คุณน่ะเมียผมครับ
-
เขียนโดย Magicz
วันที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 เวลา 01.11 น.
7 ตอน
3 วิจารณ์
15.67K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 17.57 น. โดย เจ้าของนิยาย
6) มันขู่
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ“ทำไมวันนี้เข้าเรียนสายวะ”
ไอ้คิมถามผมหลังจากหมดคาบเรียนช่วงเช้า
ตอนนี้พวกผมกำลังเดินลงมาจากอาคารเรียน มีเรียนอีกทีบ่ายสอง
“ตื่นสายหว่ะ” ผมตอบมันด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ ตามปกติ
“ อย่ามาโกหก ไอ้เหี้ยตินณ์ ตื่นสายหรือไปกกสาวที่ไหนกันแน่
อย่างมึงไม่เคยมาเรียนสาย” ไอ้อาร์มสอดขึ้นมาทันที
แต่ผมไม่ตอบหันไปหยักคิ้วให้มันหนึ่งทีครับ
“หึหึ” หัวเราะอีกสองหึ กวนตีนมันไปครับ
“ เดี๋ยวไปกินข้าวที่ไหนดีวะ” ไอ้นัทถามขึ้นมาบ้าง
“ ร้านเดิมแล้วกันเร็วดีขี้เกียจขับรถ” ไอ้โฟมตอบคู่หูมัน หลังจากหุบปากมานาน
“ เดี๋ยวกูไปทำธุระก่อน คงไม่กินข้าวด้วย เจอกันในห้อง”
ผมบอกพวกมันตอนที่เดินลงมาถึงหน้าตึกแล้ว
“อ่าว” ไอ้นัทกับไอ้อาร์มอุทานออกมาพร้อมกัน
ไอ้คิมหันมามองนิ่งๆ ส่วนไอ้โฟมมันเดินไปยืนมองผมใกล้ๆกับไอ้นัทแต่ไม่พูดอะไรเช่นกัน
“ มึงนี่มีพิรุธนะ” ไอ้คิมว่าด้วยน้ำเสียงนิ่งตามสไตล์มัน
แต่มันไม่ค่อยถามครับ รอผมบอกเอง
“หึหึ” ผมหัวเราะ กลบเกลื่อน แล้วเดินออกมาเลยครับ
ขับรถออกมาได้แค่นิดเดียวรถก็ติด ปกติ 15 นาทีจากม.ต้องถึงคอนโดผม
แต่นี่จะครึ่งชม.แล้วครับเพิ่งถึง แวะซื้อข้าวจากร้านข้าวใต้หอ
ได้แล้วเดินขึ้นมาหามันที่ห้อง บอกว่าจะโทรหามันแต่ลืมครับ
มาหามันเลยดีกว่าอยากมาดูมันด้วยว่าเป็นอย่างไรบ้าง
เปิดประตูเข้ามาห้องเงียบมาก เหมือนไม่มีคนอยู่
ดูในห้องนอนเห็นมันนอนอยู่ที่เดิมเลยครับ
แต่มันคงอาบน้ำกินข้าวแล้วเพราะก่อนเข้ามาผมมองไปที่ห้องครัวไม่เห็นโจ๊คที่ซื้อมาให้มันเมื่อเช้า
ผมเดินเข้าไปใกล้มันแล้วนั่งลงบนเตียง
ก้มหน้าลงไปหอมแก้มหนึ่งฟอดเน้นๆ
แก้มมันหอมดีได้กลิ่นเหมือนแป้งเด็กเลยครับ ใกล้มันทีไรหมั่นเคี้ยวอยากหอม
“อื้ม” มันร้องคราง เหมือนรำคาญที่ผมไปกวนการนอนหลับของมัน
“ ตื่นก่อนเร็วมากินข้าวกลางวัน จะได้กินยา เดี๋ยวกูต้องไปเรียนตอนบ่ายต่อ”
“ อิ่มแล้ว”
“แค่โจ๊คมันจะอิ่มได้ไงวะ ลุกเลย” ผมพูดเสร็จดึงมันลุกขึ้นเลยครับ
“ อื้อ... ชอบบังคับกูนะมึง” มันว่าแค่นั้น
แล้วยอมลุกขึ้นเดินตามแรงดึงของผมเข้ามานั่งในครัว
ผมซื้อข้าวมันไก่มาให้มันกิน ของผมเป็นกระเพราะไก่ แล้วขนมหวานนิดหน่อย
แกะกล่องแล้วเอาใส่จานให้มันที่นั่งเป็นคุณชายรออยู่ที่โต๊ะเลยครับ
ผมลงมือกินได้สองคำก็จ้องหน้ามัน ว่าทำไมมันไม่กินซะที
“ทำไมไม่กินล่ะ”
“ ...” เงียบ
“ ถ้าไม่กินเดี๋ยวกูจับป้อนนะมึง” ผมขู่มันเช่นเคย
“ กูบอกว่ากูไม่กินผักชี” กูลืมบ้างไงครับ
มันเคยบอกผมแล้วแต่ผมลืม เลยเอาช้อนตักผักชีออกจากจานข้าวมันมาใส่จานตัวเอง
มันไม่ยอมตักออกเองด้วยนะครับ
“ทีนี้ก็กินซะ” มันเริ่มลงมือกินเงียบๆ
หลังจากกินเสร็จเรียบร้อยผมก็เก็บจานทั้งสองใบไปล้าง
แล้วเอายากับน้ำเปล่ามาให้ไอ้พรต ตอนแรกมันจะไม่กินต้องขู่มันครับ
มันกินยายากเหมือนกัน ต้องกินน้ำก่อนแล้วอมไว้จากนั้นค่อยกินยาตามไปไม่ให้ยาโดนลิ้น แปลกดีครับ
“บ่ายมึงมีเรียนไหม ถ้ามีก็โทรไปบอกไอ้นาวลาให้ซะ”
ผมบอกมันไปเพื่อให้มันได้พักผ่อน ดูสภาพแล้วคงยังไปเรียนไม่ไหวครับ
“ ไม่มี” มันบอกผมด้วยเสียงเบาและแหบๆเหมือนคนจะไม่สบาย
“งั้นมึงนอนต่อนะ จะนอนในห้องหรือข้างนอก
“ ข้างนอก”
มันบอกผมพร้อมกับขยับลุกจะเดินออกไปจากห้องครัวแต่ก็เซล้มลงมาบนเก้าอี้อีกครั้ง
พอมันทิ้งน้ำหนักลงมาบนเก้าอี้มันก็สะดุ้งครับ
“เหี้ย!” มันอุทานออกมา คงเจ็บน่าดูครับหน้ามันนี่บ่งบอกว่าเจ็บมาก
ผมเลยเดินเข้าไปพยุงมันออกมานั่งที่โซฟา
“เจ็บมากเลยเหรอ” ผมลองถามมันดูครับ
ผมก็ไม่เคยไม่รู้เจ็บแค่ไหน
“ สัส! เพราะใครหล่ะ มาลองให้กูเอาดูมั่งไหม”
มันหันมามองตาเขียวเลยครับแล้วก็ด่าผมออกมา ยังมีการจะให้ผมลองอีกนะ
แต่ไม่เอาครับ อย่างนี้ดีแล้วเดี๋ยวสับสนใครผัว ใครเมีย
ผมได้แต่ยิ้มๆตอบมันไป อย่าเถียงครับ คนเถียงเมียเดี๋ยวไม่เจริญ หึหึ
“เดี๋ยวกูไปเอาผ้านวม หมอนกับผ้าห่มมาให้มึงปูนอนหน้าทีวีนะ”
พูดเสร็จผมก็เข้ามาหยิบจากในห้องผ้านวมผืนใหญ่อยู่ในตู้ครับเอาไว้ใช้หน้าหนาว
ผมหยิบมาปูให้มันนอนหน้าทีวี
มันก็ลงมานอนแล้วก็หยับรีโมททีวีกดเปิด ไล่ดูไปทีละช่อง
“กูกลับไปเรียนก่อนนะ เดี๋ยวโทรมาหา”
“ไม่ต้องโทร”
“ ...” ผมได้ยินไม่ชัดเลยเงียบรอฟังมันพูดใหม่
“กูบอกว่าไม่ต้องโทร ขี้เกียจรับ” ที่นี้ชัดเจนครับ
“ แต่กูเป็นห่วงมึง เดี๋ยวโทรหา รับด้วยนะครับ” พูดดีกับมันหน่อย
“...” มันไม่ตอบ ผมเลยก้มไปหอมมันก่อนเดินออกมาคว้ากุญแจรถ แล้วไปเรียนต่อช่วงบ่ายครับ
มาถึงม.เจอพวกมันนั่งรอเข้าเรียนอยู่ที่โต๊ะประจำครับ ผมเลยเดินเข้าไปนั่งด้วย
“มาไว เว้ย” ไอ้อาร์มเริ่มก่อนเลย
“ มึงไม่มาช้ากว่านี้หน่อยวะ กูพนันกับไอ้นัทว่ามึงจะมาสาย
แต่มันบอกว่ามึงจะมาไว กูเลยเสียตังค์เลยเนี๊ยะ” ไอ้โฟมพูดขึ้นมาบ้าง
“ ไอ้พวกเหี้ยนี่เอากูไปพนันนะมึง”
มันชอบพนันอะไรกันเล่นๆ เสมอ แต่เวลาจ่ายนี่ไม่เล่นนะครับ
จ่ายจริงหมดตัวจริงกันมาแล้ว
กำลังคุยกันเพลินๆ ผมมองเห็นวิวเดินเข้ามาถึงโต๊ะแล้วครับ
“ ตินณ์ค่ะ ช่วงนี้ไม่โทรมาหาวิวเลยนะ” วิวโวยวายผมทันที
“ ช่วงนี้ผมไม่ค่อยว่างครับวิว” ผมตอบวิวด้วยน้ำเสียงปกติ
แต่ไอ้คิมมันมองหน้าผมแล้วยักคิ้วกวนตีนส่งมาให้
“แต่วิวคิดถึงตินณ์นะคะ โทรไปก็ไม่ค่อยรับ” วิวตัดพ้อผม
“เอ่อ...วิวครับ ผมขอคุยด้วยสักครู่ รีบไปไหนหรือป่าวครับ”
ผมถามวิวก่อนเผื่อวิวมีธุระที่ไหน
“ ไม่มีค่ะ สำหรับตินณ์วิวว่างเสมอ”
ผมลุกขึ้นจากโต๊ะ แล้วเดินนำวิวออกมาจากกลุ่ม
ห่างพอประมาณที่พวกมันจะไม่ได้ยินที่ผมคุยกัน
มองไปมีแต่สายตาอยากรู้จากพวกมันครับแต่วิวหันหลังให้เลยไม่รู้ครับ
“ มีอะไรเหรอคะ ตินณ์ดูลึกลับจัง ต้องแยกออกมาคุยกันแค่สองคนด้วย”
วิวถามผมด้วยสีหน้ายิ้มๆ
“ เอ่อ... คือผมจะบอกวิวว่า ผมอยากให้เรื่องของผมกับวิวยุติลงแค่นี้”
“ตินณ์ หมายความว่าอย่างไรคะ” น้ำเสียงของวิวเริ่มสั่น
จริงๆแล้วผมไม่จำเป็นต้องมาบอกวิวอย่างนี้ก็ได้
เพราะเราตกลงกันแล้วว่าเราไม่ได้คบกัน
แค่ควงกันเฉยๆใครเบื่อก็ไปไม่ผูกพันใดๆต่อกัน
แต่ที่ผมต้องบอกวิว เพราะผมคิดว่าผมตัดสินใจแล้วว่าจะจีบไอ้พรตผมก็ควรชัดเจน
ตัดปัญหาทุกอย่างที่จะเกิดขึ้นให้หมด
“ ผมอยากให้เราเป็นแค่เพื่อนกันเหมือนเดิม” ผมบอกอีกครั้ง
คราวนี้น้ำตาของวิวไหลแล้วครับ ตัววิวเริ่มสั่นมากกว่าเดิม
“ ทำไมค่ะตินณ์ วิวไม่ดีตรงไหน”
“มันไม่ใช่ว่าดี หรือไม่ดี แต่เราตกลงกันไว้ตั้งแต่แรกแล้วว่าเราจะไม่ผูกมัดกัน”
“ตินณ์มีคนใหม่ใช่ไหมคะ ถึงทิ้งวิวอย่างนี้”
ผมสงสารวิวนะครับเพราะปกติผมไม่บอกเลิกใครก่อน
ส่วนมากจะทำตัวเงียบๆไม่ติดต่อกันแล้วก็ห่างกันไปเลย
คือผู้หญิงเบื่อทนไม่ได้ก็ไปเองประมาณนี้ครับ แต่กลับวิว
คือรอเวลาไม่ได้เดี๋ยวไอ้พรตเข้าใจผิดครับต้องรีบเคลียร์ตัวเอง
“ ไม่เกี่ยวว่าผมจะมีคนใหม่หรือไม่ แต่ถ้ามันไม่ใช่ยังไงมันก็ไม่ใช่
ผมว่าเราคุยกันรู้เรื่องตั้งแต่แรกแล้ว” ผมไม่อยากว่าผู้หญิง
แต่วิวก็ไม่ได้คบผมคนเดียว ไม่ใช่ไม่รู้แค่ไม่พูด
“ วิวไม่เลิก ยังไงวิวก็ไม่ยอมให้เรื่องจบแบบนี้แน่”
“ไม่ว่าอย่างไร เรื่องของเราก็เป็นไปไม่ได้
ตินณ์ว่าอย่ายื้อเวลาเลยดีกว่า” ผมตอบกลับไป
เพี๊ยะ!!! เสียงมือกระทบแก้มผมเต็มๆครับ
“ แล้วตินณ์จะต้องเสียใจที่ทำอย่างนี้” วิวว่าแล้วก็ก้าวจากไปทางคณะของวิว
ผมเดินกลับมาที่โต๊ะแล้วหยิบสมุดเตรียมตัวเข้าเรียน
“ คุยอะไรกันวะท่าทางเคร่งเครียด”
ไอ้อาร์มถามผมก่อนเพื่อนเช่นเคย
ถึงมันจะพูดมาก เฮฮา บ้าบอตามเรื่อง
แต่มันก็รักเพื่อน ถ้าใครในกลุ่มมีเรื่องมันจะลุยก่อนเลย
“ กูบอกเลิกสาวครั้งแรกหว่ะ”
ผมบอกมันด้วยหน้าตาเคร่งเครียดไม่คลาย
“ห๊ะ!!! มึงน่ะนะ บอกเลิก”
“เออ ทำไมกูจะบอกไม่ได้”
“ มึงแปลกๆหว่ะไอ้เหี้ยตินณ์ช่วงนี้
ทำอะไรที่กูคิดไม่ถึง” ไอ้อาร์มมันว่า ด้วยท่าทางงงๆ
“แล้วเป็นไงจบกันด้วยดีไหม” ไอ้คินถามขึ้นมาบ้าง
“ ดี มือหนักดี” ว่าแค่นั้นรู้กันครับ
“ มึงเป็นเหี้ยอะไร อยู่ๆถึงไปบอกเลิกเค้า
ปกติไม่เคยเดือดร้อนใครจะไปจะมา”
“...” ผมไม่ตอบ จะให้ตอบได้ไงครับว่ากูกำลังจะเป็นเกย์
พวกมันคงช็อคน่าดู ปล่อยให้มันสังเกตแล้วรู้กันเองดีกว่าครับ
“เออ เรื่องของมึงแล้วกัน กูไม่อยากยุ่งด้วย
แต่ถ้าต้องการให้พวกกูช่วยอะไรก็บอกนะเว้ย”
ไอ้โฟมบอกผมพร้อมกับเดินเข้ามาตบบ่าผมเบาๆ มองไปทุกคนจ้องผม
และส่งสายตาเป็นห่วงมาให้ ผมยิ้มให้พวกมันอย่างจริงใจ
แม้ว่าจะไม่พูดแต่เข้าใจกันครับ แล้วพวกเราก็เดินขึ้นไปเรียนด้วยกัน…
“เป็นไงบ้างวะ ดีขึ้นยัง” ผมถามไอ้พรต
หลังจากที่เรียนเสร็จก็รีบบึ่งรถกลับมาหามันทันที
สงสัยจะติดมันมาก อยากเห็นหน้ามันตลอดเวลา
“อื้ม” มันตอบแค่นั้น
ผมเปิดประตูเข้ามายังเห็นมันนอนดูทีวีอยู่เหมือนเดิมครับ
“ เย็นนี้ออกไปกินข้าวข้างนอกนะ”
เมื่อผมเห็นมันอาการดีขึ้นเยอะแล้ว หลังจากได้กินยาและพักผ่อนทั้งวัน
ผมกะจะไปซื้อของสดเข้าห้องด้วย
นอนดูทีวีกับมันจนหกโมงเย็นแล้วค่อยแต่งตัวออกไปกินข้าวข้างนอก
“กูไม่อยากอยู่ที่นี่กูจะกลับห้อง”
พอขึ้นรถได้เท่านั้นมันเริ่มหาเรื่องอีกแล้วครับ
“มึงต้องอยู่กับกู อย่าให้กูต้องทำอะไรที่กูไม่อยากทำ”
ผมหยิบเอาโทรศัพท์ของตัวเองขึ้นมาเปิดรูปให้มันดู
“ไอ้เหี้ย!!! มึงมันโรคจิต” มันว่า
พร้อมกับกดลบรูปในโทรศัพท์ ผมก็ไม่ห้าม
มันเป็นรูปที่ผมถ่ายมันไว้หลังจากที่มีอะไรกันเมื่อเช้า
พอดีลุกมาเข้าห้องน้ำแล้วเห็นมันนอนหลับน่ารักดีเลยถ่ายไว้
มีทั้งรูปเดี่ยวมัน และรูปคู่ผม
ใครดูก็รู้ว่าเพิ่งผ่านอะไรมา รอยตามตัวเยอะมาก
ตอนแรกว่าจะเก็บไว้ดูเล่น แต่ตอนนี้ขอเอามาขู่มันหน่อยครับ
“ถึงมึงลบไป กูก็มีสำรองไว้ที่อื่นอีก”
“สัส” มันด่ากลับมา รู้สึกว่ามันจะด่าผมบ่อยไปแล้วนะ
มันเลิกสนใจโทรศัพท์ของผมแล้วโยนมาไว้ที่วางของข้างเกียร์รถ
ผมขับรถมาจอดที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง แล้วเปิดประตูเดินนำมันออกมานอกรถ
“มึงจะแดกไหมข้าวน่ะ”
ผมถามมันแต่มันไม่ตอบเปิดประตูแล้วปิดกระแทกอย่างแรง
ไม่กลัว MBW ของกูพังเลยนะเป็นคนอื่นกูด่าไปแล้ว
เดินเข้ามาผ่านแผนกเสื้อผ้ามีแต่คนมองมันแล้วยกมือไหว้
ตอนแรกผมก็สงสัย แต่มานึกขึ้นได้ ตอนมีคนมาทักแล้วเรียกมันว่านายน้อยเท่านั้นแหละ
จำได้เลยว่านี่เป็นห้างในเครือบริษัทของครอบครัวมัน
ถึงว่าลีลาไม่ยอมลงมากินข้าว คงกลัวใครจะรู้ว่ามากลับผม
แต่ความจริงไม่เห็นต้องกลัวเพราะไม่มีใครรู้ว่าผมเป็นใครและเกี่ยวข้องกับมันอย่างไร
แต่คนมันเหมือนกังวลทำอะไรก็กลัวไปหมด มีพิรุธให้จับได้ครับ
มันคุยกับเค้านิดหน่อยแล้วขอตัวไปกินข้าว
เรามากินที่ร้านอาหารญี่ปุ่นครับกินยาโยอิ
เค้ามีเป็นชุดให้จะได้ไม่ต้องคิดนาน
กินไปก็ไม่ได้คุยกันมากครับ
พอกินเสร็จผมก็เดินไปจ่ายเงินแล้วพามันมาซื้อของเข้าห้อง
รู้สึกเหมือนคนที่แต่งงงานใหม่ครับ จากที่เคยซื้อของชิ้นเดียวก็ต้องซื้อสองชิ้น
คอยถามมันด้วยว่าชอบหรือไม่ชอบอะไร
มันก็ตอบบ้างไม่ตอบบ้างตามอารมณ์มัน
แต่ยังดีที่มันยอมเดินด้วยผมต้องบังคับเล็กน้อยถึงมา
เสร็จแล้วผมก็เอาของมาเก็บที่รถ
แล้วขับออกมาจากห้างมุ่งหน้ากลับคอนโด…..
---------------------------------------
แฟนเพจ ค่ะ
https://www.facebook.com/pages/Magicz-Writer/209262329249156
ไอ้คิมถามผมหลังจากหมดคาบเรียนช่วงเช้า
ตอนนี้พวกผมกำลังเดินลงมาจากอาคารเรียน มีเรียนอีกทีบ่ายสอง
“ตื่นสายหว่ะ” ผมตอบมันด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ ตามปกติ
“ อย่ามาโกหก ไอ้เหี้ยตินณ์ ตื่นสายหรือไปกกสาวที่ไหนกันแน่
อย่างมึงไม่เคยมาเรียนสาย” ไอ้อาร์มสอดขึ้นมาทันที
แต่ผมไม่ตอบหันไปหยักคิ้วให้มันหนึ่งทีครับ
“หึหึ” หัวเราะอีกสองหึ กวนตีนมันไปครับ
“ เดี๋ยวไปกินข้าวที่ไหนดีวะ” ไอ้นัทถามขึ้นมาบ้าง
“ ร้านเดิมแล้วกันเร็วดีขี้เกียจขับรถ” ไอ้โฟมตอบคู่หูมัน หลังจากหุบปากมานาน
“ เดี๋ยวกูไปทำธุระก่อน คงไม่กินข้าวด้วย เจอกันในห้อง”
ผมบอกพวกมันตอนที่เดินลงมาถึงหน้าตึกแล้ว
“อ่าว” ไอ้นัทกับไอ้อาร์มอุทานออกมาพร้อมกัน
ไอ้คิมหันมามองนิ่งๆ ส่วนไอ้โฟมมันเดินไปยืนมองผมใกล้ๆกับไอ้นัทแต่ไม่พูดอะไรเช่นกัน
“ มึงนี่มีพิรุธนะ” ไอ้คิมว่าด้วยน้ำเสียงนิ่งตามสไตล์มัน
แต่มันไม่ค่อยถามครับ รอผมบอกเอง
“หึหึ” ผมหัวเราะ กลบเกลื่อน แล้วเดินออกมาเลยครับ
ขับรถออกมาได้แค่นิดเดียวรถก็ติด ปกติ 15 นาทีจากม.ต้องถึงคอนโดผม
แต่นี่จะครึ่งชม.แล้วครับเพิ่งถึง แวะซื้อข้าวจากร้านข้าวใต้หอ
ได้แล้วเดินขึ้นมาหามันที่ห้อง บอกว่าจะโทรหามันแต่ลืมครับ
มาหามันเลยดีกว่าอยากมาดูมันด้วยว่าเป็นอย่างไรบ้าง
เปิดประตูเข้ามาห้องเงียบมาก เหมือนไม่มีคนอยู่
ดูในห้องนอนเห็นมันนอนอยู่ที่เดิมเลยครับ
แต่มันคงอาบน้ำกินข้าวแล้วเพราะก่อนเข้ามาผมมองไปที่ห้องครัวไม่เห็นโจ๊คที่ซื้อมาให้มันเมื่อเช้า
ผมเดินเข้าไปใกล้มันแล้วนั่งลงบนเตียง
ก้มหน้าลงไปหอมแก้มหนึ่งฟอดเน้นๆ
แก้มมันหอมดีได้กลิ่นเหมือนแป้งเด็กเลยครับ ใกล้มันทีไรหมั่นเคี้ยวอยากหอม
“อื้ม” มันร้องคราง เหมือนรำคาญที่ผมไปกวนการนอนหลับของมัน
“ ตื่นก่อนเร็วมากินข้าวกลางวัน จะได้กินยา เดี๋ยวกูต้องไปเรียนตอนบ่ายต่อ”
“ อิ่มแล้ว”
“แค่โจ๊คมันจะอิ่มได้ไงวะ ลุกเลย” ผมพูดเสร็จดึงมันลุกขึ้นเลยครับ
“ อื้อ... ชอบบังคับกูนะมึง” มันว่าแค่นั้น
แล้วยอมลุกขึ้นเดินตามแรงดึงของผมเข้ามานั่งในครัว
ผมซื้อข้าวมันไก่มาให้มันกิน ของผมเป็นกระเพราะไก่ แล้วขนมหวานนิดหน่อย
แกะกล่องแล้วเอาใส่จานให้มันที่นั่งเป็นคุณชายรออยู่ที่โต๊ะเลยครับ
ผมลงมือกินได้สองคำก็จ้องหน้ามัน ว่าทำไมมันไม่กินซะที
“ทำไมไม่กินล่ะ”
“ ...” เงียบ
“ ถ้าไม่กินเดี๋ยวกูจับป้อนนะมึง” ผมขู่มันเช่นเคย
“ กูบอกว่ากูไม่กินผักชี” กูลืมบ้างไงครับ
มันเคยบอกผมแล้วแต่ผมลืม เลยเอาช้อนตักผักชีออกจากจานข้าวมันมาใส่จานตัวเอง
มันไม่ยอมตักออกเองด้วยนะครับ
“ทีนี้ก็กินซะ” มันเริ่มลงมือกินเงียบๆ
หลังจากกินเสร็จเรียบร้อยผมก็เก็บจานทั้งสองใบไปล้าง
แล้วเอายากับน้ำเปล่ามาให้ไอ้พรต ตอนแรกมันจะไม่กินต้องขู่มันครับ
มันกินยายากเหมือนกัน ต้องกินน้ำก่อนแล้วอมไว้จากนั้นค่อยกินยาตามไปไม่ให้ยาโดนลิ้น แปลกดีครับ
“บ่ายมึงมีเรียนไหม ถ้ามีก็โทรไปบอกไอ้นาวลาให้ซะ”
ผมบอกมันไปเพื่อให้มันได้พักผ่อน ดูสภาพแล้วคงยังไปเรียนไม่ไหวครับ
“ ไม่มี” มันบอกผมด้วยเสียงเบาและแหบๆเหมือนคนจะไม่สบาย
“งั้นมึงนอนต่อนะ จะนอนในห้องหรือข้างนอก
“ ข้างนอก”
มันบอกผมพร้อมกับขยับลุกจะเดินออกไปจากห้องครัวแต่ก็เซล้มลงมาบนเก้าอี้อีกครั้ง
พอมันทิ้งน้ำหนักลงมาบนเก้าอี้มันก็สะดุ้งครับ
“เหี้ย!” มันอุทานออกมา คงเจ็บน่าดูครับหน้ามันนี่บ่งบอกว่าเจ็บมาก
ผมเลยเดินเข้าไปพยุงมันออกมานั่งที่โซฟา
“เจ็บมากเลยเหรอ” ผมลองถามมันดูครับ
ผมก็ไม่เคยไม่รู้เจ็บแค่ไหน
“ สัส! เพราะใครหล่ะ มาลองให้กูเอาดูมั่งไหม”
มันหันมามองตาเขียวเลยครับแล้วก็ด่าผมออกมา ยังมีการจะให้ผมลองอีกนะ
แต่ไม่เอาครับ อย่างนี้ดีแล้วเดี๋ยวสับสนใครผัว ใครเมีย
ผมได้แต่ยิ้มๆตอบมันไป อย่าเถียงครับ คนเถียงเมียเดี๋ยวไม่เจริญ หึหึ
“เดี๋ยวกูไปเอาผ้านวม หมอนกับผ้าห่มมาให้มึงปูนอนหน้าทีวีนะ”
พูดเสร็จผมก็เข้ามาหยิบจากในห้องผ้านวมผืนใหญ่อยู่ในตู้ครับเอาไว้ใช้หน้าหนาว
ผมหยิบมาปูให้มันนอนหน้าทีวี
มันก็ลงมานอนแล้วก็หยับรีโมททีวีกดเปิด ไล่ดูไปทีละช่อง
“กูกลับไปเรียนก่อนนะ เดี๋ยวโทรมาหา”
“ไม่ต้องโทร”
“ ...” ผมได้ยินไม่ชัดเลยเงียบรอฟังมันพูดใหม่
“กูบอกว่าไม่ต้องโทร ขี้เกียจรับ” ที่นี้ชัดเจนครับ
“ แต่กูเป็นห่วงมึง เดี๋ยวโทรหา รับด้วยนะครับ” พูดดีกับมันหน่อย
“...” มันไม่ตอบ ผมเลยก้มไปหอมมันก่อนเดินออกมาคว้ากุญแจรถ แล้วไปเรียนต่อช่วงบ่ายครับ
มาถึงม.เจอพวกมันนั่งรอเข้าเรียนอยู่ที่โต๊ะประจำครับ ผมเลยเดินเข้าไปนั่งด้วย
“มาไว เว้ย” ไอ้อาร์มเริ่มก่อนเลย
“ มึงไม่มาช้ากว่านี้หน่อยวะ กูพนันกับไอ้นัทว่ามึงจะมาสาย
แต่มันบอกว่ามึงจะมาไว กูเลยเสียตังค์เลยเนี๊ยะ” ไอ้โฟมพูดขึ้นมาบ้าง
“ ไอ้พวกเหี้ยนี่เอากูไปพนันนะมึง”
มันชอบพนันอะไรกันเล่นๆ เสมอ แต่เวลาจ่ายนี่ไม่เล่นนะครับ
จ่ายจริงหมดตัวจริงกันมาแล้ว
กำลังคุยกันเพลินๆ ผมมองเห็นวิวเดินเข้ามาถึงโต๊ะแล้วครับ
“ ตินณ์ค่ะ ช่วงนี้ไม่โทรมาหาวิวเลยนะ” วิวโวยวายผมทันที
“ ช่วงนี้ผมไม่ค่อยว่างครับวิว” ผมตอบวิวด้วยน้ำเสียงปกติ
แต่ไอ้คิมมันมองหน้าผมแล้วยักคิ้วกวนตีนส่งมาให้
“แต่วิวคิดถึงตินณ์นะคะ โทรไปก็ไม่ค่อยรับ” วิวตัดพ้อผม
“เอ่อ...วิวครับ ผมขอคุยด้วยสักครู่ รีบไปไหนหรือป่าวครับ”
ผมถามวิวก่อนเผื่อวิวมีธุระที่ไหน
“ ไม่มีค่ะ สำหรับตินณ์วิวว่างเสมอ”
ผมลุกขึ้นจากโต๊ะ แล้วเดินนำวิวออกมาจากกลุ่ม
ห่างพอประมาณที่พวกมันจะไม่ได้ยินที่ผมคุยกัน
มองไปมีแต่สายตาอยากรู้จากพวกมันครับแต่วิวหันหลังให้เลยไม่รู้ครับ
“ มีอะไรเหรอคะ ตินณ์ดูลึกลับจัง ต้องแยกออกมาคุยกันแค่สองคนด้วย”
วิวถามผมด้วยสีหน้ายิ้มๆ
“ เอ่อ... คือผมจะบอกวิวว่า ผมอยากให้เรื่องของผมกับวิวยุติลงแค่นี้”
“ตินณ์ หมายความว่าอย่างไรคะ” น้ำเสียงของวิวเริ่มสั่น
จริงๆแล้วผมไม่จำเป็นต้องมาบอกวิวอย่างนี้ก็ได้
เพราะเราตกลงกันแล้วว่าเราไม่ได้คบกัน
แค่ควงกันเฉยๆใครเบื่อก็ไปไม่ผูกพันใดๆต่อกัน
แต่ที่ผมต้องบอกวิว เพราะผมคิดว่าผมตัดสินใจแล้วว่าจะจีบไอ้พรตผมก็ควรชัดเจน
ตัดปัญหาทุกอย่างที่จะเกิดขึ้นให้หมด
“ ผมอยากให้เราเป็นแค่เพื่อนกันเหมือนเดิม” ผมบอกอีกครั้ง
คราวนี้น้ำตาของวิวไหลแล้วครับ ตัววิวเริ่มสั่นมากกว่าเดิม
“ ทำไมค่ะตินณ์ วิวไม่ดีตรงไหน”
“มันไม่ใช่ว่าดี หรือไม่ดี แต่เราตกลงกันไว้ตั้งแต่แรกแล้วว่าเราจะไม่ผูกมัดกัน”
“ตินณ์มีคนใหม่ใช่ไหมคะ ถึงทิ้งวิวอย่างนี้”
ผมสงสารวิวนะครับเพราะปกติผมไม่บอกเลิกใครก่อน
ส่วนมากจะทำตัวเงียบๆไม่ติดต่อกันแล้วก็ห่างกันไปเลย
คือผู้หญิงเบื่อทนไม่ได้ก็ไปเองประมาณนี้ครับ แต่กลับวิว
คือรอเวลาไม่ได้เดี๋ยวไอ้พรตเข้าใจผิดครับต้องรีบเคลียร์ตัวเอง
“ ไม่เกี่ยวว่าผมจะมีคนใหม่หรือไม่ แต่ถ้ามันไม่ใช่ยังไงมันก็ไม่ใช่
ผมว่าเราคุยกันรู้เรื่องตั้งแต่แรกแล้ว” ผมไม่อยากว่าผู้หญิง
แต่วิวก็ไม่ได้คบผมคนเดียว ไม่ใช่ไม่รู้แค่ไม่พูด
“ วิวไม่เลิก ยังไงวิวก็ไม่ยอมให้เรื่องจบแบบนี้แน่”
“ไม่ว่าอย่างไร เรื่องของเราก็เป็นไปไม่ได้
ตินณ์ว่าอย่ายื้อเวลาเลยดีกว่า” ผมตอบกลับไป
เพี๊ยะ!!! เสียงมือกระทบแก้มผมเต็มๆครับ
“ แล้วตินณ์จะต้องเสียใจที่ทำอย่างนี้” วิวว่าแล้วก็ก้าวจากไปทางคณะของวิว
ผมเดินกลับมาที่โต๊ะแล้วหยิบสมุดเตรียมตัวเข้าเรียน
“ คุยอะไรกันวะท่าทางเคร่งเครียด”
ไอ้อาร์มถามผมก่อนเพื่อนเช่นเคย
ถึงมันจะพูดมาก เฮฮา บ้าบอตามเรื่อง
แต่มันก็รักเพื่อน ถ้าใครในกลุ่มมีเรื่องมันจะลุยก่อนเลย
“ กูบอกเลิกสาวครั้งแรกหว่ะ”
ผมบอกมันด้วยหน้าตาเคร่งเครียดไม่คลาย
“ห๊ะ!!! มึงน่ะนะ บอกเลิก”
“เออ ทำไมกูจะบอกไม่ได้”
“ มึงแปลกๆหว่ะไอ้เหี้ยตินณ์ช่วงนี้
ทำอะไรที่กูคิดไม่ถึง” ไอ้อาร์มมันว่า ด้วยท่าทางงงๆ
“แล้วเป็นไงจบกันด้วยดีไหม” ไอ้คินถามขึ้นมาบ้าง
“ ดี มือหนักดี” ว่าแค่นั้นรู้กันครับ
“ มึงเป็นเหี้ยอะไร อยู่ๆถึงไปบอกเลิกเค้า
ปกติไม่เคยเดือดร้อนใครจะไปจะมา”
“...” ผมไม่ตอบ จะให้ตอบได้ไงครับว่ากูกำลังจะเป็นเกย์
พวกมันคงช็อคน่าดู ปล่อยให้มันสังเกตแล้วรู้กันเองดีกว่าครับ
“เออ เรื่องของมึงแล้วกัน กูไม่อยากยุ่งด้วย
แต่ถ้าต้องการให้พวกกูช่วยอะไรก็บอกนะเว้ย”
ไอ้โฟมบอกผมพร้อมกับเดินเข้ามาตบบ่าผมเบาๆ มองไปทุกคนจ้องผม
และส่งสายตาเป็นห่วงมาให้ ผมยิ้มให้พวกมันอย่างจริงใจ
แม้ว่าจะไม่พูดแต่เข้าใจกันครับ แล้วพวกเราก็เดินขึ้นไปเรียนด้วยกัน…
“เป็นไงบ้างวะ ดีขึ้นยัง” ผมถามไอ้พรต
หลังจากที่เรียนเสร็จก็รีบบึ่งรถกลับมาหามันทันที
สงสัยจะติดมันมาก อยากเห็นหน้ามันตลอดเวลา
“อื้ม” มันตอบแค่นั้น
ผมเปิดประตูเข้ามายังเห็นมันนอนดูทีวีอยู่เหมือนเดิมครับ
“ เย็นนี้ออกไปกินข้าวข้างนอกนะ”
เมื่อผมเห็นมันอาการดีขึ้นเยอะแล้ว หลังจากได้กินยาและพักผ่อนทั้งวัน
ผมกะจะไปซื้อของสดเข้าห้องด้วย
นอนดูทีวีกับมันจนหกโมงเย็นแล้วค่อยแต่งตัวออกไปกินข้าวข้างนอก
“กูไม่อยากอยู่ที่นี่กูจะกลับห้อง”
พอขึ้นรถได้เท่านั้นมันเริ่มหาเรื่องอีกแล้วครับ
“มึงต้องอยู่กับกู อย่าให้กูต้องทำอะไรที่กูไม่อยากทำ”
ผมหยิบเอาโทรศัพท์ของตัวเองขึ้นมาเปิดรูปให้มันดู
“ไอ้เหี้ย!!! มึงมันโรคจิต” มันว่า
พร้อมกับกดลบรูปในโทรศัพท์ ผมก็ไม่ห้าม
มันเป็นรูปที่ผมถ่ายมันไว้หลังจากที่มีอะไรกันเมื่อเช้า
พอดีลุกมาเข้าห้องน้ำแล้วเห็นมันนอนหลับน่ารักดีเลยถ่ายไว้
มีทั้งรูปเดี่ยวมัน และรูปคู่ผม
ใครดูก็รู้ว่าเพิ่งผ่านอะไรมา รอยตามตัวเยอะมาก
ตอนแรกว่าจะเก็บไว้ดูเล่น แต่ตอนนี้ขอเอามาขู่มันหน่อยครับ
“ถึงมึงลบไป กูก็มีสำรองไว้ที่อื่นอีก”
“สัส” มันด่ากลับมา รู้สึกว่ามันจะด่าผมบ่อยไปแล้วนะ
มันเลิกสนใจโทรศัพท์ของผมแล้วโยนมาไว้ที่วางของข้างเกียร์รถ
ผมขับรถมาจอดที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง แล้วเปิดประตูเดินนำมันออกมานอกรถ
“มึงจะแดกไหมข้าวน่ะ”
ผมถามมันแต่มันไม่ตอบเปิดประตูแล้วปิดกระแทกอย่างแรง
ไม่กลัว MBW ของกูพังเลยนะเป็นคนอื่นกูด่าไปแล้ว
เดินเข้ามาผ่านแผนกเสื้อผ้ามีแต่คนมองมันแล้วยกมือไหว้
ตอนแรกผมก็สงสัย แต่มานึกขึ้นได้ ตอนมีคนมาทักแล้วเรียกมันว่านายน้อยเท่านั้นแหละ
จำได้เลยว่านี่เป็นห้างในเครือบริษัทของครอบครัวมัน
ถึงว่าลีลาไม่ยอมลงมากินข้าว คงกลัวใครจะรู้ว่ามากลับผม
แต่ความจริงไม่เห็นต้องกลัวเพราะไม่มีใครรู้ว่าผมเป็นใครและเกี่ยวข้องกับมันอย่างไร
แต่คนมันเหมือนกังวลทำอะไรก็กลัวไปหมด มีพิรุธให้จับได้ครับ
มันคุยกับเค้านิดหน่อยแล้วขอตัวไปกินข้าว
เรามากินที่ร้านอาหารญี่ปุ่นครับกินยาโยอิ
เค้ามีเป็นชุดให้จะได้ไม่ต้องคิดนาน
กินไปก็ไม่ได้คุยกันมากครับ
พอกินเสร็จผมก็เดินไปจ่ายเงินแล้วพามันมาซื้อของเข้าห้อง
รู้สึกเหมือนคนที่แต่งงงานใหม่ครับ จากที่เคยซื้อของชิ้นเดียวก็ต้องซื้อสองชิ้น
คอยถามมันด้วยว่าชอบหรือไม่ชอบอะไร
มันก็ตอบบ้างไม่ตอบบ้างตามอารมณ์มัน
แต่ยังดีที่มันยอมเดินด้วยผมต้องบังคับเล็กน้อยถึงมา
เสร็จแล้วผมก็เอาของมาเก็บที่รถ
แล้วขับออกมาจากห้างมุ่งหน้ากลับคอนโด…..
---------------------------------------
แฟนเพจ ค่ะ
https://www.facebook.com/pages/Magicz-Writer/209262329249156
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ