Chronicles Of Legend. ปฐมบทแห่งตำนาน

7.3

เขียนโดย LanzaDeLuZ

วันที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 เวลา 19.07 น.

  67 chapter
  7 วิจารณ์
  64.42K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 19.20 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

21) ...คนปริศนาในชุดคลุมดำ...

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
 
================================================
 
            " ...สถาบันผู้ใช้พลังจิตนานาชาติวัลคาไนท์ เป็นสถาบันที่พึ่งก่อตั้งมาเพียง 7 ปีเท่านั้น โดยผู้ก่อตั้งคือ ริชาร์ด โซโลมอน หรือประธานาธิบดี ริชาร์ด ....ประธานาธิบดีคนปัจจุบันแห่งวัลคาไนท์ ......ส่วน อันนาเทียน่า เป็นผู้อำนวยการรุ่นที่ 2  ....สถาบันฯ มีระบบการศึกษาแบ่งออกเป็น  6 ระดับ  ระดับปี 1-3 เป็นการศึกษาการใช้พลังจิตขั้นพื้นฐาน  ส่วนระดับปี 4-6 เป็นการแยกตามสายความถนัด ......พวกเราอยู่กันอย่างพี่น้อง กินนอนแบบโรงเรียนประจำ โดยแบ่งหอพักเป็น 4 หอ .............ให้ตายสิ ! ....ฉันไม่เคยต้องมาโปรโมทสถาบันฯ ตัวเองแบบนี้มาก่อนเลยนะ! ....นายนี่มัน นักศึกษาวีไอพี  ชัดๆ !! "  ซานดร้าบ่นอย่างสุดทนเมื่อต้องมานั่งบรรยายลักษณะทั่วไปของสถาบันตัวเองให้นักศึกษาคนนึงฟัง ทั้งๆ ที่เธอเป็นถึง รองผู้อำนวยการของสถาบันแห่งนี้แท้ๆ
 
             " ไม่เอาน่า...พี่ซานดร้า...คุณเรย์เขาไม่ใช่นักศึกษาธรรมดาซะหน่อย เขามาที่นี่เพื่อช่วยเรานะ....ทั้งๆ ที่เขาจะไม่มาก็ได้ "  เทียน่าที่นั่งอยู่ข้างๆ แก้ต่างให้เบาๆ ขณะส่งพิมพ์เขียวของตึกต่างๆ ของสถาบันฯ ให้เรย์ดูทีละแผ่น เพื่อศึกษาแบบแปลนต่างๆ
 
             " ฉันกลัวว่าเขาจะ ม่องเท่ง  เสียง่ายๆ ก่อนที่เราจะสืบรู้ความจริงน่ะสิ ....แบบนั้นมีหวังที่พวกเรามานั่งหลังขดหลังแข็งกันอยู่นี่ก็จะเสียเวลาซะเปล่าๆ "  ซานดร้าบ่นอุบอิบ ทำเอาเรย์หัวเราะได้ไม่สนิทนัก
 
             " เฮ้อ......ขอโทษแทนพี่ซานดร้าด้วยนะคะ...พี่เขาเป็นพวกมนุษยสัมพันธ์ต่ำมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้วอ่ะค่ะ "
 
             " แหม....ทำไมผมไม่ค่อยแปลกใจเลยนะ "  เรย์บ่นเบาๆ มั่งพร้อมกับหยิบแผนที่ของเกาะอันเป็นที่ตั้งของ สถาบันฯ ขึ้นมาดู
 
             " น....นี่ นาย !! "
 
             " จากที่ผมดูพิมพ์เขียวกับแผนที่คร่าวๆ แล้ว......นอกจากสถานที่ตั้งของสถาบันฯ ซึ่งปรากฎบนแผนที่ใดๆ กับกำแพงรอบเกาะ ที่สูงเกินกว่าที่คน หรืออุปกรณ์ช่วยใดๆ จะข้ามผ่านมาได้ ....ยังมีเหล่าอาจารย์เวร กับสารวัตรนักเรียนเดินตรวจกันตลอดทั้งคืนอีก .......ให้ตาย! พูดตรงๆ นะ จะบุกเกาะแห่งนี้ มันยากกว่าการบุกเกาะทองคำในสภาพพร้อมรบสุดเป็น 10 เท่าได้เลยมั้งเนี่ย? "
 
             " บุก...เกาะ...เกาะอะไรนะ?....คุณพูดถึงเรื่องอะไรกันเนี่ย? "
 
             " เอ่อ...ผมหมายถึง...มันยากกว่าการบุกเกาะไหนๆ ในทวีปนี้เลยน่ะครับ "  เรย์รีบกลบเกลื่อนพลางนึกสาปแช่งตัวเองที่ควรจะระวังปากให้มากกว่านี้
 
             โชคดีของเขาที่ดูเหมือนซานดร้าและเทียน่าจะไม่ทันจับสังเกตอะไร...หรือถ้าจับสังเกตทัน พวกเธอก็ปล่อยผ่านไปเพราะมัวแต่นึกถึงเรื่องของสถาบันฯ ตัวเองมากกว่า
 
             " เพราะงี้ไง พวกฉันถึงได้มานั่งเครียดกันอยู่แบบนี้....ฉันเชื่อว่าคนที่บุกเข้ามาได้เนี่ย... ต้องมีเทคโนโลยีชั้นสูงที่ก้าวหน้าเกินกว่าที่พวกเรารู้จัก....หรือไม่...ก็คงจะมีความสามารถเกินกว่าพวกเราหลายเท่า.... " ซานดร้าบ่นเบาๆ แต่ก่อนที่เธอจะพูดจบ เรย์ก็แทรกขึ้นเสียก่อน
 
             " หรือไม่...พวกเราก็กำลังเจอกับพวก หนอนบ่อนไส้  ไงล่ะ... "  เรย์พูดเรียบๆ แต่เรียกเอาความสนใจของสองสาวฝาแฝดได้อย่างชะงัด
 
             " ว...ว่าไงนะ? "
 
             " ผมกำลังพูดว่า...คนที่บุกเข้ามาใน สถาบันฯ ของคุณ  ....อาจจะเป็นคน ในสถาบันฯ ของคุณ  เองก็ได้... "
 
             " ไม่มีทาง !! " ซานดร้าเอามือทุบโต๊ะพร้อมกับตะโกนลั่นห้อง
 
             " หากกำจัดคำว่าเป็นไปไม่ได้ออกไป....สิ่งที่เหลืออยู่ ถึงจะดูไม่น่าจะใช่ แต่ก็เป็นความจริง "
 
             " คุ้นๆ เหมือนเคยฟังมาจากหนังเรื่องนึงแฮะ "  เทียน่าบ่นเบาๆ แต่ในใจกับกำลังครุ่นคิดถึงความเป็นไปได้ของคำพูดของชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้า
 
             " ไม่มีทางเป็นไปได้อยู่แล้ว เทียน่า!!  คณาจารย์ของพวกเราก็เป็นคนที่พวกเราคัดมาเองกับมือ  โอกาสที่จะเป็นหนอนบ่อนไส้มีน้อยเสียยิ่งกว่าน้อย....ส่วนพวกนักศึกษายิ่งแล้วใหญ่ ... ต่อให้เป็นพวกปี 6 ก็ไม่มีความสามารถมากพอจะบุกเข้าอาคารกลางแห่งนี้อันเป็นที่เกิดเหตุได้ !! "  ซานดร้าพยายามเถียงโดยยกเหตุผลเข้าอ้าง
 
             " คือ....ไม่อยากจะขัดหรอกนะ พี่ซานดร้า...แต่คำพูดของคุณเรย์ก็ใช่ว่าจะไม่มีโอกาส เป็นไปได้ซะทีเดียว... " เทียน่าพูดเบาๆ หลังจากครุ่นคิดอยู่เป็นเวลานาน
 
             " ว...ว่าไงนะ? " ซานดร้าหันควับมาถามอย่างแทบไม่เชื่อหูตัวเอง
 
             " เรากำลังพูดถึง พวกแฝงตัว  อยู่ไงล่ะ....ฉันไม่รู้หรอกนะ ว่าพวกนั้นต้องการหาอะไร ....แต่ถ้าหากสิ่งที่พวกนั้นหาอยู่ สำคัญ หรือ ล้ำค่า จริงๆ ...ก็ไม่แปลกที่ที่พวกนั้นอาจจะแฝงตัวเข้ามาในฐานะอาจารย์ หรือนักศึกษา  และรอคอยโดยแฝงตัวอย่างใจเย็นมาเป็นปี...หรืออาจจะเป็นหลายปีแล้วด้วย และรอจังหวะเหมาะ เพื่อจะบุก...ซึ่งอาจจะเป็นเวลานี้ก็ได้...แย่จริงๆ! ...ทำไมฉันนึกถึงเรื่องนี้ไม่ออกนะ "  เทียน่าบ่นเสียงดังขณะจดสมมติฐานนี้ลงในสมุดโน๊ตเล่มเล็กๆ ของเธอ
 
             ซานดร้านิ่งอึ้งไปเล็กน้อย.....ถ้าว่ากันตามเหตุและผลแล้ว  เธอก็ต้องยอมรับว่าสิ่งที่ชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าพูด มีเหตุผลและความเป็นไปได้สูงทีเดียว ....เมื่อจำนนต่อเหตุผล เธอก็ได้แต่ถอนหายใจเฮือก ก่อนจะหันมายิ้มให้กับเรย์บางๆ
 
             " มาที่นี่แค่ไม่ถึง 24 ชั่วโมงก็แก้ปัญหาไปได้เปลาะนึงแล้ว....คุณอาจจะเก่งเกินกว่าที่ฉันคิดก็ได้นะ ...คุณเรย์... "
 
             " เรียกผมว่า เรย์ เฉยๆ เถอะครับ....ยังไงเสีย...ตอนนี้พวกเราก็ลงเรือลำเดียวกันแล้ว "  เรย์ยิ้มบางๆ ตอบกลับ  พลางคิดว่า ถ้าซานดร้ายิ้มได้แบบนี้บ่อยๆ ล่ะก็...เธอคงจะเป็นคนที่งดงามไม่แพ้หญิงสาวคนใดที่เขารู้จักมาแน่ๆ...
 
 
 
............................................
 
 
 
               " อืม.....ไม่เสียแรงที่เป็นทหารเก่าเลยนี่...แค่แป๊ปเดียวก็วิเคราะห์สถานการณ์ไปได้ถึงขนาดนี้เชียว....ฉันคิดถูกจริงๆ ด้วยแฮะ ที่ส่งนายไป "  เชรีน่าพูดอย่างชื่นชมด้วยน้ำเสียงราวกับว่าเธอคาดการณ์เรื่องนี้อยู่แล้ว ขณะที่เธอกับผู้ที่เธอเรียกว่าน้องชายติดต่อกันผ่านทางกระจกเวทย์บานเล็กๆ ที่เชรีน่าสร้างขึ้น
 
               " เออมั้งครับ....ถ้าผมไม่บังเอิญจี้ถูกจุดในเรื่องนี้พอดี...มีหวังยัยแฝดคนพี่นั่น จับผมย่างไฟบูชายัญไปแล้วแหงๆ "  เรย์พูดอย่างหงุดหงิดในความไร้ความรับผิดชอบของเชรีน่า
 
               " แฝดคนพี่ ? ...อ๋อ!...นายคงจะหมายถึง อเล็กซานดร้า  สินะ?...ทำไม? หล่อนไม่ค่อยชอบขี้หน้านายงั้นเหรอ? "
 
               " ถามจริง?...ผมไม่ยักรู้ว่าผู้หญิงคนนั้นชอบขี้หน้าคนอื่นเขาเป็นด้วย? " เรย์ประชดเบาๆ ขณะที่เกาหัวแกรกๆ
 
               " ฮะๆๆ ...จริงของนายที่ว่าซานดร้าเชื่อใจคนยาก ...ที่เธอทำไปเพราะเธอเป็นพวกหวงที่น้องสาวของเธออยู่ไม่น้อย.....แต่ก็นั่นแหละ...อย่างน้อย นายก็ทำให้หล่อนวางใจได้ในระดับนึงแล้วนี่ "
 
               " เฮ้อ....ช่วยได้เยอะเล้ย... "
 
               " แล้วตกลงนายจะทำไงต่อ? "
 
               " ไม่เห็นน่าถามเลย...ผมก็ต้องตามเรื่องนี้จนถึงที่สุดสิ...พี่ก็รู้นิสัยผมดีนี่ " เรย์พูดเบาๆ ....ถึงจะไม่ได้อยากมาตั้งแต่แรก แต่พอมาถึงขั้นนี้แล้ว เขาคงตามกัดไม่ปล่อยแน่
 
               " เรย์.....ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น...ฉันอยากให้นายระวังตัวไว้ทุกฝีก้าว...." คราวนี้เชรีน่าพูดเรียบๆ ปราศจากแววล้อเล่นโดยสิ้นเชิง
 
               " หือ...ผมหูฝาดรึเปล่าเนี่ย...คนที่ส่งผมมาที่นี่โดยที่ผมไม่รู้เรื่องอะไรเลยคือพี่นะ "
 
               " เรย์....ฉันจริงจังนะ...ถ้าฉันสังหรณ์ใจไม่ผิด...งานนี้อาจจะมีอะไรมากกว่า คดีบุกรุก  กับ ลักขโมย  แน่ๆ!! "
 
               " เห...นี่เป็นการแสดงความเป็นห่วงในแบบของพี่งั้นสิ? " เรย์หลิ่วตามองพร้อมกับยิ้มอย่างรู้ทัน ทำเอาเชรีน่าถึงกับหน้าแดงวูบ
 
               " น...หนวกหูน่า !....ฉัรบอกให้นายระวังตัว นายก็แค่ระวังตัวตามที่ฉันบอก มันยาก นักรึไง! ....แค่นี้แหละ เลิกกัน! "  เชรีน่ารีบพูดจนลิ้นพันกันก่อนจะโบกมือเพื่อสลายกระจกเวทย์ทิ้งไป
 
               หลังจากที่เชรีน่าสลายกระจกเวทย์ทิ้งไป เธอก็ยืนอยู่คนเดียวเงียบๆ ก่อนจะหยิบไพ่มนตราที่ไว้ใช้ทำนายอนาคตใบนึงออกมาดูด้วยสายตาที่เหม่อลอย
 
            ...ไพ่มนตราใบที่13 ...ความตาย...
 
               ก่อนที่เธอจะเหลือบมาเห็น กาเบรียล  เมโอ คริสตัล  ยืนอ้าปากหวอ ดวงตาเบิกกว้างในขณะที่ชามข้าวโพดคั่วในมือเอียงกะเร่เท่จนข้าวโพดคั่วในชามหกลงพื้นไปกว่าครึ่ง
 
             " ให้ตาย? ....ลูกนี่เขินได้น่ารักน่าชังชะมัดยาดเลย รู้ตัวไหม?...เชรี่ ! "
 
             " กรี๊ดดดด !!! พ่อ ! ...ลืมที่เห็นไปซะให้หมดเลยนะ!  ลืมไปให้หมดเลย !! "
 
 
 
.......................................................
 
 
 
           ...หลังจากที่สลายกระจกเวทย์ไป เรย์ก็กลับมานั่งครุ่นคิดบนโซฟารับแขกในห้องที่เทียน่าเตรียมไว้ให้ ขณะที่ในมือถือพิมพ์เขียวของอาคารเรียนกลาง อันเป็นที่เกิดเหตุบุกรุก.....มันเป็นอาคารทรงหอคอยสูงถึง 50 ชั้น ที่มีทางเชื่อมเพียงแค่ 4 ทางเท่านั้น จากหอพักนักศึกษาทั้ง 4 ...ส่วนในด้านอื่นล้อมรอบด้วยป่าดงดิบและรั้วลวดหนามสูงท่วมหัว  .....ยิ่งภายในตัวอาคารยิ่งแล้วใหญ่ เพราะมีการเดินเวรยามตลอด 24 ชั่วโมงตั้งแต่ก่อนเกิดเรื่องบุกรุกขึ้น  ยิ่งพอมีเรื่องบุกรุก จำนวนเวรยามก็เพิ่มขึ้นเกือบ 2 เท่า
   
           ...ในสายตาคนนอกอย่างเขา ไม่ว่ามองจากมุมไหน นี่ก็เป็นระบบรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวด เกินจำเป็นสำหรับอาคารเรียนทั่วไป ไปมากโขเลย...
 
             " กำลังปิดบังอะไรผมอยู่กันแน่นะ ...คุณเทียน่า...คุณซานดร้า... " เขารำพึงเบาๆ
 
           ...ก่อนที่อยู่ๆ เรย์ก็ลุกพรวดขึ้น ก่อนจะหยิบเสื้อคลุมจอมเวทย์ยาวที่เชรีน่าให้เป็นของขวัญขึ้นมาสวมทับพร้อมๆ กับขยับฮู้ดคลุมหัวขึ้นสวมลงมาเพื่อพรางใบหน้าเล็กน้อย  เขาขยับแหวนหยกขาวที่อยู่ในนิ้วชี้ด้านซ้ายอย่างไม่ค่อยไว้วางใจ ก่อนจะเดินไปที่หน้าต่าง ซึ่งเปิดรับลมอยู่...
 
             " งานนี้ถ้าเชรีน่ารู้ มีหวังปรี๊ดแตกแหงๆ เลยแฮะ " 
 
              เรย์บ่นเบาๆ ก่อนที่เสี้ยววินาทีต่อมา เขาจะกระโดดลงมาจากชั้น 46 ของอาคารเรียนรวมที่เขาพำนักอยู่โดยไม่มีอะไรเป็นเครื่องพยุงชีวิตเลย นอกจากผ้าคลุมและแหวนนำเวทย์ของเขา ....เขาเอามือแนบไปข้างลำตัวเพื่อลดแรงต้านของลม และเพิ่มความเร็วจนถึงระดับความเร็วที่ ถ้ากระทบพื้นตอนนี้....ความเจ็บปวดคงได้ส่งไปถึงสมองไม่ทันแน่
 
              แต่ก่อนที่เขาจะตกลงไปกระทบพื้นคอนกรีตจนแบนเป็นกล้วยทับ ปรากฎสายลมหวนที่หนุนเนื่องตลอดร่างกาย ช่วยชลอความเร็วของเขาลง ...จนในที่สุด เขาก็สามารถหยั่งเท้าลงแตะพื้นได้โดยไม่เกิดเสียงดังแม้แต่น้อย
 
            ...ดวงคนมันจะเจอตอ....อยู่ที่ไหนมันก็เจอตอจริงๆ...
 
              พริบตาเดียวกับที่เท้าของเขาแตะพื้น  ปรากฎหอกพลังจิตสีดำสนิทหลายสิบอัน พุ่งตรงเข้าทิ่มแทงจุดสำคัญทั่วร่างกายของเขาอย่างประสงค์ร้าย  แต่ฝูงหอกที่คมกริบก็ยังไม่สามารถฝ่าเกราะเวทย์อันแข็งแกร่งที่เขาแอบร่ายทิ้งไว้ก่อนหน้านี้เข้ามาได้  
 
              เมื่อรู้แน่ว่าคมหอกไม่สามารถทำร้ายเขาได้แน่ หอกสีดำนั่นก็สลายกลายเป็นธาตุอากาศไป พร้อมๆ กับที่ คนชุดดำ ใส่อุปกรณ์ปิดบังหน้าตาไว้อย่างหนาแน่นจนสังเกตไม่ออกด้วยซ้ำว่าเป็นชายหรือหญิง ปรากฎตัวออกมาจากเงามืด
 
             " เจ้า....ไม่ใช่สารวัตรนักเรียนนี่ ? " คนชุดดำเอ่ยเบาๆ ด้วยเสียงที่แหบพร่าจากอุปกรณ์แปลงเสียง จนสังเกตไม่ออกอีกว่าเป็นหญิงหรือชาย
 
             เรย์มองซ้ายมองขวาด้วยท่าทีกวนโมโหก่อนจะยักไหล่เบาๆ
 
             " เรื่องนี้ไม่ใช่กงการอะไรของเจ้า...หลีกทางไปซะ... "
 
             " ไม่เอาน่า...มืดๆ แบบนี้เดินเล่นคนเดียวมันอันตรายนะ ...ให้ผมเดินไปเป็นเพื่อนดีกว่าไหม? "  เขาตอบอย่างยียวนขณะพับแขนเสื้อขึ้นเพื่อเพิ่มความทะมัดทะแมง
 
             " เจ้า !! "  
 
             คนชุดดำตวาดพร้อมกับเร่งพลังและจิตสังหารจนเสื้อคลุมสีดำปลิวสะบัดไปตามกระแสพลัง ในขณะที่เรย์ซ่อนยิ้ม พร้อมกับแอบร่าย คันฉ่องเทพวายุ  เวทย์สุดยอดการป้องกันอันเป็นเครื่องหมายการค้าของเขาเตรียมไว้
 
             แต่ก่อนที่พลังของทั้งสองจะเข้าปะทะกัน  คนชุดดำก็ชะงักกึก สลายพลังและจิตสังหารทิ้งไปจนหมดก่อนจะพุ่งกลืนหายไปในเงามืด
 
             ก่อนที่เรย์จะติดตาม หรือคิดจะทำอะไรต่อไป ปรากฎเสียง ปัง ! เบาๆ ก่อนที่เสี้ยววินาทีต่อมา เขาจะโดนตาข่ายไนล่อนสีดำที่ถูกยิงออกมาจากปืนยิงตาข่าย รวบเขาไว้จนล้มคะมำหน้าทิ่มพื้น
 
             " ฮ...เฮ้ย ?! "
 
             เรย์ร้องอุทานได้แค่นั้น ดวงตาของเขาก็เหลือบไปเห็น เด็กสาวคนหนึ่ง ผู้มีดวงตาและผมสั้นสีส้มแดงราวกับกองเพลิงที่ลุกไหม้อย่างไร้วันดับ  ร่างเล็กบางภายใต้ชุดเครื่องแบบของสถาบันฯ ช่วยเสริมให้เธอดูดีและน่ารักขึ้นอย่างประหลาด เธอสะพายดาบสีแดงเพลิงที่ใหญ่จนแทบบังร่างเล็กๆ ของเธอจนมิด พุ่งตรงมาหาเขา .......ก่อนที่เขาจะได้ทันพูดอะไร หญิงสาวคนนั้นก็พุ่งมายืนค้ำหัวพร้อมกับง้างเท้าขวาไปด้านหลัง ...พริบตาต่อมา เธอก็เตะเปรี้ยงสุดแรงเกิดเข้าที่ดั้งจมูกของเขา ด้วยความเร็วเกินกว่าที่ใครจะห้ามทัน
 
              เพล้ง !  กร๊อบ !!
 
              ปรากฎเสียงของ คันฉ่องเทพวายุ แตกกระจายราวกับเสียงกระจกแตก พร้อมๆ กับเสียงดั้งจมูกของเขาหักเสียงดังสนั่น ...สามัญสำนึกสุดท้ายก่อนที่สติของเขาจะหลุดลอยไปพร้อมๆ กับลูกเตะนั้น คือ...
 
              " ขอถอนความคิด ที่บอกว่ายัยนี่ดู น่ารัก ทิ้งไปให้หมดเลยเฟ้ย !! "
 
 
 
..............................................
 
             
 
 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7.1 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7.3 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7.6 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา