Chronicles Of Legend. ปฐมบทแห่งตำนาน

7.3

เขียนโดย LanzaDeLuZ

วันที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 เวลา 19.07 น.

  67 chapter
  7 วิจารณ์
  64.15K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 19.20 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

2) ...3 พี่น้อง...(1)...(ตรวจความถูกต้อง 100%)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 


=======================================================



       ...เช้าวันต่อมา ณ ราชวังหลวงฝ่ายหน้า...เซลโลลอร์...

 

          ชายหนุ่มคะเนอายุจากหน้าตาน่าจะแก่กว่าเรย์ลาลีนไม่เกิน 2 ปี ผมสีขาวเงินยาวถูกมัดไว้อย่างปราณีต ดวงตาสีฟ้าส่อแววเคร่งเครียดเป็นนิจ บ่งบอกได้ว่าคงได้เป็นไมเกรนในอนาคตอันใกล้นี้แน่ ใบหน้ามีเค้าเดียวกับเรย์ลาลีนแม้จะส่อแววคิดก่อนทำมากกว่าก็ตาม  นิ้วชี้เคาะโต๊ะอย่างแช่มช้าแต่ให้ความรู้สึกกดดันอย่างประหลาดราวกับการนับถอยหลังของระเบิดเวลาไม่มีผิด

 

         " จากนั้นแกก็ลุยเดี่ยวไปร่วมกับกองเรือลาดตระเวนของเรา เข้าตะลุมบอนกับกองเรือพิฆาตของซีแบทเทิ่ล?? ...งั้นสิ? " 

 

        " ใช่แล้นนน~มองขาดสมเป็นนายจริงๆ ราโชฯ "   เรย์ลาลีนยังคงทำหน้าระรื่น แม้ว่าจะมีรอยแผลตามตัวเขาหลายแห่งแถมยังมีบางแห่งที่เลือดไหลอยู่ซิบๆก็ตาม

 

        " พรืด!!! "  ก่อนจะมีเสียงหัวเราะก๊ากดังลั่นมาจากชายหนุ่มที่นั่งอยู่ที่ขอบหน้าต่าง ชายผู้มีประพิมพ์ประพายคล้ายกับเรย์ลาลีนอีกคนเช่นกัน เพียงแต่ดูแข็งกร้าวกว่า ผมหยักศกสีดำตัดสั้นเผยให้เห็นปานคล้ายรอยสักอักขระโบราณสีดำบนหน้าผาก ดวงตาสีสนิมเหล็กส่อแววขบขันสุดๆจากอาการหน้ามึนของเพื่อน

 

        " เจ๋งว่ะ! เรย์...เอาอีกๆ ราโชใกล้สติแตกเต็มทีแล้ว "

 

        " แกน่ะ ถ้าไม่ช่วยก็เงียบไปเลยเฟ้ยยย!! "  ราโชลีนหันไปด่าก่อนจะหันกลับมาที่เป้าหมายหลักอีกครั้ง

        " ส่วนแก!  เรย์ฯ... แกรู้ตัวรึเปล่าว่าตำแหน่งในกองทัพของแกคืออะไร ไม่มีรองผู้บัญชาการพิเศษคนไหนเขาวิ่งบ้าเข้าไปใจกลางสนามรบเองหรอกนะเฟ้ย! "  ราโชลีนสติแตกอย่างที่เซเรย์ลีนหวังไว้จริงๆ ซึ่งเป็นภาพที่หาดูได้ยากมากสำหรับเสนาธิการที่ใจเย็นเป็นน้ำแข็งเช่นเขา

 

        " ขอใช้สิทธิแก้ต่าง! แกก็ได้รับรายงานแล้วนี่ว่ากองเรือของซีแบทเทิ่ลลอบโจมตียามดึก ซึ่งผิดวิสัยสงครามทั่วไปทำให้กองเรือของเราเสียเปรียบ ทางออกที่ดีที่สุดคือการให้รีอามาแจ้งขอกำลังที่ทัพหลวงในขณะที่ฉันต้องรีบไปขัดตาทัพไว้ไม่ให้พวกมันยกพลขึ้นบกยึดเกาะได้ ซึ่งผลมันก็น่าพอใจในระดับนึงเลยไม่ใช่รึไง เกาะทองคำและวาร์ปเกทปลอดภัยแถมฉันยังรักษากองเรือส่วนใหญ่ไว้ได้ "  เรย์ลาลีนพยายามยกเหตุผลเข้าสู้ ซึ่งถ้าว่ากันตามปัญหาส่วนรวมจริงๆ ราโชลีนก็ต้องยอมรับอย่างไม่มีข้อโต้แย้งว่านี่เป็นทางออกที่ดีที่สุด

 

       ...แต่หากเขายอมรับก็เท่ากับปล่อยให้ผู้เป็นเสมือนน้องชายอย่างเรย์ลาลีนได้ใจ และวิ่งเข้าสู่สมรภูมิที่ไม่ต่างอะไรกับการฆ่าตัวตายแบบนี้อีกแน่...

 

          ระหว่างที่กำลังนั่งคิดอยู่นั้น เซเรย์ลีนผู้นั่งเงียบมาตลอดก็ร้อง อ๊ะ! อย่างนึกขึ้นได้ก็จะหันมาหาเรย์ลาลีนและถามอย่างสงสัยว่า

 

         " เรย์...ได้ข่าวว่าแกสำเร็จ'ห้วงคำนึงแห่งสายลม'ไปเมื่อ 2-3 เดือนก่อนนี่หว่า? ปกติจอมเวทย์ที่สำเร็จถึงระดับนั้นจะได้รับความสามารถพิเศษ'กระจกเวทย์'ที่สามารถติดต่อใครก็ได้แบบ real time  ทำไมแกไม่ใช้กระจกเวทย์ติดต่อฉันหรือราโชฯ แทนที่จะให้ยัยคนส่งสารนั่นมาบอกวะ? "

 

         "ไอ้บ้าเซฯ! ไอ้ผีเจาะปากมาพูด!! อีกนิดเดียวฉันก็จะรอดอยู่แล้วเชียว" เรย์ลาลีนว้ากลั่น ทำเอาเซเรย์ลีนหน้าเหวอไป ก่อนจะพึ่งรู้สึกตัวว่าเขาได้ปิดทางรอดสุดท้ายของเรย์ลาลีนชนิดจับโยนลงหลุมพร้อมกลบฝังให้เสร็จไปเรียบร้อยแล้วจึงได้แต่ยกมือขออโหสิพร้อมยิ้มแห้งๆ

 

         " ไม่ต้องทำเป็นโมโหกลบเกลื่อนเลยเจ้าบ้า!! ฉันไม่เชื่อหรอกนะว่าจอมเวทย์ระดับนายจะลืมไปว่าตัวเองมีกระจกเวทย์ คราวนี้ยังโชคดีที่เรารักษาเกาะทองคำไว้ได้โดยไม่มีเรื่องร้ายเกิดขึ้น แต่อย่าให้มีคราวหน้าอีก! ไม่งั้นต่อให้แกกลับมาในสภาพเป็นชิ้นๆ ฉันก็จะสั่งจำคุกทหารแน่!! "  ราโชลีนตะโกนคาดโทษดังลั่นจนแม้แต่ทหารยามเฝ้าประตูด้านนอกยังตกใจ นั่นเพราะบวกแรงโมโหมราเกกือบถูกเรย์ลาลีนหลอกเอาได้จนเรย์ลาลีนต้องหดคอแยกเขียวก่อนจะรับคำอย่างหงอยๆ ในขณะที่เซเรย์ลีนกลั้นหัวเราะจนแทบตกหน้าต่างจนเรย์ลาลีนอดคิดไม่ได้ว่ามันจงใจทักเรื่องกระจกเวทย์แบบสั่งประหารเขาหรือเปล่า?...



.................................................





        ....หลังจากนั้นราโชลีนก็บังคับให้เขาแก้ไขรายงานใหม่ทั้งดุ้น  พร้อมกับคัดลอกด้วยลายมืออีก 10 ฉบับ  เรย์ลาลีนมีสภาพไม่ต่างอะไรจากซากศพเดินได้  จนทหารทหารยามหน้าห้องราโชลีนถึงกับตกใจและรีบแบกเขาไปที่ห้องพยาบาลทันที  โดยมีเซเรย์ลีนติดตามมาด้วยไม่ห่างซึ่งเรย์ลาลีนเชื่อว่าไม่ได้ตามมาเพราะความเป็นห่วงแน่ๆ...

           

           " ยังไงก็ตาม...เซฯ...ฉันต้องขอบใจนายว่ะ  ถ้าตอนนั้นนายมาไม่ทันฉันคงม่องไปแล้ว "  เรย์ลาลีนเอ่ยขึ้นเบาๆ ขณะยื่นแขนให้พยาบาลดึงเศษกระจกออกจากแผล  ทำเอาเซเรย์ลีนที่นั่งอยู่ข้างๆเลิกคิ้วสูงอย่างไมเชื่อหูตัวเอง

 

           " นี่ๆ คุณพยาบาล  หลังจากทำแผลเสร็จแล้วช่วยตรวจสมองมันด้วยนะ...ผมมั่นใจว่าคงถูกกระทบกระเทือนมาหนักแน่ๆ "  เซเรย์ลีนหันไปพูดกับพยาบาลด้วยสีหน้าจริงจัง ก่อนจะถูกเพื่อนผู้เป็นเหมือนพี่ชายคนรองเอาไม้เท้าเวทย์เขกหัวดังโป๊ก! 

 

            " เฮ้อ...ลืมไปซะเถอะ  ฉันผิดเอง "  เรย์ลาลีนบ่นงึมงำ

 

            " จะว่าไป นายควรจะฟังที่ราโชฯพูดไว้บ้างก็ดีนะ...ขนาดฉันไม่ใช่พวกสายเสนาธิการยังดูออกเลยว่าแผนการรบของนายดูแปลกๆไปตั้งแต่ที่รินฯ~~ "

 

            " มกุฎราชกุมารี มิลิริน... "  เรย์ลาลีนแก้เรียบๆ

 

            " นั่นแหละๆ...ตั้งแต่ที่มิลิรินได้รับการแต่งตั้งจากองค์ราชาให้ดำรงยศว่าที่ผู้สืบทอดบัลลังก์  นายก็เปลี่ยนไป...จากที่เคยทำศึกโดยใช้กลยุทธ์ก็เปลียนมาเป็นใช้กำลังเข้าว่า  แถมแต่ละครั้งที่เกิดการปะทะนายก็ออกหน้าตลอด อย่างกะพยายามจะฆ่าตัวตายยังงั้นแหละ  ช่วยบอกให้ฉันสบายใจทีเหอะว่ะว่านายไม่ได้กำลังทำอะไรบ้าๆ อย่างที่ฉันคิดอยู่เนี่ย "   ถึงแม้ว่าดูภายนอก เซเรย์ลีนดูไม่ต่างจากพวกที่มีแต่กล้ามเนื้ออยู่เต็มกะโหลก  แต่เอาเข้าจริงเขาก็มองอะไรได้ลึกซึ้งไม่ต่างจากราโชลีนเลย...

          ....ลึกซึ้ง...จนกระทั่งเรย์ลาลีนถอนหายใจเฮือก....

 

             เขาพึมพำอะไรบางอย่างก่อนจะใช้นิ้วชี้ซ้ายซึ่งประดับแหวนนำเวทย์สีเงิน เคาะเบาๆที่กระหม่อมของนางพยาบาล  เสี้ยววินาทีต่อมานางพยาบาลคนนั้นก็ร่วงผลอยจากผลของมนต์สะกดบทเล็กๆของเขา

 

             " เอาล่ะ...สำหรับข้อข้องใจของนาย เซฯ...ฉันไม่ได้เปลี่ยนไป แค่อยากจะลองแผนการรบแบบใหม่ๆ  และไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับองค์มกุฎราชกุมารีทั้งสิ้น "  เขาหันมาพูดกับผู้เป็นเสมือนน้องชายด้วยสีหน้าจริงจัง

 

             " เป็นคำตอบที่ดีทีเดียว  เรย์ฯ...น่าเสียดายที่กว่า 90% ล้วนแล้วแต่ ตอแหล  "  เซเรย์ลีนเท้าค้างด่าน้ำเสียงเนือยๆ ก่อนจะพูดต่อ

 

              " เรย์ฯ...นายกับฉันไม่ไช่พึ่งรู้จักกันแค่วันสองวันนะ...พวกเราเป็นเด็กกำพร้าที่ถูกเลี้ยงและโตมาด้วยกัน  ขนาดสมองทึบอย่างฉันยังดูออก นับประสาอะไรกับราโชฯ เพียงแต่เขาจะพูดหรือไม่เท่านั้นเอง "

 

               " จะคิดยังไงก็เรื่องของพวกนาย...ยังไงเสียฉันกับองค์มกุฎราชกุมารีก็ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันเป็นการส่วนตัว อีกแล้ว ...และในอีกไม่กี่ชั่วโมงฉันก็จะนั่งเรือกลับไปประจำการที่เกาะทองคำเช่นเดิม....จบ.... "

 

               เซเรย์ลีนถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่ายในความหัวดื้อและหน้าด้านของคู่สนทนา  ก่อนจะร้อง อ๊ะ! เบาๆอย่างนึกขึ้นได้

 

               " ไอ้คำว่า อ๊ะ! ของแกนี่มันหมายถึงหายนะของฉันตลอดเลยรึเปล่านะ? "  เรย์ลาลีนเปรยดักคอเบาๆ จนเซเรย์ลีนที่ถูกดักคอถึงกับยิ้มแห้งๆ

 

               " ในตอนนี้ฉันว่าใช่ว่ะ... "  เขาพูดพลางหยิบจดหมายปิดผนึกประทับครั่งตราประจำองค์มกุฎราชกุมารีออกมา  ก่อนจะพูดพลางกลั้นหัวเราะเมื่อเห็นสีหน้าของเรย์ลาลีนที่ซีดเผือดตั้งแต่เห็นตราประทับครั่งแล้ว

 

                " ให้เกียรติกระผมอ่านให้ฟังไหมขอรับ? "

 

                " ขอความกรุณาด้วยขอรับ "   เรย์ลาลีนก้มหัวอย่างอ่อนน้อมทันที ว่ากันตามตรงเขายอมเผชิญหน้ากับกองเรือของซีแบทเทิ่ลอีกร้อยครั้ง ดีกว่าให้อ่านจดหมายนี้ด้วยตัวเองแน่ๆ

               
                " เฮ้อ...ไหนบอกไม่เกี่ยวข้องกันเป็นการส่่วนตัวไงวะ? "  แม้ปากจะบ่นแต่เขาก็หยิบมีดมาเลาะครั่งออก และหยิบตัวจดหมายขึ้นมากาง

 

              " จดหมาเขียนด้วยลายพระหัตถ์ขององค์หญิงเอง...ใจความถึงเรย์ลาลีน ความว่า  ......เรย์ลาลีน นีโอ คอบร้า...ขี้ขลาด  "  เซเรย์ลีนยังไม่วายกัดอีกฝ่ายเบาๆ อย่างหมั่นไส้ ซึ่งเรย์ลาลีนได้แต่กัดฟันกรอด

 

              " พี่เรย์ฯ  ก่อนที่พี่จะได้อ่านจดหมายฉบับนี้  หนูเชื่อว่าพี่ได้แสดงท่าทีดึงดันอย่างชัดแจ้งว่าจะกลับไปยังเกาะทองคำในทันที.......ฮ่าๆๆๆๆๆๆ รินฯ นี่อ่านแกออกยังกะอ่านลายมือตัวเองเลยว่ะ... "

 

              " อ่านต่อโว้ย!! "

 

              " ....ไม่รู้ว่าหนูคิดไปเองคนเดียวหรือเปล่า  แต่หนูรู้สึกได้ว่า ตั้งแต่ที่หนูรับตำแหน่ง มกุฎราชกุมารี  ระยะห่างระหว่างหนูกับพี่ดูเหมือนจะเพิ่มขึ้น...........ฉันบอกแกแล้ว ว่าใครๆก็ดูออก "

 

 

              " เซเรย์ลีน นีโอ คอบร้า...ฉันจะไม่เตือนแกซ้ำแล้วนะ!!! "  

 

              " โอเคๆๆ  ไม่เห็นต้องทำตาเขียวใส่เลยนี่หว่า...ต่อนะ.... หนูเคยขอร้องพี่ในฐานะ น้องสาว ให้อยู่พบหน้าหนู  และถ้าจำไม่ผิด พี่ก็หาขออ้าง หายหัว ไปโผล่ที่เกาะทองคำตลอด..... เพราะฉะนั้น!!  จากนี้ไปหนูจะพูดในนามของ มกุฎราชกุมารี มิลิริน  จอมทัพลำดับ 2 แห่งราชอาณาจักรเซลโลลอร์ ออกคำสั่งโดยตรงแก่   เรย์ลาลีน นีโอ คอบร้า ผู้บัญชาการทหารจอมเวทย์  ให้ เรย์ลาลีนพำนักอยู่ที่เซลโลลอร์ เป็นเวลา 1 สัปดาห์เป็นหรือกว่านั้น เพื่อรายงานสถานการณ์ศึกด้วยตนเองแก่องค์ราชา  และห้ามมิให้บิดพลิ้วอีกเป็นอันขาด มิฉะนั้นจะต้องอาญาฐาน ขบถต่อราชบัลลังก์เซลโลลอร์ มีโทษถึงประหาร!  

 

.......ลงนาม  มิลิริน........

ด้วยรัก และ คิดถึง    

 

 

                ... ปล .  หากพี่คิดว่าหนูทำเกินกว่าเหตุ ก็ขอบอกไว้เลยว่านั่นเป็นเพราะความพยายามหลบหน้าอย่างไม่มีเหตุผลของพี่เป็น ต้นเหตุ นั่นแหละ!!... "

 

                  หลังจากเซเรย์ลีนอ่านจบ เขาก็หันไปมองเรย์ลาลีนที่กำลังทำหน้าเหมือนจะร้องไห้อยู่รอมร่อ ก่อนจะตบไหล่เบาๆ เป็นเชิงปลอบใจพร้อมยิ้มให้แห้งๆ

 

                  " คงต้องพูดว่า...ซวยแล้วว่ะ เรย์ฯ  แกมีหวังต้องอยู่กะพวกเราไปอย่างน้อยๆ 1 อาทิตย์แหงๆ  ถ้าไม่อยากต้องอาญา ฟันคอริบเรือน อย่างที่ยัยรินฯ ว่าจริงๆ "




 

.................................................

 

 

                                  

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7.1 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7.3 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7.6 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา