CatWalk “กูจะดังให้มึงจำ”
เขียนโดย nooonaa
วันที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2556 เวลา 22.54 น.
แก้ไขเมื่อ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2556 23.03 น. โดย เจ้าของนิยาย
33) Catwalk 31 : หัวใจวาย
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความBy nooonaa
Catwalk 31 : หัวใจวาย
+พี่หมาใหญ่+
"ฮ่าๆ จริงหรอครับ"
"จริงสิ...ม๊าก็สงสารนะ แต่ตลกมากกว่า ฮ่าๆ"
จึกๆ
"น้องแวนครับ....ขึ้นห้องกัน"
"อย่าเพิ่งมายุ่ง ผมคุยกับมาม๊าอยู่"
โห อะไรวะ
"ฮ่าๆ..."
เสียงหัวเราะคิกคักของสองม๊ากับลูกสะใภ้นี่ดังทั่วบ้านเลยครับ โดยที่ผมก็นั่งเป็นหมาหัวเน่าอยู่ข้างๆ เขาคุยกันไม่สนใจผมเลยสักนิด ขนาดชวนขึ้นห้องก็ยังไม่ยอม นี่ผมชักงอนแล้วนะ
ไหนบอกว่าหลังกินข้าวไง...แล้วทำไมหลังกินข้าวแล้วถึงมานั่งคุยกับคนอื่นแบบนี้อะ
นี่กูจะงอนมึงจริงๆแล้วนะ
เห้อ...ก็ผมอยากอะ มันอึดอัดชะมัดพออยากกอดแต่ก็ไม่ได้กอด เมื่อก่อนมันก็ยอมผมง่ายๆอะนะ แค่ใช้แรงนิดใช้แรงหน่อยเอง แต่ดูตอนนี้ดิ แค่เห็นมันร้องนิดผมก็ไม่กล้าแตะแล้วเถอะ กลัวมันจะเจ็บไปซะทุกอย่าง แถมน้องชอบว่า...ว่าผมไม่เคยให้เกียรติ์น้อง มันเลยทำให้ผมอึดอัดที่จะทำอะไรตามใจตัวเอง จนต้องมานั่งอดทนให้น้องมันอนุญาตก่อน...ถึงจะได้แตะ
แล้วอย่างนี้จะไม่ให้หื่นได้ไงอะ
ยิ่งเมื่อเย็นมันแกล้งผมซะเกือบบ้า แล้วกำลังจะได้งาบมันแล้วจริงๆ แต่ดันมาเจอตัวขัดจะๆ เล่นเอาความอยากขึ้นสมองทันที
อยากจะฆ่าคนอะ!
แม่ง. น้องชายกูสลดเลยสัด
แต่ตอนนี้น้องชายผมกำลังผงาดอีกครั้งแล้ว ผมก็ต้องการถ้ำอุ่นๆให้น้องมันนอนอะ
จึกๆ
"น้องแวนครับ...สนใจกูหน่อยเถอะ" ผมจิ้มแขนน้องมันสองทีแต่ก็โดนสะบัดออกอย่างไม่ใยดี ผมนี่หูตกเลยครับ
น้องแวนไม่สนใจผมอะ
เศร้า
ขึ้นไปอาบน้ำให้หายเศร้าก่อนก็ได้ เดี๋ยวมันก็ตามขึ้นไปนอนเอง
แต่วันนี้มึงคงอดนะไอ้ลูกชาย เพราะแม่มึงลืมพ่อไปแล้ว
เห้อ
ผมเลยเอื้อมตัวไปหอมปลายคางน้องด้านข้างทีหนึ่งก่อนจะลุกขึ้นยืนแล้วเดินกลับห้อง ใจมันห่อเหี่ยวพิลึก แต่ก็ต้องยอมอะนะ ในเมื่อน้องไม่ให้ก็ต้องทน
พอขึ้นห้องได้ก็จัดการอาบน้ำอาบท่าแล้วกลับมานั่งเล่นเกมส์ในไอแพดต่อ เล่นไปเล่นมาต้องนานน้องก็ยังไม่กลับขึ้นห้อง นี่มันจะสองชั่วโมงแล้วนะ จะคุยติดลมกันมากเกินไปปะ
เออ! ไม่ขึ้นก็ไม่ต้องขึ้นเลยนะ กูนอนแล้ว!
ผมเก็บทุกอย่างให้เข้าที่ก่อนจะล้มตัวลงนอนอย่างหัวเสีย นี่ผมโมโหจริงนะ ถ้าผมไม่คิดจะเอามันเป็นเมียผมคงไม่มานั่งยอมขนาดนี้หรอกนะ ชีวิตธรรมดาผมก็โคตรจะแฮปปี้อยู่แล้วเถอะ จะเอาใครแม่งก็วิ่งมาถวายหมด แล้วมันเป็นใครมาทำให้ผมอดๆอยากๆแบบนี้
นี่กูชักทนไม่ไหวแล้วนะเว้ย!
นี่ถ้าผมหายไปมันก็คงไม่สนใจ นี่ตกลงผมสำคัญสำหรับมันบ้างป่าวเนี่ย ชักจะไม่มั่นใจและ
เห้อ...
พอๆไอ้ทิว คิดมากวะมึง ในเมื่อมึงคิดจะจริงจังกับมันมึงก็ต้องอดทน อยากได้มันมากไม่ใช่รึไง ถึงยอมทำขนาดนั้นทั้งๆที่ไม่เคยจะทำให้ใครสักครั้ง ดังนั้นมึงก็ต้องยอมรับให้ได้ ในทุกๆเรื่อง
จบนะมึง...ถ้าจบก็นอนได้แล้ว
ต้องบอกกับตัวเองอย่างกับคนบ้า เหมือนพวกคิดมากที่หาทางออกไม่ได้ ผมเลยปิดไฟที่หัวเตียงแล้วข่มตาให้หลับทันที
เห้อ...อยากกอดหมาเล็กวะ
"ไอ้ทิว..." แต่พอผมกำลังจะเคลิ้มนั้น เสียงหวานก็เรียกให้ผมต้องลืมตาโผลง ใจมันสั่นแปลกๆพอได้ยินแบบนั้น ไม่นานเจ้าของเสียงหวานก็เดินขึ้นมานั่งข้างๆโดยที่ผมยังคงทำเป็นหลับอยู่
"อ่าว...หลับแล้วหรอ"
แกล้งหลับเว้ย!
"งั้นฝันดีนะมึง"
จุ๊บ
อ่า...น่ารักวะ ทำไมมันน่ารักขนาดนี้
พอร่างเล็กกล่าวราตรีสวัสดิ์ก็ลุกออกจากเตียงไปก่อนจะกลับมาพร้อมกลับกลิ่นหอมแปลกๆ สงสัยมันไปล้างหน้ากับแปรงฟันมาถึงหอมแบบนี้
มันเดินขึ้นมานอนบนเตียงอย่างแผ่วเบาก่อนจะยกแขนที่ผมนอนตะแคงข้างอยู่ แล้วค่อยๆเอาตัวเองสอดเข้ามานอนในอ้อมกอดผม แถมยังเอาหัวเล็กๆกลิ่นหอมๆมาหนุ่นแขนผมอีก แบบนี้เล่นเอาหลับไม่ลงเลยแหะ
แต่แล้วไอ้ตัวเล็กมันก็พลิกตัวหันมาทางผมก่อนจะเขยิบจนอกเล็กเบียดกับอกผมก่อนผมจะรู้สึกถึงผมหายใจหอมเป่ารดอยู่ปาก ลมอุ่นแตะเบาๆเหมือนกับจมูกโด่งรั้นอยู่ชิดจนแทบติด แต่ผมก็ยังทำเป็นหลับไม่ยอมตื่น เพราะผมรู้สึกงอนมันจริงๆ
ไม่นานปลายนิ้วเรียวก็ขึ้นมาสัมผัสที่แก้มผมเบาๆก่อนจะมีอะไรนิ่มๆที่ผมคิดว่าเป็นริมฝีปากของเจ้านั้นกดทับเข้ามาที่ปากผม มันค้างอยู่นานก่อนลิ้นเล็กจะเลียเล็กน้อยแต่ก็เล่นเอาใจผมสั่นสะท้านเตียง นี่มันกำลังคิดจะทำอะไรกัน
เมื่ออีกคนพอใจกับจูบนั้นก็ค่อยๆ ถอนริมฝีปากออก แต่ปลายจมูกก็ยังคงแตะกับจมูกผมเรื่อยๆไม่ยอมห่าง ก่อนเสียงหวานจะเอ่ยอย่างแผ่วเบาจนแทบจะไม่ได้ยิน
"หลับจริงๆหรอ...."
"......" ผมทำเป็นเงียบนิ่งเพื่อความสมจริง
"กูจูบแล้วนะ...แล้วรู้สึกหายอยากบ้างรึยัง" พูดห่.าไรวะ พูดเหมือนรู้ว่ากูอยากอะไรอยู่อย่างนั้นแหละ
"ที่จริงก็อยากให้มึงกอดนะ แต่กูกลัวมึงจะเบื่อกูนี่หว่า มึงยิ่งเปลี่ยนคู่นอนเป็นว่าเล่น ถ้ากูยอมง่ายๆ...แล้วมึงจะเบื่อกูมั้ย"
อะไรนะ! นี่อย่าบอกนะว่ามึงคิดมากเรื่องนี้ถึงไม่ยอมให้กูแตะมึงเนี่ย
โถ่...คุณมึงครับ กูรักมึงจนแทบจะขาดใจตาย แล้วกูจะเบื่อมึงได้มั้ยละ
"แล้วอีกไม่นาน พ่อกับแม่กูคงรู้เรื่องของเราแน่ แล้วตอนนั้น...เราจะฝ่าฟันมันได้อีกมั้ย"
อ่าว...นี่พ่อกับแม่มึงยังไม่รู้อีกหรอวะ เห็นไม่มีอะไรเกิดขึ้น เลยนึกว่าจะเคลียร์กันไปแล้ว แล้วอย่างนี้จะทำยังไงวะเนี่ย
"กูไม่รู้ว่าพวกเขาจะชอบมึงเหมือนมาม๊ากับปาป๊าชอบกูรึป่าว กูกลัวว่ะ"
พอมันพูดแบบนั้นผมก็เริ่มเครียดเลยครับ มันเครียดจนแกล้งหลับต่อไม่ได้แล้ว ผมเลยกระชับไอ้ตัวเล็กเข้ากอดแน่นจนแผ่นอกเล็กเบียดร่างผม
"อะไอ้ทิว...ยังไม่หลับหรอ" มันคงตกใจที่เห็นผมยังไม่หลับ ผมเลยกดจมูกกับแก้มนุ่มมันไปทีก่อนจะไล้จมูกคลอเคลียร์เล็กน้อย
"มึงยังไม่มาแล้วกูจะหลับได้ไง"
"ก็...เห็นขึ้นมาต้องนานแล้ว" มันพูดเสียงอู้อี้ก่อนจะซุกหน้าเข้าหาผมจนแก้มเราชนกัน ผมถึงได้รู้สึกถึงความร้อนบนใบหน้าสวยนั้นจนอยากจะหอมให้หายหมั่นเขี้ยว
"เขินกูรึไง"
"ไอ้หมาบ้า มาแกล้งหลับนะมึง" มันทุบเอวผมดังตุบๆแต่ก็ไม่ยอมถอนหน้าออก ผมเลยขำเล็กน้อยก่อนจะลูบหัวทุยเล็กอย่างเบามือ
"ฮ่าๆ กูไม่ได้ยินอะไรเลยนะ ที่มึงบอกว่ากลัวกูเบื่อน่ะ"
"ไอ้ทิว!!"
จี๊ด
"โอ๊ย! เจ็บนะ! หยิกทำไมเนี่ย" มันน่าตีให้ก้นลายซะดีมะ หยิกเอวผมได้ เลยเอาจี๊ดทั้งหลังเลยทีเดียว
"แล้วใครใช้ให้มึงแกล้งหลับใส่กู แม่.งเลว"
อูย
"ด่าแบบนี้มึงมาต่อยกูเถอะ แต่ถึงกูจะเลว...กูก็รักมึงนะครับ"
ฮิ้วๆ โดนๆ เขินเลยอะดิมึง
"ไอ้บ้า"
ฮ่าๆ แม่.งน่ารักวะ เขินจนหูแดงแล้วมั้งเนี่ย
"แล้วที่มึงบอกว่ากลัวพ่อแม่มึงรู้หมายความว่าไง กูนึกว่าพวกท่านรู้เรื่องเราแล้วเถอะ" มันยังข้องใจไม่หาย ข่าวที่ผมจูบกับมันก็ผ่านมาเกือบจะสองอาทิตย์แล้ว ถึงแม้ว่าพวกเราจะออกมายอมรับกับนักข่าวเมื่อวานเช้า แต่พวกท่านน่าจะสงสัยบ้างละ
"ก็ตอนแรกแก้ข่าวไปแล้ว แล้วพ่อกับแม่เขาก็เชื่อว่ากูโดนแกล้ง แต่เมื่อวาน..."
"อืม...เข้าใจแล้ว ไม่ต้องคิดมากหรอก เดี๋ยวกูจัดการเอง"
ให้ตายเถอะ...พอเห็นมันเครียดแล้วผมเกลียดตัวเองพิลึก ผมไม่อยากให้มันรู้สึกอะไรนอกจากมีความสุข เพราะผมอยากเอาความทุกข์ความเครียดของมันมาเก็บไว้เอง อย่างน้อยพอผมได้เห็นรอยยิ้มน่ารักของมัน มันก็ทำให้ผมหายเครียดแล้ว
"อีกแล้วนะ...ชอบจัดการคนเดียวอยู่เลย" คราวนี้มันยอมถอนหน้าออกแล้วกลับมาจ้องตาผมเขม็ง ก็รู้อะนะว่าไม่พอใจ แต่ผมก็ไม่พอใจที่เห็นมันเครียดเหมือนกัน
"มึงน่ะอยู่เฉยๆไปเถอะ เดี๋ยวกูจัดการเอง" ถึงภายนอกผมจะดูไม่เอาอ่าว และทำตัวไร้สาระไปวันๆ แต่ผมก็รู้ว่าควรทำอะไรต่อไป และไม่ควรทำอะไรต่อไป ดังนั้นอย่ากลัวไปเลยมึง...ว่ากูจะจัดการให้เราอยู่ด้วยกันไม่ได้ เพราะกูไม่มีทางยอมแน่
"แล้วมึงจะทำอะไร" คงยังกลัวสินะ
"ก็ทำตัวน่ารักๆให้แม่มึงหลงไง เสร็จแล้วก็รวบหัวรวบหางพ่อมึงซะเลย" ผมพูดติดตลกแต่กลับทำให้อีกคนหยิกผมจนเนื้อเขียวอีกครั้ง มันดุผมใหญ่ก่อนจะค้อนผมไปหลายขวับ
"โถ่ๆ อย่างอนดิ กูล้อเล่น ไม่เอาๆไม่เครียดนะ มาๆนอนกันเถอะ" ผมเลยรีบกดหน้ามันเข้าอกก่อนจะกอดมันแน่น
"กูรักมึงนะ"
"กูก็รักมึงไอ้ทิว"
แบบนี้สิ...ที่ผมอยากได้ที่สุด แค่มันกับผม...รักกันก็พอ
"น้องแวนครับ ยืนตรงนั้นเลยครับ ใช่ๆ ชิดๆกับพี่เขาหน่อย..."
ชิดๆกับพี่เขาหน่อยอย่างนั้นหรอ...ไอ้หอก
"ตี้ๆ นายจับไหล่น้องเขาเลย ใช่ๆแบบนั้นแหละ หนึ่ง สอง สาม"
แชะๆๆ (เสียงกดชัตเตอร์)
จับไหล่...งั้นหรอ
"เก็บอารมณ์หน่อยเถอะคุณทิว คุณแผ่รังสีซะน่ากลัวเชียว เดี๋ยวพวกเขาก็ทำงานอึดอัดหรอก"
"ผมไม่เผาสตูดิโอนี้ก็บุญแล้วเถอะ แล้วนายเองก็เหมือนกัน ใครให้รับงานแบบนี้วะ" ผมหันไปว่าไอ้ผู้จัดการหน้าหล่อของไอ้แวนก่อนจะหันกลับไปจ้องไอ้ตี้ที่ดูกรุ้มกริ่มกับไอ้หมาเล็กเหลือเกิน เห็นแล้วขัดตาชะมัด ยิ่งตอนนี้ไอซ์เลิกเป็นนักแสดงเพราะข่าวฉาวนั้นก็ทำให้ไอ้ตี้ดังเป็นพลุแตก แล้วงานต่างๆก็ตกเป็นของมัน ทำให้คนที่ต้องมาถ่ายกับแวนกลายเป็นมันไปด้วย แทนที่จะเป็นคนอื่น ส่วนนางแบบคนอื่นๆก็ดูไม่ค่อยน่าเป็นห่วง เพราะพวกเธอคงไม่งาบไอ้แวนแน่ ตอนนี้ผมเลยระแวงแค่ไอ้ตี้เท่านั้น
ยิ่งไอ้หมาเล็กมันใส่เสื้อกล้ามตัวบางกับกางเกงยีนสีเข้มแบบนั้น มันเล่นขับสีผิวขาวของมันออกมาเปล่งประกายดึงดูดสายตาทุกคนได้ดี ถึงมันจะตัวเล็กแต่กลับเซ็กซี่พิลึก ถ้ารู้ว่ามันต้องมาถ่ายแบบนี้นะ จ้างเป็นล้านผมก็ไม่ให้มาถ่ายหรอก
"อีกเซตจะถ่ายในอ่างน้ำนะคะ น้องแวนกับน้องตี้เชิญเปลี่ยนชุดเลยค่ะ" พอถ่ายเซตนี้เสร็จ เจ้าหน้าที่อีกคนก็เดินมาเรียกพวกมันไปเปลี่ยนชุด ส่วนผมก็ทำได้แค่คอยลุ้นว่ามันจะแต่งตัวแบบไหนออกมา แต่คำว่าถ่ายในอ่างน้ำนี้มันคงไม่ได้หมายถึงว่า...จะต้องแก้ผ้าหรอกนะ
!!!
ปรี๊ดเลยกู
"พี่ๆครับ ไอ้ที่บอกว่าถ่ายในอ่างน้ำนี่คือชุดอะไรหรอครับ" จะหาว่าผมเสือ.กผมก็ไม่สนแล้วเว้ย ถ้ามีใครเห็นหัวนมไอ้หมาเล็กล่ะก็...ตาย!
"ฮ่าๆ คุณทิวหึงน้องหรอคะ ไม่ต้องหึงหรอกค่ะ มีแค่น้องตี้เท่านั้นที่ต้องถอดเสื้อ ส่วนน้องแวนใส่เสื้อคะ"
เออ ให้เป็นแบบนั่นตลอดละกันมึง
"อ่าครับ ขอโทษที่รบกวนครับ" ผมยิ้มแหยให้พวกพี่ๆเขาก่อนจะหันไปดูฉากใหม่ที่เขากำลังจัด มันมีแค่อ่างน้ำสีขาวใบสวยกับเก้าอี้ทรงสูง พร้อมด้วยฝักบัวสุดคลาสสิค ผมมองแล้วก็เริ่มตะหงิดๆ เหมือนกับอ่างนั่นจะมีน้ำไหลได้จริงๆ
"ไอ้ทิว...." แต่แล้วคนที่ผมเฝ้ามาเกือบทั้งวันก็ร้องเรียกผมก่อนจะเดินเข้ามาหาพร้อมกับใบหน้าที่ดูอ่อนล้าเต็มทน ผมจ้องเสื้อผ้าชุดใหม่ที่ใส่แค่เสื้อเชิตสีขาวแต่ปล่อยชายจนปิดสะโพกมนกับกางเกงยีนตัวใหม่ที่ดูสวยกว่าตัวเก่า ผมเลยจับแขนน้องมันมาแล้วดึงมาใกล้ก่อนจะลูบแก้มใสเบาๆ
"เหนื่อยหรอ..." ใจจริงก็อยากจะพากลับห้องแล้วตอนนี้ แต่ไอ้ตัวเล็กมันคงไม่ยอมแน่
"เหนื่อยดิ...ไอ้ทิว นั่งตักมึงได้ปะ"
!!!
ว่าอะไรนะ!
เดี๋ยว ขออึ้งสามวิ
หนึ่ง สอง สาม
โอเค!
"มาสิ" ผมรีบดึงมันให้นั่งลงที่ตักก่อนแผ่นหลังเล็กจะทิ้งตัวลงมาอย่างสบาย ผมเลยค่อยๆบีบแขนมันเบาๆเหมือนช่วยนวดก่อนอีกคนจะขยับหมุนคอช้าๆ
"เหนื่อยขนาดนั้นเลยหรอ...อยากกลับมั้ย"
"อืม...อยากกลับแล้ว" มันเป็นอะไรเนี่ย อาการแปลกๆ แต่ถ้ามันเป็นแบบนี้เหมือนกำลังมีเรื่องไม่สบายใจเหมือนกับตอนที่โดนไอ้ไอซ์แกล้ง
"นี่อย่าบอกนะว่ามึงโดนแกล้งอีกแล้วน่ะ"
ไอ้สัดแม่ง! แฟนกูไปจองเวรอะไรกับพวกมึงนักวะ ถึงจ้องจะแกล้งแต่แฟนกู เดี๋ยวเถอะมึง เดี่ยวได้ตายยกกอง
"ปะ ป่าวหรอก กูแค่เหนื่อย" มึงอ้อนกูขนาดนี้แล้วคิดว่ากูจะเชื่อมั้ยเนี่ย มึงก็อย่างนี้ตลอด ใจดีเกินไป จนตัวเองเจ็บคนเดียว
"เห้อ...งั้นรีบๆถ่ายซะ เดี๋ยวกูพากลับอย่างไวเลย"
"อืม...ก็ได้" ถึงปากจะบอกแต่ตัวก็ยังไม่ยอมลุก มันเอาแต่นังพิงอกผมไม่ไปไหน จนคนมาครบแล้วมันถึงจะยอมไปถ่าย
ฉากนี้มันต้องเอาน้ำราดใส่ตัวจนเปียกชุ่มไปทั้งร่าง ก่อนเนื้อผ้าตัวบางจะแนบเนื้อมัน โดยมีนางแบบอีกคนกอดคอแล้วซบมันอยู่
ผมมองไปก็กัดฟันไป มันน่าอิจฉาจริงๆเว้ย
เมื่อเวลาผ่านไปนานพอสมควร งานถ่ายก็จบตัวลง ไอ้แวนเลยรีบวิ่งไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ห้องเปลี่ยนก่อนที่คนอื่นๆจะตามไป ผมเลยเดินตามไอ้หมาเล็กไปห่างๆก่อนจะเข้าไปหามันที่ห้องเปลี่ยนชุดห้องหนึ่ง แต่เพียงแค่ผมแง้มประตูเข้าไปผมก็ได้ยินเสียงคุยกันจ้อจนต้องหยุดฟัง
"แกเห็นรึป่าวที่มันนั่งบนตักพี่ทิวน่ะ ทำตัวร่านไร้อย่างอายขนาดนั้น ทุเรศจริง พี่ทิวไม่น่ายอมเป็นแฟนมันเลย"
อะไรวะ...ทำไมมีชื่อผมอยู่ในบทสนทนาด้วย แล้วไอ้ที่บอกว่าร่าน นี่มันเป็นใครวะ คงไม่ใช่อย่างที่กูคิดใช่มั้ย!
"มันคงแสดงตัวว่าเป็นเจ้าของพี่ทิวแน่ถึงทำหวงก้างแบบนั้น อย่างนี่มันน่าตบล้างน้ำสักสองสามทีซะดีมั้ยแก"
ชัดเลยกู...
"ใช่ๆแก...แต่สามทีนี่มันไม่หายสะใจนะ มันต้องหลายๆทีต่างหาก ฮ่าๆ" แล้วพวกเธอก็หัวเราะประสานเสียงกันลั่นห้อง แต่คนที่มันจะตบคือแฟนผมไม่ใช่หรอ แล้วตอนนี้แฟนผมก็อยู่ในห้องนี้ด้วยไม่ใช่รึไง แล้วทำไมถึงกล้าพูดแบบนั้น หรือว่ามันจงใจจะให้ไอ้แวนได้ยิน
มึงกล้ามากไอ้สวะ!!
"พอแล้ว! พวกพี่จะอะไรกันนักหนา อยากได้แฟนผมมากก็แย้งไปสิ ไม่ใช่มาด่าลับหลังแบบนี้ แต่ผมขอเตือนอย่างนะ ผมไม่ยกแฟนผมให้ป้าแก่ๆแบบพวกพี่แน่!"
กึก!
ไอ้แวนอาละวาดเว้ย!
แต่ผมดีใจจังมี่มันหวงผมแบบนั้น แล้วดูจะหวงมากซะด้วยสิ
ใช่ๆ ไอ้หมาเล็กของกูไม่แพ้ใครง่ายหรอกนะเว้ย
"กรี๊ดดดด!! นี่แกว่าพวกฉันแก่งั้นหรอ!!!" แต่แล้วพวกเธอก็กรี๊ดลั่นห้องการจะชี้หน้าด่าเหยงๆ แต่มันกลับมองด้วยสายตากวนตีนเหี้.ยๆในแบบฉบับของมันก่อนจะขยับปากเลียนแบบพวกหล่อน
"กรี๊ดๆ นี่แกว่าพวกฉันแก่งั้นหรอ!!! ก็เออสิวะ คิดว่าผมจะว่าพวกป้าว่าสาวมั้ยล่ะ...ป้า"
โห เล่นแบบนี้ใครเจอเข้าไปนี่ประสาทกินเลยนะ
"ขอตบสักทีเถอะอีเด็กบ้า!!"
ตบ!! เห้ย!!
เพี้ยะ!!
อึก!
"ไอ้ทิว!" เสียงฝ่ามือกระทบลงกับแก้มผมเสียงดังลั่น ก่อนหน้าผมจะสบัดอย่างแรง มันเล่นเอาขมปากเลยทีเดียว
นี่ต้องทำกันถึงขนาดนี้เลยรึไง!
"พี่ทิว! หนูไม่ได้ตั้งใจจะตบพี่นะคะ!" เจ้าหล่อนวิ่งมาหาผมอย่างตกใจก่อนจะพยายามดูรอยตบนั้น แต่ตอนนี้ผมรู้สึกโกรธมาก...นี่ถ้าผมวิ่งมาบังไอ้แวนช้าไปเพียงแค่เสี้ยวนาทีเดียว แก้มใสๆนั่นต้องเจ็บเหมือนผมรู้สึกตอนนี้แน่
"กูให้เวลาพวกมึงหนึ่งวินาที ออกไปให้พ้นหน้ากู!!"
"แต่...แต่พวกเราไม่ผิดนะคะ มันมาว่าพวกเราก่อนนะ" ยังจะกล้าแก้ตัวอีก นี่พวกมึงไม่กลัวตายกันใช่มั้ย!
"กู บอก ให้ ออก ไป!" คราวนี้ผมเน้นเสียงเย็นก่อนจะตวามคำท้ายเสียงดังลั่น พวกหล่อนเลยตกใจรีบวิ่งหนีออกจากห้องไป ผมมองตามแผ่นหลังเล็กนั่นก่อนจะจับกรามตัวเองแน่น
เจ็บชิบหาย...ผู้หญิงนี่น่ากลัวสัด
"เจ็บมั้ยมึง" พอในห้องเหลือแค่เราสองคน มือเล็กก็เอื้อมมาจับหน้าผมให้หันไปหาก่อนมันจะสำรวจแก้มผมจนถี่ถ้วน
"แดงเลยอะ..." ตาเฉี่ยวมันโตก่อนจะฉายแววโกรธอย่างเห็นได้ชัด ผมเลยต้องรีบเปลี่ยนเรื่องให้มันเลิกคิด
"มึงก็หอมทับสิ เดี๋ยวก็หาย" ผมยิ้มกริ่มใส่มันจนใบหน้าสวยเริ่มขึ้นสี แต่มันก็ยอมเขย่งตัวขึ้นให้สูงเท่าแล้วกดจมูกโด่งรั่นนั่นลงมา
ฟอด ฟอด
"ให้สองทีเลย หายเจ็บยัง"
หึๆ
"โคตรจะหายเลยวะ" ผมรั้งเอวบางเข้ามาใกล้ก่อนจะฉกจูบจนหนำใจ
ชื่นใจวะ
"พอแล้วมึง เดี๋ยวมีคนมาเลย" มันใช้มือดันคางผมออกก่อนจะเบี่ยงหน้าหนีอย่างเขินอาย แก้มใสนี่แดงเถือกเลยครับ แม่.งน่ารักจริงๆ
"แล้วจะกลับยัง"
"คือว่า...มึงอยากไปเจอพ่อกับแม่กูมั้ย" อยู่ๆมันก็ถาม เล่นเอาอึ้งไปเหมือนกัน
หะ!
"ไปได้หรอวะ" น้ำเสียงมันดูกังวลชะมัด นี่อย่าบอกนะว่าเกิดเรื่องขึ้นอีกแล้วเนี่ย
"ก็...ไปได้อะนะ"
"แล้วพ่อกับแม่มึงรู้เรื่องเราแล้วหรอ"
"รู้แล้ว...มั้ง" อ่าว ทำไมพูดอย่างนั้นวะ ผมขมวดคิ้วทันทีที่ได้ยินแบบนั้น มันเลยรีบพูดต่อ
"กูแค่...อยากให้เขารู้สักที"
แปลกๆวะ
"แล้วพวกท่านว่าไง" คงไม่ใช่มากีดกันเหมือนในละครหรอกนะ
"ก็ไม่เห็นว่าไง" พวกท่านไม่ว่าอะไร แต่หน้ามึงนี่สลดสุดๆเลยวะ
"เอาดีๆสิมึง กูจะได้ทำตัวถูก"
"เอาหน่า...เดี๋ยวก็รู้เองและ" มันบอกแค่นั้นก่อนจะเดินไปคว้ากระเป๋าตัวเองแล้วเดินนำออกไป
อะไรกันวะ ถ้าผมโดนแยกกับมันอีกครั้งนี่ผมจะไม่ทนจริงๆนะ พูดเลย!
ผมขับรถอยู่นานจนเกือบชั่วโมงก็มาถึงบ้านมัน แต่ดูอีกคนจะกังวลและเครียดไม่น้อย ผมก็ไม่รู้จะปลอบยังไงแล้วด้วย เพราะแค่ตัวผมเองก็เครียดจนไมแกรนจะขึ้นสมองอยู่แล้วเนี่ย
"ไอ้ทิว...ถ้าสมมุติว่า..."
สมมุติไรวะ อย่าตัดคำดิ
"อะไรวะ"
"เออ ถ้าเกิดอะไรขึ้น...มึงจะฉุดกูหนีแบบตอนแรกป่าววะ" คำถามมันเล่นเอาผมอึ้งไปหลายวิเชียวล่ะ แล้วดูเหมือนจะไม่ใช่คำถามเล่นๆด้วย
"แล้วมึงอยากให้กูฉุดป่าวละ"
แค่มึงบอกว่าอยาก...กูจะฉุดมึงให้ได้ แม้มึงจะอยู่บนดาวอังคาร กูจะไปพามึงมาอยู่กับกูให้ได้
"ถ้าอย่างนั้น...มารับกูเร็วๆนะ อย่าให้กูต้องร้องไห้รอมึงคนเดียวนะ"
อึก...ร้องไห้รอผมงั้นหรอ
ตกลงมันจะเกิดอะไรขึ้นวะ ทำไมมันดูมืดมนขนาดนี้ ตกลงแล้ววันนี้มันพาผมมาที่บ้านมันเพราะอะไร อย่าบอกนะว่าผมต้องทุกข์อีกแล้ว
คงจะเป็นกูเองแล้วละ...ที่ต้องเป็นคนร้องไห้
"สัญญาสิ...จะไม่ทำให้กูต้องรอมึงนาน"
อะไรกันวะ
"สัญญาสิวะ กูจะไปรับมึงให้เร็วที่สุด ไม่ให้มึงต้องรอนานแน่ๆ"
"อืม แค่นี้ก็พอแล้ว" แล้วมันก็ลงจากรถไปเลยครับ ผมเองก็ยังคงงงอยู่ แต่ก็ต้องยอมตามอีกคนเข้าไป
"น้องแวน...กลับมาแล้วหรอลูก" พอผมเดินตามเข้าไปในบ้านได้ผมก็ได้ยินเสียงหวานทักทายมันอย่างคิดถึงก่อนผมจะเห็นหญิงสาวแสนสวยที่ผมว่าน่าจะเป็นแม่ของมันแน่ ท่านกำลังโอบกอดมันก่อนจะหอมแก้มนุ่มอย่างคิดถึง
"ครับแม่ แล้วพ่อละครับ" มันถามก่อนจะมองขึ้นไปบนชั้นสอง
"อาบน้ำอยู่จ๊ะ อ่าว...นั่นแฟนน้องแวนใช่มั้ย สวัสดีจ๊ะน้องทิว"
น้องทิว!!!
เดี๋ยวนะ...ทำไมดูใจดีกับผมขนาดนั้น
"สวัสดีครับคุณน้า" ผมยกมือไหว้ท่านก่อนร่างบางจะเดินเข้ามากอดผมแน่น
"ได้เจอสักทีนะ"
เออ...มันอะไรกันวะ
"เออครับ" ผมยิ้มรับคำทักทายแสนอบอุ่นนั่นก่อนบุคคลสำคัญที่สุดในบ้านจะร้องหาลูกชายของตัวเอง
"แวน...กลับมาแล้วหรอลูก"
"หวัดดีครับพ่อ" แล้วน้องมันก็เดินเข้าไปหาท่าน ก่อนร่างหนาจะกอดไอ้แวนแนบอก
"ไม่กลับบ้านเลยลูก พ่อไม่มีคนดูบอลด้วยเลยเนี่ย"
"นี่ไงๆ วันนี้ก็ให้น้องทิวดูเป็นเพื่อนสิคุณ"
อย่าเพิ่งแสดงตัวผมให้คุณพ่อท่านรู้สิครับแม่ ผมกลัวนะ
เออ...แต่คงไม่ทันแล้วล่ะ
"สวัสดีครับ" ผมยกมือไหว้ท่านอีกครั้งก่อนจะยิ้มอย่างนอบน้อม
ผมเริ่มเข้าใจความรู้สึกกังวลที่ไอ้แวนรู้สึกตอนเจอแม่ผมแล้วละ
"สวัดดี...แล้วเป็นแฟนเชียร์ทีมไหนล่ะ" เสียงท่านดูเข้มกว่าตอนที่คุยกับไอ้แวนมากเลยครับ ผมนี่เกร็งไปทั้งตัว ผมเลยรีบตอบคำถามท่านตามความจริงโดยลืมคิดผลที่จะตามมา
"ผมเด็กผีครับ" แต่พอผมตอบ ท่านกลับขมวดคิ้วอย่างไม่ชอบใจ เล่นเอาใจผมสั่นขวั่นแขวนไปหมด
อย่าบอกว่าพ่อเด็กหงส์นะเว้ย
ซวยแล้วมึงไอ้ทิว...แค่เริ่มก็แป่วแล้ววะ
แต่แล้วท่านกลับร้องเออเสียงลั่นบ้านก่อนจะชวนผมด้วยสีหน้าเปื้อนรอยยิ้ม
"เออ! ให้ได้อย่างนี้สิ! คืนนี้นอนที่นี่นะ มาดูบอลเป็นเพื่อนพ่อหน่อย"
!!!
ไอ้เหี้.ย!! กูเกือบหัวใจวาย!
++++++++++++++++++++++++++++++
131214
ขอสามคำสำหรับเรื่องนี้(ตอบไรท์ด้วยนะ)
ไรท์ขอตอบก่อน : จะ จบ แล้ว
กรี๊ดดดดดดดด สามคำนี้สุดยอดเลย5555 เจอกันคร้า
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ