Chronicles Of Legend. ปฐมบทแห่งตำนาน
เขียนโดย LanzaDeLuZ
วันที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 เวลา 19.07 น.
แก้ไขเมื่อ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 19.20 น. โดย เจ้าของนิยาย
31) ...Trust...(ความไว้เนื้อเชื่อใจ)...(1)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
================================================
" แก !!! .....แน่จริงก็โผล่ออกมาสิ...มาตัดสินกันให้รู้ดีรู้ชั่วไปเลย...คืนนี้ไม่แกก็ฉันต้องคว่ำกันไปข้าง !! "
เรย์ลาลีนตวาดกร้าวพลางเสก หอกวายุ เข้าสู่มืออีกครั้ง...แถมยังเป็นหอกวายุที่ใหญ่และคมกล้ากว่าที่แลนซ์ เซอร์เบร่อน ทำได้เกือบ 2 เท่า....อีกทั้งยังแอบร่าย คันฉ่องเทพวายุ เตรียมป้องกันไว้เผื่อสถานการณ์ฉุกเฉินสุดขีดอีกด้วย...แต่สิ่งที่ตอบกลับเสียงตวาดกร้าวของเขากลับมา เป็นเพียงแค่เสียงหัวเราะอันแปร่งพร่าเท่านั้น
" คิกๆๆๆ....มีใครเคยบอกนายไหมว่า นายนี่ไม่มีวาทศิลป์ในด้านการเจรจาต่อรอง เอาเสียเลย...เรย์... "
เรย์ลาลีนยิ้มเครียดๆ ...ว่าจะไม่คิดอะไรก็อดคิดไม่ได้ว่าการด้อยความสามารถด้านการเจรจาแบบนี้เป็นผลพวงจากพันธุกรรมครึ่งนึงของเชรีน่ารึเปล่า
" อย่ามาเล่นลิ้นดีกว่าน่า...ระหว่างฉันกับ แก มันไม่มีเรื่องอะไรจะต้องคุยกันอยู่แล้วนี่ "
" เรียก แก ๆๆๆๆ อยู่ได้...คนเขามีชื่อมีแซ่นะ "
เรย์ลาลีนถึงกับเอียงวูบอย่านึกไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะตัดพ้อเขาด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่องพรรค์นี้ แต่วิบตาต่อมาเขาจะยิ้มอย่างมีเลศนัย ก่อนจะตะโกนถามกลับไป
" งั้นก็บอกชื่อแซ่ของแกมาสิฟะ...ทีแกยังรู้ชื่อของฉันเลย...วินๆ กันหน่อย "
อีกฝ่ายหัวเราะอีกครั้งอย่างชอบอกชอบใจ
" แหม...เจ้าเล่ห์จริงนะ...ตัวแค่นี้...เอางี้ดีกว่า...เพื่อป้องกันนายเรียกฉันว่า แก อีก ...เรียกฉันว่า ชาโดว์ (Shadow - เงา) ก็แล้วกัน "
...จากลักษณะของรูปแบบการพูดและการหัวเราะ...รวมถึงลักษณะนิสัยยึดติดกับเรื่องหยุมหยิมเล็กน้อยอย่างคำใช้เรียกสรรพนามอีก...พนันต่อร้อยเอาหนึ่งเลยว่าถ้าอีกฝ่ายไม่ใช่ผู้หญิงตัวเป็นๆ ก็คงเป็นไอ้หนุ่มที่มีนิสัยสมหญิงยิ่งกว่าเชรีน่าเสียอีกแหงๆ...เรย์ลาลีนวิเคราะห์เงียบๆ ซึ่งก็ดูเหมือนอีกฝั่งราวกับอ่านใจได้ เพราะชาโดว์(ตามที่อีกฝ่ายบอก)พูดเหมือนจะตอบกลับมาว่า
" ใช่แล้ว...ฉันเป็นผู้หญิง...เป็นแค่สาวน้อยน่ารักธรรมด๊า...ธรรมดา เพราะงั้นโปรดสุภาพกับฉันให้เหมือนสุภาพกับเฮเลน วอลคาโน หน่อยๆ สิ "
' อุวะ...เป็นพยาธิในลำไส้ตูรึไงฟะเนี่ย!? ' เรย์ลาลีนอดคิดไม่ได้ก่อนที่จะตะโกนกลับไป
" งั้น...ชาโดว์...ยินดีที่ได้รู้จักนะ...ฉันชื่อเรย์ รัชเชอร์...เอ้า!...แนะนำตัวกันพอหอมปากหอมคอแล้วก็ออกมาซะทีเซ่...จุดประสงค์ของ เธอ คือการบุกเข้าอาคารเรียนกลาง ในขณะที่พันธะหน้าที่ของฉันคือจัดการและควบคุมตัวเธอเสีย...เพราะงั้น ระหว่างเรามันไม่มีอะไรให้คุยกันอยู่แล้วนี่ " เขาเปลี่ยนสรรพนามที่ใช้เรียกคนร้ายชุดดำนามว่าชาโดว์เสียใหม่ เพราะไม่ว่าจะเป็นคนร้ายหรือคนดี...เขาก็เป็นคนที่ให้เกียรติผู้หญิงเสมอ
พริบตาเดียวที่เขาพูดจบ จิตสังหารอันไม่รู้ที่มาก็พุ่งวูบจากรอบทิศทาง เสียดแทงมาที่ชายหนุ่มราวกับดาบนับพันเล่ม...เสี้ยววินาทีถัดมา ร่างเล็กบางภายใต้ชุดคลุมดำก็ปรากฎตัวขึ้นด้านหลังอันเกือบจะเป็นมุมอับสายตาของเขา ซึ่งไม่รู้เหมือนกันว่าทำได้ยังไง...ก่อนที่เรย์ลาลีนจะได้ทันร่ายเวทย์หรือปลดปล่อย หอกวายุ ออกไป...ส่วนคมของเคียวสีดำทมิฬขนาดใหญ่ก็ปาดวูบผ่านลำคอของเขาไป !!
..................................................
...ในช่วงเวลาเดียวกันนั้นเอง...ณ ห้องประชุมใหญ่คณาจารย์...มหา'ลัยหมื่นเวทย์...
เพล้ง !!!
แก้วคริสตัลสีฟ้าใสลายงาม ซึ่งวินาทีก่อนอยู่ในกระโจมมือเรียวงามของ ผอ.เชรีน่า เมโอ คริสตัล...บัดนี้หล่นไปกระทบพื้นแตกกระจายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย...มือของเธอสั่นระรัว ดวงตาสีเทาจรัสเบิกโพลงอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน!
" ท...ท่าน เชรีน่า?! "
" ฉันไม่เป็นไร... " เธอพูดเบาๆ โดยบังคับเสียงตัวเองไม่ให้สั่น...แม้ว่าหัวใจจะยังคงเต้นระรัวไม่เป็นส่ำอยู่ก็ตาม
" ต...แต่ว่า... "
" ออกไปก่อน...ทุกคนเลย... " คราวนี้เธอสั่งด้วยน้ำเสียงที่เฉียบขาดขึ้นเล็กน้อย
พวกอาจารย์จอมเวทย์ที่กำลังนั่งประชุมกันอยู่จนดึกจนดื่นหันไปมองหน้ากันเลิกลั่ก ...แต่กึ่งอึดใจต่อมา หัวหน้าอาจารย์ที่อาวุโสที่สุด...ผู้ซึ่งเป็นอาจารย์มาตั้งแต่ที่ กาเบรียล เมโอ คริสตัล ผู้เป็นพ่อของเชรีน่าเป็นผู้อำนวยการของที่นี่ ลุกขึ้นช้าๆ ก่อนจะก้มหัวน้อมคำนับเชรีน่า แล้วใช้ไม้เท้าเวทย์ประคองตัวยักแย่ยักยันออกจากห้องประชุมไป ซึ่งนั่นเป็นสัญญาณให้อาจารย์จอมเวทย์คนอื่นๆ ลุกขึ้นตามไป ...เพียงไม่กี่นาทีต่อมา ห้องประชุมขนาดใหญ่ก็เหลือเพียงแค่เชรีน่าอยู่เพียงคนเดียว...
เชรีน่าหันมองซ้ายมองขวาเพื่อให้แน่ใจว่าเธอเป็นคนเดียวที่อยู่ภายในห้องประชุมขนาดใหญ่แห่งนี้ ก่อนที่เธอจะรีบกางกระจกเวทย์ขึ้นทันที...แม้ความเร็วในการกางกระจกเวทย์ของเธอจะเร็วกว่าเรย์ลาลีนหรือจอมเวทย์อื่นๆ ที่มีความสามารถนี้ถึงเกือบ 2 เท่า...แต่ในความคิดของเธอ มันราวกับว่ากระจกเวทย์ของเธอก่อตัวเป็นรูปร่างได้ช้าราวกับชั่วกัปชั่วกัลป์ทีเดียว...ดวงตาสีเทาของเธอไหววูบอย่างรวดเร็วขณะที่ริมฝีปากสีแดงชาดพึมพำด้วยประโยคเดิยซ้ำๆไม่หยุด
" ขอให้ผิดทีเถอะ...ขอให้ผิดทีเถอะ !! "
..............................................
...หัวของเขายังอยู่ติดกับคอ...แถมคอของเขาก็ยังไม่มีรอยแผลแม้กระทั่งมีดโกนบาด...
...แต่เมื่อไม่กี่วินาทีที่แล้ว เขาเห็นชัดๆ อยู่คาตาว่าไอ้ เคียว บ้านั่นฟันผ่านคอเขาไปแล้วนี่หว่า?!...
...เรย์ลาลีนกระโดดวูบทิ้งระยะจากคนร้ายชุดดำที่เรียกตัวเองว่า ชาโดว์ ไปถึง 4-5 ช่วงตัว พลางลูบคลำลำคอตัวเองอย่างเอาเป็นเอาตายราวกับเพื่อให้แน่ใจว่ามันยังคงเชื่อมติดกันอยู่ดี ...น่าแปลกที่อีกฝ่ายยังคงยืนคอนเคียวยักษ์นั่นด้วยมือข้างเดียวอยู่ที่เดิม โดยไม่คิดจะติดตามเข้ามาโจมตีเขาต่อ...
" ประสาทแข็งดีนี่...ปกติแล้วคนที่โดน ท่า นี้เข้าไปถ้าไม่ยืนแข็งอยู่กับที่ก็ต้องช็อคจนสลบไปแล้วแท้ๆ " ชาโดว์พูดเป็นเชิงชื่นชมด้วยน้ำเสียงแปร่งๆ จากเครื่องแปลงเสียงตามเดิม
" ...ท...ท่า...งั้นเหรอ? " เรย์ลาลีนอดทวนคำเบาๆ อย่าฉงนไม่ได้
" ไม่แปลกใจมั่งเหรอ?...ว่าทำไมเวทย์สุดยอดแห่งการป้องกัน คันฉ่องเทพวายุ ของนายถึงไม่แสดงผล... "
' ยัย...บ้านี่รู้แล้วว่าเราเป็นผู้ใช้เวทย์มนต์...ไม่ใช่ผู้ใช้พลังจิต...แถมยังรู้แม้กระทั่งชื่อท่าของคันฉ่องเทพวายุึของเราอีก...ชักไม่เข้าท่าแล้วเว้ยเฮ้ย ' ชายหนุ่มคิดเครียดๆ ...เขายังไม่กล้าผลีผลามเข้าโจมตีเพราะใจนึงก็อยากจะรู้ว่าอีกฝ่ายกำลังจะเล่นตลกอะไร...อีกใจนึงก็ยังเกรงใจไอ้เคียวยักษ์สีดำสนิทที่แผ่รังสีความไม่น่าไว้วางใจมาให้อยู่เนืองๆ
" แย่หน่อยนะที่ฉันไม่ได้พกกระจกเงามาด้วย แต่ฉันมีอีกวิธีที่จะอธิบาย ท่า ของฉัน " เธอพูดพลางหยิบผลแอปเปิ้ลสีแดงสดจากแขนเสื้อขึ้นมาให้ดู ซึ่งมันก็เห็นได้อย่างชัดเจนภายใต้แสงนวลของดวงจันทร์ 3 ดวงที่ลอยอยู่บนฟ้า
' ไม่ได้พกกระจกเงา...แต่ดันมีแอปเปิ้ล...เนี่ยนะ...เอาเหอะ ! ' แม้จะรู้ว่ามันไม่ใช่เวลาที่จะมาคิดเรื่องไร้สาระพรรค์นี้ แต่เรยฺ์ลาลีนก็อดคิดอย่างหงุดหงิดไม่ได้
จะได้ยินความคิดของชายหนุ่มหรือไม่ อยู่ๆ ชาโดว์ก็ใช้เคียวด้านที่มีคมฟันฉับ! ผ่านกลางผลแอปเปิ้ลนั่นด้วยความเร็วราวกับเคียวนั่นเป็นแค่ของเด็กเล่น...ที่น่าประหลาดใจระคนงุนงงเป็นที่สุดคือทั้งๆ ที่เขาเห็นอยู่ตำตาว่าคมเคียวนั่นผ่าผ่านแอปเปิ้ลไปแล้วแท้ๆ ...แต่ผลแอปเปิ้ลนั่น กลับยังคงอยู่ดีโดยไม่ได้แบ่งเป็น 2 ซีกแต่อย่างใด
แต่ก่อนที่เรย์ลาลีนจะได้ทันถามอะไร ปรากฎเส้นตรงสีดำผุดขึ้นโดยรอบผลแอปเปิ้ลตามรอยที่เคียวฟันผ่านพอดีเป๊ะ...หญิงสาว(ตามที่เธอบอก)นามว่าชาโดว์โยนผลแอปเปิ้ลผลนั้นให้เขา ซึ่งเขาก็รับมาก่อนจะมองดูเส้นสีดำรอบแอปเปิ้ลนั่นอย่างงงๆ
" เห็นเส้นรอบวงสีดำนั่นใช่มะ?...ฉันเรียกมันว่า DeadLine ...เข้าท่าดีใช่ไหมล่ะ? "
" DeadLine ? "
" เส้นสีัดำที่พาดผ่านตามรอยตัดของเคียวที่ตัดแอปเปิ้ล...และแน่นอนว่าเป็นแบบเดียวกับที่ตัดผ่านคอของนาย เป็นเหมือน เครื่องหมาย ที่ถูกทำไว้...เพราะการทำเครื่องหมายยังไม่เพียงพอที่จะทำให้การป้องกันแบบ passive ของทั้งพลังจิตและพลังเวทย์แสดงผล...ซึ่งถ้าฉันเดาไม่ผิด คันฉ่องเทพวายุ ของนายก็ไม่ได้อยู่นอกเหนือกฎเกณฑ์นี้...เวทย์คันฉ่องเทพวายุของนายคงจะทำงานก็ต่อเมื่อ สิ่งที่จู่โจมผู้ใช้เพียงพอจะทำให้ผู้ใช้เกิดการบาดเจ็บได้....เพราะงั้น DeadLine ของฉันถึงไม่อยู่ในข่าย... "
' ถูกต้องทุกประการเลยแฮะ...ไม่ใช่แค่รู้ชื่อท่า แต่ยังรู้ถึงหลักการทำงาน...ยัยผู้หญิงคนนี้ไม่ได้รู้เรื่องเกี่ยวกับเวทย์มนต์แบบงูๆ ปลาๆ แน่ ' เรย์ลาลีนคิดในใจพร้อมกับลูบคลำลำคอที่มีเส้นขีดสีดำที่ชาโดว์เรียกว่า Deadline ก่อนจะถามกลับไปว่า
" ถ้างั้นมันจะมีประโยชน์อะไรล่ะ?...ไอ้การโจมตีที่ทะลุเกราะป้องกันทุกรูปแบบ แต่ดันไม่สามารถสร้างความเสียหายให้กับผู้ถูกโจมตีได้พรรค์นี้... "
" ใจร้อนเสียจริงนะ...นายคิดจริงๆ เหรอ ว่าการโจมตีของ เคียว ของฉันจะไร้ประโยชน์ถึงขนาดนั้นเชียว? " ชาโดว์ชูเคียวเล่มยักษ์ที่สูงท่วมหัวขึ้นด้วยมือเพียงข้างเดียว แต่นั่นก็ทำให้เรย์ลาลีนได้เห็นอาวุธของอีกฝ่ายชัดๆ เป็นครั้งแรก...
...ด้ามเคียวเป็นวัสดุที่ดูเหมือนทำจากไม้เมื่อมองด้วยตาเปล่า แต่เป็นไม้ที่มีสีดำสนิท และมีลายคล้ายกับเส้นเอ็นสีแดงสดที่ปูดโปนตลอดแนว...ส่วนของใบเคียวที่เป็นโลหะยิ่งแล้วใหญ่ เพราะนอกจากจะมีขนาดใหญ่ซึ่งควรจะหนักเกินกว่าที่มนุษย์คนเดียวจะแบกไหวแล้ว...มันยังเป็นสีดำสนิทเสียยิ่งกว่าส่วนที่เป็นด้ามเสียอีก...มันเป็นสีดำและส่องประกายประหลาดราวกับนิลกาฬน้ำหนึ่ง...ส่วนที่ติดใบเคียวเข้ากับด้ามมีลักษณะปูดโปนขึ้นอย่าน่ากลัว!!...
" ฉันก็ยังไม่เข้าใจสิ่งที่เธอสื่ออยู่ดี "
" คิกๆๆๆ....งั้นจับตามองรอยขีดดำที่ผลแอปเปิ้ลให้ดีนะ... "
" คร้าบ...คร้าบ...กระผมกำลังดูอยู่... " เขาขานด้วยน้ำเสียงเหมือนจะชักเริ่มเหนื่อยกับการสนทนา
" สะบั้น !!! "
พริบตาที่สิ้นเสียงของคำว่า สะบั้น !! รอยเส้นสีดำเล็กๆ รอบผลแอปเปิ้ลนั้นก็หดรัดวูบ!! หดหายผ่านเนื้อแอปเปิ้ลเข้าไป! ...พริบตาต่อมา ผลแอปเปิ้ลส่วนบนก็เลื่อนไถลหลุดออกจากส่วนล่างที่อยู่ในมือของชายหนุ่ม จากรอยตัดที่คมกริบยิ่งกว่ามีดโกน!!
" ฮ ...เฮ้ยยย !!! "
เรย์ลาลีนสะบัดผลแอปเปิ้ลที่เหลืออยู่ในมืออีกครึ่งนึงทิ้งทันทีด้วยความตกใจ ก่อนที่เขาจะพยายามลูบคลำจนกระทั่งข่วนลำคออย่างเอาเป็นเอาตายโดยหวังอย่างสิ้นหวังว่าจะเอาเส้นสีดำแบบเดียวกับที่ติดอยู่กับผลแอปเปิ้ลออก...ซึ่งเขาก็รู้ดีอยู่แก่ใจว่ามันไม่ได้ผล
" เปล่าประโยชน์น่า...เรย์...เส้นสีดำสนิทนั่นเป็นเพียงแค่เครื่องหมายที่ถูกมาร์คไว้ ...แต่อย่าห่วงไปเลย...มันจะยังไม่ทำงานจนกว่าจะได้รับคำสั่งของฉันเ่ท่านั้น... " ชาโดว์เอ่ยสำทับเข้ามาอีกครั้ง...ในตอนนี้เรย์ลาลีนต้องตกอยู่ในฐานะเป็นเบี้ยล่างอย่างไร้ทางสู้ชนิดจะบีบก็ตายจะคลายก็รอดเลยทีเดียว!!...
...แม้ว่านี่จะเป็นครั้งแรกในชีวิตของเขา ที่ตกอยู่ในสภาพไร้ทางโต้ตอบสุดขีดขนาดนี้ แต่เรย์ลาลีนก็ยังแสดงให้เห็นถึงการควบคุมสติสัมปชัญญะตัวเองอย่างยอดเยี่ยม...ชาโดว์ได้เห็นแววตาแตกตื่นลนลานของชายหนุ่มเพียงไม่กี่วินาที...พริบตาเดียวเมื่อเรย์ลาลีนหลับตาลงและลืมตาขึ้นมาใหม่ แววตาแตกตื่นลนลานนั้นก็มลายหายไปอย่างไร้ร่องรอย...
" เอาล่ะ.....ต้องการจะพูดอะไรกับผมก็ว่ามา! "
" ??? " ชาโดว์งงงันวูบ ก่อนที่อึดใจต่อมาเธอจะหัวเราะเบาๆ อย่างชอบอกชอบใจอีกครั้ง
" ความฉลาด และความใจเย็นของนาย กำลังเริ่มจะทำให้ฉันกลัวแล้วนะ...รู้ได้ยังไงว่าที่ฉันทำไปทั้งหมดเพราะต้องการจะแค่คุยกับนายเท่านั้น? "
" ...ถ้าเธอต้องการจะแค่ฆ่าฉันจริงๆ...เธอก็ควรจะฆ่าฉันเสียตั้งแต่ตอนที่ฉันกำลังประมาทฝีมือเธอ...และไม่เห็นจำเป็นจะต้องต่อความยาวสาวความยืดด้วยการมายืนอธิบายความสามารถของเธอขนาดนี้...ฉันไม่รู้หรอกนะว่าเธอต้องการจะคุยอะไรกับฉัน...แต่ที่เธอทำมาทั้งหมดก็เพราะแค่รับประกันว่าฉันจะอยู่นิงๆ คุยกับเธอตามที่เธอต้องการเท่านั้น... "
ท่ามกลางความเงียบสงบในค่ำคืนที่เริ่มจะยาวนานในความคิดของเรย์ลาลีน....หญิงสาวนามว่าชาโดว์ตบมือให้กับคำพูดของเขาอย่างยาวนาน ก่อนที่เธอจะหัวเราะอย่างอารมณ์ดีอีกครั้ง
" ตั้งแต่...ที่เรา 2 คนได้พบกันครั้งแรกในคืนนั้น...ฉันก็รู้อยู่แล้วว่านายไม่ใช่นักศึกษาธรรมดา...แต่ฉันพึ่งจะรู้ชัดเอาเดี๋ยวนี้เอง...ว่านายมันเป็นปัญหาที่ใหญ่ที่สุดสำหรับฉัน...ขอโทษที่ต้องทำแบบนี้นะ...แต่ฉันต้องการทำให้แน่ใจว่า นายต้องไม่หัน แหวนนำเวทย์นั่น ใส่ฉัน ในเวลาที่เรากำลังคุยกัน... " เธอพูดเบาๆ พลางเดินทอดน่องไปนั่งที่ม้านั่งไม้ใกล้ๆ โดยวางเคียวสีดำพาดตักไว้
เรย์ลาลีนหันไปมองอย่างไม่ใคร่จะไว้วางใจนัก แต่สำหรับสถานการณ์ปัจจุบันบีบให้เขาไม่มีทางเลือกมากนัก...เขาจึงทำได้แต่เดินไปนั่งที่ม้านั่งฝั่งตรงข้าม ลูบคอที่มีเส้น DeadLine พาดผ่านอยู่ก่อนจะเอ่ยเปิดบทสนทนาเรียบๆ
" เอาล่ะ...ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง บ้า อะไรก็ตาม!...ผมก็พร้อมจะฟังแล้ว... "
หญิงสาว(ตามที่เธอได้บอกไว้)นามว่าชาโดว์หันมาเอียงคอมองเขาผ่านหน้ากากสีดำที่ปิดบังทุกรูปพรรณสัณฐานของเธอเอาไว้ ก่อนจะถอนหายใจเบาๆ ราวกับเรื่องที่เธอกำลังจะพูดต้องใช้ความกล้าในการเตรียมใจอย่างมาก
" เรย์ ....ขอร้องล่ะ ....มาอยู่ฝ่ายฉันได้ไหม ? "
" !!! "
.....................................................
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ