CatWalk “กูจะดังให้มึงจำ”

9.8

เขียนโดย nooonaa

วันที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2556 เวลา 22.54 น.

  35 ตอน
  17 วิจารณ์
  58.25K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2556 23.03 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

31) Catwalk 29 : ครั้งที่สาม!

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

by nooonaa

 

Catwalk 29 : ครั้งที่สาม!

 

 

+น้องหมาเล็ก+

 

 

'วันนี้ผมต้องขอขอบคุณพี่ๆนักข่าวทุกท่านที่เสียสละเวลามางานแถลงข่าวของผมนะครับ'

 

แชะๆ

 

'วันนี้ผมจะออกมาแถลงข่าวที่กำลังเป็นที่ข้องใจของทุกคนครับ แต่ก่อนอื่น...ผมต้องขอโทษในสิ่งที่ผมทำลงไปก่อน ผมขอโทษครับ'

 

แชะๆ

 

'ผมไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังหรือโกหกอะไรนะครับ แต่เรื่องของผม...มันเป็นเรื่องที่ผมกับพี่เขาก็ไม่ได้คิดว่ามันจะเกิดขึ้น'

 

แชะๆๆๆ

 

'แล้วคบกันมาตั้งแต่เมื่อไหร่คะน้องแวน'

 

'ถ้าบอกว่าคบ...คงต้องบอกว่าคบกันไม่นาน แต่ถ้าเรื่องของความรู้สึกที่มันเริ่มเปลี่ยนก็คงจะผ่านมาเกือบสองเดือนแล้วครับ'

 

'แล้วตอนนี้น้องแวนก็ยอมรับใช่มั้ยคะว่าเป็นเกย์'

 

'ถ้าการที่ผมคบกับพี่ทิวจะบอกว่าผมเป็นเกย์...มันก็คงใช่มั้งครับ'

 

แชะๆๆ

 

'แล้วข่าวที่ถูกลอบยิงโดยน้องไอซ์รุ่นพี่ในสังกัดก็เป็นเรื่องจริงสิคะ ที่เขาว่าน้องแวนแย่งคุณทิวมาจากน้องเขา'

 

'เรื่องนั้นมันเป็นการเข้าใจผิดครับ ผมกับพี่ไอซ์ไม่เคยมีเรื่องกัน แล้วพี่ทิวก็ไม่เคยยุ่งกับพี่ไอซ์ ดังนั้นการลอบยิงมันเป็นเรื่องเข้าใจผิดแน่นอนครับ''แต่ตอนแรกก็เห็นแจ้วความกันนี่คะ'

 

'มันก็ต้องแจ้งอยู่แล้วล่ะครับ แต่พอรู้ว่ามันเป็นการเข้าใจผิดกัน ทางเราก็ถอนแจ้งความแล้วครับ''แล้วอย่างนี้มันจะกระทบกับงานมั้ยครับ'

 

'ก็ต้องแล้วแต่ผู้ใหญ่แล้วละครับ ถ้าพวกท่านยังให้โอกาส ก็ถือว่าผมยังมีบุญที่จะอยู่ในวงการนี้'

 

'แล้วคุณทิวละคะ มีอะไรจะพูดมั้ยคะ'

 

แชะๆๆๆ

 

'ผมรักน้องแวน...'

 

'.........'

 

แชะๆๆ

 

'เออ...แล้วจะทำอะไรต่อไปคะคุณทิว'

 

'ผมก็จะรักน้องแวน'

 

แชะๆๆ

 

'แล้วทางเฮียไทว่าอะไรมั้ยคะ'

 

'ผมรักน้องแวน...แล้วนี่ถามจบยัง'

 

'.....'

 

แชะๆๆๆ

 

'ขอคำถามสุดท้ายนะคะ'

 

'คุณทิวจะให้น้องแวนทำงานต่อมั้ยคะ'

 

'ผมรักน้องแวน จบแล้วนะ ปะน้องแวน กลับกัน'

 

ติ๊ด

 

ปึก!

 

เสียงปิดทีวีดังเบาๆพร้อมกับเสียงรีโมตกระแทกหัวสวยดังตามมาติดๆ มือใหญ่เองก็กุมหัวตัวเองซี๊ดก่อนจะซบลงบนตักเล็ก

 

"โอ๊ย! เจ็บนะป๊า!!"

 

"อั้วไม่เอาทีวีฟาดลื้อก็บุญเท่าไหร่แล้วหะ!! ทำไมตอบนักข่าวแบบนั้น!!"

 

"ก็มันน่ารำคาญนิ ถามนั่นถามนี่ อยากรู้เรื่องชาวบ้านเขาดีนัก!"

 

โป๊ก!

 

"โอ๊ย! ป๊า!!!" มือใหญ่ของเฮียไทตบลงบนกะโหลกหนาอีกครั้งก่อนจะด่าต่อไม่ยั้ง

 

"สมองเท่ามดยังจะอวดเก่งอีกนะ! แล้วอย่างนี้อาหนูแวนจะทำงานต่อได้ยังไงหะ!! ไอ้หมา!" เสียงดุดังระงมห้องผู้บริหารสูงสุดของค่าย แต่เจ้าคู่กรณีกลับไม่รู้สึกกลัวเลยสักนิด มันเอาแต่เถียงเฮียไทใหญ่แล้วยังไม่สำนึกผิดอีกด้วย

 

"ก็ไม่ต้องทำไง หนูเลี้ยงเมียหนูได้น่า"

 

"เลี้ยง! ลื้อยังขอเงินอั้วอยู่เลย! แล้วจะเอาที่ไหนเลี้ยงอาหนูแวนห๊า!" ผมฟังแล้วก็เริ่มปวดประสาทกับสองพ่อลูกนี้แล้วจริงๆ ดื้อและหัวแข็งพอกันทั้งคู่ แล้วอย่างนี้ใครจะชนะเนี่ย

 

"ก็เอาเงินประกันชีวิตป๊าเลี้ยงไง ไม่เห็นจะยาก"

 

"เห้ย!!! นี่ลื้อแช่งให้อั้วตายหรอห๊ะ!!" คราวนี้เหมือนเฮียไทจะโกรธจริง เพราะเขาเอาแต่ตบหัวไอ้ทิวไม่ยั้งก่อนจะวิ่งไปคว้าไม้เรียวข้างโต๊ะทำงานมาฟาดใส่ต้นขาใหญ่

 

"โอ๊ยๆๆ ป๊า! หนูเจ็บ!!!" มันรีบเอามือปัดไม้เรียวที่ฟาดจนดูวุ่นวายไปหมดก่อนจะวิ่งหนีเฮียไททั่วห้อง พี่กันย์เองที่นั่งดูอยู่ก็ต้องสายหัวร่ากับท่าทีเด็กๆของสองพ่อลูกนี้

 

"พี่เป็นห่วงนายจริงๆ แล้วจะไปรอดมั้ยเนี่ย" พี่กันย์พูดกับผมเสียงเบาก่อนจะขำในลำคออย่างขบขัน ผมหันไปดูไอ้ทิวที่วิ่งหนีไม่เรียวอีกครั้งก็หันไปตอบในสิ่งที่คิด

 

"รอดไม่รอดไม่รู้ แต่รู้แค่ว่า...ผมมีความสุขเวลาอยู่กับมัน" แล้วในชาตินี้ ผมก็ไม่รู้ว่าผมจะรู้สึกแบบนี้กับใครได้อีกมั้ย

 

"พี่จะเอาใจช่วยนะ แต่ข่าวที่ออกไปมันก็ไม่เห็นจะทำให้ความดังของน้องแวนลดลงเลย แถมยังมีสินค้าตัวใหม่ติดต่อมาอีก" นี่คงเป็นความโชคดีของผมละมั้งที่ทางผู้ใหญ่ยังเอ็นดูผมอยู่

 

"ทุกคนดีกับผมจริงๆ ขอบคุณพี่กันย์นะครับที่ยังยืนเคียงข้างผม"

 

"พี่มีเงินมีทองใช้ก็เพราะน้องแวนนะ แล้วพี่จะทิ้งน้องแวนได้ไง" ผมฟังแล้วรู้สึกถึงน้ำตามันคลอทันที ผมโผเข้ากอดพี่กันย์แน่นแต่แล้วไหล่ผมก็โดนกระชากกลับก่อนถูกอุ้มขึ้นตักแล้วกอดผมจากด้านหลังแน่น

 

"มึงทำไรเมียกู!!!" แขนใหญ่รัดเอวผมแน่นด้วยอารมณ์ที่ดูโกรธ

 

"ไอ้ทิว! อย่าพูดแบบนั้นกับพี่กันย์นะ!" ผมหยิกเนื้อที่แขนมันจนอีกคนร้องซี๊ดแต่ก็ยังไม่ยอมเลิกปากหมา มันคงเห่าใส่พี่กันย์ด้วยท่าทีหาเรื่องจนเฮียไทเองนั่นแหละที่ต้องให้พี่กันย์ออกจากห้องไป มันเลยได้ใจด่าพี่เขาไล่หลังใหญ่

 

"อย่ามายุ่งกับเมียกูอีกนะเว้ย!!!"

 

"พอแล้ว! มึงจะบ้าไปถึงไหนเนี่ย!" ผมเองก็ดุเมื่อรู้สึกไม่ไหวกับอีกคน มันเลยดูหงอยขึ้นมาถนัดก่อนจะหันมาอ้อนเสียงหวาน

 

"ก็กูหวงนี่"

 

"แต่พี่เขาเป็นผู้จัดการกูนะ"

 

"ยิ่งต้องหวงใหญ่เลย มึงต้องอยู่ใกล้ๆเขานี่หว่า" ดูมันพูดดิ พูดด้วยน้ำเสียงรู้สึกน้อยใจปนกลัวจนผมรู้สึกสงสารขึ้นมาถนัด

 

"กูไม่นอกใจมึงหรอกน่า รักมึงขนาดนี้" ผมกดจมูกลงบนแก้มนุ่มสองสามทีจนใบหน้าหล่อเลวยิ้มอย่างชอบใจ มันเลยกระชับตัวผมเข้าหามากขึ้นพร้อมกับก้มลงหอมซอกคอหลายฟอด

 

"รักมึงเหมือนกันนะ" อ่า เขินจัง

 

"หวานเชียว ว่าแต่เย็นนี้จะไปหาม๊าป่าวไอ้ทิว" คราวนี้เฮียไทขัดเราสองคนก่อนจะเดินไปนั่งที่ตัวเอง ผมเลยหันไปหาอีกคนที่ผมนั่งตักอยู่

 

"มึงอยากไปเจอแม่กูปะ" อ่าว อยู่ๆก็มาถามแบบนี้ แล้วกูจะบอกว่าไม่อยากต่อหน้าพ่อมึงได้ป่าวล่ะ

 

"ไปก็ได้"

 

"งั้นไปก็ได้ป๊า เดี๋ยวคืนนี้นอนค้างบ้านด้วย"

 

เออ...คุณมึงครับ คือว่ากูแค่บอกว่าจะไปเจอแม่มึง แต่ไม่ได้บอกจะนอนค้างนะครับ พูดเองเออเองตลอดอะมึง

 

"เออๆ งั้นพาอาหนูแวนไปหาม๊าลื้อปะ ป่านนี้คิดถึงลื้อจนอกแตกตายไปแล้วมั้ง"

 

"เป็นแบบนั้นก็ดีอะดิ หนูจะได้ขอเงินเพิ่ม" เสียงเจ้าเล่ห์ของมันนี่ชักทำให้ผมเริ่มมั่นใจแล้วล่ะ ว่ามันหาเลี้ยงผมไม่ได้ สงสัยต้องเป็นผมเองที่หาเลี้ยงมัน แค่คิดผมก็เห็นอนาคตกัดก้อนเกลือกินของผมรำไรแล้วเนี่ย กูว่าไม่รอด...กูเชื่อมากไอ้ทิว

 

"ปากลื้อเนี่ยนะ มันน่าตอกเสาเข็มเข้าไป มันจะได้พูดไม่ได้!!" ผมฟังก็ขำกร๊ากเลยครับ เฮียไทเองก็คงหมั่นไส้มันเต็มทนเหมือนกัน ถึงพูดกัดฟันแบบนั้น

 

"ป๊าบ่นเยอะอะ หนูไปดีกว่า" อยู่ๆมันก็พูดสวนเฮียไทจนอีกคนหน้าดำหน้าแดงแถบจะคว้าแฟ้มเอกสารบนโต๊ะปาใส่หน้ามัน แต่ไอ้ทิวก็ไวกว่า มันลากผมมาบังตัวมันไว้แล้วท้าเสียงแข็ง

 

"ปามาดิป๊า ปามาเล้ย!!"

 

หือ โคตรพระเอกอะมึง เอากูมาบังเนี่ย!!

 

"ไปเลยนะไอ้ลูกเวร!" พอเฮียไททำอะไรมันไม่ได้ เขาก็ไล่มันเสียงแข็ง มันก็ยกมือไหว้เฮียไปทีก่อนจะลากผมออกจากห้อง แต่ยังไม่ทันที่ประตูก้องเฮียไทจะปิดลง ผมก็เห็นรอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าของเฮีย มันเหมือนเป็นรอยยิ้มที่มีความสุข

 

หรือว่าไอ้ทิวมันจะรู้...มันถึงชอบกวนเฮียไทนัก เพราะมันทำให้อีกคนยิ้มได้

 

น่ารักจัง

 

ผมเองก็ยิ้มตามพอเห็นแบบนั้น ไอ้ทิวมันก็เลิกคิ้วใหญ่เหมือนสงสัยในรอยยิ้มผม ผมเลยรีบลากมันขึ้นรถก่อนจะตรงเข้าจูบริมฝีปากสวย

 

จุ๊บ

 

"มึงน่ารักจัง" ผมรู้สึกอย่างนั้นจริงๆนะ ผมรู้สึกว่ามันเป็นคนน่ารักยังไงไม่รู้ แล้วมันก็ทำให้ผมหลงรักมันมากขึ้น

 

"มึงเป็นไรวะ ไม่สบายป่าวเนี่ย" มือใหญ่รีบทาบบนหน้าผากก่อนจะจับหน้าผมพลิกไปพลิกมา ผมเลยต้องดึงมือมันออกแล้วกุมมันไว้แน่น

 

"ป่าว กูแค่ชมมึง"

 

"ไอ้แวน...มึงชมแบบนี้กูก็เขินดิ" มันผลักหน้าผากผมเบาๆก่อนจะหันหน้าหนี แต่ผมก็ยังคงเห็นใบหน้าทะเล้นนั้นกำลังกลั้นยิ้มอยู่

 

มันกำลังเขิน...เขินจนหูแดงเลยด้วย

 

รักมึงวะ

 

แต่พอมันตั้งสติได้ มันก็หันมาหาก่อนจะเกี่ยวคางผมไปหาแล้วกดจูบลงมาอย่างแผ่วเบา ริมฝีปากบางเล็มปากผมเล็กน้อยก่อนจะเลียมันจนชุ่ม ผมเองก็ต้องรีบคว้าคออีกคนไว้เมื่อร่างใหญ่ทับลงมาก่อนลิ้นฉ่ำจะเข้าไปเชยชมข้างใน

 

"อืม..." เสียงครางหวานเหมือนชอบใจของอีกคนเล่นเอาใจผมสั่นก่อนมันจะยอมถอนลิ้นออกมา แต่พอดวงตาฉ่ำมองผมนิ่งก็ทำเอาผมต้องหลบตามันทันที

 

มันมีเสน่ห์เกินไป...หัวใจผมเต้นแรงจนห้ามไม่อยู่แล้ว

 

ฟอด

 

จมูกโด่งเลยฉกเข้าหอมแก้มผมทันทีหลังมันยกยิ้มชอบใจที่ผมไม่กล้าสบตา ผมเลยต้อยรีบผลักมันออกแล้วแสร้งหันหน้าหนีไปอีกทาง ก่อนอีกคนจะยอมกลับไปนั่งดีๆ

 

"หึ..." ไอ้ทิวบ้า...ชอบทำให้เขินอยู่เรื่อย

 

ไม่นานรถมินิสีแดงคันสวยก็มาจอดอยู่หน้าบ้านหลังใหญ่ก่อนผมจะเห็นป้ายชื่อตระกูลมันหลา มันบีบแตรสองทีก่อนประตูรั้วสีขาวอันใหญ่จะเปิดออกเองอัตโนมัติช้าๆ ผมมองตามแล้วรู้สึกขนลุกชู่ เมื่อบ้านหลังใหญ่มหึมากำลังปรากฏอยู่ตรงหน้า มึงมั่นใจนะว่าบ้านคน ผมตื่นตาตื่นใจยังไงก็บอกไม่ถูก ความรู้สึกของบ้านนอกเข้ากรุงคงกำลังจะสิงผมอยู่ตอนนี้ ผมมองเหลือบจนทั่วก่อนรถจะเข้ามาจอดลานกว้างหน้าบ้าน

 

"พร้อมยังมึง" เสียงทุ้มถามผมอย่างเป็นห่วงเมื่อผมกำลังนั่งปากหวออยู่ ผมเลยรีบสูดลมหายใจเข้าเพื่อเรียกความมั่นใจก่อนจะหันไปถามอีกคน

 

"กูจะตายมั้ยวะ" มันไม่มั่นใจเลยจริงๆ ถ้าแม่ของไอ้ทิวไม่ใจดีเหมือนเฮียไทอะ ผมไม่ตายหรอกหรอ ยิ่งผมเป็นผู้ชายแบบนี้ด้วน นี่เริ่มเห็นลางร้ายแล้วนะเนี่ย

 

"หึ กลัวรึไงมึง"

 

"ยังจะถามอีก! สภาพกูตอนนี้เหมือนดี๊ด๊าอยู่มั้งไอ้บ้า!" ขอกัดสักทีเถอะ เล่นไม่รู้เรื่องรู้ราว

 

"กลัวไรวะ ม๊ากูออกจะใจดี แค่ขี้บ่นไปนิด"

 

อึก

 

แค่นั้นกูก็กลัวแล้วเถอะ

 

"ไปเถอะมึง อ่อ...แล้วก็อย่าพูดกูมึงในบ้านหลังนี้ ไม่งั้นมึงฟังม๊ากูบ่นสี่ชั่วโมงแน่"

 

เอื้อก!

 

ผมเผลอกลืนน้ำลายลงคอดังเอื้อกเมื่อได้ยินคำเตือนแบบนั้น ไอ้ทิวเลยขำผมเล็กน้อยก่อนจะเปิดประตูลงจากรถไป ผมหายใจเข้าอีกครั้งก่อนตามอีกคนเข้าบ้าน เอาเว้ย! กูผ่านเรื่องบ้าบอมาทุกรูปแบบและ แค่แม่ผัวคงไม่คนามือกูหรอก...มั้ง

 

เห้อ...ผมกลัวอะ

 

"ปะๆ" มือใหญ่คว้ามือผมเข้าจับแน่นก่อนจะจูงเดินเข้าบ้าน แต่เพียงแค่ผมก้าวขาจะออกเดิน เสียงแจ๊นก็ดังขัดผมขึ้นก่อนดวงตาคมจะจิกกัดผมจนแทบอยากจะร้องไห้

 

"หยุดเดี๋ยวนี้เลยนะ!! ใครอนุญาตให้หล่อนเข้ามาหะ!!"

 

เอื้อก

 

ตายแน่มึง ผมนี่รีบชักมือกลับก่อนจะถอยหลังกู่ไปที่รถอย่างไว

 

"ม๊าครับ นี่น้องแวน...แฟนหนู" ไอ้ทิวเองก็รีบอภิบายให้ผู้หญิงคนนั้นฟังก่อนจะเข้ามาดึงผมที่เกาะรถเป็นตุ๊กแกแน่น

 

"....."

 

"น้องแวนครับ...ไหว้ม๊าพี่สิ" ไอ้ทิวขยิบตาถี่ให้ผมไหว้ม๊ามัน ผมเลยรีบยกมือไว้ก่อนจะยิ้มกว้างกลบความกลัวสุดฤทธิ์

 

"สวัสดีครับมาม๊า"

 

เพี้ยง!

 

หลงกูเถอะมึง กูกลัวมึงอะ...จากใจ

 

"กองไว้ตรงนั้นแหละ!"

 

เผล้ง!

 

เสียงเหมือนหน้าผมแตกยังไงไม่รู้ ขาผมนี่สั่นเป็นเจ้าเข้าจนต้องยึดมืออีกคนให้พยุงผมไว้ ไม่รอดแน่

 

"ม๊าครับ อย่าดุน้องดิ"

 

"มันเรื่องของม๊า! แล้วม๊าก็มีลูกคนเดียว ดังนั้นลื้อไม่มีน้อง!!" เสียงตวามดังลั่นเล่นเอาผมสะดุ้งตกใจโหยง ผมมองใบหน้าสวยของอีกคนอย่างไมาเข้าใจ ทำไมถึงดูเกลียดผมขนาดนั้น แล้วผมยังจะกล้ายืนให้เขาด่าต่องั้นหรอ...ตามตรงนะ ผมไม่ได้ด้านขนาดนั้น

 

"ผมขอโทษที่มารบกวนครับ" ผมยกมือไหว้ลาท่านก่อนจะเดินหนีไปที่ประตูรั้วบานใหญ่ ไอ้ทิวเองก็ดูตกใจไม่แพ้กันจึงวิ่งมายื้อผมไว้แล้วดึงกลับไปที่เดิม

 

"จะไปไหน"

 

"ก็แม่มึงไล่แล้วนี่ กูจะอยู่ทำไม" ผมรู้สึกได้ว่าเสียงผมสั่นมาก แล้วไม่นานน้ำตาผมต้องไหลด้วยความน้อยใจแน่ น้อยใจที่เขาไม่เมตตาผม

 

"ไม่เอาดิแวน...มึงเป็นเมียกูนะ อย่าไปกลัวม๊ากู"

 

"แต่ม๊ามึงไม่ชอบกูนี่" แล้วจะให้กูทำยังไง กูทนฟังให้เขาถากถางไม่ไหวหรอกนะ

 

"ม๊ากูไม่ชอบแต่กูชอบมึงนี่ มึงแคร์คนอื่นมากกว่ากูรึไง"

 

อึก

 

ผมฟังในสิ่งที่มันพูดก็รู้สึกจุกที่หัวใจขึ้นมาถนัด

 

ใช่...ทำไมผมถึงแคร์คนอื่นมากกว่าแฟนของผมเอง

 

"อย่าไปไหน...มึงต้องอยู่กับกูนะ" คำพูดนี้เหมือนมันต้องการสื่อให้ผมสู้ แต่พอผมเหลือบมองไปทางด้านหลังของอีกคน ผมก็ไม่พบแม่ของไอ้ทิวแล้ว

 

"ท่านไปไหนแล้ว" ผมถาม

 

"เข้าไปข้างในแล้วมั้ง เราเข้าไปกันเถอะ" พอร่างสูงมองตามผมก็หันมาตอบก่อนจะพาผมเข้าบ้าน ขาผมนี่สั่นพับๆพอก้าวผ่านประตูบ้านก่อนจะพบร่างบางนั่งรอหน้านิ่งอยู่ที่ห้องนั่งเล่น ไอ้ทิวเลยพาผมเข้าไปนั่งที่โซฟาก่อนตัวเองจะเดินเข้าไปกอดร่างบางแล้วหอมแก้มซ้ายแก้มขวาเหมือนอ้อน

 

"คิดถึงม๊าจังครับ"

 

"แน่ใจหรอว่าคิดถึง ถ้าคิดถึงจริงคงกลับมาหาม๊าแล้วละ"

 

"อูย..." ไอ้ทิวเสียงร้องอูยทันทีที่โดนกัดเข้าอย่างจัง มันหีนมามองผมเล็กน้อยก่อนจะกระชับกอดมาม๊าแน่นขึ้นอีก

 

"ก็หนูยุ่งๆนี่ครับ หนูเลยไม่ได้กลับมา"

 

"ที่ยุ่งเพราะเด็กไม่มีหัวนอนปลายเท้าคนนี้ใช่มั้ยล่ะ"

 

จึก!!!

 

ครั้งที่สอง ครั้งที่สองแล้วนะที่ว่าผม

 

"น้องเขาไม่ใช่ไม่มีหัวนอนปลายเท้านะครับ น้องแวนเป็นนายแบบต่างหาก" พอร่างสูงเห็นผมหน้าเสียก็รีบแก้ต่างให้ แต่อีกคนกลับมองผมตั้งแต่กัวจรดเท้าแล้วแบะปากใส่

 

"พวกเต้นกินรำกิน"

 

จึก!

 

ครั้งที่สาม!!!

 

อีกครั้งกูจะไม่ทนแล้วนะเว้ย!

 

"อย่าว่าน้องเขาแบบนั้นสิครับ น้องเขาเป็นเด็กในสังกัดป๊านะครับ"

 

"หึ..." ถึงจะแก้ตัวยังไงผมก็คงไม่ดีในสายตาของเขาไปแล้วละ สงสัยความรักของผมคงมีอุปสรรคอีกแล้ว

 

"พ่อแม่ทำงานอะไรน่ะเรา" อยู่ๆมาม๊าก็ถามผมเสียงเย็น ถึงปากจะคุยกับผมแต่ตาก็ยังคงไม่มอง เขาเชิดหน้าใส่ก่อนจะเหล่มองผมเล็กน้อย

 

"พ่อกับแม่ผมเป็นอาจารย์ครับ"

 

"หึ เงินเดือนไม่กี่หมื่นน่ะสิ" แล้วคนเรามันจะดีมันต้องตัดสินที่เงินเดือนรึไง นี่ผมชักไม่ไหวแล้วนะ อย่ามาว่าพ่อกับแม่ผมเชียว ไม่งั้นผมจะไม่เกรงใจแน่

 

"คงงั้นแหละครับ"

 

"ถึงมาจับลูกชายฉันล่ะสิ"

 

!!!

 

"ม๊า!"

 

ครั้งที่สาม!!!

 

กูไม่ทนแล้วโว้ย!!!!

 

 

 

+++++++++++++++++++++++++++++++

131207

 

รีดเดอร์หายไปไหนหมดคะ เงียบเชียว หลอนนะเนี่ย

 

 

 

 

 

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา