบหลีกทางให้อย่างเลี่ยงไม่ได้ทั้งๆที่ยังมึนงงอยู่
เห้ยๆ เดี๋ยวดิ ยกใส่รถคันเดียวกันทำไมห๊ะ มันชักจะแปลกๆแล้วนะ
“เห้ยๆพี่ยกของมาใส่รถผมทำไมอะ” ตั้งสติได้ก็เดินไปอยู่ข้างๆพี่ซิกแล้วถามออกไปทันทีอย่างเอาเรื่อง
“หืม รถคุณหรอกเหรอ?” ร่างสูงเลิกคิ้วถามอย่างแปลกใจ
“อ้าวนี่ไม่รู้หรอกเหรอบีเอ็มคันนี้พี่ไนท์ซื้อให้เลยนะ ราคาหลายล้านเลยทีเดียวเชียว” พึ่งซื้อให้หยกๆ เมื่อคืนเลยในฝัน อิอิกำ เอ้ย กรรม โทษๆ
“อ้าวไนน์ ขนของขึ้นเสร็จแล้วเหรอ” ผมหันไปมองเสียงพี่ไนท์ที่ดังขึ้นจากด้านหลัง ส่วนพี่ซิกก็ปิดกระโปรงท้ายรถ หันมาทางเดียวกัน
“เรียบร้อย”
“ให้พี่ไปส่งด้วยไหม” พี่ไนท์ถามพลางยื่นมือมาวางไว้บนหัวลูบอย่างอ่อนโยน พี่ไนท์ครับ พี่อย่าพึ่งทำแบบนี้ต่อหน้าพี่ซิกได้ไหม TOT กำลังทำเป็นเข้มเลย งี้พี่ซิกก็มองผมเป็นลูกแมวหง่าวเด็กอ่อนด๋อยไปเลยทีเดียวเชียว
“อ้าวแล้วพี่ไนท์ไม่ได้ไปส่งไนน์ แล้วใครจะไปส่งล่ะ” ผมถามไปพลางเบ้ปาก
“นู้น เจ้าของรถไง” ใครวะ เจ้าของรถ?
!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555
555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555
เหยดโด้โอริโอ้5บาทไม่มีใส้มีแต่ผงโกโก้โอโจ้ด้วย..
ผมเดินเข้าไปกอดพี่ไนท์ทั้งน้ำตา โอ้ยแม่งเอ้ยมาไหลอะไรตอนนี้ แต่พี่ไนท์คงคิดว่าคิดถึงพี่มากไม่อยากห่างเลย เปล่าครับ กูหน้าแตก
“พี่ให้ผมไปกับพี่ซิกเหรอ ไม่เอาอะ” ผมผละออกจากพี่ไนท์แล้วบอกไปหน้าบึ้ง
“งั้นอยู่บ้าน ไม่ต้องไปละหอ” สรุปคือผมต้องไปกับพี่ซิกนั่นเองละจ้า สวัสดีครับเจ้าของรถ ขอกราบงามๆสองที TOT
“ไปได้แล้วๆ เดี๋ยวกว่าจะจัดของเสร็จอีก” พี่ไนท์ไล่ให้ผมไปขึ้นรถ ผมกอดลาอีกหนึ่งที เก็บเศษหน้าที่แตกละเอียดยิบเก็บไม่หวาดไม่ไหว ก่อนจะเปิดประตูรถขึ้นไปนั่งอย่างสงบ ส่วนพี่ซิกยกมือไหว้พี่ไนท์ทีนึงก่อนจะเปิดประตูรถขึ้นตามมานั่งฝั่งคนขับ
ผมยกกระเป๋าสะพายของตัวเองขึ้นบังหน้าแทบจะทันที ถึงจะมีความคงทนของหน้ามากพอสมควรแต่แบบนี้ไม่ไหว ขอเซย์กู๊ดบายนะฮาร์ฟ ฮือออออ
“เสื้อคุณสวยดีนะ” หลังจากที่ต่างคนต่างเงียบมาได้สักพัก ร่างสูงข้างตัวก็เอ่ยทักขึ้นมาก่อน
“ธรรมดาอะ มันอยู่ที่คนใส่” ปากไปไวกว่าสมองอีกครั้ง อยากถามตัวเองดังๆว่านี่ไม่คิดจะถ่อมตัวเลยใช่ไหม
ส่วนพี่ซิกพอได้ยินผมตอบไปอย่างนั้นก็หัวเราะออกมาเบาๆ นี่ขำอะไรอะ เห้ยพูดไรผิดอะ ไม่นะ ขำไรวะ ตอบ!!!!!!!!!!!
แต่ไม่เป็นไรจะไม่ตอบโต้ละ ยังไงพอไปถึงหอก็ต้องต่างคนต่างไปอยู่ดี สงสัยรถพี่ไนท์เสียมั้งเลยไปซ่อม ว่าแต่รูมเมทนี่ใคร เออลืมถามพี่ไนท์เลย
ผมนั่งเงียบมาตลอดทาง หันมามองพี่ซิกก็ใช้สมาธิในการขับรถไปอย่างเงียบๆ ถ้าไม่ติดว่าโหดไปหน่อยนี่หล่อเลยนะเนี่ย ฮิ้วววว
พี่ซิกขับรถเข้ามาจอดที่จอดรถของหอ ผมลงไปหยิบของและกระเป๋าจากท้ายรถอย่างเร็วไว แล้วเดินเข้ามาในตัวของหอ ล้วงหยิบการ์ดและกุญแจจากกระเป๋าออกมาดูเลขที่ห้องและชั้นโดยไม่รออีกคน เอาล่ะแยกๆกันมันตั้งแต่ตรงนั้นอะดีแล้ว แต่ดีนะเอาของมาไม่เยอะแค่นี้ยังพอขนได้ ไม่งั้นตายตั้งแต่หน้าประตูครับ
ผมกดลิฟขึ้นมาชั้นของตัวเอง เดินไปเรื่อยๆเพื่อหาห้อง 609 ห้องผมนั่นเอง แต่ทำไมไม่รู้รู้สึกว่ามีคนเดินตาม หันจึงหันไปมองด้านหลังตัวเองทันที
พี่ซิก!!!!!!!!!!!!!!!!!
เห้ยนี่อย่าบอกนะว่าอยู่ชั้นเดียวกันอีกอะ ไม่เอานะเว้ย ม๊ายยยยยยยยยยยยยยยยยย
‘609’
ผมยืนละทิ้งความสนใจจากคนที่เดินตามหลังมา หันมาสนใจกับเลขห้องตรงหน้าที่อยู่ด้านบนประตูสีขาวบานใหญ่ ก้มลงมองบนเลขที่สลักอยู่บนการ์ดซ้ำอีกครั้งเพื่อความมั่นใจ
ผมเปิดประตูเข้าไปกวาดสายตาสำรวจภายในห้องกว้าง ผิดประตูห้องก่อนจะเดินเข้ามาวางของกองๆกันไว้ ที่นี่มีของอำนวยความสะดวกมากมาย ผมเดินเข้ามาภายในห้องนอนมีเตียงสองเตียงขนาบอยู่ข้างกัน ต้องรอรูมเมทอีกคนซึ่งก็ยังไม่รู้ว่าเป็นใคร น่าจะเป็นผู้ชาย คือถ้าเป็นผู้หญิงคือแปลกแล้วแหละ แต่ก็ดีนะคึคึ
ผมทิ้งตัวลงนอนบนเตียงกว้าง หลับตาลงเพื่อรับความนุ่มสบายของเตียงผ่อนคลายอารมณ์ตึงเครียดจากการเดินทาง รู้สึกว่าอธิบายเยอะเกินไปแล้วไงเลยเหนื่อย ปกติไม่ใช่คนอธิบายอะไรเยอะขนาดนี้นะเนี่ย
แกร๊ก..
ช่วงที่ผมกำลังจะผล็อยหลับไปก็ต้องสดุ้งตื่นขึ้นมาเสียก่อนเพราะมีเสียงคนประตูเปิดเข้ามา จำได้ล่าสุดว่าผมล็อคประตูตอนเข้าห้องมาเรียบร้อยแล้ว ฉะนั้นคนที่เข้ามาในห้องได้ต้องเป็นคนที่มีกุญแจเหมือนกันกับผม
ความจริงมีเพียงหนึ่งเดียวเท่าน๊านนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน
เขาก็คือ‘รูมเมท’ ของผมแน่นอน
(เปิดซาวน์ประกอบโคนัน ตื้อดึดตื้อดื่อ ตื้อดึดตื้อดื่อตึดดื่อ)
TBC...
เย้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆจบไปแล้วอีกหนึ่งแชป
แต่มันก็ยังไม่บอกซักทีว่าใครคือรูมเมท
55555555555555555555555555555555
เจอกันเมื่อเม้นเพิ่ม ซียูเยสเทอร์เดย์ กำบายโทดๆ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ