Sulfur Love (RE-Write)
เขียนโดย enzang2660
วันที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2556 เวลา 14.57 น.
แก้ไขเมื่อ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2556 17.52 น. โดย เจ้าของนิยาย
30) Special[Sauce&Cheetah] เรื่องวันนั้นของ"เรา"วันนี้(2)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความรู้สึกเกลียดวันอาทิตย์ที่สุดในรอบปีเลย โดยเฉพาะของสัปดาห์นี้เนี่ย นอกจากจะต้องมาซ้อมบาสแล้ว ยังต้องมาบอกเลิกใครบางคนอีก เครียดจังเลยเว้ย ปวดท้องหน่อยๆแล้วแหะTT
“เอาจริงหรอต้า” พี่บีกินถามพลางนั่งลงข้างๆผม
“ครับ คนดีๆอย่างมันไม่ควรมาจมปลักอยู่กับผู้ชายที่ใจร้ายแบบผมหรอก” ผมตอบ
“ต้าเป็นคนบอกให้เซลกับซัลรู้ตัวว่าชอบกัน เลยทำให้สองคนนั้นคบกันได้แล้วทำไมต้าถึง ไม่ยอมรับเรื่องที่เป็นแฟนกับผู้ชายละ”
“มันไม่เหมือนกันนี่ครับ อย่างน้อยน้องซัลเขาก็ยังดูน่ารักเหมือนผู้หญิง เดินควงไปไหนมาไหนได้สบายๆ แต่มาควงผมนี่สิมันไม่ดูสยองๆไปหน่อยหรอครับ”
“จำเป็นด้วยหรอว่าคบกันแล้ว คนนึงต้องตัวเล็กๆ อีกคนต้องตัวใหญ่ๆ”
“ก็มันเป็นคอนเซ็ปของวายนี่ครับ-o-”
“เรื่องความรักมันจำกัดเรื่องหน้าตา ความสูง เพศด้วยหรือไง”
“กล่อมผมไปก็เท่านั้น บอกแล้วไงว่ามันน่ะเหมาะสมกับผู้หญิงมากกว่าผม”
“แล้วถ้าเด็กนั่นเกิดไปชอบผู้หญิงคนอื่นขึ้นมาต้าจะทำยังไง”
ก็ดีแล้วไม่ใช่ หมอนั่นน่ะไปคบกับผู้หญิงได้ก็ดีแล้ว!!
“พี่ก็ไม่ได้จะบังคับให้ต้าคบกับน้องนั่นหรอกนะ แต่พี่แค่สงสารมันน่ะ ตอนแรกพี่ก็เข้าใจว่าต้าน่าจะยอมรับเรื่องชายๆได้ แต่สงสัยพี่จะคิดผิดจริงๆ
แต่สำหรับพี่แล้วไม่ว่าคนที่พี่รักเขาจะเป็นใคร เป็นอะไรพี่ก็รับได้หมด ยิ่งเขาคนนั้นรักพี่ด้วยละก็พี่ก็เดินหน้าจีบทันทีแหละ ถึงแม้เขาคนนั้นจะเป็นประธานชมรมข้างเคียงก็เถอะ^^”
-o-!! พูดให้งงแล้วก็จากไป ขอเวลาแปลผลซักสองสามนาทีก่อนนะ ประธานชมรมข้างเคียง ข้างชมรมบาส-.- ชมรมบอลหรอ? เฮ้ย!!! พี่บีกินก็เป็นเกย์หรอเนี่ย-o-!!! ไปหมดแล้วชมรมกู ขนาดประธานยังเป็น กรรมการก็แด กกันเอง แถมไอ้เหรัญญิกก็ไปกินเด็กคหกรรม ชมรมกูเหลือใครบ้างเนี่ยTOT
“พี่ต้าครับ เป็นอะไรหรือป่าวเห็นยืนหน้าเหวอๆ เจอผีหรอ^^”
ไอ้เด็กหัวแดงเดินยิ้มแฉ่งมาแต่ไกลเลย ผมงี้หน้าเหวอหนักเข้าไปอีก มันมาแล้วๆๆ เอาไงดีวะ ฮึ่ย! ยังไงก็ต้องพูด ต้องพูดวันนี้แหละ เพราะวันนี้มันครบหนึ่งอาทิตย์แล้ว โบกมือลาครับว่าแฟนไปซะไอ้ต้า ปล่อยน้องเขาไปเจอผู้หญิงดีๆเถอะ เก็บน้องแกไว้ก็ใช้ทำอะไรไม่ได้หรอก
“มีเรื่องคุยด้วย”
ผมเดินนำมันไปที่ข้างตึกคหกรรม วันนี้วันหยุดตึกนี้แหละปลอดโปร่งที่สุดแล้วละ ผมสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆก่อนหันหลังไปเผชิญหน้ากับมัน มันยืนมองผมอยู่แบบไม่วางตาซะด้วย ไม่กล้ามองหน้ามันเลยแหะ
“วันนี้ครบหนึ่งอาทิตย์แล้วนี่เนอะ^^”
ทั้งที่นายก็รู้ว่าฉันจะมาบอกเลิกนายแท้ๆ ทำไมยังฝืนยิ้มให้ฉันอีกละ
“อืม” ผมขานรับ
“เรื่องที่พี่จะพูด...”
“นายเองก็รู้อยู่แล้วไม่ใช่หรอ!!”
ทำไมผมต้องไปเสียงดังกับมันด้วยนะ บ้าจริง!!
“ครับ....เรื่องนั้น ผมรู้อยู่แล้ว แต่ผมก็แอบคิดว่ามันอาจไม่ใช่ พี่อาจจะคบกับผมต่อก็ได้”
“เรื่องที่นายคิดตอนแรก....นายคิดถูกแล้ว”
ดวงตาคมเริ่มส่ายไปมา มันมองหน้าผมอย่างผิดหวัง ขอโทษนะ แต่ฉันอยากให้นายไปเจอคนที่ดีกว่าฉันน่ะ ช่วยเข้าใจฉันทีนะ!!
“เลิกกันเถอะ”
เจ็บ! ทำไมมันรู้สึกว่าหัวใจถูกบีบรัดแบบนี้ หายใจไม่ออกเหมือนจะตายให้ได้เลย ทำไมกันละ แค่ฉันบอกเลิกนายทำไมฉันต้องรู้สึกเจ็บไปด้วย แล้วนายละ นายเองจะรู้สึกเจ็บแค่ไหนกันนะที่ได้ยินคำพูดนี้หลุดออกมาจากปากฉัน...
“ครับ ที่ผ่านมาผมมีความสุขมาเลยเวลาได้อยู่ใกล้ๆพี่ ได้เห็นรอยยิ้มของพี่ ถึงจะเป็นรอยยิ้มที่ฝืนยิ้มให้ผมก็เถอะ.... จะว่าอะไรมั้ยถ้าผมจะขอกอดพี่เป็นครั้งสุดท้าย ในฐานะแฟน...”
ผมเม้มปากพยายามข่มน้ำตาที่อาจจะไหลออกมาได้ทุกเมื่อก่อนกางแขนกว้างรับคนตัวใหญ่เข้ามาไว้ในอ้อมแขน วงแขนแกร่งโอบกอดตัวผมไว้แน่น แน่นมากจนผมคิดว่าถ้าขืนให้มันกอดนานๆละก็ตัวผมต้องแหลกคามือมันแน่ๆ มันซบใบหน้าลงบนไหล่ของผมพลางกอดรัดผมเข้าไปอีก ร่างที่โอบกอดผมค่อยๆสั่นเทาจะร้องไห้ใช่มั้ย ถึงแม้จะไม่มีน้ำตาไหลอาบไหล่ผมแต่ผมรู้ได้ว่า มันต้องกำลังอดทนอยู่แน่ๆ เหมือนกับผมที่ไม่อยากมันเห็น...ตอนนี้ที่กำลังอ่อนแอ...
“ผะ...ผม..รักพี่นะ”
มันผละร่างออกจากผมแล้วรีบวิ่งหนีไป วิ่งเร็วจังเลยนะแค่ไม่กี่ก้าวภาพแผ่นหลังของนายก็ไกลออกไปเรื่อยๆเลย ตอนนี้ฉันมองไม่เห็นอะไรแล้ว เพราะหยาดน้ำตามันบดบังภาพตรงหน้าจนหมด
...นี่ผมกำลังร้องไห้อยู่หรอ...
ร้องไห้กับการกระทำที่โหดร้ายของตัวเอง อย่ามารักฉันเลย ฉันไม่คู่ควรกับนายเลยซักนิด หลายวันมานี้นายสอนให้ฉันรู้จักอะไรหลายๆอย่าง แม้กระทั่งความรักที่คนอย่างฉันไม่สมควรได้รู้จักมันด้วยซ้ำ ความรักที่มาพร้อมความเจ็บปวดนี่ฉันอยากรับไว้คนเดียว ขอโทษนะที่ฉันไม่อาจตอบรับความรักของนายได้ แต่ว่าจริงๆแล้ว....ฉันก็รักนายนะ....
หลังจากวันนั้นผมก็ไม่กล้าลงไปซ้อมบาสหรือเช็คชื่อน้องๆเลย ทำไมน่ะหรอ ถ้าผมก้าวเท้าลงไปจากตึกนี้ละก็ต้องเจอมันแน่ๆเลย ยิ่งตอนนี้ได้ข่าวว่ามีสาวมานั่งเฝ้าถึงขอบสนามผมยิ่งไม่อยากลงไปเลย
“ใครแปะยันต์ไว้หน้าตึกวะ เพื่อนกูออกไปไม่ได้>O<!!”
ไอ้เซลเดินมากดน้ำพลางตะโกนลั่น
“กูไม่ใช่ผี-*-” ผมบอก
“เป็นเชี่ยไรละเนี่ย กูเห็นมึงไม่ลงไปซ้อมหลายวันละนะ กลัวแดดหรือไงไอ้ผีดิบ”
“เดี๋ยวกูก็งับหูให้ ผีดิบเชี่ยไรมึง-*-”
“ด่ากูจังวะ เล่นด้วยไม่ได้ไง เป็นไรเนี่ย มีอะไรทำไมไม่เคยบอกกูวะ”
แล้วมึงเคยอยู่ให้กูบอกป่ะละ เช้ามาก็น้องซัล เย็นก็น้องซัล วันหยุด
แม่ งก็ไม่มาซ้อม โทรศัพท์สายก็ไม่เคยว่าง บ้านแม่ งก็ไม่อยู่ แล้วจะให้กูไปเล่าให้มึงฟังตอนไหนฟะ-*-!!
“เงียบแบบนี้แอบด่ากูอยู่ในใจแน่ๆเลย-.-”
“ช่างเหอะ ไม่มีอะไร-_-” ผมบอก
“เอาแต่เงียบแบบนี้ ไม่มีใครรู้หรอกนะว่ามึงคิดอะไร ถ้ามึงไม่พูดออกมาก็ไม่มีใครบ้าอ่านใจมึงได้หรอกนะ-o-”
“มีสิ คนที่อ่านใจกูได้น่ะ”
“ไอ้เชี่ยนั่นแม่ งเทพมาก ใครวะพากูไปกราบที-o-”
“กูเบื่อมึงจังเลยหว่ะ พูดมาก-*-”
“อ้าว~ เออได้กูไปก็ได้ อ่อ อีกเรื่อง มึงไม่ลงไปคุมเด็กๆแม่ งโดดกันไปหลายคนละ เจอพี่บีกินด่าแน่”
มันบอกพลางตบหัวผมเบาๆแล้วเดินออกไป ใครโดดฟะ!! กล้ามากเลยนะมึงเดี๋ยวเจอดีๆ สุดท้ายผมก็ต้องลงไปจริงๆสินะ ทำไมผอ.ต้องเอาสนามบาสมาอยู่ติดกับสนามบอลด้วยวะ ย้ายไปซ้อมในโรงยิมได้มั้ยTT
“จะไปไหนพวกมึง!!”
ผมตะโกนเรียกรุ่นน้องที่จะกลุ่มเหมือนจะเดินไปไหน
“อาเจ้มาแล้วอ่ะ-o-”
“ใครเป็นเจ้ไม่ทราบ-*-!!” ไอ้เด็กเวรนี่
“อาเจ้นะเอเจ้ ไม่ยอมมาซ้อม สามีอาเจ้หนีไปมีกิ๊กใหม่แล้วโน่น”
มันชี้ไปริมสนามที่มีชายหัวแดงนั่งเคียงคู่กับเด็กสาวชุดนักเรียนเรา ว่าแล้วเชียวว่ามันต้องหาผู้หญิงได้เป็นร้อยๆ จบจากผมไปปุ๊บก็มีใหม่ปั๊บเลย บอกแล้วว่าเลิกๆกันไปก็ลืมไปเอง ลืมๆไปซะไอ้ที่นายเคยบอกรักฉันน่ะ
“อาเจ้...”
ดูเหมาะสมกันดีจริงๆ ผู้ชายน่ะมันต้องเกิดมาคู่กับผู้หญิงสิ ผู้ชายหล่อๆอย่างนายก็เหมาะสมกับผู้หญิงสาวๆที่นั่งอยู่ข้างๆนาย รอยยิ้มสดใสปรากฎอยู่บนริมฝีปากคู่นั้นที่ผมเคยสัมผัส มันฉีกยิ้มกว้างให้สาวคนข้างกาย ซึ่งเธอคนนั้นก็ยิ้มตอบมันเช่นกัน ฉันนึกว่ารอยยิ้มแบบนั้นนายจะมีให้ฉันคนเดียวซะอีก ฉันนี่หลงตัวเองจริงๆ
“เฮ้ย! มึงอ่ะ ทำกับอาเจ้ของพวกกูได้ยังไง!!”
ไอ้เด็กเวรนั่นตะโกนเสียงดังพลางเดินไปชี้หน้าไอ้เด็กหัวแดง กรรม มึงมาเดือดร้อนอะไรกับกูเนี่ย
“ขอโทษด้วยนะ ไอ้นี่มันชอบหาเรื่องชาวบ้านไปทั่วน่ะ”
ผมบอกแล้วก็ไปลากตัวมันออกมา ไอ้เด็กหัวแดงหุบยิ้มเมื่อกี้ลง กูคงมากวนเวลาสวีทวี้ดวิ้วของมึงสินะ จะรีบปลีกตัวหลบฉากเดี๋ยวนี้แหละ
“อาเจ้อย่าร้องไห้นะ เดี๋ยวผมจะไปต่อยมันให้>O<”
ไอ้เด็กเวร 2 พูด ไม่อยากไปเจอมันระยะสามเมตรแท้ๆ แต่เพราะพวก
แม่ งเนี่ยทำให้ผมต้องไปเจอหน้าไอ้หัวแดงมัน คิดแล้วเจ็บใจผมเลยไล่ทุบหัวไอ้เด็กพวกมือซะเลย
“เอาเลยครับเจ้ ถ้าเจ้ทุบหัวพวกผมแล้วมันจะแก้เครียดให้เจ้ได้”
ไอ้เด็กสามคนนั่นนั่งคุกเข่าก้มหัวให้ผม ฮ่าๆ พวกแกนี่มัน.....
“ฮึก...ฮือ ขอบใจ..มากนะ อึก”
ตั้งใจจะพูดธรรมดาแท้ๆ แต่ไหงเสียงสะอื้นมันกลับปนออกมาละ
“อาเจ้...TOT”
มันลุกขึ้นยืนกอดผมพลางร้องไห้ตาม เรื่องของผมเองแท้ๆแต่พวกมันกลับมาเสียใจแทนผมซะนี่ ผมจะหัวเราะกับความบ๊องแบบซื่อๆของพวกมันหรือจะร้องไห้ก่อนดีละเนี่ย
“พี่ต้า...”
ไอ้หัวแดงเดินเข้ามาใกล้ผม ผมยังไม่อยากเจอหน้ามันตอนนี้ แถมตอนนี้น้ำตาเต็มหน้าเลยด้วย ผมดึงไอ้ลูกกรอกสามตนออกแล้วก้าวเท้าวิ่งหนีทันที แล้วไอ้หัวแดงก็รีบวิ่งตามผมมาซะด้วย เวรกรรม!! ผมเหลือบมองหน้าต่างกระจกบานใสที่สะท้อนภาพคนตัวสูงที่วิ่งห่างจากผมไม่เท่าไหร่ ถ้าลดสปีดละก็โดนจับตัวได้แน่ๆ แต่ว่าไม่มาซ้อมไม่กี่วันทำไมรู้สึกวิ่งช้าลงแบบนี้วะ-o-;;
หมับ
ตึง!!
มือใหญ่คว้าตัวผมเหวี่ยงเข้ากระแทกกำแพงก่อนจะก้างแขนกั้นระหว่างตัวผมไว้ไม่ให้หนี ไม่หนีก็ได้งั้นกูหลบหน้า(_ _)
“อย่ามาหลบหน้าผมนะ!!”
หนีก็ไม่ได้ หลบก็ไม่ได้ มึงจะเอาไงกับกูเนี่ย-*-
“วิ่ง..ฮึก..ตามฉันมาทำไม..” ผมถาม
“แล้วพี่วิ่งหนีผมทำไม”
“ก็เพราะนาย..ฮึก..วิ่งตามฉันไง”
บ้าจริง!! ทำไมต้องมีเสียงฮึกๆเหมือนคนสะอึกแบบนี้ด้วยวะ น่ารำคาญจริง!!
“พี่ร้องไห้ทำไม”
กูก็ไม่รู้เหมือนกันโว้ย!!!
“ป่าว”
“เห็นอยู่ชัดๆว่าร้องไห้น่ะ!!”
มือจับหน้าผมให้เงยขึ้น สายตาคมเข้มสำรวจไปตามใบหน้าผม ปลายนิ้วเรียวเกลี่ยหยดน้ำใสๆออกจากแก้มผม มากไปแล้ว ไม่ต้องมายุ่งกับฉันมาก เดี๋ยวผู้หญิงคนนั้นก็เข้าใจผิดหรอก!!
เพี๊ยะ
ผมปัดมือใหญ่ออกพลางเดินหนีแต่แม่ งก็ยังจับผมไว้อีก
“พี่เกลียดผมขนาดนั้นเลยหรอ”
ไม่ได้เกลียด แต่ฉันไม่อยากพบนายในสภาพแบบนี้
วืด~
ร่างสูงกระชากตัวผมเข้าไปกอดขณะที่ผมยังไม่ทันตั้งตัว มันฝังใบหน้าลงบนไหล่ผมพร้อมพูดอะไรบางอย่างซึ่งผมก็ไม่ค่อยได้ยิน เพราะเสียงมันขาดห้วงมากจนฟังไม่ได้ศัพท์
“เกลียดผม..จริงๆหรอ”
“ฉันเกลียดนาย”
ได้ยินแล้วก็รีบๆไปซะ เลิกยุ่งกับฉันซะที!! ไปหาคนอื่นโน่น!!
“มองหน้าผม แล้วพูดสิ...”
มือที่สั่นไหวประคองใบหน้าผมขึ้นมาสบตา ดวงตาผมที่สันระริกพาเอาใจผมกระตุกวูบ ทำไมชอบทำให้คนอื่นรู้สึกอดอัดแบบนี้ จะให้ฉันมองหน้านายแล้วพูดแบบนั้นออกไปงั้นหรอ...ฉันทำไม่ได้
“พูดสิ” มันบอกย้ำ
“ฉะ...ฉัน..เกลียด..นาย”
สายน้ำอุ่นๆไหลรินลงข้างแก้มผม คำพูดกับความรู้สึกของผมมันขัดแย้งกัน ผมรู้อยู่แล้วว่าผมคงตีหน้าตายแล้วเอ่ยคำนั้นออกไปไม่ได้เพราะฉันรักนาย!
“ผมรักพี่นะ รักมาตลอด.... เลิกฝืนตัวเองได้แล้ว ช่วยรับรักผมซะทีเถอะ”
น้ำเสียงแหบแห้งพยายามเค้นคำพูดบอกกล่าวผม นายทำให้ฉันรู้สึกอยากร้องไห้โฮอีกแล้วนะ ทั้งที่ฉันบอกเลิกนายไปคราวนั้น นายก็น่าจะเจ็บฝังใจจนไม่กล้ามาเจอฉันอีก แต่ทำไม...ยิ่งไล่ยิ่งไม่ไปนะ
“ทะ..ทำไม ยังรัก..ฉันอยู่ได้ บ้าหรือป่าว!!”
“ผมรักพี่...”
“ฮึกๆ..อย่ามาพูดบ้าๆนะ!!”
“ผมรักพี่..”
“พอได้แล้ว!!”
“...ผมรักพี่นะครับ...”
“ฮึก! นาย..มันบ้าจริงๆ..”
“ครับ ผมมันบ้าที่โดนพี่หักอกแล้วก็ยังรักพี่อยู่อีก...”
“เอาแต่เงียบแบบนี้ ไม่มีใครรู้หรอกนะว่ามึงคิดอะไร ถ้ามึงไม่พูดออกมาก็ไม่มีใครบ้าอ่านใจมึงได้หรอกนะ-o-” ถึงฉันไม่บอกนายก็น่าจะอ่านใจฉันออก ถ้าไม่ยอมรับความหวังดีของฉัน อยากทำใจตามใจตัวเองละก็ ฉันก็จะทำตามใจตัวเองบ้างละนะ ถึงไล่แล้วไม่ยอมไปฉันก็จะรั้งนายไว้ก็ได้ เพราะฉันน่ะ....
“..ฉะ..ฉันก็รักนาย..”
“ผมดีใจที่สุดเลยครับ ”
มันกอดตัวผมไว้พลางพร่ำไปมาหลายๆรอบ ดีใจขนาดนั้นเลยหรอ ฉันก็ดีใจเหมือนกัน พอพูดออกไปแล้วรู้สึกโล่งมากเลย สมองก็เบาขึ้นด้วย ถ้ารู้ว่าทำแบบนี้แล้วจะหายจุกในอกละก็ ผมก็ควรจะทำไปนานแล้ว ต้องขอบคุณทุกคนที่ทำให้ผมได้รู้ว่า ผมควรทำตามใจตัวเองซะบ้าง
“จากนี้ไปเรามาพยายามไปด้วยกันนะครับ^^”
“อะ..อืม”
“เกี่ยวก้อยสัญญานะครับ^^”
ปัญญาอ่อนสิ้นดี เกี่ยวก้อยอะไรกัน
“ผมรักพี่นะ ..รักที่สุด..”
ฉันก็รักนายเหมือนกัน เพราะฉะนั้นต่อให้ดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้าไปอีกกี่รอบฉันก็ไม่กังวลอีกแล้ว เพราะฉันมีนายอยู่เคียงข้างแล้วไง....ไอ้หัวแดง^^
+++++Talk+++++
ลงโหดมากเลยรอบนี้ ก่อนเปิดเทอมนะ55
ขอบคุณที่แวะเวียนมาอ่านนะคะ
ใครอยากคอมเมนต์ติชม เมนต์ในนี้ได้เลย
หรือไปที่บล็อกก็ได้นะคะ (เคยให้บล็อกยังหว่า-o-)
ตั้งแต่ลบเรื่องออกจากเด็กดีก็ค่อนข้างโล่ง
บล็อกนี้เอาไว้เก็บNCอ่ะค่ะ555
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ