ยิงประตูสู่ฝัน ภาคฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก 2014
เขียนโดย อักษรพริ้ว
วันที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2556 เวลา 04.18 น.
แก้ไขเมื่อ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2556 15.53 น. โดย เจ้าของนิยาย
4) ประตูที่ 4 ตะลุยศึกดิวิชั่นสอง
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความหนึ่งเดือนผ่านไป
“วันนี้เป็นเกมส์สำคัญของเรา ถ้าเราชนะทีมอันดับหนึ่ง อย่างอยุธยา เอฟซีได้ เราจะ
ขึ้นไปอยู่ที่สองของตารางทันทีเลย เพราะฉนั้นวันนี้พวกเราต้องชนะให้ได้เพื่อสร้างและรักษาโอกาส
ในการเลื่อนชั้นขึ้นดิวิชั่นหนึ่งต่อไป แล้วสิ่งที่สำคัญที่สุด คือกองเชียร์ วันนี้เราต้องเล่นเพื่อกองเชียร์
ของเรา” โค้ชทีมอ่างทอง เอฟซี พูดให้กำลังใจลูกทีมของตน
วันนี้เป็นการแข่งนัดสำคัญของทีมอ่างทอง เอฟซี และอาจเป็นการลงสนามนัดแรกของ ดุ
รงฤทธิ์ กิจศิลป์ชัย ด้วย ถ้าโค้ชเลือกเขาลงสนาม หลังจากที่ เขา ได้เข้ามาซ้อมกับทีมอ่างทอง
เอฟซี เป็นเวลา 1 เดือนเต็ม แต่เขาก็ไม่สามารถที่จะลงสนามได้ เพราะติดในเรื่องของการส่งรายชื่อ
นักเตะเพื่อลงแข่ง แต่ตอนนี้ทางฝ่ายจัดการของทีมอ่างทอง เอฟซี ได้จัดการส่งรายชื่อของเขา
เรียบร้อยแล้ว ตอนนี้เขาพร้อมที่จะลงสนามแล้ว เหลือเพียงแต่ว่าโค้ชจะเลือกเขาลงสนามหรือเปล่า
เท่านั้นเอง
“เหลือเวลาอีก 1 ชั่วโมงครึ่ง ก็จะถึงเวลาลงสนามแล้ว ขอให้ทุกคนทำใจให้สบาย ไม่
ต้องเครียด เอาล่ะ ทุกคนฟังทางนี้แป๊บหนึ่ง ต่อไปนี้จะเป็นการประกาศรายชื่อ 11 ตัวแรก และตัว
สำรอง ที่จะลงเล่นในเกมส์วันนี้” โค้ชทีมอ่างทองพูดออกมาด้วยน้ำเสียงห้าวพร้อมกับพลิกแฟ้มใน
มือทันที “ประตู วีรวัฒน์ , กองหลังตัวกลางสองตัว นนทวัฒน์ กับ สุจิน แบ็กขวาซ้าย สิวฤทธิ์ กับ
สมหมาย กองกลาง สี่ตัว ทากามัตสึ, โอซิมิซ่า, สุรศักดิ์, โอปาป้า, หน้าสองคน โอดิริ กับ..”โค้ช
ทีมอ่างทองทิ้งช่วงไปอึดใจหนึ่ง
ตอนนี้ ดุ กับ อัศวิน ตื่นเต้นและลุ้นเป็นอย่างยิ่ง ว่าตนจะได้ลงเล่นในเกมส์นี้หรือเปล่า
“กมล ส่วนตัวสำรองมี สันทัด, นพดล, เบอนาร์ด, วรณัน, แล้วก็คนสุดท้าย ดุรงฤทธิ์
โค้ชทีมอ่างทอง พูดต่อมาด้วยน้ำเสียงเข้มๆพร้อมกับหันหน้ามาทางเขา พร้อมกับพูดต่อว่า
“ส่วนรูปเกมส์สำหรับวันนี้ เนื่องจากเราเจอทีมอันดับหนึ่ง และถึงแม้ว่าเราจะแข่งใน
บ้านก็ตามแต่ กองเชียร์ของ อยุธยาก็มาเชียร์กันเยอะเพราะว่าเขาอยู่ใกล้ๆกับเรา เพราะฉนั้นเกมส์นี้
เขาต้องมาบุกใส่เราแน่ๆและทีม อยุธยา จะต้องคิดว่าเราต้องตั้งรับและสวนกลับอย่างแน่นอน แต่วัน
นี้เราจะทำให้ทีม อยุธยาแปลกใจ คือ เราจะไม่รับ แต่เราจะบุกสู้เลย ทำประตูแรกให้ได้เร็วที่สุด
เพื่อดึงรูปเกมส์มาเป็นของเราให้ได้ เพราะฉนั้น กองหลังทั้งสี่คนจะต้องดันขึ้นสูงเพื่อกดดันและแย่ง
บอลตั้งแต่แต่ในแดนของคู่แข่ง คือพูดง่ายๆเลยว่า เราจะเล่นบอลในแดนของทีมอยุธยา และงาน
หนักวันนี้ต้องยกให้กับกองหลังทั้งสี่คน ต้องคอยดักเช็คล้ำหน้าให้ดีอย่าให้หลุด หน้าที่สั่งการแนว
รับของกองหลังวันนี้ยกให้กับ สุจิน”
ทันทีที่โค้ชพูดจบ เสียงปรบมือของนักเตะก็ดังขึ้นให้กับ สุจิน เพื่อให้กำลังใจกับเพื่อนร่วมทีม
“เอาล่ะในเมื่อพร้อมกันแล้ว เดินลงสนามไปวอร์มกันได้แล้ว” โค้ชทีมอ่างทองพูดมาอีกประโยค
หนึ่ง จากนั้นนักเตะทุกคนก็เดินลงสู่สนามทันที และระหว่างที่ ดุ กำลังเดินลงสนามเพื่อไปวอร์มกับ
เพื่อนๆ โค้ช ประดิษฐ์ ก็เดินเข้ามาหาเขา พร้อมกับพูดว่า
“เตรียมตัวให้ดีนะ วันนี้ ดุ อาจจะต้องลงไปพลิกเกมส์ วันนี้ทีมเราต้องการประตู หวังว่าถ้า ดุ ลงไป
จะช่วยทำประตูให้กับทีมเราได้เหมือนตอนซ้อมนะครับ” โค้ชทีมอ่างทองโอบไหล่เขาขณะพูด
“ครับ ผมก็หวังว่า ผมพอที่จะลงไปช่วยทีมได้บ้าง แต่ว่าวันนี้ก็เสี่ยงเหมือนกันนะครับ ที่เราเลือกเปิด
เกมส์รุกสู้กับเขาเลย” ดุ ตอบพร้อมกับออกความคิดเห็นมา
โค้ชทีมอ่างทองยิ้มให้เขานิดหนึ่ง ก่อนพูดว่า“เราต้องเสี่ยงครับ แต่ไม่เป็นไร โค้ชมี
แผนอยู่แล้ว ถ้าเป็นไปตามแผนที่วางเอาไว้เกมส์ในวันนี้เรามีลุ้นถึงชนะครับ”โค้ชทีมอ่างทอง พูดมา
ด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
“ครับ งั้นผมไปวอร์มก่อนนะครับ” ดุรับคำแล้วขอตัวไปวอร์มกับเพื่อนร่วมทีม
โค้ชทีมอ่างทอง เอฟซี พยักหน้า แล้วก็มองตามหลัง ดุ ไป พร้อมกับคิดว่า วันนี้เขา
มั่นใจว่าจะชนะในเกมส์วันนี้ เพราะเขามีแผนอยู่ในใจเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และกุญแจสำคัญของแผน
นี้คือ ดุรงฤทธิ์ กิจศิลป์ชัย นั่นเอง วันนี้จะเป็นนัดเปิดตัวของกองหน้าคนนี้ และเขาจะสร้างความตก
ตะลึงให้กับกองเชียร์ทั้งสองทีมอย่างแน่นอน เหตุผลที่เขามั่นใจว่าดุจะเป็นตัวพลิกเกมส์ให้เขาคือ
ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ชายคนนี้ได้แสดงให้เขาได้เห็นหมดแล้ว ไม่ว่าการยิงประตู การจ่ายบอลที่
แม่นยำและเด็ดขาด การล่นเป็นทีม การเข้าใจเกมส์และการคาดเดาเกมส์ล่วงหน้า โดยเฉพาะการยิง
ประตู ตั้งแต่เขาเป็นโค้ชทำทีมฟุตบอลและหว่ำหวอดอยู่ในวงการนี้มานานก็จริง แต่เขาก็ไม่เคยเห็น
กองหน้าคนไหนที่มีพรสวรรค์ในการจบสกอร์ได้ดีเท่ากับชายคนนี้มาก่อนเลย ลูกบอลทุกลูกที่ออก
จากเท้าเขาเข้าประตูหมด โดยเฉพาะลูกฟรีคิกนอกกรอบเขตโทษ ตั้งแต่เขาเข้ามาซ้อมร่วมกับทีม
เรา เขายังไม่เคยเห็น ดุ ยิงฟรีคิกนอกกรอบเขตโทษพลาดเลยสักครั้งเดียว ทำไมนะ คนเก่งๆแบบนี้
ถึงไม่เข้ามาอยู่ในวงการฟุตบอลไทยซะตั้งแต่ทีแรก ที่ผ่านมาเขาไปทำอะไรอยู่ที่ไหน หลังจากวันนี้
ไปสโมสรของเขาจะต้องพบกับงานหนักแน่ๆ คือจะต้องคอยรับมือกับข้อเสนอของแต่ละทีมที่จะยื่น
เข้ามาเพื่อที่จะซื้อตัว ของชายคนนี้ อยากรู้จริงๆว่า อนาคตของลูกทีมของเขาคนนี้จะย้ายไปอยู่ทีม
ไหนกัน เพราะเขามั่นใจว่าด้วยระดับฝีเท้าของ ดุ ไม่เหมาะที่จะอยู่ในดิวิชั่น 2 ถึงแม้ว่าโดยส่วนตัว
ของเขาแล้ว อยากที่จะได้ชายคนนี้ไว้ช่วยทีมมากเพียงไรก็ตาม เพราะถ้าได้ ดุ ไว้ช่วยทีม โอกาสที่
ทีม อ่างทอง เอฟซี จะเลื่อนชั้นขึ้นสู่ลีคสูงสุดของไทยอยู่ใกล้แค่เอื้อมเท่านั้นเอง
“เฮ้อ…เขาจะมีวิธีไหนนะที่จะสามารถรั้งตัวชายคนนี้ให้อยู่กับทีม อ่างทองเอฟซี ของเขาไว้ให้นานที่สุด คิดไม่ออกจริงๆ” ตลอดเวลาที่โค้ชประดิษฐ์ คิดถึงเรื่อง ของลูกทีมของเขาคนนี้ สายตาของเขาไม่ละไปจาก ดุ เลย
ระหว่างที่ ดุ เดินลงสนามไปวอร์มกับเพื่อนๆ “เป็นไง ดุ ตื่นเต้นมั้ย” อัศวินถามมาทางกระแสจิต
“นิดหน่อยพี่ ถามทำไมเหรอ” ดุ ตอบแล้วย้อนถามมา
“เปล่าหรอก คือพี่ตื่นเต้นปนดีใจน่ะ” อัศวินตอบมาด้วยน้ำเสียงสั่นๆ
“พี่เป็นผี มีตื่นเต้นด้วยเหรอ” เขาถามด้วยน้ำเสียงยิ้มๆ
“แหม! ผีเผออะไร อย่างผมนี่เขาเรียกว่าวิญญาณหรอก! อัศวินถียงมาข้างๆคูๆ
“เอาล่ะๆ! เป็นวิญญาณ ก็เป็นวิญญาณ” ดุ รีบตัดบท เมื่อเห็นว่าอัศวินทำท่าจะ
อธิบายว่าผีกับวิญญาณต่างกันอย่างไร
“ว่าแต่ว่า เกมส์วันนี้เราจะเล่นอย่างไร ถ้าได้ลงไปเล่น ผมว่าทีมเราเสี่ยงไปนะที่โค้ชตัดสินใจเลือกที่
จะบุกตั้งแต่ต้นเกมส์เลย” ดุ ออกความคิดเห็นมา
“อืม..ไม่หรอก โค้ชทีมเราต้องการที่จะสร้างความแปลกใจให้กับคู่แข่งน่ะ ก็เลยเลือกที่จะกดดัน ทีม
เยือนตั้งแต่ต้นเกมส์เลย” อัศวินออกความเห็นมา
“แล้วเราจะไม่โดนสวนกลับเหรอพี่ และทีมอย่างอยุธยาก็เล่นเกมส์สวนกลับได้ดีมากด้วย”
“มันก็ต้องเสี่ยงกันหน่อยครับ แต่โดยส่วนตัวของพี่แล้ว พี่เห็นด้วยกับแนวทางการทำทีมของโค้ช
ทีมอ่างทองนะและพี่เชื่อว่าเกมส์นี้เรามีโอกาสชนะมากด้วย และทุกคนภายในทีมก็เชื่อแบบนั้นด้วย
เพราะอะไรอยากรู้มั้ย”อัศวินร่ายยาวมาพร้อมกับถาม เขากลับ
“อยากรู้สิพี่ เพราะอะไรเหรอที่ทำให้ทั้งทีมรวมทั้งตัวพี่เชื่อว่าทีมเราจะชนะในวันนี้”ดุถามกลับด้วย
ความกระตือรือล้น
อัศวินฉีกยิ้มกว้าง และตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงที่มั่นใจว่า “ก็เพราะว่าทีมเรามีคนที่ชื่อดุรงฤทธิ์ กิจ
ศิลป์ชัยไง”
ณ ศูนย์บัญชาการของหนังสือพิมพิ์กีฬายักษ์ใหญ่ฉบับหนึ่งของเมืองไทย
“เฮ้ย! นพ ไอ้เอกมันส่งผลบอลดิวิชั่น2โซนภาคกลางมายังวะ”เสียง บก.ของทีมข่าว
ฟุตบอลไทยโผล่หน้ามาถามลูกน้องในสังกัดของตัวเอง
“มันส่งมาแล้วพี่ แต่เฉพาะครึ่งแรกนะครับ”นพนักข่าวกีฬาสายเลือดใหม่ตอบกลับมา
ด้วยน้ำเสียงนอบน้อม
“เหรอ แล้วตอนนี้ เอกมันไปประจำที่สนามไหน” บก ของหนังสือพิมพิ์กีฬาถามนัก
ข่าวหน้าใหม่ พร้อมกับเอื้อมมือไปรับผลการแข่งขันครึ่งแรกศึกฟุตบอลดิวิชั่น2โซนภาคกลาง พร้อม
กับไล่สายตาอ่านทีละคู่
“วันนี้เห็นเอก มันบอกว่าจะไปดูทีมอยุธยาแข่งที่อ่างทองครับ วันนี้อยุธยาไปเยือน
อ่างทอง แต่พอผมเห็นผลการแข่งขันแล้ว คิดว่าเดี๋ยวมันก็คงกลับมั้งครับ”
“อ้าว! ทำไมล่ะบอลยังไม่จบเลย ไหนบอกพี่ว่าพึ่งหมดครึ่งแรกเอง”บก. ประจำสำนัก
พิมพิ์แย้งมาเบาๆโดยที่ไม่ได้ละสายตาจากแผ่นกระดาษ
“ก็พี่ดูสิครึ่งแรกอยุธยานำอ่างทอง 3-0แค่ครึ่งแรกก็นำขาดแล้ว นำห่างแบบนี้เดี๋ยวไอ้
เอกมันก็แว๊บกลับมาก่อนบอลจบครึ่งหลังแน่นอน”
“อืม! แบบนี่ทีมอยุธยาชนะแน่ พี่ว่าปีนี้ได้เลื่อนชั้นขึ้นมาอยู่ ดิวิชั่น1สักที ได้ข่าวว่าปีนี้
เป็นตัวเกร็งด้วยนี่นา”
“ครับพี่ เห็นเอกมันบอกว่าปีนี้โซนภาคกลางก็มี ทีมประจบ fc กับทีมอยุธยา fcนี่แหละที่
เป็นคู่แข่งแย่งแชมป์กัน”นพตอบหัวหน้า บก. มาเบาๆพร้อมกับเอื้อมมือไปรับกระดาษที่หัวหน้าสาย
งานอ่านจบแล้วและยื่นคืนให้
“เออ! นพถ้าไอ้เอกกลับมาบอกให้มันเข้าไปหาพี่หน่อยมีเรื่องงานจะคุยด้วย หรือถ้า
บอลนำขาดแบบนี้ก็โทรบอกให้มันกลับมาเลยก็ได้ เดี๋ยวค่อยโทรถามผลการแข่งขันอีกที”
“ครับพี่เดี่ยวผมโทรบอกมันเลย มันคงดีใจจนเนื้อเต้นที่จะได้กลับเร็ว”พูดจบ นพก็ยกหู
โทรศัพท์โทรหาเพื่อนร่วมงานทันทีส่วนบกบกหนุ่มใหญ่ก็เดินกลับไปประจำที่ห้องของตัวเอง
ผ่านไปประมาณหนึ่งชั่วโมง นพก็วิ่งเปิดประตูหน้าตาตื่นเข้ามา ดูท่าทางตื่นเต้นละคนแปลกใจขีดสุด
“พี่วิทย์! ครับ” วิทย์เป็นชื่อของ บก.หัวหน้าของเขานั่นเอง
“มีอะไร เฮ้ย!”บก หนุ่มใหญ่มองหน้านพแล้วถามขึ้นมาด้วยความแปลกใจเช่นกัน
นพยังไม่ตอบแต่เดินเข้ามานั่งที่เก้าอี้หน้าโต๊ะทำงานอย่างลืมตัวว่ายังไม่ได้ขออนุญาติหัวหน้างาน
ของตัวเองเหมือนทุกครั้งที่เข้ามา
“ก็ทีมอยุธยานะสิพี่ เมื่อกี้นำทีมอ่างทองอยู่ 3-0 ใช่มั้ยครับ”
“เออ ใช่ แล้วไง”
“ตอนนี้หมดเวลาการแข่งขันแล้ว แต่อ่างทองพลิกกลับมาชนะ 4-3 ครับพี่”
ทันทีที่ นพพูดจบ บก.ประจำศูนย์ข่าวกีฬาก็ทะลึ่งยืนพรวดขึ้นมาทันทีอย่างลืมตัวพร้อมกับอุทาน
ออกมา
“เฮ้ย! เป็นไปได้ยังไงวะ เมื่อสักพักอยุธยายังนำอยู่ตั้ง 3-0 เลย แกไปเอาผลมาจาก
ไหนวะ”บก.วิทย์ถามกลับด้วยความแปลกใจ
“ไอ้เอกมันโทรมาบอกเมื่อสักครู่เองพี่ ผมเองก็แปลกใจไม่แพ้กับพี่เหมือนกันครับ
และพี่จะต้องตกใจอีกถ้าพี่รู้ว่า อ่างทองกลับมาชนะได้ไง”
“เออ! กลับมาชนะได้ไง”
“ตัวสำรองพี่ เป็นกองหน้า ลงมาช่วงครึ่งหลังครับ ยิงคนเดียว 4 ประตูรวด” นพตอบมา
ด้วยความตื่นเต้น
“เฮ้ย! เฮ้ยจริงเหรอวะ”เสียง บก.วิทย์อุทานออกมาด้วยความเหลือเชื่อ
“จริงครับพี่ เอกมันบอกว่าแต่ละลูกที่ยิงสวยๆทั้งนั้น”
“กองหน้าคนไหนวะ ไม่น่าเชื่อยิงคนเดียวตั้งสี่ลูก” บก.วิทย์ถามออกไปพร้อมกับทรุด
ตัวลงนั่งตามเดิม
“เอก มันบอกว่าไม่เคยเห็นหน้าครับ แต่เอกมันไปสืบข้อมมูลมาได้ความว่าเป็นกองหน้า
ตัวใหม่ มาซ้อมกับทีมอ่างทองตั้งแต่ช่วงกลางเลคแรกแล้ว แต่พึ่งได้ลงช่วงเลคสอง เดี๋ยวราย
ละเอียดพี่วิทย์ถามเอาจากเอกมันแล้วกัน ผมขอตัวไปช่วย ไอ้เจ มันปิดต้นฉบับดิวิชั่น1ก่อน เห็นมัน
บอกว่ายุ่งมาก”
นพพูดจบก็ขอตัวไปช่วยเพื่อนร่วมงานปิดต้นฉบับหนังสือพิมพิ์กีฬาที่จะออกวางแผงเช้าวันพรุ่งนี้
โดยทิ้งให้ บก.หัวหน้างานนั่งแปลกใจอยู่คนเดียว
“เฮ้ย!นพ อย่าพึ่งไป” นพที่กำลังจะเปิดประตู ชงักกึกอยู่กับที่พร้อมกับหันหน้ากลับมา
“ครับพี่ มีอะไรครับ”
“ถ้าเอกมาให้เข้ามาหาพี่ด่วนเลยนะ”
“ได้ครับเดี๋ยวผมบอกมันให้” ชายหนุ่มรับคำแล้วเดินออกไป
ภายในห้องของ บก. เสียงชายหนุ่มร่างสันทัด อายุประมาณ 24-25ปี คนหนึ่งกำลังนั่งคุยถึง
เกมส์การแข่งขันที่ตนไปดูมาให้เจ้าของห้องฟังอย่างออกรสออกชาด
“โห! พี่ ถ้าพี่ได้ไปดูนะพี่จะตื่นตาตื่นใจยิ่งกว่าผมอีก ผมน่ะกำลังจะเดินออกจาก
สนามอยู่แล้วตอนที่ผู้ตัดสินเป่านกหวีดจบครึ่งแรกอยู่แล้วแต่พอดีเจอเพื่อนก็เลยอยู่คุยกับมันเดี๋ยว
พอครึ่งหลังผ่านไปได้ 5 นาที ทีมอ่างทอง เปลี่ยนกองหน้าตัวใหม่ลงมา ใส่เบอร์ 15”เอกกำลังจะ
เล่าให้หัวหน้าของเขาฟังต่อ แต่ บก.วิทย์ก็ขัดขึ้นก่อน
“เดี๋ยวๆ ก่อนอื่นเล่าให้พี่ฟังก่อน ทำไมเกมส์ครึ่งแรก ทีมอ่างทองทำไมถึงโดนนำ
เยอะจัง สู้กันไม่ได้เลยเหรอวะ”บก.วิทย์ขัดมานิดหนึ่งเมื่อเห็นลูกน้องกำลังจะเล่าแต่เกมส์ครึ่งหลัง
“ช่วงแรกเหมือนจะสู้ได้นะพี่ เพราะว่าโค้ชทีมอ่างทองเปิดเกมส์รุกแรกเลย ดันกองหลัง
ทั้งสี่ตัวขึ้นสูง บีบทีมอยุธยาให้ต้องเล่นบอลเร็ว ช่วง5นาทีแรกทีมเจ้าบ้านดูดีมาก อ่างทองบุกอยู่
ข้างเดียวเลย แต่ว่าพอผ่าน10 นาทีไปเท่านั้นแหละโดนลูกแรกเลยเนื่องจากความสามารถเฉพาะ
ตัวต่างกันค่อนข้างเยอะ ทีมอยุธยานักเตะมีความสามรถเฉพาะตัวดีกว่าทีมเจ้าบ้านอยู่พอสมควร พอ
อ่างทองโดนนำไปก่อนก็จะเอาคืน แต่ทำไม่ได้ แถมยังโดนสวนเปรี้ยงเดียวอีก ลูกที่สามก็เหมือน
กัน เกมส์มันครับพี่ แต่ครึ่งแรกสกอร์มันขาดกองเชียร์ทีมเจ้าบ้านกว่าครึ่งก็เริ่มเดินออกจากสนามแล้ว
เพราะคิดว่าทีมตัวเองแพ้แน่ๆ ผมก็เหมือนกัน กะว่าถ้าครึ่งหลังผ่านไป 10 นาทีก็จะกลับเหมือนกัน
แต่เหตุการณ์ที่ไม่คลาดฝันก็เกิดขึ้นครับ ทีมอ่างทอง fc ขอเปลี่ยนตัวผู้เล่น เอาเบอร์15กองหน้า
ตัวใหม่ ชื่อดุรงค์ฤทธิ์ กิจศิลปิ์ชัย ที่ยังไม่เคยลงสนามเลยลงมาแทน กมล ที่วันนี้โดนกองหลังของ
ทีมเยือนประกบจนเล่นไม่ออก ได้เรื่องเลยครับพี่ ไม่ถึงสามนาทีหลังจากที่เขาลงสนาม และเป็น
จังหวะการจับบอลครั้งแรกของเขา ได้บอลตรงกลางสนามฝั่งซ้ายมือ เขาเลี้ยงตัดในเขามาเล็กน้อย
ระยะยังห่างจากประตูของทีมอยุธยาอยู่ประมาณ 40-45 เมตร กองหน้าตัวใหม่มองทางขวาเหมือน
จะหาเพื่อนส่งบอลให้ ผู้เล่นทีมอยุธยาและกองเชียร์ที่อยู่รอบๆสนามก็คิดว่าไม่มีอะไร เพราะ
ลูกบอลยังอยู่ไกลจากประตูมาก นักเตะของทีมอยุธยาก็ไม่ได้ประกบติดตัวมากเพราะก็คิดว่าระยะ
มันยังไกลอยู่ คงไม่คิดจะยิงแน่นอน ได้แต่ประคองอยู่ห่างๆ แต่ทุกคนทั้งสนามรวมทั้งตัวผมคิดผิด
ครับพี่ ”
“ทำไม อย่าบอกนะว่า ยิงไกลจากจุดนั้นเลย”หัวหน้า บก.วิทย์ขัดขึ้น
“ครับพี่ ลูกพุ่งยังกับจรวดเลยพี่ แถมยังติดใซด์ก้อยด้วย มันใซด์ก้อยแบบเห็นๆเลย
ครับ ผู้รักษาประตูคนไหนก็รับไม่ได้ครับคนดูทั้งสนามอ้าปากกันค้างเลยครับ ทุกคนต่างลงความเห็น
เดียวกันว่ามันฟลุ๊คแน่ๆแต่มันไม่ใช่อย่างที่พวกเราคิดครับ ทันทีที่ทีมอยุธยา โดนตีไข่แตกเกมส์ขอ
งอยุธยาช๊อตไปดื้อๆ แต่ก็ยังบุกได้เยอะกว่าทีมอ่างทองอยู่ดี แต่สิ่งที่ผมและคนดูทุกคนแปลกใจกัน
มาก คือทุกครั้งที่เบอร์15ของทีมอ่างทองได้บอล มันดูเนียนตา ไม่ว่าจะเป็นจังหวะจับบอล การจ่าย
บอลให้เพื่อน การยิงประตูที่เด็ดขาดและรุนแรง รวมถึงลูกฟรีคิกด้วย พี่วิทย์ พี่เคยเห็นนักฟุตบอลที่
เป็นกองหน้าคนไหนในเมืองไทยที่สามารถเล่นบอลได้ทั้งสองเท้าบ้างครับ”นักข่าวหนุ่มถามหัวหน้า
บก. บก.วิทย์นิ่งคิดไปนิดหนึ่งก่อนส่ายหน้าพร้อมกับพูดว่า “ไม่มี ทำไมอย่าบอกนะว่ากองหน้าของ
ทีมอ่างทองคนนี้เล่นได้ทั้งซ้ายขวาเลย”
“ครับพี่ ดูไม่ออกเลยว่าเขาถนัดข้างไหนกันแน่เพราะว่ามันเนียนตามาก ลูกที่สองเป็น
ฟรีคิกครับระยะประมาณ 30เมตร เยื้องมาทางขวาประมาณ45องศา ต้องคนถนัดเท้าซ้ายฟรีคิกลูกนี้
ต้องเป็นคนถนัดซ้ายยิงถึงจะมีลุ้นได้ประตู เบอร์15ถือลูกบอลมาตั้งที่จุด กำแพง4คนยืนปิดเสาแรก
อยู่ ส่วนผู้รักษาประตูยืนตำแหน่งที่เสาสอง เขาถอยหลังมาเล็กน้อยแบบนับก้าว กองหน้าที่ชื่อ ดุ
อยู่ห่างจากลูกบอลประมาณ 5 ก้าว จากนั้นเขาวิ่งเข้าหาลูกฟุตบอล และซัดด้วยเท้าซ้ายด้านในบอล
พุ่งเร็วมากครับและวิถีบอลก็โค้งไปทางซ้ายเหมือนจะพุ่งเข้าหาผู้รักษาประตู ตามความเห็นผมนะ
บอลพุ่งแรงขนาดนั้นวิถีของบอลไม่น่าจะโค้งเข้าหาเสาแรกได้ทันครับแต่ลูกนี้บอลทั้งเร็วทั้งแรงและ
โค้งได้ใจ เสียบสามเหลี่ยมมุมบนเสาแรกเลยครับพี่ ผู้รักษาประตูของทีมอยุธยาได้แต่ยืนขาตายอยู่
เสาสอง หมดสิทธิ์รับเลยครับ คนดูทั้งสนามลุกขึ้นปรบมือให้เลยครับ ตอนนี้เกมส์พลิกแล้วครับ กอง
เชียร์ของทีมอ่างทอง เอฟซี ที่กลับบ้านไปแล้วเพราะคิดว่าทีมรักตัวเองแพ้แน่ๆถูกเพื่อนๆที่ยังอยู่ใน
สนามโทรตามกลับมาดูเกมส์ใหม่ พักเดียวครับฝั่งกองเชียร์ของทีมอ่างทอง เอฟซี ก็กลับมาเต็ม
เหมือนครึ่งแรกและครั้งนี้เสียงเชียร์ของทีมเจ้าบ้านก็ดังกระหึ่ม เร่งเร้าให้ทีมรักโหมบุกเพื่อเอาประตู
ตีเสมอให้ได้ ตอนนี้เสียงเชียร์ของทีมเจ้าบ้านตะโกนว่า เบอร์15 กันทั้งสนาม ผมยังขนลุกเลยพี่
และแล้วกองเชียร์ของทีมเจ้าบ้านก็ เฮ้ กันสนามแทบแตก ผมก็ไม่เชื่อสายตาตัวเองเหมือนกันครับ
อะไรมันจะขนาดนั้น พี่เคยเห็นลูกยิงของร็อบบี้ ฟาว์ลเลอร์ ที่ยิงใส่เบอร์มิ่งแฮม ซิตี้ ในนัดชิงฟุต
บอลคาร์ลิ่ง คัพ ตอนปี 2001 หรือเปล่า นั่นแหละลูกเดียวกันเลยพี่ นาทีที่ 84 กองหลังของทีม
อ่างทอง เอฟซี ที่ชื่อสุจิน สาดบอลยาวจากแดนหลังของตัวเองครับ โอดิริกองหน้าอีกตัวของทีม
อ่างทอง ขี้นโหม่งแย่งบอลเอาชนะกองหลังของทีมเยือนได้ และบอลไปตกเข้าทางปืนของ
เบอร์15 ที่สปีดหนีกองหลังได้พอดิบพอดี บอลตกพื้นหนึ่งจังหวะ เท้าซ้ายอีกแล้วครับ ครั้งนี้ซัดเต็ม
ข้อเลยครับ บอลพุ่งเป็นแนวโค้งครับ เหมือนจะเลยข้ามคานครับแต่ว่ามันดันมุดลงใต้คานซะงั้น ไม่
ต้องพูดถึงผู้รักษาประตูนะครับ หมดสิทธิ์รับอยู่แล้วเพราะว่าออกมาไกลเกิน มันสุดยอดมากครับ
เหมือนลูกยิงใบไม้ล่วงของโยฮัน ครัฟเลย นี่เล่าให้พี่ฟังผมยังขนลุกไม่หายเลย” พูดจบ เอกก็เอื้อม
มือไปคว้าขวดน้ำที่วางอยู่บนโต๊ะขึ้นมาเปิดฝาดื่มดับกระหายและเล่าต่อทันที ตอนนี้บรรยาศในสนาม
ต่างจากครึ่งแรกแบบสิ้นเชิงครับ กองเชียร์ทีมอ่างทอง เอฟซี เต้นแร้งเต้นกาอย่างมีความสุข ส่วน
กองเชียร์ของทีมอยุธยาไม่ต้องพุดถึงครับ เงียบ หลังจากที่โดนทีมอ่างทองตีเสมอแล้ว โค้ชของทีม
อยุธยาเหมือนจะรู้ตัว ออกมาสั่งการลูกทีมให้ขึ้นเกมส์เพื่อเอาประตูชัยคืนครั้งนี้ทีมเยือนโหมบุกบ้าง
โดยทีมอยุธยา เอฟซีดันขึ้นสูง เหลือเวลาอีก1นาทีก่อนจะทดเวลาบาดเจ็บ จังหวะนี้ทีมอยุธยา เอฟ
ซี ได้ลูกเตะมุมทางมุมบนของประตูทีมเยือน กองหลังของทีมเยือนดันขึ้นสูงเลยครับ เพื่อลุ้นโหม่ง
ทำประตูชัยให้ได้ แน่นอนครับถ้าอ่างทอง เอฟซี โดนลูกนี้ไป จอดไม่ต้องแจวแน่ๆ เพราะจะไม่มี
เวลาเหลือให้แก้ตัวแล้ว ตอนนี้ผู้เลนทั้ง ยี่สิบเอ็ดคนลงมาอยู่ในแดนของทีมอ่างทองร่วมทั้งกองหน้า
ของทีมอ่างทอง เอฟซีที่พึ่งทำแฮ็ตทริคได้ด้วย สถานการณ์กองเชียร์ตอนนี้ต่างกันแล้วครับ ฝั่งทีม
เยือนเริ่มที่จะเงียบเสียงและเอามือกอดอกลุ้นทีมรักให้รอดจะลูกเตะมุมลูกนี้ ในใจของแฟนบอลทีม
จ้าบ้านคงคิดว่าขอเสมอก็พอแล้วรวมทั้งตัวผมด้วย แต่ฝั่งของทีมอยุธยาทีมเยือน ตะโกนเชียร์เพื่อ
เร่งเร้าทีมรักกันอย่างสนุกสนานเพราะคิดว่านี่เป็นโอกาสบุกครั้งสุดท้ายในเกมส์นี้ เพราะก่อนที่ทีม
เยือนจะเตะมุมผู้ตัดสินที่สี่ได้ชูป้ายเพื่อทดเวลาบาดเจ็บแค่สองนาทีเอง และก็มาถึงช็อทเตะมุมของ
ทีมเยือนครับ ตอนนี้ที่หน้าประตูของทีมเจ้าบ้านอย่างกับสนามรบเลยครับ กว่าผู้ตัดสินจะเป่าให้เริ่ม
เตะมุมลูกนี้ได้ต้องห้ามทัพกันหลายครั้งอยู่เหมือนกัน และแล้วผู้เล่นของทีมอยุธยาก็บรรจงวางบอล
เข้ามาในเขตโทษ เพื่อกดดันผู้รักษาประตูของทีมเจ้าบ้านให้ไม่กล้าออกมาตัดบอลได้ และเป็นการ
เพิ่มโอกาสเพื่อนร่วมทีมมีโอกาสขึ้นโหม่งทำประตูด้วย แต่ทั้งหมดต้องผิดแผนของทีมอยุธยา เอฟ
ซีไป เพราะ วีรวัฒน์ผู้รักษาประตูของทีมเจ้าบ้านสามารถตัดบอลได้อย่างฉิวเฉียด ตัดบอลได้อย่าง
เดียวไม่พอ แถมยังขึ้นเกมส์เร็วอีกเพราะปีกซ้ายที่ชื่อโอกามัตซึ นักเตะญี่ปุนของทีมอ่างทองที่
พร้อมจะโต้กลับตลอดเวลาโดยที่ไม่สนใจเวลาที่จะใกล้หมด ผู้รักษาประตูของทีมอ่างทอง เอฟซี
ขว้างบอลเร็วให้กับโอกามัตซึ ทางปีกซ้าย โอกามัตซึกระชากบอลขึ้นริมเส้นฝั่งซ้ายทันที ตอนนี้ทีม
อ่างทอง ขึ้นมาเป็นแผงเลยครับ มา4-5คนและนักเตะกองหลังของทีมอยุธยาบ้างคนก็ลงมาไม่ทัน
มีแต่กองกลางสองคนที่วิ่งประคองมา พอโอกามัตซึกระชากบอลเกือบจะสุดเส้นหลังเขาเงยหน้า
มองที่หน้าปากประตูนิดหนึ่งเขาเห็นว่าที่หน้ากรอบหกหลาของทีมคู่แข่งมีโอดิริยืนอยู่เสาสอง ส่วน
ดุรงฤทธิ์ ยืนอยู่ตรงกลางกรอบหกหลาโดยมีกองกลางของทีมเยือนวิ่งประกบตามมาอยู่ส่วนเพื่อน
ร่วมทีมอีกสองคนอยู่นอกรอบเขตโทษ โอกามัตซึตัดสินใจโยนจากเท้าซ้ายครับพี่ ทิศทางของลูก
บอลใซค์หนีมือประตูและความสูงของบอลทีโอกามัตซึโยนมาสูงแค่ระดับหน้าอกเองครับ แต่จังหวะ
นี้กองหลังของทีมเยือนอย่างอยุธยาเอฟซีน่าจะเครียร์ได้เพราะบอลจะมาถึงเขาก่อนที่จะไปถึงกอง
หน้าเบอร์15ของทีมอ่างทอง แต่ว่าที่อยู่ในกรอบเขตโทษเป็นกองกลาง ที่ไม่คุ้นเคยกับจังหวะ และ
จังหวะนี้เอง เบอร์15ของทีมอ่างทองก็แผงฤทธิ์อีกครั้ง จังหวะที่บอลจะลอยเข้าเท้าของผู้เล่นทีม
เยือนอยู่แล้ว แต่ไม่รู้ว่าเบอร์15ของทีมเจ้าบ้านพุ่งตัวเข้าหาลูกฟุตบอลได้ไงก็ไม่รู้พร้อมกับสบัด
ศรีษะพุ่งโหม่ง ทันทีที่ลูกบอลสัมผัสกับหัวของกองหน้าทีมอ่างทอง เอฟซี ลูกฟุตบอลพุ่งเข้าหา
ประตูในระดับหัวเข่า และเข้าไปซุกอยู่ก้นตะข่าย ไม่ต้องพูดถึงผู้รักษาประตูของทีมเยือนนะครับ
เพราะหมดสิทธิ์รับแน่นอนก็บอลเปลี่ยนทางอย่างไม่คลาดฝันขนาดนั้น โกล์ที่เก่งกว่านี้ ผมก็ว่ารับไม่
ได้ และทันทีที่ทีมอ่างทอง เอฟซีได้ประตูนำ ผู้ตัดสินก็เป่านกหวีดหมดเวลาการแข่งขันทันที สร้าง
ความปราบปลื้มดีใจให้กับกองเชียร์ของทีมอ่างทอง เอฟซีเป็นทิวแถว ส่วนกองเชียร์ของทีมอยุธยา
ต่างก็รู้สึกผิดหวังกันไปหมดแต่ก็ทำใจได้ และที่ผมชมเชยมากคือกองเชียร์ของทั้งสองทีม น่ารัก
มากไม่มีเรื่องมีราวกันเลย มีหลายๆจังหวะที่น่าหวาดเสียวแต่ก็ผ่านไปได้ด้วยดี”
บก.วิทย์ นิ่งฟังลูกน้องที่ได้ไปดูเกมส์นี้กับตาเล่าให้ฟังจนจบ เขาตื่นเต้นมากกับผลการ
แข่งที่ออกมาแบบนี้ หนุ่มใหญ่เม้มริมฝีปากเป็นเส้นตรงนิดหนึ่งเพื่อคิดอะไรบางอย่าง ก่อนตัดสินใจ
พูดว่า “เฮ้ย เอก พี่จะเอาข่าวที่ทีมอ่างทอง เอฟซี พลิกกลับมาชนะ ทีมอยุธยา เอฟซีขึ้นหน้าหนึ่ง
ของหนังสือพิมพิ์กีฬาฉบับหลักของเรานะ แกคิดว่าไง” “เอาเลยพี่ ผมเห็นด้วย ก็รูปเกมส์มันซะ
ขนาดนั้น”นักข่าวหนุ่มก็เห็นด้วยกับลูกพี่ของตัวเอง
“เออ งั้นไปตามไอ้ นพมาพบพี่หน่อย แล้วแกก็เอารูปที่ถ่ายได้ส่งเมล์ให้แผนกกราฟฟิก ด้วยนะเพื่อ
เอารูปการทำประตูของกองหน้าเบอร์15ขึ้นหน้าปก”เสียงบก.วิทย์สั่งมา
“ครับพี่” เอกรับคำและกำลังจะลุกขึ้นไปดำเดินการให้หัวหน้า แต่ก็ต้องชงัก
“เดี๋ยว พี่มีงานให้เราทำอีกชิ้น พรุ่งนี้ทำสกู๊ปของกองหน้าทีมอ่างทอง เอฟซีด้วยนะจะเอาไว้ลงฉบับ
วันถัดไป ขอแบบละเอียดนะ พร้อมบทสัมภาษณ์ด้วยนะ เอก” บรรณาธิการหนุ่มใหญ่สั่งงานให้ลูก
น้องอีกชิ้นหนึ่ง “ได้ครับพี่เดี๋ยวผมทำให้” เอกรับคำมาอีก
ตอนนี้ในห้วงความคิดของวิทย์กำลังคิดว่านานเท่าไรแล้วนะที่เขาไม่ได้ตื่นเต้นกับฟุตบอลลีคไทย
แบบนี้ นี่ขนาดเขาไม่ได้ไปดูเกมส์การแข่งขันเองนะยังตื่นเต้นขนาดนี้ถ้าเขาไปดูเกมส์เองที่สนามมัน
จะให้ความรู้สึกตื่นเต้นขนาดไหน เขาอยากให้เกส์ฟุตบอลของลีคไทยสนุกแบบนี้ทุกเกมส์จัง แต่มัน
คงเป็นไปได้ยากเพราะว่าตอนนี้หลายๆทีมเน้นผลการแข่งขันเป็นหลักซึ่งผิดจากสมัยก่อนอย่างสิ้น
เชิงที่ทุกทีมที่เป็นทีมชั้นนำของเมืองไทยจะพยายามเล่นเกมส์รุกเข้าสู้โดยที่ไม่สนว่าทีมที่สู้ด้วยจะ
มีศักยภาพเหนือกว่าทีมของตนเองแค่ไหน เพราะเหตุนี้เองที่ฟุตบอลลีคของไทยในสมัยเมื่อยี่สิบปี
ที่แล้วคนถึงได้ดูเยอะและก็ต่างเชียร์ทีมที่ตัวเองรักกันสุดเหวี่ยงแม้ว่าทีมที่ตัวเองเชียร์จะแพ้ก็ตาม
แต่ถ้าแพ้แบบประทับใจแค่นี้กองเชียร์ก็ดีใจแล้ว “หายไปนานนะความรู้สึกตื่นเต้นแบบนี้”เสียงวิทย์
พึมพำเบาๆกับตัวเอง
“ด.2 สุดมันอ่างทองพลิกแซงอยุธยา 4-3โดยสี่ประตูได้มาจากกองหน้าตัวใหม่ที่
เปลี่ยนตัวมาลงสนามในครึ่งหลังและยิงคนเดียวสี่ประตูรวดช่วยให้ทีมอ่างทอง เอฟซี
เอาชนะทีมอยุธยาเอฟซีไปได้ด้วยสกอร์ 4-3ทั้งๆที่โดนทีมอยุธยานำไปก่อนถึง3-0”
นี่คือพาดหัวข่าวหน้าหนึ่งของหนังสือพิมพิ์กีฬาฉบับยักษ์ใหญ่ของเมืองไทย ในเช้าวันรุ่งขึ้น
ข่าวพาดหัวอีกหนึ่งสัปดาห์ต่อมาของหนังสือพิมพิ์กีฬาฉบับเดิม “อีกแล้ว ทีมอ่างทอง เอฟซีถล่ม
เอาชนะ นครนายก เอฟซี ไปอย่างง่ายดาย 4-0โดยทีมอ่างทองได้สี่ประตูจากกองหน้า
หมายเลข15 ดุรงฤทธิ์ กิจศิลปิ์ชัย ในนาทีที่10,25,60และ86”
อีกหนึ่งสัปดาห์ต่อมา สุดมหัศจรรย์ ยิงคนเดียว5ประตู ทำให้ทีมอ่างทอง เอฟซีเอาชนะ ทีมกบินทร์
เอฟซี ไปอย่างขาดลอย
ขึ้นแท่นเป็นดาวซัลโวของศึกดิวิชั่นสองเรียบร้อยแล้วสำหรับกองหน้าของทีมนักรบรวงทอง ไม่ใช่
ใครที่ไหนหมายเลข15 ดุรงฤทธิ์ กิจศิลป์ชัยนั่นเอง สำหรับศึกดิวิชั่นสองเมื่อเย็นวานนี้ทีมอ่างทอง
ลงสนามพบกับทีมราชบุรี เอฟซี ผลปรากฎว่าทีมนักรบรวงทอง เอาชนะทีม ราชบุรี เอฟซีไปอย่าง
สบายๆ 3-0โดยสามประตูของทีมอ่าง เอฟซีได้มาจากศูนย์หน้าตัวเก่งหมายเลข15 ดุรงฤทธิ์ กิจ
ศิลป์ชัย ที่ลงสนามให้กับทีมเป็นนัดที่สี่แต่ว่าเขาซัดให้ทีมไปแล้วทั้งหมด 16 ประตู
นี่คือพาดหัวข่าวและสกู๊ปของหนังสือพิมพิ์กีฬาฉบับหนึ่งที่ลงข่าวการทำประตูของกองหน้าที่สร้าง
ความมหัศจรรย์ให้กับวงการฟุตบอลไทยในรอบ1เดือนที่ผ่านมา ตอนนี้วงการฟุตบอลในเมืองไทย
เริ่มที่จะจับตาดูกองหน้าหมายเลข15ของทีมอ่างทองกันมากขึ้นตามลำดับบรรดาแมวมองของ
สโมสรชั้นนำของเมืองไทยต่างเข้ามาซุ่มดูฟอร์มของเขากันมากขึ้น สโมสรหลายสโมสรอยากได้ตัว
เขาไปร่วมทีมโดยเฉพาะสโมสรห้าอันดับแรกของศึกไทยพรีเมียร์ลีค ที่ต่าง กันพร้อมใจยื่นข้อเสนอ
มาให้กับทีมอ่างทอง เอฟซีเพื่อที่จะดึงตัวเขาไปช่วยทีมของตนเองและห้าสโสรดังกล่าวก็ยื่นข้อ
เสนอสุดงามมาให้กับทีมอ่างทอง เอฟซี เดือดร้อนถึงทีมต้นสังกัดของเขาที่จะต้องเรียกดุรงฤทธิ์มา
คุยและมารับรู้ข้อเสนอที่หลายๆทีมยื่นมาทั้งๆที่ใจจริงไม่ว่าจะเป็นประธานสโมสรหรือโค้ชของทีม
รวมถึงผู้ที่เกี่ยวข้องในทีมทุกคนไม่อยากที่จะเสียเขาไปแต่ข้อเสนอเหล่านี้ทั้งในส่วนของทีมและใน
ตัวของนักเตะเองก็จะได้ประโยชน์ทั้งสองฝ่าย ขึ้นอยู่กับตัวของนักเตะเองด้วยว่าอยากที่จะย้ายทีม
หรือเปล่าถ้าย้ายทางทีมต้นสังกัดก็ไม่ขัดข้องเพราะก็ถือว่าได้กำไรก้อนงามที่จะไว้ช่วยสนับสนุนทีม
ต่อไปในอนาคตข้างหน้า และนี่ก็เป็นเหตุผลที่ทางผู้บริหารของทีมอ่างทอง เอฟซีได้จัดประชุม
ภายในขึ้นเพื่อหาข้อสรุปในเรื่องนี้เพราะถ้าปล่อยไว้จะไม่เป็นผลดีกับทั้งสองฝ่ายคือทั้งตัวนักเตะเอง
ที่อาจจะรับความกดดันกับข่าวลือต่างๆที่ถาโถมมาทำให้ฟอร์มการเล่นในสนามไม่คงเส้นคงวา
ในห้องประชุม
มีทั้งหมดหกคนมีประธานสโมรสร รองประธานสโมสรสองคน ที่ปรึกษาหนึ่งคน และหัวหน้าโค้ชหนึ่ง
คนและรองหัวหน้าโค้ชอีกหนึ่งคน
“เราจะเอาไงกันดีกับเรื่องนี้”ประธานสโมสรเริ่มต้นขึ้นก่อน
“ผมว่าขายครับ ขายเอาเงินไว้ก่อน”รองประธานสโมสรที่ชื่อ ศิริ พลายเพ็ชร โพล่งขึ้นมา
“เอางั้นเลยเหรอ คุณศิริ ผมว่าลองถามความคิดเห็นท่านอื่นกันดูก่อนดีมั้ย”ประธานสโมสรของทีม
อ่างทอง เอฟซีแนะมายิ้มๆและหันไปถามรองประธานสโมสรอีกท่านที่นั่งอยู่อีกฝั่งหนึ่ง “ว่าไงคุณ
สงกรานต์ เอาไงดี” “ผมว่าท่านประธานลองถามทุกท่านที่อยู่ในห้องนี้ก่อนดีกว่าครับ ถามความเห็น
ทุกท่านก่อนแล้วเราค่อยมาหาข้อสรุปกันว่าสุดท้ายเราจะเอาอย่างไรดีแต่ต้องไม่ลืมด้วยว่าท้ายที่สุด
แล้วคนที่เป็นคนตัดสินใจเป็นคนสุดท้ายคือตัวของนักเตะเองนะครับ เราทั้งหกคนเพียงแค่มีหน้า
ที่มาหารือกันก่อนเท่านั้นเอง”รองประธานสโมสรที่ชื่อสงกรานต์ ออกความเห็นมาด้วยคำพูดที่ผ่าน
การไตร่ตรองมาแล้วอย่างคนที่สติ
“อืม เอางั้นนะ ที่ปรึกษาว่าไง” “โดยส่วนตัวแล้วผมไม่อยากให้ขายครับผมอยากให้เก็บไว้ใช้งาน
เพราะถ้าเราเก็บ ดุ ไว้ใช้งานต่อเราจะได้รับประโยชน์อย่างมากมายมหาศาล ไม่ว่าจะเป็นโอกาสใน
การเลื่อนชั้นขึ้นสู่ ด.1 การดึงสปอนเซอร์ใหม่ๆเข้ามาหาทีมของเราก็ทำได้ง่ายขึ้นเพราะนักเตะที่อยู่
ทีมเรามีความสามารถมีชื่อเสียงผู้สนับสนุนก็อยากมาลงทุนกับเรา ข้อสาม ชื่อเสียงของทีมเรา อย่า
ลืมตอนนี้ทีมของเราอยู่ ด.2 แต่ตอนนี้ชื่อของสโมสรเรามีชื่อพาดหัวข่าวหน้า1หน้าสองของหนังสือ
พิมพิ์กีฬาทุกวันและข้อสุดท้ายแฟนบอล ทุกท่านลองสังเกตนะครับ ว่าก่อนที่เราจะได้นักเตะคนนี้
มาร่วมทีม แฟนบอลที่เข้ามาชมเกมส์ในสนามมีมาน้อยมาก แต่เดี๋ยวนี้ทุกท่านเห็นมั้ยครับทุกนัดที่
ทีมของเราลงสนามไม่ว่าจะเป็นนัดเหย้าหรือนัดเยือนแฟนบอลของสโมสรแห่กันเข้าไปชมเกมส์การ
แข่งขันจนเต็มความจุของสนาม นี่ยังไม่รวมของที่ละลึกสโมสรอีกนะครับ เสื้อแข่งหมายเลข15เรา
ทำมากี่ล็อตแล้วขายหมดทุกล็อตในรอบสองเดือนที่ผ่านมาตั้งแต่เราได้ ดุ มาร่วมทีมเรามีแต่รายได้
เพิ่มขึ้น สปอนเซอร์ก็มีมากขึ้น แฟนบอลก็เข้าสนามมากขึ้น โดยส่วนตัวแล้วผมไม่อยากขายครับ”ที่
ปรึกษา ภิญโญ ให้ความเห็นมาอย่างมีเหตุมีผลจนทำให้หลายๆคนที่นั่งอยู่ในที่ประชุมเห็นด้วย จะมี
ไม่เห็นด้วยก็แค่คนเดียวคือรองประธานสโมสรที่ชื่อศิรินั่นเอง
“อืม..น่าคิดน่าคิด” ประธานสโมสรพึมพำเบาๆก่อนจะหันไปถามโค้ชประจำทีมทั้งสองคน “ว่าไงโค้ช
ทั้งสอง ในฐานะที่ใกล้ชิดกับตัวนักเตะที่สุดมีความเห็นว่าไง”
“ผมเห็นด้วยกับความคิดของพี่ภิญโญครับ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องขึ้นอยู่กับมติในที่ประชุมด้วยและการ
ตัดสินใจของตัวนักเตะเองว่าเขาอยากอยู่กับเราหรือเปล่าครับ”โค้ชประดิษฐ์ เสนอความเห็นของ
ตนเองมาด้วยน้ำเสียงเป็นการเป็นงาน
“ศักดิ์ล่ะ ว่าไง”ประธานสโมสรหันไปถามผู้ช่วยโค้ชที่นั่งอยู่ข้างๆโค้ชประดิษฐ์
“ผมเห็นด้วยกับโค้ชและพี่ภิญโญครับ”ผู้ช่วยโค้ชตอบมาสั้นๆ
หลังจากที่ประธานสโมสร ได้ฟังความคิดเห็นของทั้งสี่คนเรียบร้อยแล้ว ก็นิ่งคิดไปนิดหนึ่ง
จากนั้นจึงหันไปถามรองประธานสโมสรที่ชื่อ ศิริ
“คุณศิริ ทำไมคุณจึงมีความคิดที่อยากจะขาย ดุ ออกไปให้ทีมอื่น ไหนผมขอเหตุผล
หน่อยครับ”ประธานสโมสรหันไปถามรองศิริ ด้วยน้ำเสียงเป็นกันเอง
“โดยส่วนตัวผมคิดว่า ตอนนี้นักเตะของเรา อายุ 31แล้ว อายุการใช้งานจริงก็ใช้ได้
เต็มที่แค่สองปี ถ้าเลยสองปีนี้ไปก็จะไม่มีทีมอื่นเขาสนใจแล้วครับ และอีกอย่างถ้าเกิดการบาดเจ็บ
ขึ้นมาเราจะมานั่งคิดเสียดายกันทีหลังว่ารู้แบบนี้น่าจะขายกันตั้งแต่ตอนนั้นก็ดี เพราะเปอร์เซนต์การ
บาดเจ็บของ ดุรงค์ฤทธิ์ ก็จะเพิ่มขึ้นด้วย เหตุผลก็เพราะว่ากองหลังของทีมอื่นก็จะพยายามที่จะ
หยุดไม่ให้เขาเข้าไปทำประตู และวิธีการหนึ่งที่จะหยุดเขาได้ก็คือการทำฟาว์ล ตรงจุดนี้ตัวนักเตะ
เองมีความเสี่ยงที่จะเกิดการบาดเจ็บได้ง่าย นี่คือความเห็นของผมในเชิงของธุรกิจและเหตุผลครับ
แต่ถ้าเป็นความเห็นส่วนตัวของผมแล้วผมก็ไม่อยากขายเพราะว่าถ้ามีเขาอยู่ทีมของเรามีโอกาสที่จะ
เลื่อนชั้นได้อย่างแน่นอน”
“ที่คุณศิริพูดมาก็น่าคิดนะ” ประธานสโมสร พยักหน้าเป็นเชิงเห็นด้วย
“ตอนนี้ผมได้ฟังความเห็นของทุกท่านแล้วขอบคุณทุกท่านมากที่ให้ความเห็น ครั้งนี้
มาฟังความเห็นผมบ้างนะครับ จริงๆแล้วโดยส่วนตัวผม ก็ไม่อยากขายนักเตะของเราออกไปครับ แต่
เราก็ต้องคำนึงถึงเหตุผลหลายๆประเด็นด้วยซึ่งหลักๆก็มีอยู่สองประเด็น และสองประเด็นนี้ก็ได้คุณ
ศิริ และคุณภิญโญอธิบายมาแล้ว แต่ผมก็ยังมีคำถามที่อยากจะถามทุกท่านที่นั่งอยู่ในที่ประชุมแห่ง
นี้ว่า ตอนนี้มีอยู่สองหรือสามทีมนี่แหละที่ยื่นข้อเสนอมาให้ทางเราพิจารณาเป็นตัวเลขเจ็ดหลัก ถาม
ว่าตัวเลขดังกล่าวเยอะมั้ย ก็เยอะพอสมควรเพราะที่ผ่านมาสโมสรเรายังไม่เคยมีทีมไหนยื่นข้อเสนอ
มาให้เยอะขนาดนี้ ด้วยเหตุผลนี้เองที่ทำให้เราต้องมานั่งปะชุมกันอยู่นี่ไง ผมจะถามว่าถ้าเราไม่ขาย
ดุ ออกไปสโมสรเราสามารถหารายได้หรือหาสปอนเซอร์ได้ตามที่หลายๆสโมสรยื่นข้อเสนอมาให้
หรือเปล่า ถ้าได้ผมก็ไม่ขายแต่ถ้าไม่ได้หรือรายได้เข้าสโมสรไม่พอผมก็จำเป็นต้องขาย เรื่องนี้ผม
ต้องขอความเห็นจากคุณสงกรานต์แล้วเพราะมีหน้าที่รับผิดชอบโดยตรงในการหาผู้สนับสนุนให้ทีม
เรา”พูดจบประธานสโมสรก็หันไปถามรองสงกรานต์
รองสงกรานต์ ขยับแว่นตานิดหนึ่งก่อนจะพูดว่า “เรื่องนี้ผมกำลังจะรายงานในที่ประชุม
อยู่พอดีเลยครับ ในรอบหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้มีหลายๆบริษัทได้ยื่นข้อเสนอเข้ามาขอเป็นสปอน
เซอร์หลักเราทั้งหมด 15 บริษัทมีอยู่7แห่งที่ยื่นข้อเสนอสนับสนุนเรื่องอุปกรณ์และชุดแข่ง การเดิน
ทาง อีก8แห่งจะให้ค่าใช้จ่ายเป็นรายเดือนตามนี้ครับ”พูดจบรองสงกรานต์ก็ส่งแฟ้มเอกสารให้กับ
ประธานสโมสรดู ประธานสโมสร รับไปเปิดดูนิดหนึ่ง และพยักหน้าอย่างพอใจ
“อืม..โอเค ดีมากคุณสงกรานต์ ถ้าเป็นไปตามนี้ผมว่าเราไม่ควรที่จะขาย ดุ ออกไป
จากทีมเรานะ หรือทุกคนว่าไง”ท่านประธานสโมสรเงยหน้าจากแฟ้มและหันไปถามความเห็นจากทุก
คนบนโต๊ะประชุม เกือบทุกคนพยักหน้า จะมีก็แต่ที่ปรึกษาสโมสร ภิญโญ นิจพานิจย์นั่นเองที่นั่งเม้ม
ปากอย่างใช้ความคิอยู่ จนประธานสโมสรสงสัย
“คุณภิญโญ มีอะไรจะเสนอแนะว่ามาได้เต็มที่เลย”ประธานสโมสรหันไปถามที่ปรึกษา
อีกครั้ง
“คืองี้ครับ ผมมีความคิดว่าถ้าปล่อยไปแบบนี้คงไม่ดีเท่าไร เพราะว่าข่าวลือเรื่องการยื่น
ข้อเสนอขอซื้อตัว มันรุนแรงเหลือเกินและอีกอย่างเรายังไม่ได้ถามตัวนักเตะเราเลยว่ามีความเห็น
เป็นอย่างไร อยากย้ายมั้ย คือผมอยากให้ลองถามความเห็นของนักเตะด้วยเพราะถ้าไม่ถามหรือ
เครียร์กับนักเตะก่อนมันจะมีผลกับฟอร์มการเล่นในสนามอย่างแน่นอน ใช่มั้ยครับโค้ชประดิษฐ์”พูด
จบก็หันไปขอหวามเห็นกับโค้ชประดิษฐ์ โค้ชประจำทีมพยักหน้าเห็นด้วย และกล่าวเสริมมาว่า
“ถ้าเป็นไปได้ผมอยากให้เพิ่มค่าเหนื่อยให้กับนักเตะด้วย ในกรณีที่เขาตัดสินใจไม่
ย้ายทีม เพื่อเป็นการซื้อใจนักเตะครับ”โค้ชทีมอ่างทองเสนอความคิดมา
หลายๆคนในที่ประชุมเห็นด้วยกับความคิดของโค้ช เพราะที่ผ่านมาโค้ชประดิษฐ์จะ
คลุกคลีกับนักเตะมากที่สุด เขามีความเชื่อมั่นแบบเต็มร้อยว่านักเตะของเขาคนนี้ไม่ย้ายไปอยู่ทีม
ไหนอย่างแน่นอน แม้ว่าจะได้ข้อเสนอจากหลายๆทีมก็ตาม เพราะที่ผ่านมา ดุได้พิสูจน์ให้เขาเห็นว่า
ไม่ได้เข้ามาเล่นฟุตบอลเพื่อเงินอย่างเดียว แต่เขาเข้ามาเล่นบอลด้วยความรักและหลงใหลในเกมส์
ฟุตบอล เรื่องนี้เขาเคยคุยเป็นการส่วนตัวกับดุแล้ว ตอนแรกเขาก็หวั่นๆอยู่เหมือนกันกลัวผู้บริหาร
สโมสรจะขาย ดุ ออกจากทีม แต่ในเมื่อบทสรุปในที่ประชุมยืนยันที่จะฟังความเห็นของตัวนักเตะเอง
ก่อน ตอนนี้เขาก็สบายใจแล้ว ตอนนี้เขาจะได้มีสมาธิคุมทีมต่อไปเพราะแม็ชต่อไปทีมเขาจะต้อง
เล่นฟุตบอลถ้วยโตโยต้าลีค คัพ เจอกับทีม เมืองทอง ที่สนามของตนเองซึ่งถือว่าเป็นงานหนักที่สุด
ของเขาเลยก็ว่าได้ เขาอยากให้ลูกทีมของเขามีสมาธิกับเกมส์ให้มากที่สุด เหตุผลนี้เองเขาอยาก
ให้จบข่าวลือเรื่องการย้ายทีมของ ดุ ซะที
“โอเค งั้นวันนี้เดี๋ยวก่อนซ้อม เรียกดุเข้ามาคุยกับผมหน่อยนะ เดี๋ยวผมคุยเอง เราจะ
ได้ข้อสรุปกันซะที วันนี้ขอขอบคุณทุกท่านมากที่สละเวลามาร่วมประชุม เอ้อ โค้ชนัดหน้าเจอ
ทีมไหน” ท่านประธานกำลังจะกล่าวปิดประชุมแต่พึ่งนึกขึ้นมาได้ก็เลยหันไปถามโค้ช
“เจอทีม เมืองทองครับ เป็นฟุตบอลถ้วยครับ”
“เฮ้ย..งานหนักเลยนี่ มั่นใจมั้ย”ท่านประธานถามมา
“ถ้ามีกองหน้าอย่างดุผมมั่นใจว่าไม่แพ้ครับ”โค้ชทีมอ่างทองตอบมาอย่างมั่นใจ
“แข่งวันไหน”
“วันเสาร์ครับ สี่โมงครึ่ง ในบ้านเราครับ”
“แฟนบอลคงมาดูกันเพียบเลยสิ ดีๆมาเชียร์กันเยอะๆ”ประธานสโมสรพูดมาด้วยน้ำเสียงอารมณ์ดี
“ครับคนเยอะแน่ๆ เพราะว่าหลายคนที่มาจะมาดูกองหน้าหมายเลข15ของเราทำประตู
ครับ”โค้ชประดิษฐ์บอกมาด้วยน้ำเสียงร่าเริง
“งั้น รึ ไปๆเลิกประชุมกันได้แล้ว เดี๋ยวดุ มาเรียกมาคุยกับผมด้วย ไปๆ ขอบใจทุกคน
มาก”ท่านประธานสโมรสรตัดบทมาทำให้ในที่ประชุมสิ้นสุดการประชุมในลักษณะนี้เอง
สิ้นสุดประตูที่ 4 ตลุยศึกดิวิชั่นสอง
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ