Chronicles Of Legend. ปฐมบทแห่งตำนาน
เขียนโดย LanzaDeLuZ
วันที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 เวลา 19.07 น.
แก้ไขเมื่อ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 19.20 น. โดย เจ้าของนิยาย
32) ...Trust...(ความไว้เนื้อเชื่อใจ)...(2)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
================================================
" เรย์ !!...เรย์...ฟื้นสิๆ!! แบบนี้ชักไม่ขำแล้วนะ " เสียงหวานๆ ที่เจอด้วยกระแสร้อนรนเหมือนกับจะเอ่ยกับเขาอย่างเลือนรางราวกับดังมาจากที่ไกลๆ...ก่อนที่ร่างอันหนักอึ้งของเขาจะถูกเขย่าเบาๆ มันทำให้สติสัมปชัญญะที่กระจัดกระจายอยู่่ของเขาให้เริ่มกลับเข้าที่เข้าทาง...อต่ก่อนที่เขาจะได้ทันส่งเสียงตอบอะไรออกไป อยู่ๆ ฝ่ามือเล็กๆ ทว่าแข็งแรงอย่างคนที่ฝึกยุทธ์มาชั่วชีวิตก็สะบัดวูบ~! ตบเข้าที่แก้มซ้ายของเขาเต็มข้อจนหน้าสะบัดเริ่ดไปตามแรงตบ กระชากสติสตังของเขาให้กลับเข้าที่เข้าทางอย่างสมบูรณ์แบบ
" อ๊ะ!! มีปฎิกริยาแฮะ...เฮเลน...จัดอีกซักดอกซิ! " เสียงอีกหนึ่งเสียงที่เขาจำได้ว่าถ้าไม่ใช่ซานดร้าก็เป็นเทียน่าเอ่ยขึ้นอย่างกระตือรือร้น ก่อนจะได้ยินเสียงเออออห่อหมกจากหญิงสาวที่นั่งคร่อมตัวเขาอยู่ ซึ่งก็เดาได้ไม่ยากเลยว่าคือเฮเลน วอลคาโนแน่ๆ
ก่อนที่ลูกตบลูกที่ 2 และ 3 จะตามมา เรย์ลาลีนต้องรีบส่งเสียงร้องครางออกมาเบาๆ เพื่อบอกกับทุกคนว่าเขาฟื้นคืนสติแล้ว...ซึ่งมันก็ได้ผลชะงัด เพราะร่างเล็กๆ ที่คร่อมทับเขาอยู่รีบผละออกอย่างรวดเร็ว...ในขณะที่เมื่อชายหนุ่มลืมตาขึ้น เขาถึงพึ่งรู้ว่าตัวเองกำลังนอนเอกเขนกอยู่บนโซฟารับแขกตัวใหญ่ ภายในห้องทำงานของอันนาเทียน่า โดยมีสองสาวผู้อำนวยการและเฮเลน วอลคาโนมุงล้อมรอบอยู่...และถ้าตาเขาไม่ฝาด เหมือนกับว่าเขาจะได้เห็น กระจกเวทย์ ขนาดใหญ่ของพี่สาวของเขาลอยอยู่ข้างๆ ด้วย
" อ...อรุณสวัสดิ์จ้า...เรย์... " เฮเลนโบกมือทักทายแข็งๆ อย่างกับหุ่นยนต์ ในขณะที่เรย์ลาลีนได้แต่เอามือลูบคลำแก้มซีกที่ถูกตบซึ่งบัดนี้ความชาหายไป เหลือแต่ความแสบล้วนๆ...เ้ขาหันไปมองด้านนอกหน้าต่างที่ยังคงมืดอยู่ก่อนจะถอนหายใจเฮือกเบาๆ
" เห็นจะยังไม่ อรุณ ซะละมั้งครับ...ออกจะมืดซะขนาดนี้...แต่เอาเถอะ...อย่างน้อยลูกตบตะกี๊ก็ทำเอาผมตื่นเต็มตายิ่งกว่าซัดกาแฟไปเป็นหม้อเสียอีก... "
อันนาเทียน่าซึ่งนังอยู่บนวีลแชร์ส่งเสียง 'เห ?' พลางหลิ่วตาให้ ก่อนจะยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อย่างนึกแกล้งพร้อมกับเปรยขึ้นเบาๆ
" น่าเสียดายน้า...ถ้าตะกี๊ยอมทนถูกตบอีกซักทีสองที ฉันกะจะยุให้เฮเลนลอง จุมพิต ปลุกซะหน่อย...ซึ่งก็เดาได้เลยว่ารายนี้คงยอมทำแน่ๆ "
" เทียน่า !!! " อเล็กซานดร้ากับเฮเลนเิอ็ดตะโรดุขึ้นแทบจะในเวลาเดียวกัน...ต่างกันตรงที่เฮเลนหน้าแดงแปร๊ดราวกับลูกตำลึงสุก ในขณะที่ซานดร้าหน้าถมึงทึงอย่างกับโกรธเป็นจริงเป็นจัง
" พอที ! เด็กพวกนี้ !! ...พวกเรามีเรื่องสำคัญต้องเคลียร์กันนะ ! ....ให้ตายสิ !!! " เชรีน่า เมโอ คริสตัล ที่สะท้อนออกมาผ่านทางกระจกเวทย์ดุขึ้นดังๆ ...จากที่เขาเห็นผ่านสายตาที่ยังคงพร่ามัวอยู่เล็กน้อย...ผู้เป็นพี่สาวหรืออีกนัยหนึ่งคือคือ แม่บังเกิดเกล้า แท้ๆ ของเขาไม่ได้อยู่ในอารมณ์ที่จะเล่นด้วยโดยสิ้นเชิง...คำดุของเธอทำเอา 3 สาวพร้อมใจกันเงียบอย่างกะทันหันทันที
...เชรีน่าซึ่งสะท้อนผ่านกระจกเวทย์ขนาดใหญ่มาครึ่งตัว กอดคอเม้มริมฝีปากนิ่งราวกับรอดูว่าคำสั่งของเธอสัมฤทธิ์ผลแค่ไหน...หรือไม่ก็รอให้เรย์ลาลีนซึ่งบัดนี้กำลังยื่นมือขอน้ำจากซานดร้ามาดื่มมีสติเข้าที่เข้าทางกว่านี้...อึดใจต่อมาเธอจึงค่อยถอนหายใจเฮือก...ก่อนจะเริ่มต้นพูดอย่างเป็นการเป็นงานว่า...
" เรย์...ช่วยเล่ามาให้ละเอียดหน่อยนะ...ว่าเมื่อคืน...มันเกิดอะไรขึ้น?! "
" เมื่อคืน? " ชายหนุ่มทวนคำช้าๆ ก่อนที่หัวที่เริ่มหายจากอาการมึนชาจะย้อนระลึกกลับไปในช่วงเวลาเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่แล้วอย่างรวดเร็ว...
......................................................
...ย้อนกลับไปเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่แล้ว...
" เรย์...ขอร้องล่ะ...มาอยู่ฝ่ายฉันได้ไหม? "
" !!! "
จากที่ยังนั่งลงได้ไม่เต็มก้นดี เรย์ลาลีนลุกพรวดขึ้นทันทีอย่างตื่นตะลึง...เขายืนอึ้งไปอึดใจก่อนจะดึงสติกลับคืนมา พร้อมกับเสหัวเราะเบาๆ
" ขอโทษนะ...ช่วยพูดอีกทีได้ไหม?...ผมเข้าใจว่าผมหูเพี้ยนไปชั่วขณะ "
" งั้นฉันจะพูดให้ฟังชัดๆ อีกครั้งนะ...เรย์...ขอร้องล่ะ...มาอยู่ฝ่ายฉันเสียเถอะ... "
" ม...ไม่ยักกะหูฝาดแฮะ...จะบ้าเรอะ !! ...เธอก็รู้อยู่ชัดๆ นี่ ว่าผมเป็นผู้ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามที่เป็น ปฎิปักษ์ กับเธออย่างที่สุด! "
" เห?...งั้นเชียว...แต่ว่า เพราะอะไรล่ะ? "
" ก็เพราะ...เอ่อ... " ด้วยความที่นึกไม่ถึงว่าจะเจอเข้ากับคำถามพิลึกๆ แบบนี้ ทำเอาชายหนุ่มถึงกับจนถ้อยคำไปครู่นึง...เปิดโอกาสให้หญิงสาวนามว่าชาโดว์พูดสอดขึ้น
" เพราะฉันเป็น...คนชั่ว...งั้นเหรอ?... "
" ...คือ... "
" คิกๆๆๆ...นายยังไม่รู้จักฉัน...ไม่รู้จักสถาบันแห่งนี้...และที่แย่ที่สุดคือนายยังไม่รู้ว่านายกำลังหลังขดหลังแข็งทำหน้าที่เพื่อปกป้อง 'อะไร' อยู่ด้วยซ้ำ !...แล้วทำไมนายถึงรีบร้อนยัดเยียดคำว่า คนชั่ว ให้ฉันซะแล้วล่ะ? "
" ...ฉัน... "
เรย์ลาลีนยังไม่ได้ทันเริ่มพูด ชาโดว์ก็ปราดวูบเข้ามากระชากคอเสื้อคลุมจอมเวทย์ของชายหนุ่มอย่างแรงก่อนจะตวาดใส่หน้าเขาดังลั่น!
" การที่นายคิดเองเออเองว่าฝ่ายของตัวเองเป็น ฝ่ายดี โดยยัดเยียดคำว่า ชั่ว ให้กับฝั่งตรงข้ามแบบนี้...ไม่คิดบ้างเหรอว่าคำว่า ดี ของนายมันก็เหม็นคาวจนน่าคลื่นเหียนเต็มทีเหมือนกัน!! "
" ด...เดี๋ยว! " เรย์ลาลีนพยายามจะพูด แต่อีกฝั่งกระชากคอเสื้อเขาไปติดกับผนังด้วยแรงผิดมนุษย์
" ตื่นซะที !! เรย์ ! ...โลกนี้มันไม่มีหรอกนะ การต่อสู้กันระหว่างฝ่ายธรรมะกับฝ่ายอธรรม น่ะ...ถ้าจะมี...มันก็จะมีแต่สงครามระหว่างฝ่ายธรรมะที่ไม่ลงรอยกันเป็นร้อยๆ ฝ่ายเท่านั้น !!! "
" ...ผ...ผม...หายใจ...ไม่ออก... "
คำพูดที่เริ่มจะขาดห้วงของเรย์ลาลีนทำให้ชาโดว์เหมือนจะได้สติ...เธอยอมปล่อยคอเสื้อของชายหนุ่มก่อนจะหันหลังกอดอกให้
" ...และแล้วในท้ายที่สุด...ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดเท่านั้น...ที่จะได้รับ ชัยชนะ ...ได้รับอำนาจให้เขียนประวัติศาสตร์...ชี้ถูกชี้ผิด...ชักนำโลกใบนี้... "
เรย์ลาลีนสูดหายใจเข้าปอดลึกยาว...ก่อนจะนิ่งไปหลายอึดใจราวกับกำลังย่อยข้อมูลที่พึ่งได้รับ...ก่อนที่ในที่สุด เขาจะเอ่ยปากถามขึ้นเบาๆ อีกครั้ง
" ในเมื่อ...ความคิดของเรามันต่างกันถึงขนาดนี้...แล้วเธอจะยังต้องการฉันไปเป็นพวก ฝ่ายเดียวกับเธอไปทำไม?! "
ชาโดว์หันกลับมามองหน้าเขานิ่ง ก่อนจะแหงนหน้าหัวเราะอย่างยาวนาน
" เราต่างกัน...งั้นเหรอ ?! " เธอทวนคำพลางกลั้วหัวเราะ ก่อนจะแหงนหน้าหัวเราะอีกครั้ง...จนชายหนุ่มชักเริ่มหมดความอดทน
" มี...อะไร...น่าขำ...งั้นเหรอ? "
" คำพูด ของนายยังไงล่ะ ที่น่าขำ!...เรย์...พรุ่งนี้ลองถอดคอนแท็คเลนส์ออก แล้วมองดวงตาตัวเองที่สะท้อนผ่านกระจกเงาออกมาดูสิ...ดวงตาที่เคยใช้มองฉันในคืนแรกที่เราเจอกัน...ดวงตาสีเทาที่มองโลกอย่างรู้แจ้งเห็นจริง...เรย์...ถ้าที่นี่จะมีใครซักคนที่เหมือนกับนาย ...คนๆ นั้นก็คือ ฉัน คนนี้นี่แหละ...เรามันคนพันธุ์เดียวกัน...เป็นผู้ร่วมอุดมการณ์เดียวกัน !! "
เคร้งงงงง !!!!
ในพริบตาที่ชาโดว์จบประโยค ดาบใหญ่สีแดงเพลิง 1 เล่ม และสีทองอร่าม 1 เล่มที่เขาคุ้นตาก็พุ่งลงมาจากฟากฟ้า ลงเสียบพื้นหินหนาล้อมกั้นชาโดว์ไว้พร้อมกับแข่งกันเปล่งออร่าจนแสบตา...พริบตาต่อมา เจ้าของดาบทั้งสองอันไดแก่ เฮเลน วอลคาโน และอเล็กซานดร้า ก็พุ่งลงมาจากฟากฟ้าแยกกันตะครุบเข้าที่ไหล่ทั้งคู่ของชาโดว์อย่างแรงจนชาโดว์ถึงกับทรุดล้มลง ก่อนที่หญิงสาวที่หล่นมาจากฟ้าทั้งคู่จะตะโกนแทบจะในพร้อมกันว่า
" อย่าขัดขืน !! แกถูกจับกุมแล้ว !!...แกมีสิทธืที่จะไม่พูด~~ "
วูบ !!!
อยู่ๆ ร่างเล็กบางของชาโดว์ที่เรย์ลาลีนเห็นอยู่ชัดๆ กับตาว่าว่าถูกคร่ากุมจากทั้งเฮเลนและซานดร้าชนิดแทบไม่มีทางกระดิกกระเดี้ยได้ ก็หายวับไปกับตา!! ก่อนที่เสี้ยววินาทีต่อมา เธอจะปรากฎตัวอีกครั้งอย่างกะทันหันที่ด้านหลังของ 2 สาว พร้อมกับเงื้อเคียวในมือขึ้นสุดหล้า!! หากเธอฟันเคียวลงมา นั่นหมายถึงชีวิตของสองสาวที่กำลังตื่นตะลึงอยู่แน่!!!
" ระวัง !!! "
เสี้ยววินาทีแห่งความเป็นความตาย เรย์ลาลีนตะโกนดังสุดเสียง ก่อนที่ แหวนหยกขาวแห่งอลันดอร่า ในนิ้วชี้ซ้ายจะสว่างวาบ! ปรากฎเป็น หอกวายุ อันคมกริบ พุ่งจากแหวนนำเวทย์ด้วยความเร็วสูง หมายเต็มๆ เข้าที่ชาโดว์ ทำให้อีกฝ่ายจำต้องละทิ้งการโจมตีที่กะจะเอาชีวิตของทั้งเฮเลนและซานดร้าพร้อมกับพลิกตัวหลบ...แต่โชคไม่ดีสำหรับชาโดว์ ที่หอกวายุของเรย์ลาลีนมีอานุภาพมากเกินไป ทำให้แม้จะหลบหอกวายุได้...แต่กระแสลมรอบๆ หอกที่เป็นเหมือนมีดโกนนับร้อยๆ เล่มก็เกี่ยวเอาหน้ากากและฮู้ดคลุมหัวด้านซ้ายขาดกระจุย! เผยให้เห็นครึ่งหน้าด้านซ้ายของชาโดว์เป็นครั้งแรก!!
...แม้จะเป็นเวลาไม่ถึง 1 ใน 10 ส่วนของวินาที แต่เรย์ลาลีนก็ใบหน้าส่วนครึ่งซ้ายของอีกฝ่ายได้อย่างชัดเจน...
...ผมสีดำขลับยาวเป็นประกายปลิวเสยขึ้นตามแรงของกระแสหอกวายุ...ดวงตาสีม่วงเข้มกลมโตส่อแววตื่นตระหนกกับการโจมตีที่ไม่คาดคิดนี้อย่างชัดเจน...รอยสักอักขระแปลกๆ สีดำสนิทตัดกับผิวขาวพาดผ่านตั้งแต่หน้าผากลามมาถึงโหนกแก้ม ทำให้หญิงสาวนามว่าชาโดว์ดูลึกลับน่ากลัว...แต่ก็ไม่อาจจะปิดบังความงามของเธอไปได้...แม้ว่าจะได้เห็นเพียงไม่ถึงครึ่งหน้าดีก็ตาม...
เสี้ยววินาทีก่อนที่เฮเลนกับซานดร้าจะรู้สึกตัวและหันกลับไป ชาโดว์ใช้มือด้านที่ว่างอยู่จับผ้าคลุมขึ้นมาคลุมพรางใบหน้าด้านที่ไร้การปกปิดไว้ ส่วนอีกมือจับเคียวยักษ์ชี้มาที่ชายหนุ่มอย่างประสงค์ร้ายพร้อมกับกรีดร้องดังลั่น!!
" สะบั้น !!! "
.....................................................
...ตลอดเลาที่เรย์ลาลีนเล่า...เขาเอาแต่ลูบคลำลำคอตัวเองไปมาอย่างเอาเป็นเอาตาย ...เพราะในห้วงอนุสติสุดท้าย เขาจำได้อย่างแม่นยำว่าเขาได้ยินคีย์เวิร์ดสั่งการความสามารถ DeadLine จากปากของชาโดว์อย่างชัดเจน...และถ้าหากสิ่งที่เขาได้ยินมันไม่ผิด...แล้วทำไมหัวของเขายังอยู่ติดอยู่กับบ่าของตัวเองได้ล่ะ?!...
" หลังสิ้นคำว่า สะบั้น หรืออะไรซักอย่างเลาๆ นี้ เรย์ก็ล้มฟุบลงไป...อีทีแรกฉันกะว่าจอดไม่ต้องแจวแล้ว แต่ดันแค่สลบแฮะ...ส่วนคนร้ายที่เรย์บอกว่าชื่อชาโดว์ก็หายวับไปกับความมืดราวกับเล่นกลเลย " อเล็กซานดร้าอธิบายต่อพลางทำท่าทางประกอบให้ดู
" ไม่อยากจะเชื่อ...เร็วจนกระทั่งพวกเธอมองไม่ทันเลยงั้นเหรอ? " อันนาเทียน่าอดถามไม่ได้เพราะเธอรู้ระดับพลังของสองสาวดี...ว่ากันตามตรงโอกาสที่จะหนีรอดจากสายตาของเฮเลนกับซานดร้าได้มีน้อยเสียยิ่งกว่าอะไรดี
เฮเลนกับซานดร้าหันมามองหน้ากันก่อนเฮเลนจะเป็นผู้ตอบแทนว่า
" ก็ไม่เชิงว่าเร็วอะไรหรอกนะ...จากสัมผัสของฉัน มันเหมือนกับว่าชาโดว์หายจากที่นึงไปปรากฎอีกที่นึงโดยไม่สามารถจับสัมผัสได้ในพริบตามากกว่า...ใช่มะ...ซานดร้า? " เธอหันไปถามความเห็นซึ่งซานดร้าก็ส่งเสียงอือออเป็นเชิงเห็นด้วยกับสิ่งที่เฮเลนพูด
" ...ความสามารถด้านพลังจิต งั้นเหรอ?...ไม่น่าจะเป็นไปได้...เพราะโดยปกติแล้วถ้านักศึกษาคนใดมีความสามารถด้านพลังจิตเกินกว่าระดับ B ก็จะถูกขึ้นทะเบียนไว้...ยิ่งความสามารถเคลื่อนที่ชั่วพริบตาแบบนี้อาจจะอยู่ในระดับเกินกว่าระดับ A ด้วยซ้ำ...แล้วทำไมฉันถึงไม่รู้จักล่ะ " เทียน่าพูดคล้ายกับรำพึงอย่างครุ่นคิดในขณะที่เชรีน่าในกระจกเวทย์ที่เงียบมาโดยตลอดก็เอ่ยขึ้น
" เรย์...โทษทีนะ...แต่ช่วยอธิบายรูปพรรณสัญฐานอีกทีได้ไหม? "
" ก็บอกไปแล้วว่าผมเห็นแค่ว่าเธอมีดวงตาสีม่วงกับรอยสักสีดำ... "
" ไม่ใช่รูปพรรณคนร้าย... " เชรีน่าขัดขึ้นเรียบๆ ก่อนจะอธิบายต่อ... " ฉันหมายถึงรูปพรรณสัญฐานของอาวุธของคนร้าย...ไอ้ เคียว บ้านั่นน่ะ...นายเป็นคนเดียวที่ได้เหฌนอาวุธของอีกฝ่ายอย่างชัดเจนที่สุด "
คำขอของเชรีน่าเรียกความสนใจของสามสาวที่กำลังสุมหัวแลกเปลี่ยนความคิดกันอยู่ได้อย่างชะงัด
" มีอะไรสะกิดใจพี่อยู่ยังงั้นเหรอคะ? " เทียน่าอดไม่ได้ที่จะถามเบาๆ ขณะที่เชรีน่าในกระจกเวทย์พึมพำใช้มนต์บางอย่าง...อึดใจต่อมาคัมภีร์ที่ทำจากหนังสัตว์เก่าๆ เล่มหนาปึ้กที่ด้านข้างล๊อคด้วยแม่กุญแจเก่าๆ ไว้อย่างแข็งแรงก็ลอยเอื่อยๆ เข้าสู่มือ...เธอใช้เวทย์บทเล็กๆ สะเดาะกุญแจออกก่อนจะเอ่ยสำทับขอรูปพรรณสัญฐานอาวุธของชาโดว์กับเรย์ลาลีนอีกครั้ง
" เรย์...รูปร่างของอาวุธ? "
" อ...เอ่อ...เคียวยักษ์สีดำสนิทตลอดแนว...ด้ามเคียวส่วนที่เป็นไม้มีรอยตะปุ่มตะป่ำคล้ายๆ กับเส้นเอ็นสีขาว...ใบเคียวมีสีดำเป็นประกายราวกับนิล...มีความสามารถโจมตีทะลุแม้แต่ คันฉ่องเทพวายุ ของผม... "
" ...พอแล้ว... " เชรีน่าเอ่ยขัดขึ้นอีกครั้งขณะที่ดวงตาสีเทาของเธอส่อแววเคร่งเครียดที่สุดอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน...แววขี้เล่นและสนุกสนานอันเป็นนิสัยของเธอดูเหมือนจะหายไปโดยสิ้นเชิง...เธอใช้นิ้วเรียวยาวไล่ตามหน้าคัมภีร์ก่อนจะมาหยุดอยู่ที่หน้ากลางๆ ...ดวงตากลมโตของเธอไหววูบอีกครั้งก่อนเธอจะปิดคัมภีร์หนังเล่มหนานั่นอย่างแรง!
" เรย์...ในฐานะพี่ ซึ่งถือเป็นผู้ปกครองของนาย...ฉันขอสั่งเด็ดขาดให้นายวางมือจากเรื่องนี้ซะ !! "
" ว่าไงนะ ?!! " เรย์ลาลีนลุกพรวดอุทานดังลั่น ในขณะที่อีก 3 สาวก็ตกตะลึงไม่แพ้กัน...แต่แววตาของเชรีน่ายังคงเรียบเฉยสนิท...
" ฉันว่าฉันพูดชัดเจนแล้ว...พรุ่งนี้เป็นวันกำหนดการไปเยือนสถาบันผู้ใช้พลังจิตของเหล่านักศึกษาจากมหาลัยหมื่นเวทย์พอดี...ฉันจะไปที่นั่นแล้วจัดการกับปัญหาเรื่องนี้เอง... "
" ผสืบเรื่องนี้มาเป็นเดือน...เข้าใกล้ความจริงจนจะได้ตัวอีกฝ่ายอยู่แล้วนะ !! ...ผมเป็นคนเดียวในเกาะแห่งนี้ที่เข้าใกล้ตัวชาโดว์มากกว่าใครๆ !! " ชายหนุ่มโวยลั่นจนทำให้เชรีน่าผู้เป็นพี่สาว(หรืออีกนัยนึงคือแม่แท้ๆ)ถอนหายใจเฮือก
" แต่เห็นได้ชัดว่าแกตกอยู่ในสภาพไร้ทางสู้อย่างสิ้นเชิงเมื่อเผชิญหน้ากับคนร้าย...มันจะเกิดอะไรขึ้นแกรู้ไหม?...ถ้าหากซานดร้ากับเฮเลนไปช่วยแกไว้ไม่ทัน "
" แต่ผมก็ช่วยซานดร้ากับเฮเลนไว้ จากการโดนร้อยพวงด้วยไอ้เคียวบ้านั่นเหมือนกันนะ !! ...เฮเลน...ซานดร้า -เทียน่า ช่วยพูดอะไรซักอย่างสิ !! "
เมื่อถูกพาดพึงเพื่อหาแนวร่วม เฮเลนหันไปมองซ้ายมองขวาก่อนจะค่อยๆ ยกมือขอพูด
" ...อ...เอ่อ...คุณเชรีน่าคะ... "
ยังไม่ทันได้เริ่มประโยคดี เชรีน่าก็หันขวับมามองก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบจนเสียดกระดูก
" เฺฮเลน...แล้วก็พวกเธอด้วย...เทียน่า...ซานดร้า....หวังว่าพวกเธอคงจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับการตัดสินใจของฉัน...แถมยังเป็นเรื่องระหว่างคนในครอบครัวด้วยแบบนี้นะ ... "
ไอ้คำพูดสวยๆ ที่มีความหมายตรงๆ ว่า อย่าเสือก ! ของเชรีน่าทำเอาเฮเลนต้องหดมือวูบกลับลงไปนั่งหงอยเป็นแมวป่วย ในขณะที่ 2 ผู้อำนวการสาวฝาแฝดที่โดนหางเลขไปด้วยต่างหน้าเสียไปตามๆ กัน
" โธ่โว้ย !!! " เมื่อเรย์ลาลีนไม่เห็นทางใดๆ เหลืออีกแล้ว...แถมดูยังไงเชรีน่าก็ไม่มีทางจเปลี่ยนใจแน่ๆ ด้วย เขาจึงได้แต่สบถสาบานดังลั่นห้อง ก่อนจะก้าวเท้าฉับๆ ออกจากห้องไป โดยไม่ลืมที่จะปิดประตูอย่างแรงจนห้องสะเทือนเพื่อระบายอารมณ์อีกด้วย
...หลังจากที่เรย์ลาลีนเดินออกจากห้องไปอึดใจใหญ่...ในที่สุดเทียน่าก็ค่อยๆ ยกมือขอพูดเพราะเธอเริ่มทนบรรยากาศมาคุที่มาพร้อมกับความเงียบไม่ไหวแล้ว...
" ขออนุญาตพูดค่ะ...พี่เชรีน่า... "
" อนุญาต " เชรีน่าเอ่ยตอบเบาๆ ด้วยใบหน้าเรียบเฉยจนทำให้ไม่รู้ว่าเธอตบมุกหรือพูดจริงจังกันแน่
" หนูว่ามันออกจะเกินไปนิดนะคะ... "
" ฉันทำแบบนี้ก็เพื่อความปลอดภัยของมันเองนะ "
" ถึงจะพูดยังงั้นก็เถอะค่ะ...แม้ว่าเรย์จะแพ้แบบหลุดลุ่ย...แต่นั่นก็เป็นเพราะอีกฝ่ายมีความสามารถด้านพลังจิตที่เหมาะแก่การเข้าประชิดตัวและลอบสังหาร...แถมเรย์ก็มีอาวุธเพียงแค่แหวนนำเวทย์เพียงวงเดียว...แค่เขาไม่บาดเจ็บสาหัสร้ายแรงก็ถือว่าเก่งแล้วไม่ใช่เหรอคะ?...ว่ากันตามจริง ถ้าเขามีอาวุธเต็มอัตราศึกอย่างไม้เท้าเวทย์อีกซักอัน...ผลการต่อสู้มันอาจจะออกมาในทางตรงกันข้ามเลยก็ได้นะคะ "
เชรีน่าถอนหายใจเฮือกก่อนจะเปิดคัมภีร์หนังที่อยู่ตรงหน้าอีกครั้ง
" ต่อให้มีอาวุธครบมือ...หรืออยู่ในสภาพพร้อมรบที่สุด ผลการต่อสู้ก็ไม่มีทางเปลี่ยนหรอก...ตราบเท่าที่อีกฝ่ายยังคงถือเคียวเล่มนั้นอยู่ล่ะก็นะ... "
" อ...เอ๋?...ทำไมล่ะคะ? "
" เพราะอีกฝั่งอยู่คนละระดับชั้นกับมันไปแล้วน่ะสิ... " เธอตอบพลางพลิกคัมภีร์มาให้ 3 สาวดู ซึ่งเป็นหน้าของรูปภาพของเคียวยักษ์ที่มีรูปพรรณสัญฐานเหมือนกับที่เรย์ลาลีนบอกไว้อย่างไม่มีผิดเพี้ยน!
" ฉันไม่รู้หรอกนะว่ามันไปปรากฎอยู่ในมือของคนร้ายที่ชื่อชาโดว์ได้ยังไง...แต่เคียวบ้านี่ทำให้งาน ล่าช้าง ธรรมดาๆ กลายเป็นงาน ล่าอภิมหาโคระตะช้างแมมมอธตกมัน ไปเสียแล้ว! ...เคียวเล่มนี้มีชื่อเต็มๆ ว่า ราชศาสตรา เคียวทมิฬ - เนเมซิส ราชศาสตราสายดำลำดับที่ 1 ที่หายสาปสูญไปกว่าหนึ่งพันปี !...ราชศาสตราที่เคยทำให้อดีตมหาทวีปเอเธอน่อลกลายเป็น นรกบนดิน มาแล้วยังไงล่ะ !! "
" !!! "
......................................................
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ