Gattino
เขียนโดย _TOS_
วันที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2556 เวลา 13.04 น.
แก้ไขเมื่อ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2556 18.40 น. โดย เจ้าของนิยาย
2) เตรียมการ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความตึง! !
หนังสือเล่มหนากระเเทกกับโต๊ะไม้ทรงสี่เหลี่ยม ในห้องของโซเอล ตอนนี้ หนังสือมากมายถูกรื้อออกมา เเต่ก็ไม่ได้เเตกต่างจากเดิมซักเท่าไร (เพราะมันก็รกๆ เหมือนๆกันน่ะเหละ)
[สะท้อนภาพห้องตัวเอง ฮา] โซเอลเริ่มพลิกหนังสือหลายต่อหลายเล่ม ทั้งหนาบ้าง เล็กบ้าง บางเล่มก็ผุไปหลายส่วนเเล้ว เวลาผ่านไปเรื่อยๆ โซเอลที่ค้นหาอะไรบางอย่าง เริ่มเหนื่อยหน่าย ล้มตัวลงที่เก้าอี้นวมของตนเอง
"ขออนุญาตินะครับคุณหนู"เซตัสเปิดประตูเข้ามา
"พ่อนายไม่ได้สอนให้เคาะประตูหรอ เซตัส"โซเอลถางไปอย่างเเรง
"ขออภัยครับ เค้าคงไม่มีโอกาศได้สอนผม"เซตัสเดินเข้ามาเเล้วปิดประตูลงเบาๆ กลิ่นหอมหวานบางๆ เตะจมูกของโซเอลเข้าให้ ตาที่ปิดสนิทก็ เปิดขึ้น
"นั่นอะไรน่ะ"โซเอลทำจมูกฟุดฟิด มองไปยังสิ่งที่เซตัสถืออยู่ ขนมปังอบเนย พร้อมชาร้อนๆ กลิ่นของมันกระตุกต่อมนำลายได้อย่างดีเยี่ยมเลยทเดียว[บรรยายเองหิวเอง]
"อาหารว่างครับ ผมว่าถ้าไม่เอามาให้เองคุณคงไม่กิน"เซตัสวางถาดขนมอบไว้บนโต๊ะของโซเอล เซตัสสังเกตเห็นหนังสือมากมายถูกรื้อค้นจนดูไม่เป็นระเบียบอย่างเห็นได้ชัด
"ค้นหาอะไรอยู่หรือครับ"
"ภารกิจน่ะ ตามหานกอะไรนั่น น่ะเเหละ"เเล้วโซเอลก็โยนม้วนกระดาษที่ได้รับจากผู้เฒ่าอัลเกรโน่ให้กับเซตัส เซตัสเปิดดูม้วนกระดาษนั้นในนั้นเขียนเเค่ว่า "ตามหานกเค้าเมฆาขาว"
"เป็นภารกิจที่สั้นดีนะครับ"เซตัสม้วนกระดาษให้เหมือนเดิมเเล้วส่งให้กับโนเอล
"เฮอะ ท่านผู้เฒ่านี่ เเก่เเล้วก็ยังขี้เล่นอยู่เลยนะ ในห้องของชั้นไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับไอ้เจ้นกอะไรนี่เลย" โซเอลรับม้วนกระดาษกลับมา เเล้วเริ่มออกปากบ่น
"เเล้วจะทำอย่าไรต่อล่ะครับ"
"นั่นสินะคงต้องออกไปหาข้อมูลข้างนอกดูบ้างเเล้วล่ะ ฉันว่าจะไปคืนนี้เลยน่ะ"โซเอกวาตามองเพดานท่าทางครุ่นคิด
"งั้นก็ขอให้โชคดีนะคับ"
"อือ....''
.....ห้องทั้งห้องเข้าสู่ความเงียชั่วครู่
"มีอะไรอีกหรอเซตัส"โซเอลเอ่ยปากถามทำลายความเงียบ
"ผมจะไม่ออกไปจนกว่าคุณหนูจะทานอาหารว่างหมดครับ"
"...."
"หืม...นกเค้าเมฆาขาวรึ..... เเม่สาวน้อยเธอเอาชื่อนี้มาจากไหนกัน"ชายวัยกลางคนมองหน้าโซเอลด้วยความสงสัย
"ท่านเป็นนักขายข่าวไม่ใช่รึมาถามลูกค้าเองเเบบนี้ใช้ได้ที่ไหน"
"อ้อ ขออภัยด้วยคุณลูกค้า ข้าเเค่เเปลกใจ เด็กตัวเเค่นี้รู้จักนกเมฆาขาวได้ยังไงกัน...."ประโยคหลังพ่อค้าข่าวบ่นเสียงให้เบาลง หางตาข้างหนึ่งตวัดไปเห็นโซเอลที่กำลังควักถุงเงินออกมาวางบนโต๊ะ
"อ้อ....ครับท่าน นกเมฆาขาวนั้นถือเป็นสัตว์เวทย์ที่หาได้ยากยิ่งเลยทีเดียว มันเป็นสัตว์ที่ฉลาด บางทีก็สามารถไปสืบภารกิจลับอะไรทำนองนี้ได้"พ่อค้าพูดไป พร้อมกับชั่งนำหนักเงินในถุงด้วยมือ
"ตัวมันสีขาวเหมือนชื่อเป็นัตว์ที่มีพลังมหาศาล หลายคยบอกว่า เคยเห็นมันเเปลงร่างเป็นมังกรเพื่อป้องกันศัตรูได้ พวกมันรักอิสระน่ะ มีไม่กี่คนหรอกที่กำหลาบมันได้"พ่อค้าทำเสียงให้ตื่นเต้นขึ้น เมื่อเห็นโซเอลทำหน้าสนใจขึ้นมาบ้าง
"เเล้วข้าจะหามันได้ที่ไหน"โซเอลถาคำถามที่อยากถามมากที่สุดออกมา
"หือ....."พ่อค้าทำหน้าไม่อยากจะเชื่อ
"ข้าว่าท่านโง่มากทีคิดจะตามหามัน มังกรเชียวนะ มังกร สัตว์ที่ทรงอำนาจเเละทรงพลังที่สุด"
"งั้นท่านช่วยทำให้ข้าฉลาดขึ้นหน่อยได้ไหม ช่วยบอกคนโง่อย่างข้าทีว่าจะหามันได้ที่ไหน......"
ตอนนี้โซเอลอยู่ในถนนสายหนึ่งในเเดนมนุษย์ เธอออกมาจากเก็ตทิโน่ได้วันหนึ่งเเล้ว หลังจากที่คิดว่าเเดนมนุษย์ เป็นที่ที่หาข่าวได้ดีที่สุด จึงเลือกมาที่นี่
'ที่ที่มันอยู่มีอยู่สองที่ ในเเดนเวทย์มนต์ เเละ ป่าต้องห้าม ข้าเคยได้ยินจากพ่อมดเเม่มดที่มาที่นี่เล่าถึงพวกมัน ว่า ผู้ที่ได้ครอบครองมันส่วนใหญ่เป็นพ่อมดที่เก่งกาจ หรือเป็นพวกที่มีอิทธิพลสูง พวกนี้จะใช้เงินประมูลมาจากพวกพ่อมด เเม่มด ที่จับมันมได้'
'ท่านบอกว่ามันเป็นสัตว์ที่รักอิสระไม่ใช่รึ ทำไมพวกพ่อมดถึงจับมันได้ล่ะ'
'อืม... ถ้าท่านอยากจับมันให้ได้จริงๆ ก็มีอยู่สองวิธีเช่นกันหนึ่งคือท่านต้องศึกษาเวทย์มนต์ไปจับมัน วิธีที่สอง ข้าคิดว่ามันเป็นไปได้ยาก คือไปบอกกกับมันตรงๆว่ามันจะยอมเป็นสัตว์เลี้ยงของท่ารึเปล่า วิธีนี้ข้าว่าท่านคงต้องโดนเผาซะก่อนเป็นเเน่'
'เอ่อ...งั้นข้าเลือกวิธีเเรกดีกว่า แต่ ข้าไม่ใช่เเม่มดนี่ข้าจะจับมันได้ยังไง'
'เวทย์มนต์มันก็เป็นศาสตร์อย่างหนึ่งนะท่าน ใครๆก็เรียนได้'
โซเอลมองดูกระดาษเเผ่นเล็กๆ ที่พ่อค้าให้มาเป็นกระดาษที่เขียนที่อยู่ไว้ ว่า 'หอสมุดเวทย์มนต์ ทางเหนือของ โบสโนเวล'
ตามที่พ่อค้าบอกที่นี่จะมีข้อมูลเกี่ยวกับการเรียนเวทย์มนต์ หรือเเม้เเต่สัตว์เวทย์มนต์อย่าง นกเค้าเมฆาด้วย โซเอลคิดเเล้วว่าวิธีนี้ปลอดภัยเเละแน่นอนมี่สุด โซเอลไม่อยากผลาญเงินของเก็ตทิโน่ ไปประมูลนกที่ราคาเเพงเกินตัวนั่น ถึงจะใช้สิทของผู้สืบทอดได้ เเต่วิธีนี้มันน่าอายที่สุด ถ้าได้วิธีใช้เวทย์นั่นมาเเล้วที่เหลือก็เเค่ไป งมหานกสีขาวในป่าอันตรายอย่าป่าต้องห้าม
โซเอลถอนหายใจเฮือกยังคงอีกยาวไกลกว่าภารกิจนี้จะสำเร็จ
"นี่คุณหนูที่เดินอยู่ตรงนั้นน่ะ"โซเอลหันไปเห็นผู้หญิงวัยกลางคน คนหนึ่งเธอเปืดประตูบ้านของเธอ โซเอลหันไปมาแถวนั้นไม่มีใครอยู่เลยนอกจากโซเอล เธอคงเรียกโซเอลนั่นเเหละ
"คะ..."โซเอลหันกลับมามองเธอ ใบหน้าของเธอดูใจดี และอบอุ่น
"เข้ามาข้างในก่อนสิ กลางคืนมันอันตรายนะ บ้านฉันมีห้องพักเหลืออยู่ห้องหนึ่งน่ะ มาพักที่นี่ก็ได้นะ"โซเอลหันมามองรอบๆ ตอนนี้คนส่วนใหญ่เข้าบ้านกันหมดเเล้ว เเสงอาทิตย์ก็เรืองรองเต็มที
"งั้น...รบกวนด้วยนะคะ"ยังไงก็ต้องหาที่พักอยู่เเล้ว มีมาให้ง่ายๆเเบบนี้ใครจะปล่อยให้หลุดมือ
โซเอลเดินเข้าไปข้างในบ้านไม้หลังเล๊กๆนี้ให้ความรู้สึกดี กว่าที่เก็ตทิโน่นี่อีกถึงเเม้จะเล็กกว่าก็เถอะ
"เเม่ครับ..."โซเอลหันไปตามเสียงท่ได้ยินเด็กชายคนหนึ่งหลบอยู่หลังประตู ดูท่าทางกล้าๆกลัวๆ
"บลูโน่ มานี่ซิจ๊ะวันนี้เรามีเเขกนะ"เด็กชายค่อยๆโผล่มาจากประตู
"อ้อ...เเล้วเธอล่ะ ไม่ได้เป็นคนที่นี่สินะ สวัสดีจ้ะ ฉันมารี เเล้วเธอล่ะ"ใบหน้าฉาบด้วยรอยยิ้มของมารีมองมาที่โซเอลอย่างรอคำตอบ
" อ่ะ!...... อ๋อ.... ค่ะ ฉัน โซเอลค่ะ"โซเอลชะงักเเล้วตอบไป บรรยากาศเเบบนี้ไม่ค่อยคุ้นเลยเเฮะ
"ยินดีที่ได้รู้จักจ้ะ หนูโซเอล แล้วนี่ก็บลูโน่ลูกชายคนโตของชั้นเอง เเล้วก็ยังมีลูกสาวอีกคนนะ จริงสิ บลูโน่ลูน่า ไปไหนเเล้วเล่า"มารีหันไปมองลูกชายของเธอ
"อยู่บนห้องครับ เหมือนเธอจะป่วย"บลูโน่ท่าทางกังวลใจ
"แย่จริง บลูโน่อยู่กับคุณโซเอลไปก่อนนะ เดี๋ยวเเม่มาจ้ะ" มารีพูดกับลูกชายเเล้วเดินขึ้นบันไดไป โซเอลหันไปมองตาม นี่เรา คิดถูกรึเปล่านะที่เข้ามาที่นี่เหมือนจะวุ่นวายน่าดู
"พี่สาวครับ"บลูโน่หันไปมองตาม เธอพิจารณาเด็กคนนี้อีกครั้ง ผมหยักศกสีนำตาลเเละดวงตาสีทองที่เหมือนกับเเม่ของเธอ
"ผม บลูโน่ครับยินดีที่ได้รู้จักครับ พี่สาว"บลูโน่แนะนำตนเอง เงยหน้ามองมาที่โซเอล โซเอลถอดเสื้อคลุมของเธอเเล้วย่อตัวลง
"ยินดีที่ได้รูจักเช่นกันจ้ะ บลูโน่"โซเอลยิ้มตอบ
"ฉันหวังว่าน้องสาวของเธอคงไม่เป็นไรมากนะ"โซเอลเเสดงความเป็นห่วง
"ขอบคุณครับพี่สาว ขอให้เป็นยั่งงั้นจริงๆ ด้วยเถอะ"บลูโน่หลุบตาตำท่าทางดูกังวล
อ่า เเย่ล่ะซิเปลี่ยนเรื่องดีกว่า
"อ้อ จริงสิ แล้วคุณพ่อของเธอล่ะ"โซเอลรู้สึกสิ่งที่ขาดหายไปของครอบครัวปกติ
"ท่านเสียเเล้วครับ"อือ....ปากเรานี่มัน เเล้วทั้งคู่ก็ตกอยู่ในความเงียบ จนกระทั่งมารีเดินลงมาพ้อมกับเด็กหญิงผมทองตัวน้อย โซเอลคิดว่าน่าจะเป็นลูน่า
"ยังไงก็ทานอาหารกันก่อนนะ หนูโซเอลเชิญจ้ะ" เอ๋... มีเลี้ยงข้าวด้วยหรอก็ดีเเฮะ
"งั้นไม่เกรงใจ เลยนะคะ"โซเอลเดินตามบลูดโน่ไปที่โต๊ะอาหาร ลูน่ามานั่งที่ข้างๆเธอ กอดตุ๊กตากระต่ายสีขาวตัวหนึ่งเอาไว้ ลูน่าดูป่วยจริงๆ นี่เเหละ หนังตาจองเธอก็จะปิดมิปิดแหล่อยู่เเล้ว ใบหน้าเหนื่อยหน่ายเเทบไม่มีเเรง เเต่ยังอุสส่ามองเธอด้วยความสนใจ
"ไง ลูน่า ฉันชื่อโซเอลยินดีที่ได้รู้จักนะคะ"โซเอลทักไปด้วยใบหน้ายิ้มเเย้ม ตอบสนองความต้องการของเธอ
"เช่นกันค่ะ พี่โซเอล"ลูน่ายิ้มน้อยๆ ใบหน้าซีดขาวของเธอบดบังความน่ารักของวัยเด็กไปจนหมด ถ้าเจอเธอตอนยังเป็นเด็กน้อยที่เริงร่าอยู่ต้องข่ารักกว่านี้เเน่ๆ โซเอลคิด
หลังจากนั้นโซเอลก็ชวนคุยไปเรื่อย โดยเลี่ยงเรื่องร้ายๆ โซเอลได้ความมาว่ามารีทำงานอยู่ในสวนผลไม้เเถวนี้ ค่าเเรงเล็กน้อยที่เธอได้มาต้องใช้ให้ลูกได้ท้องอิ่มทุกคน เงินของสามีที่เสียไปเเล้วพอจะให้เธอเเละลูกๆอยู่ได้อย่างสบายไปอีกซักพัก บลูโน่ก็ยังเล่าให้ฟังอีกว่า สมัยยังเด็กๆ เขาเคยเห็นคุณพ่อชวนเเขกมาที่บ้านบ่อยๆ ส่วนมากก็เป็นนักเดินทางอย่างโซเอลนี่เเหละ ห้องในบ้านเกินจำนวนคนอยู่ห้องหนึ่งเลยให้มาพักที่บ้านซะเลย
"อ้าว มาเเล้วจ้ะเด็กๆ"รอสักพักมารีก็นำจานอาหารมาวางไว้บนโต็ะ โซเอลมองรอยยิ้มของเธอถึงเเม้จะผ่านอะไร มามากเเต่เธอก็ยังยิ้มสู้เสมอเพื่อลูกๆของเธอ
"ว่าเเต่ หนูโซเอล เป็นนักเดินทางซินะ จะไปไหนหรอจ๊ะ"มารีนั่งลงเเละเริ่มตั้งคำถาม
"อ่า... เอ่อ....."เอาไงดี จะบอกว่ามาตามหานกหรอ ไม่ดีมั้ง งั้นก็....
"อ้อ... โบสถ์ โนเวลค่ะ จากที่นี่ยังอีกไกลไหมคะ"เธอถามหาโบสถ์โนเวลมาทั้งวันน่าจะอยู่เเถวๆนี้นี่นา....
"โบสถ์ โนเวลหรอจ๊ะ งั้นก็พอดีเลยพรุ่งนี้แม่ว่าจะพาลูน่าไปให้ซิสเตอร์ให้ลองรักษาดูน่ะ"ลัคกี้!โชคชะตาชัดๆ
"พี่สาวคะ"อยู่ๆลูน่าก็ทักขึ้นมา
"คุณพ่อของพี่สาวน่ะเป็นเเบบไหนหรอคะ"ประโยคสุดท้ายองโนเอลจบลงทุกคนถึงกับจุก
"ลูน่า..."มารีเอ่ยขึ้น นำเสียงของมารีสงสารลูกสาวของตัวเองซะจนับใจ
"หนูไม่เคยเห็นคุณพ่อเลยค่ะ ท่านเสียก่อนหนูเกิดซะอีก หนูอยากรู้ค่ะ คุณพ่อเป็นยังไงหรอคะ"ลูน่ายํ้าคำถามขึ้นมาอีกเธอรอคอยคำตอบจากโซเอล โซเอลเงียบไปซักพัก เเล้วค่อยกลั่นกลองคำพูดออกมา
"นั่นสินะ พี่ก็ไม่เคยเห็นท่านเหมือนกัน คุณเเม่ก็ด้วย..." คำคอบของโซเอลสะท้อนไที่ดวงตาของลูน่า เธอหลุบตาตำแทนคำขอโทษ
"เเต่พี่ว่านะ คุณพ่อของลูน่าน่ะ ต้องเป็นคนดีเเน่ๆ เลย"โซเอลสรรหาคำมาปลอบใจเด็กน้อย
"พี่สาวรู้ได้ยังไงคะ"ลูน่ามองขึ้นมาอีกครั้ง
"พี่ว่านะ ลูน่าน่ะ เหมือนกับคุณเเม่มากๆเลยล่ะ ถ้าลูน่าเหมือนคุณเเม่ บลูโน่ก็ต้องเหมือนคุณพ่อของลูน่านั่นล่ะ เอ้า เเล้วลูน่าคิดว่า พี่ชายของลูน่าเป็นคนดีรึเปล่าล่ะ"
"ต้องเป็นคนดีอยู่แล้วค่ะ ลูน่ารักพี่บลูโน่ที่สุดเลย"ลูน่ายิ้มขึ้นมอีกครั้ง
"เเต่เเล้วพี่สาว ล่ะฮะ ถ้าไม่มีคุณพ่อคุณเเม่ เเล้วอยู่ยังไงล่ะฮะ"ครั้งนี้บลูโน่เป็นคนถาม ตอนนี้สายตาของทุกคนมองมาที่โซเอลหมดเเล้ว
"พี่สาวอยู่กับคุณปู่น่ะ ท่านเป็นคนที่เลี้ยงพี่มาตั้งเเต่เด็ก พี่ยังจำได้เลย คุณปู่ของพี่ก็เป็นนักเดินทางเหมือนกัน อ้อมีครั้งหนึ่งนะ ท่านปู่น่ะเดินทางไปที่......." โซเอลเริ่มเล่าเรื่องต่ออย่างเมามันทุกคนหัวเราะชอบใจเรื่องการ ผจญของคุณปู่ที่โซเอลเล่าให้ฟัง ลูน่าเริ่มหน้าตาสดใสขึ้นมาบ้างเเล้ว
นั่นสินะ ความรู้สึกเเบบนี้เธอจำได้ ตอนที่ท่านปู่ยังมีชีวิตอยู่ ตอนที่ท่านปู่เล่าเรื่องที่ไปผจญภัยมา ทานปู่ก็จะเล่าให้โซเอลฟังทุกเย็น ความรู้สึกเเบบนี้อบอุ่น สินะ....
เช้าวันต่อมา[นักอ่านนั่งจนตูดชา] โซเอลมายืนรออยู่หน้าบ้านเเล้ว หลังจากนั้นบลูโน่ก็จูงลูน่ามา มารีออกมาทีหลังเเละล็อกประตูบ้านของเธอ
"งั้นไปเลยเถอะ"มารีนำทางทุกคนมา
มารีเดินนำไปเรื่อยๆพร้อมแล้วคุยไปกับโซเอลเธอบ่นถึงเรื่องงานที่จ่ายข้าเเรงขั้นตำได้อย่างโหดหิดเหลือเกินเมื่อโซเอลถามว่าทำไมถึงไม่ไปทำงานที่อื่นมารีก็ตอบว่า ที่อื่นมันก็เต็มหมดเเล้ว ถ้าเธออยากจะได้ค่าเเรงมากกว่านี้ก็ต้องไปอีกไกล เธอห่วงว่าลูกๆของเธอจะไม่ได้ทานข้าวเย็น(โซเอลนึกถึงอาหารที่เธอกินไปเมื่อวาน คงทำให้ลำบากน่าดู) เเล้วมารีก็หันไปมองลูกๆด้วยความเป็นห่วงเป็นใย แต่...ก็ไม่พบ บลูโน่กับลูน่าหายไปซะเเล้ว......
"ว้าย ตายๆๆๆๆ บลูโน่ลูน่าไปไหนกันเนี่ย ไปเล่นซนที่ไหนรึเปล่านะ รึหลงทาง......"จากนั้นมารีก็เริ่มเป็นกังวลเเละสาธยายไปเรื่อยโซเอลเอามือเตะที่บ่าของเธอเเล้วพูดว่า
"ไม่ต้องเป็นห่วงนะคะรออยู่นี่ก่อนฉันจะลองหาดู"เเล้วโซเอลก็วิ่งหันกลับไปทางเดิม
บรูโน่จับมือลูน่าเดินตามหลังเเม่มาเริ่มกังวลเช่นกันตอนนี้คนหนาเเน่นขึ้นอย่างผิดปกติ เเล้วมารีกับโซเอลก็เดินหายไปซะเฉยๆ เธอจับมือน้องสาวมันเย็นเฉียบเลยตอนนี้บลูโน่หันกลับไปมองน้องของเธอ ลูน่าเริ่มหายใจไม่ถนัด คนอัดเเน่นเกินไป ตัวของเธอออ่นยวบลงเเล้วหล่นเเหมะลงกับพื้น บลูโน่ไปประคองเธอไว้ก่อนที่ส่วนหัวของเธอจะฟาดไปกับพื้น
"ลูน่า ลูน่า!!"บลูโน่เขย่าน้องสาวที่อยู่ในวงเเขน บลูโน่รู้สึกได้ถึงความอบอุ่นในตัวเธอที่ค่อยๆหายไป
"ใครก็ได้ช่วยน้องสาวผมด้วย!!!!"บลูโน่เงยหน้าขึ้น รู้สึกได้ว่าผู้คนที่อยู่รอบๆเหมือนจะมุงดูพวกเค้าอยู่
ไม่สิไม่ใช่เรา บลูโน่ไล่สายตาดูสิ่งทีอยู่ข้างหน้าของตนเอง ขาเรียวสีนํ้าตาล กับกีบเเข็งๆ
ม้าหรอ?
บลูโน่เริ่มไล่สายตามองรอบๆ พวกเค้าอยู่หน้าขบวนรถม้า ขบวนหนึ่ง ชายใส่สุดดำมิดชิดที่นั่งอยู่บนม้ามองลงมาท่เค้าอย่างน่าเวทนา และรอบๆก็มีผู้คนหนาเเน่นมุงดูอยู่
"งั้น ข้าจะช่วยน้องสาวเจ้าเองดีไหม"ชายที่นั่งอยู่บนม้าพูดขึ้น
"จะ....จริงหรอฮะ ช่วยได้จริงๆหรอฮะ"บลูโน่พูดตะกุกตะกัก บลูโน่กังวลมากตอนนี้ชายผู้นั้นก็เหมือนความหวังเดียวของเค้า
"น้องสาวเจ้าเป็นโรคร้าย ยิ่งอยู่นานไปจะยิ่งทรมาน"บลูโน่เห็นรอยยิ้มเย็นชาใต้เงาหมวกที่ดำมืดนั้น รู้สึกหนาววาบขึ้นมา
"ข้าจะช่วยให้น้องสาวของเจ้าไปสู่สุขติเอง...."บลูโน่เบิกตาโพลง อ้าปากค้าง เมื่อเห็นชายชุดดำชักดาบขึ้นมา ดาบสีเงินยวง สะท้อนเเสงอาทิตย์ชวนเเสบตากำลังพุ่งมาที่เค้า ผู้คนรอบข้างต่างกรีดร้อง
เเล้วหยดเลือดสีเเดงก็ไหลอาบเเก้มของเด็กชาย....
..........................................................
[เเละตอนที่สองก็จบซะที (หอบ เเฮกๆ)
ข้ามตอนไปมาคนอ่านงงกันรึเปล่าน้า]
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ