Chronicles Of Legend. ปฐมบทแห่งตำนาน

7.3

เขียนโดย LanzaDeLuZ

วันที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 เวลา 19.07 น.

  67 chapter
  7 วิจารณ์
  64.11K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 19.20 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

55) ...Behind the Shadow...(1)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

 

 

================================================

 

 

 

 

          ...คำพูดทันทารอส ซานดาเรียเรียกความสนใจของทุกคนได้อย่างชะงัด ไม่เว้นแม้แต่เฮเลนที่พอจะรู้เป็นนัยๆ อยู่แล้วก็ตามที...

 

            " หอก...หอกแห่งแสง...เทมเพลส?!! "  

 

            " จ...จริงเหรอ? เฮเลน "  นาซีเรียหันมาถามเฮเลนหน้าตาตื่น ในขณะที่เฮเลนเบิกตากว้างก่อนจะหรี่ตาลงเล็กน้อยเมื่อเห็นท่าทางของแลนซ์ชัดๆ

 

            " ฉันไม่รู้...พูดตามตรงฉันไม่รู้จริงๆ ว่าหอกนั่นคือ หอกแห่งแสง  รึเปล่า...ไม่มีใครเคยเห็นหอกเล่มนี้ตั้งแต่ที่ กัสเตอร์ ก๊อด เทมเพลส  ราชันย์จอมทัพแห่งมหาทวีป เอเธอนอล  ผู้ใช้ราชศาสตราคนแรกและคนเดียวเสียชีวิตไปเมื่อหลายพันปีก่อน...แต่... "

 

            " ...แต่...ให้ตาย ฉันไม่ค่อยชอบคำๆ นี้เลย...แต่อะไรงั้นเหรอ? เฮเลน "  เชรีน่าเหลือบกลับมามองพร้อมกับถามเบาๆ ในขณะที่เฮเลนชี้ไปที่แลนซ์ที่กำลังตัวสั่นน้อยๆ ราวกับกำลังใช้กำลังทั้งหมดเพื่อควบคุมอะไรบางอย่างอยู่

 

            " เท่าที่ฉันบอกได้...แลนซ์ไม่ใช่ผู้ราชศาสตรา...ไม่สิ...เขา ยัง ไม่ใช่ผู้ใช้ราชศาสตรา "  

 

            " หมายความว่ายังไง?! "  คราวนี้เชรีน่าที่ยืนคุมเชิงอยู่ถึงกับหันขวับมามองพร้อมกับถามเสียงเข้ม

 

            " เขา ในตอนนี้ไม่สามารถควบคุมราชศาสตราเล่มนั้นได้...ถ้าพูดตามที่ตาที่เห็นตอนนี้เขาเหมือนกำลังถูกราชศาสตราครอบงำอยู่ด้วยซ้ำ "

 

            " การณ์ในตอนนี้เป็นอย่างที่ท่านเฮเลนบอกทุกประการนั่นแหละ ท่านเชรีน่า ข้าบอกตามตรงว่างานนี้มันผิดไปจากแผนที่ข้าวางไว้จนไม่เหลือร่องรอยของแผนเดิมเสียแล้ว "  ทันทารอสที่ยืนคุมเชิงเผชิญหน้ากับแลนซ์และราชศาสตราในมือหันกลับมาพูดกับเชรีน่าด้วยน้ำเสียงเหมือนกับจะขอความช่วยเหลือกลายๆ ทำเอาเชรีน่าขมวคคิ้วเล็กน้อย ก่อนที่คิ้วที่ขมวดนั้นจะคลายออกพร้อมกับเลิกขึ้นบางๆ

 

            " หืม...แล้วแรกเริ่มเดิมที แผนของนายเป็นยังไงงั้นเหรอ? ท่านทันทารอส ซานดาเรีย "

 

              เอล์ฟหนุ่มอ้าปากก่อนจะหุบลงพร้อมกับเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มบางๆ 

 

            " แม้แต่ในเวลานี้ท่านยังจะหาทางเอาเปรียบข้าได้อีก...ท่านนี่มันช่าง...หึๆๆ สมแล้วที่ท่านถูกยกย่องให้เป็น ผู้วิเศษ  ที่เท่าเทียมกับข้าด้วยอายุเพียงเท่านี้ ---ฮ...เฮ้ยยย!! "  ทันทารอสพุ่งหลบคมหอกแห่งแสงที่แฝงพลังธาตุลมที่เทียบเท่าเวทย์ระดับ 8 วูบพร้อมกับร้องลั่นและถอยลงมายืนข้างๆ เชรีน่า โดยที่ตัวเชรีน่าเองก็ไม่ได้มีท่าทีต่อต้านอะไร เธอแค่เปลี่ยนมือที่ถือไม้เท้าเวทย์และเหลือบมามองเท่านั้น

 

            " ก็อย่างที่ท่านเห็นแล้วนะ ...ท่านแลนซ์ในตอนนี้เป็นเพียงแค่ผู้ที่ถูกราชศาสตราที่ทรงพลังกว่าเหวี่ยงไปมาโดยไร้การควบคุมเท่านั้น...ซึ่งมันก็ฟังดูน่ากลัวในหลายๆ ความหมายกับพวกเราทั้งคู่...ใช่ไหมล่ะ? "  ทันทารอสจัดเสื้อคลุมจอมเวทย์จอมเวทย์ของตนให้เรียบเหมือนเดิมพร้อมกับพูดเบาๆ ราวกับไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้น ทั้งๆ ที่เขาพึ่งจะเฉียดคอขาดไปเส้นยาแดงผ่าแปดแท้ๆ

 

              เชรีน่าเหลือบหันมามองทันทารอสอีกครั้งด้วยแววตากึ่งงงๆ กึ่งขวางๆ ก่อนที่กึ่งอึดใจต่อมาเธอจะหัวเราะออกมาเบาๆ

 

            " อ้อ...ดีนี่...พอผิดแผนแล้วก็จะมาขอความช่วยเหลือจากพวกฉันเนี่ยนะ? หน้าตาพวกฉันเหมือนพวกที่กินหญ้าเป็นอาหารหลักรึไง "

 

            " ฮ่ะๆๆๆ ท่านนี่ช่างเป็นสตรีที่มีอารมณ์ขันอยู่เป็นนิจจริงๆ ...ข้าคงต้องหาเวลาว่างๆ มาคุยกับท่านบ่อยๆ เสียแล้ว...เอาเถอะ เรื่องของเรื่องก็คือท่านแลนซ์ในตอนนี้ไม่ได้มีเป้าหมายที่ข้าเพียงคนเดียวหรอกนะ แต่เป็นพวกเราทุกคนที่อยู่ตรงนี้ต่างหาก...ท่านก็น่าจะเคยเห็น หรืออย่างน้อยก็น่าจะเคยได้ยินแล้วว่าผู้ที่ถูกความคลุ้มคลั่งเข้าครอบงำน่ะมันเป็นยังไง ผู้ที่ถูกครอบงำน่ะไม่สามารถแยกแยะมิตรหรือศัตรูออกหรอกนะ...ทุกคนที่อยู่ตรงหน้าเขา ในตอนนี้ก็เป็นศัตรูทั้งหมดนั่นแหละ...ท่านเข้าใจที่ข้าพูดใช่ไหม "  

 

              เชรีน่าเบนสายตาของเธอเหลือบไปมองเหล่านักศึกษาของทั้งสองสถาบันที่นั่งพรืดเต็มชั้นอัฒจันทร์สูงด้วยสายตาเป็นกังวล...ลำพังพวกเธอกับเหล่า Challengers ที่อยู่โดยรอบเวทีประลองก็อาจจะพอป้องกันตัวอะไรได้อยู่หรอก...แต่สำหรับเหล่านักศึกษา...ไม่มีอะไรจะมารับประกันได้เลยว่าเธอจะปกป้องเหล่านักศึกษาของพวกเธอได้

 

            " นาย...ขู่ฉันงั้นเหรอ?! "  ในที่สุดจอมเวทย์สาวก็พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

 

            " หึๆๆๆ ข้าแค่พูดความจริงตามที่ข้าเห็นเท่านั้น...แต่ข้าว่าสำหรับคนฉลาดอย่างท่านก็น่าจะพอเข้าใจในสิ่งที่ข้าสื่อสินะ "

 

            " ทั้งๆ ที่เรื่องของชาร์ลรวมถึงเรื่องของแลนซ์เป็นความผิดของนายแท้ๆ เนี่ยนะ "

 

            " เฮ้อ...ข้ายอมรับโดยไม่มีข้อโต้แย้งว่าเรื่องของท่านชาร์ลเป็นความผิดของข้าจริงๆ แต่ความจริงแล้วหากแผนของข้าดำเนินไปอย่างลุล่วง ข้ารับประกันได้เลยว่าจะไม่มีใครต้องได้รับบาดเจ็บสาหัสจนเกินเยียวยา...เพราะข้าเองก็ได้รับปากกับท่าน--- "  ทันทารอสชะงักกึกไปชั่วเสี้ยววินาทีก่อนจะเงียบไป แต่เชรีน่าเชี่ยวพอที่จะเห็นสังเกตเห็นสิ่งผิดปกตินั้น และเธอก็ฉลาดพอที่จะเชื่อมโยงเรื่องที่เกิดขึ้นได้ในชั่วพริบตา เธอวาดสายตาคมปลาบใส่ดาร์คเอล์ฟหนุ่มข้างๆ พร้อมกับพูดเรียบๆ

 

            " ชาโดว์ ...ใช่ไหม? ...นายรับปากกับท่าน ชโดว์  ไว้แล้วใช่ไหม? "

 

              ทันทารอสอ้าปากหวอ ก่อนจะเปลี่ยนเป็นยิ้มแค่นๆ นึกสาปแช่งความปากไวของตัวเองอันเป็นกรรมพันธุ์ของเหล่าเอล์ฟและดาร์คเอล์ฟที่ค่อนข้างจะเป็นพวกหัวอ่อนและตรงไปตรงมา แม้แต่ตัวเขาเองที่ผ่านช่วงเวลามาหลายยุคหลายสมัยจนคิดว่าตัวเองแก่กล้าพอตัว ก็ยังไม่สามารถแก้ไขจุดอ่อนนี้ได้

 

            " เอ่อ... "

 

            " ชิ! แปลว่าเรื่องทั้งหมดเกี่ยวโยงกันจริงๆ สินะ...เอาเถอะ ว่าเรื่องปัญหาตรงหน้าก่อน "  เชรีน่าควงไม้เท้าเวทย์ผลึกฟ้า เมโอ คริสตัล  ในมือพร้อมกับแหวนนำเวทย์สีทองอร่ามสว่างวาบ เธอเดินออกมาข้างหน้า 2-3 ก้าวเพื่อเผชิญหน้ากับแลนซ์ เซอร์เบร่อนที่ขณะนี้ถูกราชศาสตราสายขาวลำดับที่ 1 อย่าง หอกแห่งแสง  ครอบงำอยู่ก่อนจะพูดต่อเบาๆ

 

            " ทันทารอส...ถ้าฉันเข้าใจไม่ผิด การหยุดแลนซ์ไม่ให้ไปทำร้ายคนอื่นคงจะมีวิธีเดียว คือต้องคว่ำเด็กนี่ลงใช่ไหม? "

 

            " ...ใช่...แต่ว่าหอกเล่มนั้นมีธาตุพื้นฐาน 2 ชนิดคือ ธาตุสายลม  และ ธาตุแสง  ซึ่งเป็นธาตุพิเศษที่มีฐานันดรธาตุเท่าเทียมกับข้า...ข้าจึงอยากจะขอให้ท่านร่วมมือกับข้า...เพราะลำพังแค่พวกเราคนใดคนหนึ่ง คงจะไม่มีทางเอาชนะเขาได้โดยที่ทำให้เขายังมีชีวิตอยู่ได้หรอกนะ...แต่ถ้าจับตายมันก็อีกเรื่องนึง ...  "  ประโยคหลังทันทารอสบ่นอุบอิบ ก่อนที่เขาจะเลือกที่จะเงียบลงเมื่อหันกลับไปเห็นสายตาของเหล่านักศึกษา Challengers  ที่เหลืออยู่

 

            " เฮเลน ไปดูชาร์ลหน่อยซิ...โดนฟาดด้วยพลังระดับนั้นเข้าไปป่านนี้ทั้งด้านมืดทั้ง...อะไรก็ตามที่ตาดาร์คเอล์ฟบ้านี่ใส่เข้าไปในตัวเขาคงจะแตกกระเจิงไม่มีเหลือ...แล้วมั้ง? " 

 

              ส่วนหลังของประโยคหญิงสาวส่งเสียงสูงพลางเหลือบสายตาพิฆาตมาหาผู้สำเร็จราชการแห่งราชอาณาจักรลูซิลอีกครั้ง  จนทันทารอสต้องเกาหัวแกรกๆ พร้อมกับหันไปพยักหน้าให้กับเฮเลนช้าๆ เหมือนเป็นการยืนยันคำพูดของเธอ

 

            " ดี...ส่วนนาย...ทันทารอส...นี่จะเป็นการร่วมมือกันครั้งแรก...และไม่แน่ว่ามันอาจจะเป็นครั้งสุดท้ายระหว่างเราสองคน...เพราะงั้น...อย่ามาขวางมือขวางเท้าฉันก็แล้วกัน! ...8 ศรเวทย์ ราชันย์โลกธาตุ !! "  

 

              สิ้นเสียงของเชรีน่าเพียงไม่ถึงเสี้ยววินาที ร่างของเธอก็ถูกห้อมล้อมด้วยออร่าสีแดงสดอันแสดงถึงพลังจิตที่อันแข็งแกร่งจนสามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า! พริบตาต่อมาเธอก็เสกดอกศรเวทย์มนตร์ขนาดยักษ์ขึ้นมา 8 เล่ม...ที่น่าตกใจที่สุดคือศรเวทย์ทั้ง 8 เล่มรอบตัวเธอนั้นกลับถูกสร้างขึ้นด้วยพื้นฐานธาตุทางเวทย์มนตร์ครบทั้ง 8 ธาตุ ได้แก่ ธาตุดิน ธาตุน้ำ ธาตุลม ธาตุไฟ ธาตุโลหะ ธาตุสายฟ้า ธาตุพืช และธาตุน้ำแข็ง ...ทั้งๆ ที่ไม่เคยมีจอมเวทย์คนใดในหน้าประวัติศาสตร์ที่ครอบครองธาตุหลักได้เกิน 2 ธาตุด้วยซ้ำ!!!

 

            " น...นั่นมัน?!! "  แม้แต่เฮเลนและคนอื่นๆ ที่กำลังวิ่งไปดูชาร์ลที่นอนแอ้งแม้งสลบเหมือดอยู่ยังถึงกับต้องหันกลับมามองพร้อมกับอุทานอย่างไม่อยากเชื่อสายตา ในขณะที่ผู้อำนวยการเทียน่าที่พอจะรู้เรื่องนี้เป็นเลาๆ อยู่ก่อนแล้ว แต่ยังไม่เคยเห็นกับตาตัวเองยังถึงกับต้องอ้าปากค้าง

 

            " นี่...นี่สินะรูปแบบของสายพลังจิตของพี่... The Elements  รูปแบบพลังจิตที่สามารถเปลี่ยนแปลงธาตุพื้นฐานประจำตัวของตัวเองได้ตามใจชอบ...พี่รู้ไหม...ว่าตัวพี่มันเก่งเกินกว่าขีดจำกัดของมนุษย์ไปแล้ว !! "

 

 

 

 

 

.................................................

 

 

 

 

 

           ...บริเวณโถงอาคารเรียนกลาง...

 

            " หืม...เป็นอย่างที่ท่านว่าจริงๆ ด้วยแฮะ ในช่วงเวลานี้พวกนั้นไม่วางเวรยามที่นี่เอาไว้เลย...ช่างหละหลวมซะจริง "  เซรีเนีย เดียรริส อันดาเรส ราชินีปิศาจแห่งราชอาณาจักรลูซิลทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาที่ตั้งอยู่เป็นแถวๆ ที่ริมห้องโถงพร้อมกับบ่นเบาๆ ...ถ้าไม่นับสุนัขเฝ้ายามที่เดินป้วนเปี้ยนอยู่ 2-3 ตัวซึ่งก็สลบไปตั้งแต่โดนแรงกดดันของพวกเธอแล้ว ที่นี่ก็แทบไม่มีการป้องกันใดๆ เลย...สิ่งที่เธอพูดไปมันหมายความตามที่เธอพูดจริงๆ

 

           ...ช่างเป็นการป้องกันที่หละหลวมจริงๆ ...

 

              คลาเดีย สตรอมการ์ด...รักษาการเจ้าปราการลมผู้ซึ่งบัดนี้ใช้ฉายา ชาโดว์ ...เธอเหลือบมองหญิงสาวที่นั่งจมอยู่บนโซฟาพร้อมกับถอนหายใจเฮือก

 

            " ดูเธอ...ไม่ค่อยเป็นกังวลเลยนะ "

 

            " หืม? แล้วฉันต้องกังวลเรื่องอะไรล่ะคะ? "

 

              ประโยคคำถามที่ถูกถามด้วยน้ำเสียงใสซื่อของเซลรีเนียทำเอาคลาเดียหันมามองเธอเต็มๆ ตาอีกครั้ง...แต่จนแล้วจนรอดเธอก็ยังบอกไม่ได้อยู่ดีว่าคำพูดของหญิงสาวตรงหน้าเป็นคำพูดเพื่อกวนประสาทเธอเล่น...หรือเจ้าหล่อนหมายความตามที่หล่อนพูดทุกตัวอักษรจริงๆ

 

            " ฉันไม่รู้หรอกนะว่านั่นเป็นคำถามรึเปล่า...แต่ถ้าเป็นคำถามล่ะก็...คำตอบก็คงจะเป็น... อ๋อ ! ให้ฉันเดานะ สิ่งที่เราควรกังวลก็คงจะเป็น พึ่งจะมีไอ้...หรือไม่ก็ นังบ้า ที่ไหนก็ไม่รู้ได้รับสิทธิ์ครอบครองราชศาสตราชิ้นใหม่ที่เราไม่รู้จักและตื่นขึ้นมา ...มั้งคะ?  ...ให้ตายสิ! เธอยังจำได้ไหมว่าเธอส่งลูกน้องของเธอ...ทันทารอส ซานดาเรีย ไปอยู่ที่นั่นตามลำพังนะ!! "

 

            " ใช่...ฉันยังจำได้ค่ะ...... "  เซลรีเนียตอบพลางกระพริบตาปริบๆ ทำเอาห้องโถงทั้งห้องเงียบสงัดไปอึดใจนึงเต็มๆ ก่อนที่ในที่สุดเธอจะเอากำปั้นทุบฝ่ามือตัวเองพร้อมกับอุทานดังลั่น  

            " อ๋อ ! นี่ฉันต้องกังวลเรื่องนี้งั้นเหรอคะเนี่ย ?!!

 

             สิ้นคำตอบของเซลรีเนีย คลาเดียถึงกับต้องรีบเอามือทั้งสองข้างซุกไว้ในกระเป๋ากางเกงพร้อมกับข่มใจนับหนึ่งถึงร้อยในใจทันที...เพราะหากเธอไม่ทำอย่างนี้เธอคงจะห้ามใจตัวเองไม่ให้กระชากผมสวยๆ ของหญิงสาวตรงหน้าขึ้นมาแล้วตบกลิ้งไม่ได้แน่ๆ 

 

            " ซู้ด...ฮ่าาาาา...ซู้ด....ฮ่าาาาาาาาา.......โอเคๆ ถึงไหนแล้วนะ...ใช่! ใช่ๆๆๆ ฉันหมายถึงเราควรจะกังวลเรื่องนั้นแหละ...ทันทารอสเป็นยิ่งกว่าลูกน้องใต้บังคับบัญชาของเธอนะ  เธอเคยพูดกับฉันว่าเขาเป็นเหมือนเพื่อน เป็นเหมือนพี่เลี้ยงที่คอยประคับประคองเธอสมัยขึ้นครองบัลลังก์ลูซิลใหม่ๆ ไม่ใช่เหรอ? สิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้น่าจะเป็นความปลอดภัยของทันทารอสนะ--- "  เมื่อสงบสติอารมณ์ลงได้ คลาเดียก็พูดเชิงถามขึ้นเบาๆ แต่เซลรีเนียก็พูดขัดแทรกขึ้นเสียก่อนว่า

 

            " เปล่าค่ะ...ท่านกำลังเข้าใจผิดแล้ว...เข้าใจผิดอย่างแรงด้วย...สิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้สำหรับฉันและท่าน คือพาท่านไปให้ถึงตรงหน้าโบราณวัตถุเส็งเคร็งที่ฝังอยู่ใต้ตึกเส็งเคร็งๆ นี่ต่างหากล่ะคะ!! "

 

            " แต่ว่าทันทารอส!!--- "

 

            " เขาทำงานของเขา! เราทำงานของเรา!!...ทันทารอสรับรู้...และเข้าใจความเสี่ยงนี้ดี และเขาได้เลือกไปแล้วว่าเขาจะแบกรับมัน...ถึงฉันจะไม่เคยคิดว่าเขาจะเป็นอะไร...แต่ถ้าหากสมมุติว่าเขาเกิดเป็นอะไรไปขึ้นมาจริงๆ เขาก็คงจะไม่โทษพวกเราหรอกค่ะ "

 

            " น...นี่เธอยังเหลือความเป็นมนุษย์อยู่ในตัวรึเปล่า!! "

 

            " มนุษย์ ?!!!!!!! "  เซลรีเนียคำรามลั่นราวกับว่าคำๆ นี้จุดชนวนอะไรซักอย่างในตัวเธอขึ้นมา หญิงสาวพุ่งพรวดมายืนตรงหน้าคลาเดียพร้อมกับอยู่ๆ ใบหน้าซีกขวาของเธอก็แตกละเอียดราวกับกลายเป็นฝุ่นธุลีสีดำสนิทพร้อมกับที่ดวงตาสีดำสนิทส่องประกายสีเขียวเรื่อๆ แปลกๆ อย่างน่าเกลียดน่ากลัว ก่อนที่พริบตาต่อมา ทุกอย่างที่กล่าวข้างต้นจะหายไปอย่างไร้ร่องรอยพร้อมกับที่เธอพูดต่อ

 

            " อย่าพูดให้ขำดีกว่าน่า...ตั้งแต่ที่พวกเราได้เป็น ผู้ใช้ราชศาสตรา  พวกเราก็ได้ละทิ้งคำว่า มนุษย์  มานานแล้ว...สิ่งเดียวที่พวกเราทำได้และทำได้ดีคือการเป็นหมากในสนามรบเท่านั้น! ไร้สงคราม พวกเราก็เป็นได้แค่สิ่งที่ไร้ค่า ...ฉัน...ไม่สิ พวกเรา ไม่เหลือพื้นที่ให้กับความรู้สึกสามัญของมนุษย์อีกต่อไปแล้ว ...ราชศาสตราถูกสร้างให้เป็นเช่นนั้น...พวกเราถูกกำหนดให้เป็นเช่นนั้น!! เป็นไปตลอดกาล!! "

 

            " ... "  

 

             ในที่สุดหญิงสาวก็ดูเหมือนจะสงบสติอารมณ์ลงได้ เธอเป่าลมออกจากปากเบาๆ พร้อมกับจัดสาบเสิ้อของตัวเองให้เข้าที่ ก่อนจะเอ่ยขอโทษเบาๆ อย่างสำนึกผิด

 

            " ขออภัยด้วยจริงๆ ค่ะ...ถึงจะอยากโทษว่าอารมณ์ที่แปรปรวนนี่เป็นผลพวงมาจากการครอบครองราชศาสตราสายดำก็เถอะ แต่ฉันก็ยอมรับว่าอารมณ์ฉันมันไม่ค่อยอยู่กับร่องกับรอยมาตั้งแต่สมัยก่อนแล้ว...แล้วเรื่องที่ท่านพูดดันไป--- เอ่อ...เอาเป็นว่าฉันสัญญาว่ามันจะไม่เกิดขึ้นอีก ก็แล้วกันนะคะ " 

 

            " อ่าฮะ...ฉันก็หวังว่ายังงั้น "  คลาเดียตอบกลับไปพร้อมกับฝืนยิ้มแกนๆ เพราะในวินาทีนี้เธอไม่รู้จริงๆ ว่าเธอควรจะตอบหญิงสาวตรงหน้าไปว่าอะไร...เธอรู้เพียงแต่ว่าจริงๆ แล้วราชินีปิศาจสาวตรงหน้าก็เปราะบางและน่าสงสารไม่ต่างจากเด็กสาวทั่วๆ ไป...เพียงแต่เธอไม่สามารถหาคำปลอบโยนใดๆ ที่คู่่ควรกับเซลรีเนียได้เลย

 

              เซลรีเนียหลับตาลง...เมื่อแพนขนตาหนาของเธอลืมขึ้นมาอีกครั้ง แววแห่งความอ่อนแอและเปราะบางนั้นก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย เหลือไว้เพียงแต่ประกายวาวสีเขียวเรื่อๆ ภายในดวงตาสีดำสนิทที่อ่านไม่ออกเหมือนอย่างเคยเท่านั้น...เธอสูดลมหายใจยาวและถอนหายใจเฮือกออกมาอีกครั้ง

 

            " เอาล่ะค่ะ...ฉันว่าพวกเราเสียเวลามามากพอแล้ว...ไปจบเรื่องนี้กันซะทีเถอะ "  เธอพูดเบาๆ พร้อมกับออกเดินนำหน้าคลาเดียออกไป...แต่เดินไปได้เพียง 2-3 ก้าวพวกเธอก็ต้องหยุดกึกขมวดคิ้วเล็กน้อย ก่อนจะคลายออกพร้อมกับที่เธอปิดปากหัวเราะเบาๆ 

 

            " คิกๆๆๆ ...ให้ตายสิ...ถ้าฉันไม่รู้จักนายมาก่อน...ฉันต้องคิดว่านายกำลังตามจีบฉันอยู่แน่ๆ เลย...คุณเรย์ลาลีน นีโอ คอบร้า "

 

              พริบตาที่เธอพูดจบ ทั้งเรย์ลาลีน โนอาห์ วูล์ฟแฟนธ่อม และคาสซานดร้า อาโร คริสตัล ก็พุงลงมาจากชั้น 2 ลงมาตรงหน้าพวกเธอพร้อมกับที่เรย์ลาลีนตวาดดังลั่น

 

            " คลาเดีย เซลรีเนีย!! พวกเธอล้ำเส้นเกินไปแล้วนะ "

 

              เซลรีเนียและคลาเดียหันไปมองหน้ากันพร้อมกับที่ทั้งคู่หัวเราะขึ้นเบาๆ พร้อมกัน 

 

            " คิกๆๆๆๆๆ จริงเหรอเนี่ย ฉันก็หลงเข้าใจผิดคิดว่าพวกเราล้ำเส้นมานานแล้วซะอีกนะ "

 

              เรย์ลาลีนอ้าปากจะตอบกลับไป แต่เขาก็ต้องชะงักเพราะคาสซานดร้าชกผัวะเข้าเต็มๆ กลางหลังของเขาเสียก่อน

 

            " ค...คุณคาสซานดร้า?! "

 

            " เรย์ลาลีน นีโอ คอบร้า แสดงว่านายคือ--- ...นาย!...ไอ้คนตอแหล!! ปัดโธ่เอ้ย พวกผู้ชายมันก็เป็นซะยังงี้แหละ แค่พูดความจริงทั้งหมดออกมาโดยไม่หมกเม็ดนี่มันยากนักรึไงนะ!! "

 

            " ฉันเคยเตือนแกแล้วนะเรย์ฯ "  คำเปรยเบาๆ ของชายหนุ่มที่ยืนอยู่ด้านหลังทำเอาจอมเวทย์หนุ่มหันไปทำตาเขียวปัดใส่ทันที

 

            " แก! โนอาห์!! ...ส่วนคุณ คาสซานดร้า...ผมสัญญาว่าพวกเราได้คุยกันเรื่องนี้วันหลัง...เอ่อ ถึงไหนแล้วนะ...อ้อๆ เธอล้ำเส้นเกินไปแล้วนะ คลาเดีย เซลรีเนีย!! ออกจะฟังดูโหดร้ายไปหน่อยแต่พวกเธอจะไม่ได้เห็นความปราณีของฉันอีกต่อไปแล้ว! "

 

            " ฉันรู้...พวกเราถึงได้เตรียมสิ่งนี้มาด้วยไง "  หญิงสาวพูดเหมือนกับจะรับมุก แต่สิ่งที่พวกเธอชูขึ้นมาทำเอาเรย์ลาลีนถึงกับขำไม่ออก เพราะมันคือราชศาสตราสายดำลำดับที่ 1 และ 2 ...เคียวทมิฬ-เนเมซิส และดาบภูติอาถรรพ์-เอ็กโซซิส ...ราชศาสตราไร้เทียมทานที่เขาไม่อยากจะยุ่งด้วยเลย

 

              เซลรีเนียเอียงคอมองมาที่โนอาห์นิ่ง ก่อนที่กึ่งอึดใจต่อมาเธอจะร้อง อ๋อ!  และหัวเราะขึ้นเบาๆ พร้อมกับพูดต่อ

 

            " ฉันว่าฉันรู้จักนายนะ...นายคือโนอาห์ ซี. วูล์ฟแฟนธ่อม...ผู้ร้ายหลบหนีที่ค่าหัวสูงที่สุดตลอดกาลของเรา...เรื่องของนายเป็นนิทานก่อนนอนที่ดีที่สุดที่ทันทารอสเคยเล่าให้ฉันฟังเลย เชื่อไหมเนี่ย?! "

 

              คราวนี้คาสซานดร้าหันกลับมาเบิกตากว้างมองชายหนุ่มอีกคนอย่างไม่อยากเชื่อสิ่งที่เธอพึ่งได้ยิน

 

            " น...โนอาห์?!! แม้แต่นายก็? "  คำพูดตะกุกตะกักของเธอทำเอาโนอาห์ได้แต่เกาหัวแกรกๆ พร้อมกับหันไปหาเรย์ลาลีนและยักไหล่

 

            " เชื่อเหอะน่า เรื่องนี้มันยังเป็นแค่ออเดิร์ฟแบบน้ำจิ้มๆ "

 

            " คิกๆๆๆ นายนี่เป็นคนตลกอย่างที่ทันทารอสว่าจริงๆ แต่ว่าก็ว่าเถอะนะ พวกนายมี 3 ส่วนพวกฉันมีแค่ 2 แถมยังเป็นสาวน้อยอ่อนแอซะทั้งคู่อีก "  เธอหันไปหัวเราะคืกๆ กับคลาเดียที่ทำหน้าปุเลี่ยนๆ ใส่ ก่อนจะพูดต่อ  " งั้นฉันขอเรียกตัวช่วยมาอีกซักคนนะ จะได้แฟร์ๆ กัน "  เธอพูดพร้อมกับยกมือขึ้นและดีดนิ้วโดยแรง

 

              สิ้นเสียงดีดนิ้วก็ปรากฎฝูงค้างคาวฝูงมหึมาบินวนรอบพวกเขาพร้อมกับส่งเสียงร้องดังลั่น ก่อนที่ฝูงค้างคาวกลุ่มนั้นจะบินมารวมตัวกันที่ด้านหลังเซลรีเนียอย่างรวดเร็ว พริบตาต่อมาก็เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว จากฝูงค้างคาวที่น่าเกลียดน่ากลัวก็รวมตัวกันกลับกลายเป็นหญิงสาวรูปงามผิวซีดๆ คนนึงแทนราวกับเล่นกล!

 

            " สุภาพบุรุษ...และสตรี...ฉันขอแนะนำให้รู้จัก...ไดแอนน่า...แต่นายก็น่าจะรู้จักเธอดีแล้วนี่ โนอาห์...ข้าหลวงใหญ่ ไดแอนน่า วลาดิลอส ดรากูลเลี่ยน !!

 

               เรย์ลาลีนขมวดคิ้วเล็กน้อยให้กับผู้ที่มาใหม่...นอกจากการปรากฏตัวที่เหมือนกับการแสดงกลชุดเล็กๆ แล้ว  หญิงสาวตรงหน้าก็ไม่ได้แสดงถึงภัยคุกคามใดๆ อีกเลย แต่เมื่อหันไปเห็นสีหน้าของโนอาห์ที่ทำหน้าราวกับผีหลอก คิ้วของเขาก็ยิ่งขมวดปมเพิ่มขึ้นไปอีก

 

             " โนอาห์...อย่าบอกนะว่าโจทก์เก่าแก "

 

             " เอ่อ...เอาเป็นว่าหล่อนกับฉันเคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งร่วมกันมาก่อน สมัยที่ฉันยังรับราชการอยู่ที่ลูซิล "

 

             " อ่าฮะ...แล้ว? "

 

             " แล้วหลังจากนั้นฉันก็ดันเผลอไปฆ่าพ่อแท้ๆ ของเธอเข้าน่ะสิ " 

 

              " ก...แกล้อเล่นใช่ไหมเนี่ย? "

 

                โนอาห์หันมาให้เพื่อนสนิทอย่างเรย์ลาลีนเห็นหน้าของเขาชัดๆ ...แต่พอเห็นหน้าเท่านั้น เรย์ลาลีนถึงกับอยากเลือกที่จะมองไม่เห็นซะมากกว่าเพราะมันเป็นสีหน้าที่บ่งบอกอย่างชัดเจนราวกับเขียนไว้บนหน้าเลยว่า

 

 

              ...ถ้าเป็นไปได้ ตูก็อยากให้เรื่องนี้เป็นเรื่องล้อเล่นเหมือนกันละเฟ้ยยย !!!...

 

 

 

 

 

...................................................

             

          

 

 

 

 

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7.1 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7.3 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7.6 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา