คู่แค้นแสนรัก

8.3

เขียนโดย กลางสายฝน

วันที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2556 เวลา 01.08 น.

  47 ตอน
  3 วิจารณ์
  70.25K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 1 มกราคม พ.ศ. 2557 01.20 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

21) ใจหาย

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
                      ในช่วงเวลาเดียวกัน บ้านอธิพัฒน์ธนากร หญิงสาวกำลังปลอบชายหนุ่มผู้เป็นสามีของเธอยู่ หลังจากที่มีการตามหาน้องสาวของสามีมาทั้งวันแล้วแต่ก็ไร้วี่แวว ชาหนุ่มนั่งน้ำตาซึมโดยมีภรรยาสาวที่นั่งปลอบอยู่ข้างๆตลอดเวลา ภายในห้องนอนของเธอ
 
  " คุณไม่ต้องเป็นห่วงหรอก ยังไงพี่ชายก็ไม่ปล่อยให้คุณซันเป็นอันตรายแน่นอน" ภรรยาสาวพูดพร้อมกับเลื่อนมือมาแตะบ่าชายหนุ่ม
  " ผมไม่ไว้ใจใครทั้งนั้นแหละ" ชายหนุ่มยังคงกลุ้มใจหนัก
  " คุณเชื่อใจพี่ชั้ลได้นะ"
  " เค้าทั้งสองคนไม่ชอบขี้หน้ากัน ไม่มีเหตุผลอะไรที่ภาคินจะช่วยยัยซัน" น้ำตาชายเริ่มไหลรินออกมา
  " แล้วถ้าพี่ชายรักคุณซันหละ คุณยังคิดว่าพี่ชายทิ้งหัวใจตัวเองได้ลงมั้ย" ชายหนุ่มหันมามองหน้าภรรยาสาว เธอเลื่อนมือไปซับน้ำตาบนใบหน้าของชายหนุ่ม ก่อนจะเริ่มเล่าทุกอย่างให้เขาฟัง
  " คุณรู้มั้ย บ้านพี่ชายที่ท้ายสวนเป็นบ้านที่พี่ชายสร้างขึ้นมาเองหลังจากที่พ่อกับแม่ตายไปแล้ว เงินทุกบามทุกสตางค์ เขาเป็นคนเก็บเองหมด พี่ชายบอกว่าบ้านหลังนั้นเป็นบ้านที่เขาให้อยู่ได้เฉพาะคนที่เขารักเท่านั้น ไม่เคยมีใครได้เข้าไปอยู่ในบ้านหลังนั้น นอกจาก พี่ชาย แฟนเก่าพี่ชายแล้วก็จน จนมาถึงตอนนี้ พี่ชายได้พาน้องสาวของคุณเข้าไปอยู่ในบ้านหลังนั้น  พี่ชายคบกับแฟนเก่าของเค้าได้ 2 ปี เธอหน้าเหมือนคุณซันมาก บุคลิกคล้ายกันมาก สุดท้ายเธอก็มาจากพี่ชายไป  และวันนี้ที่ชั้ลกับคุณไปเห็นพี่ชายกับคุณซันขี่ม้าด้วยกัน คุณรู้มั้ย ม้าสีหมอกคือม้าที่พี่ชายกับคุณซันเป็นคนทำคลอดให้เมื่อตอนที่เขาทั้งสองยังเด็ก ไม่เคยมีใครได้แตะต้องม้าตัวนั้นได้เลย พี่ชายเป็นคนดูแลเองทั้งอย่าง ทั้งเรื่องอาหาร การรักษา อาบน้ำ แม้กระทั้งโกยมูลของมัน แค่วันนี้พี่ชายพาคุณซันออกไปขี่ม้าสีหมอก " หญิสาวพูดจบก็หันไปมองหน้าชายหมุ่นผู้เป็นสามี
  " แต่ภาคินมันก็มีแฟนหนิ อีกอย่างมันก็คอยหาเรื่องยัยซันตลอดตั้งแต่เล็กจนโต" เขายังถามด้วยความสงสัย
  " ตอนพวกคุณย้ายออกไปจากไร่ส้ม พี่ชายดูซึมเศร้ามาก ข้าวไม่ค่อยกิน ไม่เข้าไปในไร่ เก็บตัวอยู่แต่ในห้อง เวลาไปเรียนก็ไปปกติเรียนเสร็จก็กลับมาอยู่แต่ในห้อง เป็นอยู่แบบนี้จนเข้ามหาลัย ก็ได้เจอกับแฟนเก่าพี่ชาย ชั้ลรู้ว่าที่พี่ชายรักผู้หญิงคนนั้นก็เพราะเธอชั่งเหมือนคุณซันมาก พี่ายเพ้อเรียกชื่อคุรซันบ่อยๆที่อยู่กับผู้หญิงคนนั้นเธอเองก็รู้ว่าพี่ชายไม่ได้รักเธอเพราะเธอเป็นเธอ เธอเคยมาร้องไห้กับชั้ลบ่อยครั้ง แต่เพราะรักจึงไม่ยอมไปจากพี่ชาย  แล้วที่พี่ชายชอบแกล้งคุณซันก็เพราะเป็นทางเดียวที่ทำให้พี่ชายได้ใกล้ชินกับคุณซันไง  ชั้ลพูดไปคุณอาจจะไม่เข้าใจหรอกนะ ลองสังเกตุไปเรื่อยๆก็แล้วกัน แล้วก็ตอนได้แล้ว" หญิงสาวพูดพร้อมกับจะเดินออกไปจากห้อง
  " ทำไมชั้ลจะไม่เข้าใจหละ มันก็เป็นเหมือนที่ชั้ลรู้สึกกับเธอไง" ชายหนุ่มหันมองหน้าหญิงสาวด้วยสายตาอันลึกซึ้ง
  " เพี้ยนไปแล้วหรือไงฮะ" หญิงสาวขำๆ เพราะไมเชือในสิ่งที่พูด ' ชั้ลใช่สเปคนายสะที่ไหน'
  " นอนกับชั้ลได้มั้ย ชั้ลไม่อยากอยู่คนเดียว" ชายหนุ่มเดินไปคว้าแขนหญิงสาวเอาไว้
  " ทะลึ่ง !!" หญิงสาวหยิกแขนชายหมุ่นแล้วดึงมือออก
  " เอ้ยชั้ลไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น คือ ชั้ลหมายถึงนอนเฉยๆอะ ไม่ได้มีอะไรกัน เวลาชั้ลมีเครื่องเครียดๆ ชั้ลจะเข้าไปนอนกับน้อง ชั้ลอยู่คนเดียวไม่ได้ ชั้ลแค่อยากให้เธออยู่เป็นเพื่อนชั้ลหน่อย  นะเมียนะ อยู่กับสามีก่อนนะ" ชายหนุ่มส่งเสียงอ้อนๆ
  " ไว้ใจได้มั้ยเนี่ย"
  " ได้สิ ตอนไปเที่ยวทะเลนอนด้วยกัน ผมทำอะไรคุณรึป่าวหละ" ชายหมุ่นส่งสายตาเซ็กซี่แกล้งหญิงสาว
  " นิ หยุดพูดได้แล้ว นอนๆ ชั้ลง่วงแล้ว" หญิงสาวเขิลอายรีบเดินหนีไปนอนทันที
 
   
          แสงอาทิตย์ยามเช้าตรู่เล็ดลอดผ่านใบไม้เข้ามาในถ้ำ ทำให้หญิงสาวที่นอนหลับสนิทรี่ตาขึ้นเรื่อยๆ เธอพยุ่งร่างเล็กๆ  ขึ้นมาอาการเจ็บข้อเท้าจากการตกจากหลังมาเมื่อขึ้นบรรเทาลงมากแล้ว  เธอมองหาชายหนุ่มในทันที แต่ก็ไร้วี่แวว ไม่พบแม้แต่เงาของเขา เขาหายไปไหน
  " ภาคิน !!!  ภาคิน !!! อยู่ไหน !!!" หญิงสาวเดินเข้าไปหาภายในถ้ำ แต่ก็ไร้เสียงตอบรับจากนายหนุ่ม
  " นายภาคิน อย่าทิ้งชั้ลไป กลับมาก่อนสิ นายหายไปไหนของนาย !!!" หญิงสาวเดินออกมายังหน้าถ้ำ ทางข้างหน้ามีแต่ต้นไม้ใหญ่ทั่วผืนป่า เธอเริ่มใจคอไม่ดีกับการหายตัวไปของเขา
  " ภาคินนน อย่าทิ้งชั้ลซิ !!" หญิงสาวยังคนเดินหาเขาตลอด เธอเดินไปเรื่อยๆอย่างไร้จุดหมาย น้ำตาใสเริ่มไหลรินออกจากดวงตาคู่สวย
  " พี่ทำแบบนี้กับชั้ลอีกแล้วนะ พี่ชายกับมาหาซันก่อนสิ ฮือ ฮือ ฮือ" ภาพเหตุการณ์ในอดีตโผล่ขึ้นมาในหัวของหญิงสาว ตอนเธอเด็กๆ ภาคินแกล้งเธอโดนให้สุนัขของเขาวิ่งไล่เธอจนเธอต้องหนีเข้าไปในป่า เด็กผู้หญิงร้องไห้ลั่นตั้งแต่ตอนโดยสุนัขวิ่งไล่เข้ามาในป่าทึบ เด็กหญิงคนนั้นเดินเคว้งคว้างไปมาหาทางออกไม่เธอ สาวน้อยคนนั้นจนปัญญาจึงนั่งร้องไห้ใต้ต้นไม้ ไม่นานนักก็มีเด็กผู้ชายคนหนึ่เดินเข้ามาหาเธออย่างช้าๆ พร้อมก็ส่งดอกกล้อยไม้สีขาวที่เด็ดได้จากข้างทางมามอบให้เธอพร้อมกับคำขอโทษ สาวน้อยยังคงนั่งร้องไห้ี่นั้นไม่ยอมรับดอกไม้และคำขอโทษจากเขา เด็กผู้ชายจึงเดินเข้าไปหาสาวน้อยและขุกเข่าลงตรงหน้า เด็กผู้ชายคนนั้นคว้าร่างของเด็กผู้หญิงมากอดไว้แน่นพร้อมกับเอ่ยคำขอโทษเธอ เด็กน้อยทั้งสองผละออกจากกัน เด็กผู้ชายจึงยื่นดอกไม้ให้กับสาวน้อยอีกครั้งเธอยอมรับมันไว้ เดกผู้ชายคนนั้นจึงเลื่อนมือไปเช็ดน้ำตาให้กับสาวน้อย  "พี่ชายขอโทษนะครับ"  "ที่ยังงี้แล้วทำมาพูดดี ตบหัวแล้วลูบหลังตลอดเลยนะ" แต่ ณ เวลานี้ หญิงสาวยังไม่เจอกับชายหนุ่มผู้นั้นเลย เธอยังคงเดินต่อไปเรื่อยๆ
 
  " ภาคิน ภาคิน !!"  ในเวลาเดียวกันกับที่ชายหนุ่มเดินเข้าไปในถ้ำพร้อมกับผลไม้สุกที่เขาหามาได้ เขาตะโกนเรียกชื่อหญิงสาวอย่างที่ใจทีี่ได้ดินเนอร์อาหารกันกลางป่า แต่ก็ไร้เสียงตอบรับจากเธอ เขารีบวางผลไม้และเดินเข้าไปหน้าในถ้ำ ปากก็ตะโกนเรียกเธอไม่ขาดสาย เมื่อไม่พบหญิงสาวเขาจึงวิ่งออกจากถ้ำและวิ่งเข้าไปในป่าทันที
 
  " ซัน อยู่ไหน !!! ได้ยินชั้ลมั้ย !!!" เขายังวิ่งหากันและกันอยู่เป็นเวลานาน
  " ยัยซื่อบื้อ อยู่ไหนนนน  ได้ยินชั้ลมั้ยยย  !!!"
  " นายภาคินน !!!" ทั้งคู่ได้ยินเสียงของกันและกัน เขารีบเดินมาตามเสียงของอีกฝ่ายหนึ่ง
  " ซัน ซัน"  " นายภาคิน" หญิงสาววิ่งเข้ากอดชาหนุ่มที่ยืนหันหลังหาเธอไม่เจอ เธอซบหลังเขาใบหน้าเต็มไปด้วยน้ำตา ปากที่ร้องโวยวายที่เขาหายไป
  " หายไปไหนมา ชั้ลนึกว่านายจะทิ้งชั้ลไปแลวสะอีก ฮือ ฮือ ฮือ ที่หลังจะไปไหนปลุกชั้ลก่อนสิ พาชั้ลไปด้วย ชั้ลไม่อยากอยู่ที่นี้คนเดียวว  ชั้ลจะอยู่ยังไงถ้าไม่มีนาย ฮือ ฮือ ฮือ" หญิงสาวยังคงโอบกอดแผ่นหลังแน่น แต่หารู้ไม่ว่าคำพูดของเธอกลับทำให้เขาหัวใจเต้นแรง
 " นี่เธออยู่ไม่ได้หรอ ถ้าไม่มีชั้ล" ชายหนุ่มอุทานเบาๆ ก่อนจะพลิกตัวมากอดตอบหญิงสาว
" คราวหลังหน้าหายไปแบบนี้อีกนะ ฮึก ฮึก" หญิงสาวหยุดร้องไห้แต่คงยังสะอื้นอยู่เล็กน้อย
 " ชั้ลออกไปหาผลไม้ ไม่คิดว่าเธอจะตื่นเร็วแบบนี้ " ชายหนุ่มผละออกจากอ้อมกอดของหญิง เขามองดูใบหน้าเธอที่เต็มไปด้วยคราบน้ำตาอยางรู้สึกผิด
 " ชั้ลไม่ได้นอนขี้เซาสักหน่อย" หญิงสาวเลื่อนมือมาเช็ดน้ำตาตัวเอง
 " หรออออ  น้ำลายบุดย้อยเป็นทาง ยังจะบอกไม่ขี้เซาอีก เห้อออ อะไรเป็นสาวเป็นนาง ไปๆกลับได้แล้ว ไปกินผลไม้กัน" ชายหนุ่มพูดพร้อมกับเดินนำหน้าหญิงสาวกลับถ้ำ
 
    ในเวลาเดียวกันกับที่โอนุชิต และอิณทินี ที่รววบรวมคนงานทั้งไร่ เพื่อวางแผนออกตามหา ภาคินกับนันทณา ทั้งหมดแยกย้ายกับเข้าไปในป่าลึก โดยโอนุชิตไปกับอิณทินี ทั้งหมดเดินตามหากันอย่างมุ่งมั่น 
  " ป่าทึบมาก จะอยู่กันยังไงเนี่ย" โอนุชิตที่ยังคงเดินตามหาอยู่ให้มีดที่พกมาฟันกิ่งไม้ ที่ข้างทางเดิน โดยมีอิณทินีเดินตามหลัง
  " ยังไงก็ต้องเจอค่ะ " 
  " คุณไหวรึป่าว" โอนุชิตหันหลังไปถามภรรยาสาว
  " ไหวสิ สู้ตายอยู่แล้ว" โอนุชิตยิ้มในกับท่าทีกระตือรือร้นของภรรยา
  " น่ารักมากจะเมียจ้า"
  
    ภายในถ้ำ เขาทั้งคู่กำลังนั่งกินผลไม้สุกกันอย่างเอร็ดอร่อย ภาคินที่นั่งมองความตะกละของนันทณาตาค้าง
  " นี่ๆ ขนาดอยู่ในป่า แล้วมีของกินแค่ผลไม้ไม่กี่อย่าง เธอยังจะเจริญอาหารอีกนะ "
  " เราต้องกินเพื่ออยู่ มีอะไรก็กินๆไปก่อน" เธอพูดไปกินไป
  " แต่ชั้ลมาเธออยู่เพื่อกินมากกว่านะ  เอาช้าๆหน่ยสิเดียวสำลักตายพอดี เอานี้น้ำๆ" ชายหนุ่มยื่นน้ำที่บรรจุอยู่ในกระบอกไม้ไผ่ใหหญิงสาว
  " โฮวว สุดยอดไปเลย นายไปเอาไม้ไผ่มาได้ยังไงเนี่ย แล้วน้ำไปหามาจากไหน" หญิงสามดื่มน้ำก่อนจะถามอยากแปลกใจ
  " ชั้ลไปแทะมามั้ง ชั้ลเดินไปเจอลำธารก็เดินตักน้ำมาให้เธอ "  
  " ลำธาร !!" ภาคิน/นันทณา
  " รอดแล้วหละ 55555"  หญิงสาวร้องดีใจลั่น ทั้งคู่รีบทานผลไม้จนเสร็จก่อนจะเดินออกจากถ้ำไป
  " เดินตามลำธารนี้ไปเดี๋ยวก็เจอคนเอง" ชายหนุ่มที่เดินนำหน้าเอ่ยขึ้น
  "  นายได้ยินเสียงอะไรมั้ย" หญิงสาวคว้ามมือชายหนุ่มให้หยุดเดิน เสียงคนงานในไร่หลายคนตะโกนเรียกชื่อเขาและเธอ  หญิงสาวดีใจกระโดดกอดชายหนุ่มแน่น
  " นี่ปล่อยๆ หายใจไม่ออก" ชายนุ่มแกะมือหญิงสาวที่ค้องคอเขาออก
  " ชั้ลดีใจนิ แหมทำมาห่วงตัว" หญิงสาวพูดแขวะ แล้วแบะปากใส่ชายหนุ่ม
  " อยู่ในป่ากับเธอนี้ชั้ลเสี่ยงต่อการเสียตัวมาก เดี๋ยวกอด เดี๋ยวกอด" 
  " นี่อย่ามาๆ พรุ่งนี้ชั้ลก็กลับบ้านแล้ว อย่ามานั่งร้องไห้คิดถึงชั้ลก็แล้วกัน นายหนะนับว่าโชคดีนะ ที่มีบุญมาติดป่าอยู่กับคนน่ารักๆอย่างชั้ลเนี่ย ทั้งสวย ทั้งน่ารัก ดีซะทุกอย่าา..." หญิงสาวที่ยังยิ้มชื่นชมตัวเองอยู่พูดยังไม่ทันจบประโยคก็โดนชายหนุ่มร่างสูงคว้าไปตัวไปแล้ว เธอพยามขัดขืดๆ เธอเลกๆของเธอทุบตีไปที่แผ่นหลังกว้างของชายหนุ่ม แต่จูบของเขาครั้งนี้ไม่เหมือนครั้งก่อนๆที่เธอไม่รับ มือเลกของหญิงสาวกลับโอบกอดตัวชายหนุ่มไว้เธอยอมรับจูบของเขาด้วยความเต็มใจ รสจูบของเขานุ่มนวม อ้อนโยน และลึกซึ้ง หัวใจของเธอเต้นแรงไม่เป็นจังหวะ เธอไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน มือข้างขวาของหญิงสาวเลื่อนจากแผ่นหลังของชายหมุ่นมาสัมผัสกับอกด้านซ้ายของเขา หัวใจของเขาก็เต้นแรๆม่แพ้กัน ชายหนุ่มถอนจูบออกจากเธอแล้วรีบเดินออกไปอย่างเร็ว
 
   " ทำไมใจเต้นแรงขนาดนี้นะ" หญิงสาวยังคงอึ้งกับการกระทำของชายหนุ่ม เธอเลือนมือมาสัมผัสยังอกด้านซ้ายของตัวแรงที่ตอนนี้หัวใจยังคงเต้นแรงไม่หยุด และงงกลับความเปลี่ยนไปกับหัวใจของตัวเอง เธอเดินตามเขาไปเรื่อยๆ จนเจอกลุ่มคนงามและพี่ชายของเธอ
   
  " ยัยซัน !" โอนุชิตที่วิ่งหน้าตาตื่น เข้ามากอดร่างน้องสาว หอมแก้มซ้ายแก้มขวา
  " เป็นไงบ้างเจ็บตรงไหนรึป่าว" โอนุชิตถามพร้อมกับสำรวจร่างกายของน้องสาวตัวเอง
  " ไม่เป็ยอะไรค่ะ ครบทั้ง 32 " หญิงสาวยิ้มหวานให้กับพี่ชายตนเองก่อนจะหันไปมองภาคินที่ตอนนี้อยู่ในการตรวจพิสูจน์ของอิณทินี
  " เรากลับกันเลยดีกว่า" โอนุชิตเสนอก่อนจะเดินจับมืนันทณา แล้วเดินไปสะกิดอิณทินีหมายจะบอกว่าให้ตามเขาไป
  
   
 
      ทุกคนถึงบ้านอย่างปลอดภัย คนงานแยกย้ายกันกลับบ้าน ภาคินที่รีบเดินเข้าห้องตัวเองทันทีที่ถึงบ้าน โอนุชิต พานันทณาเข้าห้องเพื่อไปอาน้ำแต่งตัว อิณทินีเดินเข้าห้องไปอาบน้ำแต่งตัวเช่นกัน
บรรยากาศในบ้านเริ่มเงียบขรึมอีกครั้งเมื่อในตอนนี้ที่โต๊ะอาหารตรงคนอยู่พร้อมหน้า เว้นเสียแต่ภาคินที่ไม่มีใครหาตัวเจอ
    " ทานข้าวกันก่อนเลยค่ะ เดี๋ยวอิณไปตามเอง " อิณทินีเดินออกไปจากโต๊ะอาหาร นันทณานั่งหน้าจ๋อย ' ชัลควรจะสบายใจสิที่ไม่ต้องเจอหน้าเค้า ทำไมหัวใจกลับว่างเปล่าเคว้งคว้างแบบนี้นะ' 
   " ซันกินข้าวสิ นั่งเหม่อลอยคิดอะไรอยู่" โอนุชิตสะกิดถาม หญิงสาวสะดุ้ง
   " ปละปล่าวค่ะ กินข้าวกันเถอะ"
 
      บ้านท้ายไร่ ภาคินนั่งดื่มเหล้าที่ริมระเบียงหน้าห้อง 
  " พี่ชาย มานั่งทำอะไรตรงนี้  แล้วนี้ดื่มเหล้าทำไม เลิกไปแล้วไม่ใช่หรอ" อิณทินีที่เดินเข้ามาในห้องนอนของภาคิน ตำหนิกับพฤติกรรมของภาคินในเวลานี้ แต่ก็ไร้ซึ่งเสียงตอบรับ
  " เสื้อก็ไม่ใส่อีก นี้ๆ ใส่เสื้อซะอากาศหวานแบบนี้เดี๋ยวก็ไม่สบายหรอก" อิณทินีพยามใส่เสื้อให้ภาคิน
  " หยุดดื่มได้แล้ว เมามากแล้วนะ" อิณทินีคว้าแก้วมาจากภาคิน ทำใหเขาไม่พอใจหนัก
  " อิณออกไป พี่อยากอยู่คนเดียว"
  " พี่ชายเป็นอะไรไป" หญิงสาวมองที่ใบหน้าเศร้าหมองของพี่ชาย ดวงตาคมกริมของเขาเริ่มแดงขึ้นเรื่อยๆ
  " พี่เป็นอะไรพี่บอกอิณสิ พี่คุยกับอิณสิ" อิณทินีเขย่าแขนภาคินเพื่อเรียกสติ เขาไม่ตอบ แต่กลับคว้าตัวน้องสาวมากอดไว้แน่น น้ำตาลูกผู้ชายเริ่มไหล่ออกมา
  " พี่ชาย" อิณทินีกอดตอนภาคินอย่างให้กำลังใจ มีหรือที่เธอจะไม่รู้ว่าพี่ชายคนเดียวของเธอทุกข์เรื่องอะไรอยู่
  " อยู่เป็นเพื่อนพี่หน่อยนะ" ภาคินผละออกจากอิณทินี ตอนนี้ใบหน้าหล่อเหลาของเขาเต็มไปด้วยคราบน้ำตา อิณทินีพยักหน้าตอบ เขาจูงมือน้องสาวไปที่โซฟา และตอนหนุนตักน้องสาว ไปนานนักเขาก็หลับไป
 
   ในเวลาเดียวกันกับที่นันทณายังคงยืนอยู่ที่ระเบียงหน้าห้องเพื่อรอการกลับมาของภาคิน
  " ทำไมยังไม่กลับมาอีกนะ" หญิงสาวพรึมพรำ
  " ทำอะไรหนะ ยัยซัน" โอนุชิตที่เข้าห้องมาเดินมาหาน้องสาวที่หน้าระเบียง
  " เอ่อ ดาวสวยค่ะ คืนนี้ดาวสวย ซันเลยออกมาดูดาว" โอนุชิตเงยมงดูบนท้องฟ้า
  " ไม่เห็นมีดาวสักดวง" โอนุชิตกำลังหันมาถามหญิงสาว แต่เธอกลับไปนอนยู่บนเตียงแล้ว
 
 
          เช้าแห่งการจากลา โอนุชิตที่กำลังเก็บกระเป๋ำใส่รถ อิณทินีกำลังกอดลาป้าอร ป้าอ้อมอยู่  ส่วนนันทณาก็กำลังจองหาใครบางคนอยู่
   " เสร็จเรียบร้อยแล้ว ผมกลับก่อนนะครับ ป้าอร ปาอ้อม" โอนุชิตไหว้หญิงสูงวัยทั้ง 2
   " ซันกลับก่อนนะค่ะ" นันทณาเดินเข้าไปกอดลา หญิงทั้ง 2
   ทั้งสามขึ้นรถและขับออกไปทันที ทำให้ชายหนุ่มที่แอบยืนดูอยู่หลังต้นใหญ่ข้างบ้านแถบใจสลาย
   เช่นเดียวกับหญิงสาวที่นั่งเหม่อลอยตลอดเวลาที่อยู่ภายในรถ ' ความรู้สึกนี้เหมือนความรู้สึกที่ชั้ลต้องเดินออกจากไร่ส้มในคราวก่อน แต่ครั้งนี้ทำไมมันถึงเป็นหนักกว่าเดิน ชั้ลไม่อยากไปจากที่นี้เลย ทำไมดวงใจของชั้ลถึงรู้สึกแปลกๆ คล้ายกับตกใจจากการไดยินข่าวร้าย ความรู้สึกที่คนอื่นเค้าเรียกว่าใจหาย '
 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.3 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.7 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา