Chronicles Of Legend. ปฐมบทแห่งตำนาน

7.3

เขียนโดย LanzaDeLuZ

วันที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 เวลา 19.07 น.

  67 chapter
  7 วิจารณ์
  64.18K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 19.20 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

40) ...Awaken (ลืมตาตื่น)...(1)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
 
================================================
 
 
            " ถ้า...ถ้านี่เป็นการเล่นตลก...ผมบอกได้เลยว่ามันไม่ตลกเลยซักนิดนะ ชาโดว์ เธอกำลังทำให้การพูดคุยของเราสองคนในตอนนี้กลายเป็นปาหี่ที่ไร้ราคาและมันเสียเวลาอย่างมาก...ไม่ว่าจะกับฉันหรือเธอ...ถ้าเธอมีเรื่องจะพูดกันแค่นี้ผมว่าเราคงคุยกันจบแล้วล่ะ "  เรย์ลาลีนตัดบทเรียบๆ พลางหันหลังกลับ แต่ชั่วพริบตานั้นเอง ชาโดว์ที่ควรจะอยู่ด้านหลังเขากลับปรากฎดักหน้าชายหนุ่มพร้อมกับเคียวสีดำทมิฬที่ชี้มาที่เรย์ลาลีนอย่างประสงค์ร้าย
 
            " เรย์...ฉันจะเตือนนายอีกแค่ครั้งเดียว...คนสุดท้ายที่ดูถูกสหายทหารของฉันหรือพูดว่าคำพูดของฉันเป็นเรื่องตลกถูกฉันฝังไว้ที่ริมฝั่งแม่น้ำที่บ้านเกิดของฉัน...ไม่ใช่ว่าฉันรังเกียจที่จะทำมันอีกครั้ง เพียงแต่นายเป็นคนที่แตกต่างจากพวกห่วยแตกที่ฉันฝังไว้พวกนั้น... "  คำขู่ของชาโดว์จริงจังมากเกินกว่าที่เรย์ลาลีนจะกล้าลองเสี่ยง เขาถอยหลังกลับไปเล็กน้อยในขณะที่ชาโดว์ก็ลดเคียวของเธอลงเช่นกัน...หญิงสาวถอนหายใจเล็กน้อยก่อนจะเอามือข้างที่ยังว่างอยู่นวดขมับตัวเองเบาๆ พร้อมกับพูดต่อด้วยท่าทีเหนื่อยล้า
 
            " ขอโทษด้วยนะ เรย์...ฉันอาจจะดูรุนแรงไปบ้าง มันไม่ใช่นิสัยที่แท้จริงของฉันเลย...แต่เรื่องนี้คือทุกสิ่งทุกอย่างสำหรับฉัน และนายเป็นคนเดียวที่ฉันเชื่อว่าเข้าใจฉัน ทำให้ฉันทนไม่ได้ที่เห็นนายทำท่าทางแบบนั้น "
 
            " งั้นเราก็ควรจะเริ่มพูดความจริงซะที...อย่างแรกเลยนะ อย่าเหมารวมผมว่าผมเป็นพวกเดียวกับเธอ...ผมยืนอยู่ข้างความถูกต้องเท่านั้น และการขโมยกับพยายามฆ่าไม่ใช่ความถูกต้องสำหรับผมแน่ๆ "  เรย์ลาลีนกล่าวเรียบๆ 
 
            " มันก็ขึ้นอยู่กับว่านายตีความหมายของคำว่า ความถูกต้อง  ได้ดีแค่ไหน...เรย์ ฉันบอกนายไปแล้วว่าฉันมีสหายทหารที่ฉันต้องปกป้อง ฉันไม่ได้อยากจะทำแบบนี้แต่มันจำเป็นจริงๆ และฉันลงเดิมพันให้กับแต้มนี้หมดหน้าตักไปแล้ว "
 
            " ถึงอยากจะพูดว่า ฉันจะจับกุมเธอ ก็เถอะ แต่ก็อย่างว่า...ผมถูกถอดออกจากการสืบสวนเรื่องนี้ไปแล้ว และใจจริงผมก็เป็นคนรังเกียจความรุนแรง...เพราะงั้นขอผมลองถามเล่นๆ นะ...ไม่มีอะไรสามารถทำให้เธอเปลี่ยนใจได้เลยจริงๆ เหรอ? "  เรย์ลาลีนลองหยั่งเสียงถามเป็นเชิงกึ่งเล่นกึ่งจริง...เขาพยายามลดความตึงเครียดของการเจรจาลง เพราะหากการเจรจายังคงดำเนินต่อไปได้นานเท่าไหร่ เขาก็ยังมีโอกาสล้วงความลับหรือโน้มน้าวจิตใจเธอได้นานขึ้นเท่านั้น
 
              ชาโดว์เอียงคอพลางเอานิ้วชี้ถูบริเวณแก้มเป็นเชิงเหมือนกับคิดหนัก ก่อนจะหัวเราะเบาๆ พร้อมกับเรียกเคียวสีดำทมิฬเข้ามาอยู่ในมืออีกครั้ง
 
            " เอางี้ไหม? เรย์...เราลองมาเดิมพันกันซักตั้ง "
 
            " หืม? "
 
            " ประลองกับฉัน...ลองมาประลองกันดูซักตั้งโดยใช้ชีวิตและศักดิ์ศรีของทหารชั้นเสนาธิการของเราทั้งคู่เป็นเดิมพัน...ถ้าหากนายชนะ ฉันจะยอมละทิ้งทุกอย่างที่ฉันเริ่มมันมาตลอด 3 ปี เลิกทำตัวลับๆ ล่อๆ ...เลิกพยายามขโมยโบราณวัตถุใต้อาคารเรียนรวม...เลิกทุกสิ่งทุกอย่าง ละทิ้งอดีตและสหายทหารไว้ด้านหลังและยอมติดตามนายไปทุกหนทุกแห่ง โดยไม่สนว่าจะอยู่ในฐานะอะไรก็ตาม "
 
              เรย์ลาลีนขมวดคิ้วเล็กน้อยกับเดิมพันที่ชาโดว์เหมือนกับว่าจะลงแบบหมดหน้าตักแบบนี้ เดิมพันที่สูงขนาดนี้มันแปลได้ 2 อย่าง คือ ถ้าชาโดว์ไม่มั่นใจในฝีมือของตัวเองถึงขนาดแทบไม่เห็นเขาอยู่ในสายตา...เดิมพันของเขาก็ต้องเป็นรางวัลที่คุ้มค่าที่เธอจะเสี่ยง
  
            " ...แต่ถ้านายแพ้...ได้โปรด...มาอยู่ฝั่งฉันเถอะ "  ชาโดว์ต่อประโยคให้จบ พร้อมกับพุ่งเข้าใส่ด้วยความเร็วราวกับสายฟ้าแลบ!! 
 
 
 
 
...................................................
 
 
 
 
              ในช่วงเวลาเดียวกันนั้นเอง...ปราการดิน...ห้องนอนของโนอาห์  วูล์ฟแฟนธ่อม 
 
              โนอาห์ วูล์ฟแฟนธ่อมที่พึ่งเสร็จจากการอาบน้ำหลังจากออกกำลังกายประจำวันกำลังใช้ผ้าขนหนูผืนใหญ่ขยี้ผมของเขาให้แห้งที่หน้ากระจก ดวงตาสีเหล็กที่ขี้เล่นอยู่เป็นนิจบัดนี้หม่นแสงลงราวกับว่าเขากำลังหวยระลึกถึงอดีตบางเรื่องที่เขาพยายามจะลืมมัน...ชั่วขณะหนึ่ง ชายหนุ่มปล่อยมือจากผ้าขนหนูก่อนจะใช้มือที่ว่างนั้นลูบอย่างแผ่วเบาที่แผลรอยข่วนอาถรรพ์ที่ยังคงมีเลือดไหลซิบๆ อยู่ที่กลางหน้าอก...และมันก็สร้างความเจ็บปวดให้กับเขาอยู่แทบจะตลอดเวลา ซึ่งหากไม่ได้อักขระอาคมที่กำกับอยู่บริเวณรอบบาดแผลช่วยสะกดแผลนี้ไว้ เขาคงจะคลั่งตายเพราะความเจ็บปวดไปแล้วแน่ๆ
 
            " ...ไดแอนน่า... "  โนอาห์รำพึงเบาๆ
 
            " ...ต่อให้เรียกชื่อนางผู้นั้นอีกซักกี่พันครั้ง ความสัมพันธ์ของท่านและนางก็ไม่มีวันกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้อีกแล้ว...ท่านก็รู้ดีอยู่แก่ใจ "  อยู่ๆ เสียงของชายคนหนึ่งก็ดังขึ้นอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยที่ด้านหลังของเขา...โนอาห์หันขวับกลับมาพร้อมกับมีดโกนพับอันคมกริบที่บังเอิญอยู่ใกล้มือชี้ไปที่ต้นเสียงด้วยสัญชาติญาณระวังภัย แต่เมื่อเขาพบว่าผู้พูดเป็นใคร ดวงตาที่เหมือนกับสัตว์ป่าของเขาก็เบิกกว้างอย่างตื่นตระหนกสุดขีด! 
 
            " ทันทารอส  อิลลิเดี้ยน !! "  
 
              ผู้ที่อยู่ตรงหน้าเขาคือชายหนุ่มผมขาวรูปร่างสูงในชุดบัณฑิตสีขาวสะอาดยาว ดวงตาสีเขียวน้ำทะเลฉายแววครุ่นคิดอยู่ตลอดเวลารับกับหน้าผากกว้างอันแสดงถึงระดับสติปัญญา ผิวสีคล้ำออกเหลือบน้ำเงินเล็กน้อยกลับไม่ได้ทำให้ดูขัดตาได้เท่าใบหูทั้งสองข้างของเขา...หูของชายหนุ่มตรงหน้าต่างจากหูของมนุษย์ทั่วไปโดยสิ้นเชิง มันมีลักษณะเรียวแหลมและยาวถึงเกือบ 4 นิ้ว ซึ่งจากประวัติศาสตร์ของเผ่าพันธ์ุทวิบาทที่เคยมีมา ทำให้มีเผ่่าพันธุ์เดียวที่มีลักษณะเฉพาะของสิ่งพิเศษเหล่านี้
 
           ...เผ่าพันธุ์ ดาร์ค เอล์ฟ ...เผ่าพันธุ์จอมขมังเวทย์ที่ละทิ้งแผ่นดินนี้ไปเมื่อหลายสิบชั่วอายุคนที่แล้ว ...
 
            " ยินดีอย่างยิ่งที่ได้พบกับท่านอีกครั้ง ท่านข้าหลวงใหญ่ โนอาห์ เคลเบรอส วูล์ฟแฟนธ่อม "
 
            " อดีต ...อดีตข้าหลวงใหญ่...ผมเคยอยู่ในตำแหน่งนี้จนกระทั่งคุณประกาศจับผมด้วยรางวัลนำจับซึ่งตีค่าได้ประมาณ 20 ล้านดรากัส...สูงสุดในประวัติการณ์ (โนอาห์ยังไม่ทราบว่าสถิติค่าหัวของเขาถูกทำลายลงอย่างราบคาบแล้วด้วยค่าหัวของเรย์ลาลีน)...มันทำให้ตอนนี้ผมเป็นแค่นักโทษหลบหนีที่ต้องหนีการตามล่าอย่างหัวซุกหัวซุน...คุณมาทำอะไรที่นี่ทันทารอส?...พึ่งนึกขึ้นได้ว่าผมควรจะอยู่ในคุกแทนที่จะอยู่ที่นี่งั้นเหรอ? "  โนอาห์พูดเสียงเครียดพลางถอยออกมาจากห้องน้ำช้าๆ ...เขารู้ดีเกินพอว่าชายที่อยู่ตรงหน้าเขาไม่อาจถูกหยุดได้ด้วยกะอีแค่เพียงมีดโกนเล็กๆ ที่อยู่ในมือเขาแน่...ไม่สิ...ต่อให้มีอาวุธครบมือเขาก็คงไม่ใช่คู่มือของชายที่อยู่ตรงหน้านี้ด้วยซ้ำ
 
              ดาร์คเอล์ฟหนุ่มถอนหายใจเบาๆ มือของเขายังคงประสานมาข้างหน้าซ่อนอยู่ในแขนเสื้อยาวตัวนั้น
 
            " เสียใจด้วยที่ต้องทำให้ผิดหวังนะ ท่านโนอาห์...ข้าไม่ได้มาเพราะเรื่องนี้ ถึงแม้ว่าเราจะสร้างคุกพิเศษไว้สำหรับท่านโดยเฉพาะแล้วก็ตาม "
 
            " งั้นมาด้วยเรื่องอะไรล่ะ? อย่าบอกนะว่าจอมปราชญ์และผู้พิทักษ์บัลลังก์ทมิฬประจำราชอาณาจักรลูซิลที่ควรจะมีตารางงานยุ่งที่สุดในทวีปมาหาผมที่นี่เพื่อนั่งดื่มน้ำชาระลึกความหลังน่ะ "
 
            " เปล่าเลย...อันที่จริงแล้วตอนนี้ข้าค่อนข้างจะยุ่งกว่าวันปกติๆ ด้วยซ้ำ...หลังจากที่ท่านหนีออกจากลูซิลซึ่งบอกตามตรงว่าข้าออกจะแปลกใจเล็กน้อยที่ท่านรอดไปได้ ที่ภายในลูซิลเกิดเรื่องต่างๆ มากมาย แต่สิ่งที่ท่านควรรู้ในตอนนี้คือ พวกเรา ซึ่งแน่นอนว่าข้าหมายรวมถึงท่านด้วย...พวกเรา มี เจ้าเหนือหัว หรือ ผู้มีสิทธิ์ชอบธรรมในบัลลังก์ทมิฬ ที่ข้าพิทักษ์อยู่เรียบร้อยแล้ว...ไม่สิ พวกเรามีกษัตริย์มาตั้งแต่เมื่อ 2 ปีที่แล้วหลังจากที่ท่านจากมาแล้ว!! "  ทันทารอสพูดด้วยน้ำเสียงเรื่อยๆ แต่เนื้อหาของข่าวนี้กลับทำให้โนอาห์ถึงกับต้องตาเบิกโพลงด้วยความตื่นตะลึง
 
           ...ราชอาณาจักรลูซิลเป็นประเทศที่เป็นที่ทราบกันดีว่ามีอาณาเขตพื้นที่ที่ใหญ่ที่สุดในทวีป ซึ่งมีพื้นที่เกือบจะเท่าสหภาพดราโกนิก้าทั้งสหภาพ เป็นประเทศที่มีรายได้หลักจากการเป็นท่าจอดเรือน้ำลึกของเรือใบขนส่งสินค้าข้ามทวีปที่จะไปยังมหาทวีปยักษ์ แพนเจีย แต่ไม่มีผู้ใดรู้ถึงความดำมืดที่ถัดเข้าไปจากเมืองท่ารอบนอกเลย จนมันถูกเรียกกันอย่างติดปากว่า กาฬประเทศ 
 
           ...ก็อย่างที่เอล์ฟหนุ่มนามว่าทันทารอสว่า โนอาห์ หรือที่เขาถูกเรียกว่า ข้าหลวงใหญ่ โนอาห์ ซี.(เคลเบรอส) วูล์ฟแฟนธ่อม  โนอาห์เป็นชาวลูซิลโดยกำเนิดและเขารู้ดีว่าลูซิลมีระบอบการปกครองแบบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ แต่พวกเขากลับไม่มีกษัตริย์เป็นผู้ปกครองเลยมานานหลายร้อยปีแล้ว จะมีก็แต่ทันทารอส อิลลิเดี้ยน ดาร์คเอล์ฟหนุ่ม (อาจจะหนุ่มอยู่ตลอดกาล เพราะเผ่าพันธุ์ของเขาไม่มีวันแก่เฒ่า) ที่ดำรงตำแหน่งเป็นผู้พิทักษ์บัลลังก์ทำหน้าที่ใช้อำนาจในฐานะตัวแทนของกษัตริย์มาหลายร้อยปีแล้ว...และสำหรับทุกคนที่อยู่ในลูซิล พวกเขาเชื่อว่ามันจะเป็นเช่นนี้ไปอีกเรื่อยๆ แน่นอน....ฉะนั้นถ้าสิ่งที่ทันทารอสพูดเป็นความจริง ราชอาณาจักรลูซิลกำลังเกิดการเปลี่ยนแปลงขนาดยักษ์ที่จะสั่นสะเทือนทั้งทวีปได้เลยทีเดียว!!...
 
            " แล้วเรื่องนี้มันเกี่ยวอะไรกับผม...คุณจะตามให้ผมกลับไปถือน้ำพิพัฒน์สัตยางั้นเหรอ? เพราะถ้าใช่ผมก็จะต้องบอกคุณว่าผมไม่ได้เป็นชาวราชอาณาจักรลูซิลแล้ว...อย่างน้อยก็จะยังไม่เป็นจนกว่าคุณจะถอนหมายจับผมนั่นแหละ "  โนอาห์พูดเรียบๆ พลางทำทีหยิบหนังสือพิมพ์ขึ้นมาพับโดยที่แอบซ่อนมีดพกที่เขามีไว้ใต้แขนเสื้อ...อย่างน้อยมันก็ยังทำให้เขาอุ่นใจได้มากกว่ามีดโกนเล่มเล็กๆ ถึงจะไม่ได้อุ่นใจมากเท่าที่เขาหวังก็ตามที
 
            " หากข้าไม่ได้แก่เฒ่าจนเลอะเลือน ข้าจำได้ว่าข้าได้บอกท่านไปแล้ว...เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับท่าน...เฮ้อ...ในฐานะที่ข้าสนิทกับปู่ทวด ปู่ และพ่อของท่าน ข้าจะไม่ปิดบังท่าน...กษัตริย์ของเราได้รับการขอร้องอันไม่อาจปฎิเสธได้จากผู้ที่ เธอ เรียกว่า สหายศึก "
 
            " ด...เดี๋ยวนะ...ผมรู้ว่าไม่ใช่เวลาเหมาะ แต่ผมขอขัดนิดนึงเหอะ...คุณพูดว่า เธอ งั้นเหรอ? "
 
              ทันทารอสเลิกคิ้วยาวๆ ขอเขาเล็กน้อย
 
            " อ้าว? นี่ข้ายังไม่ได้บอกท่านอีกเหรอ? ...กษัตริย์ของพวกเราเป็น อิสตรี  ...กษัตริย์ เซลลีเนีย เดียริส อันดาเรสส์ แห่งราชอาณาจักรลูซิล ! "
 
 
 
 
.....................................................
 
 
 
 
            ...ย้อนกลับมาที่ใต้ไทรใหญ่กลางป่า...
 
            " เป็นอะไรไปล่ะ...เรย์ เหนื่อยแล้วงั้นเหรอ?! "  ชาโดว์เอ่ยเบาๆ ราวกับหยอกเล่นขณะที่เธอกำลังควงเคียวยักษ์สีดำทมิฬที่น่าจะหนักอย่างมหาศาลในมือไปมาราวกับกำลังควงดาบเด็กเล่นอยู่ ในขณะที่ผู้ที่ถูกเธอหยอกเอินบัดนี้ยืนอยู่บนคาคบไม้ใกล้ๆ หลังจากที่เขาและเธอร่วมกันโค่นต้นไทรใหญ่ที่อายุหลายร้อยปีลง
 
            " ไม่เอาน่า...นี่มันก็แค่การพักหายใจ...ของจริงน่ะมันเริ่มหลังจากนี้ต่างหากเล่า "  เรย์ลาลีนพูดเบาๆ ขณะขยับแหวนหยกขาวนำเวทย์เล็กน้อย เสื้อคลุมจอมเวทย์ของเขาปลิวไสวไปตามสายลม...ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าแค่ผ้าคลุมจอมเวทย์ผืนเดียวจะทำให้เกิดข้อแตกต่างได้มากจนทำให้พูดได้เต็มปากว่าเขาในวันนี้ไม่เหมือนกับวันที่เขาเคยพ่ายแพ้ให้กับชาโดว์อีกแล้ว
 
           ...เสื้อคลุมจอมเวทย์ ...ไม่ได้ถูกทอขึ้นจากเส้นด้ายที่ใช้ทำเสื้อผ้าทั่วๆ ไป มันจำต้องถูกทอขึ้นจากเส้นใยพิเศษที่มีความโปร่งจนเหมือนไม่ได้ใส่อะไรเลยเพื่อให้อณูเวทย์มนตร์ที่ลอยอยู่รอบๆ อากาศซึมเข้าสู่ร่างกายเพื่อใช้ในการร่ายเวทย์...ในคืนที่เรย์ลาลีนพ่ายแพ้แก่ชาโดว์ เขาอยู่ในชุดสูทของสถาบันผู้ใช้พลังจิตฯ ซึ่งมันถูกทออย่างหนาแน่นด้วยเส้นใยกึ่งสังเคราะห์ ทำให้เขาไม่สามารถดูดซึมอณูเวทย์ได้เลย เป็นเหตุให้ ...ศรสายลม ... เวทย์บทสุดท้ายที่ชายหนุ่มร่ายทำได้เพียงแค่ทำฉีกหน้ากากกับฮู้ดคลุมหัวของเธอเท่านั้น ทั้งๆ ที่มันควรจะหยุดชาโดว์ได้อย่างสมบูรณ์แท้ๆ...
 
            " คิกๆ ฉันรู้สึกพลาดไปถนัดเลยที่รีบร้อนใช้ ไม้เด็ด ออกไปแบบนั้น แต่ฉันไม่เสียดายเลยที่นายยังไม่ตาย...เรย์...สังเกตไหมว่ายิ่งเราประมือกันมากเท่าไหร่ ทันก็ทำให้เรายิ่งเหมือนกันมากขึ้นเท่านั้น "
 
            " เรามีเวลาสำหรับถกเรื่องนี้ได้อีกนานหลังจากที่ฉันโค่นเธอลงได้ ชาโดว์ ...พร้อมจะรับตำแหน่งใหม่ในฐานะสาวใช้ประจำตัวของฉันรึยัง? "  ชายหนุ่มพูดอีกครั้งพลางร่าย ศรสายลม นับร้อยดอกขึ้นมาด้านหลัง...มันเป็นสัญญาณว่าเขาพร้อมสำหรับยกที่สองแล้ว
 
            " แล้วนายล่ะ...พร้อมจะกลายเป็น หนึ่งในขุนพล ของฉันรึยัง? "  ชาโดว์หายไปจากคลองสายตาในเสี้ยววินาที ก่อนจะปรากฎอีกครั้งเหนือหัวของเรย์ลาลีนพร้อมกับฟาดเคียวลงมาด้วยความแรงที่หมายจะให้ชายหนุ่มตรงหน้าวูบไปเป็นอาทิตย์เลยทีเดียว แต่เรย์ลาลีนที่เตรียมพร้อมอยู่ก่อนแล้วยิง ศรสายลม เข้าใส่ทุกจุดที่เขารู้ว่าทำให้อีกฝ่ายบาดเจ็บจนไม่อาจต่อสู้ได้อย่างรวดเร็วไม่แพ้กัน!
 
           ...และมันก็จบในแบบเดิม พลังของศรสายลมและใบเคียวสีดำทมิฬกระทบกันจนทำให้เกิดเสียงดังสนั่น ทำให้เหล่าต้นไม้ใหญ่น้อยที่ไม่ได้มีทั้งเกราะเวทย์หรือเกราะจิตคอยคุ้มกันที่อยู่ใกล้ๆ ถูกแรงคลื่นกระแทกฉีกเปลือกไม้จนเห็นเนื้อไม้ขาวเว่อ! ...
 
            ' ...ถ...โธ่เว้ย ! ...ไหงยัยพวกนั้นถึงได้มากันช้านักนะ ... '  ภายใต้หน้ากากที่ยังคงยิ้มบางๆ  ในใจของเรย์ลาลีนกำลังสบถสาบานอย่างร้อนรนอยู่...ภายใต้การปะทะที่ดูภายนอกเหมือนจะสูสี ชายหนุ่มรู้ดีว่า เขา ที่มีออฟชั่นเสริมเพียงเสื้อคลุมตัวเดียวไม่อาจเป็นคู่มือของหญิงสาวและเคียวของเขาได้เลย...การใช้เวทย์แบบอลังการงานสร้างอย่างไม่ค่อยสมเหตุสมผลของเรย์ลาลีนมีเหตุผลเพียงอย่างเดียวคือทำให้ผู้ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้โดยตรงอย่างสองผอ. หรือไม่ก็เฮเลนรู้ซะทีว่าเขากำลังต้องการความช่วยเหลืออบ่างเร่งด่วนแบบนี้
 
 
 
 
.......................................................
 
 
 
 
           ...ไกลออกไปเหนือขอบเขตการหยั่งสัมผัสของทั้งเรย์ลาลีนและชาโดว์ บนหอคอยสังเกตการณ์ขนาดใหญ่ ทั้งสามสาวที่เรย์ลาลีนกำลังระลึกถึงกำลังยืนมองการปะทะกันของยอดฝีมือทั้งสองผ่านกล้องส่องทางไกลอย่างดีด้วยท่าทีกระวนกระวายใจ แน่นอนว่าพวกเธอรู้สึกถึงความผิดปกติได้ตั้งแต่เกิดการปะทะกันครั้งแรกระหว่างพลังของเรย์ลาลีนและชาโดว์ได้ตั้งแต่เมื่อเกือบ 5 นาทีก่อนแล้ว และสิ่งที่สองผอ. ทำคือการวางกำลังของทั้งอาจารย์และสารวัตรนักเรียนล้อมจุดปะทะอยู่ห่างๆ ...ภายในพริบตาเดียวที่อันนาเทียน่าหรืออเล็กซานดร้าออกคำสั่ง กองกำลังทั้งหมดจะกรูกันเข้าไปจับกุมชาโดว์ทันที...มีเพียงคนเดียวในตอนนี้ที่บังคับไม่ให้พวกเธอออกคำสั่ง...หญิงสาวเพียงคนเดียวที่ทั้งเทียน่า ซานดร้า และเฮเลนให้ความยำเกรง...
 
           ...เชรีน่า เมโอ คริสตัล...แม่มดตาเทา...ผู้อำนวยการแห่งมหา'ลัยหมื่นเวทย์...
 
            " พี่เชรีน่าคะ!...ได้โปรดอนุญาตให้ฉันออกคำสั่งช่วยเหลือและจับกุมซะทีเถอะค่ะ!!  ถึงแม้ว่าดูจากตรงนี้เขาจะดูเหมือนสู้ได้อย่างสูสี แต่เราต้องไม่ลืมว่าชาโดว์ยังไม่ได้ใช้ความสามารถของ ราชศาสตรา เคียวทมิฬเนเมซิส ด้วยซ้ำ...แล้วก็ไม่มีอะไรรับประกันได้ว่าชาโดว์จะสู้แบบ หมาหยอกไก่  แบบนี้ไปจนถึงเมื่อไหร่ด้วย! "  ในที่สุดอันนาเทียน่า...ผู้อำนวยการสาวผู้ทุพพลภาพอก็หมดความอดทนและพูดขึ้นอย่างร้อนรนเมื่อกล้องส่องทางไกลของเธอพึ่งแสดงภาพของเรย์ลาลีนที่พึ่งจะโดนใบเคียวอันคมกริบตวัดเรียกเลือดสีแดงสดที่ต้นแขนของชายหนุ่มออกมา...ถ้าคมเคียวกินสูงกว่านี้อีกนิดเดียว เรย์ลาลีนคงต้องถือช้อนด้วยมือซ้ายไปตลอดชีวิตแน่ๆ
 
            " มีเรื่องจะพูดแค่นี้ใช่ไหม? เทียน่า...ถ้าอย่างนั้นก็หุบปากได้แล้ว!...และถ้าฉันยังไม่อนุญาต ห้ามไม่ให้คนของเธอขยับเด็ดขาด...พวกเธอก็ด้วย ซานดร้า เฮเลน...จะต้องให้ฉันบอกอีกกี่ครั้งว่าเจ้านั่นน่ะ เป็นสายเลือดของสกุลเมโอ คริสตัล...ไม่ใช่นักเรียนผู้อ่อนเดียงสาของพวกเธอ...ถ้าหากงานนี้มีอะไรผิดพลาดไปจากสิ่งที่ฉันคิดไว้แม้แต่นิดเดียว เรื่องนี้ไม่จบแค่โดนด่าแน่ๆ เข้าใจไหม?! "  เชรีน่าพูดด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ เธอใช้ดวงตาสีเทาที่เรียบเฉยจนน่ากลัวของเธอมองไปที่การปะทะโดยไม่ใช้กล้องส่องทางไกล ริมฝีปากเม้มบางจนเกือบจะเป็นเส้นตรงในที่สุด
 
            " ต...แต่ว่า... "  เทียน่าตั้งท่าจะพูดอีกครั้ง แต่ก็เลือกที่จะเงียบลงเมื่อเห็นสายตาของเชรีน่า...เธอรู้ดีว่าการทำให้หญิงสาวที่อยู่ตรงหน้าโกรธเป็นเรื่องที่ไม่ฉลาดที่สุดเท่าที่มนุษย์คนนึงพึงกระทำได้เลยทีเดียว!
 
            " พี่เชรีน่า...ฉันรู้ดีว่าพี่รักเขามาก...แต่การยืนดูเขาถูกฆ่าตายไม่ใช่การแสดงความรักที่ฉันคุ้นเคยนัก...ถ้าพี่จะแกล้งเขาเล่นฉันว่าแค่นี้ก็น่าจะเกินพอแล้วมั้งคะ?...อีกอย่างนึงยิ่งเราคอยนานมากเท่าไหร่ ชาโดว์ก็จะยิ่งรู้ถึงการมีตัวตนอยู่ของพวกเรามากขึ้นเท่านั้น...การปล่อยให้เธอหนีไปคือสิ่งสุดท้ายที่พวกเราต้องการนะคะ "  ซานดร้ารวบรวมความกล้าที่จะเอ่ยขึ้นเบาๆ อย่างระมัดระวัง...รอยแผลของชายหนุ่มที่เธอมองผ่านกล้องส่องทางไกลยังคงมีเลือดซึมออกมาไม่หยุดแม้ว่าเขาจะพยายามใช้เวทย์รักษาแล้วก็ตาม
 
            " รอบๆ นั่นมีอาจารย์ผู้ใช้พลังจิตและสารวัตรนักเรียนเกือบร้อยคนล้อมอยู่...และมีพวกเธอคอยสังเกตการณ์อยู่ตรงนี้อีก...ถ้าถึงขนาดนี้แล้วพวกเธอยังจะปล่อยให้ชาโดว์หนีไปได้ ฉันก็ขอแนะนำให้พวกเธอยก สิ่งที่เธอปกป้องอยู่  ให้กับชาโดว์ไปเถอะ "
 
            " แต่ว่าเราไม่รู้ว่าชาโดว์ต้องการอะไรจากเรย์...ถ้าเธอต้องการฆ่าปิดปากเขาเรื่องที่เขาเห็นรูปพรรณสัณฐานของเธอ พวกเราที่อยู่ตรงนี้อาจจช่วยเขาไม่ทันก็ได้นะคะ "  เฮเลนเอ่ยขึ้นมาบ้าง จากน้ำเสียงแล้วเหมือนกับเธอจะเป็นห่วงความปลอดภัยของชายหนุ่มมากกว่าผู้ที่เรียกตัวเองว่า พี่สาว  ของชายคนนี้เสียอีก
 
            " ถ้าหากเจ้านั่นมันอ่อนแอขนาดนั้น...ก็ถือซะว่ามันกับฉันทำบุญร่วมกันมาแค่นี้... "  หญิงสาวผู้บอกทุกคนว่าเป็นพี่สาวของเรย์ลาลีนถอนหายใจเล็กน้อยก่อนจะพูดต่อ
 
            " ...ลูกพยัคฆ์น่ะ...ยังไงๆ ก็ยังเป็นพยัคฆ์อยู่วันยันค่ำ...เพียงแต่ก่อนจะกลายเป็นพยัคฆ์ เขาต้องผ่านบททดสอบเสียก่อน...เคยได้ยินเรื่องเล่าที่แม่เสือผลักลูกให้ตกเหวอย่างเลือดเย็นเพื่อสอนวิธีการเอาตัวรอดแก่ลูกของเธอไหม?...ให้คิดซะว่าฉันเป็นแม่เสือตัวนั้นในตอนนี้ก็แล้วกัน "  เชรีน่าพูดต่อด้วยน้ำเสียงราบเรียบ...และเลือดเย็นที่สุดในความคิดของทั้งสามสาวเพราะขนาดเธอที่เป็นญาติโดยตรงเห็นชายหนุ่มโดนเคียวฟันจนเกือบจะเสียแขน ดวงตาของหญิงสาวยังไม่กระพริบเลยแม้แต่น้อย
 
            " อ...เอ่อ...เทียฯ เท่าที่ฉันเคยได้ยินมา สัตว์ที่ผลักลูกตกเหวมันคือ สิงโต ไม่ใช่หรอกเหรอ? "  เฮเลนหันมากระซิบถามเทียน่าโดยพยายามบีบเสียงให้เบาที่สุดเท่าที่เธอจะทำได้
 
            " ใช่ ฉันรู้...แต่เธอลองขัดเชรีน่าในตอนนี้ดูสิ...ต่อให้เธอมีราชศาสตราคุ้มครองก็มีหวังได้ตื่นอีกทีที่ริมฝั่งแม่น้ำยมโลกแน่ๆ "  เทียน่ากระซิบตอบด้วยน้ำเสียงจริงจังสุดๆ ที่บ่งบอกว่าสิ่งที่เธอพูดไม่ใช่คำพูดเปรียบเปรย แต่มีความหมายตรงตามที่พูดพยางค์ต่อพยางค์จริงๆ
 
              เชรีน่าไม่ได้สนใจการกระซิบกระซาบของสาวๆ ที่ด้านหลัง...ดวงตาสีเทาจรัสของเธอจับจ้องนิ่งไปที่การต่อสู้อย่างเอาเป็นเอาตายระหว่างผู้เป็นน้องชายของเธอและคนร้ายที่เหนือกว่าในทุกๆ ด้านโดยสิ้นเชิง
 
            " ...ตื่นซะที ...เรย์ฯ...ตื่นซะที...สายเลือดเมโอ คริสตัลไม่ยอมรับผู้ที่มีแต่ สีฟ้า  หรอกนะ...นายเป็นความหวังเดียวของฉันที่จะเป็นผู้นำของตระกูลรุ่นต่อไป...เพราะงั้น ขอร้องล่ะ...ตื่นซะที... "  หญิงสาวพึมพำไม่หยุด...ภายใต้หน้ากากน้ำแข็งอันแสนเยียบเย็น ใจของเธอร้อนรุ่มราวกับอยู่ในกระทะทองแดง...เธอเล่นเกมนี้ด้วยเดิมพันที่หมดหน้าตัก และเธอรู้ดีว่าถ้าหากเธอแพ้เกมนี้...เธอมีหวังได้สูญเสียลูกชายที่เธอรักไปโดยไม่มีวันหวนคินอย่างแน่นอน!
 
           ...ภายใต้สถานการณ์ที่กดดันสำหรับเชรีน่าอย่างที่สุด ในชั่วเสี้ยววินาทีที่ไม่มีใครสังเกตเห็น  ออร่าสีแดงสดอันแสดงถึงพลังจิตที่รุนแรงจนมองเห็นด้วยตาเปล่าก็พลุ่งพล่านวูบออกจากร่างของเธอก่อนที่เสี้ยววินาทีต่อมามันจะหายไปราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น!!...
 
            " ...ตื่นซะที ...เรย์ฯ ...ตื่นซะที ... "
 
 
 
.............................................................
 
 
            
 
 
 
 
 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7.1 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7.3 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7.6 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา