Chronicles Of Legend. ปฐมบทแห่งตำนาน

7.3

เขียนโดย LanzaDeLuZ

วันที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 เวลา 19.07 น.

  67 chapter
  7 วิจารณ์
  64.15K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 19.20 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

60) ...Rules of Enigma...(3)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

 

 

====================================================

 

 

 

       ...ณ สนามประลองกลาง...ย้อนกลับไปในเวลาเดียวกับที่เรย์ลาลีนได้รับสิทธิการครอบครองราชศาสตรา...

 

 

          กี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดด !!!!!!!!!!!!!!

 

 

         " อ...อึ๊ย! "  เฮเลนสะดุ้งเฮือกยกมือที่เปล่งแสงด้วยพลัง เพลิงตะวันออก  ของเธอออกมาจากตัวของชาร์ลออกมาอย่างกะทันหัน ทำเอาชาร์ลถึงกับชักตาตั้ง  ถึงอย่างนั้นเธอก็แทบจะไม่สนใจอีกฝ่ายเลย...หญิงสาวพุ่งลงจับราชศาสตราดาบอัคคี-เอ็กโซดัสของเธอที่กำลังสั่นสะท้านและส่งเสียงกรีดร้องไว้แน่น

 

        " ก...เกิดบ้าอะไรขึ้นอีกล่ะเนี่ย?! "

 

        " ล...หล่อนนั่นแหละทำบ้าอะไร!! จู่ๆ ก็ปล่อยมือจากการรักษากะทันหันแบบนี้ เดี๋ยวก็ได้ตายกันทั้งคู่หรอก!! "  นาซีเรียกรี๊ดลั่น โชคดีที่การรักษาแทบจะเสร็จสมบูรณ์อยู่แล้ว การกระชากของการรักษาเลยมีอยู่น้อยจนไม่ส่งผลกระทบอะไร แต่เฮเลนก็ยังแทบจะไม่ได้สนใจเลยด้วยซ้ำ เธอกระแทกดาบใส่ฝักเสียงดังสนั่น หยุดเสียงกรีดร้องของราชศาสตรานั่นไว้ก่อนจะจับมันยกขึ้นมาดูด้วยดวงตาที่เบิกกว้างอย่างประหลาดใจ

 

        " ม...มีอะไรงั้นเหรอ? "

 

        " เป็น...เป็นไปไม่ได้!...มีผู้ถือสิทธิครอบครองราชศาสตราชิ้นใหม่แล้ว?!! "  

 

        " เอ๋? "  รองผู้อำนวยการอเล็กซานดร้าที่ยืนคุมเชิงอยู่หันขวับกลับมามองอย่างงงๆ ในขณะที่ผู้อำนวยการอันนาเทียน่าที่นั่งอยู่บนรถเข็นก็ถามขึ้นเบาๆ

 

        " หือ เรื่องนั้นก็รู้กันอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ...ก็แลนซ์นี่ไง ผู้ใช้ราชศาสตราคนใหม่ "

 

        " ไม่ใช่! "  เสียงของเฮเลนเกือบถึงขึ้นตวาด  " โธ่เอ้ย! จะให้ฉันบอกกี่ครั้งกี่หนว่าแลนซ์น่ะไม่ใช่ ผู้ใช้ราชศาสตรา  ...เขาแค่ถูกราชศาสตราครอบงำเท่านั้น! "

 

        " แล้วมันต่างกันตรงไหนล่ะนั่น? "  สำหรับคนที่ไม่ได้เป็นแบบเดียวกับเธอ คำพูดของเธอค่อนข้างจะยากเกินความเข้าใจจริงๆ นั่นแหละ

 

        " ปัดโธ่เอ้ย! ... "  เฮเลนหันซ้ายหันขวา พยายามเรียบเรียงคำพูดให้ง่ายที่สุดเท่าที่เธอจะทำได้  " ฉันหมายความว่ามีผู้ใช้ราชศาสตราชิ้นที่ 6 เกิดขึ้นแล้วไงล่ะ! "

 

        " ว่าไงนะะะะะะะะะะะะะะ !!!!!!!!!!!!!!! "  คนที่อุทานดังลั่นขึ้นพร้อมกันกลับกลายเป็นสองผู้วิเศษแห่งยุคอย่างเชรีน่าและทันทารอสแทน เพราะขนาดผู้ใช้ราชศาสตราแค่คนเดียว...ไม่สิ...นี่ขนาดยังไม่ได้ถึงขั้นเป็นผู้ใช้ราชศาสตราด้วยซ้ำพวกเขายังหืดขึ้นคอกันขนาดนี้  ถ้ามีผู้ใช้ราชศาสตราแบบเต็มขั้นมาอีกคน งานนี้มีหวังได้เหนื่อยกันยาวแน่

 

        " ท่านเฮเลน...ทราบรึเปล่าว่าราชศาสตราที่ตื่นขึ้นมาเป็นชิ้นไหน? ชื่อว่าอะไร? "  ทันทารอสเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบทว่าชักเริ่มส่อแววเครียด...ต่อให้เป็นทันทารอสเองก็เถอะ แต่เรื่องนี้ก็เริ่มหนักเกินไปแล้วจริงๆ

 

          เฮเลนกัดเล็บ ขมวดคิ้วอย่างไม่แน่ใจ

 

        " ฉันไม่รู้...ระยะมันไกลเกินกว่าที่ฉันจะบอกได้อย่างแน่ชัด...แต่ที่ฉันพอบอกได้คือผู้ที่ตื่นอยู่ในระยะรัศมีหนึ่งกิโลเมตร...รึอย่างไกลที่สุดก็ไม่เกิน 1.5 กิโลเมตรนี้แน่ "

 

        " 1 - 1.5 กิโลฯ?? "  เทียน่าทวนคำเบาๆ พลางพยายามนึกว่าแถวนี้มีที่ไหนที่เป็นไปได้บ้าง...แต่ก่อนที่เธอจะทันคิดออก เสียงระเบิดที่แทบจะสะเทือนไปทั่วทั้งเกาะก็ดังขึ้นเสียก่อน!

 

       

          ตู้มมมมม !!! ครืนนนนนนนนนนนนนนนนน !!!!!!

 

 

        " อาคารเรียนกลาง!!! "  พวกเธอตะโกนลั่นขึ้นพร้อมกันทันที

 

          แลนซ์ซึ่งขณะนี้กำลังถูกราชศาสตราชั้นสูงอย่างหอกแห่งแสงครอบงำแทบจะเต็มขั้นหันไปมองด้านที่เป็นต้นเสียงระเบิดนั่นก่อนจะขมวดคิ้วแน่น...การปะทะกันของราชศาสตราที่คุ้นเคยสองชนิดเรียกความสนใจให้แก่ราชศาสตราสายขาวอันดับหนึ่งอย่างหอกแห่งแสงได้อย่างชะงัด...ราชศาสตรานิ่งไปราวกับคิดอยู่เล็กน้อยก่อนจะตัดสินใจว่าราชศาสตราสองชนิดที่ปะทะกันนั้นถือเป็นภัยคุกคามสูงสุดของเขา...

 

          เชรีน่าและทันทารอสที่พึ่งหันกลับมามองแลนซ์อีกครั้งถึงกับชะงักเบิกตากว้างและขนลุกซู่พร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย เพราะหอกแห่งแสงในมอของแลนซ์กำลังเปล่งประกายแสงขึ้นพร้อมกับดูดเอาพลังธาตุสายลมชั้นสูงเข้าสู่ร่างกายจนร่างพองขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เมื่อแลนซ์ลืมตาขึ้นอีกครั้ง ม่านตาดำของเขากลายเป็นสีขาวขุ่นจนกระทั่งดูเหมือนมีแต่ตาขาวที่ส่องประกายทั้งดวงตา พลังธาตุแสงผสานธาตุสายลมที่ปะทุรั่วไหลออกมาอาจจะเทียบได้กับสเกลเวทย์ระดับสิบหรือสูงกว่านั้นทีเดียว

 

        " คันฉ่องธาราน้ำแข็ง 3 ชั้น!! / คันฉ่องชุณหประภา(แสงสีขาว) 3 ชั้น!! "  ทั้งเชรีน่าและทันทารอสรีบใช้เวทย์ป้องกันระดับสูงสุดเท่าที่พวกเขาสามารถร่ายได้ในเวลาอันจำกัดที่สุดทันที...ขนาดมีเวลาให้ร่ายเพียงไม่ถึงสองวินาทีพวกเขายังสามารถสร้างเวทย์ป้องกันระดับแปดได้ถึงสามชั้นซึ่งไม่มีจอมเวทย์ที่ไหนในโลกสามารถทำได้แน่นอน...แต่ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็ยังไม่มีความมั่นใจว่าจะสามารถรับการโจมตีของอีกฝ่ายได้เลย!

 

        ' แย่แล้ว !  พลังระดับนั้นต้องใช้เวทย์ระดับ Hi Anciant  เท่านั้นถึงจะป้องกันได้ ...แต่เราไม่มีเวลาร่ายเวทย์ที่ยาวขนาดนั้น ...จบแค่นี้งั้นรึ ?! '  ทันทารอสคิดพลางหลับตาลงอย่างปลงตก แต่เสี้ยววินาทีต่อมาเขาก็ต้องเบิกตากว้างอีกครั้งเพราะเขาไม่รู้สึกถึงจิตคุกคามที่ควรจะมาจากอีกฝ่ายเลย

 

        " ทันทารอส "  เชรีน่าที่ยืนตั้งป้อมใช้เวทย์ คันฉ่องธาราน้ำแข็ง 3 ชั้น  ป้องกันตัวเองอยู่หันกลับมาเรียกดาร์คเอล์ฟหนุ่มเหมือนจะถามเบาๆ ในขณะที่ทันทารอสยกมือขึ้นห้ามทันที

 

        " อย่าพึ่ง! ท่านเชรีน่า...ดูท่าทีไปก่อน...เราไม่อาจประมาทหอกแห่งแสงได้! "  เขารู้ดีว่าจอมเวทย์สาวข้างๆ คิดจะเข้าโจมตีเพราะเห็นว่าอีกฝ่ายนิ่งไป แต่ขิงแก่อย่างเขารอบคอบเกินกว่าจะตัดสินใจเสี่ยงทำอะไรแบบนั้น เพราะถ้าหากนี่เป็นการอ่อยเหยื่อของอีกฝ่าย งานนี้ไม่ได้จบแค่เจ็บหนักแน่ๆ

 

          แล้วเสี้ยววินาทีต่อมาสิ่งที่พวกเขาไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น แลนซ์กระทืบพื้นปลดปล่อยจิตคุกคามที่เข้มข้นจนน่าขนลุกออกมาโดยรอบ ก่อนที่เขาจะพุ่งขึ้นไปบนฟ้าด้วยระดับความเร็วยิ่งกว่ากระสุนปืน!

 

        " เฮ้ย?!! "  นี่เป็นครั้งแรกที่ทันทารอสร้องเสียงหลงอย่างควบคุมตัวเองไม่ได้

 

          

          เปรี๊ยะ !!!  เพล้งงงงงงงงงงงงงงงงง !!!!!!!!!!!!! 

 

 

          โดมแสงที่ส่องประกายครอบคลุมทั้งโดมสนามประลองซึงเป็นเวทย์ระดับ HiAnciant ซึ่งเป็นเวทย์ที่มีระดับสูงกว่ามหาเวทย์ระดับสิบ กลับถูกแลนซ์ที่เหมือนจะแปลงเป็นกระสุนปืนใหญ่ชั่วคราวพุ่งเข้าชนเปรี้ยงอย่างรุนแรงจนกระทั่งแตกกระจายออกเป็นเสี่ยงๆ ราวกับเป็นกระจกบางๆ ...ส่งผลให้โดมค่อยๆ สลายกลายเป็นละอองแสงอันนับไม่ถ้วนทันที!  และดูเหมือนแลนว์จะแทบไม่สนใจสิ่งที่เขาพึ่งทำลงไปด้วยซ้ำ หอกแห่งแสงที่ควบคุมเขาอยู่ดูเหมือนจะเร่งความเร็วตัวเองมากขึ้นไปอีกจนกระทั่งได้ยินเพียงแต่เสียงการเสียดสีของอากาศอันบาดหูเท่านั้น

 

       ...เสี้ยววินาทีที่ทันทารอสตะลึงค้างอยู่ แม้เพียงแค่เสี้ยววินาทีเท่านั้นเขาก็รู้สึกได้ถึงจิตคุกคามอันเข้มข้นจนน่าขนลุกอีกครั้ง  แต่คราวนี้จิตคุกคามนั่นกลับแผ่ออกมาจากหญิงสาวที่ยืนอยู่ข้างๆ เขาเอง...

 

          เชรีน่า เมโอ คริสตัล...จอมเวทย์ผู้มีศักดิ์เทียบเท่ากับเขาทุกประการ...

 

        " ...คิดว่าพวกเรา...เข้ากันได้ดีซะอีกนะ "  ดาร์คเอล์ฟหนุ่มครางขึ้นมาเบาๆ พร้อมกับฝืนยิ้มแกนๆ ...วลี ความประมาทเป็นหนทางแห่งความตาย  ยังคงศักดิ์สิทธิ์และใช้ได้อย่างสม่ำเสมอจริงๆ...

 

        " ความร่วมมืออันดีระหว่างศัตรูด้วยกันจะยังคงอยู่ตราบเท่าที่สถานการณ์ยังไม่เปลี่ยนแปลง...จากหนังสือ มหาสงครามทวีปเอเธอนอลในสายตาของข้าพเจ้า ...หนังสือเล่มนึงที่นายเขียนขึ้นมาเองก็บอกไว้แบบนี้ไม่ใช่เหรอ? "  เชรีน่าตอบกลับมาเรียบๆ ที่ด้านหลังของเธอคือศรเวทย์คละธาตุระดับสูงสุดที่อยู่ในสเกลเวทย์ระดับ 7 นับร้อยดอกที่ชี้ไปที่ทันทารอสอย่างประสงค์ร้ายและบ่งบอกอย่างชัดเจนว่า...ถ้าขยับ...พรุน!

 

        " มองสถานการณ์ได้ขาดสมเป็นท่านจริงๆ นะ "  ทันทารอสพูดพลางกลั้วหัสเราะเบาๆ ...สายตาของหญิงสาวตรงหน้าไม่ได้สื่อถึงความล้อเล่นเลย...มันทำให้เขาไม่กล้าเสี่ยงขยับส่วนอื่นๆ นอกจากปากของตัวเองจริงๆ

 

        " ถ้าท่านเป็นหนึ่งในผู้สมรู้ร่วมคิดในเหตุการณ์วุ่นวายบนเกาะนี้จริง...เราคงต้องขอกักตัวท่านไว้ "  ซานดร้าที่พุ่งขึ้นมาบนเวทีพูดเรียบๆ พร้อมกับปล่อยจิตคุกคามสมทบเข้ามาอย่างเต็มที่...ผู้ชายตรงหน้าสำคัญและอันตรายเกินกว่าที่พวกเธอจะประมาทได้

 

        " ...หึๆๆๆๆ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ "  อยู่ๆ ทันทารอส ซานดาเรียก็เงยหน้าหัวเราะอย่างยาวนาน

 

        " มี...อะไร...น่าขำงั้นเหรอ?! "  

 

        " ...ข้าคิดออกแล้วไงล่ะ...แนวเรื่องของหนังสือเล่มใหม่ของข้า... "

 

        " ชื่อหนังสือ ตลอดชีวิตที่เหลือของข้าพเจ้าในฑัณทสถาน  งั้นเหรอ? "

 

        " ฮ่าๆๆๆ เปล่า...ชื่อหนังสือข้าขออุบไว้เป็นความลับ...แต่ข้าสามารถบอกประโยคเด็ดในหนังสือได้นะ...ประโยคนั้นก็คือ... "

 

          ทันทารอสแสยะยิ้มอีกครั้ง

 

        " ...ท่านจะยอมแลกเบี้ยขาวเกือบทั้งหมดบนกระดาน...เพื่อกิน บิชอปดำ ตัวเดียวไหม? "

 

          ฉับพลันทันใดนั้นเองที่โดยรอบที่นั่งของผู้ชมทั้งหมดก็เปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหัน...ทหารในชุดคลุมดำขาดๆ นับร้อยคนที่โผล่ออกมาวางกำลังกระจายไปทั่วตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไมทราบพร้อมใจกันเปล่งจิตคุกคามออกมาเพื่อกดดันบริเวณโดยรอบ...มันเป็นจิตคุกคามที่ไม่ได้สร้างแรงคุกคามใดๆ เลยในความคิดของเชรีน่าหรือสองสาวฝาแฝด  แต่สำหรับเด็กนักเรียนธรรมดาที่ไม่เคยผ่านสงครามหรือการต่อสู้ชนิดถึงชีวิตมาเลย จิตคุกคามของทหารที่ถูกฝึกมาเป็นอย่างดีเหล่านั้นมันสร้างแรงกดดันอย่างมหาศาลจนกระทั่งพวกเขาไม่ก้าขยับเลยทีเดียว

 

        " พีเชรีน่า!! "  เทียน่าตะโกนด้วยระดับเกือบถึงขั้นตวาดเพื่อเตือนสติไม่ให้อีกฝ่ายผลีผลามทำอะไรโง่ๆ โดยไม่ยั้งคิดออกไป ในขณะที่เชรีน่ากัดฟันแน่นจนฟันกรามแทบแตก ดวงตาของเธอถมึงทึงด้วยความโกรธอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

 

        " แก!! ...แกใช้...เด็กไม่รู้อิโหน่อิเหน่เป็นตัวประกันงั้นเหรอ?!! แกไม่ละอายใจบ้างรึไง!! "

 

        " ในสงคราม...มีคนแค่สองประเภทเท่านั้น...คือผู้ชนะ กับ ผู้แพ้...ไม่มีผู้ไม่รู้อิโหน่อิเหน่หรอกนะ...เพื่อให้ชนะสงคราม...ทุกการกระทำล้วนคู่ควร! "

 

          อันนาเทียน่าเงยหน้าขึ้นมองรอบๆ ด้วยความรู้สึกที่หนักอึ้งและสีหน้าที่ปั้นยากขึ้นเรื่อยๆ ...สมองอันฉับไวของเธอประเมินสภาพการณ์อย่างคร่าวๆ และพอจะบอกได้ทันทีว่าพวกเธอกำลังตกที่นั่งลำบากแล้ว...มองผ่านๆ ก็รู้แล้วว่าทหารเหล่านั้นเป็นผู้ที่ถูกฝึกมาเป็นอย่างดีและพร้อมจะทำตามคำสั่งของทันทารอสอย่างไม่มีเงื่อนไข...ต่อให้พวกเธอทั้งหมดตรงนี้ใช้ความเร็วสูงสุดเพื่อหยุดทหารเหล่านั้น แต่ความสูญเสียก็คงจะมากจนไม่อาจประเมินได้อยู่ดี...และนั่นเป็นเรื่องเดียวที่เธอไม่มีวันยอมให้เกิดขึ้นอย่างเด็ดขาด

 

        " ถือว่านี่คือคำสอนในฐานะผู้อาวุโสอย่างข้าก็แล้วกันนะ... "

 

        " แก!! "

 

        " สำหรับผู้ที่รอบคอบที่สุดแล้ว...สงครามน่ะมันจบตั้งแต่ยังไม่เริ่มเลยด้วยซ้ำ! "

 

 

 

 

............................................

 

 

 

  

       ...ย้อนกลับมาที่ห้องโถงใต้อาคารเรียนกลาง...

 

        " เรย์ลาลีน...ฉันขอพูดไว้ก่อนให้เราทั้งคู่เข้าใจให้ตรงกันเสียตรงนี้เลยนะ "

 

        " หืม? "

 

        " ที่ฉันยอมร่วมมือกับนายเป็นการเฉพาะกิจในงานนี้มีเหตุผลเดียวคือฉันไม่ต้องการให้ นาฬิกาทรายแห่งดาราลาน  ที่ซ่อนอยู่ภายใต้ตึกนี้ต้องมาบุบสลายจากการปะทะกันของราชศาสตราทั้ง 3 ชนิดของพวกเรา...ไม่ใช่เพราะฉันเป็นห่วงเป็นใยอะไรกับแลนซ์ลูกศิษย์ของนายเลยแม้แต่น้อย เพราะงั้นเรื่องสวัสดิภาพของของชีวิตของเขาสำหรับฉันมันเป็นเรื่องรองลงไป...ถ้ามันจำเป็นจริงๆ ฉันก็จำต้องใช้พลังสูงสุดของฉันเพื่อสังหารเขาซะ "  พริสซิลล่าพูดขึ้นเรียบๆ ด้วยสีหน้าที่เฉยเมยและคำพูดที่แทบจะเรียกได้ว่าเลือดเย็นเลยทีเดียวสำหรับผู้ที่เคยเห็นกันอยู่ทุกวันเช่นนี้ นั่นทำให้เรย์ลาลีนที่ตั้งท่าพร้อมอยู่ข้างๆ ถึงกับต้องลดมือลงและหันมามองเธอตรงๆ อีกครั้ง

 

        " สำหรับฉันแล้วที่เธอพูดนั่นไม่เรียกว่า ช่วย หรอกนะ พริสฯ ...อย่าบอกนะว่าไอ้เรื่องราชศาสตราของแลนซ์นี่ก็อยู่ในแผนของเธอเหมือนกัน? "

 

        " เฮ้อ...ถ้ามีคนที่คิดอ่านแผนได้ครอบคลุมถึงขั้นนั้นจริงๆ คนๆ นั้นก็เป็นโคตรเทพไปแล้ว...พูดตามตรงฉันก็อึ้งแตกไปเหมือนกันกับการ แทรกแซง แบบปัจจุบันทันด่วน...ทั้งของลูกศฺิษย์นายและของนายก็เหมือนกัน...แต่เอาเถอะ...นายมีข้อเสนออะไรก็ว่ามา "

 

        " ข้อเสนอ? "

 

        " อย่ามาทำเป็นแกล้งโง่น่า...แลนซ์น่ะสำหรับฉันแล้ว ถ้าจะให้พูดอย่างไม่ต้องรักษาน้ำใจกันเขาก็เป็นเหมือน หอกข้างแคร่  แถมยังเป็น หอก ที่มีพลังมากพอจะสร้างแรงกดดันให้กับฉันได้อีกต่างหาก... "  หญิงสาวเหลือบมามองเรย์ลาลีนก่อนจะตัดสินใจเว้นคำว่า ' เหมือนกับนายไม่มีผิด '  ไป พร้อมกับพูดต่อ  " ...แต่ฉันก็พอจะดูออกว่าเขาเป็นคนที่สำคัญมากสำหรับนาย--- "

 

        " ทุกคนบนเกาะนี้สำคัญกับฉันในฐานะ เพื่อน  เท่ากันหมด ไม่เว้นแม้แต่เธอ พริสซิลล่า "

 

        " แหม... "  หญิงสาวเอามือทาบอกพร้อมกับทำตาโตอย่างเสแสร้งชนิดดูผ่านๆ ก็รู้ทำเอาเรย์ลาลีนถึงกับอยากจะเกาหัวแกรกๆ อีกครั้ง  " ...ฉันดีใจที่ได้ยินคำพูดซึ้งๆ แบบนี้จากปากของนายนะ  เพราะงั้นบอกข้อเสนอมาสิ...ข้อเสนอที่ทำให้ฉันพอใจจนกระทั่งไม่อาจหักใจ ฆ่า ลูกศิษย์นายได้น่ะ... " 

 

        " สำหรับ เพื่อน แล้วเราไม่มีข้อเสนอให้กันหรอกนะ...มีแต่คำขอร้องเท่านั้น  พริสฯ ขอร้องล่ะ ในฐานะเพื่อน...ช่วยแลนซ์ด้วยเถอะ "

 

          คำพูดของเรย์ลาลีนทำให้พริสซิลล่าต้องเหลือบตามามองชายหนุ่มอีกครั้งด้วยแววตาที่อ่อนแสงลง ก่อนที่แววตานั้นจะสลายหายไปอย่างรวดเร็วและเหลือเพียงความว่างเปล่าที่อ่านไม่ออกอีกครั้ง

 

        " ในฐานะเพื่อนงั้นเหรอ? ....คิกๆๆๆๆๆ  ก็ได้เรย์ฯ ถ้านายมาไม้นี้ฉํนก็จะขอเล่นมั่ง...งั้นในฐานะเพื่อน...ถ้าจะให้ฉันช่วยเขา ฉัน่ขออะไรนายอย่างนึงเป็นการตอบแทนได้ไหม? "

 

        " ไม่! "  จอมเวทย์หนุ่มตอบกลับมาทันทีโดยแทบไม่ต้องเสียเวลาคิดอะไรเลย

 

        " อ้าว? แล้วกัน "

 

        " ก็ถ้าฉันเผลอไปตกปากรับคำ มีหวังเธอต้องขอให้ฉันทำอะไรที่ไม่ดีต่อสถาบันนี้แน่ "

 

        " โธ่เอ้ย...แล้วทำมาพูดว่าเราสำคัญในฐานะเพื่อนเท่ากัน...เถอะน่านะ เรย์ฯ ฉันสัญญาว่าคำขอของฉันจะไม่ทำให้นายต้องลำบากใจเลย "

 

          เรย์ลาลีนหันมาสบตาหญิงสาวตรงๆ เป็นครั้งแรกโดยเจตนาจะมองลึกเข้าไปในจิตใจของเธอ แต่คราวนี้นอกจากความว่างเปล่าที่มีอยู่เต็มในแววตาแล้ว เขากลับพบร่องรอยเล็กๆ ที่เขาแทบไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง

 

       ...ร่องรอยของความจริงใจ...

 

          เขารู้ดีว่าพริสซิลล่าไม่ใช่ผู้ที่จะสามารถเรียกร้องหาความจริงใจอะไรได้อีกแล้ว...เธอหลอกลวงทุกๆ คนบนเกาะแห่งนี้มาได้อย่างสนิทกว่า 3 ปี  เธอใช้ผู้ที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่อย่างคลาเดียเป็นหุ่นเชิดให้มาเสี่ยงอันตรายแทนเธออย่างเลือดเย็น  เธอกล้าแม้กระทั่งร่วมกับคนที่ร้ายกาจที่สุดในความคิดของเขาอย่างเซลรีเนียเพียงเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ของเธอโดยไม่สนใจผลที่ตามมา...พูดกันตามตรงการหาความจริงใจกับหญิงสาวตรงหน้าก็ไม่ต่างอะไรกับการหาน้ำในทะเลทรายเลย...ถึงจะพูดอย่างนั้น แต่สำหรับร่องรอยแห่งความจริงใจที่เขาเห็นเมื่อครู่ เขาเชื่อมั่นแทบจะเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์เลยว่า มันเป็นของจริง...

 

        " ...งั้น...บอกมาก่อนว่าเธอจะขออะไร? "  

 

        " อืมมม...ไม่รู้เหมือนกันแฮะ "

 

        " หา? "

 

        " ก็ตอนนี้ฉันก็ยังไม่มีอะไรที่อยากได้เหมือนกันนี่...เอาเป็นว่าถือว่านายติดค้างคำขอของฉันไว้ก่อน  โอเคไหม? "  พริสซิลล่าพูดอย่างงายๆ ก่อนที่เธอจะยื่มมือออกมารอ

 

        ' ลูกไม้ ...................รึเปล่าหว่า?? '  จอมเวทย์หนุ่มขมวดคิ้วอย่างชั่งใจ แต่เวลานี้แลนซ์ซึ่งกำลังยืนชาร์จพลังที่ไม่น่าไว้วางใจออยู่ก็ไม่เปิดโอกาสให้เขาได้คิดนานนัก  จนในที่สุดเขาก็ตัดสินใจลองเสี่ยงที่จะเชื่ออีกฝ่ายดูอีกครั้ง  แม้เขาจะรู้ดีว่ามันเป็นความคิดที่โง่เง่าที่สุดในรอบหลายๆปีของเขาก็ตามที

 

         เรย์ลาลีนถอนหายใจเฮือกและยื่นมือข้างที่ไม่ได้สวมแหวนไว้ไปจับมือกับอีกฝ่ายเบาๆ

 

        " ก็ได้...ตกลง "

 

        " เยี่ยม... "  พริสซิลล่ายิ้มหวานอย่างน่ารักจนเขาไม่รู้ว่านี่เป็นหน้าจริงของเธอ หรือเป็นเพียงหน้ากากอีกหน้ากากนึงของเธอเท่านั้น  " งั้นมาจัดการกับแลนซ์ ลูกศิษย์คนเก่งของนายกันซะทีเถอะ "

 

          ทั้งคู่หันมามองแลนซ์ซึ่งคะเนจากเวลาก็น่าจะชารฺ์จพลังที่เสียไปจากการเดินทางมาถึงที่นี่จนเกือบจะเต็มที่แล้ว โดยดูจากหอกเล่มโตที่แผ่ความรู้สึกไม่น่าไว้วางใจมาที่พวกเขาซึ่งบัดนี้เริ่มเปล่งแสงเรืองๆ ขึ้นอีกครั้งแล้วก่อนที่ทั้งคู่จะแสยะยิ้มเครียดๆขึ้นพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย

 

        " ให้ตายสิ...ฉันรู้สึกได้เลยนะว่างานนี้หนักที่สุดเท่าที่เราเคยผ่านมาเลยทีเดียว เรย์ฯ "  

 

        " หึๆๆๆ นี่เป็นครั้งแรกเลยนะพริสซิลล่า ที่เราคิดเห็นเหมือนกันโดยสมบูรณ์ " 

 

          สำหรับผู้ที่รู้ประวัติศาสตร์อย่างลึกซึ้ง นี่จะเป็นครั้งแรกในรอบกว่าพันปีที่ราชศาสตราซึ่งเป็นศาสตราระดับสูงสุดของโลกใบนี้ 3 ชนิดจะกลับมาพบกันอีกครั้ง!!

 

        

 

 

 .................................................

 

 

 

 

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7.1 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7.3 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7.6 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา