Chronicles Of Legend. ปฐมบทแห่งตำนาน
7.3
เขียนโดย LanzaDeLuZ
วันที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 เวลา 19.07 น.
67 chapter
7 วิจารณ์
64.18K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 19.20 น. โดย เจ้าของนิยาย
42) ...Awaken...3
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ================================================
...ในชั่วอนุสติแรกที่สติสัมปชัญญะของเรย์ลาลีนฟื้นคืนสติขึ้นมา ร่างกายของเขาหนักอึ้งราวกับถูกถ่วงด้วยตะกั่วไปทั่วทั้งร่าง...แต่กลับไม่มีร่องรอยของความเจ็บปวดผ่านเข้าสู่สมองเลย ซึ่งมันก็น่าแปลกใจเล็กน้อยเพราะสามัญสำนึกสุดท้ายของเขาก่อนจะหมดสติไปคือการที่เขาโดนระเบิดสายลมที่ติดต่อกันเป็นลูกโซ่แบบฟูลออฟชั่น ซึ่งถ้าวัดจากแรงระเบิดแล้ว เขาจะไม่แปลกใจเลยที่ตนเองจะไม่มีวันตื่นขึ้นมาอีก...หรือถ้าเขาโชคดีที่สุด อย่างน้อยเขาก็คงต้องเสียอวัยวะส่วนใดส่วนหนึ่งไปแน่ๆ...
' เอาล่ะสิ ตูเอ๋ย !! ...เท่าที่สัมผัสได้ เขายังไม่ได้เสียแขนขาหรืออวัยวะสำคัญๆ อะไรไป ...แต่นั่นหมายความว่าเราคงถูกชาโดว์หิ้วมาแล้วสินะ...เอาไงต่อดีล่ะ ' เขาเริ่มใช้สติปัญญาที่เริ่มจะเข้าที่เข้าทางของตัวเองคิดหาทางออกอย่างสุขุม แต่ความคิดเรื่องทางหนีทีไล่ของเขาก็หยุดลงทันทีเมื่อเขาได้ยินเสียงของหญิงสาวผู้ที่เขาเทิดทูนสุดชีวิต...เชรีน่า เมโอ คริสตัล...
" ...ขอโทษนะที่ฉันปล่อยให้นายตกอยู่ในอันตราย...น้องชายสุดที่รักของพี่...แต่นายทำได้ดีมากเลย...ทำได้ดีจริงๆ ...เพราะงั้น ...จงตื่นเถิด เจ้าพักมามากพอแล้ว...Despertar (เดสเพอต้า - การปลุกให้ตื่น) " ประโยคหลัง เชรีน่าร่ายเวทย์ด้วยน้ำเสียงปราณีพร้อมกับก้มลงมาจุมพิตเบาๆ ที่หน้าผากของชายหนุ่ม
ราวกับมีน้ำทิพย์อันเย็นฉ่ำไหลรินมาจากรอยจุมพิตนั้น ร่างกายที่หนักอึ้งราวกับตะกั่วของเขาค่อยๆ เบาลงจนกลับเป็นปกติ หนังตาที่เคยถูกถ่วงหนักค่อยๆ ลืมขึ้นอย่างช้าๆ
" พี่?...นี่มันหมายความว่ายังไงกันเนี่ย? ...ผมมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง...แล้วชาโดว์ล่ะ? แล้ว--- " ชายหนุ่มพรั่งพรูสิ่งที่เขาสงสัยอยู่ออกมาจากปากทันทีที่เขาฟื้นขึ้น แต่มันก็ถูกหยุดลงด้วยนิ้วชี้เรียวยาวของผู้เป็นพี่สาวที่วางลงมาแตะที่ริมฝีปาก
" ทุกอย่างโอเค...นายไม่เป็นไรแล้ว...เมื่อคืนนายทำได้ดีมากๆ เลยล่ะ...เพราะงั้นเย็นใจได้...งั้น...ทักทายพี่อย่างเป็นทางการหน่อยสิ... "
" พี่!!...แต่ว่า... "
" เรย์ฯ... " น้ำเสียงกึ่งบังคับกึ่งขอร้องของหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้าเจือเต็มไปด้วยกระแสของความห่วงหาอาทรอย่างบริสุทธิ์ที่สุดเท่าที่แม่คนนึงจะพึงมีให้กับลูกของเธอได้...มันทำให้เขาอ้าปากค้าง ก่อนที่กึ่งอึดใจต่อมาชายหนุ่มจะหัวเราะเบาๆ อย่างเหนื่อยอ่อน
" ...อรุณสวัสดิ์ครับ...พี่สาว... " เรย์ลาลีนพูดกับเชรีน่าอย่างเหนื่อยอ่อน เบาไม่เกินเสียงกระซิบพลางยิ้มอย่างซีดเซียว ในขณะที่ผู้เป็นพี่สาวหรืออีกนัยหนึ่งคือแม่แท้ๆ ของเขายิ้มตอบกลับด้วยดวงตากลมโตที่รืื้นไปด้วยน้ำตา
" ยินดีต้อนรับกลับมา...น้องชายของพี่ "
...ย้อนกลับไปเมื่อเกือบ 12 ชั่วโมงก่อน...บริเวณจุดศูนย์กลางการปะทะกันระหว่างหนึ่งจอมเวทย์ผู้มีสายเลือดพิเศษ กับหนึ่งผู้ใช้ธาตุสายลมสาวที่ถือครองราชศาสตราชั้นสูงซึ่งปรากฎผลออกมาเรียบร้อยแล้ว...ในชั่วเสี้ยววินาทีที่เรย์ลาลีนใช้มหาเวทย์ Hi-Ancient เชรีน่าที่กำลังเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงสุดเพื่อตรงไปยังที่นั่นก็ถึงกับอุทานดังลั่น!
" เป็นไปไม่ได้!! มหาเวทย์โบราณ?...ไม่เคยมีผู้สืบทอดหรือรู้วิธีการร่ายมหาเวทย์แบบนี้มากว่า 500 ปีแล้วนี่!? "
...มหาเวทย์ Hi-Ancient หรือมหาเวทย์โบราณเป็นเวทย์มนตร์ชั้นสูงสุดที่เหนือกว่าการวัดค่าพื้นฐานของเวทย์ธาตุ 10 ระดับเสียอีก...เล่ากันว่าถูกเขียนขึ้นบนแผ่นจารึกโดย เทพมารดา ซิลวาเรียล่า ...ผู้สร้างโลก ...โดยแผ่นจารึกนั้นสูญสลายไปพร้อมกับการสิ้นสุดของ มหาสงครามผู้ใช้ราชศาสตรา แห่งอดีตทวีปเอเธอน่อล ...จากบันทึกทางประวัติศาสตร์ ผู้ใช้มหาเวทย์ Hi-Ancient คนสุดท้ายเสียชีวิตอย่างกะทันหันเมื่อ 500 ปีที่แล้ว ทำให้เส้นทางของการสืบทอดสะดุดหยุดลงแค่นั้น...ปริศนาก็คือ...เรย์ลาลีนรู้วิธืร่ายเวทย์มนตร์โบราณที่หายสาปสูญไปจากโลกนี้ไปแล้วได้อย่างไร?...
" ย...แย่ล่ะสิ!! ฉันเคยอ่านเจอในคัมภีร์เก่า ถ้าเวทย์ที่เรย์ร่ายคือ ยุคันตวาต จริง...เวทย์นั่นได้ฉีกชาโดว์เป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยก่อนที่เราจะได้ทันสอบสวนเธอแน่!! " อันนาเทียน่าที่ใช้พลังของเธอทำให้ตัวเองลอยอยู่กลางอากาศรีบใช้ความคิดของเธอเพื่อแข่งกับเวลาทันที...เพื่อให้สืบทราบถึงจุดประสงค์และผู้ร่วมขบวนการ พวกเธอต้องจับชาโดว์ให้ได้เป็นๆ ...การฆ่าเธอนอกจากจะไม่ช่วยให้คดีคลี่คลายแล้ว ยังจะทำหญฺิงสาวที่มีความสามารถอย่างเธอต้องตายไปอย่างไม่คุ้มค่าเอาเสียเลยด้วย
...ก่อนที่เทียน่าจะได้ทันนึกแผนเด็ดๆ ออก เฮเลนซึ่งอยู่ล้ำหน้าไป 2-3 ช่วงตัวก็ตัดสินใจเพิ่มความเร็วของตนเองขึ้นไปจนถึงระดับสูงสุดของเธอ...พริบตาเดียวเธอก็ยืนคั่นกลางระหว่างชาโดว์ที่ตกใจจนทำอะไรไม่ถูกกับเสาพายุงวงช้างสีเขียวเรืองขนาดยักษ์ที่เต็มไปด้วยสายลมที่คมกริบยิ่งกว่าของมีคมใดๆ ที่มนุษย์เคยสร้างขึ้น และมันจะไม่หยุดจนกว่าเป้าหมายที่ถูกเลือกหรือในที่นี้คือตัวของหญิงสาวนามว่าชาโดว์จะถูกฉีกเป็นชิ้นๆ...
" เฮเลน!! เป็นบ้าไปแล้วเหรอ!? เธอรู้ตัวหรือเปล่าว่าเธอกำลังจะทำอะไรน่ะ!! " ซานดร้าอุทานดังลั่น เพราะว่าหากตัดสินจากที่เธอเห็น สิ่งที่เฮเลนกำลังทำอยู่นี่คือการฆ่าตัวตายชัดๆ แต่เชรีน่ากลับเบิกตากว้างเมื่อเธอนึกขึ้นได้ว่าสิ่งที่เฮเลนกำลังทำอยู่คืออะไร
" เปล่าเลย...ฉลาดมาก เฮเลน...สิ่งเดียวที่สามารถหยุด สายลม ได้ไม่ว่าจะระดับไหนก็ตาม...ราชศาสตราดาบอัคคี...เอ็กโซดัส ... "
กลับมาที่เฮเลน ทั้งๆ ที่เธอยังไม่ได้ตกอยู่ภายใต้อาณาเขตของมหาเวทย์โบราณ ยุคันตวาต แบบเต็มๆ หรือจะพูดให้ถูก คือทั้งๆ ที่เสาพายุนั่นยังอยู่ห่างจากเธอเกือบสิบเมตรแท้ๆ แต่มันกลับเหมือนกับมีคมมีดโกนนับหมื่นนับแสนเล่มที่พยายามฝ่าเกราะจิตของเธอเข้ามา...ซึ่งหากไม่ได้การคุ้มครองของดาบเอ็กโซดัส เธอคงจะถูกพายุนี้ฉีกเป็นชิ้นๆ ไปแล้วแน่ๆ
" เอาเลย...ลูกแม่...วันนี้เราจะได้รู้กันเสียที ว่าสมญานามของนาย...ดาบตัดวายุ ดาบที่เป็นปฏิปักษ์ต่อเวทย์มนตร์ที่สุด...จะเป็นจริงอย่างที่เขาเล่าลือกันหรือไม่!! " หญิงสาวกระซิบเบาๆ กับราชศาสตราคู่ใจในมือที่กำลังสั่นสะท้านกับความท้าทายครั้งใหม่ของมัน
" ใช่แล้วๆ ความรู้สึกนี้แหละที่ฉันถวิลหา!...ถึงเวลาทดสอบแล้ว!! ...รูปแบบพิเศษแห่งราชศาสตรา...ปลดผนึกศาสตราแห่งราชันย์ !!...The Ultimate Warrior !!! "
ทันทีที่เฮเลนประกาศคีย์เวิร์ดบางอย่าง ราชศาสตราดาบเอ็กโซดัสก็เกิดการเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่...ตัวดาบสีแดงขนาดยักษ์แตกออกกลายเป็นโลหะสีแดงเพลิงรูปสามเหลี่ยมชิ้นเล็กๆ นับพันชิ้น พุ่งเข้ามาประกอบกันใหม่อีกครั้งกลายเป็นเกราะแขนและไหล่ด้านขวาซึ่งเป็นด้านถนัดและเป็นด้านที่เธอถือดาบ...เมื่อสิ่งที่หุ้ม ดาบ แตกออกทั้งหมด มันก็เผยให้เห็นสิ่งที่มันปกปิดเอาไว้ภายใน...
...มันคือใบดาบที่แท้จริง! ...ใบดาบเรียวยาวที่ตีจากเหล็กกล้าสีเขียวเข้มราวกับปีกแมลงทับที่ถูกตีขึ้นอย่างปราณีตและวิจิตรงดงาม ไล่ลงมาถึงส่วนโกร่งดาบถูกสลักไว้ด้วยอักขระโบราณที่เขียนด้วยคำประหลาดๆ อ่านว่า เตโช ...
" เอาเลย ! เอ็กโซดัส !! กะอีแค่พายุต๊อกต๋อยแค่นี้ทำอะไรนายไม่ได้หรอก ...ตัดวายุยุยุยุยุยุยุยุยุยุยุยุยุ !!!! " หญิงสาวฟาดฟันดาบเอ็กโซดัสในรูปแบบ Ultimate Warrior สร้างรังสีดาบสีแดงเพลิงพุ่งเข้าใส่พายุสีเขียวขนาดยักษ์นั่น ซึ่งหากมองด้วยตามันเหมือนกับเอาไม้ซีกงัดไม้ซุงไม่มีผิด แต่สำหรับผู้ที่มีพลังพิเศษแล้ว...ทั้งๆ ที่ซานดร้าและเชรีน่ากำลังยุ่งกับการควบคุมเรย์ลาลีนและเทียน่าที่กำลังเข้าจับกุมชาโดว์ยังต้องหันกลับมามอง
" ม...ไม่อยากจะเชื่อเลย...ยัยเด็กคนนี้...สามารถบีบอัดธาตุไฟชั้นสูงให้เล็กเหลือแค่นั้นได้ยังไงกันเนี่ย?...ดูถูกผู้ใช้ราชศาสตราไม่ได้เลยจริงๆ ด้วย " เชรีน่าอุทานอย่างทึ่งๆ พลางปัดเวทย์สายลมชนิดเอาตายของเรย์ลาลีนที่กำลังคลุ้มคลั่งอยู่ออกไป
ทันทีที่รังสีดาบสีแดงเพลิงนั่นกระทบกับพายุ มันก็แตกกระจายออกกลายเป็นเสาเพลิงที่สว่างจ้าราวกับกลางวัน ห่อหุ้มพายุที่สูงเสียดฟ้านี้ไว้ภายใน ก่อนจะค่อยๆ สลายและบีบอัดพายุนั้นจากภายนอก...ภายในเวลาไม่ถึงนาที สุดยอดมหาเวทย์โบราณที่มีพลังมากพอจะถล่มเกาะ 1 ใน 4 เกาะให้จมหายไปได้กลับถูกทำให้สลายหายไปอย่างไร้ร่องรอย!
" ช...ชนะแล้ว... " หญิงสาวชูกำปั้นขึ้นไปบนอากาศเพื่อประกาศชัยชนะแบบเด็กๆ ก่อนจะทรุดฮวบลงไปอย่างหมดแรง
...ทางด้านของเชรีน่าและอันนาเทียน่าที่กำลังพยายามหยุดเรย์ลาลีนที่กำลังคลุ้มคลั่งอยู่ ต้องใช้ความพยายามกันอย่างมาก ไม่ใช่แค่เพราะพวกเธอไม่ต้องการให้ชายหนุ่มได้รับบาดเจ็บเท่านั้น แต่เพราะชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้านั้นอยู่ในภาวะที่เชรีน่าเรียกว่า OverDrive ครอบงำจนทำให้เขาแยกมิตรหรือศัตรูไม่ออก แถมยังไม่รู้ว่าพลังจิตที่เขาตื่นขึ้นมาเป็นพลังจิตแบบไหนอีกต่างหาก...เพราะงั้นอย่าว่าแต่ควบคุมตัวแบบเป็นๆ เลย...ต่อให้จับตายยังยากเลยด้วยซ้ำ...
" รู้แล้วว่าทำไมพวกรุ่นก่อนๆ ถึงได้เลือก ปลุก พวกเราตั้งแต่ยังเด็ก...เพราะถ้าปลุกให้ตื่นตอนที่มีพลังเพียบพร้อมแบบนี้...นี่มันงานช้างชัดๆ " เชรีน่าบ่นเบาๆ ...โชคดีอยู่บ้างที่โหมด OverDrive ทำให้ผู้ที่อยู่ในโหมดนี้ถูกสัญชาตญาณเข้าครอบงำจนทำให้มีแต่ลูกบ้าโดยไร้ซึ่งยุทธศิลป์ซึ่งเป็นจุดเด่นของเรย์ลาลีน...เพราะไม่งั้นพวกเธอคงต้องลำบากกว่านี้อีกหลายเท่าแน่ๆ
" ดูเหมือนชาโดว์จะเสร็จเราแล้วนะคะ...พี่...แล้วทางพวกเราล่ะคะ...เอาไงดี? " เทียน่ายิ้มบางๆ ขณะเรียกดาบสีทองสลักอักขระเทพที่เคยอยู่ในมือของซานดร้าขึ้นมาไว้บนมือ
" จะยอมแพ้เฮเลนงั้นเหรอ?...เทียน่า " เชรีน่าเลิกคิ้วแหย่อย่างรู้เส้นกันดี...เธอรู้ดีว่าเทียน่าเป็นหญิงสาวที่ไม่ยอมน้อยหน้าใคร...แม้จะเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ หรือเรื่องคอขาดบาดตายแบบนี้ก็ตาม
" คิกๆๆๆ แหม...เบื่อจริงเชียวคนรู้ทันเนี่ย "
" ดูท่าคืนนี้เธอจะอารมณ์ดีเหลือเกินนะ... "
" ก็แหม...ช่วยไม่ได้นี่คะ...ชาโดว์ก็ถูกจับแล้ว แถมเรายังไม่ได้สูญเสียกำลังอาจารย์หรือสารวัตรนักเรียนไปเลยแม้แต่น้อย มีแต่กำไรกับกำไร...ไม่ให้มีความสุขตอนนี้จะไปมีความสุขตอนไหนกันกันคะ " อันนาเทียน่ายิ้มอย่างอารมณ์ดี แต่เพียงชั่วเสี้ยววินาทีต่อมาเธอก็ต้องรีบลอยหวือสูงขึ้นเพื่อหลบเวทย์โจมตีของเรย์ลาลีนในภาวะ OverDrive ที่โจมตีใส่เธอ
" โธ่เอ้ย! อุตส่าห์แอบชื่นชมนิสัยสุภาพบุรุษของเขาแท้ๆ รู้ไหมคะพี่...ฉันชอบเขาในแบบเมื่อก่อนมากกว่าตอนนี้เยอะเลย "
" จะชอบแบบไหนก็ไม่ดีทั้งนั้นแหละย่ะ! " เชรีน่าหันมาแหวด้วยน้ำเสียงราวกับพ่อที่หวงลูกสาวก่อนจะถอนหายใจเฮิอก ไม้เท้าเวทย์ในมือเธอสว่างวาบซึ่งบ่งบอกว่าเธอกำลังร่ายเวทย์มนตร์บางอย่างอยู่
" ...ในนามแห่งผู้บัญญัติกฎ เจ้าแห่งโซ่ตรวนน้ำแข็งแห่งพันธนาการ...ข้าขอผูกตรึงเจ้าไว้ ณ ที่นี้ตลอดกาลนาน...โลงเย็นนิรันดร์ !!!! " เชรีน่าเลือกที่จะใช้เวทย์บทเดียวกับที่เธอเคยสาปเหล่าทหารจอมเวทย์ของเรย์ลาลีนที่เกาะทองคำ...เพราะมันเป็นเวทย์บทเดียวที่เธอบัญญัติขึ้นมาเอง แล้วมันมีอำนาจแค่พันธนาการแต่ไม่ได้ทำให้ผู้โดนคาถานี้เจ็บปวดเลยแม้แต่น้อย
แกร๊ก !! ......เพล้งงงงงง !!!!
" เอ๋!? เพล้งเหรอ? ว้ายยยยย !!! " เชรีน่าอุทานลั่นพร้อมกับลนลานหลบศรเวทย์รูปร่างน่ากลัวแปลกๆ หลายสิบดอกที่พุ่งเข้าใส่เธออย่างประสงค์ร้าย
" พี่เชรีน่า...มัวเล่นอะไรอยู่ล่ะคะ...ฉันเริ่มง่วงแล้วนะ พรุ่งนี้ต้องตื่นมาเตรียมงานประเพณืแต่เช้าอีก "
" จะบ้าเรอะ! ฉันเล่นที่ไหนกันล่ะยะ...ชักแปลกๆ แล้วสิ...ความรู้สึกที่เหมือนเวทย์ที่ร่ายโดนหยุดกลางคันแบบนี้มันหมายความว่ายังไงกันนะ? " เชรีน่าพึมพำเบาๆ ...เธอเป็นผู้บัญญัติหรืออีกนัยหนึ่งคือประดิษฐ์เวทย์ โลงเย็นนิรันดร์ บทนี้ขึ้นมาเอง ทำให้เธอรู้ดีว่าเวทย์บทนี้ไม่สามารถถูกหยุดได้ด้วยวิธีการธรรมดาๆ ...อันที่จริงเวทย์บทนี้จะทำงานโดยการแช่แข็งเป้าหมายอย่างกะทันหันโดยไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้า แถมยังกินรัศมีการแช่แข็งเป็นวงกว้างเสียด้วย ทำให้แม้แต่จะหลบยังยากเลยด้วยซ้ำ...อย่าว่าแต่หยุดมันเลย
" เอ๋?...พี่กำลังจะบอกว่าเวทย์มนตร์ของพี่ถูกหยุดอย่างกะทันหันเพราะรูปแบบพลังจิตที่พึ่งจะ ตื่น ขึ้นมาของเรย์งั้นเหรอ?...ถ้ายังงั้นรูปแบบพลังจิตของเขาก็เป็นสาย Anti-Magic แบบเดียวกับ ดวงเนตรสีทองแห่งผู้เท่าเทียม ของนาเดียล่ะสินะคะ? " เทียน่าหันมาถามในขณะที่เชรีน่าได้แต่กัดเล็บนิ้วโป้งอย่างใช้ความคิด
" ไม่แน่ใจนักหรอกนะ...ที่แน่ๆ คือมันเป็นรูปแบบพลังจิตอย่างนึงแน่ๆ...แต่ฉันเคยโดนจ้องมองด้วย ดวงเนตรสีทองของผู้เท่าเทียม ของนาเดีย ก่อนที่ยัยนั่นจะพุ่งเข้ามา...เอ่อ...ช่างมันเถอะ!...พลังของยัยนั่นจะหยุดความสามารถในการร่ายเวทย์ไปเลย แต่ตอนนี้ฉันยังใช้พลังได้อยู่...เพียงแต่พอร่ายเข้าใส่เรย์แล้วมันถูกหยุดกลางคันเท่านั้น...อือ...ชักแปลกๆ แฮะ...ช่วยไม่ได้...เทียน่า เธอลองพุ่งเข้าไปเป็นหนูลองยาให้ดูดิ๊ "
" เรื่องอะไรกันล่ะคะ!! ไอ้เรื่องที่เกิดขึ้นเนี่ยมันเป็นเพราะแผนของพี่ชัดๆ ...แถมปิศาจคลุ้มคลั่งที่ยืนอยู่ตรงนั้นน่ะก็เป็นน้องชายของพี่แท้ๆ ...เนื้อไม่ได้กิน หนังไม่ได้รองนั่ง เรื่องอะไรฉันจะเอากระดูกมาแขวนคอด้วยล่ะ...ไม่มีทางหรอก!! " เทียน่าหันมาแหวลั่น!...ขนาดปิศาจเดินได้อย่างเชรีน่ายังถอยมาตั้งหลัก...เรื่องอะไรเธอจะเอาชีวิตน้อยๆ ของเธอเข้าไปเสี่ยงโดยใช่เหตุด้วยล่ะ
" เอ่อ...ความจริงมันควรจะต้องใช้คำว่า เอามือซุกหีบ ต่างหากล่ะ...โธ่เอ้ย! คิดเล็กคิดน้อยเดี๋ยวก็หัวเหม่งพอดี...อุตส่าห์เป็นถึงพี่น้องที่กรีดเลือดสาบานกันมาแล้วแท้ๆ ...เพราะงั้นเพื่อเจ๊ น้อยกว่านี้ได้ยังไง? "
" พวกเราไม่เคยกรีดเลือดสาบานกันค่ะ!! แล้วก็ต่อให้พี่พูดอะไรฉันก็ยังยืนยันคำเดิมว่าฉันช่วยได้แค่สังเกตุการณ์อยู่ห่างๆ เท่านั้นค่ะ!! "
" เอ...จำได้ว่าช่วงนี้ที่คริสตัล ฟอร์ซ เป็นช่วงเทศกาล ขนมปุยหิมะ ขนมหวานขึ้นชื่อชั้นสูงผลิตจำนวนจำกัดที่เธอแสนจะโปรดปรานไม่ใช่เหรอ? "
" เข้าใจแล้วค่ะ!! ฉันจะจัดการคว่ำเจ้าหนุ่มที่อยู่ตรงหน้านี่เอง! จะเอาให้หัก บอด หรือจะให้นอนซมไปซักเดือนดีล่ะคะ? " เป็นการกลับคำให้การที่รวดเร็วจนหน้าแทบทิ่มทีเดียว
" อ...เอ่อ...ถ้าเป็นไปได้ ก็ช่วยเอาให้มันพอดีๆ พอนะ...ประมาณว่าเอาแค่หมดสติชั่วขณะก็พอแล้วล่ะ "
" โอ้ววว!!! ไม่มีปัญหาค่ะ! เห็นแก่ที่เราเป็นพี่น้องที่เคยกรีดเลือดร่วมสาบานกันมา...ครั้งนี้ฉันจะช่วยเหลือพี่อย่างเต็มความสามารถเอง!! ...อ...อ้อ ที่ฉันทำนี่ไม่ได้เป็นเพราะว่าฉันเห็นแก่กินหรอกนะคะ กรุณาเข้าใจให้ตรงกันด้วยนะ! "
" อ...อ่า...จ้ะ " เชรีน่าได้แต่รับคำอย่างแกนๆ ...นี่เป็นครั้งแรกที่เธอรู้สึกว่าเธอแก่เกินกว่าจะรับมุกเด็กๆ พวกนี้ซะแล้วสิ
หลังจากที่ได้ยินเชรีน่ารับปากอย่างเป็นมั่นเป็นเหมาะ(???) ออร่าพลังจิตสีแดงสดที่ไหลเวียนทำหน้าที่เป็นเกราะพลังจิตอยู่รอบกายของอันนาเทียน่าก็หมุนวนอย่างรวดเร็วจนมาควบแน่นที่ดาบสีทองในมือของเธอ ชั่วเสี้ยววินาทีต่อมา ดาบทั้งเล่มก็เปล่งแสงเรืองรองราวกับมีออร่าเป็นของตัวเอง อัคระที่ว่ากันว่าเป็นภาษาของเหล่าทวยเทพที่สลักเสลาอยู่่ทั่วใบดาบก็เปล่งแสงออกมาราวกับยัดไฟสปอร์ตไลท์ไว้ภายใน...ทั้งๆ ที่คืนนี้เป็นค่คืนที่ท้องฟ้าค่อนข้างปลอดโปร่ง แต่เมื่อหญิงสาวชูดาบของเธอขึ้นไปบนท้องฟ้า กลับปรากฎเสียงฟ้าคำรามและเสียงฟ้าผ่ารับกันมาเป็นทอดๆ ราวกับว่ากำลังเฉลิมฉลองให้แก่การตื่นขึ้นมาอีกครั้งของดาบเล่มนี้ไม่มีผิด!!
" เอาเลยๆๆๆๆๆ ...นายเองก็คงจะคันไม้คันมือมาตั้งแต่ที่เฮเลนถอด ฝักดาบ เป็น The Ultimate Warrior แล้วใช้ไหมล่ะ?...นานๆ ทีเราจะเจอคู่ต่อสู้ที่ตึงมือขนาดนี้...เพราะงั้นเรามายืดเส้นยิดสายกันหน่อยเถอะ...ปลดปล่อย ดาบเทพพันทัพ เต็มกำลัง !!!... " เทียน่าคำรามลั่น ดาบสีทองที่เธอเรียกว่า ดาบเทพพันทัพ ราวกับสื่อถึงจิตใจเธอได้...ดาบเทพพันทัพที่ส่องแสงเรืองๆ อยู่แล้วกลับระเบิดแสงสว่างจ้าราวกับบริเวณโดยรอบเป็นกลางวัน!
" เอาล่ะสิ...ชักรู้สึกว่าคิดผิดตะหงิดๆ แฮะ ที่ไปไหว้วานยัยนี่...สายเลือด Immortal (สายเลือดกึ่งมนุษย์กึ่งเทพ) หนึ่งเดียวที่ยังเหลืออยู่ในหน้าประวัตติศาสตร์...ผู้ครอบครอง ดาบเทพพันทัพ ...ดาบที่ถูกตั้งสมญาอย่างเลิศหรูว่าเป็น ราชศาสตราไร้อันดับ ...อัจฉริยภาพแห่งวงการผู้ใช้พลังจิต...ถึงใครจะพูดยังไงก็ตาม แต่ก็ต้องยอมรับว่าเธอคนนี้เป็นหนึ่งในผู้ที่มีความสามารถมากพอจะชี้นำโลกใบนี้ได้จริงๆ... " เชรีน่าพึมพำเบาๆ พลางร่ายเวทย์มนตร์บางอย่างที่ยาวเฟื้อยเตรียมไว้เผื่อกรณีที่ฉุกเฉินที่สุด...ถึงเธอจะยังไม่รู้ว่าต้องช่วยใครระหว่างเทียน่าหรือเรย์ลาลีนกันแน่ ก็ตามที
" พี่เชรีน่าค้า...คราวนี้ฉันขอเลือกรสชาติเองนะคะ...คราวก่อนที่พี่เลือกแบบรวมรสมาให้ ฉันต้องทิ้งรสที่ฉันไม่ชอบไปตั้งเกือบครึ่งกล่องแหน่ะ...อ...เอ่อ...ม ไม่ใช่นะคะ...ฉันไม่ใช่คนที่เห็นแก่กินจริงๆ นะคะ!... "
" ขอถอนคำพูดที่พึ่งชมเธอไปตะกี๊ให้หมดทั้งดุ้นเลยย่ะ!! ...ยัยเด็กตะกละเลือกกินเอ้ยยย!! "
................................................
ทางด้านของอเล็กซานดร้าที่ถูกมอบหมายให้เข้ามาควบคุมตัวชาโดว์กลับพบว่างานของเธอง่ายกว่าที่เธอคิดไว้มากเลยทีเดียว...อันที่ตริง ถ้าดูจากบาดแผลฉกรรจ์ที่โดน โตมรเทพวายุ ของชายหนุ่มไปในตอนแรก...เธอสมควรจะเป็นห่วงว่าหญิงสาวตรงหน้าจะชิงม่องเท่งไปเสียก่อน มากกว่าจะกลัวว่าเธอจะหลบหนีด้วยซ้ำ
" ย...แย่ล่ะสิ...พอยัยนี่หมดสติไป รัศมีของราชศาสตราที่คอยคุ้มครองอยู่ก็อ่อนลงตามไปด้วย...ทำให้ราชศาสตรามีอำนาจไม่มากพอจะรักษาแผลได้...แถมตาเรย์นี่ก็ลงมือได้โหดเหี้ยมดีแท้...ดูจากลักษณะเลือดที่ไหลออกมาเป็นจังหวะแบบนี้ แสดงว่าตัดเส้นเลือดใหญ่สำคัญแน่...ฮึ่ม...ถ้าขืนไม่ทำอะไรซักอย่างภายใน 3 นาทีนี้ มีหวังได้พึ่งห้องชันสูตรศพแทนห้องสอบสวนแหงๆ ...เอาไงดีล่ะเนี่ย " ซานดร้าบ่นเบาๆ พลางทดลองใช้มือกดไปที่บาดแผลบริเวณแขนของชาโดว์เพื่อห้ามเลือด แม้ว่าเธอจะรู้ดีว่ามันไร้ประโยชน์กับบาดแผลที่ฉกรรจ์ขนาดนี้ก็ตาม
" อ...อือออ...ตื่นแล้วค่าๆ...เอ๋?...ยังมืดอญู่เลยนี่...แล้วใครเอาหลังคาห้องนอนฉันไปไหนอ่า... " เฮเลนที่งัวเงียฟื้นขึ้นมา ลุกขึ้นนั่งหันมองซ้ายมองขวาอย่างสะลึมสะลือ ก่อนจะทำท่าจะล้มตัวลงนอนต่อ
" สต้อปปปปปปปปปป !! ฟื้นขึ้นมาก้อนนนน!! เฮเลน!! อย่าพึ่งทิ้งกันไปแบบนี้สิย้าาา ...อ๊ะ!! ใช่แล้วๆ พลังจิต เพลิงตะวันออก ที่มีอำนาจรักษาบาดแผลของเธอไงล่ะ...ช่วยใช้พลังจิตของเธอทีสิ! "
" เอ๋?...ม่ายอาวอ่า...ใช้เพลิงตะวันออกแต่ละทีมันเปลืองแรงฉันจะตาย...เรื่องอะไรฉันต้องเสียหยาดเหงื่อแรงกายเพื่อรักษาเธอด้วยล่ะ "
" ถ้ายังละเมออยู่ก็ตื่นซะทีสิย้าาาาาา!!! ใช้สมองน้อยๆ ของเธอนึกให้ออกซะทีสิว่าพวกเรากำลังทำอะไรกันอยู่!! " ซานดร้าที่เหมือนจะจิตหลุดไปชั่วครู่ วิ่งเข้ามาเขย่าไหล่เฮเลนจนหณิงสาวที่ถูกเขย่าหัวสั่นหัวคลอนทีเดียว
" อ...อ๊ะ!! จ...จำได้แล้ว! ...นี่ๆๆๆๆๆ เธอก็เห็นใช่ไหมๆ ซานดร้า...ที่ฉันฟันพายุยักษ์น่ากลัวๆ นั่นซะกระจุยไปเลยน่ะ...สุดยอดเลยใช่ม้าาาา...เสียดายไม่มีกล้องถ่ายหนังอยู่แถว--- "
" โอ๊ยยยย!!!! รีบรักษายัยชาโดว์นี่ซะทีเท้อออออ!!!! เดี๋ยวยัยนี่ก็ได้ม่องไปจริงๆ พอดี...โธ่เอ๊ยยย!! ชาติก่อนทำกรรมอะไรมาเนี่ย ถึงได้มีแต่คนนิสัยแปลกๆ มาล้อมรอบแบบนี้น่ะ! "
...หลังจากปลุกเฮเลนให้ตื่นเต็มตาและบังคับให้เธอใช้พลังจิต ลมตะวันออก ในการปฐมพยาบาลชาโดว์เสร็จสิ้น ทั้งซานดร้าและเฮเลนก็ถอยมายืนคุมเชิงพร้อมกับมองหน้ากันเอง ก่อนจะหันกลับไปมองฮู้ดคลุมหัวที่ยังคงปิดบังใบหน้าของชาโดว์อยู่ด้วยสายตาอยากรู้อยากเห็นเต็มที่...
" ...ผู้ใช้ราชศาสตราฝ่ายดำอันดับสูงสุด...ราชศาสตรที่สาปสูญ...เคียวทมิฬ เนเมซิส..." เฮเลนในฐานะผู้ใช้ราชศาสตราไร้เทียมทานเหมือนกันอดที่จะพึมพำขึ้นอย่างเบาๆ ไม่ได้...ถ้าไม่ใช่เพราะความประมาท และการระเบิดพลังอย่างคาดไม่ถึงของชายหนุ่มนามว่าเรย์แล้วล่ะก็...หญิงสาวคนนี้อาจจะสร้างหายนะกับเกาะนี้อย่างที่พวกเธอคาดไม่ถึงเลยก็ได้
" เธอเองก็คงจะคิดเหมือนฉันใช่ไหม?...เฮเลน " ซานดร้าชายตามามองก่อนจะถามขึ้นเบาๆ
" ไม่รู้ทำไมนะ...แต่ฉันดันสังหรณ์ว่าหญิงสาวคนนี้อาจจะเป็นคนที่เรารู้จักอย่างคาดไม่ถึงเลยก็เป็นได้นะ "
" อืม... " รองผู้อำนวยการสาวพยักหน้ารับคำ ก่อนจะตัดสินใจอย่างเด็ดขาด เธอค่อยๆ เดินเข้าไปทางด้านศรีษะของชาโดว์ พร้อมกับใช้มือเรียวยาวของเธอค่อยๆ ปลดผ้าคลุมที่ปิดบังรูปลักษณ์ของชาโดว์ออกอย่างช้าๆ
ทันทีที่ผ้าคลุมถูกดึงออก และเผยให้เห็นใบหน้าที่แท้จริงของหญิงสาวที่เรียกตัวเองว่าชาโดว์เป็นครั้งแรก ดวงตาของหญิงสาวทั้งสองที่เป็นสักขีพยานในการเปิดเผยตัวตนครั้งนี้ก็ถึงกับเบิกกว้างอย่างคาดไม่ถึงสุดขีด!!
" เป็นไปไม่ได้ !!! " ถึงจะรู้ว่านี่เป็นวลีที่สิ้นคิดที่สุดสำหรับเหตุการณ์ทำนองนี้ แต่สำหรับวินาทีแรกที่ใบหน้าของชาโดว์ปรากฎในคลองสายตา พวกเธอกลับนึกออกเพียงวลีนี้วลีเดียว...
' เป็นไปไม่ได้... '
.......................................................
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7.1 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7.3 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7.6 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ