อำนาจแห่งแสง...เสกรักให้หน่อย

8.7

เขียนโดย มิโกะ

วันที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2556 เวลา 23.40 น.

  6 ตอน
  9 วิจารณ์
  10.15K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2556 02.13 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

2) สู่ดินแดนแห่งเวทย์

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
ตอนที่ 2   สู่ดินแดนแห่งเวทย์
 
         เป็นเวลาราวสองชั่วโมงครึ่งแล้วที่ฉันต้องนั่งตัวเกร็งราวกับเป็นท่อนไม้อยู่เบาะหลังคนขับ ซึ่งคนที่นั่งอยู่ข้างๆ กัน ก็คือ มาสเตอร์ เอวา มิซูโอะ คนที่รับฉันไปอุปการะ ตอนที่ฉันได้รับจดหมายจากเขา ฉันคิดว่าเขาน่าจะเป็นผู้หญิงเสียอีก ฉันแอบตกใจและแทบจะอ้าปากค้างตอนที่เห็นเขาในห้องธุรการ เขาเป็นหนุ่มใหญ่ อายุน่าจะประมาณเลขสามปลายๆ สวมแว่นตาใสกรอบสี่เหลี่ยม แต่มันก็ไม่ได้ทำให้เขาดูแก่ไปเลย ตรงกันข้ามมันทำให้เขายิ่งดูน่ามอง และน่าเชื่อถือ ดูเหมือนเขาจะเป็นคนพูดน้อยเอามากๆด้วย เพราะตั้งแต่ที่ขับรถออกมาจากสถานสงเคราะห์ เขาก็ไม่ได้พูดอะไรอีกเลย จนฉันไม่กล้าแม้แต่จะถามว่าเขาเป็นใคร มาจากไหน รู้จักฉันได้อย่างไร หรือว่าเรากำลังจะไปที่ไหนกัน
         ฉันหันไปมองเขาเป็นระยะๆ หวังว่าเขาจะนึกอยากบอกอะไรให้ฉันรู้บ้าง แต่ก็ไม่ จนฉันเริ่มถอยหายใจถี่ขึ้นเรื่อยๆ อย่างอดใจไม่ไหวแล้วทำใจกล้าเอยถามเขาไปในที่สุด
         "เรากำลังจะไปที่ไหนกันค่ะ มาสเตอร์เอวา"
         เขาหันมามองหน้าก่อนจะตอบคำถามที่ชวนให้สงสัยยิ่งขึ้น "ไว้ให้ใกล้ถึงก่อนดีกว่า แล้วฉันจะบอก"
         (เริ่มไม่แน่ใจแล้วสิ ว่าเขาจะน่าไว้ใจอย่างที่คิดในตอนแรกหรือเปล่า ฉันคิดถูกหรือผิดกันแน่ที่มากับเขา)
         ยิ่งไม่รู้ว่าจุดหมายปลายทางจะสิ้นสุดลงเมื่อไร ฉันยิ่งรู้สึกหวั่นไหวมากขึ้นเท่านั้น แต่คงไม่อาจทำอะไรได้ไปมากกว่านั่งหันหน้าออกไปมองสองข้างทางที่รถแล่นผ่าน ทุ่งข้าวสาลีที่กำลังออกร่วงงาม ลำต้นเอนลู่ไปตามแรงลม มีทิวเขาเป็นฉากหลังเขียวขจี ทัศนียภาพที่แสนสวยงามนี้กลับได้ทำให้ฉันรู้สึกผ่อนคลายลงเลยสักนิด
         ดวงอาทิตย์คล้อยต่ำลงเรื่อยๆ จนต้องมองนาฬิกาบนข้อมือ ซึ่งบอกเวลาว่าขณะนี้ห้าโมงเย็นแล้ว แต่ดูเหมือนการเดินทางจะยังอีกยาวไกล ฉันหันไปมองมาสเตอร์เอวาอีกครั้ง เขานั่งหลับตานิ่ง ฝ่ามือทั้งสองข้างวางประสานกันบนตัก จมูกโด่งเชิดขึ้นเล็กน้อย ริมฝีปากสีแดงเรื่อ ใบหน้าซีดขาวที่เรียบเฉย จนฉันเผลอจ้องมองเขาอยู่เป็นนาน ตอนนี้ดวงตาของฉันเองก็เริ่มอ่อนล้าเต็มที่ แม้ในใจหวาดหวั่นจนไม่กล้าที่จะหลับตาแต่ด้วยระยะการเดินทางที่กินเวลานานมากแล้วทำให้ฉันหลับไปในที่สุด
         จนได้ยินเสียงเรียกของมาสเตอร์เอวา "มามิโกะ ตื่นเถอะใกล้ถึงแล้ว"
         ฉันค่อยๆรวบรวมสติ รถยังคงแล่นไปเรื่อยๆ ตอนนี้ฉันมองไม่เห็นสองข้างทางอีกแล้ว มีเพียงแสงไฟหน้ารถที่พอจะทำให้มองเห็นข้างหน้าได้บ้าง ก่อนหันมามองมาสเตอร์เอวา
         "ใกล้ถึงแล้วหรือค่ะ" ฉันถามมาสเตอร์เสียงงัวเงียอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ
         "ใช่แล้ว ที่นี้คือเกาะสแตร็กเกลอ ...ซึ่งแน่นอนว่าเธอไม่เคยรู้จัก"
         ฉันเผยอปากค้าง ด้วยความสงสัยและกำลังขอคำอธิบายเพิ่มเติ่ม แต่ไม่ทันได้พูดอะไร มาสเตอร์เอวาก็อธิบายต่อให้อย่างนึกรู้ในความสงสัยของฉัน แต่ยิ่งเขาอธิบายเพิ่มมากขึ้น ฉันยิ่งกลับรู้สึกประหลาดใจขึ้นเรื่อยๆ และสงสัยมากขึ้นเข้าไปอีก แทบไม่อยากเชื่อในสิ่งที่เขาบอกเล่าออกมา
         "เกาะสแตร็กเกลอเป็นเกาะของดินแดนเวทย์ ไม่มีใครจะเข้ามาออกได้นอกจากนักเวทย์และผู้ที่ถูกเลือกเท่านั้น..." มาสเตอร์เอวาผ่อนลมหายใจเบาๆ พร่างจ้องหน้าฉันเขม็ง "และเธอคือคนที่ถูกเลือก" จนฉันอ้าปากกว้างยิ่งกว่าเก่า
         "ฉัน คือคน ที่ถูกเลือก" ฉันย้ำคำที่มาสเตอร์เอวาพูดอีกครั้งเพื่อให้แน่ใจ
         เมื่อมาสเตอร์เอวานิ่งเฉย ฉันเองก็เริ่มใจคอไม่ดีเลย "มันหมายความว่าไง คนที่ถูกเลือก" เสียงฉันเริ่มสั่นเครืออย่างหวาดหวั่น
         (ฉันถูกเลือกมาทำไม มันดีหรือเปล่ากับไอ้คำว่า ถูกเลือก หวังว่าไม่ได้เป็นทางไม่ดีน่ะ ฉันเวอร์จินเสียด้วยสิ)
         แต่ก่อนที่ความคิดของฉันจะเตลิดไปไกล มาสเตอร์เอวาทำคิ้วขมวดขึ้นทันที เหมือนจะรู้ความคิดฉันตามเคย
         "นี่เธอได้อ่านจดหมายที่ฉันส่งไปหรือเปล่า"
         "ค่ะ ฉันได้อ่านแล้ว" ฉันรีบตอบรับทันที และใช้คิดอย่างหนักว่าเกี่ยวข้องกับอย่างไร ก่อนจะคิดบ้างอย่างขึ้นมาได้และแทบช็อกกับความคิดของตัวเอง
         "ทุนเรียนต่อ มาสเตอร์คงไม่ได้หมายความว่าฉันจะได้ทุนเรียนเป็นนักเรียนเวทย์ใช่ไหมค่ะ"
         "ตอนนี้เธอเป็นเพียงแค่คนที่ถูกเลือก แต่จะเรียนจริงหรือเปล่า คงต้องดูกันต่อไป" มาสเตอร์เอวาอธิบายต่อไปด้วยน้ำเสียงที่ยังเรียบเฉย
         ฉันรู้สึกราวกับมีก้อนอะไรสักอย่างติดอยู่ในลำคอ เรื่องที่เหลือเชื่อเหล่านี้เกิดขึ้นจริงๆเหรอ หรือฉันเพียงแค่ฝันไปเอง ฉันพยายามคิดทบทวนสิ่งที่มาสเตอร์เล่ามาทั้งหมดอีกครั้ง เกาะสแตร็กเกลอดินแดนแห่งเวทย์ และฉันคือคนที่ถูกเลือกซึ่งอาจได้รับทุนเรียนเป็นนักเวทย์
         (ฉันคงเป็นบ้าไปแล้ว ตื่นสิตื่นฉันไม่อยากฝันแบบนี้น่ะ มันเป็นเรื่องบ้าที่สุด) ฉันเอามือตบแก้มตัวเองเบาๆ เพื่อเรียกสติให้กลับมา
         "เธอไม่ได้บ้าหรอกมามิโกะ มาสเตอร์เอรีสบอกกับฉันว่าเธอเป็นฉลาด และฉันรู้ว่าเธอเข้าใจสิ่งที่ฉันเล่าให้ฟัง มันอาจไม่ง่ายที่จะเชื่อทุกอย่างในทันที แต่โลกเราก็เต็มไปด้วยสิ่งที่น่าเหลือเชื่ออยู่มากมาย เธอจะได้พบได้เห็นอีกมากบนเกาะสแตร็กเกลอ และในดินแดนแห่งเวทย์"
         มาสเตอร์เอวายังคงมีสีหน้าเรียบเฉย ราวกับสิ่งที่เขากำลังอธิบายอยู่นั้นมันเป็นเรื่องธรรมดาทั่วๆไป เช่นด้วยกับการบรรยายสภาพอากาศ ฉันได้แต่มองมาสเตอร์เอวาแบบเงียบๆ และพยายามรับรู้สิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเองอย่างยากลำบาก
         ฉันเลือกที่จะหันกลับไปให้ความสนใจสองข้างอีกครั้ง ไม่มีการพูดคุยอะไรระหว่างฉันกับมาสเตอร์เอวาอีก รถค่อยๆแล่นต่อมาจนถึงหน้าประตูรั้วเหล็กบานใหญ่ มันเปิดออกทันทีเมื่อรถแล่นเข้าไปใกล้ ถนนข้างหน้าเต็มไปด้วยหมอกหนาทึบ จนมองอะไรแทบไม่เห็น อากาศที่หนาวเย็นทำให้กระจกเต็มไปด้วยไอหมอก
         สักครู่เสียงของเครื่องยนต์ก็เงียบลง มาสเตอร์เอวาเปิดประตูรถแล้วก้าวออกไป ก่อนจะเรียกให้ฉันลงตามออกมา ฉันบิดเอวไปมาด้วยความเมื่อยล้าจากการนั่งรถนานๆ พร่างหันมองรอบตัวและตื่นตลึงกับสิ่งที่ปรากฏต่อสายตา
         (ที่นี่...ที่ไหนกัน)
         รถยนต์ถูกจอดอยู่บนลานหินกว้าง ฉันเพ่งมองผ่านความมืดแลเห็นปราสาทใหญ่โตโอ่อ่าตามแบบปราสาทอังกฤษในยุคกลาง มีแสงไฟสลัวๆออกมาจากหน้าต่างบางห้อง ฉันหันไปมองมาสเตอร์เอวา ซึ่งเขากำลังสั่งคนขับรถให้ขนข้าวของลงจากรถ ฉันหยิบกระเป๋าใบน้อยของฉันขึ้นสะพายหลัง ก่อนเดินตามมาสเตอร์เอวาเข้าไปในปราสาท
         "เดินตามฉันมา" ฉันพยักหน้ารับ
         ระหว่างทางที่เดินเข้าไปภายในปราสาทจะมีชุดเกราะเหล็กของอัศวินโบราณร่างใหญ่ดูน่าเกรงขามวางตั้งอยู่เป็นระยะๆ เสมือนเป็นทหารยามคอยเฝ้าดูแลปราสาทอยู่ตลอดเวลา มันทำให้ฉันขนลุกซู่ทุกครั้งเมื่อเดินผ่าน รู้สึกราวกับว่ามันมีชีวิตจริงๆ และกำลังจ้องมองฉันอยู่
         "มีใครบ้างคนเขาอยากเจอเธอมานานมากแล้ว" มาสเตอร์เอวาหันกลับมาส่งยิ้มบางๆให้
         "ใครกันค่ะ ฉันไม่คิดว่าตัวเองจะรู้จักใครที่นี้เลยสักนิด" ฉันยิ้มตอบแล้วนึกขำ
         (นอกจากคนในสถานสงเคราะห์แล้วฉันก็ไม่รู้จักใครเลย ยิ่งคนในดินแดนแห่งเวทย์ยิ่งเป็นไปไม่ได้ใหญ่เลย)

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.4 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.2 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7.6 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา