Chronicles Of Legend. ปฐมบทแห่งตำนาน

7.3

เขียนโดย LanzaDeLuZ

วันที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 เวลา 19.07 น.

  67 chapter
  7 วิจารณ์
  64.14K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 19.20 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

47) ...ไม่อาจคาดเดา...(2)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
 
 
===============================================
 
 
               
             ...เป็นเวลานานเท่าไหร่ก็ไม่ทราบได้ ที่ทั้งตัวเขา...และทุกคนที่อยู่โดยรอบถูกสาปให้เป็นหิน หญิงสาวที่เรย์ลาลีนเอ่ยนามว่า เซลรีเนีย  สะบัดผมที่ยาวสยายราวกับเส้นไหมของเธอ พร้อมกับขยับสาบเสื้อจอมเวทย์ยาวของตนเองเพื่อระบายความร้อนอย่างไม่คุ้นชินกับสภาพอากาศ ก่อนที่เธอจะตัดสินใจถอดเสื้อคลุมตัวนอกออก เผยให้เห็นสัดส่วนอันน่าลุมหลงของเธอที่เด่นนูนออกมาอย่างชัดเจนแม้จะอยู่ในชุดเครื่องแบบก็ตาม...
 
             ...หญิงสาวใช้มืออันเรียวบางของตนเองโบกพัดหน้าของตนเองเบาๆ ก่อนจะเดินทอดน่องอย่างช้าๆ เข้ามาหาชายหนุ่ม...ยิ่งเธอเข้ามาใกล้เท่าไหร่ ลมหายใจของเรย์ลาลีนก็ยิ่งติดขัดมากขึ้นเท่านั้น...
 
              " ...เรย์ลาลีน... "  
 
                ทันทีที่เสียงที่ดังก้องกังวานราวกับนางภูติไซเรนของหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้าเอ่ยเรียกชื่อเขาขึ้น ชายหนุ่มรีบทรุดลงพร้อมใช้ฝ่ามือด้านที่สวมแหวนนำเวทย์ของตนเองตบพื้นและตะโกนเสียงดังลั่น!
 
              " คลาย!!! "  
 
                พริบตาที่เรย์ลาลีนตวาด เกิดเสียง ซู่ววว  เบาๆ กระจายออกไปโดยรอบ พร้อมกับที่ผู้คนที่ดูเหมือนจะถูกสาปให้เป็นหินโดยรอบจะค่อยๆ ล้มพับหมดสติไปทีละคน ยกเว้นแลนซ์ที่พลังแฝงของเขามีมากพอจะทำให้เขาไม่ล้มพับไปเหมือนกับคนอื่นๆ แต่ถึงกระนั้นเขาก็ยังต้องทรุดลงหอบหาบใจอย่างรุนแรงและควบคุมไม่ได้อยู่ดี
 
              " ว้าว...สามารถคลายมนตร์สะกดนี่แบบเป็นหมู่ จากเดิมที่ทำได้แค่ทีละคนแท้ๆ ...นายก้าวหน้ากว่าเดิมมากนะ "
 
                เรย์ลาลีนหายใจหนักๆ 2-3 ครั้ง ก่อนจะลุกขึ้นยืนอย่างเต็มสัดส่วน...เขาเรียกสีหน้าและแววตาที่เต็มไปด้วยความมั่นใจของตนเองกลับมาอย่างช้าๆ แม้ว่าในดวงตาจะเต็มไปด้วยร่องรอยแห่งความประหลาดใจ แต่เขาก็ปิดบังมันได้อย่างมิดชิด
 
              " ...มนตร์เสน่ห์ (Charm)...แถมเป็นชนิดโบราณที่เก่าแก่และทรงพลังที่สุด...ฉันจำได้ว่าฉันแก้มนตร์สะกดนี้ให้ไปแล้ว...และมนตร์นี่ไม่ได้เกิดขึ้นเองได้ง่ายๆ "
 
              " คิกๆๆ ฉันก็คิดถึงนายเหมือนกัน...เรย์ฯ ...ขอบคุณที่ถามนะ "  
 
                เสียงไฮไฟราวกับเปิดผ่านลำโพงที่เต็มไปด้วยมนตร์สเน่ห์อันทรงพลังของหญิงสาว ในตอนนี้ทำได้เพียงแค่ทำให้เรย์ลาลีนโบกมือราวกับปัดแมลงวันที่น่ารำคาญเท่านั้น
 
              " ใช่...ยอมรับว่าฉันคิดถึงเธอ...แต่คิดถึงในฐานะของ คนตาย  เท่านั้น...ทำไมเธอไม่บอกพวกเราตั้งแต่คราวนั้นว่าเธอยังไม่ตาย? "
 
                หญิงสาวผู้ทรงเสน่ห์ (อาจจะเป็นผลมาจากมนตร์เสน่ห์หรือหน้าตาของหล่อนก็แล้วแต่) นามว่าเซลรีเนียปิดปากหัวเราะเบาๆ อย่างเต็มไปด้วยมารยาอีกครั้ง
 
              " พอดีช่วงนั้นฉันยุ่งนิดหน่อย...ว่าแต่นายเถอะ...ทำไมคนระดับ 1 ใน 3 เสนาธิการทหารที่ทรงอิทธิพลเป็นอันดับต้นๆ ของเกาะเซลโลลอร์อย่างนายถึงต้องโดนประกาศจับด้วยค่าหัวสูงลิบลิ่วจากประเทศของตัวเองจนต้องหนีหัวซุกหัวซุนมาอยู่ที่นี่ได้? "
 
              " ห...หา? ประกาศจับ?...ค่าหัว?! "  แลนซ์ที่ยังคงทรุดอยู่บนพื้นทวนคำอย่างงงๆ ก่อนที่มนตร์บทเล็กๆ ของเรย์ลาลีนจะสะกดให้เขาหลับไป 
 
              " ขอโทษที แต่เรื่องนี้ค่อนข้างจะเป็นความลับอยู่พอสมควร "  ชายหนุ่มพูดเรียบๆ พร้อมกับขมวดคิ้วอย่างไม่สบอารมณ์กับการโดนปั่นหัวเล่นแบบนี้
 
              " คิกๆ ...โธ่เอ้ย...เราก็นึกว่านายเป็นพวกหัวสมัยใหม่...ที่แท้นายก็แบกหัวแข็งๆ ไว้บนบ่าไม่ต่างจากพี่ราโชลีนเลย...แบบนี้นายไม่เมื่อยคอแย่เลยเหรอ? "  หญิงสาวพูดพลางค่อยๆ ใช้แขนเรียวบางปานจะหักได้ของเธอโอบรอบคอของชายหนุ่มช้าๆ อย่างถือสนิท ทำเอาเรย์ลาลีนชักปั้นหน้าไม่ถูก...เพราะถึงแม้มนตร์เสน่ห์จะไม่มีผลกับเขาแล้ว แต่สัดส่วนที่น่าหลงใหลหลายอย่างของหญิงสาวตรงหน้าก็ไม่จำเป็นต้องใช้มนตร์เสน่ห์ซะด้วย
 
                ชายหนุ่มหักใจแกะแขนของเธอออกอย่างช้าๆ ก่อนจะถอนหายใจเฮือกหนักๆ พร้อมกับแววตาที่เฉียบคมขึ้นอีกครั้ง
 
              " ฉันจะไม่ถามเธอซ้ำแล้วนะ...เซลรีเนีย...เธอ...มาทำอะไรที่นี่?? " 
 
                เซลรีเนียเบิกตากว้างเล็กน้อยอย่างแปลกใจกับการคุมสติที่ยอดเยี่ยมของชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้า...ปกติแล้วถ้าทำถึงขนาดนี้ เธอมั่นใจร้อยทั้งร้อยเลยว่าไม่มีชายคนใดรอดจากเธอได้แน่นอนแล้วแท้ๆ ...ก่อนที่กึ่งอึดใจต่อมาเธอจะหัวเราะเบาๆ อีกครั้ง
 
              " แน่ใจนะว่านายอยากรู้จริงๆ "
 
                ก่อนที่เรย์ลาลีนจะได้ทันตอบรับหรือปฏิเสธ หรือก่อนที่เซลรีเนียจะได้ทันเล่นลูกไม้อะไรต่อไป  ดาบเล่มยักษ์สีแดงฉานราวกับเปลวเพลิงที่มาพร้อมกับหญิงสาวร่างเล็กที่เขาคุ้นเคยก็โผล่พรวดเข้ามากลางวงสนทนาอย่างกะทันหัน....อย่างไม่พูดพร่ำทำเพลง เฮเลน วอลคาโนกระชับราชศาสตราในมือมั่นพร้อมกับยกฟันด้วยกำลังผิดมนุษย์ หมายสะพายแล่งหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้าของเธออย่างไร้ความปราณี...ด้วยความเร็วชนิดที่เกินกว่าที่เรย์ลาลีนหรือใครจะห้ามทัน!
 
                เพียงแต่ก่อนที่คมของดาบที่ถูกจัดอยู่ในระดับต้นๆ ของศาสตราวุธทั้งหมดทั้งมวลของโลกจะได้สัมผัสเรียกโลหิตจากเซลรีเนีย  หญิงสาวปริศนาตรงหน้าก็สลายร่างกลายเป็นหมอกควันสีดำทมิฬที่ไม่อาจจับต้องได้ ส่งผลให้คมดาบอัคคีเอ็กโซดัสที่ควรจะหยุดหล่อนได้ในกระบวนท่าเดียวกลับฟันวืดไปราวกับฟันอากาศธาตุไม่มีผิด!!  ในขณะที่หมอกสีดำทมิฬก็ค่อยๆ ลอยเอื่อยๆ วนรอบตัวทั้งเฮเลนและเรย์ลาลีนอย่างยั่วเย้า กอ่นจะลอยไปค่อยๆ ควบแน่นก่อร่างกลายเป็นหญิงสาวปริศนานามว่าเซลรีเนียอีกครั้ง ในที่ๆ ปลอดภัยจากรัศมีดาบในมือของเฮเลน
 
              " คิกๆๆๆๆ ...เกือบไปแล้วเชียว...ถ้าเมื่อครุ่ฉันรับรู้ถึงจิตสังหารช้าไปซักนิดเดียว มีหวังได้ขาดสองท่อนไปแล้วแน่ๆ ...ลงมือได้อย่างโหดเหี้ยมอำมหิตเสียเหลือเกินนะ...ท่านผู้ใช้ราชศาสตราดาบอัคคีเอ็กโซดัส ...เฮเลน  วอลคาโน "  เซลรีเนียเอ่ยหยอกเย้าอย่าอารมณ์ดี ในขณะที่เฮเลนขมวดคิ้วจนหน้ายุ่ง ก่อนที่เธอจะตวาดก้องอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย
 
              " ปลดผนึกศาสตราแห่งราชันย์ !  The Ultimate Warrior !!! "  เฮเลนตะโกนปลดปล่อยพลังของดาบเข้าสู่ระดับสูงสุดพร้อมกับโถมตัวพุ่งเข้าใส่หญิงสาวตรงหน้าทันทีโดยไม่ยอมรอให้เศษโลหะรูปสามเหลี่ยมสีแดงเพลิงที่แตกออกมาจากดาบประกอบเป็นเกราะแขนเสร็จสิ้น...เพียงไม่ถึงเสี้ยวของเสี้ยววินาที ดาบเรียวยาวสีเขียวปีกแมลงทับสลักอักษรโบราณที่เขียนว่า  ' เตโช '  ในมือของเธอก็ฟาดฟันหมายสะพายแล่งหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้าอีกครั้ง!!
 
 
               เคร้งงงงง !!!!!
 
 
                ชั่วพริบตาก่อนที่ดาบที่เปล่งรัศมีร้อนแรงด้วยธาตุ เตโช  (ไฟ) อย่างดาบอัคคีเอ็กโซดัสจะเข้าถึงตัว  ดาบที่มีลักษณะคล้ายกับดาบเรเปียร์ (Rapier) ใบดาบยาวสีเงินยวงเล่มบางที่ปรากฏอยู่ในมือของเซลรีเนียตอนไหนก็ไม่อาจทราบได้ก็วาดตวัดหยุดราชศาสราที่มาพร้อมกับพลังแฝงอันมหาศาลได้อย่างเหลือเชื่อ!! 
 
              " ในที่สุดก็โผล่หางออกมาจนได้นะ!! ยัยจิ้งจอกเจ้าเล่ห์!! "  เฮเลนคำรามฮึ่มพร้อมกับใช้มืออีกข้างกดไปที่สันดาบเพื่อเพิ่มน้ำหนักลงไปอีก ในขณะที่เซลรีเนียยังคงใช้ดาบที่เรียวบางจนดูเหมือนเป็นเครื่องประดับมากกว่าอาวุธ พร้อมกับมือเรียวบางเพียงข้างเดียวต้านทานไว้ได้อย่างน่าอัศจรรย์
 
              " อะไรกัน?...อยู่ๆ ก็พุ่งเข้ามาแบบนี้...ฉันก็ตกใจแย่น่ะสิ "  เซลรีเนียพูดพลางกลั้วหัวเราะ พร้อมกับออกแรงปัดตวัดดาบตอบโต้ออกมา ซึ่งทำให้เฮเลนไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากกระโดดถอยห่างจากรัศมีของดาบปริศนานั้นออกมาคุมเชิงด้วยสีหน้าสุดแสนจะขัดใจ
 
              " รอให้ฉันเอาดาบเสียบหน่มน้มน่ารังเกียจ(?) นั่นก่อนเถอะ...ดูซิว่าจะทำหน้าระรื่นแบบนี้ต่อไปได้อีกไหม?! "  เฮเลนตาลุกวาวพร้อมกับขยับดาบในมือให้มั่นอีกครั้ง...คราวนี้ราชศาสตราเอ็กโซดัสถึงกับคำรามหึ่งๆ พร้อมกับเรืองแสงขึ้นอย่างน่ากลัว
 
                แต่ก่อนที่เธอจะได้ทำอย่างที่เธอขู่ อยู่ๆ ก็ปรากฎสายลมหวนเอื่อยๆ พัดมาจากด้านหลัง...เสี้ยววินาทีต่อมา เธอก็รับรู้ถึงกรงสายลมบางๆ พุ่งมาล้อมรอบตัวเธอและยัยผู้หญิงกวนโมโหตรงหน้าเธอเอาไว้.....มันไม่ใช่พันธนาการที่ยุ่งยากหรือแข็งแกร่งอะไรมากมายนัก ชนิดที่เพียงแค่เธอเอาดาบแตะๆ ก็คงจะแตกสลายอย่างแน่นอน...แต่เวทย์สายลมชนิด ' ดาดๆ '  นี้ก็เรียกร้องความสนใจเธอได้มากพอที่จะทำให้เธอต้องหันกลับไปมองชายหนุ่มเจ้าของเวทย์บทนี้
 
              " คิด...จะทำอะไร...ของนาย?...เรย์ฯ "  หญิงสาวร่างเล็กกล่าวเชิงคำรามอย่างช้าๆ โดยเน้นย้ำแต่ละพยางค์อย่างชัดเจนพลางขยับดาบในมือให้มั่นอีกครั้ง...อันเป็นสัญญาณที่ชัดแจ้งว่าหากเหตุผลไม่น่าฟังหรือเข้าหูเธอเพียงพอ ชายหนุ่มคนนี้เป็นต้องเสียใจที่หยุดเธออย่างกะทันหันแบบนี้แน่
 
              " ฉันต้องเป็นฝ่ายถามเธอมากกว่า! เฮเลน....ทำอะไรของเธอเนี่ย?!  อยู่ๆ ก็พุ่งเข้ามาใส่เอาๆ อย่างกับคนวิกลจริตอย่างงั้นแหละ! "
 
              " นี่ๆ เขาหาว่าเธอเป็นพวกบ้า ที่ชอบตีก่อนแล้วถามทีหลังแหน่ะ คุณเฮเลน "
 
              " หล่อนน่ะ เงียบไปเลย!! "  เฮเลนหันกลับไปแหวเซลรีเนีย ก่อนเธอจะเบนเป้ากลับมาหาเรย์ลาลีนต่อ  " อะไรของนาย! หลงเสน่ห์หน่มน้มปิศาจนั่นจนมองไม่เห็นดาบบ้านั่นในมือของเธอรึยังไง!? ...โธ่เอ้ย! พวกผู้ชายมันก็เป็นอย่างนี้ซะทุกคนนั่นแหละ!! "
 
              " น...หน่มน้มปิศาจ?...เฮ้ย! ฉันถามดีๆ ไหงต้องฉุนใส่ฉันด้วยล่ะ?! "  เรย์ลาลีนถามอย่างงงๆ  ก่อนที่เขาจะหันไปเพ่งมองดาบเล่มเรียวในมือของเซลรีเนียชัดๆ เป็นครั้งแรก
 
             ...มันเป็นดาบที่มีลักษณะกึ่งกลางระหว่างดาบเซเบอร์ (Sabre) ที่ใช้ในกีฬาฟันดาบ กับดาบเรเปียร์ (Repier) ที่เป้นดาบขุนนางในยุคกลาง...ใบดาบเล็กเรียวสีเงินยวงมันวาว แม้จะยาวกว่าดาบเรเปียร์ทั่วไปแต่ความกว้างของใบดาบกลับน้อยกว่า จนทำให้ดาบเล่มนี้เป็นเหมือนดาบที่ใช้สำหรับโถมแทงเท่านั้น เพราะมันดูบอบบางเกินกว่าจะเอาไปฟาดฟันหรือกระทบกับอะไรได้...ส่วนที่เป็นโกร่งดาบและประกับกันมือที่เป็นโลหะสีดำสนิทไม่ทราบชนิดถูกฉลุเป็นลวดลายของศิลปะยุคเก่าอย่างวิจิตรบรรจงและมีเจตนาลดน้ำหนักส่วนเกินลงให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ส่วนท้ายสุดของด้ามดาบประดับด้วยอัญมณีเม็ดโตสีดำสนิทราวกับนิลน้ำงาม แต่กลับเปล่งประกายยิ่งกว่าเพชรชั้นหนึ่งเสียอีก......ด้วยส่วนประกอบทั้งหมด มันทำให้ไม่ว่าจะมองยังไง ดาบเล่มนี้ก็ดูเหมือนดาบที่ใช้สำหรับประดับบารมี มากกว่าจะเป็นอาวุธเพื่อสู้รบ...
 
              " ทำไม?  ดาบเล่มนั้นมันทำไมเหรอ? "  เรย์ลาลีนหันกลับไปถามอย่างไม่เข้าใจ ขณะที่เฮเลนได้แต่ยิ้มเครียดๆ โดยไม่ยอมลดจิตคุกคามที่มีต่อหญิงสาวตรงหน้าเธอลงเลย
 
              " หึ! บอกไปนายอาจจะไม่เชื่อ เพราะตอนแรกแม้แต่ฉันเองก็ยังแทบไม่เชื่อตัวเองเลย...แต่การหยั่งสัมผัสที่มีต่อราชศาสตราดัวยกันมันไม่มีวันผิดพลาดแน่! "
 
              " ด...เดี๋ยวนะ! เมื่อกี๊เธอพูดว่า ราชศาสตราด้วยกัน  งั้นเหรอ? "
 
              " ใช่! ดาบเล่มนั้นเป็น 1 ในราชศาสตราแบบเดียวกับดาบเอ็กโซดัสของฉันหรือเคียวทมิฬเนเมซิสไม่ผิดแน่...ราชศาสตราที่สาปสูญอีกเพียงชนิดเดียวที่มีรูปลักษณ์เป็นดาบ...ราชศาสตราสายดำลำดับที่ 2  ดาบภูติอาถรรพ์  เอ็กโซซิสต์ !!  (Exorcist) "
 
              " !!! "
 
              " ชิ! ทำหน้าเหมือนโดนผีหลอกเลยนะ...ถามจริงๆ เถอะ เรย์ฯ...นายไปรู้จักกับตัวอันตรายระดับนี้ได้ยังไงกัน?....ยัยหน่มน้มลงพุงนี่เป็นใครกันแน่? "
 
              " น...หน่มน้มลงพุง ? "  เรย์ลาลีนได้แต่ครางออกมา...นึกไม่ออกจริงว่ายัยเฮเลนนี่ไปสรรหาคำเปรียบเปรยกระทบกระทั่งพวกนี้มาจากไหน ในขณะที่เซลรีเนียกลับปิดปากหัวเราะอีกครั้งอย่างไม่ถือสาอะไร ก่อนที่เธอจะพูดขึ้นเบาๆ 
 
              " ไม่ต้องลำบากตอบหรอก เรย์ฯ...ให้ฉันเป็นคนแนะนำตัวฉันเองดีกว่า...นะ? "  หญิงสาวพูดพลางค่อยๆ ปลดผ้าคลุมอันเป็นเครื่องแบบของนักเรียนจอมเวทย์ที่เธอใส่เพื่ออำพรางตัวออก
 
              " เซลรีเนีย? "  ชายหนุ่มหันกลับไปมองหญิงสาวผู้มีอดีตอันลึกลับกับเขาพร้อมกับจะพูดอะไรบางอย่าง แต่คำพูดทั้งหมดของเขาก็ถูกกลืนกับลงไปในลำคอทันทีเมื่อเห็นอาภรณ์ที่อยู่ภายใต้ผ้าคลุมนักเรียนเวทย์ของหญิงสาวตรงหน้าชัดๆ  ดวงตาภายใต้คอนแท็กเลนส์ของเขาเบิกกว้างอย่างตกตะลึง
 
             ...ภายใต้ผ้าคลุมเครื่องแบบนักเรียนจอมเวทย์แห่งคริสตัล ฟอร์ซ ที่ถูกตัดขึ้นอย่างเรียบง่าย หญิงสาวอยู่ภายใต้อาภรณ์อันเป็นเครื่องทรงชั้นสูงสุดอย่างที่จักรพรรดิณีพระองค์หนึ่งพึงมีได้  ผิดแต่เครื่องทรงทุกชนิดที่เธอสวมใส่อยู่ถูกถักทอขึ้นจากเส้นใบสีดำสนิททั้งสิ้น แม้แต่อัญมณีที่ประดับต้นแขนหรือสร้อยคอของเธอก็ไม่เว้น...
 
             ...หญิงสาวยิ้มพรายพร้อมกับยื่นมือด้านที่ไม่ได้กุมดาบไว้มาข้างหน้า...พริบตาต่อมาปรากฎเสียง ซู่ว !  เบาๆ  พร้อมกับการปรากฎขึ้นของช่อเถาวัลย์หนามแห้งๆ สีดำสนิทที่ถูกถักให้มีลักษณะคล้ายมงกุฎประดับอัญมณีไม่ทราบชนิดสีดำสนิทเม็ดโต...เซลรีเนียหลับตาลงพร้อมกับค่อยๆ สวมมงกุฎหนามนั้นช้าๆ ...เมื่อเธอลืมตาขึ้นอีกครั้ง  ดวงตาสีดำสนิทของเธอกลับเต็มไปด้วยประกายที่เรย์ลาลีนเคยได้เห็นอยู่บ่อยๆ จากดวงตาขององค์มกุฎราชกุมารีมิลิรินของเขา...
 
 
             ... ประกายแห่งสิทธิอำนาจ ! ...
 
 
                ภายใต้ใบหน้าที่ยังคงประดับด้วยรอยยิ้มพรายอัทรงเสน่ห์ หญิงสาวค้อมหัวลงเล็กน้อย พร้อมกับพูดขึ้นอย่างแช่มช้า
 
              " ขอเสียมารยาทแนะนำตัวนะคะ...ดิฉัน  เซลรีเนีย  เดียร์ริส  อันดาเรสส์  ผู้ใช้ราชศาสตราสายดำลำดับ 2 ...ดาบภูติอาถรรพ์ เอ็กโซซิสต์  และอีกตำแหน่งนึง ...จักรพรรดิณีอันดาเรสส์ที่ 4 แห่งราชอาณาจักรลูซิล เจ้าค่ะ "
 
 
 
 
....................................................
  
              
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7.1 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7.3 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7.6 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา