ยิงประตูสู่ฝัน ภาคฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก 2014
-
เขียนโดย อักษรพริ้ว
วันที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2556 เวลา 04.18 น.
4 ตอน
5 วิจารณ์
9,726 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2556 15.53 น. โดย เจ้าของนิยาย
3) ประตูที่ 3 : ประตูแรกสู่มืออาชีพ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ บ่ายวันอาทิตย์ขณะที่ดุกำลังขับรถมุ่งหน้าไปประจวบเพื่อไปดูฟุตบอลดิวิชั่นสองนั่น
อัศวินก็ชวนดุคุยถึงเรื่องฟุตบอลไทยตลอดการเดินทางเลย สำหรับการเดินทางไปดู
ฟุตบอลที่ประจวบครั้งนี้ดุมาคนเดียวเมย์ไม่ได้มาด้วย เพราะดุอยากให้เมย์ได้อยู่คุยกับ
พวกเพื่อนๆมั่ง
“เออ..น้องดุครับตอนนี้ใครเป็นกองหน้าตัวหลักทีมชาติไทยครับ”อัศวินยิงคำถามมา
“ก็มีอยู่สามสี่คนครับที่ติดทีมชาติเป็นประจำ ธีรศิลป์ แดงดา,ธีรเทพ วิโนทัย,อานนท์ สังสระ
น้อย,กีรติ เขียวสมบัติ แต่ตัวเลือกอันดับหนึ่งที่โค้ชทีมชาติไทยเลือกใช้งานเป็นประจำก็จะเป็น ธีร
ศิลป์ แดงดาครับ”
“แล้วตอนนี้ใครเป็นโค้ชให้กับทีมชาติไทยครับ”
“เป็นโค้ชชาวเยอรมันครับ ชื่อ วินเฟรด เชเฟอร์ เก่งครับโค้ชคนนี้ แต่โค้ชเก่งๆกี่รายต่อกี่รายเข้ามา
ทำทีมชาติไทยทีไรไปได้ไม่กี่น้ำหรอกครับ เดี๋ยวก็โดนปลดมั่ง ลาออกเองมั่งก็มี”
“อ้าว..ทำไมเหรอครับ” อัศวินถามมาด้วยความสงสัย
“คือยังนี้ครับพี่ ตามความเห็นผมนะ การที่จะทำอะไรก็จะต้องให้เวลาเขา สำหรับการที่จะทำทีม
ฟุตบอลทีมชาติไทยให้ประสบความสำเร็จนั้น อย่างน้อยต้องให้เวลาโค้ชที่เข้ามารับหน้าที่ 5-8 ปี
เป็นอย่างน้อยรวมถึงทีมงานของโค้ชนั้นๆด้วย แล้วก็ต้องให้สิทธิ์ขาดในการทำทีมให้เขา ไม่มีการ
ล้วงลูกกัน สิทธิ์ขาดในที่นี้คือ การเลือกตัวนักเตะเข้าทีม อยากให้ดูจากผลงานเป็นหลักไม่ใช่เน้น
จากชื่อเสียงเก่าๆ ซึ่งที่ผ่านมา ผมมองว่าสมาคมเราให้เวลาในการทำทีมกับโค้ชเขาน้อยไปหน่อย
พอโค้ชคนนี้ทำทีมไม่ประสบความสำเร็จ ทำทีมตกรอบโน้นรอบนี้ ก็มีข่าวว่าโค้ชจะโดนปลดมั่งล่ะ
แสดงความรับผิดชอบด้วยการขอลาออกเองมั่งล่ะ ตรงจุดนี้เองผมมองว่าเราไม่เป็นมืออาชีพ ดูอย่าง
ต่างประเทศสิครับ เอาใกล้ตัวเราก็ได้ อังกฤษไง เวลาสมาคมฟุตบอลอังกฤษจะทำสัญญากับโค้ชสัก
คน ขาจะต้องชัดเจน ทั้งตัวโค้ชและเป้าหมายที่สมาคมตั้งไว้ รวมถึงบทบาทและหน้าที่ของโค้ชหรือ
ผู้จัดการทีมท่านนั้นด้วย ว่าบทบาทการเป็นโค้ชหรือผู้จัดการทีมของเขาจะต้องไม่โดนแทรกแทรง”ดุ
เสนอความเห็นของเขาให้อัศวินฟัง
“แสดงว่าที่ผ่านมา ทีมชาติไทยเปลี่ยนโค้ชกันบ่อยสิ” อัศวินถามด้วยความสงสัยอยากรู้
“ค่อนข้างบ่อยครับ ส่วนใหญ่จะเป็นโค้ชต่างชาติ แต่ละคนก็เข้ามาได้เดี๋ยวเดียวก็ลาออกแล้วโค้ช
บางคนที่จ้างมาแทนที่จะอยู่เมืองไทยเพื่อบริหารจัดการทีมชาติไทย ดันผ่ากลับไปนั่งดูบอลที่บ้าน
เกิดซะงั้น ทั้งๆที่เงินค่าจ้างก็แพงแสนแพง”ดุ บรรยายมาให้อัศวินฟัง
“อืม..แล้วทำไมพวกเราต้องจ้างโค้ชหรือผู้จัดการทีมต่างชาติมาทำทีมชาติไทยด้วยล่ะ ทั้งๆที่ เมือง
ไทยเราก็มีคนเก่งๆ อยู่เยอะ”
ดุนิ่งไปอึดใจหนึ่งแล้วพูดว่า “ตรงนี้พี่คิดเหมือนผม ส่วนตัวผม อยากได้โค้ชไทยเข้ามาเป็นโค้ชหรือ
ผู้จัดการทีมชาติไทยมากกว่า เพราะว่าการทุ่มเทครับ โค้ชไทยน่าที่จะทุมเทและเข้าใจขนบทำเนียม
มากกว่าชาวต่างชาติ แล้วอีกอย่าง การสื่อสารทางด้านภาษาตรงนี้สำคัญ ผมมองว่าคนเป็นโค้ชไม่ว่า
จะเป็นชาวต่างชาติหรือ คนไทยก็ตาม ศาสตร์ทางด้านลูกหนังคงไม่ต่างกันเท่าไร แต่อาจจะต่างกัน
ที่บารมีหรือชื่อเสียงเท่านั้นเอง ตรงนี้แหละครับที่ต่างกัน”
“ต่างจากสมัยพี่ลิบลับเลยครับ สมัยก่อนพวกพี่ก็เล่นบอลกันอย่างเดียวไม่ได้คิดอะไรกัน ทุกครั้งที่ได้เล่นฟุตบอลก็มีความสุขแล้ว” อัศวินพึมพำออกมา
“ครับพี่ อยู่ๆไปพี่จะเห็นอะไรอีกเยอะครับแต่ตอนนี้เราอย่าพึ่งไปคิดอะไรมากเลย เตรียมตัวดูบอลดี
กว่า”ดุ พูดพร้อมกับหักพวงมาลัยเลี้ยวเข้าสนามเหย้าของทีม ประจวบคีรีขันต์ เอฟซี
หลังจากหาที่จอดรถได้แล้ว เขาก็เดินมาที่ประตูทางเข้าสนามพร้อมกับส่งตั๋วให้กับเจ้าหน้าที่สนาม
และเดินขึ้นไปหาที่นั่งบนอัฐจรรย์ฝั่งกองเชียร์ของ ทีมอ่างทอง เอฟซี ระหว่างที่เดินหาที่นั่งอยู่นั้น
เขาได้ยินเสียงอัศวิน แสดงถึงความตื่นเต้นอย่างออกนอกหน้านอกตา
“โอ้โห คนเยอะจัง ดูคึกคักด้วย น่าสนุกนะ สาวๆเพียบเลย สมัยพี่เล่นนะ สาวๆนี่นับคนมาดูได้เลย นี่
ถ้าพี่เกิดช้ากว่านี้สักนิดก็ดีซิ พี่จะได้เล่นบอลโชว์ต่อหน้าส่าวๆบ้าง”
“แหม..พี่พามาดูบอลไม่ได้พามาดูสาว ตายแล้วยังจะชีกออีกนะ”
“แฮ่ๆ พี่ดูเฉยๆน่า ก็ที่ผ่านมาหลังจากตายก็ไม่ได้เจอสาวเลย วันๆคุยกับเฮียจุ๊บ เบื่อจะตายอยู่
แล้ว”อัศวินบ่นออกมา
ดุสงสัยว่าอัศวิน ตอนนี้ทำหน้าอย่างไร เขาก็ลองหลับตาดู ปรากฏว่า อัศวินมองเหล่แต่สาวๆ พอเขา
เห็นสภาพอัศวินตอนนี้แล้ว ก็ได้แต่ถอนใจยิ้มๆ
“พี่วิน พี่วิน พี่อัศวิน” คำสุดท้ายดุ เน้นหนักทางกระแสจิตเพื่อเรียกอัศวินกลับมาจากการเหล่สาว
“ครับๆ ได้ยินแล้วครับ ทำไมต้องเสียงดังด้วย มีอะไรครับ”อัศวินส่งเสียงเล็กเสียงน้อยมา
“เกมส์จะเริ่มแล้ว มาตั้งใจดูครับพี่”
พอ ดุ พูดจบ นักฟุตบอลของทั้งสองทีมก็เดินลงสู่สนาม พร้อมกับเสียงเพลง
สำหรับ ทีมประจวบเอฟซี หรือต่อพิฆาต เจ้าบ้าน มาในชุดเสื้อลายส้มดำ กางเกงดำ ส่วนทีมเยือน
อ่างทองเอฟซี หรือนักรบรวงทอง มาในชุดเสื้อเหลือง กางเกงเหลือง เปิดเกมส์มาในช่วงแรกทั้ง
สองทีมลุยเข้าหากันทันทีเพื่อหวังทำประตูขึ้นนำ แต่ว่าเป็นทางฝั่งทีมเจ้าบ้านที่สามารถครองบอล
ได้มากกว่าเล็กน้อย และก็มาถึงนาทีที่สี่สิบสองสิบ ทีมประจวบ เอฟซีได้ลูกฟรีคิกนอกกรอบเขต
โทษ และจังหวะนี้เอง หมายเลขสิบ ที่ชื่อคาเมร่า บรรจงยิงเข้าไปอย่างสวยงามทำให้ทีมประจวบ
เอฟซีขึ้นนำทีมอ่างทอง เอฟซี ไป 1-0 จากนั้นในครึ่งแรกทั้งสองทีมทำอะไรกันไม่ได้ ทำให้หมด
ครึ่งแรกเจ้าบ้านนำอยู่แค่ 1-0
“จบครึ่งแรกแล้วครับพี่ เป็นไงครับเกมส์ฟุตบอลสมัยใหม่” ดุถามอัศวินขณะที่นั่งรอดูครึ่งหลังกัน
“พี่ว่าเกมส์มันเร็วไปนะ นักเตะแทบจะไม่ได้ครองบอลเลย ได้บอลแล้วต้องรีบส่งให้เพื่อน แล้วก็เข้า
ปะทะกันเร็วและหนักมาก แต่ก็สนุกดี”อัศวินออกความเห็นมา
“ก็อย่างที่เห็นครับ ฟุตบอลสมัยนี้เน้นไปที่ผลการแข่งขันและเน้นไปที่การใช้แท็กติกกันซะเป็นส่วน
ใหญ่ นี่ยังธรรมดานะครับ ถ้าเป็นไทยลีคเกมส์จะเร็วกว่านี้อีก เพราะนักเตะเก่งและฟิตกว่านี้ครับ”ดุ
บอกมา “สมัยพี่เกมส์ไม่เร็วเท่านี้ครับ แต่เราจะครองบอลไว้กับตัวมากหน่อย ใครมีทักษะดีๆโค๊ชก็จะ
ให้เป็นตัวทำเกมส์คือฝากบอลไว้กับคนนี้มากหน่อย”อัศวินเล่าให้ฟัง
“แล้ววันนี้พี่ว่าใครจะเป็นฝ่ายชนะครับ”ดุถามความเห็นของอัศวิน
อัศวินนิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนตอบว่า “เจ้าบ้านประจวบจะชนะครับ”
“ทำไม่พี่คิดว่า ทีมประจวบ เอฟซี จะชนะครับ”ดุถามเหตุผลมา
“หึ หึ เหตุผลง่ายมากครับ เพราะว่า ทีมอ่างทอง เอฟซี ยังไม่มี ดุ ไปร่วมทีมครับ”อัศวินตอบมาด้วย
น้ำเสียงเรียบๆ “โอ้..โห..พี่มั่นใจผมขนาดนั้นเลยเหรอครับ”ดุร้องออกมาขันๆ
“มั่นใจครับ เพราะเวลาดุลงไปเล่นในสนาม พี่ก็ลงไปด้วยรับรองเราสองคนลงไปเล่นให้ทีมไหนทีม
นั้นชนะแน่นอน”
ระหว่างที่ ดุ กำลัง คุยกับอัศวินทางกระแสจิตฆ่าเวลาอยู่นั้น ด้านล่างของอัฐจรรย์ฝั่งทีม อ่างทอง
เอฟซี มีคนตะโกนเรียกชื่อเขาพร้อมกับโบกมือเรียก
“น้องดุ น้องดุ”ภิญโญ นิจสุวรรณ ที่ปรึกษาของทีมอ่างทองนั่นเองที่โบกมือเรียกเขาอยู่เย้วๆ
ดุ เห็นดังนั้นก็เดินลงไปหาและเกาะขอบรั้วอัฐจรรย์พร้อมกับโน้มตัวไปด้านหน้าเพื่อที่จะได้คุยกับ
ภิญโญ ได้ถนัด ภิญโญ ไม่รอให้ ดุ เอ่ยปากถาม ก็ชิงบอกเขาก่อนเลยว่า “น้องดุ เดี๋ยวหลังเกมส์
อย่าพึ่งกลับนะครับ พี่นัดโค๊ชของทีมอ่างทอง ไว้แล้ว แล้วก็พี่ได้เล่าเรื่องน้องดุให้เขาฟัง เขาตื่นเต้น
และอยากเจอน้อง ดุ มากเลย”
“ครับ พี่ แล้วผมจะไปเจอพี่ตรงไหนครับ” ดุถามกลับไป
“เดี๋ยวนั่งรอพี่อยู่ที่เดิมก็ได้ครับ หลังเลิกประชุมทีม และปล่อยนักเตะไปอาบน้ำ พี่จะเรียกน้องดุ
และแนะนำให้รู้จักกัน”ภิญโญ บอกมา
“ได้ครับ” ดุ รับคำพร้อมกับพยักหน้ารับ
“แล้วนี่มาคนเดียวเหรอครับ แฟน น้องดุไม่มาด้วยเหรอ”ภิญโญ ถาม เมื่อมองไม่เห็นภรรยาของเขา
“ไม่มาครับ ผมปล่อยให้เขาอยู่กับเพื่อนๆ เพราะไม่ได้เจอกันนานแล้ว” ดุตอบมา
“งั้นเดี๋ยวพี่ไปก่อนครับ ครึ่งหลังจะเริ่มแล้ว ดูบอลให้สนุกนะครับ แล้วเจอกันหลังเกมส์จบครับ”พอ
ภิญโญ พูดจบก็เดินจากไป
ดุ เดินกลับไปนั่งที่เดิมพร้อมกับเกมส์ครึ่งหลังได้เริ่มขึ้น พอผู้ตัดสินเป่าเริ่มครึ่งหลังปุ๊บ ทีมอ่างทอง
เอฟซี เดินหน้าบุกทันทีเลยและก็สามารถครองบอลได้มากกว่า จนมาถึงนาทีที่ 63 ที่เยือนได้ลูก
เตะมุมทางฝั่งซ้าย และทีมอ่างทองก็โยนบอลเข้ามาที่หน้าปากประตู ลูกนี้เหมือนไม่มีอะไร แต่ว่าผู้
เล่นของทีม ประจวบ เอฟซี สกัดบอลเข้าประตูทำให้ทีมเยือนตีเสมอเป็น 1-1 แต่ว่า ทีมเยือนก็ดีใจ
ได้ ไม่ถึงสิบนาที นาทีที่ 79 เจ้าบ้านก็มาได้ประตูขึ้นนำเป็นสองประตูต่อหนึ่ง จากการประสานงาน
กันอย่างสวยงามของกองหน้า ก่อนที่ กองหน้าของทีมเจ้าบ้านที่ชื่อ มูซ่า จะยิงให้ ประจวบ เอฟซี
ขึ้นนำอีกครั้ง เป็น 2-1จากนั้นเกมส์ผลัดกันลุกผลัดกันรับอีกครั้งอย่างสนุก และก็เป็นทีมประจวบ
เอฟซีได้ประตูที่ 3จากตัวสำรอง หมายเลข 32 หลุดเดี่ยวเข้าไปยิงให้ทีมประจวบ เอฟซี นำห่าง
เป็น 3-1 สร้างความดีใจให้กับกองเชียร์ฝั่งเจ้าบ้านได้อีกครั้ง พอทีมเยือนโดนลูกที่ 3 ไปในช่วง
ท้ายเกมส์ก็ยังไม่ท้อ ยังสู้อยู่และก็มาได้ประตูเพิ่มในช่วงก่อนทดเวลาบาดเจ็บ จากลูกจุดโทษ หลัง
จากนั้นทีมเยือนก็ไล่ไม่ทันทำให้พ่ายไปด้วยสกอร์ 3-2 ส่งผลให้ ทีมประจวบคีรีขันต์ เอฟซี ขึ้นไป
อยู่อันดับ 3 ของตาราง แข่งหกนัดยังไม่แพ้ใครมี14 คะแนน
หลังจบเกมส์ ดุ ถามอัศวิน “เป็นไงพี่วิน สนุกมั้ยครับ”
“สุดยอดเลย ดุ พี่ไม่ได้ดูฟุตบอลสนุกๆแบบนี้มานานแล้ว แต่ว่าเกมส์เล่นกันแรงจัง”
“ธรรมดาพี่เกมส์มันเร็วน่ะ แล้วฟุตบอลสมัยนี้มันต้องมีการปะทะกันตลอดเวลา ถ้าไม่ควบคุมอารมณ์
กันให้ดีต่อยกันตายเลย”
“มีต่อยกันบ่อยเหรอครับ” อัศวินถาม
“เป็นบางเกมส์ครับ ส่วนใหญ่ก็มาจากการปะทะกันหนักๆแล้วก็ควบคุมอารมณ์กันไม่อยู่แล้วจะเอาคืน
กัน”ดุตอบมาด้วยน้ำเสียงเรื่อยๆ
“อืม..แล้วต่อยกันบ่อยๆแบบนี้ประเทศไทยเราไม่เสียภาพพจน์เหรอครับ”อัศวินถามมา
“ก็ทำไงได้ล่ะครับมันก็ต้องมีบ้าง แต่ตอนนี้ก็มีบทลงโทษค่อนข้างที่จะรุนแรงขึ้น ทำให้นักเตะหลาย
คนที่อารมณ์ร้อนเริ่มที่จะไม่กล้าออกลายครับเพราะบทลงโทษค่อนข้างที่จะรุนแรงมาก”
“แรงประมาณไหนครับ”อัศวินถาม ดุ ต่อ
“อาจจะโดนแบนตลอดชีวิตครับ”
ระหว่างที่ ดุ กับ อัศวินกำลังนั่งคุยกันทางกระแสจิตอยู่นั้น ภิญโญ ก็เดินตรงเข้ามาหาดุพร้อมกับพูด
ว่า “น้องดุครับ มา มา ลงมา เดี๋ยวผมจะแนะนำให้รู้จักกับโค้ชทีมอ่างทองครับ”
ดุ เดินลงไปที่สนาม ตรงไปหาภิญโญที่ยืนรอเขาอยู่ ข้างๆภิญโญ มีผู้ชายคนหนึ่งใส่กางเกงยีนส์
เสื้อบอล ทีมอ่างทอง เอฟซี ยืนอยู่ข้างๆ
“น้องดุ นี่โค้ช ประดิษฐ์ มีสันทัด ครับ คุณสันทัด นี่น้องดุที่ผมเล่าให้ฟังครับ” จากนั้น ดุ ก็ยื่นมือไป
ให้โค้ชทีมอ่างทองจับ
“ยินดีที่ได้รู้จักครับ”ดุ เอ่ยปากเบาๆ
“ครับ เช่นกัน”โค้ชสันทัดตอบมาด้วยน้ำเสียงห้าวๆ
“เห็น พี่ภิญโญเล่าให้ฟังว่า น้องดุ ยิงประตูคมมากเลยเหรอครับ”โค้ชทีมอ่างทองถามมา
“ก็พอเล่นได้ครับ” ดุตอบมาแบบถ่อมตัว
“ตอนนี้พักอยู่ไหนครับ” “ผมอยู่ กรุงเทพ ครับ”
โค้ชสันทัดทำท่าคิดนิดหนึ่งก่อนที่จะยิงคำถามมาว่า “ตอนนี้น้องดุ อายุเท่าไรครับ”
“31 ปีแล้วครับย่างเข้าสู่ 32 แล้วครับ”
“เห็นได้ข่าวว่าจบที่พละอ่างทองเหรอ”
“ครับ จบมาเมื่อปี 46 จบมาได้ 10 ปีแล้วครับ “อืม..พี่ว่าเราไปนั่งคุยกันที่ซุ้มม้านั่งสำรองดีกว่า
ยืนคุยกันจะเมื่อยเอาครับ” โค้ชทีมอ่างทองชวนมา
หลังจากที่โค้ช ทีมอ่างทอง เอฟซี ชวนมานั่งกันที่ซุ้มม้านั่งสำรองเรียบร้อยแล้วทางโค้ชทีม
อ่างทองก็เอ่ยปากว่า “เป็นบ้างมาดูเกมส์วันนี้ สนุกมั้ย”โค้ชถามมา
“สนุกครับ แต่เสียดายไม่น่าแพ้เลยนี่ถ้ามีเวลาอีกสักสิบนาที ผมว่าน่าจะตีเสมอได้นะครับ”
“นั่นสิ แต่ว่าผลออกมาแบบนี้ผมก็พอใจแล้วครับ แข่งนอกบ้านกับทีมหัวแถวของตารางแล้วมาโดน
กองเชียร์เจ้าถิ่นกดดันตลอดทั้งเกมส์อีก ไม่แพ้มากกว่านี้ก็ดีเท่าแล้วครับ” โค้ชทีมอ่างทองว่ามา
“ครับ ผมก็ว่างั้น ส่วนหนึ่งก็มาจากกองเชียร์ฝั่งเจ้าบ้านนั่นแหละที่กดดันทีมเยือนทั้งเกมส์”ดุแสดง
ความเห็นด้วย
“มาเข้าเรื่องของเราดีกว่า วันพรุ่งนี้ช่วงบ่าย น้องดุ ไปลงซ้อมกับทีมได้หรือเปล่าครับ
พี่จะขอดูฟอร์มการเล่นและการยิงประตูหน่อย”โค้ช ทีมอ่างทอง เอฟซีถามมา
“ช่วงบ่ายหรือครับ อืม..ได้ครับ เริ่มซ้อมบ่ายกี่โมงครับ”
“บ่ายสามโมงครึ่งครับ ที่สนามเทศบาลอ่างทองครับ ขับรถเข้าไปในตัวเมืองก็จะเห็นสนามเลย
”โค้ชบอกมา “ถ้ามาถึงก็โทรหาพี่นะ เดี๋ยวพี่ออกมารับ ตามเบอร์โทรที่ให้ไว้ในนามบัตรนั่นแหละ
ครับ” ภิญโญเอ่ยออกมาด้วยสีหน้ายิ้มๆ
“ครับ พี่ถ้าผมไปถึงแล้ว เดี๋ยวผมโทรบอกครับ”ดุรับคำ
“อืม..ถ้าไม่มีอะไร งั้นเดี๋ยวผมขอตัวก่อนนะครับ กว่าจะถึงคงดึก วันนี้ผมนัดเจอเพื่อน
ด้วย อีกอย่างวันนี้ผมเบี้ยวลงแข่งบอลให้พวกมัน ตอนนี้พวกมันกำลังแข่งกันอยู่ ไม่รู้ว่าผลจะเป็นยัง
ไงบ้าง ผมขอตัวก่อนนะครับ”พูดจบดุก็ลุกขึ้นยืน
“งั้น ขับรถกลับดีๆนะครับ แล้วก็พรุ่งนี้ตอนซ้อมผมขอเต็มที่หน่อยนะครับ”โค้ชทีม
อ่างทอง บอกมา
“ไปครับเดี๋ยวพี่เดินไปส่งที่รถ”ภิญโญบอกมาพร้อมกับลุกขึ้นเดินไปส่งเขาที่รถ
หลังจากที่ภิญโญเดินกลับมาจากไปส่ง ดุ ที่รถแล้วเขาได้เดินกลับมาหา โค้ช ประดิษฐ์
“เป็นไงมั่งโค้ช”ภิญโญถามมา
“ตัวผอมไปนิดนะ แล้วก็อายุมากแล้ว ตั้ง31 บอกตามตรงว่าผมไม่ค่อยอยากได้เท่าไร ผมอยากได้
เด็กกว่านี้น่ะครับ เพราะว่ามีอายุการใช้งานได้นาน แต่ไม่เป็นไรไหนๆคุณภิญโญก็แนะนำมาแล้วครับ
เดี๋ยวดูการซ้อมพรุ่งนี้ก็รู้ว่าจะเอามาใช้งานได้หรือเปล่า ถ้าไม่เข้าตาผม คุณภิญโญอย่าว่าผมนะ
ครับ”โค้ชทีมอ่างทองบอกมาเสียงเข้มๆ
“ได้ครับ ตามสบายเลย แต่ผมมั่นใจครับว่าพรุ่งนี้โค้ชจะตะลึงกับความมหัศจรรย์ของชายคนนี้
ครับ”ภิญโญบอกมาด้วยความมั่นใจ ระหว่างที่ ดุ กำลังขับรถเข้ากรุงเทพ
“พี่วิน ผมว่าโค้ชทีมอ่างทอง ดูเหมือนไม่ค่อยอยากจะได้ผมไปร่วมทีมนะครับพี่ ว่าเหมือนผมมั้ย
ครับ” ดุ ชวนอัศวินคุย “เป็นเรื่องธรรมดาครับ เขาคงคิดว่า ดุ เป็นเด็กเส้นมั้งครับ อย่าไปคิดอะไรมาก
เลย เปลืองสมองเปล่าๆ”อัศวินแนะมา
“อืม..คงจะจริงอย่างพี่วินว่าแล้วนี่ซัอมทีมพรุ่งนี้จะเอาไงกันดีครับ”ดุถามมา
“เรื่องนี้เดี๋ยวพี่จัดการเอง ไม่ยากครับ”อัศวินตอบมาด้วยความมั่นใจ
“ทำไงเหรอพี่ บอกผมบ้างสิ”เขาถามด้วยความอยากรู้
“วันนี้ เท่าที่พี่ดูทีมอ่างทองเล่นแล้วนะ เป็นทีมทีดีทีมหนึ่ง เป็นทีมที่มีความฟิตสูง แต่ก็จะมีจุดด้อย
อยู่ที่ผู้รักษาประตูกับกองหลังที่ยังประสานงานกันยังไม่ลงตัวเท่าที่ควร ซึ่งเราจะใช้จุดนี้แหละครับ
สำหรับพรุ่งนี้ ส่วนตัวพี่คิดว่า ช่วงต้นของการซ้อมไม่ค่อยเท่าไร แต่ช่วงที่ลงทีมนั่นแหละจะเป็นตัวชี้
เลยว่าดุจะสร้างความประทับใจให้กับโค้ชทีมนี้ได้หรือเปล่า”อัศวินร่ายยาวมา
“แล้วผมต้องทำยังไงมั่งครับ”ดุถามมา
“ก่อนอื่นต้องหาจังหวะยิงประตูให้ได้บ่อยๆ ลูกฟรีคิก ดุบอกโค้ชไปเลยว่าขอยิงเองทุกลูก แล้วก็
อย่าพยายามปะทะกับกองหลังโดยเฉพาะ คนที่ชื่อ สุจิน เพ็งศิริ และสิวฤทธิ์ นิ่มกุลเพราะแรงปะทะ
ของดุยังสู้สองคนนี้ไม่ได้ ดังนั้นต้องชิงจังหวะยิงประตูให้ได้ก่อนที่จะเกิดการปะทะถ้าทำตามที่พี่
บอกได้รับรองโค้ชทีมอ่างทองอยากได้ ดุ ไปร่วมทีมจนเนื้อเต้น” อัศวินแนะมายาวๆ
ดุนิ่งคิดครู่หนึ่ง ก็พยักหน้าพร้อกับตอบว่า “อืม พี่คิดเหมือนผม เพราะเท่าที่ดูกองหลังทั้งสองคน
เล่นวันนี้แล้วน่ากลัวมาก เหนียวแน่นดีโดยเฉพาะลูกกลางอากาศ”
“เอาน่า..ไม่ต้องคิดมากยังไงก็ผ่านฉลุย ถึงแม้ว่าพี่ไม่แนะให้ พรุ่งนี้ดุก็ยิงประตูได้อยู่แล้ว”พูดจบ
อัศวินก็หัวเราะชอบใจ
ณ สนามฟุตบอลแถวพระรามสอง
“ไอ้นวย มึงดันขึ้นขึ้นหน้าหน่อย มึงยืนต่ำไป มึงขึ้นไปช่วยเกมส์บุกเลย ทิ้งไอ้เหลิม ไว้คนเดียว
พอ”เสียงเกรียงตะโกนสั่งการเพื่อนอยู่ข้างสนาม
“ไอ้เปีย มึงเตรียมตัวลงไปเล่นแทนไอ้ทีป ไอ้ทีปมันเจ็บขา เล่นต่อไม่ไหว” เกรียงหันมาบอกเพื่อน
“เฮ้ยจะหมดเวลาแล้วนะพวกมึง ตีเสมอให้ได้นะโว้ย” เกรียงพูดหลังจากส่งเปียลงสนามไป
“เออ..กูก็พยายามแล้วแต่ทีมโน้นลงไปอุดกันแน่นประตูเลย”เสียงบอยบ่นมา
“เมย์ ไอ้ดุมันจะมาทันเปล่า ตอนนี้มันถึงไหนแล้ว”เกรียงหันไปถามแฟนเพื่อน
“กำลังหาที่จอดรถอยู่ ดุ ฝากถามว่าเหลืออีกกี่นาที จะให้ดุลงหรือเปล่า” เมย์ถามมา
“เหลือ 8 นาที ทัน บอกให้มันเปลี่ยนชุดมาเลยเดี๋ยวให้ลง 3 หรือ 4 นาทีสุดท้าย ฝากเมย์ช่วย
โทรบอกมันด้วย” เกรียงตอบมาโดยที่ไม่ละสายตาจากเกมส์การแข่งขัน
“ได้เดี๋ยวเมย์ โทรบอก ดุ ให้”เมย์รับคำมา
“ไม่ต้องโทรแล้วเมย์ ดุเดินมาโน้นแล้ว”ปูแฟนเกมส์ขัดขึ้นมาก่อน
ทุกคนก็หันไปดู ก็จริงอย่างที่ปูว่า ดุกำลังเดินตรงเข้ามาด้วยสีหน้ายิ้มๆพอดี
“เป็นไงพวกมึง ยังไม่แพ้อีกเหรอ กูนึกว่าเสร็จไปแล้ว”ดุแซวเกรียงมา
“ไม่ต้องพูดมากเลยมึง ไอ้ตัวดี หายไปไหนมาวะ โดนนำอยู่ 2-1จะหมดเวลาอยู่แล้ว รีบไปเปลี่ยน
เสื้อผ้าเลยมึง”เกรียงเล่นงานเพื่อนมา
“นั่นสิ ดุรีบไปเปลี่ยนเสื้อผ้าไป เดี๋ยวหมดเวลาก่อน โน้น.ห้องน้ำ” เสียงเมย์บอกมาอีกคน
“ไม่ต้องใช้หรอกห้องน้ำ เปลี่ยนมันตรงนี้แหละ เฮ้ยพวกมึง ไอ้ทีป ไอ้หวาน ไอ้เป้า ลุกมายืนบังกู
หน่อย กูเปลี่ยนมันตรงนี้แหละ”ดุบอกมายิ้มๆ
“น่าเกียจ ดุ”เสียงบรรดาสาวๆพูดมาเกือบพร้อมกัน
แต่ ดุ ไม่ฟังเสียงแล้ว เขาถอดเสื้อแล้ว เปลี่ยนเป็นใส่เสื้อบอล จากนั้นก็มองซ้ายมองขวา เห็นว่า
เพื่อนยืนบังให้อย่างดีแล้วก็ถอดกางเกงยีนส์ออกเปลี่ยนเป็นใส่กางเกงบอลอย่างรวดเร็วทันที
เพื่อนๆเห็นพฤติกรรมของ ดุ ก็ส่ายหน้ากันเป็นแถว ส่วนคนที่น่าจะอายมากกว่าคนอื่นก็คือเมย์
นั่นเอง หลังจากเปลี่ยนชุดเสร็จแล้ว ดุก็แยกออกไปนั่งคนเดียวก่อนไปก็หันมาถามเกรียง
“เฮ้ย เหลืออีกกี่นาทีวะไอ้เกรียง”
“เหลือ 6 นาทีมึงรีบใส่สตั๊ดเร็วๆ เข้าเถอะ”เกรียงเร่งมา
“เออๆ..ขอนาทีหนึ่ง”ดุรับคำ
ระหว่างที่ เขากำลังนั่งใส่สตั๊ดอยู่นั้น อัศวินก็พูดขึ้นว่า “ไม่ต้องตื่นเต้นครับ โดนนำแค่ลูกเดียว สบาย
ครับ มีลุ้นถึงชนะเลย” “ครับพี่ ลูกแรกเอาไงครับ”เขารับคำและถามกลับมา
“ลูกแรกยิงไกลเลยครับ ลงไปขอบอลจากเพื่อน แล้วยิงเลย เอาแบบใส่เต็มข้อเลยนะ รับรองเข้า
ชัวส์”อัศวินแนะมาด้วยน้ำเสียงเรื่อยๆ
“เฮ้ย..ไอ้เกรียง กูพร้อมแล้ว” หลังจากใส่สตั๊ดเสร็จเขาก็หันไปบอกเพื่อน
“เออๆ..ไอ้ก้อง ออกมาพักก่อน เปลี่ยนให้ไอ้ดุลงไปเล่นแทน”เกรียงตะโกนบอกเพื่อน
หลังจากดุ เปลี่ยนลงไปในสนามแล้ว เขาก็เดินเข้าไปหาช็อต แล้วพูดว่า “เดี๋ยวพอเกมส์เริ่มแล้วถ้า
มึงได้บอล มึงจ่ายบอลมาให้กูเลยนะ”
“ได้” ช็อตรับคำมาพร้อมกับพยักหน้ารับ
“แล้วมึงจะเล่นยังไงวะ ทีมโน้นลงไปอุดกันแน่นเต็มหน้ากรอบเขตโทษเลย” เปียที่ยืนอยู่ใกล้ๆถาม
มา “เออ..น่า เดี๋ยวกูเล่นให้ดู”เขาตอบเพื่อนๆยิ้มๆ
“ไปเร็ว ฝ่ายโน้นทุ่มบอลมาแล้ว” ดุเร่งเพื่อนทั้งสอง
เหลือเวลาอีกไม่ถึงห้านาที รูปเกมส์ตอนนี้ ทีมเดนเวอร์ลงไปแพคเกมส์รับกันแน่นเลย พยายามที่จะ
ครองบอลให้ได้นานที่สุด เพราะว่าพอใจกับสกอร์ที่นำอยู่ตอนนี้ แต่ทางทีม วทบ.ของดุก็ยังไม่ยอม
แพ้ พยายามวิ่งไล่บอลเพื่อจะเอาบอลมาตั้งเกมส์บุกของตัวเอง
“ไอ้นวยกับไอ้เหลิม ดันขึ้นมาให้หมดเลย บีบพื้นที่ จับเบอร์ 6 ให้อยู่เขาเป็นตัวทำเกมส์” เสียง
ช็อตสั่งการเพื่อนทั้งสองมา
ทั้งสองทำตามทันที และก็ได้ผล เมื่อเหลิม แย่งบอลได้จากการที่ เบอร์ 6 ของทีมเดนเวอร์โดน
กดดันจนทำบอลเสียเอง เหลิม ได้บอล ทางริมเส้นฝั่งซ้ายในแดนของทีมเดนเวอร์ ตอนนี้เวลาเหลือ
แค่ สองนาทีครึ่งเท่านั้น เหลิมเงยหน้ามองตรงกลางสนาม เขาเห็นช็ตมีตัวประกบอยู่สองคน ถ้าจ่าย
ไปเพื่อนจะเล่นลำบาก เลยจากช็อตไปเขาเห็นดุ กำลังวิ่งจะตัดหน้าช็อตมา เพื่อที่จะรับลูกส่งจาก
เขา เหลิมเห็นดังนั้น ก็ตัดสินใจจ่ายบอลให้ดุทันที ตอนนี้ดุไม่มีตัวประกบ แต่ว่าบอลอยู่นอกกรอบ
เขตโทษ ตรงบริเวณครึ่งวงกลมนอกกรอบเขตโทษ ระยะห่างจากประตูประมาณเกือบ 30 เมตร ถ้า
เป็นเขาคงยังไม่ยิงในจังหวะนี้เพราะยังไกลอยู่ แต่ภาพที่เหลิมเห็น คือ ดุ ตัดสินใจยิงทันทีด้วยเท้า
ขวา บอลพุ่งออกจากเท้าดุ แรงมาก แต่บอลเหมือนจะโด่งข้ามคาน ทำให้ประตูของทีมเดนเวอร์
ประมาทไม่โดดรับบอลลูกนี้ แต่ประตูคนนี้คิดผิด เพราะลูกบอลแทนที่จะโด่งข้ามคานไปเหมือนลูก
ทั่วๆไป แต่ลูกบอลกลับฮุคลงใต้คาน เหมือนลูกยิงใบใม้ร่วง ของ โยฮัน ครัฟ กองหน้าทีมชาติ ฮอล
แลนดิ์ เมื่อตอนรุ่งๆในยุค 1980 ทันที่ทีลูกบอลสัมผัสตาข่าย กองเชียร์ของทีม วทบ. ส่งเสียง
เฮ้..กันกระหึ่ม ช็อตกับเหลิม กระโดดดีใจและวิ่งโถมเข้าหา ดุ กันเป็นแถว เพื่อนๆในทีมต่างวิ่งเข้า
มาแสดงความดีใจกับดุ ผู้เล่นฝั่งทีมเดนเวอร์ โดยเฉพาะผู้รักษาประตูต่างยืนงง กันเป็นแถว
“เฮ้ย..ผีจับยัดอีกแล้วนะมึง” เสียงช็อตตะโกนบอกดุด้วยใบหน้าที่ร่าเริง
“นั่นสิ มึงจะคมไปไหนของมึงวะ” นวยแซวมาอีก
ตอนนี้สกอร์เท่ากัน 2-2แล้ว เหลือเวลาอีกนาทีเดียวยังไม่รวมทดเวลาบาดเจ็บ ซึ่งคาดว่าจะทดไม่
เกินสองนาที “เฮ้ย..มีสมาธินะโว้ยพวกมึง เหลืออีกสองนาที กรรมการทดเวลาแค่นาทีเดียวเอง”
เสียงเกรียงตะโกนบอกมาจากข้างสนาม
“เกรียงทำไมกรรมการทดเวลาน้อยจังเลย ปกติเมย์เห็นส่วนใหญ่จะทดประมาณ สองถึงสามนาทีนี่”
เสียงเมย์ถามมาด้วยความสงสัย “ก็บอลมันเสมออยู่น่ะเมย์ ส่วนใหญ่ถ้าบอลเสมอกันอยู่และระหว่าง
แข่งไม่ได้มีการเป่าหยุดเกมส์มากนัก กรรมการจะทดเวลาบาดเจ็บแค่หนึ่งหรือสองนาที่เท่านั้นเอง
แต่ถ้าบอลสูสี นำห่างกันแค่ลูกเดียว กรรมการจะทดให้สามนาทีเลย ลองๆสังกตุดูนะ ส่วนใหญ่แล้ว
จะเป็นแบบนี้” เกรียงอธิบายมา
เมย์พยักหน้าเข้าใจ “แล้วตอนนี้เหลือเวลาอีกกี่นาที”เมย์ถามมาอีก
“รวมทดเจ็บแล้วเหลือ แค่นาทีครึ่งเอง” เกรียงยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดูแล้วตอบมา
ในสนาม
ดุวิ่งเข้ามาหาช็อต “ช็อตเดี๋ยวพอทีมเราแย่งบอลได้มึงเรียกบอลนะ จากนั้นมึงส่งให้กู จะแทงตาม
ช่องหรือจ่ายโด่งก็ได้ แล้วแต่สถานการณ์ จากนั้นเดี๋ยวกูจัดการเอง นั่นไงได้เปียแย่งบอลได้แล้ว
เรียกบอลเลย”พอพูดจบ ดุ ก็วิ่งฉีกไปริมเส้นด้านขวา เพื่อเตรียมตัวรับบอลจากเพื่อน
“ไอ้เปีย ส่งมา” เสียงช็อตเรียกเพื่อน เปียส่งบอลให้เพื่อนทันที ตอนนี้ช็อตได้บอลอยู่ตรงวงกลม
กลางสนาม เวลาเหลืออีกประมาณ 50 วินาที ช็อตเงยหน้ามองหาดุ เขาเห็น ดุ อยู่ทางริมเส้นฝั่ง
ขวา กองหลังของทีมเดนเวอร์อยู่ห่างจากดุ ประมาณ สองเมตร ช็อตเห็นเพื่อน ยกมือส่งสัญญาณ
บอกให้ทิ้งบอลโด่งมาตรงที่ว่าง ช็อตลังเลนิดหนึ่ง แต่ก็ตัดสินใจทำตามเพื่อน เพราะเวลาจะหมด
แล้ว เขาตักบอลลอยโด่งข้ามหัวกองหลังของทีมเดนเวอร์ บอลไปตกลงตรงที่ว่างที่ ดุ ต้องการพอดี
ภาพที่ช็อตเห็น ดุสปีดเข้าไปหาบอลเท้าซ้ายของดุสัมผัสบอลหนึ่งครั้งเพื่อแต่งทิศทางบอล ตอนนี้
ดุกับลูกบอลอยู่ตรงริมเส้นฝั่งขวา ดุกำลังลากบอลเข้าหาประตูโดยที่มีกองหลังของทีมเดนเวอร์
ประกบอยู่ด้านซ้ายของเขาหนึ่งคน ระยะห่างจากประตูประมาณ 25 เมตร แต่ว่ามุมแคบเหลือเกิน
ช็อตเห็นดังนั้นแล้วก็พยายามวิ่งตัดเข้ากลางมาที่หน้าปากประตูของทีมเดนเวอร์เพื่อมารับบอลจากดุ
เพราะช็อตมั่นใจว่าดุ ยิงไม่ได้อย่างแน่นอนเพราะมุมแคบมากแถมยังมีกองหลังตามประกบอีกคน
เดี๋ยวมันคงต้องส่งมาให้เขาอย่างแน่นอน ช็อตคิดในใจ แต่สิ่งที่ช็อตคิดผิด เพราะว่าไอ้เจ้าเพื่อน
ตัวดีของเขา มันตัดสินใจยิงเลยทันที ยิงทั้งๆที่มุมแคบๆนั่นแหละ แล้วภาพที่ช็อตและคนทั้งนาม
เห็นก็คือ ลูกบอลออกจากเท้าดุอย่างกับจรวด บอลพุ่งผ่านหน้าผู้รักษาประตูของทีมเดนเวอร์ และ
กระทบคานล่างของประตูบอลตกกระทบพื้นหนึ่งครั้งและกระเด้งเข้าประตูกระทบตาข่ายไปด้วย
ความเร็วสูง เล่นเอาผู้รักษาประตูของทีมเดนเวอร์อ้าปากค้างเลย เพราะลูกนี้หมดสิทธิ์รับจริงๆ
เฮ้..เฮ้..ตอนนี้เสียงเชียร์ดังกระหึ่มทั้งสนาม เกรียงกระโดดตัวลอย บรรดาภรรยาของนักเตะทีม
วทบ. ส่งเสียงเชียร์กันกรี๊ดกร๊าดไปหมด ในสนามตอนนี้ ดุ โดนเพื่อนๆรุมทึ้ง โดยเฉพาะไอ้เกมส์ ที่
มันอุตส่าห์วิ่งมาจากหน้าปากประตูของมันเองเพื่อมาดีใจกับเขา ตอนนี้สกอร์ ทีม วทบ.พลิกขึ้นนำ
ทีมเดนเวอร์เป็น 3-2แล้ว ทีมเดนเวอร์รีบเอาบอลมาตั้งที่กลางสนามเพื่อที่จะรีบเล่น แต่ก็ไม่ทัน
เพราะทันทีที่กรรมการส่งสัญญาณเริ่มเกมส์ กรรมการก็เป่านกหวีดหมดเวลาทันที
ทั้งสองทีมเดินจับมือกัน ระหว่างที่เดินจับมือ ดุ จะได้รับความสนใจจากทีมเดนเวอร์เยอะมาก เพราะ
เป็นตัวทีเด็ดของทีม วทบ.เลยก็ว่าได้ บางคนถามว่า ทำไม่ยิงคมจัง ตอนนี้ ดุได้รับความสนใจทั้ง
สนามเลย “เป็นไง ชนะด้วยยิงคนเดียวสองประตูเลย งั้นพรุ่งนี้ก็มั่นใจแล้วสิ”อัศวินชวนคุยด้วย
ระหว่างที่ดุเดินออกจากสนาม
“ครับพี่ มั่นใจครับ แต่ว่าทั้งสองลูกวันนี้ก็มาจากการที่ พี่วิน วางแผนให้ทั้งนั้นแหละครับ ขอบคุณพี่
มากนะครับ” ดุบอกมา “ไม่เป็นไรครับ ไป! เพื่อนๆยืนรอกันอยู่เต็มเลย ไปให้พวกเขาแสดงความ
ยินดีหน่อยสิ” ทันที ที่ดุเดินออกมาจากสนาม บรรดาเพื่อนๆต่างเดินเข้ามารุมล้อมและแสดงความ
ยินดีกับเขา “เฮ้ย! ฟลุ๊กเปล่าวะ เสียงเกรียงพูดมายิ้มๆ”
“นั่นสิ ลงมาไม่ถึง 4 นาที ยิงได้ 2 ประตูพลิกชนะเฉยเลย ไปทำไรมาวะ เดี๋ยวนี้ชักจะเก่งใหญ่แล้ว
นะมึง” เสียงช็อตดังมาอีกคน
หลังจากนั้น เสียงใครต่อใครก็ไม่รู้ ดังให้ แซ่ด ไปหมด ตอนนี้ ดุ เป็นที่สนใจของคนในสนาม
ฟุตบอลแห่งนี้ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลายคนที่เข้ามาชมเกมการแข่งขันในวันนี้และได้เห็นการยิง
ประตูของเขา ต่างลงความเห็นเดียวกันว่า มหัศจรรย์มาก
ณ บ้านของเกรียง ที่สะพานใหม่
“เฮ้ย! วันนี้มึงไปไหนมาวะ”เสียงช็อตถามมาขณะที่นั่งคุยกันอยู่
“กูไปดูบอลที่ประจวบมา ทีมประจวบ เอฟซี เจอกับทีมอ่างทอง เอฟซี”หลังจากนั้น เขาก็เล่าให้
เพื่อนๆฟังถึงเรื่องการจะไปเป็น นักฟุตบอลอาชีพ
เพื่อนๆต่างลงความเห็นเป็นเสียงเดียวกันว่า เห็นด้วย กับเรื่องนี้ เพราะว่าการเป็นนักเตะอาชีพนั้นก็
ไม่ใช่เป็นกันได้ง่ายๆ ในเมื่อโอกาสมาถึงก็ควรที่จะคว้าไว้
“แล้วเรื่องงานมึงล่ะ เอาไง” ช็อตที่นั่งอยู่ตรงข้ามเขาถามมาด้วยความเป็นห่วง
“กูว่า ถ้าพรุ่งนี้กูไปทดสอบฝีเท้าแล้วเกิดได้ขึ้นมา กูจะขอลาออกจากงานประจำที่ กูทำอยู่ แล้วกลับ
ไปอยู่บ้านที่ลพบุรี เวลามาซ้อมบอลจะได้เดินทางมาสะดวกหน่อย”
“แล้ว เมย์ ล่ะ เอาไง”เกรียงถามมา “ก็คงลาออกจากงานเหมือนกัน กลับไปอยู่บ้านน่ะ เห็นเมย์บอก
ว่า ที่โรงเรียนเก่าของเมย์ เปิดรับสมัคร อาจารย์สอนภาษาอังกฤษพอดี”
เพื่อนทุกคน ต่าง หันไปมองหน้ากันเอง แล้วช็อต ที่มีประสบการณ์ในการเป็นนักฟุตบอลอาชีพมาก
ที่สุดก็พูดว่า
“ถ้ามึงมีแผนแบบนั้น พวกกูก็เบาใจ หมดห่วงไป แต่กูจะฝากอะไรไว้เรื่องแล้วกัน ในฐานะที่กูมี
ประสบการณ์เล่นบอลอาชีพมาก่อนไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับมึง ขออย่าให้มึงหมดกำลังใจซะก่อน
เพราะว่าการเป็นนักฟุตบอลอาชีพนั้น ไม่ใช่เรื่องง่าย อย่างที่คนเราทุกคนเข้าใจกัน แต่เท่าที่กูเห็น
มึงเล่นบอลช่วงหลังๆ มานี่ มึงมีการพัฒนามาก กูว่ามึงไปได้นะกับอาชีพนี้”
ดุ พยักหน้ารับแล้วพูดว่า “เออ ขอบใจวะที่ให้กำลังใจกู”
“เฮ้ย! พรุ่งนี้เอาไงวะ กูต้องไปอ่างทอง กูอาจจะมาแข่งไม่ทัน วันนี้ที่มาทันก็เพราะมึงลงสนามกัน
ช้านี่ แล้วพรุ่งนี้เริ่มแข่งกันกี่โมงวะ”เขาหันถามเกรียงที่นั่งอยู่ข้างๆเขา
“พรุ่งนี้มีแข่งตอน 2 ทุ่ม เจอกับทีมช่างของบริษัทกูเอง ไม่น่ามีปัญหา พวกกู เอาอยู่ ว่าแต่มึงเถอะ
พยายามเข้าล่ะ พวกกูจะเอาใจช่วย แล้วพรุ่งนี้ถ้ามาทันก็มา เผื่อเข้ามาเปลี่ยนไอ้บอย เพราะมันอาจ
ทำการบ้านดึกอีก”เกรียงบอกและให้กำลังใจเพื่อนมา และก็ไม่ลืมที่จะแซว บอย เล็กน้อย เพื่อ
เรียกเสียงฮ่าจากเพื่อนๆ
บ่ายสองโมงตรง ที่สนาม เทศบาลเมืองอ่างทอง ซึ่งเป็นสังเวียนแข็งนัดเหย้า ของทีม
อ่างทอง เอฟซี ดุรงฤทธิ์ กิจศิลป์ชัย ลงจากรถและเดินตรงไปที่สนามทันที เพราะที่หน้า
สนามเขานัดกับที่ปรึกษาของทีมอ่างทอง เอฟซีไว้
“พี่ภิญโญ หวัดดีครับ เขาร้องทักและยกมือไหว้”
“สวัสดีครับ เป็นไง เหนื่อยมั้ย ไป! เข้าไปนั่งรอในสนาม อีกเดี๋ยวโค้ชคงมาแล้ว” ที่ปรึกษาที่
อ่างทอง ชวนเขา
ระหว่างที่เดินตามที่ปรึกษาทีมอ่างทอง เอฟซี เข้าไปในสนามเหย้านั้น ดุ เอ่ยปากถามภิญโญว่า
“เริ่มซ้อมตอนบ่ายสามโมงครึ่ง แล้วเลิกซ้อมประมาณกี่โมงครับ”
“อ๋อ..ประมาณหกโมงเย็นก็เลิกแล้วครับ ทำไมเหรอ น้องดุ มีธุระเหรอครับ” อัศวินถามมาด้วยน้ำ
เสียงแสดงความแปลกใจ
“นิดหน่อยครับ”จากนั้นเขาก็เล่าถึงธุระของเขาให้กับภิญโญฟัง
“โอ้ย..ทันครับ ไม่ต้องห่วง”
“แล้ววันนี้ผมต้องทำอะไรมั่งครับพี่”
“ก็ไม่น่าจะมีอะไรมากหรอกครับ ซ้อมตามเมนูที่โค้ชเขาวางเอาไว้ แล้วก็ลงทีม ตอนลงทีมนี่แหละ
น้องดุโชว์ฟอร์มให้ดีเลยนะครับ ไม่ต้องคิดอะไรมาก คิดซะว่ามาเล่นสนุกๆ”ภิญโญแนะนำมา
ดุ! อย่าลืมฝากบอกโค้ชด้วยว่าลูกโทษนอกเขตทุกลูกขอยิงเองนะ”เสียงอัศวิน
สอดมาทางกระแสจิต ดุ ก็เหมือนพึ่งนึกได้ก็เอ่ยปากขอกับภิญโญทันที
“พี่ภิญโญครับ รบกวนฝากบอกโค้ชทีครับ ว่าลูกโทษนอกเขตผมขอเตะเองทุกลูก”
ที่ปรึกษาทีมอ่างทองมองหน้าเขายิ้มๆนิดหนึ่ง
“ได้ครับ! เดี๋ยวพี่บอกให้ ภิญโญ” รับคำมา
“ไปครับ เดี๋ยวพี่พาไปห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า มา! ตามพี่มา”
หลังจากที่ดุเปลี่ยนเป็นชุดซ้อม เสร็จเขาก็เดินมานั่งรอโค้ช อยู่ในสนามระหว่างนั่งรอก็มี
นักเตะของทีมบางคนเดินทางมาถึงแล้ว ทุกคนที่เดินเข้ามาต่างมองเขาด้วยความสงสัย เขานั่งรออยู่
ประมาณ 15 นาที โค้ชของทีมอ่างทอง เอฟซี ก็เดินเข้ามาในสนามพร้อมกับทีมงาน ดุ เห็นดังนั้นก็
ตรงเข้าไปทักทาย
“หวัดดีครับ” เขาทักพร้อมกับยกมือไหว้
“อ้าว..หวัดดี มานานยัง”
“เกือบชั่วโมงแล้วครับ”
“เหรอ..เจอพี่ภิญโญยังล่ะ” โค้ชถามมา
“เจอแล้วครับ”เขาตอบสั้นๆ
“ไป! ครับ เดี๋ยวผมพาไปแนะนำให้นักเตะในทีมรู้จัก”
จากนั้นโค้ชของทีมอ่างทอง เอฟซี ก็พาเขาไปแนะนำให้กับนักเตะของทีมรู้จัก หลังจาก
ทำความรู้จักกับนักเตะในทีมกันพอสมควรแล้ว ก็มาถึงเวลาซ้อมของทีม
สำหรับการซ้อมของทีมอ่างทอง เอฟซี ในวันนี้ แบ่งออกเป็น 4 ช่วง
ช่วงแรก เป็นช่วง วอร์ม อัพ
ช่วงที่สอง เป็นช่วง เพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ
ช่วงที่สาม เป็นการ ขึ้นเกมส์ เพื่อเข้าทำประตูในรูปแบบต่างๆ
ช่วงสุดท้ายเป็นช่วง ใช้แท็กติกต่างๆ
หลังจากผ่านการซ้อมสองช่วงแรกมาแล้วดุ ไม่มีปัญหาเท่าไรนัก อาจจะมีก็ในเรื่อง
ของความฟิต ที่เขาอาจจะไม่ฟิตเท่ากับนักเตะคนอื่นๆเพราะเขาพึ่งมาซ้อมเป็นวันแรก พอเข้าสู่ช่วง
ที่สาม จะเป็นการฝึกการเข้าทำประตูและการขึ้นเกมส์ในรูปแบบต่างๆ ซึ่งตรงนี้เอง ดุ ได้สร้างความ
ตกตะลึงใก้กับโค้ช ทีมอ่างทองและนักเตะคนอื่นๆเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็น ลูกจ่ายให้เพื่อนเข้า
ทำประตู หรือจะยิงเอง ดุทำได้ดีทุกลูกโดยเฉพาะการยิงประตูทุกลูกที่ออกจากเท้าของเขา เข้าทุก
ลูก จนนักเตะในทีมอ่างทอง เอฟซี ปรบมือให้เขา และแล้วก็มาถึง ช่วงที่สี่ การลงทีมเพื่อเอาการ
ฝึกทั้งหมดมาใช้ในเกมส์การแข่งขันจริง
โค้ชทีมอ่าง แบ่งทีมออกมาแล้ว และก็จริงอย่างที่เขาคิดไว้ในตอนแรก โค้ชแบ่งให้
เขาไปอยู่ทีมสำรอง นั่นหมายความว่า เขาจะต้องเผชิญหน้า กับนักเตะตัวจริงของทีม อ่างทอง เอฟ
ซี ที่มีความสามารถมากกว่าทีมสำรองที่เขาร่วมทีมอยู่ด้วย ดุถูกว่างให้เล่นหน้าเป้า
“เอาไงดีพี่วิน เราโดนให้มาอยู่ทีมสำรองแบบนี้โอกาสบุก เราน้อยนะครับ”เขาขอความ
เห็นของอัศวิน ทางกระแสจิต
“ใจเย็นๆครับ ก่อนอื่น เราต้องข่มขวัญนักเตะทีมตัวจริงก่อน และเป็นการโชว์ให้โค้ช
เห็นถึงความสามารถของเราด้วย”อัศวินบอกมาทางกระแสจิตอย่างอารมณ์ดี
“แล้วผมต้องเล่นไงก่อน ยิงไกลเหมือนเดิมเหรอพี่”ดุย้อนถาม
“ใช่ครับ! แต่ยิงแบบคลาสสิคหน่อยนะครับ ไม่เน้นแรง แล้วก็เกมส์นี้ ดุ สามารถใช้เท้า
ซ้ายยิงประตูก็ได้นะครับ พี่ลืมบอกไปว่าขวาซ้ายยิงเข้าเหมือนกัน”
“จริงเหรอพี่ เท้าซ้ายก็ยิงเข้าเหรอครับ”
“เข้าครับ แถมดีกว่าขวาด้วย เพราะกองหลังส่วนใหญ่จะปิดมุมเท้าด้านที่เราถนัดไว้ และ
ปล่อยเท้าข้างที่ไม่ถนัด เราจะใช้ตรงจุดนี้ครับ ทำประตูในวันนี้”
หลังจากวางแผนกับอัศวินเสร็จ ดุก็โดนเพื่อนร่วมทีมเรียกไปวางแผนการเล่นกัน ซึ่งก็ไม่มี
อะไรมาก คือให้เล่นเหมือนตอนซ้อมขึ้นเกมส์ ถ้ามีจังหวะยิงก็ยิง ถ้าไม่มีจังหวะยิงก็ย้อนหลังมาตั้ง
เกมส์ใหม่ ผู้ช่วยของโค้ชทีม อ่างทอง แนะนำมา
“อ้อ..เกือบลืมไป ลูกฟรีคิก นอกกรอบเขตโทษ ให้…ชื่ออะไรนะ” ผู้ช่วยของโค้ช
อ่างทอง หันมาถามชื่อกับเขา
“ดุ ครับ”ดุตอบมาสั้นๆ
“อืม..ลูกฟรีคิกให้ พี่ดุ เป็นคนเตะนะ”
“ไป! โค้ช เรียกแล้ว เล่นไม่ต้องเกร็ง สบายๆ”ผู้ช่วยทีมอ่างทอง ย้ำมาอีกครั้ง
และแล้วเกมส์ซ้อมแข่งก็เริ่มขึ้น ทีม ดุ เป็นฝ่ายเขี่ยบอลก่อน เขายืนอยู่ที่บอลคู่กับ
กองหน้าอีกคนหนึ่งที่ ชื่อเล่นว่าแดง เป็นกองหน้าตัวสำรองของทีม กรรมการจำเป็นเป่าเริ่มเกมส์
ข้างสนามมี ที่ปรึกษาและโค้ชรวมถึงทีมงานของทีมอ่างทอง เอฟซี ยืนดูอยู่อย่างสนใจ
เกมส์เริ่ม ดุ เริ่มเขี่ยบอลไปด้านหน้า กองหน้าที่ยืนคู่กับเขา จ่ายบอลคืนหลังเพื่อตั้ง
เกมส์ โดยมีผู้เล่นของ ทีม A วิ่งไล่บอล ดุวิ่งขึ้นหน้าเพื่อหาที่ว่าง ตอนนี้ ตัวของเขาอยู่ทางซ้ายห่าง
ประตูของทีม A ประมาณ 40 เมตร
“น้องดุ วิ่งตัดเข้าในไปหน่อย ตรงนั้นจะว่าง พอพี่ส่งสัญญาณ ให้ดุเรียกบอลจากเพื่อน
ร่วมทีมทันทีเลยนะแล้ว ก็ปั่นใซ้ด์ด้วยเท้าขวา เล็งสามเหลี่ยม มุมขวาบนไว้ รับรองตกตะลึงกันทั้ง
สนาม”เสียงอัศวินส่งกระแสจิตมา
ดุ ทำตามทันที เขาวิ่งสไลด์ตัวผ่านหน้ากองหลังไปคน ตอนนี้เขายืนอยู่ตรงกลาง
ระหว่างกองหลังทั้งสองคนของทีม A ส่วนบอลตอนนี้อยู่ในความครอบครองของทีมเขา และก็บอล
มาอยู่ในแดนของ ทีม A แล้วด้วยพอได้ตำแหน่งที่เหมาะแล้ว เสียงหนักๆของอัศวิน ก็ส่งผ่านทาง
กระแสจิตมา
“เรียกบอล!”
ดุ เรียกบอลจากเพื่อนร่วมทันที เพื่อนร่วมทีมคนนั้นก็เหมือนจะรออยู่แล้ว ถึงดุไม่เรียก
บอล ยังไงเพื่อนร่วมทีมของดุคนนี้ก็ต้องส่งบอลให้เขาอยู่แล้ว เพราะตำแหน่งการยืนของ ดุ ดีมาก
คือ อยู่นอกกรอบเขตโทษ เยื้องมาทางซ้ายเล็กน้อย กองหลังทั้งสองคนอยู่ห่างจากเขาอย่างน้อย
เมตรครึ่ง ชล่าใจว่า ดุ ต้องไม่กล้ายิงแน่เพราะระยะยังอยู่ห่างจากประตู เกือบ 35 เมตร แต่กองหลัง
ทั้งสองคิดผิด ดุ ตัดสินใจยิงในจังหวะนี้ทันที ยิงในลักษณะปั่นไซ้ด์โป้ง ทันทีที่บอลพุ่งออกจากเท้า
ของเขา ลูกบอลพุ่งเป็นเส้นโค้งไปทางขวามือ เส้นทางการวิ่งของบอลแรกๆเหมือนจะโค้งออกนอก
กรอบไปเลย ตามสายตาคนดูที่อยู่นอกสนาม ลูกนี้กว่าจะเลี้ยวโค้งได้ ลูกบอลคงออกนอกกรอบ
พอดี แต่ผิดถนัด พอลูกบอลไปได้ครึ่งทาง ทิศทางบอลที่เหมือนจะพุ่งออกนอกกรอบประตู กลับ
เลี้ยวโค้งเข้าสามเหลี่ยมมุมบนอย่างที่อัศวินกะไว้ อย่างสวยงาม สร้างความตกตะลึงให้กับนักเตะใน
สนามและโค้ชของทีมอ่างทองเป็นอย่างยิ่ง ตอนนี้ทั้งสนามเงียบกริบกันเป็นแถว อึดใจหนึ่ง ดุ
ได้ยินเสียงปรบมือให้เขาดังไปทั่วสนาม เพื่อนนักเตะในทีมของเขาต่างเข้ามาแสดงความยินดี นอก
สนามโค้ชทีมอ่าง เม้มปากและพยักหน้า อย่างพอใจและหันไปซุบซิบกับที่ปรึกษาของทีมอยู่ครู่
หนึ่ง
“เป็นไงครับ พอใช้ได้มั้ยครับ” ภิญโญ หันมาถามโค้ช ประดิษฐ์ ทันทีที่ดุ ยิงประตูได้
“อืม..เดี๋ยวผมขอดูอีกหน่อยก่อนครับ”โค้ชทีมอ่างทองตอบมาอย่างไว้ท่าทีอยู่นิดๆ
“ตามสบายครับ เดี๋ยวโค้ชจะได้เห็นอะไรดีๆอีกเยอะครับ จากผู้ชายคนนี้”ภิญโญบอก โค้ช
ประดิษฐ์มาเบาๆ
สิ้นสุดประตูที่สาม: ประตูแรกสู่มืออาชีพ
อัศวินก็ชวนดุคุยถึงเรื่องฟุตบอลไทยตลอดการเดินทางเลย สำหรับการเดินทางไปดู
ฟุตบอลที่ประจวบครั้งนี้ดุมาคนเดียวเมย์ไม่ได้มาด้วย เพราะดุอยากให้เมย์ได้อยู่คุยกับ
พวกเพื่อนๆมั่ง
“เออ..น้องดุครับตอนนี้ใครเป็นกองหน้าตัวหลักทีมชาติไทยครับ”อัศวินยิงคำถามมา
“ก็มีอยู่สามสี่คนครับที่ติดทีมชาติเป็นประจำ ธีรศิลป์ แดงดา,ธีรเทพ วิโนทัย,อานนท์ สังสระ
น้อย,กีรติ เขียวสมบัติ แต่ตัวเลือกอันดับหนึ่งที่โค้ชทีมชาติไทยเลือกใช้งานเป็นประจำก็จะเป็น ธีร
ศิลป์ แดงดาครับ”
“แล้วตอนนี้ใครเป็นโค้ชให้กับทีมชาติไทยครับ”
“เป็นโค้ชชาวเยอรมันครับ ชื่อ วินเฟรด เชเฟอร์ เก่งครับโค้ชคนนี้ แต่โค้ชเก่งๆกี่รายต่อกี่รายเข้ามา
ทำทีมชาติไทยทีไรไปได้ไม่กี่น้ำหรอกครับ เดี๋ยวก็โดนปลดมั่ง ลาออกเองมั่งก็มี”
“อ้าว..ทำไมเหรอครับ” อัศวินถามมาด้วยความสงสัย
“คือยังนี้ครับพี่ ตามความเห็นผมนะ การที่จะทำอะไรก็จะต้องให้เวลาเขา สำหรับการที่จะทำทีม
ฟุตบอลทีมชาติไทยให้ประสบความสำเร็จนั้น อย่างน้อยต้องให้เวลาโค้ชที่เข้ามารับหน้าที่ 5-8 ปี
เป็นอย่างน้อยรวมถึงทีมงานของโค้ชนั้นๆด้วย แล้วก็ต้องให้สิทธิ์ขาดในการทำทีมให้เขา ไม่มีการ
ล้วงลูกกัน สิทธิ์ขาดในที่นี้คือ การเลือกตัวนักเตะเข้าทีม อยากให้ดูจากผลงานเป็นหลักไม่ใช่เน้น
จากชื่อเสียงเก่าๆ ซึ่งที่ผ่านมา ผมมองว่าสมาคมเราให้เวลาในการทำทีมกับโค้ชเขาน้อยไปหน่อย
พอโค้ชคนนี้ทำทีมไม่ประสบความสำเร็จ ทำทีมตกรอบโน้นรอบนี้ ก็มีข่าวว่าโค้ชจะโดนปลดมั่งล่ะ
แสดงความรับผิดชอบด้วยการขอลาออกเองมั่งล่ะ ตรงจุดนี้เองผมมองว่าเราไม่เป็นมืออาชีพ ดูอย่าง
ต่างประเทศสิครับ เอาใกล้ตัวเราก็ได้ อังกฤษไง เวลาสมาคมฟุตบอลอังกฤษจะทำสัญญากับโค้ชสัก
คน ขาจะต้องชัดเจน ทั้งตัวโค้ชและเป้าหมายที่สมาคมตั้งไว้ รวมถึงบทบาทและหน้าที่ของโค้ชหรือ
ผู้จัดการทีมท่านนั้นด้วย ว่าบทบาทการเป็นโค้ชหรือผู้จัดการทีมของเขาจะต้องไม่โดนแทรกแทรง”ดุ
เสนอความเห็นของเขาให้อัศวินฟัง
“แสดงว่าที่ผ่านมา ทีมชาติไทยเปลี่ยนโค้ชกันบ่อยสิ” อัศวินถามด้วยความสงสัยอยากรู้
“ค่อนข้างบ่อยครับ ส่วนใหญ่จะเป็นโค้ชต่างชาติ แต่ละคนก็เข้ามาได้เดี๋ยวเดียวก็ลาออกแล้วโค้ช
บางคนที่จ้างมาแทนที่จะอยู่เมืองไทยเพื่อบริหารจัดการทีมชาติไทย ดันผ่ากลับไปนั่งดูบอลที่บ้าน
เกิดซะงั้น ทั้งๆที่เงินค่าจ้างก็แพงแสนแพง”ดุ บรรยายมาให้อัศวินฟัง
“อืม..แล้วทำไมพวกเราต้องจ้างโค้ชหรือผู้จัดการทีมต่างชาติมาทำทีมชาติไทยด้วยล่ะ ทั้งๆที่ เมือง
ไทยเราก็มีคนเก่งๆ อยู่เยอะ”
ดุนิ่งไปอึดใจหนึ่งแล้วพูดว่า “ตรงนี้พี่คิดเหมือนผม ส่วนตัวผม อยากได้โค้ชไทยเข้ามาเป็นโค้ชหรือ
ผู้จัดการทีมชาติไทยมากกว่า เพราะว่าการทุ่มเทครับ โค้ชไทยน่าที่จะทุมเทและเข้าใจขนบทำเนียม
มากกว่าชาวต่างชาติ แล้วอีกอย่าง การสื่อสารทางด้านภาษาตรงนี้สำคัญ ผมมองว่าคนเป็นโค้ชไม่ว่า
จะเป็นชาวต่างชาติหรือ คนไทยก็ตาม ศาสตร์ทางด้านลูกหนังคงไม่ต่างกันเท่าไร แต่อาจจะต่างกัน
ที่บารมีหรือชื่อเสียงเท่านั้นเอง ตรงนี้แหละครับที่ต่างกัน”
“ต่างจากสมัยพี่ลิบลับเลยครับ สมัยก่อนพวกพี่ก็เล่นบอลกันอย่างเดียวไม่ได้คิดอะไรกัน ทุกครั้งที่ได้เล่นฟุตบอลก็มีความสุขแล้ว” อัศวินพึมพำออกมา
“ครับพี่ อยู่ๆไปพี่จะเห็นอะไรอีกเยอะครับแต่ตอนนี้เราอย่าพึ่งไปคิดอะไรมากเลย เตรียมตัวดูบอลดี
กว่า”ดุ พูดพร้อมกับหักพวงมาลัยเลี้ยวเข้าสนามเหย้าของทีม ประจวบคีรีขันต์ เอฟซี
หลังจากหาที่จอดรถได้แล้ว เขาก็เดินมาที่ประตูทางเข้าสนามพร้อมกับส่งตั๋วให้กับเจ้าหน้าที่สนาม
และเดินขึ้นไปหาที่นั่งบนอัฐจรรย์ฝั่งกองเชียร์ของ ทีมอ่างทอง เอฟซี ระหว่างที่เดินหาที่นั่งอยู่นั้น
เขาได้ยินเสียงอัศวิน แสดงถึงความตื่นเต้นอย่างออกนอกหน้านอกตา
“โอ้โห คนเยอะจัง ดูคึกคักด้วย น่าสนุกนะ สาวๆเพียบเลย สมัยพี่เล่นนะ สาวๆนี่นับคนมาดูได้เลย นี่
ถ้าพี่เกิดช้ากว่านี้สักนิดก็ดีซิ พี่จะได้เล่นบอลโชว์ต่อหน้าส่าวๆบ้าง”
“แหม..พี่พามาดูบอลไม่ได้พามาดูสาว ตายแล้วยังจะชีกออีกนะ”
“แฮ่ๆ พี่ดูเฉยๆน่า ก็ที่ผ่านมาหลังจากตายก็ไม่ได้เจอสาวเลย วันๆคุยกับเฮียจุ๊บ เบื่อจะตายอยู่
แล้ว”อัศวินบ่นออกมา
ดุสงสัยว่าอัศวิน ตอนนี้ทำหน้าอย่างไร เขาก็ลองหลับตาดู ปรากฏว่า อัศวินมองเหล่แต่สาวๆ พอเขา
เห็นสภาพอัศวินตอนนี้แล้ว ก็ได้แต่ถอนใจยิ้มๆ
“พี่วิน พี่วิน พี่อัศวิน” คำสุดท้ายดุ เน้นหนักทางกระแสจิตเพื่อเรียกอัศวินกลับมาจากการเหล่สาว
“ครับๆ ได้ยินแล้วครับ ทำไมต้องเสียงดังด้วย มีอะไรครับ”อัศวินส่งเสียงเล็กเสียงน้อยมา
“เกมส์จะเริ่มแล้ว มาตั้งใจดูครับพี่”
พอ ดุ พูดจบ นักฟุตบอลของทั้งสองทีมก็เดินลงสู่สนาม พร้อมกับเสียงเพลง
สำหรับ ทีมประจวบเอฟซี หรือต่อพิฆาต เจ้าบ้าน มาในชุดเสื้อลายส้มดำ กางเกงดำ ส่วนทีมเยือน
อ่างทองเอฟซี หรือนักรบรวงทอง มาในชุดเสื้อเหลือง กางเกงเหลือง เปิดเกมส์มาในช่วงแรกทั้ง
สองทีมลุยเข้าหากันทันทีเพื่อหวังทำประตูขึ้นนำ แต่ว่าเป็นทางฝั่งทีมเจ้าบ้านที่สามารถครองบอล
ได้มากกว่าเล็กน้อย และก็มาถึงนาทีที่สี่สิบสองสิบ ทีมประจวบ เอฟซีได้ลูกฟรีคิกนอกกรอบเขต
โทษ และจังหวะนี้เอง หมายเลขสิบ ที่ชื่อคาเมร่า บรรจงยิงเข้าไปอย่างสวยงามทำให้ทีมประจวบ
เอฟซีขึ้นนำทีมอ่างทอง เอฟซี ไป 1-0 จากนั้นในครึ่งแรกทั้งสองทีมทำอะไรกันไม่ได้ ทำให้หมด
ครึ่งแรกเจ้าบ้านนำอยู่แค่ 1-0
“จบครึ่งแรกแล้วครับพี่ เป็นไงครับเกมส์ฟุตบอลสมัยใหม่” ดุถามอัศวินขณะที่นั่งรอดูครึ่งหลังกัน
“พี่ว่าเกมส์มันเร็วไปนะ นักเตะแทบจะไม่ได้ครองบอลเลย ได้บอลแล้วต้องรีบส่งให้เพื่อน แล้วก็เข้า
ปะทะกันเร็วและหนักมาก แต่ก็สนุกดี”อัศวินออกความเห็นมา
“ก็อย่างที่เห็นครับ ฟุตบอลสมัยนี้เน้นไปที่ผลการแข่งขันและเน้นไปที่การใช้แท็กติกกันซะเป็นส่วน
ใหญ่ นี่ยังธรรมดานะครับ ถ้าเป็นไทยลีคเกมส์จะเร็วกว่านี้อีก เพราะนักเตะเก่งและฟิตกว่านี้ครับ”ดุ
บอกมา “สมัยพี่เกมส์ไม่เร็วเท่านี้ครับ แต่เราจะครองบอลไว้กับตัวมากหน่อย ใครมีทักษะดีๆโค๊ชก็จะ
ให้เป็นตัวทำเกมส์คือฝากบอลไว้กับคนนี้มากหน่อย”อัศวินเล่าให้ฟัง
“แล้ววันนี้พี่ว่าใครจะเป็นฝ่ายชนะครับ”ดุถามความเห็นของอัศวิน
อัศวินนิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนตอบว่า “เจ้าบ้านประจวบจะชนะครับ”
“ทำไม่พี่คิดว่า ทีมประจวบ เอฟซี จะชนะครับ”ดุถามเหตุผลมา
“หึ หึ เหตุผลง่ายมากครับ เพราะว่า ทีมอ่างทอง เอฟซี ยังไม่มี ดุ ไปร่วมทีมครับ”อัศวินตอบมาด้วย
น้ำเสียงเรียบๆ “โอ้..โห..พี่มั่นใจผมขนาดนั้นเลยเหรอครับ”ดุร้องออกมาขันๆ
“มั่นใจครับ เพราะเวลาดุลงไปเล่นในสนาม พี่ก็ลงไปด้วยรับรองเราสองคนลงไปเล่นให้ทีมไหนทีม
นั้นชนะแน่นอน”
ระหว่างที่ ดุ กำลัง คุยกับอัศวินทางกระแสจิตฆ่าเวลาอยู่นั้น ด้านล่างของอัฐจรรย์ฝั่งทีม อ่างทอง
เอฟซี มีคนตะโกนเรียกชื่อเขาพร้อมกับโบกมือเรียก
“น้องดุ น้องดุ”ภิญโญ นิจสุวรรณ ที่ปรึกษาของทีมอ่างทองนั่นเองที่โบกมือเรียกเขาอยู่เย้วๆ
ดุ เห็นดังนั้นก็เดินลงไปหาและเกาะขอบรั้วอัฐจรรย์พร้อมกับโน้มตัวไปด้านหน้าเพื่อที่จะได้คุยกับ
ภิญโญ ได้ถนัด ภิญโญ ไม่รอให้ ดุ เอ่ยปากถาม ก็ชิงบอกเขาก่อนเลยว่า “น้องดุ เดี๋ยวหลังเกมส์
อย่าพึ่งกลับนะครับ พี่นัดโค๊ชของทีมอ่างทอง ไว้แล้ว แล้วก็พี่ได้เล่าเรื่องน้องดุให้เขาฟัง เขาตื่นเต้น
และอยากเจอน้อง ดุ มากเลย”
“ครับ พี่ แล้วผมจะไปเจอพี่ตรงไหนครับ” ดุถามกลับไป
“เดี๋ยวนั่งรอพี่อยู่ที่เดิมก็ได้ครับ หลังเลิกประชุมทีม และปล่อยนักเตะไปอาบน้ำ พี่จะเรียกน้องดุ
และแนะนำให้รู้จักกัน”ภิญโญ บอกมา
“ได้ครับ” ดุ รับคำพร้อมกับพยักหน้ารับ
“แล้วนี่มาคนเดียวเหรอครับ แฟน น้องดุไม่มาด้วยเหรอ”ภิญโญ ถาม เมื่อมองไม่เห็นภรรยาของเขา
“ไม่มาครับ ผมปล่อยให้เขาอยู่กับเพื่อนๆ เพราะไม่ได้เจอกันนานแล้ว” ดุตอบมา
“งั้นเดี๋ยวพี่ไปก่อนครับ ครึ่งหลังจะเริ่มแล้ว ดูบอลให้สนุกนะครับ แล้วเจอกันหลังเกมส์จบครับ”พอ
ภิญโญ พูดจบก็เดินจากไป
ดุ เดินกลับไปนั่งที่เดิมพร้อมกับเกมส์ครึ่งหลังได้เริ่มขึ้น พอผู้ตัดสินเป่าเริ่มครึ่งหลังปุ๊บ ทีมอ่างทอง
เอฟซี เดินหน้าบุกทันทีเลยและก็สามารถครองบอลได้มากกว่า จนมาถึงนาทีที่ 63 ที่เยือนได้ลูก
เตะมุมทางฝั่งซ้าย และทีมอ่างทองก็โยนบอลเข้ามาที่หน้าปากประตู ลูกนี้เหมือนไม่มีอะไร แต่ว่าผู้
เล่นของทีม ประจวบ เอฟซี สกัดบอลเข้าประตูทำให้ทีมเยือนตีเสมอเป็น 1-1 แต่ว่า ทีมเยือนก็ดีใจ
ได้ ไม่ถึงสิบนาที นาทีที่ 79 เจ้าบ้านก็มาได้ประตูขึ้นนำเป็นสองประตูต่อหนึ่ง จากการประสานงาน
กันอย่างสวยงามของกองหน้า ก่อนที่ กองหน้าของทีมเจ้าบ้านที่ชื่อ มูซ่า จะยิงให้ ประจวบ เอฟซี
ขึ้นนำอีกครั้ง เป็น 2-1จากนั้นเกมส์ผลัดกันลุกผลัดกันรับอีกครั้งอย่างสนุก และก็เป็นทีมประจวบ
เอฟซีได้ประตูที่ 3จากตัวสำรอง หมายเลข 32 หลุดเดี่ยวเข้าไปยิงให้ทีมประจวบ เอฟซี นำห่าง
เป็น 3-1 สร้างความดีใจให้กับกองเชียร์ฝั่งเจ้าบ้านได้อีกครั้ง พอทีมเยือนโดนลูกที่ 3 ไปในช่วง
ท้ายเกมส์ก็ยังไม่ท้อ ยังสู้อยู่และก็มาได้ประตูเพิ่มในช่วงก่อนทดเวลาบาดเจ็บ จากลูกจุดโทษ หลัง
จากนั้นทีมเยือนก็ไล่ไม่ทันทำให้พ่ายไปด้วยสกอร์ 3-2 ส่งผลให้ ทีมประจวบคีรีขันต์ เอฟซี ขึ้นไป
อยู่อันดับ 3 ของตาราง แข่งหกนัดยังไม่แพ้ใครมี14 คะแนน
หลังจบเกมส์ ดุ ถามอัศวิน “เป็นไงพี่วิน สนุกมั้ยครับ”
“สุดยอดเลย ดุ พี่ไม่ได้ดูฟุตบอลสนุกๆแบบนี้มานานแล้ว แต่ว่าเกมส์เล่นกันแรงจัง”
“ธรรมดาพี่เกมส์มันเร็วน่ะ แล้วฟุตบอลสมัยนี้มันต้องมีการปะทะกันตลอดเวลา ถ้าไม่ควบคุมอารมณ์
กันให้ดีต่อยกันตายเลย”
“มีต่อยกันบ่อยเหรอครับ” อัศวินถาม
“เป็นบางเกมส์ครับ ส่วนใหญ่ก็มาจากการปะทะกันหนักๆแล้วก็ควบคุมอารมณ์กันไม่อยู่แล้วจะเอาคืน
กัน”ดุตอบมาด้วยน้ำเสียงเรื่อยๆ
“อืม..แล้วต่อยกันบ่อยๆแบบนี้ประเทศไทยเราไม่เสียภาพพจน์เหรอครับ”อัศวินถามมา
“ก็ทำไงได้ล่ะครับมันก็ต้องมีบ้าง แต่ตอนนี้ก็มีบทลงโทษค่อนข้างที่จะรุนแรงขึ้น ทำให้นักเตะหลาย
คนที่อารมณ์ร้อนเริ่มที่จะไม่กล้าออกลายครับเพราะบทลงโทษค่อนข้างที่จะรุนแรงมาก”
“แรงประมาณไหนครับ”อัศวินถาม ดุ ต่อ
“อาจจะโดนแบนตลอดชีวิตครับ”
ระหว่างที่ ดุ กับ อัศวินกำลังนั่งคุยกันทางกระแสจิตอยู่นั้น ภิญโญ ก็เดินตรงเข้ามาหาดุพร้อมกับพูด
ว่า “น้องดุครับ มา มา ลงมา เดี๋ยวผมจะแนะนำให้รู้จักกับโค้ชทีมอ่างทองครับ”
ดุ เดินลงไปที่สนาม ตรงไปหาภิญโญที่ยืนรอเขาอยู่ ข้างๆภิญโญ มีผู้ชายคนหนึ่งใส่กางเกงยีนส์
เสื้อบอล ทีมอ่างทอง เอฟซี ยืนอยู่ข้างๆ
“น้องดุ นี่โค้ช ประดิษฐ์ มีสันทัด ครับ คุณสันทัด นี่น้องดุที่ผมเล่าให้ฟังครับ” จากนั้น ดุ ก็ยื่นมือไป
ให้โค้ชทีมอ่างทองจับ
“ยินดีที่ได้รู้จักครับ”ดุ เอ่ยปากเบาๆ
“ครับ เช่นกัน”โค้ชสันทัดตอบมาด้วยน้ำเสียงห้าวๆ
“เห็น พี่ภิญโญเล่าให้ฟังว่า น้องดุ ยิงประตูคมมากเลยเหรอครับ”โค้ชทีมอ่างทองถามมา
“ก็พอเล่นได้ครับ” ดุตอบมาแบบถ่อมตัว
“ตอนนี้พักอยู่ไหนครับ” “ผมอยู่ กรุงเทพ ครับ”
โค้ชสันทัดทำท่าคิดนิดหนึ่งก่อนที่จะยิงคำถามมาว่า “ตอนนี้น้องดุ อายุเท่าไรครับ”
“31 ปีแล้วครับย่างเข้าสู่ 32 แล้วครับ”
“เห็นได้ข่าวว่าจบที่พละอ่างทองเหรอ”
“ครับ จบมาเมื่อปี 46 จบมาได้ 10 ปีแล้วครับ “อืม..พี่ว่าเราไปนั่งคุยกันที่ซุ้มม้านั่งสำรองดีกว่า
ยืนคุยกันจะเมื่อยเอาครับ” โค้ชทีมอ่างทองชวนมา
หลังจากที่โค้ช ทีมอ่างทอง เอฟซี ชวนมานั่งกันที่ซุ้มม้านั่งสำรองเรียบร้อยแล้วทางโค้ชทีม
อ่างทองก็เอ่ยปากว่า “เป็นบ้างมาดูเกมส์วันนี้ สนุกมั้ย”โค้ชถามมา
“สนุกครับ แต่เสียดายไม่น่าแพ้เลยนี่ถ้ามีเวลาอีกสักสิบนาที ผมว่าน่าจะตีเสมอได้นะครับ”
“นั่นสิ แต่ว่าผลออกมาแบบนี้ผมก็พอใจแล้วครับ แข่งนอกบ้านกับทีมหัวแถวของตารางแล้วมาโดน
กองเชียร์เจ้าถิ่นกดดันตลอดทั้งเกมส์อีก ไม่แพ้มากกว่านี้ก็ดีเท่าแล้วครับ” โค้ชทีมอ่างทองว่ามา
“ครับ ผมก็ว่างั้น ส่วนหนึ่งก็มาจากกองเชียร์ฝั่งเจ้าบ้านนั่นแหละที่กดดันทีมเยือนทั้งเกมส์”ดุแสดง
ความเห็นด้วย
“มาเข้าเรื่องของเราดีกว่า วันพรุ่งนี้ช่วงบ่าย น้องดุ ไปลงซ้อมกับทีมได้หรือเปล่าครับ
พี่จะขอดูฟอร์มการเล่นและการยิงประตูหน่อย”โค้ช ทีมอ่างทอง เอฟซีถามมา
“ช่วงบ่ายหรือครับ อืม..ได้ครับ เริ่มซ้อมบ่ายกี่โมงครับ”
“บ่ายสามโมงครึ่งครับ ที่สนามเทศบาลอ่างทองครับ ขับรถเข้าไปในตัวเมืองก็จะเห็นสนามเลย
”โค้ชบอกมา “ถ้ามาถึงก็โทรหาพี่นะ เดี๋ยวพี่ออกมารับ ตามเบอร์โทรที่ให้ไว้ในนามบัตรนั่นแหละ
ครับ” ภิญโญเอ่ยออกมาด้วยสีหน้ายิ้มๆ
“ครับ พี่ถ้าผมไปถึงแล้ว เดี๋ยวผมโทรบอกครับ”ดุรับคำ
“อืม..ถ้าไม่มีอะไร งั้นเดี๋ยวผมขอตัวก่อนนะครับ กว่าจะถึงคงดึก วันนี้ผมนัดเจอเพื่อน
ด้วย อีกอย่างวันนี้ผมเบี้ยวลงแข่งบอลให้พวกมัน ตอนนี้พวกมันกำลังแข่งกันอยู่ ไม่รู้ว่าผลจะเป็นยัง
ไงบ้าง ผมขอตัวก่อนนะครับ”พูดจบดุก็ลุกขึ้นยืน
“งั้น ขับรถกลับดีๆนะครับ แล้วก็พรุ่งนี้ตอนซ้อมผมขอเต็มที่หน่อยนะครับ”โค้ชทีม
อ่างทอง บอกมา
“ไปครับเดี๋ยวพี่เดินไปส่งที่รถ”ภิญโญบอกมาพร้อมกับลุกขึ้นเดินไปส่งเขาที่รถ
หลังจากที่ภิญโญเดินกลับมาจากไปส่ง ดุ ที่รถแล้วเขาได้เดินกลับมาหา โค้ช ประดิษฐ์
“เป็นไงมั่งโค้ช”ภิญโญถามมา
“ตัวผอมไปนิดนะ แล้วก็อายุมากแล้ว ตั้ง31 บอกตามตรงว่าผมไม่ค่อยอยากได้เท่าไร ผมอยากได้
เด็กกว่านี้น่ะครับ เพราะว่ามีอายุการใช้งานได้นาน แต่ไม่เป็นไรไหนๆคุณภิญโญก็แนะนำมาแล้วครับ
เดี๋ยวดูการซ้อมพรุ่งนี้ก็รู้ว่าจะเอามาใช้งานได้หรือเปล่า ถ้าไม่เข้าตาผม คุณภิญโญอย่าว่าผมนะ
ครับ”โค้ชทีมอ่างทองบอกมาเสียงเข้มๆ
“ได้ครับ ตามสบายเลย แต่ผมมั่นใจครับว่าพรุ่งนี้โค้ชจะตะลึงกับความมหัศจรรย์ของชายคนนี้
ครับ”ภิญโญบอกมาด้วยความมั่นใจ ระหว่างที่ ดุ กำลังขับรถเข้ากรุงเทพ
“พี่วิน ผมว่าโค้ชทีมอ่างทอง ดูเหมือนไม่ค่อยอยากจะได้ผมไปร่วมทีมนะครับพี่ ว่าเหมือนผมมั้ย
ครับ” ดุ ชวนอัศวินคุย “เป็นเรื่องธรรมดาครับ เขาคงคิดว่า ดุ เป็นเด็กเส้นมั้งครับ อย่าไปคิดอะไรมาก
เลย เปลืองสมองเปล่าๆ”อัศวินแนะมา
“อืม..คงจะจริงอย่างพี่วินว่าแล้วนี่ซัอมทีมพรุ่งนี้จะเอาไงกันดีครับ”ดุถามมา
“เรื่องนี้เดี๋ยวพี่จัดการเอง ไม่ยากครับ”อัศวินตอบมาด้วยความมั่นใจ
“ทำไงเหรอพี่ บอกผมบ้างสิ”เขาถามด้วยความอยากรู้
“วันนี้ เท่าที่พี่ดูทีมอ่างทองเล่นแล้วนะ เป็นทีมทีดีทีมหนึ่ง เป็นทีมที่มีความฟิตสูง แต่ก็จะมีจุดด้อย
อยู่ที่ผู้รักษาประตูกับกองหลังที่ยังประสานงานกันยังไม่ลงตัวเท่าที่ควร ซึ่งเราจะใช้จุดนี้แหละครับ
สำหรับพรุ่งนี้ ส่วนตัวพี่คิดว่า ช่วงต้นของการซ้อมไม่ค่อยเท่าไร แต่ช่วงที่ลงทีมนั่นแหละจะเป็นตัวชี้
เลยว่าดุจะสร้างความประทับใจให้กับโค้ชทีมนี้ได้หรือเปล่า”อัศวินร่ายยาวมา
“แล้วผมต้องทำยังไงมั่งครับ”ดุถามมา
“ก่อนอื่นต้องหาจังหวะยิงประตูให้ได้บ่อยๆ ลูกฟรีคิก ดุบอกโค้ชไปเลยว่าขอยิงเองทุกลูก แล้วก็
อย่าพยายามปะทะกับกองหลังโดยเฉพาะ คนที่ชื่อ สุจิน เพ็งศิริ และสิวฤทธิ์ นิ่มกุลเพราะแรงปะทะ
ของดุยังสู้สองคนนี้ไม่ได้ ดังนั้นต้องชิงจังหวะยิงประตูให้ได้ก่อนที่จะเกิดการปะทะถ้าทำตามที่พี่
บอกได้รับรองโค้ชทีมอ่างทองอยากได้ ดุ ไปร่วมทีมจนเนื้อเต้น” อัศวินแนะมายาวๆ
ดุนิ่งคิดครู่หนึ่ง ก็พยักหน้าพร้อกับตอบว่า “อืม พี่คิดเหมือนผม เพราะเท่าที่ดูกองหลังทั้งสองคน
เล่นวันนี้แล้วน่ากลัวมาก เหนียวแน่นดีโดยเฉพาะลูกกลางอากาศ”
“เอาน่า..ไม่ต้องคิดมากยังไงก็ผ่านฉลุย ถึงแม้ว่าพี่ไม่แนะให้ พรุ่งนี้ดุก็ยิงประตูได้อยู่แล้ว”พูดจบ
อัศวินก็หัวเราะชอบใจ
ณ สนามฟุตบอลแถวพระรามสอง
“ไอ้นวย มึงดันขึ้นขึ้นหน้าหน่อย มึงยืนต่ำไป มึงขึ้นไปช่วยเกมส์บุกเลย ทิ้งไอ้เหลิม ไว้คนเดียว
พอ”เสียงเกรียงตะโกนสั่งการเพื่อนอยู่ข้างสนาม
“ไอ้เปีย มึงเตรียมตัวลงไปเล่นแทนไอ้ทีป ไอ้ทีปมันเจ็บขา เล่นต่อไม่ไหว” เกรียงหันมาบอกเพื่อน
“เฮ้ยจะหมดเวลาแล้วนะพวกมึง ตีเสมอให้ได้นะโว้ย” เกรียงพูดหลังจากส่งเปียลงสนามไป
“เออ..กูก็พยายามแล้วแต่ทีมโน้นลงไปอุดกันแน่นประตูเลย”เสียงบอยบ่นมา
“เมย์ ไอ้ดุมันจะมาทันเปล่า ตอนนี้มันถึงไหนแล้ว”เกรียงหันไปถามแฟนเพื่อน
“กำลังหาที่จอดรถอยู่ ดุ ฝากถามว่าเหลืออีกกี่นาที จะให้ดุลงหรือเปล่า” เมย์ถามมา
“เหลือ 8 นาที ทัน บอกให้มันเปลี่ยนชุดมาเลยเดี๋ยวให้ลง 3 หรือ 4 นาทีสุดท้าย ฝากเมย์ช่วย
โทรบอกมันด้วย” เกรียงตอบมาโดยที่ไม่ละสายตาจากเกมส์การแข่งขัน
“ได้เดี๋ยวเมย์ โทรบอก ดุ ให้”เมย์รับคำมา
“ไม่ต้องโทรแล้วเมย์ ดุเดินมาโน้นแล้ว”ปูแฟนเกมส์ขัดขึ้นมาก่อน
ทุกคนก็หันไปดู ก็จริงอย่างที่ปูว่า ดุกำลังเดินตรงเข้ามาด้วยสีหน้ายิ้มๆพอดี
“เป็นไงพวกมึง ยังไม่แพ้อีกเหรอ กูนึกว่าเสร็จไปแล้ว”ดุแซวเกรียงมา
“ไม่ต้องพูดมากเลยมึง ไอ้ตัวดี หายไปไหนมาวะ โดนนำอยู่ 2-1จะหมดเวลาอยู่แล้ว รีบไปเปลี่ยน
เสื้อผ้าเลยมึง”เกรียงเล่นงานเพื่อนมา
“นั่นสิ ดุรีบไปเปลี่ยนเสื้อผ้าไป เดี๋ยวหมดเวลาก่อน โน้น.ห้องน้ำ” เสียงเมย์บอกมาอีกคน
“ไม่ต้องใช้หรอกห้องน้ำ เปลี่ยนมันตรงนี้แหละ เฮ้ยพวกมึง ไอ้ทีป ไอ้หวาน ไอ้เป้า ลุกมายืนบังกู
หน่อย กูเปลี่ยนมันตรงนี้แหละ”ดุบอกมายิ้มๆ
“น่าเกียจ ดุ”เสียงบรรดาสาวๆพูดมาเกือบพร้อมกัน
แต่ ดุ ไม่ฟังเสียงแล้ว เขาถอดเสื้อแล้ว เปลี่ยนเป็นใส่เสื้อบอล จากนั้นก็มองซ้ายมองขวา เห็นว่า
เพื่อนยืนบังให้อย่างดีแล้วก็ถอดกางเกงยีนส์ออกเปลี่ยนเป็นใส่กางเกงบอลอย่างรวดเร็วทันที
เพื่อนๆเห็นพฤติกรรมของ ดุ ก็ส่ายหน้ากันเป็นแถว ส่วนคนที่น่าจะอายมากกว่าคนอื่นก็คือเมย์
นั่นเอง หลังจากเปลี่ยนชุดเสร็จแล้ว ดุก็แยกออกไปนั่งคนเดียวก่อนไปก็หันมาถามเกรียง
“เฮ้ย เหลืออีกกี่นาทีวะไอ้เกรียง”
“เหลือ 6 นาทีมึงรีบใส่สตั๊ดเร็วๆ เข้าเถอะ”เกรียงเร่งมา
“เออๆ..ขอนาทีหนึ่ง”ดุรับคำ
ระหว่างที่ เขากำลังนั่งใส่สตั๊ดอยู่นั้น อัศวินก็พูดขึ้นว่า “ไม่ต้องตื่นเต้นครับ โดนนำแค่ลูกเดียว สบาย
ครับ มีลุ้นถึงชนะเลย” “ครับพี่ ลูกแรกเอาไงครับ”เขารับคำและถามกลับมา
“ลูกแรกยิงไกลเลยครับ ลงไปขอบอลจากเพื่อน แล้วยิงเลย เอาแบบใส่เต็มข้อเลยนะ รับรองเข้า
ชัวส์”อัศวินแนะมาด้วยน้ำเสียงเรื่อยๆ
“เฮ้ย..ไอ้เกรียง กูพร้อมแล้ว” หลังจากใส่สตั๊ดเสร็จเขาก็หันไปบอกเพื่อน
“เออๆ..ไอ้ก้อง ออกมาพักก่อน เปลี่ยนให้ไอ้ดุลงไปเล่นแทน”เกรียงตะโกนบอกเพื่อน
หลังจากดุ เปลี่ยนลงไปในสนามแล้ว เขาก็เดินเข้าไปหาช็อต แล้วพูดว่า “เดี๋ยวพอเกมส์เริ่มแล้วถ้า
มึงได้บอล มึงจ่ายบอลมาให้กูเลยนะ”
“ได้” ช็อตรับคำมาพร้อมกับพยักหน้ารับ
“แล้วมึงจะเล่นยังไงวะ ทีมโน้นลงไปอุดกันแน่นเต็มหน้ากรอบเขตโทษเลย” เปียที่ยืนอยู่ใกล้ๆถาม
มา “เออ..น่า เดี๋ยวกูเล่นให้ดู”เขาตอบเพื่อนๆยิ้มๆ
“ไปเร็ว ฝ่ายโน้นทุ่มบอลมาแล้ว” ดุเร่งเพื่อนทั้งสอง
เหลือเวลาอีกไม่ถึงห้านาที รูปเกมส์ตอนนี้ ทีมเดนเวอร์ลงไปแพคเกมส์รับกันแน่นเลย พยายามที่จะ
ครองบอลให้ได้นานที่สุด เพราะว่าพอใจกับสกอร์ที่นำอยู่ตอนนี้ แต่ทางทีม วทบ.ของดุก็ยังไม่ยอม
แพ้ พยายามวิ่งไล่บอลเพื่อจะเอาบอลมาตั้งเกมส์บุกของตัวเอง
“ไอ้นวยกับไอ้เหลิม ดันขึ้นมาให้หมดเลย บีบพื้นที่ จับเบอร์ 6 ให้อยู่เขาเป็นตัวทำเกมส์” เสียง
ช็อตสั่งการเพื่อนทั้งสองมา
ทั้งสองทำตามทันที และก็ได้ผล เมื่อเหลิม แย่งบอลได้จากการที่ เบอร์ 6 ของทีมเดนเวอร์โดน
กดดันจนทำบอลเสียเอง เหลิม ได้บอล ทางริมเส้นฝั่งซ้ายในแดนของทีมเดนเวอร์ ตอนนี้เวลาเหลือ
แค่ สองนาทีครึ่งเท่านั้น เหลิมเงยหน้ามองตรงกลางสนาม เขาเห็นช็ตมีตัวประกบอยู่สองคน ถ้าจ่าย
ไปเพื่อนจะเล่นลำบาก เลยจากช็อตไปเขาเห็นดุ กำลังวิ่งจะตัดหน้าช็อตมา เพื่อที่จะรับลูกส่งจาก
เขา เหลิมเห็นดังนั้น ก็ตัดสินใจจ่ายบอลให้ดุทันที ตอนนี้ดุไม่มีตัวประกบ แต่ว่าบอลอยู่นอกกรอบ
เขตโทษ ตรงบริเวณครึ่งวงกลมนอกกรอบเขตโทษ ระยะห่างจากประตูประมาณเกือบ 30 เมตร ถ้า
เป็นเขาคงยังไม่ยิงในจังหวะนี้เพราะยังไกลอยู่ แต่ภาพที่เหลิมเห็น คือ ดุ ตัดสินใจยิงทันทีด้วยเท้า
ขวา บอลพุ่งออกจากเท้าดุ แรงมาก แต่บอลเหมือนจะโด่งข้ามคาน ทำให้ประตูของทีมเดนเวอร์
ประมาทไม่โดดรับบอลลูกนี้ แต่ประตูคนนี้คิดผิด เพราะลูกบอลแทนที่จะโด่งข้ามคานไปเหมือนลูก
ทั่วๆไป แต่ลูกบอลกลับฮุคลงใต้คาน เหมือนลูกยิงใบใม้ร่วง ของ โยฮัน ครัฟ กองหน้าทีมชาติ ฮอล
แลนดิ์ เมื่อตอนรุ่งๆในยุค 1980 ทันที่ทีลูกบอลสัมผัสตาข่าย กองเชียร์ของทีม วทบ. ส่งเสียง
เฮ้..กันกระหึ่ม ช็อตกับเหลิม กระโดดดีใจและวิ่งโถมเข้าหา ดุ กันเป็นแถว เพื่อนๆในทีมต่างวิ่งเข้า
มาแสดงความดีใจกับดุ ผู้เล่นฝั่งทีมเดนเวอร์ โดยเฉพาะผู้รักษาประตูต่างยืนงง กันเป็นแถว
“เฮ้ย..ผีจับยัดอีกแล้วนะมึง” เสียงช็อตตะโกนบอกดุด้วยใบหน้าที่ร่าเริง
“นั่นสิ มึงจะคมไปไหนของมึงวะ” นวยแซวมาอีก
ตอนนี้สกอร์เท่ากัน 2-2แล้ว เหลือเวลาอีกนาทีเดียวยังไม่รวมทดเวลาบาดเจ็บ ซึ่งคาดว่าจะทดไม่
เกินสองนาที “เฮ้ย..มีสมาธินะโว้ยพวกมึง เหลืออีกสองนาที กรรมการทดเวลาแค่นาทีเดียวเอง”
เสียงเกรียงตะโกนบอกมาจากข้างสนาม
“เกรียงทำไมกรรมการทดเวลาน้อยจังเลย ปกติเมย์เห็นส่วนใหญ่จะทดประมาณ สองถึงสามนาทีนี่”
เสียงเมย์ถามมาด้วยความสงสัย “ก็บอลมันเสมออยู่น่ะเมย์ ส่วนใหญ่ถ้าบอลเสมอกันอยู่และระหว่าง
แข่งไม่ได้มีการเป่าหยุดเกมส์มากนัก กรรมการจะทดเวลาบาดเจ็บแค่หนึ่งหรือสองนาที่เท่านั้นเอง
แต่ถ้าบอลสูสี นำห่างกันแค่ลูกเดียว กรรมการจะทดให้สามนาทีเลย ลองๆสังกตุดูนะ ส่วนใหญ่แล้ว
จะเป็นแบบนี้” เกรียงอธิบายมา
เมย์พยักหน้าเข้าใจ “แล้วตอนนี้เหลือเวลาอีกกี่นาที”เมย์ถามมาอีก
“รวมทดเจ็บแล้วเหลือ แค่นาทีครึ่งเอง” เกรียงยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดูแล้วตอบมา
ในสนาม
ดุวิ่งเข้ามาหาช็อต “ช็อตเดี๋ยวพอทีมเราแย่งบอลได้มึงเรียกบอลนะ จากนั้นมึงส่งให้กู จะแทงตาม
ช่องหรือจ่ายโด่งก็ได้ แล้วแต่สถานการณ์ จากนั้นเดี๋ยวกูจัดการเอง นั่นไงได้เปียแย่งบอลได้แล้ว
เรียกบอลเลย”พอพูดจบ ดุ ก็วิ่งฉีกไปริมเส้นด้านขวา เพื่อเตรียมตัวรับบอลจากเพื่อน
“ไอ้เปีย ส่งมา” เสียงช็อตเรียกเพื่อน เปียส่งบอลให้เพื่อนทันที ตอนนี้ช็อตได้บอลอยู่ตรงวงกลม
กลางสนาม เวลาเหลืออีกประมาณ 50 วินาที ช็อตเงยหน้ามองหาดุ เขาเห็น ดุ อยู่ทางริมเส้นฝั่ง
ขวา กองหลังของทีมเดนเวอร์อยู่ห่างจากดุ ประมาณ สองเมตร ช็อตเห็นเพื่อน ยกมือส่งสัญญาณ
บอกให้ทิ้งบอลโด่งมาตรงที่ว่าง ช็อตลังเลนิดหนึ่ง แต่ก็ตัดสินใจทำตามเพื่อน เพราะเวลาจะหมด
แล้ว เขาตักบอลลอยโด่งข้ามหัวกองหลังของทีมเดนเวอร์ บอลไปตกลงตรงที่ว่างที่ ดุ ต้องการพอดี
ภาพที่ช็อตเห็น ดุสปีดเข้าไปหาบอลเท้าซ้ายของดุสัมผัสบอลหนึ่งครั้งเพื่อแต่งทิศทางบอล ตอนนี้
ดุกับลูกบอลอยู่ตรงริมเส้นฝั่งขวา ดุกำลังลากบอลเข้าหาประตูโดยที่มีกองหลังของทีมเดนเวอร์
ประกบอยู่ด้านซ้ายของเขาหนึ่งคน ระยะห่างจากประตูประมาณ 25 เมตร แต่ว่ามุมแคบเหลือเกิน
ช็อตเห็นดังนั้นแล้วก็พยายามวิ่งตัดเข้ากลางมาที่หน้าปากประตูของทีมเดนเวอร์เพื่อมารับบอลจากดุ
เพราะช็อตมั่นใจว่าดุ ยิงไม่ได้อย่างแน่นอนเพราะมุมแคบมากแถมยังมีกองหลังตามประกบอีกคน
เดี๋ยวมันคงต้องส่งมาให้เขาอย่างแน่นอน ช็อตคิดในใจ แต่สิ่งที่ช็อตคิดผิด เพราะว่าไอ้เจ้าเพื่อน
ตัวดีของเขา มันตัดสินใจยิงเลยทันที ยิงทั้งๆที่มุมแคบๆนั่นแหละ แล้วภาพที่ช็อตและคนทั้งนาม
เห็นก็คือ ลูกบอลออกจากเท้าดุอย่างกับจรวด บอลพุ่งผ่านหน้าผู้รักษาประตูของทีมเดนเวอร์ และ
กระทบคานล่างของประตูบอลตกกระทบพื้นหนึ่งครั้งและกระเด้งเข้าประตูกระทบตาข่ายไปด้วย
ความเร็วสูง เล่นเอาผู้รักษาประตูของทีมเดนเวอร์อ้าปากค้างเลย เพราะลูกนี้หมดสิทธิ์รับจริงๆ
เฮ้..เฮ้..ตอนนี้เสียงเชียร์ดังกระหึ่มทั้งสนาม เกรียงกระโดดตัวลอย บรรดาภรรยาของนักเตะทีม
วทบ. ส่งเสียงเชียร์กันกรี๊ดกร๊าดไปหมด ในสนามตอนนี้ ดุ โดนเพื่อนๆรุมทึ้ง โดยเฉพาะไอ้เกมส์ ที่
มันอุตส่าห์วิ่งมาจากหน้าปากประตูของมันเองเพื่อมาดีใจกับเขา ตอนนี้สกอร์ ทีม วทบ.พลิกขึ้นนำ
ทีมเดนเวอร์เป็น 3-2แล้ว ทีมเดนเวอร์รีบเอาบอลมาตั้งที่กลางสนามเพื่อที่จะรีบเล่น แต่ก็ไม่ทัน
เพราะทันทีที่กรรมการส่งสัญญาณเริ่มเกมส์ กรรมการก็เป่านกหวีดหมดเวลาทันที
ทั้งสองทีมเดินจับมือกัน ระหว่างที่เดินจับมือ ดุ จะได้รับความสนใจจากทีมเดนเวอร์เยอะมาก เพราะ
เป็นตัวทีเด็ดของทีม วทบ.เลยก็ว่าได้ บางคนถามว่า ทำไม่ยิงคมจัง ตอนนี้ ดุได้รับความสนใจทั้ง
สนามเลย “เป็นไง ชนะด้วยยิงคนเดียวสองประตูเลย งั้นพรุ่งนี้ก็มั่นใจแล้วสิ”อัศวินชวนคุยด้วย
ระหว่างที่ดุเดินออกจากสนาม
“ครับพี่ มั่นใจครับ แต่ว่าทั้งสองลูกวันนี้ก็มาจากการที่ พี่วิน วางแผนให้ทั้งนั้นแหละครับ ขอบคุณพี่
มากนะครับ” ดุบอกมา “ไม่เป็นไรครับ ไป! เพื่อนๆยืนรอกันอยู่เต็มเลย ไปให้พวกเขาแสดงความ
ยินดีหน่อยสิ” ทันที ที่ดุเดินออกมาจากสนาม บรรดาเพื่อนๆต่างเดินเข้ามารุมล้อมและแสดงความ
ยินดีกับเขา “เฮ้ย! ฟลุ๊กเปล่าวะ เสียงเกรียงพูดมายิ้มๆ”
“นั่นสิ ลงมาไม่ถึง 4 นาที ยิงได้ 2 ประตูพลิกชนะเฉยเลย ไปทำไรมาวะ เดี๋ยวนี้ชักจะเก่งใหญ่แล้ว
นะมึง” เสียงช็อตดังมาอีกคน
หลังจากนั้น เสียงใครต่อใครก็ไม่รู้ ดังให้ แซ่ด ไปหมด ตอนนี้ ดุ เป็นที่สนใจของคนในสนาม
ฟุตบอลแห่งนี้ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลายคนที่เข้ามาชมเกมการแข่งขันในวันนี้และได้เห็นการยิง
ประตูของเขา ต่างลงความเห็นเดียวกันว่า มหัศจรรย์มาก
ณ บ้านของเกรียง ที่สะพานใหม่
“เฮ้ย! วันนี้มึงไปไหนมาวะ”เสียงช็อตถามมาขณะที่นั่งคุยกันอยู่
“กูไปดูบอลที่ประจวบมา ทีมประจวบ เอฟซี เจอกับทีมอ่างทอง เอฟซี”หลังจากนั้น เขาก็เล่าให้
เพื่อนๆฟังถึงเรื่องการจะไปเป็น นักฟุตบอลอาชีพ
เพื่อนๆต่างลงความเห็นเป็นเสียงเดียวกันว่า เห็นด้วย กับเรื่องนี้ เพราะว่าการเป็นนักเตะอาชีพนั้นก็
ไม่ใช่เป็นกันได้ง่ายๆ ในเมื่อโอกาสมาถึงก็ควรที่จะคว้าไว้
“แล้วเรื่องงานมึงล่ะ เอาไง” ช็อตที่นั่งอยู่ตรงข้ามเขาถามมาด้วยความเป็นห่วง
“กูว่า ถ้าพรุ่งนี้กูไปทดสอบฝีเท้าแล้วเกิดได้ขึ้นมา กูจะขอลาออกจากงานประจำที่ กูทำอยู่ แล้วกลับ
ไปอยู่บ้านที่ลพบุรี เวลามาซ้อมบอลจะได้เดินทางมาสะดวกหน่อย”
“แล้ว เมย์ ล่ะ เอาไง”เกรียงถามมา “ก็คงลาออกจากงานเหมือนกัน กลับไปอยู่บ้านน่ะ เห็นเมย์บอก
ว่า ที่โรงเรียนเก่าของเมย์ เปิดรับสมัคร อาจารย์สอนภาษาอังกฤษพอดี”
เพื่อนทุกคน ต่าง หันไปมองหน้ากันเอง แล้วช็อต ที่มีประสบการณ์ในการเป็นนักฟุตบอลอาชีพมาก
ที่สุดก็พูดว่า
“ถ้ามึงมีแผนแบบนั้น พวกกูก็เบาใจ หมดห่วงไป แต่กูจะฝากอะไรไว้เรื่องแล้วกัน ในฐานะที่กูมี
ประสบการณ์เล่นบอลอาชีพมาก่อนไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับมึง ขออย่าให้มึงหมดกำลังใจซะก่อน
เพราะว่าการเป็นนักฟุตบอลอาชีพนั้น ไม่ใช่เรื่องง่าย อย่างที่คนเราทุกคนเข้าใจกัน แต่เท่าที่กูเห็น
มึงเล่นบอลช่วงหลังๆ มานี่ มึงมีการพัฒนามาก กูว่ามึงไปได้นะกับอาชีพนี้”
ดุ พยักหน้ารับแล้วพูดว่า “เออ ขอบใจวะที่ให้กำลังใจกู”
“เฮ้ย! พรุ่งนี้เอาไงวะ กูต้องไปอ่างทอง กูอาจจะมาแข่งไม่ทัน วันนี้ที่มาทันก็เพราะมึงลงสนามกัน
ช้านี่ แล้วพรุ่งนี้เริ่มแข่งกันกี่โมงวะ”เขาหันถามเกรียงที่นั่งอยู่ข้างๆเขา
“พรุ่งนี้มีแข่งตอน 2 ทุ่ม เจอกับทีมช่างของบริษัทกูเอง ไม่น่ามีปัญหา พวกกู เอาอยู่ ว่าแต่มึงเถอะ
พยายามเข้าล่ะ พวกกูจะเอาใจช่วย แล้วพรุ่งนี้ถ้ามาทันก็มา เผื่อเข้ามาเปลี่ยนไอ้บอย เพราะมันอาจ
ทำการบ้านดึกอีก”เกรียงบอกและให้กำลังใจเพื่อนมา และก็ไม่ลืมที่จะแซว บอย เล็กน้อย เพื่อ
เรียกเสียงฮ่าจากเพื่อนๆ
บ่ายสองโมงตรง ที่สนาม เทศบาลเมืองอ่างทอง ซึ่งเป็นสังเวียนแข็งนัดเหย้า ของทีม
อ่างทอง เอฟซี ดุรงฤทธิ์ กิจศิลป์ชัย ลงจากรถและเดินตรงไปที่สนามทันที เพราะที่หน้า
สนามเขานัดกับที่ปรึกษาของทีมอ่างทอง เอฟซีไว้
“พี่ภิญโญ หวัดดีครับ เขาร้องทักและยกมือไหว้”
“สวัสดีครับ เป็นไง เหนื่อยมั้ย ไป! เข้าไปนั่งรอในสนาม อีกเดี๋ยวโค้ชคงมาแล้ว” ที่ปรึกษาที่
อ่างทอง ชวนเขา
ระหว่างที่เดินตามที่ปรึกษาทีมอ่างทอง เอฟซี เข้าไปในสนามเหย้านั้น ดุ เอ่ยปากถามภิญโญว่า
“เริ่มซ้อมตอนบ่ายสามโมงครึ่ง แล้วเลิกซ้อมประมาณกี่โมงครับ”
“อ๋อ..ประมาณหกโมงเย็นก็เลิกแล้วครับ ทำไมเหรอ น้องดุ มีธุระเหรอครับ” อัศวินถามมาด้วยน้ำ
เสียงแสดงความแปลกใจ
“นิดหน่อยครับ”จากนั้นเขาก็เล่าถึงธุระของเขาให้กับภิญโญฟัง
“โอ้ย..ทันครับ ไม่ต้องห่วง”
“แล้ววันนี้ผมต้องทำอะไรมั่งครับพี่”
“ก็ไม่น่าจะมีอะไรมากหรอกครับ ซ้อมตามเมนูที่โค้ชเขาวางเอาไว้ แล้วก็ลงทีม ตอนลงทีมนี่แหละ
น้องดุโชว์ฟอร์มให้ดีเลยนะครับ ไม่ต้องคิดอะไรมาก คิดซะว่ามาเล่นสนุกๆ”ภิญโญแนะนำมา
ดุ! อย่าลืมฝากบอกโค้ชด้วยว่าลูกโทษนอกเขตทุกลูกขอยิงเองนะ”เสียงอัศวิน
สอดมาทางกระแสจิต ดุ ก็เหมือนพึ่งนึกได้ก็เอ่ยปากขอกับภิญโญทันที
“พี่ภิญโญครับ รบกวนฝากบอกโค้ชทีครับ ว่าลูกโทษนอกเขตผมขอเตะเองทุกลูก”
ที่ปรึกษาทีมอ่างทองมองหน้าเขายิ้มๆนิดหนึ่ง
“ได้ครับ! เดี๋ยวพี่บอกให้ ภิญโญ” รับคำมา
“ไปครับ เดี๋ยวพี่พาไปห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า มา! ตามพี่มา”
หลังจากที่ดุเปลี่ยนเป็นชุดซ้อม เสร็จเขาก็เดินมานั่งรอโค้ช อยู่ในสนามระหว่างนั่งรอก็มี
นักเตะของทีมบางคนเดินทางมาถึงแล้ว ทุกคนที่เดินเข้ามาต่างมองเขาด้วยความสงสัย เขานั่งรออยู่
ประมาณ 15 นาที โค้ชของทีมอ่างทอง เอฟซี ก็เดินเข้ามาในสนามพร้อมกับทีมงาน ดุ เห็นดังนั้นก็
ตรงเข้าไปทักทาย
“หวัดดีครับ” เขาทักพร้อมกับยกมือไหว้
“อ้าว..หวัดดี มานานยัง”
“เกือบชั่วโมงแล้วครับ”
“เหรอ..เจอพี่ภิญโญยังล่ะ” โค้ชถามมา
“เจอแล้วครับ”เขาตอบสั้นๆ
“ไป! ครับ เดี๋ยวผมพาไปแนะนำให้นักเตะในทีมรู้จัก”
จากนั้นโค้ชของทีมอ่างทอง เอฟซี ก็พาเขาไปแนะนำให้กับนักเตะของทีมรู้จัก หลังจาก
ทำความรู้จักกับนักเตะในทีมกันพอสมควรแล้ว ก็มาถึงเวลาซ้อมของทีม
สำหรับการซ้อมของทีมอ่างทอง เอฟซี ในวันนี้ แบ่งออกเป็น 4 ช่วง
ช่วงแรก เป็นช่วง วอร์ม อัพ
ช่วงที่สอง เป็นช่วง เพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ
ช่วงที่สาม เป็นการ ขึ้นเกมส์ เพื่อเข้าทำประตูในรูปแบบต่างๆ
ช่วงสุดท้ายเป็นช่วง ใช้แท็กติกต่างๆ
หลังจากผ่านการซ้อมสองช่วงแรกมาแล้วดุ ไม่มีปัญหาเท่าไรนัก อาจจะมีก็ในเรื่อง
ของความฟิต ที่เขาอาจจะไม่ฟิตเท่ากับนักเตะคนอื่นๆเพราะเขาพึ่งมาซ้อมเป็นวันแรก พอเข้าสู่ช่วง
ที่สาม จะเป็นการฝึกการเข้าทำประตูและการขึ้นเกมส์ในรูปแบบต่างๆ ซึ่งตรงนี้เอง ดุ ได้สร้างความ
ตกตะลึงใก้กับโค้ช ทีมอ่างทองและนักเตะคนอื่นๆเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็น ลูกจ่ายให้เพื่อนเข้า
ทำประตู หรือจะยิงเอง ดุทำได้ดีทุกลูกโดยเฉพาะการยิงประตูทุกลูกที่ออกจากเท้าของเขา เข้าทุก
ลูก จนนักเตะในทีมอ่างทอง เอฟซี ปรบมือให้เขา และแล้วก็มาถึง ช่วงที่สี่ การลงทีมเพื่อเอาการ
ฝึกทั้งหมดมาใช้ในเกมส์การแข่งขันจริง
โค้ชทีมอ่าง แบ่งทีมออกมาแล้ว และก็จริงอย่างที่เขาคิดไว้ในตอนแรก โค้ชแบ่งให้
เขาไปอยู่ทีมสำรอง นั่นหมายความว่า เขาจะต้องเผชิญหน้า กับนักเตะตัวจริงของทีม อ่างทอง เอฟ
ซี ที่มีความสามารถมากกว่าทีมสำรองที่เขาร่วมทีมอยู่ด้วย ดุถูกว่างให้เล่นหน้าเป้า
“เอาไงดีพี่วิน เราโดนให้มาอยู่ทีมสำรองแบบนี้โอกาสบุก เราน้อยนะครับ”เขาขอความ
เห็นของอัศวิน ทางกระแสจิต
“ใจเย็นๆครับ ก่อนอื่น เราต้องข่มขวัญนักเตะทีมตัวจริงก่อน และเป็นการโชว์ให้โค้ช
เห็นถึงความสามารถของเราด้วย”อัศวินบอกมาทางกระแสจิตอย่างอารมณ์ดี
“แล้วผมต้องเล่นไงก่อน ยิงไกลเหมือนเดิมเหรอพี่”ดุย้อนถาม
“ใช่ครับ! แต่ยิงแบบคลาสสิคหน่อยนะครับ ไม่เน้นแรง แล้วก็เกมส์นี้ ดุ สามารถใช้เท้า
ซ้ายยิงประตูก็ได้นะครับ พี่ลืมบอกไปว่าขวาซ้ายยิงเข้าเหมือนกัน”
“จริงเหรอพี่ เท้าซ้ายก็ยิงเข้าเหรอครับ”
“เข้าครับ แถมดีกว่าขวาด้วย เพราะกองหลังส่วนใหญ่จะปิดมุมเท้าด้านที่เราถนัดไว้ และ
ปล่อยเท้าข้างที่ไม่ถนัด เราจะใช้ตรงจุดนี้ครับ ทำประตูในวันนี้”
หลังจากวางแผนกับอัศวินเสร็จ ดุก็โดนเพื่อนร่วมทีมเรียกไปวางแผนการเล่นกัน ซึ่งก็ไม่มี
อะไรมาก คือให้เล่นเหมือนตอนซ้อมขึ้นเกมส์ ถ้ามีจังหวะยิงก็ยิง ถ้าไม่มีจังหวะยิงก็ย้อนหลังมาตั้ง
เกมส์ใหม่ ผู้ช่วยของโค้ชทีม อ่างทอง แนะนำมา
“อ้อ..เกือบลืมไป ลูกฟรีคิก นอกกรอบเขตโทษ ให้…ชื่ออะไรนะ” ผู้ช่วยของโค้ช
อ่างทอง หันมาถามชื่อกับเขา
“ดุ ครับ”ดุตอบมาสั้นๆ
“อืม..ลูกฟรีคิกให้ พี่ดุ เป็นคนเตะนะ”
“ไป! โค้ช เรียกแล้ว เล่นไม่ต้องเกร็ง สบายๆ”ผู้ช่วยทีมอ่างทอง ย้ำมาอีกครั้ง
และแล้วเกมส์ซ้อมแข่งก็เริ่มขึ้น ทีม ดุ เป็นฝ่ายเขี่ยบอลก่อน เขายืนอยู่ที่บอลคู่กับ
กองหน้าอีกคนหนึ่งที่ ชื่อเล่นว่าแดง เป็นกองหน้าตัวสำรองของทีม กรรมการจำเป็นเป่าเริ่มเกมส์
ข้างสนามมี ที่ปรึกษาและโค้ชรวมถึงทีมงานของทีมอ่างทอง เอฟซี ยืนดูอยู่อย่างสนใจ
เกมส์เริ่ม ดุ เริ่มเขี่ยบอลไปด้านหน้า กองหน้าที่ยืนคู่กับเขา จ่ายบอลคืนหลังเพื่อตั้ง
เกมส์ โดยมีผู้เล่นของ ทีม A วิ่งไล่บอล ดุวิ่งขึ้นหน้าเพื่อหาที่ว่าง ตอนนี้ ตัวของเขาอยู่ทางซ้ายห่าง
ประตูของทีม A ประมาณ 40 เมตร
“น้องดุ วิ่งตัดเข้าในไปหน่อย ตรงนั้นจะว่าง พอพี่ส่งสัญญาณ ให้ดุเรียกบอลจากเพื่อน
ร่วมทีมทันทีเลยนะแล้ว ก็ปั่นใซ้ด์ด้วยเท้าขวา เล็งสามเหลี่ยม มุมขวาบนไว้ รับรองตกตะลึงกันทั้ง
สนาม”เสียงอัศวินส่งกระแสจิตมา
ดุ ทำตามทันที เขาวิ่งสไลด์ตัวผ่านหน้ากองหลังไปคน ตอนนี้เขายืนอยู่ตรงกลาง
ระหว่างกองหลังทั้งสองคนของทีม A ส่วนบอลตอนนี้อยู่ในความครอบครองของทีมเขา และก็บอล
มาอยู่ในแดนของ ทีม A แล้วด้วยพอได้ตำแหน่งที่เหมาะแล้ว เสียงหนักๆของอัศวิน ก็ส่งผ่านทาง
กระแสจิตมา
“เรียกบอล!”
ดุ เรียกบอลจากเพื่อนร่วมทันที เพื่อนร่วมทีมคนนั้นก็เหมือนจะรออยู่แล้ว ถึงดุไม่เรียก
บอล ยังไงเพื่อนร่วมทีมของดุคนนี้ก็ต้องส่งบอลให้เขาอยู่แล้ว เพราะตำแหน่งการยืนของ ดุ ดีมาก
คือ อยู่นอกกรอบเขตโทษ เยื้องมาทางซ้ายเล็กน้อย กองหลังทั้งสองคนอยู่ห่างจากเขาอย่างน้อย
เมตรครึ่ง ชล่าใจว่า ดุ ต้องไม่กล้ายิงแน่เพราะระยะยังอยู่ห่างจากประตู เกือบ 35 เมตร แต่กองหลัง
ทั้งสองคิดผิด ดุ ตัดสินใจยิงในจังหวะนี้ทันที ยิงในลักษณะปั่นไซ้ด์โป้ง ทันทีที่บอลพุ่งออกจากเท้า
ของเขา ลูกบอลพุ่งเป็นเส้นโค้งไปทางขวามือ เส้นทางการวิ่งของบอลแรกๆเหมือนจะโค้งออกนอก
กรอบไปเลย ตามสายตาคนดูที่อยู่นอกสนาม ลูกนี้กว่าจะเลี้ยวโค้งได้ ลูกบอลคงออกนอกกรอบ
พอดี แต่ผิดถนัด พอลูกบอลไปได้ครึ่งทาง ทิศทางบอลที่เหมือนจะพุ่งออกนอกกรอบประตู กลับ
เลี้ยวโค้งเข้าสามเหลี่ยมมุมบนอย่างที่อัศวินกะไว้ อย่างสวยงาม สร้างความตกตะลึงให้กับนักเตะใน
สนามและโค้ชของทีมอ่างทองเป็นอย่างยิ่ง ตอนนี้ทั้งสนามเงียบกริบกันเป็นแถว อึดใจหนึ่ง ดุ
ได้ยินเสียงปรบมือให้เขาดังไปทั่วสนาม เพื่อนนักเตะในทีมของเขาต่างเข้ามาแสดงความยินดี นอก
สนามโค้ชทีมอ่าง เม้มปากและพยักหน้า อย่างพอใจและหันไปซุบซิบกับที่ปรึกษาของทีมอยู่ครู่
หนึ่ง
“เป็นไงครับ พอใช้ได้มั้ยครับ” ภิญโญ หันมาถามโค้ช ประดิษฐ์ ทันทีที่ดุ ยิงประตูได้
“อืม..เดี๋ยวผมขอดูอีกหน่อยก่อนครับ”โค้ชทีมอ่างทองตอบมาอย่างไว้ท่าทีอยู่นิดๆ
“ตามสบายครับ เดี๋ยวโค้ชจะได้เห็นอะไรดีๆอีกเยอะครับ จากผู้ชายคนนี้”ภิญโญบอก โค้ช
ประดิษฐ์มาเบาๆ
สิ้นสุดประตูที่สาม: ประตูแรกสู่มืออาชีพ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ