CatWalk “กูจะดังให้มึงจำ”

9.8

เขียนโดย nooonaa

วันที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2556 เวลา 22.54 น.

  35 ตอน
  17 วิจารณ์
  58.28K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2556 23.03 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

32) Catwalk 30 : หมาบ้า

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

By nooonaa

 

 

 Catwalk 30 : หมาบ้า

 

+น้องหมาเล็ก+


กูจะไม่ทนแล้วเว้ย!!!

"คุณนายครับ..."

อย่า!!! ใจเย็นไว้ไอ้แวน มึงอย่าทำอะไรรุนแรงนะ...เว้ย นั่นมันมาม๊าของแฟนมึง ท่องไว้!

แต่มาม๊าคนนี้ที่ผมคิดว่าจะไม่หือกลับพูดคำใหญ่ใส่ผมอีกครั้ง

"เริ่มรู้จักที่ต่ำที่สูงแล้วสินะ หึ"

หึ...ยิ่งใหญ่มากสินะ

งั้นก็จบเพียงแค่นี้แหละ!

"คุณนายเกลียดผมหรอครับ..." เอามันตรงๆนี่แหละ ถ้าเกลียดก็บอกมาเลย อย่ามาพูดจากระแทกแดกดันใส่กันแบบนี้ เพราะมันไม่เหมือนผู้ดีเขาทำกันสักนิด

"รู้ตัวนี่ย้ะ"

รู้ตัวสิ ก็เล่นพูดซะขนาดนั้น

"ที่เกลียดผม เพราะว่าผมจน หรือเพราะผมแย่งความรักของพี่ทิวไปจากคุณนายครับ" พอผมพูดแบบนั้นออกไป นายหญิงของบ้านก็ดูอึ้งไปพักใหญ่ สงสัยคำพูดของผมคงจะไปจี้จุดถูกสินะ ถึงดูเกลียดกันมากขนาดนั้น

"เด็กไร้มารยาท เธอกล้าพูดอย่างนั้นกับฉันได้ยังไง!" เสียงมาม๊าเริ่มปรี๊ดแตก แถมภายในบ้านก็ก้องจนแสบแก้วหู ไอ้ทิวเองก็หน้าเหวอใหญ่เมื่อม๊ามันเริ่มโกรธผมมากกว่าเดิม แต่ผมยังคงนิ่งไม่กล่าวคำขอโทษหรืออะไรออกไป ร่างสูงเลยกอดร่างบางด้านข้างแน่นก่อนจะปลอบให้ใจเย็นลงแทน

"ม๊าครับ อย่าอารมณ์เสียสิครับ"

"แต่มันว่าม๊านะอาทิว!" แล้วใครใช้ให้คุณมาด่าผมก่อนล่ะ แต่เท่าที่ดู...คงไม่คิดถึงความผิดตัวเองสินะ

หึ...เนี่ยอะนะคนรวย

"ผมไม่ได้มีเจตนาจะว่าคุณนายนะครับ แต่ผมอยากจะบอกคุณนายตรงๆ ว่าผมไม่เคยคิดจะแย่งความรักของคุณนาย เพราะความรักที่พี่ทิวมอบให้คุณนายกับผมมันไม่เหมือนกัน พี่ทิวรักคุณนายยิ่งกว่าชีวิต แต่ผมมันก็แค่ความรักที่เข้ามาทำให้ชีวิตพี่ทิวมีสีสัน มันเทียบไม่ได้หรอกครับ ดังนั้นอย่างห่วงเลยครับ...ว่าผมจะทำให้พี่ทิวเลิกรักคุณนาย"

มันคงเป็นความรู้สึกที่คนเป็นแม่รู้สึกว่าจะมีคนมาแย่งความรักของลูกชายคนเดียวของตัวเองไป ถึงดูหวงขนาดนั้น ดังนั้นผมต้องอธิบาย ว่าผมแค่ส่วนหนึ่ง แต่ไม่ใช่ทั้งหมดในชีวิตของไอ้ทิวเหมือนกับเขา...แม่บังเกิดเกล้า

"แล้วก็ได้โปรดเถอะครับ...อย่าเกลียดผมเลย เพราะผมไม่อยากให้พี่ทิวเกลียดผม ตามคนที่เขารักมากที่สุด...อย่างคุณนาย"

"ไอ้แวน...หยุดพูดได้แล้ว" แต่ดูท่าอีกคนจะเริ่มไม่พอใจผมแทน มันขึ้นเสียงห้ามไม่ให้ผมพูดต่อก่อนจะหันไปดูแม่มันอีกครั้ง แต่ใจผมนี่สิ...มันเริ่มรู้สึกน้อยใจขึ้นมาทันที เมื่อมันไม่เข้าใจในสิ่งที่ผมทำ...ที่ผมทำเพื่อมัน

แล้วมันก็คงจริงสินะ ที่มันจะเลือกแม่แท้ๆ...มากกว่าผม

ผมมองสองคนตรงหน้าด้วยหัวใจที่สั่นแปลกๆเมื่อรู้สึกว่าตัวเองเป็นส่วนเกิน ถึงแม้ไอ้ทิวจะพยายามอธิบายให้แม่มันเข้าใจ แต่ท่านก็เอาแต่เงียบแล้วไม่หันมามองหน้าผมสักนิด

ท่านคงเกลียดผมแล้วจริงๆ

ถ้าอย่างนั้น...ผมควรจะไป ส่วนเรื่องระหว่างผมกับไอ้ทิว คงต้องรอคุยกันต่อไป

ผมเลยตัดสินใจลุกขึ้นยืนต่อหน้าท่านก่อนจะยกมือไหว้ ไอ้ทิวก็มองผมงงๆแต่ก็ไม่พูดอะไร. จนผมพูดออกมานั่นแหละ มันถึงจะเอ่ยรั้งผมไว้

"ผมขอโทษที่เสียมารยาทนะครับ ผมลาละครับ"

"แวน! จะไปไหน!" ผมชะงักเท้าไว้เมื่อมันเอ่ยถาม ผมเลยหันไปหาอีกคนก่อนจะชำเรืองมองที่มาม๊าอีกครั้ง

"ไปรอที่คอนโดนะ" ผมยิ้มให้มันเพื่อบอกว่าผมไม่เป็นอะไรก่อนจะยกมือไหว้ท่านอีกครั้ง แต่ยังไม่ทันที่ขาผมจะก้าวออก เสียงหวานไพเราะก็เอ่ยกับผมอย่างใจดี

"วันนี้ม๊าจะทำขนมจีบปูของโปรดพี่ทิว น้องแวนจะช่วยม๊าทำมั้ย"

!!!

ว่าอะไรนะ!

ผมหันกลับไปฟังอย่างไม่เชื่อหูก่อนจะหันไปมองหน้าอีกคนที่ยิ้มระรื่นเหมือนกัน อ้อมกอดแกร่งเลยกระชับเอวบางให้แน่นก่อนจะหอมแก้มซ้ายแก้มขาวนิ่งอย่างออดอ้อน

"ขอบคุณนะครับม๊า" พอเจอลูกอ้อนลูกชายตัวเองก็เล่นเอาแก้มใสยิ้มแฉ่งอย่างชอบอกชอบใจก่อนจะควักมือเรียกผมให้เข้าไปใกล้ แต่ผมยังชั่งใจอยู่เล็กน้อยแต่ก็ยอมเดินเข้าไปหา

"น้องแวน...ม๊าขอโทษที่พูดแรงนะ "

"ไม่เป็นไรครับ ผมก็ขอโทษคุณนายด้วย ที่ผมเถียง" รู้สึกดีพิลึก เพราะท่านเหมือนจะเอ็นดูผมมากขึ้น

"เรียกมาม๊าเลยน้องแวน เวลาหนูเรียกม๊าแบบนั้นแล้วน่ารักดี"

น่ารักงั้นหรอ

"ครับ" ผมยิ้มหวานส่งให้ท่าน

"ถ้าอย่างนั้นไปทำอาหารเย็นกันเถอะ ม๊าอยากจะทำความรู้จักกับสะใภ้ม๊า" แล้วมือเล็กก็ดันหัวไอ้ทิวออกจากอกเหมือนไม่ใยดีก่อนจะเดินมาคว้ามือผมไปกุมแล้วพาเดินเข้าไปทางห้องครัว ผมหันกลับไปมองอีกคนให้เดินตามมาแต่มันกลับเอาแต่กอดอกมองผมแล้วยิ้มให้

เหมือนกับมันโล่งใจ

สำเร็จแล้ว...มาม๊าเขาไม่ได้เกลียดกูแล้วนะไอ้ทิว

ไม่ต้องเป็นห่วงนะมึง

"รู้มั้ยว่าพี่ทิวชอบกินขนมจีบปูมากเลยนะ พอวันนี้ป๊าบอกจะมา ม๊าเลยรีบเตรียมของไว้รอ แล้ววันนี้น้องแวนอยากกินอะไร ม๊าถามป๊าแต่ป๊าบอกไม่รู้ว่าหนูชอบกินอะไร ม๊าเลยไม่รู้จะทำอะไรให้ กะรอน้องแวนมาแล้วม๊าค่อยถาม"

เอ๊ะ!...แปลกๆนะ เหมือนท่านจะรู้อยู่ก่อนว่าผมจะมา แล้วก็ดูไม่ได้เกลียดผมเลยสักนิด ถ้าดูจากคำพูดของท่านแล้ว งั้นแสดงว่าก่อนหน้านี้ ท่านแกล้งผมหรอ

"มาม๊าไม่ได้เกลียดผมหรอครับ" ปากผมไว้กว่าสมองอีกแล้ว พอคิดว่าตัวเองอยากจะรู้ก็เอ่ยปากถามไม่คิด ร่างเล็กพอได้ฟังคำถามผมก็ชะงักเล็กน้อยก่อนจะเดินมาทางผม มือเล็กทั้งสองข้างประกบใบหน้าผมไว้ก่อนจะโน้มลงมาให้ต่ำ เพื่อท่านจะได้หอมแก้มผมได้ถนัดมากขึ้น

"น้องแวนน่ารักขนาดนี้...ม๊าจะเกลียดหนูลงได้ยังไง"

จริงหรอ

"ก็มาม๊าพูดแบบนั้น ผมเลยคิดว่ามาม๊าไม่ชอบผม" ถ้าบอกว่านั่นคือบทที่เตรียมมา ผมได้ได้คำเดียว มาม๊าเล่นเก่งกว่านักแสดงละครอีก

"น้องแวนเนี่ยนะ จิตใจดีอย่างที่พี่ทิวบอกจริงๆด้วย ถึงจะโดนแกล้งขนาดไหนก็ยังคงพูดดีๆและไม่อาละวาด แบบนี้จะอยู่ในวงการมายานี่ได้ยังไงกัน"

โถ่ม๊าครับ ตอนแรกผมก็กะเสยปากมาม๊าไปหลายรอบแล้วล่ะ แต่เห็นว่าเป็นแม่แฟนหรอก ถึงยอมอ่อนให้

"ทุกคนดีกับผมมาก ผมไม่เป็นอะไรหรอกครับ" ผมยิ้มรับเหมือนมันจะไม่มีอะไรที่ไม่ดีเกิดขึ้นแน่ ทั้งๆที่ในใจก็เหนื่อยเต็มทนอยู่แล้ว ผมอยากจะมีชีวิตแบบคนอื่น ที่มีแค่ผมกับครอบครัว

"ถ้าคิดแบบนั้นก็ดีไป แต่ถ้าไม่ไหวก็เลิกทำซะนะ ม๊ากับพี่ทิวดูแลน้องแวนได้"

น่ารักจัง

"ขอบคุณนะครับที่กรุณาผม" ผมโผเข้ากอดร่างบางแน่นก่อนมือเล็กจะลูบหัวผมไปมาอย่างเอ็นดู

นี่ผมโชคดีจริงๆที่ได้เจอพวกท่าน

ขอบคุณนะไอ้ทิว...ที่ให้กูมารู้จักครอบครัวของมึง

"เอาล่ะๆ มาทำขนมจีบกันดีกว่า เดี๋ยวจะไม่ทันอาหารเย็นเอา" มาม๊าดันตัวผมออกก่อนจะบอกให้ผมไปล้างมือแล้วมาช่วยท่านห่อขนมจีบ ตอนแรกผมก็ทำไม่ได้หรอก แต่พอนานไปมันก็ชินมือ แถมตอนสุดท้ายมีการเอาไข่แดงของไข่เค็มมาตกแตกหน้าขนทจีบตอนท้ายด้วย นี่มันน่ากินกว่าร้านดังอีกเนี่ย

"แล้วตกลงน้องแวนอยากกินอะไรลูก" ผมน่ะหรอ...ไม่รู้สิ

"อะไรก็ได้ครับ ผมทานได้หมด"

"เอาสักอย่างสิ ช่วยม๊าคิดหน่อย"

"ถ้าอย่างนั่นผมเอาบัวลอยไข่หวานได้มั้ยครับ ผมชอบ" ผมอ้อนขอเสียงหวานก่อนจะตรงเข้าไปซบไหล่เล็กจากด้านหลัง ท่านเองก็หัวเราะคิกคักชอบใจก่อนจะบอกให้ผมขึ้นไปหาไอ้ทิวได้ ผมเลยเดินออกมาจากห้องครัวก่อนจะงงเป็นไก่ตาแตกกลางบ้าน

แล้วมันอยู่ไหนวะ ใครก็ได้...เอาจักรยานมารับผมไปส่งห้องมันที ใหญ่เป็นบ้า

ผมเดินวนหาจนทั่วก็ยังไม่เจออีกคน เลยตัดสินใจโทรหามัน มันก็หัวเราะใหญ่ก่อนจะลงมารับผมขึ้นไปบนห้อง

"โตเป็นควายแล้วเถอะ มึงยังหลงอีกเนอะ" แหม...ปากมึงนี่สร้างสรรค์เนอะ ทำอย่างกับกูเคยมาบ้านมึงอย่างนั้นแหละ งั้นมึงต้องเจอกูไม้นี้

หมั่นไส้

"กูโป้งมึงไอ้ทิว" ผมยกนิ้วโป้งให้มันไปทีก่อนจะเดินหนีเข้าห้องน้ำไป มันก็ร้องเหวอใหญ่ก่อนจะวิ่งตามมาง้ออยู่หน้าประตูห้องน้ำ ผมฟังเสียงมันง้อแล้วก็อดขำไม่ได้ สมน้ำหน้า ขอบว่ากูดีนัก

ปังๆ

"ไอ้แวนๆ ออกมาคุยกับกูก่อน.."

เรื่อง!

ผมเหลือบมองห้องน้ำบ้านมันที่ใหญ่กว่าห้องนอนผมก็แทบกลืนน้ำลายลงคอไม่ได้ ยิ่งเมื้อกี้ที่เข้ามาในห้องมันก็ดูใหญ่กว่าบ้านผมทั้งหลัง ก็อย่างนี้แหละนะ คนเขารวยจริง

ผมตัดสินใจอาบน้ำล้างกลิ่นเหม็นในครัวออกเมื่อเห็นผ้าขนหนูว่างที่ชั้นในห้องน้ำนั้น อาบไปพลางฟังเสียงง้อไปพลาง มันก็ดีเนอะ...แค่ยกนิ้วโป้งก็กลายเป็นหมาบ้าไปเลย เห่าไม่เลิกอยู่นั่นแหละ

ปังๆ

"ไอ้แวน...อย่าโป้งกูดิ กูใจไม่ดีนะ" เชอะ..ทีมึงล้อกูล่ะไม่คิดนะ

"....."

"มึงโป้งกูมาสิบนาทีแล้วนะ อีกนาทีก็ต้องช็อคตายแน่เลย มาเกี่ยวก้อยกันนะ" เว่อร์ไปและมึง แค่สิบนาทีทำตัวจะเป็นจะตาย กูละเหลือเชื่อมึงจริงๆ

พอผมอาบเสร็จก็นุ่งผ้าขนหนูช่วงล่างก่อนจะเดินออกไปข้างนอก แต่พอมันเห็นผมออกมาตามันก็จ้องหน้าอกผมไม่ว่างตา แถมยังเลียปากแผลบจนน่าตบกะโหลกให้ร้าวจริง

"อยากฟัดนมกูรึไง มองหื่นขนาดนั้น!" ผมผลักอกมันให้หลบไปก่อนจะเดินผ่านมัน แต่อีกคนก็เดินตามเหมือนหมาถูกทิ้งก่อนจะคว้าแขนผมให้หยุดเดิน ก่อนจะยกนิ้วก้อยขึ้นมาตรงหน้า

"มาดีกันนะ"

"ง่ายไปปะ" มาล้อแล้วก็มาดีกันง่ายๆ ฝันไปเถอะมึง แกล้งมึงแบบนี้มันสนุกดีวะ ฮ่าๆ สะใจกู

"แต่กูไม่ชอบให้มึงโป้งกูนี่หว่า มันเหมือนกูจะไม่ได้สัมผัสมึงอะ"

หือ...ดูมันพูดดิ ส่อความหื่นชัดๆ

"อยากให้ดีกันใช่ปะ"

"อืมๆ เกี่ยวก้อยกันนะมึง" เสียงมันอ้อนได้น่าเตะมากเถอะ แต่ถึงจะน่าเตะ แต่มันก็น่ารักสำหรับผมยังไงไม่รู้

"งั้นมาเช็ดตัวให้กูก่อน" ผมหันไปยืนประจันหน้ากับร่างสูงก่อนเจ้าตัวจะวิ่งไปหยิบผ้าขนหนูผืนเล็กมาแล้วค่อยๆเช็ดตัวผมให้แห้ง

แต่สายตามันดูเป็นประกายยังไม่รู้เหมือนกับ...อยาก

"อยากอ่อมึง" ผมดันหน้ามันให้ขึ้นมาสบตาก่อนมันจะยิ้มแล้วส่ายหัวให้

ปากแข็ง ก็เห็นอยู่ว่าอยากขนาดนี้

เดี๋ยวมึงเจอกู

"ไม่สนใจหรอ...ตรงนี้อะ" ผมเลยจงใจแกล้งขี้ไปที่หน้าอกของผม ของชอบมันครับ เจอตรงนี้ทีไรหูนี่ตั้ง หางนี่กระดิกอย่างกับเจอทองคำ ผมเห็นตามันเริ่มเยิ้มก่อนลำคอสวยจะกลืนน้ำลายลงเอื้อกก็เล่นเอาผมกลั้นยิ้มไม่อยู่

อยากให้มันหลงผมแบบนี้ตลอดไปจัง

อย่างนี้ต้องให้รางวัล

"ให้หอม...เอาปะ" ผมถามเสียงยั่วก่อนจะถอยหลังออกห่างให้มันเห็นชัดๆ

"จริงดิ!" น้ำเสียงมันดูตกใจสุดขีดที่ได้ยินผมพูดแบบนั้น ผมเลยพยักหน้าอนุญาตก่อนร่างสูงจะรีบผวาเข้าหาแล้วดันร่างผมให้ล้มลงไปนอนราบกับเตียง

"แค่หอมนะ ฟอดเดียวพอ" ถ้าใครมาเห็นผมสภาพนี้ต้องบอกว่าผมเป็นเด็กใจแตกแน่ แต่ไอ้ทิวมันไม่เคยจะล่วงเกินผมเลยนะ มันจะรอให้ผมเริ่มไม่ก็อนุญาตมันก่อน มันถึงจะกล้าทำ ผมเลยต้องให้อาหารเสริมมันแบบนี้

"ฟอดเดียวเองอ่อ มันไม่หายชื่นใจอะ" ดูๆ มีต่อรองด้วย ชักจะเอาใหญ่แล้วนะ

"งั้นให้เลือก...จะหอมตรงนี้ หรือจะจูบตรงนี้" ผมเลยชี้ไปที่หน้าอกตัวเองแล้วก็เลื่อนมาทีปาก มันนี่จ้องตาโตใหญ่ก่อนจะลูบริมฝีปากผมเบาๆ

"จูบก็ได้..."

หึ คิดว่าจูบแล้วมันจะดีกว่าหรอ

"จูบนี่แค่แตะนะ ห้ามเอาลิ้นเข้าไป"

ฮ่าๆ แกล้งมันนี่ตลกชะมัด ตามันโตปากมันเหวอเลยครับ เจอเข้าไปแบบนี้คงปวดหัวแน่ สมน้ำหน้า ชอบทำตัวให้น่าหมั่นไส้เองนะ

"แค่แตะเองอ่อ แล้วมันจะพอได้ไงอะ"

"นั่นก็เรื่องของมึง จะทำก็ทำ ไม่ทำก็ลุกไป กูจะไปแต่งตัวแล้ว" แต่พอผมทำเป็นไม่สนใจมัน มันก็มองผมตาละห้อยใหญ่ เหมือนต้องการสื่อว่าเสียใจมาก ตอนแรกก็ไม่คิดอะไรนะ แต่พอเจอเข้าไปแบบนี้...ชักสงสารแล้วสิเนี่ย

"เลิกมองกูแบบนั้นได้แล้ว"

"ก็กูตัดสินใจไม่ได้นี่ มันอยากทั้งสองอย่างอะ"

หึๆ ไอ้หมาใหญ่น่ารักจัง

"ก็ได้ๆ ถือว่ามึงน่ารักหรอกนะถึงยอมอะ"

"จริงหรอ" เสียงใสมาเชียว

ผมเลยดันมันออกจากตัวก่อนจะคร่อมขึ้นตัก มือใหญ่ก็ลูบหลังผมไปมาก่อนจะค่อยเลื้อยลงไปที่บั้นท้าย

สงสัยจะอยากมาก

ผมเชยคางแหลมให้เงยขึ้นเล็กน้อยก่อนจะค่อยๆเคลื่อนหน้าลงไปหา จนตอนนี้ปากผมเฉียดกับริมฝีปากบางนิ่มไปมาอย่างจงใจ แต่พอผมทำท่าจะกดประทับจูบลงไปจริงๆ เสียงเคาะประตูที่หน้าห้องก็ดังขัดในเสี่ยววินาทีเดียว

ปังๆ

"นายน้อยคะ คุณท่านให้มาตามนายน้อยลงไปทานอาหารเย็นค่ะ"

ผมผละออกจากมันอย่างตกใจก่อนจะมองอีกคนนิ่ง ไอ้ทิวนี่ล้มซบกับเตียงก่อนจะร้องซี๊ดแล้วจิกเตียงแน่นเหมือนกับค้างสุดๆ ร่างสูงเลยรีบวิ่งไปที่ประตูก่อนจะเปิดออกอย่างแรง

"มึง.... ตาย!!!!"

พรึบ!!

"กรี๊ดดดด! นายน้อย!!!"

พอได้ยินเสียงกรี๊ดลั่นบ้านผมก็รีบวิ่งไปแต่งตัวก่อนจะตามไอ้ทิวไปดูที่ประตูห้องทันที เสียงกรี๊ดยังคงดังต่อเนื่อง ก่อนผมจะเห็นร่างสูงอุ้มร่างบางที่มาขัดแล้ววิ่งลงไปข้างล่างอย่างไว ผมวิ่งตามอย่างหอบเหนื่อยจนมาสมทบกับมาม๊าที่วิ่งมาดูเพราะความตกใจเหมือนกัน ก่อนไอ้หมาบ้าจะเหวี่ยงร่างบางลงไปที่สระน้ำอย่างแรง

ตู้ม!!

"กรี๊ดดดด//เห้ย!!//อาทิว!!!"

"สมน้ำหน้า!! ขัดกูดีนัก!!! อารมณ์เสียเว้ย!!! กูค้างเว้ย!!"

เสียงตะโกนลั่นบ้านใส่ร่างบางที่ถูกเหวี่ยงสระก่อนมันจะทึ้งหัวตัวเองจนแทบจะหลุดออกมาทั้งหัว มาม๊าเองก็ตกใจใหญ่ ท่านเข้ามากอดแขนผมแน่นก่อนจะพึมพำกับภาพตรงหน้า

"ลูกชายม๊าบ้าไปแล้ว"

ท่าจะจริงครับม๊า

"พี่ทิว..." ผมเลยรีบไปดึงอีกคนให้หยุดทึ้งหัวตัวเองก่อนจะรีบลากเข้าไปในบ้าน ทุกคนในบ้านนับสิบชีวิตที่ยืนดูพวกเราอยู่ก็ตกใจไม่แพ้กันจนมาม๊าต้องไล่กลับไปทำงาน ก่อนท่านจะบอกให้ผมช่วยจัดการไอ้ทิว ผมพยักหน้ารับก่อนจะหันมาดูอีกคน

"พอแล้วน่า อะไรมันจะขนาดนั้น" ผมประกบหน้าอีกคนให้มองหน้ากันจนมันยอมนั่งนิ่ง

"กูค้าง! มึงได้ยินมั้ย!!"

ชัดเลยมึง

"จะค้างอะไรขนาดนั้น เดี๋ยวกินข้าวเสร็จค่อยมาต่อก็ได้"

"จริงหรอวะ!!" ตามันโตเท่าไข่ห่านเลยครับ ผมเห็นท่าทางแบบนี้แล้วอดขำไม่ได้ มันคงค้างจริงถึงดูบ้าขนาดนี้ เพราะกว่าผมจะยอมให้มันแตะทีก็รอกันนานจนเหงือกแห้งเลยทีเดียว แล้วตอนนั้นมันคงจะเป็นโอกาสเลยทำให้มันรู้สึกเสียดายมั้ง

"เออดิ แล้วจะเลิกโวยวายได้ยัง"

"ได้ยินป่าวลูกพ่อ เดี๋ยวกินข้าวเสร็จแม่มึงจะยอมให้พ่อกระดื้บนะ"

!!!

"ไอ้ทะลึ่ง!!" พูดกับเป้าตัวเองได้ด้วย

บ้าไปแล้ว! มึงจะอยากอะไรขนาดนั้นวะ!

 

+++++++++++++++++++++++++++++++
131210


ตอนนี้แปลกๆปะ แต่อยากหวานให้รีดเดออ่าน เพราะดีใจที่เม้นให้ตอนที่แล้วเยอะมากๆ เยอะสุดในประวัติศาสตร์ เรื่องจริง ห้าๆ ดีใจนร้า ขอบคุณคร้า

ปล. มันจะจบแล้วนะ แล้วก็จะต่อเรื่องพี่ฟินย์ทันที รอด้วยนร้า

 

 

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา