Sulfur Love (RE-Write)
9.2
เขียนโดย enzang2660
วันที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2556 เวลา 14.57 น.
57 บท
25 วิจารณ์
132.36K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2556 17.52 น. โดย เจ้าของนิยาย
19) เธอลืมไปหรือป่าว
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความบทที่ 18
℃เธอลืมไปหรือป่าวⓈ
“มึงกลับมาไมเนี่ยเปลืองตังค์!”
“กูเป็นห่วงพี่กู กูผิด?”
“ผิดดิ!”
“ผิดไร”
“ผิดที่มึงหน้าเหมือนกูไง!!!”
“มึงอ่ะคลอดหลังกู เสือกก๊อบหน้ากูไป-_-”
“กูเกิดก่อนโว้ย>O<!!”
“กู!!”
“ไปทำหน้าใหม่เลยมึงอ่ะ ถ้าไม่อยากหน้าเหมือนกู-*-”
“หน้ากูดีอยู่แล้วทำไมก็ต้องไปทำใหม่ละ-.^”
“หล่อตายมึงอ่ะ ไอ้ปลาดุกเอ้ย!!”
“ได้ข่าวว่ามึงเป็นแฝดแท้กับกูนะ ไอ้ปลาดุก^^”
“มึงมาต่อยกะกูเลยมา!!!”
ผมยืนเปิดประตูห้องพักผู้ป่วยแง้มไว้ กำลังคิดอยู่ว่าจะเข้าไปห้ามคนตีกันหรือจะรอให้ตีกันให้เสร็จก่อนแล้วค่อยเข้าไป-o-;
“เอ่อ...ผมมาเปลี่ยนเวรน่ะ”
ชายสองคนหยุดเอาหมอนฟาดกันแล้วหันมามองผมเป็นตาเดียว หนึ่งในสองคนนั้นเดินเข้ามาหาผมแล้วก็...
ฟอด!
“ซัลมาช้าจังเลยนะ คิดถึ๊ง..คิดถึง^^”
มัน...ก้มลงมาฉกแก้มผม-o-!! แล้วมันก็ยิ้มกริ่ม มันชื่อเคลวินครับเป็นน้องของพี่เซล เพราะพี่มันสลบมาหลายวันแล้วและน้องมันก็คอยมาเปลี่ยนเวรเฝ้าพี่มันกับผมแล้วก็พี่ต้าด้วย เลยมีโอกาสเจอกัน แต่ไม่ยักรู้ว่าเคลวินมีฝาแฝดด้วย-.-
“ไอ้แว่นตรงนั้นชื่อโรเมอร์ เรียกโรมก็ได้”
เคลวินแนะนำพลางเอามือมากอดเอวผมไว้ พี่มึงยังไม่ตื่นมึงคิดจะปฏิวัติยึดอำนาจและทรัพย์สินพี่มึงแล้วหรอ-o-;;
“แฟนพี่ซินะ”
นายแว่นที่ชื่อโรเมอร์เดินมามองผมใกล้ๆแล้วยื่นหน้ามาจนจมูกเกือบชนกับผม ถ้ามองไม่เห็นก็ไปตัดแว่นใหม่เหอะ>///<
“ใกล้ไปละไอ้แว่น เด๊ะเลนส์แตก!!”
เคลวินว่า มันดึงผมเข้าไปซุกกับแผงอกกว้างๆของมัน ขาก็ถีบโรเมอร์ให้เขยิบออกไป โห้!! ดูแลผมดีจังเลยนะ ขนาดพี่เซลมันยังไม่ถึงขนาดนี้เลยอ่ะ แค่กระทืบผู้ชายที่เข้ามายุ่งแล้วก็ทำโทษผม โดยการจับกด-o-; อันไหนอันหนักกว่ากันหว่า?
“เธอชื่ออะไรอ่ะ”
โรเมอร์ถาม ผมดันตัวออกจากการจับกุมของเคลวิน ไอ้บ้านี่กอดซะผมแทบจะตายคาอกมันเลย-*-
“ซัลเฟอร์ เรียกซัลก็ได้”
ผมบอก แทนที่นายแว่นจะมองหน้าผมแต่กลับมองลงต่ำมาที่กางเกงของผม ผมลืมรูดซิปหรอ-o-
หมับ!
มือหนาจับลงมาที่กล่องดวงใจของผม เล่นซะสติผมกระเจิงเลย ไอ้เชี่ยแว่น!! ไอ้โรคจิตTOT
“มึงทำไรของมึงไอ้โรม>O<!!”
เคลวินแหกปากพร้อมดึงผมที่กำลังยืนตาเหลือกเหมือนจิ้งจกโดนรถทับไปลูบหัวปลอบ ทำไมคนบ้านนี่ถึงน่ะ...น่ากลัวแบบนี้TOT
“ผู้ชายเรอะ-o-”
ยังจะมีหน้ามาถามนะเว้ย!! จับไปเต็มๆแบบนั้นแล้วอ่ะ>O<!!
“มึงทำให้ซัลของกูหวาดกลัวมาก ไปตายซะ!!”
เคลวินหันไปจิกตาใส่ไอ้แว่นแล้วลูบหัวผมต่อ
“โทษทีๆ งั้นจะจับของผมคืนก็ได้นะ”
ไอ้แว่นพูดเป็นเด็กอนุบาล มึงจะบ้าหราาา>O< มันก้าวเท้าเข้ามาใกล้ผม เคลวินมันก็ดึงผมหลบหลัง
“มะ...ไม่ได้โรจิตเหมือนนายนะ--”
ผมชะโงกหัวลอดช่องแคบระหว่างแขนเคลวินแล้วบอก
“ไม่ต้องเกรงใจน่า จะได้เท่าเทียมกันไง”
มันพูดต่อ หน้ากูบ่งบอกว่าเกรงใจมึงหรอ-o-;
“อย่ามาลามกแถวนี้นะเว้ย-*-” เคลวินพูด
“อย่างน้อยกูก็ไม่เนียนแต๊ะอั๋งแฟนพี่แบบมึง”
เอ่อใช่ ไอ้แว่นมันไม่ได้เนียน แต่ทำแบบโต้งๆและโจ่งแจ้งมากๆเลย ผมคงไม่กล้าเข้าใกล้มันแล้วละ
“พวกนายกลับไปพักผ่อนได้แล้วละ เดี๋ยวเฝ้าผมพี่เซลเอง”
ไล่นะครับ แต่ผมไล่ไอ้แฝดลามกแบบสุภาพเท่านั้นเอง ใจจริงก็อยากจะตะโกนว่า “ไสหัวกันไปได้แล้ว ไอ้แฝดนรก!!”
“ยัง-_-//ยัง^^”
ไอ้แฝดพูดพร้อมกัน ผมยกมือนวดขมับหน่อยๆ นี่ผมลงไปหายาเบื่อกรอกปากตัวเองหน่อยดีกว่ามั้งเนี่ย ปวดหัว-_-;
“แปลกใจจังที่พี่ไปคบกับผู้ชาย” นายแว่นพูด
“เอ่อ....นายคงไม่ชอบพวก..เกย์สินะ” ผมถาม
“ป่าวหรอก เมือกนอกมีเยอะแยะไป แต่ไม่คิดว่าพี่จะหันมาชอบผู้ชายน่ะ”
มันก็พูดวนอยู่ดีน่ะแหละผมนั่งลงที่เก้าอี้ข้างๆเตียงผู้ป่วย ทอดสายตามองไปยังใบหน้าหล่อที่นิ่งสนิท เรียบเฉยไม่แสดงอาการอะไร ผมก็ไม่คิดเหมือนกันว่าจะมาชอบพี่เซลได้ ผมชอบหลายๆอย่างในตัวพี่มันเพราะพี่มันใจดีและก็ตามใจผมไปซะทุกอย่างจนผมยิ่งเหลิงเอาแต่ใจไปซะทุกอย่างเลย แล้วพี่มันละชอบผมเพราะอะไร
“ซัล คิอะไรอยู่หรอ ไอ้แว่นมันพูดไรไม่เข้าหูใช่มั้ย” เคลวินถาม
“ป่าวหรอก ไม่มีอะไร”
“ใครจะมองยังไง แต่ถ้าพี่เป็นคนเลือกคบด้วยละก็คนๆนั้นต้องเป็นคนดีและน่ารักมากแน่ๆ เพราะงั้นเราก็ยอมรับได้หมดละ^^”
“เนยก็เป็นคนดีสินะ...”
บรรยากาศในห้องเงียบสงัดลง โรมกับเคลวินที่นั่งบนโซฟาต่างก็ไม่ปริปาก ผมหยิบมือของคนตรงหน้าขึ้นมากุมไว้ จริงๆแล้วที่ผ่านมาผมก็แอบกังวลเรื่องเนยมาตลอด เธอคนนั้นเป็นคนยังไงกันแน่ เป็นคนแบบไหนที่ทำให้พี่มันเคยรัก
“ช่วยเล่าเรื่องตอนที่พี่เซลคบกับเนยให้ฟังหน่อยได้มั้ย”
ผมหันหลังไปมอง พวกนั้นทำหน้าเหมือนลำบากใจคงจะเกรงใจผมที่ตอนนี้เป็นแฟนพี่มันอยู่ เลยไม่เล่า
“ถ้าอยากรู้จะเล่าให้ฟังก็ได้ พี่น่ะเป็นคนรักแฟนมากและก็ซื่อสัตย์ต่อแฟนตัวเองสุดๆไม่ต่างกับหมาเลยละ”
นั่นคือสิ่งเปรียบเทียบความเป็นพี่บังเกิดเกล้าของนายสินะโรมเมอร์-_-
“ตอนคบกันก็ดูพี่มีความสุขดีอยู่หรอก ผมมีโอกาสได้เจอพี่เนยแค่ไม่กี่ครั้งเอง พี่เซลกับพี่เนยคบกันมาตั้งแต่ม.1แล้วก็เลิกกันตอนจบม.3 แล้วพี่เนยย้ายไปเรียนโรงเรียนอื่น พี่เซลเสียใจมากเก็บตัวอยู่ในห้องไม่ยอมออกมาเป็นอาทิตย์ๆเลยล่ะ”
“มันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกหรอกนะสำหรับคนที่รักกันมาก็นานพอควรแถมยังเป็นแฟนคนแรกอีกแล้วยังโดนบอกเลิกด้วยวิธีง่ายๆแค่ว่า “ก็เซลใจดีกับคนอื่นเกินไป เนยทนไม่ได้” พี่เซลใจดีกับชาวบ้านมาแต่ไหนแต่ไรแล้วละ ถ้าทนไม่ได้จะมาคบด้วยทำไมก็ไม่รู้ และอีกอย่างคนที่เลิกกันไปแล้วยังมาคอยแวะเวียนอยู่รอบๆเป็นหมาหวงก้างแบบเนี๊ยะ เป็นเราๆเขี่ยทิ้งไปนานแล้วละ”
พูดอีกก็ถูกอีก ผมนอนผลุบหน้าลงข้างๆท่อนแขนใหญ่อย่างอ่อนแรงพลางมือของพี่มันให้แน่นขึ้น ข้างในอกผมมันจุกแน่นจนหายใจไม่ออกไม่รู้เพราะอะไร ตอนนี้พี่มันจะยังรักคนชื่อเนยอยู่อีกมั้ยนะ ก็เขาเป็นแฟนคนแรกนี่นา ถึงพี่มันจะบอกรักให้ผมฟังแต่ผมก็ยังกังวลอยู่ดี ช่วยตื่นขึ้นมาพูดให้ผมฟังอีกครั้งเร็วๆได้มั้ย ว่าพี่รักผมคนเดียว!!
“บรรยากาศตึงเครียดมากเลยบีหนึ่ง-o-;”
“เราถอยทัพกันก่อนเถอะบีสอง @-@”
“เป็นครั้งแรกที่กูสนับสนุนความเห็นมึงวันนี้มากๆเลยบีหนึ่ง”
“พวกเรากลับก่อนนะซัล”
เคลวินพูดสลับกันไปมากับโรมเมอร์ พวกนั้นโบกมือให้ผมแล้วก็รีบออกจากห้องไป ทิ้งให้ผมอยู่กับคนที่ยังนอนไม่ได้สติและผีซึ่งอาจจะมีอยู่ใต้เตียงหรือตามช่องแอร์-_-
แอด~
“คือว่าเนย...ขอเยี่ยมเซลหน่อยได้มั้ย”
หญิงสวยในชุดกระโปรงพลิ้วสวยเดินมาหยุดอยู่ใกล้ๆเตียง เดินเข้ามาขนาดนี้แล้วยังจะถามอีกหรอ ช้าไปหรือป่าว ผมก็คงไม่ใจร้ายถึงขั้นไม่ให้แฟนเก่าของพี่มันมาเยี่ยมหรอกนะ แค่แอบจิกกัดอยู่ในใจเท่านั้นเอง
“ตามสบาย”
ผมลุกจากเก้าอี้ย้ายไปนั่งที่โซฟา พอดูดีๆแล้วคนชื่อเนยก็สวยจริงๆแหละ ผิวขาวเหมือนลูกคนจีน นัยน์ตากลมโตเหมือนลูกแกะ แถมตัวเล็กบอบบางน่าทะนุถนอม ตัวก็คงนิ่มมากเวลากอด ตัวผมน่ะกอดไปก็คงเจอแต่กระดูกแน่ๆเลย
“เซล เนยมาเยี่ยมเซลแล้วนะ ตื่นขึ้นมาคุยกับเนยหน่อยสิ”
มือบางถือวิสาสะจับมืออุ่นของคนบนเตียงขึ้นมากุม ผมเมินหน้าหลบพลางหยิบหนังสือพิมพ์ขึ้นมาอ่านไล่ความหงุดหงิด
“เซล....”
เสียงใสอ้อนวอน มันจะได้ผลจริงๆหรอทำแบบนั้น ผมก็เคยลองทำมาหลายวันแล้วแท้ๆ
กึก!
เธอลุกขึ้นยืนพรวดจากเก้าอี้ ใบหน้าสวยฉายแววดีใจอย่างที่สุด เธอยิ้มออกมาพลางมองมาที่ผม
“เมื่อกี้เซลขยับมือแล้วละ!!”
ขยับตัวแล้วหรอ!! ผมวิ่งไปดูที่เตียงเปลือกตาเคลือบนัยน์ตาสีดำสนิทเริ่มเคลื่อนออก ผมยิ้มออกมาก่อนที่สมองจะสั่งการเสียอีก สายตาคมเข้มมองหน้าผมไปมาสลับกับมองหน้าเนย
“ผมไปตามหมอก่อนนะ”
ผมรีบวิ่งออกไปทันที ในที่สุดก็ฟื้นซักที!! ระหว่างวิ่งผมก็หยิบมือถือออกมารีบโทรหาพี่ต้าให้รีบมาโดยด่วย
“มาเร็วๆนะพี่”
(อือๆจะไปเดี๋ยวนี้แหละ ดีใจด้วยนะซัล)
ผมเคาะเคาเตอร์หินอ่อนแรงๆเพื่อเรียกพยาบาลที่กำลังแทะน่องไก่อยู่
“คนไข้ห้อง 303 ฟื้นแล้วครับ รีบตามหมอให้ทีนะครับ!!”
“รอซักครู่นะคะ”
“คุณองศานะครับ” คุณหมอพูด
“ครับ” พี่มันตอบ
“ขอหมอตรวจอะไรหน่อยนะ ลืมตากว้างๆนะ”
“...............”
“อื้ม แล้วรู้สึกหนักหัวหรือปวดหัวมั้ย”
“ครับ นิดหน่อย”
พี่มันทอดสายตามองมาที่ผมแล้วก็สลับไปมองเนยที่ยืนอยู่ไม่ไกล ริมฝีปากเรียวคลี่ยิ้มอ่อนโยนให้เธอ
“ขอบคุณเธอ เพื่อนเนยหรอ ฮ่าๆและก็ขอบคุณที่เนยมาเฝ้าไข้เซลนะ”
อึก!
ผมยกมือขึ้นมาขยุมเสื้อตัวเองไว้ “เธอ” หมายถึงผมน่ะหรอ ไม่ตลกเลยนะมาเรียกกันแบบนี้น่ะ แล้วอีกอย่างคนที่เฝ้าพี่น่ะคือผมด้วย!!
“หมอเคยบอกกับญาติคนไข้ไว้แล้วนะว่าอาจจะความจำเสื่อมได้”
หมอเอ่ยเสียงเรียบ มองผมที่กำลังหน้าซีดไร้วิญญาณ บอกญาติแต่ไม่ได้บอกผมนี่นา
“คุณองศาครับตอนนี้พ.ศ.อะไรครับ”
“25XX”
“ตอบเป็นXX แบบนั้นทั้งหมอและคนอ่านก็ไม่รู้เรื่องหรอกนะครับ ถามใหม่ตอนนี้คุณองศาเรียนอยู่ใช่มั้ยครับ อยู่ม.อะไรแล้วครับ”
“ม.2”
ม.2หรอ นี่ความจำเสื่อมจริงหรือแกล้งเสื่อมเพื่อแอ๊บเด็กกันแน่ ตลกมากใช่มั้ย รู้ทั้งรู้ว่านิยาย 10 เรื่อง 5 ใน 10 ต้องมีตอนพระเอกความจำเสื่อมแท้ๆยังกล้าเล่นอีกนะ!!
“พี่จำซัลได้มั้ย!?! ผมซัลไง ซัลแฟนพี่ไง!!”
ผมเขย่าแขนพี่มัน พี่มันมองหน้าผมด้วยสายตาเรียบเฉยแต่ดุดัน มือแกร่งดึงมือผมออก หัวใจผมเหมือนถูกบีบรัดให้แน่นขึ้น สายตาที่มองมามันไม่ต่างกับตอนนั้นเลย วันนั้นในร้านไอศกรีมหน้าโรงเรียน
“ฉันมีแฟนคนเดียว และเธอคนนั้นชื่อเนย”
น้ำเสียงเรียบนิ่งแต่กรีดแทงลงไปในใจผมอย่างมาก ในหัวพี่ตอนนี้มันไม่มีผมอยู่เลยหรอ แค่เศษเสี้ยวความทรงจำเล็กน้อยก็ไม่มีหรอ แค่.....นิดเดียวก็ยังดี
“ขอบคุณคุณหมอมากเลยนะคะ”
“ไม่เป็นไรครับ”
หมอออกไป เธอคนนั้นก็เข้ามายึดพื้นที่ใกล้เตียง ที่ๆที่ผมนั่งเฝ้านอนเฝ้าพี่มันอยู่ประจำ มือเล็กตบไหล่พี่มันเบาๆ
“เซลอย่าทำหน้าน่ากลัวแบบนั้นสิ”
เธอพูดพี่มันอย่างร่าเริง แล้วหันมายิ้มเยาะใส่ผมก่อนจะพูดว่า
“นายก็เหมือนกัน อย่าป้อนความทรงจำมั่วๆให้เซลได้มั้ย เซลน่ะเป็นแฟนพี่นะ”
“ความทรงจำมั่วๆงั้นหรอ เรื่องจริงต่างหากล่ะ!! เธอน่ะแหละอย่ามาฉวยโอกาสตอนที่พี่เซลความจำเสื่อมได้มั้ย!!”
ผมตะโกนลั่น ใบหน้าผมร้อนผ่าวโดยเฉพาะขอบตาที่มีน้ำเอ่อขึ้นมาบดบังทำให้ผมมองอะไรก็เบลอไปหมด แค่พี่มันจำผมไม่ได้ก็มากพอแล้ว ยังจะมาฉวยโอกาสแย่งพี่มันไปอีก เลวที่สุด!!
“หน้าด้าน!!” ผมว่า
“นายมีสิทธิ์อะไรมาว่าแฟนชั้นห๊ะ!!!”
พี่มันดีดตัวขึ้นมาจากเตียงแล้วตะโกน ผมสะดุ้งถอยหลัง หยาดน้ำตาหล่นกระจายเต็มเสื้อ สายตาที่นั่นกำลังทำให้ผมกลัว
“ผมเป็นแฟนพี่!”
“ชั้นไม่มีทางคบกับผู้ชาย เลิกพูดได้แล้ว!”
“ไม่!! ก็ผมมีสิทธิ์พูดนี่ ผมมีปาก!!”
พี่มันท่าทางโมโหมากมือหนากำหมัดแน่นเขาอาจชกหน้าผมได้ทุกเมื่อถ้าผมพูดออกไป แล้วยังไงในเมื่อมันเป็นเรื่องจริง....ผมน่ะมีสิทธิ์สิ
“และสิทธิ์ที่ผมเป็นแฟนพี่ไง!!”
วืด~
หมับ!
“ไอ้เซล!!”
หมัดหนักแน่นถูกหยุดไว้ในมือพี่ต้าก่อนพี่ต้าจะสวนหมัดชกเข้าไปที่ใบหน้าของพี่เซล พี่มันหันมาจ้องพี่ต้าอย่างโมโหจัดพลางปาดเลือดที่มุมปาก
“มึงต่อยกูทำไม!”
“แล้วมึงจะต่อยซัลทำไม” พี่ต้าพูดสวนกลับทันที
“มันบอกว่ามันเป็นแฟนกู”
“ก็น้องเขาเป็นแฟนมึงไง”
“กูไม่เชื่อ แฟนกูคือเนย!”
“แฟนมึงคือซัล ไม่ใช่เนย!!”
“กูไม่สน แล้วก็ไปให้พ้นหน้าด้วยยืนอยู่ทำไม!!”
พี่มันหันมาตะคอกใส่ผม ผมสูดลมหายใจเข้าเต็มปอด เนยยืนมองผมพลางยิ้มอย่างคนมีชัยชนะ เธอชนะ แต่แค่ตอนนี้!! เพราะผมจะต้องทำให้พี่มันกลับมาเป็นเหมือนเดิมให้ได้ ผมรีบวิ่งออกไป อะไรๆก็เนย ตื่นมาก็เนย กูเป็นคนที่ดูแลมึงแท้ๆแต่ก็ไปขอบคุณมัน แล้วยังมาไล่กูแบบนี้อีก กูเป็นแฟนมึงนะ ทำไมมึงทำกับกูแบบนี้ละ!! ผมพยายามคิดว่าที่พี่มันพูดแรงๆทำตัวแบบนี้กับผมคงเป็นเพราะความจำเสื่อม แต่ผมก็อดรู้สึกน้อยใจและก็มันไม่ได้ หัวใจของผมตอนนี้มันสั่นคลอนเสียแล้ว อย่าทำห้มันร้าวและแตกสลายไปมากกว่านี้เลยนะ รีบๆจำผมให้ได้เร็วๆทีเถอะ
[Celsius]
“พอนึกอะไรออกบ้างมั้ย” ไอ้ต้าถามผม
“นึกไรอ่ะ” ผมพูดพลางกระดกน้ำเข้าปาก
“เฮ้อ~ น่าเอาบาสทุ่มหัวจริงๆ”
“หัวกู?”
“ป่าวหัวกู เผื่อจะความจำเสื่อม คนความจำเสื่อมนี่แม่ ง ดีไปหมดเลยนะ กินข้าวฟรี กินน้ำฟรี มีคนให้ลอกการบ้านแถมยังเลื่อนสอบได้ด้วย”
“สอบไปแล้วหรอ”
“เออดิ กูเกือบตกวิชาโลกและวิญญาณ ครูแกสอนทีกูจะนิพพาน-_-”
“ฮ่าๆ ครูบุญอ่ะนะ ยังไม่ตายอีกหรอแก่มากแล้วนะ”
“ปากมึงนี่นรกแด กจริงๆ-o-”
“ฮ่าๆ”
“อ่ะ! น้องซัล”
ผมมองตามสายตาไอ้ต้าไปยังมุมตึกใกล้ๆโรงยิมใกล้สนามบาสกลางแจ้ง
ผมว่าผมเห็นอะไรแว้บๆ ผมลุกเดินไปที่ข้างตึกทันคนตัวเล็กที่กำลังวิ่งหนีผมอยู่ ขามันสั้นหรือขาผมยาวเกินเลยเดินตามมันทัน
หมับ!
ผมดึงคอเสื้อมันไว้ ตัวมันที่กำลังวิ่งไปข้างหน้าสุดแรงพอโดนผมกระชากเบาๆก็เซล้มลงไปนั่งท่าตัวMอยู่ที่พื้น มันเงยหน้ามองก่อนจะรีบลุกพรวดจะวิ่งหนีอีกผมเลยใช้แขนล็อกคอมันซะเลย
“จะรีบไปไหน”
ผมถาม มันก้มหน้าไม่ตอบแต่พยายามแกะแขนผมที่ล็อกคอเล็กๆของมันอยู่ ผมเลยล็อกมันให้แน่นขึ้นอีก ส่วนแขนอีกข้างก็ล็อกตัวมันให้แผ่นหลังมันแนบชิดติดกับตัวผม มันก็ยังแกะไม่เลิก เอาดิยิ่งแงะกูยิ่งล็อก เอาให้เกยตื้นตายเลยคอยดู
“ถามว่าจะรีบไปไหน”
“แค่กๆ...หายใจไม่ออก!”
“ก็ตอบมาสิ”
“ล็อกแบบนี้ใครมันจะ..จะตอบได้วะ!!”
โป๊ก!
ผมโขกกระบาลมันไปหนึ่งที ไอ้เด็กนี่ตอบดีๆไม่เป็นหรือไง นี่ผมไปเก็บเด็กแบบนี้มาทำแฟนจริงๆหรอ ไอ้ต้ามันกรอกหูผมทุกวันเลยว่าผมเป็นแฟนมันแต่มันไม่เห็นเคยโทรมาหาหรือมาเยี่ยมผมที่บ้านเลยซักครั้ง แฟนกันเขาทำกันแบบนี้หรอ-*-
“ตอบดีๆ อย่าหลบหน้าด้วย”
มันก้มอีกแล้ว เออเจริญสั่งอย่างทำอย่าง เด็กไรเนี่ยดื้อชะมัดเลย
“รีบกลับบ้าน” มันตอบ
“บ้านไฟไหม้หรอ?”
มันเงยหน้ามองผมทันที ผมเลิกคิ้วขึ้นหน่อยๆอย่างกวนๆ มันกัดปากแล้วก็สะบัดหน้าหนี
“พี่ไม่อยากเจอหน้าผม ผมก็เลยรีบกลับไง”
มันบ่นอุบอิบกำท่อนแขนผม ผมรู้สึกหัวใจหวิวไปตามน้ำเสียงของมัน รู้สึกอยากกอดมันให้แน่นขึ้น ผมเผลอยกมือลูบหัวมันพอรู้ตัวผมก็ขยี้หัวมันแล้วก็ปล่อยมันออก
“กลับดีๆแล้วกัน”
มันพยักหน้ารับแล้วหันหลังไป มันหยุดเท้าตัวลงแล้วหันมาหาผมอีก จะให้กูไปส่งหรอ บ้านกูเองยังกลับไม่ถูกเลย วันนี้ถ้าคนขับรถไม่มาส่งก็มาไม่ถึงโรงเรียนเหมือนกัน-o-;;
“บายๆครับ”
มันโบกมือให้ผมแล้วก็เดินไป ผมยิ้มให้มันก่อนหยิบมือถือขึ้นมาอ่านข้อความ “คืนนี้โทรหานะ^^ ...เนย...” อ่า แฟนผมอีกคน ในความทรงจำตอนนี้อ่ะนะ แต่แฟนตัวจริงก็คงเป็นไอ้เด็กนั่นแหละ ถึงจะยอมรับไม่ได้ว่ามีแฟนเป็นผู้ชายก็เถอะแต่ทำไงได้ในเมื่อเป็นไปแล้วคงทำใจและต้องรีบๆจำทุกอย่างให้ได้เร็วๆละนะ เด็กนั่นก็ไปได้หน้าตาน่าเกลียดเกินกว่าผมจะรับได้ ออกจะน่ารักยิ่งกว่าผู้หญิงด้วย นั่นเป็นเหตุผลที่ผมยอมเป็นเกย์หรือป่าวนะ-_-;;
“แฮ่กๆ คุณหนูอยู่นี่เองตามหาซะทั่วเลย คุณท่านกำลังรออยู่ที่บ้านรีบกลับกันเถอะครับ^^”
พ่อบ้านในชุดเต็มยศยิ่งกว่าคอสเพลย์ยืนโค้งให้ผม อายชะมัดเลย เพราะอย่างนี้ถึงไม่อยากให้พวกพ่อบ้านมารับมาส่ง ไม่อยากกลับบ้านด้วย-_-*
“คุณหมีFee มาทางนี้หน่อย”
“เย้ๆ คุณหมี^O^”
ดวงตากลมโตสีน้ำตาลเหลือบมองไปยังลานทรายกว้างใกล้โรงเรียนอนุบาล แขนเล็กๆของเหล่านักเรียนตัวน้อยดึงทึ้งหมีสีขาวตัวใหญ่ที่ถือลูกโปร่งสีสันสดใสไว้ในมือ
“มาสคอสหรอ เหมือนของจริงเลย*o*”
รถจักรยานสีน้ำเงินถูกจอดพิงต้นไม้ไว้ไม่ไกล เขาก้าวเท้าเข้าไปมือก็กดโทรศัพท์มือถือเพื่อเปิดกล้อง
“คุณหมีของชั้น!!”
“ของเค้านะ>O<”
“ไม่ใช่ของเราต่างหาก คุณหมีมานี่><”
แขนปุกปุยถูกเด็กๆรุมยื้อแย่งไปมา หมีตัวใหญ่เริ่มเอียงไปเอียงมาตามแรงดึง ร่างบางปาดเหงื่อก่อนจะตัดสินใจเข้าไปช่วยคุณมีที่อยู่ท่ามกลางกลุ่มเด็กๆ
“นี่ๆ ดึงแบบนั้นคุณหมีก็เจ็บหมดสิครับ^^”
เด็กๆหยุดการกระทำแล้วหันมามองบุรุษใบหน้าสวยที่ย่อตัวเอามือเท้าเข่าตัวเองคุยกับพวกเขาอยู่
“ถึงพี่สาวจะน่ารักแต่ผมไม่ให้หมีกับพี่สาวหรอกนะ-///-”
เด็กน้อยบ่น ใบหน้าหวานยิ้มแห้งๆ ทำไมใครๆชอบคิดว่าเขาเป็นผู้หญิงนะ
“แต่ถ้าไปดึงคุณหมีแรงๆคุณหมีจะโกรธแล้วกลายร่างเป็นปีศาจนะ!”
เสียงหวานใสพูดหลอกล่อให้เหล่าเด็กน้อยปล่อยมือออกจากคุณหมีผู้น่าสงสาร
“พี่ดูการ์ตูนมากไปหรือป่าว-o-”
“พี่เขาต้องบ้าไปแล้วแน่ๆเลย-_-”
“หมีจะกลายเป็นปีศาจได้ไง-*-”
“ไปบ้านไปกินยาเหอะพี่-o-”
รอยยิ้มเขินๆผุดขึ้นอีกครั้ง แหมเด็กสมัยนี้กินเลิกกินหญ้าแล้วหรอ ฉลาดกันจริงๆเลย ร่างบางคิด
“ไปกันเถอะเจ้าหญิง!”
หมีขาวคว้าข้อมือบางแล้วรีบพาหนีออกไปจากวงล้อมของเด็กๆ เท้าเล็กๆวิ่งตามหมีขาวกันเป็นขบวน
“หยุดเดี๋ยวนี้น้า>O<”
“กลับมานะคุณหมี!!”
ทั้งสองยังคงวิ่งต่อไปอย่างไม่สนใจอะไร ร่างบางพยุงตัวเองให้วิ่งตามหมีตัวยักษ์ให้ทัน ถ้าวิ่งไม่ทันหน้าสวยๆของเขาต้องลงไปแนบบนพื้นถนนแน่ๆ
“อะ...แฮ่กๆ..จะไปไหน...หยุดได้แล้ว”
เสียงหอบปนเสียงพูด ใบหน้าใสขึ้นสีแดงจากอาการหอบอย่างรุนแรง หมีตัวยักษ์ชะลอฝีเท้าลงก่อนคุกเข่าต่อหน้าหนุ่มหน้าหวาน ในตากลมโตฉายแววมึนงง นี่มันเป็นรายการเรียลลิตี้อะไรหรือป่าว
“ทำอะไรน่ะ ...แฮ่กๆ”
ร่างบางย่อตัวลงเท้ามือกลับเข่าตัวเองแล้วหายใจสูดเอาอากาศเข้าไป มือขาวปุกปุยยื่นมาจับมือเล็กๆไว้
“ไปทานน้ำชากันนะครับ เจ้าหญิง”
℃เธอลืมไปหรือป่าวⓈ
“มึงกลับมาไมเนี่ยเปลืองตังค์!”
“กูเป็นห่วงพี่กู กูผิด?”
“ผิดดิ!”
“ผิดไร”
“ผิดที่มึงหน้าเหมือนกูไง!!!”
“มึงอ่ะคลอดหลังกู เสือกก๊อบหน้ากูไป-_-”
“กูเกิดก่อนโว้ย>O<!!”
“กู!!”
“ไปทำหน้าใหม่เลยมึงอ่ะ ถ้าไม่อยากหน้าเหมือนกู-*-”
“หน้ากูดีอยู่แล้วทำไมก็ต้องไปทำใหม่ละ-.^”
“หล่อตายมึงอ่ะ ไอ้ปลาดุกเอ้ย!!”
“ได้ข่าวว่ามึงเป็นแฝดแท้กับกูนะ ไอ้ปลาดุก^^”
“มึงมาต่อยกะกูเลยมา!!!”
ผมยืนเปิดประตูห้องพักผู้ป่วยแง้มไว้ กำลังคิดอยู่ว่าจะเข้าไปห้ามคนตีกันหรือจะรอให้ตีกันให้เสร็จก่อนแล้วค่อยเข้าไป-o-;
“เอ่อ...ผมมาเปลี่ยนเวรน่ะ”
ชายสองคนหยุดเอาหมอนฟาดกันแล้วหันมามองผมเป็นตาเดียว หนึ่งในสองคนนั้นเดินเข้ามาหาผมแล้วก็...
ฟอด!
“ซัลมาช้าจังเลยนะ คิดถึ๊ง..คิดถึง^^”
มัน...ก้มลงมาฉกแก้มผม-o-!! แล้วมันก็ยิ้มกริ่ม มันชื่อเคลวินครับเป็นน้องของพี่เซล เพราะพี่มันสลบมาหลายวันแล้วและน้องมันก็คอยมาเปลี่ยนเวรเฝ้าพี่มันกับผมแล้วก็พี่ต้าด้วย เลยมีโอกาสเจอกัน แต่ไม่ยักรู้ว่าเคลวินมีฝาแฝดด้วย-.-
“ไอ้แว่นตรงนั้นชื่อโรเมอร์ เรียกโรมก็ได้”
เคลวินแนะนำพลางเอามือมากอดเอวผมไว้ พี่มึงยังไม่ตื่นมึงคิดจะปฏิวัติยึดอำนาจและทรัพย์สินพี่มึงแล้วหรอ-o-;;
“แฟนพี่ซินะ”
นายแว่นที่ชื่อโรเมอร์เดินมามองผมใกล้ๆแล้วยื่นหน้ามาจนจมูกเกือบชนกับผม ถ้ามองไม่เห็นก็ไปตัดแว่นใหม่เหอะ>///<
“ใกล้ไปละไอ้แว่น เด๊ะเลนส์แตก!!”
เคลวินว่า มันดึงผมเข้าไปซุกกับแผงอกกว้างๆของมัน ขาก็ถีบโรเมอร์ให้เขยิบออกไป โห้!! ดูแลผมดีจังเลยนะ ขนาดพี่เซลมันยังไม่ถึงขนาดนี้เลยอ่ะ แค่กระทืบผู้ชายที่เข้ามายุ่งแล้วก็ทำโทษผม โดยการจับกด-o-; อันไหนอันหนักกว่ากันหว่า?
“เธอชื่ออะไรอ่ะ”
โรเมอร์ถาม ผมดันตัวออกจากการจับกุมของเคลวิน ไอ้บ้านี่กอดซะผมแทบจะตายคาอกมันเลย-*-
“ซัลเฟอร์ เรียกซัลก็ได้”
ผมบอก แทนที่นายแว่นจะมองหน้าผมแต่กลับมองลงต่ำมาที่กางเกงของผม ผมลืมรูดซิปหรอ-o-
หมับ!
มือหนาจับลงมาที่กล่องดวงใจของผม เล่นซะสติผมกระเจิงเลย ไอ้เชี่ยแว่น!! ไอ้โรคจิตTOT
“มึงทำไรของมึงไอ้โรม>O<!!”
เคลวินแหกปากพร้อมดึงผมที่กำลังยืนตาเหลือกเหมือนจิ้งจกโดนรถทับไปลูบหัวปลอบ ทำไมคนบ้านนี่ถึงน่ะ...น่ากลัวแบบนี้TOT
“ผู้ชายเรอะ-o-”
ยังจะมีหน้ามาถามนะเว้ย!! จับไปเต็มๆแบบนั้นแล้วอ่ะ>O<!!
“มึงทำให้ซัลของกูหวาดกลัวมาก ไปตายซะ!!”
เคลวินหันไปจิกตาใส่ไอ้แว่นแล้วลูบหัวผมต่อ
“โทษทีๆ งั้นจะจับของผมคืนก็ได้นะ”
ไอ้แว่นพูดเป็นเด็กอนุบาล มึงจะบ้าหราาา>O< มันก้าวเท้าเข้ามาใกล้ผม เคลวินมันก็ดึงผมหลบหลัง
“มะ...ไม่ได้โรจิตเหมือนนายนะ--”
ผมชะโงกหัวลอดช่องแคบระหว่างแขนเคลวินแล้วบอก
“ไม่ต้องเกรงใจน่า จะได้เท่าเทียมกันไง”
มันพูดต่อ หน้ากูบ่งบอกว่าเกรงใจมึงหรอ-o-;
“อย่ามาลามกแถวนี้นะเว้ย-*-” เคลวินพูด
“อย่างน้อยกูก็ไม่เนียนแต๊ะอั๋งแฟนพี่แบบมึง”
เอ่อใช่ ไอ้แว่นมันไม่ได้เนียน แต่ทำแบบโต้งๆและโจ่งแจ้งมากๆเลย ผมคงไม่กล้าเข้าใกล้มันแล้วละ
“พวกนายกลับไปพักผ่อนได้แล้วละ เดี๋ยวเฝ้าผมพี่เซลเอง”
ไล่นะครับ แต่ผมไล่ไอ้แฝดลามกแบบสุภาพเท่านั้นเอง ใจจริงก็อยากจะตะโกนว่า “ไสหัวกันไปได้แล้ว ไอ้แฝดนรก!!”
“ยัง-_-//ยัง^^”
ไอ้แฝดพูดพร้อมกัน ผมยกมือนวดขมับหน่อยๆ นี่ผมลงไปหายาเบื่อกรอกปากตัวเองหน่อยดีกว่ามั้งเนี่ย ปวดหัว-_-;
“แปลกใจจังที่พี่ไปคบกับผู้ชาย” นายแว่นพูด
“เอ่อ....นายคงไม่ชอบพวก..เกย์สินะ” ผมถาม
“ป่าวหรอก เมือกนอกมีเยอะแยะไป แต่ไม่คิดว่าพี่จะหันมาชอบผู้ชายน่ะ”
มันก็พูดวนอยู่ดีน่ะแหละผมนั่งลงที่เก้าอี้ข้างๆเตียงผู้ป่วย ทอดสายตามองไปยังใบหน้าหล่อที่นิ่งสนิท เรียบเฉยไม่แสดงอาการอะไร ผมก็ไม่คิดเหมือนกันว่าจะมาชอบพี่เซลได้ ผมชอบหลายๆอย่างในตัวพี่มันเพราะพี่มันใจดีและก็ตามใจผมไปซะทุกอย่างจนผมยิ่งเหลิงเอาแต่ใจไปซะทุกอย่างเลย แล้วพี่มันละชอบผมเพราะอะไร
“ซัล คิอะไรอยู่หรอ ไอ้แว่นมันพูดไรไม่เข้าหูใช่มั้ย” เคลวินถาม
“ป่าวหรอก ไม่มีอะไร”
“ใครจะมองยังไง แต่ถ้าพี่เป็นคนเลือกคบด้วยละก็คนๆนั้นต้องเป็นคนดีและน่ารักมากแน่ๆ เพราะงั้นเราก็ยอมรับได้หมดละ^^”
“เนยก็เป็นคนดีสินะ...”
บรรยากาศในห้องเงียบสงัดลง โรมกับเคลวินที่นั่งบนโซฟาต่างก็ไม่ปริปาก ผมหยิบมือของคนตรงหน้าขึ้นมากุมไว้ จริงๆแล้วที่ผ่านมาผมก็แอบกังวลเรื่องเนยมาตลอด เธอคนนั้นเป็นคนยังไงกันแน่ เป็นคนแบบไหนที่ทำให้พี่มันเคยรัก
“ช่วยเล่าเรื่องตอนที่พี่เซลคบกับเนยให้ฟังหน่อยได้มั้ย”
ผมหันหลังไปมอง พวกนั้นทำหน้าเหมือนลำบากใจคงจะเกรงใจผมที่ตอนนี้เป็นแฟนพี่มันอยู่ เลยไม่เล่า
“ถ้าอยากรู้จะเล่าให้ฟังก็ได้ พี่น่ะเป็นคนรักแฟนมากและก็ซื่อสัตย์ต่อแฟนตัวเองสุดๆไม่ต่างกับหมาเลยละ”
นั่นคือสิ่งเปรียบเทียบความเป็นพี่บังเกิดเกล้าของนายสินะโรมเมอร์-_-
“ตอนคบกันก็ดูพี่มีความสุขดีอยู่หรอก ผมมีโอกาสได้เจอพี่เนยแค่ไม่กี่ครั้งเอง พี่เซลกับพี่เนยคบกันมาตั้งแต่ม.1แล้วก็เลิกกันตอนจบม.3 แล้วพี่เนยย้ายไปเรียนโรงเรียนอื่น พี่เซลเสียใจมากเก็บตัวอยู่ในห้องไม่ยอมออกมาเป็นอาทิตย์ๆเลยล่ะ”
“มันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกหรอกนะสำหรับคนที่รักกันมาก็นานพอควรแถมยังเป็นแฟนคนแรกอีกแล้วยังโดนบอกเลิกด้วยวิธีง่ายๆแค่ว่า “ก็เซลใจดีกับคนอื่นเกินไป เนยทนไม่ได้” พี่เซลใจดีกับชาวบ้านมาแต่ไหนแต่ไรแล้วละ ถ้าทนไม่ได้จะมาคบด้วยทำไมก็ไม่รู้ และอีกอย่างคนที่เลิกกันไปแล้วยังมาคอยแวะเวียนอยู่รอบๆเป็นหมาหวงก้างแบบเนี๊ยะ เป็นเราๆเขี่ยทิ้งไปนานแล้วละ”
พูดอีกก็ถูกอีก ผมนอนผลุบหน้าลงข้างๆท่อนแขนใหญ่อย่างอ่อนแรงพลางมือของพี่มันให้แน่นขึ้น ข้างในอกผมมันจุกแน่นจนหายใจไม่ออกไม่รู้เพราะอะไร ตอนนี้พี่มันจะยังรักคนชื่อเนยอยู่อีกมั้ยนะ ก็เขาเป็นแฟนคนแรกนี่นา ถึงพี่มันจะบอกรักให้ผมฟังแต่ผมก็ยังกังวลอยู่ดี ช่วยตื่นขึ้นมาพูดให้ผมฟังอีกครั้งเร็วๆได้มั้ย ว่าพี่รักผมคนเดียว!!
“บรรยากาศตึงเครียดมากเลยบีหนึ่ง-o-;”
“เราถอยทัพกันก่อนเถอะบีสอง @-@”
“เป็นครั้งแรกที่กูสนับสนุนความเห็นมึงวันนี้มากๆเลยบีหนึ่ง”
“พวกเรากลับก่อนนะซัล”
เคลวินพูดสลับกันไปมากับโรมเมอร์ พวกนั้นโบกมือให้ผมแล้วก็รีบออกจากห้องไป ทิ้งให้ผมอยู่กับคนที่ยังนอนไม่ได้สติและผีซึ่งอาจจะมีอยู่ใต้เตียงหรือตามช่องแอร์-_-
แอด~
“คือว่าเนย...ขอเยี่ยมเซลหน่อยได้มั้ย”
หญิงสวยในชุดกระโปรงพลิ้วสวยเดินมาหยุดอยู่ใกล้ๆเตียง เดินเข้ามาขนาดนี้แล้วยังจะถามอีกหรอ ช้าไปหรือป่าว ผมก็คงไม่ใจร้ายถึงขั้นไม่ให้แฟนเก่าของพี่มันมาเยี่ยมหรอกนะ แค่แอบจิกกัดอยู่ในใจเท่านั้นเอง
“ตามสบาย”
ผมลุกจากเก้าอี้ย้ายไปนั่งที่โซฟา พอดูดีๆแล้วคนชื่อเนยก็สวยจริงๆแหละ ผิวขาวเหมือนลูกคนจีน นัยน์ตากลมโตเหมือนลูกแกะ แถมตัวเล็กบอบบางน่าทะนุถนอม ตัวก็คงนิ่มมากเวลากอด ตัวผมน่ะกอดไปก็คงเจอแต่กระดูกแน่ๆเลย
“เซล เนยมาเยี่ยมเซลแล้วนะ ตื่นขึ้นมาคุยกับเนยหน่อยสิ”
มือบางถือวิสาสะจับมืออุ่นของคนบนเตียงขึ้นมากุม ผมเมินหน้าหลบพลางหยิบหนังสือพิมพ์ขึ้นมาอ่านไล่ความหงุดหงิด
“เซล....”
เสียงใสอ้อนวอน มันจะได้ผลจริงๆหรอทำแบบนั้น ผมก็เคยลองทำมาหลายวันแล้วแท้ๆ
กึก!
เธอลุกขึ้นยืนพรวดจากเก้าอี้ ใบหน้าสวยฉายแววดีใจอย่างที่สุด เธอยิ้มออกมาพลางมองมาที่ผม
“เมื่อกี้เซลขยับมือแล้วละ!!”
ขยับตัวแล้วหรอ!! ผมวิ่งไปดูที่เตียงเปลือกตาเคลือบนัยน์ตาสีดำสนิทเริ่มเคลื่อนออก ผมยิ้มออกมาก่อนที่สมองจะสั่งการเสียอีก สายตาคมเข้มมองหน้าผมไปมาสลับกับมองหน้าเนย
“ผมไปตามหมอก่อนนะ”
ผมรีบวิ่งออกไปทันที ในที่สุดก็ฟื้นซักที!! ระหว่างวิ่งผมก็หยิบมือถือออกมารีบโทรหาพี่ต้าให้รีบมาโดยด่วย
“มาเร็วๆนะพี่”
(อือๆจะไปเดี๋ยวนี้แหละ ดีใจด้วยนะซัล)
ผมเคาะเคาเตอร์หินอ่อนแรงๆเพื่อเรียกพยาบาลที่กำลังแทะน่องไก่อยู่
“คนไข้ห้อง 303 ฟื้นแล้วครับ รีบตามหมอให้ทีนะครับ!!”
“รอซักครู่นะคะ”
“คุณองศานะครับ” คุณหมอพูด
“ครับ” พี่มันตอบ
“ขอหมอตรวจอะไรหน่อยนะ ลืมตากว้างๆนะ”
“...............”
“อื้ม แล้วรู้สึกหนักหัวหรือปวดหัวมั้ย”
“ครับ นิดหน่อย”
พี่มันทอดสายตามองมาที่ผมแล้วก็สลับไปมองเนยที่ยืนอยู่ไม่ไกล ริมฝีปากเรียวคลี่ยิ้มอ่อนโยนให้เธอ
“ขอบคุณเธอ เพื่อนเนยหรอ ฮ่าๆและก็ขอบคุณที่เนยมาเฝ้าไข้เซลนะ”
อึก!
ผมยกมือขึ้นมาขยุมเสื้อตัวเองไว้ “เธอ” หมายถึงผมน่ะหรอ ไม่ตลกเลยนะมาเรียกกันแบบนี้น่ะ แล้วอีกอย่างคนที่เฝ้าพี่น่ะคือผมด้วย!!
“หมอเคยบอกกับญาติคนไข้ไว้แล้วนะว่าอาจจะความจำเสื่อมได้”
หมอเอ่ยเสียงเรียบ มองผมที่กำลังหน้าซีดไร้วิญญาณ บอกญาติแต่ไม่ได้บอกผมนี่นา
“คุณองศาครับตอนนี้พ.ศ.อะไรครับ”
“25XX”
“ตอบเป็นXX แบบนั้นทั้งหมอและคนอ่านก็ไม่รู้เรื่องหรอกนะครับ ถามใหม่ตอนนี้คุณองศาเรียนอยู่ใช่มั้ยครับ อยู่ม.อะไรแล้วครับ”
“ม.2”
ม.2หรอ นี่ความจำเสื่อมจริงหรือแกล้งเสื่อมเพื่อแอ๊บเด็กกันแน่ ตลกมากใช่มั้ย รู้ทั้งรู้ว่านิยาย 10 เรื่อง 5 ใน 10 ต้องมีตอนพระเอกความจำเสื่อมแท้ๆยังกล้าเล่นอีกนะ!!
“พี่จำซัลได้มั้ย!?! ผมซัลไง ซัลแฟนพี่ไง!!”
ผมเขย่าแขนพี่มัน พี่มันมองหน้าผมด้วยสายตาเรียบเฉยแต่ดุดัน มือแกร่งดึงมือผมออก หัวใจผมเหมือนถูกบีบรัดให้แน่นขึ้น สายตาที่มองมามันไม่ต่างกับตอนนั้นเลย วันนั้นในร้านไอศกรีมหน้าโรงเรียน
“ฉันมีแฟนคนเดียว และเธอคนนั้นชื่อเนย”
น้ำเสียงเรียบนิ่งแต่กรีดแทงลงไปในใจผมอย่างมาก ในหัวพี่ตอนนี้มันไม่มีผมอยู่เลยหรอ แค่เศษเสี้ยวความทรงจำเล็กน้อยก็ไม่มีหรอ แค่.....นิดเดียวก็ยังดี
“ขอบคุณคุณหมอมากเลยนะคะ”
“ไม่เป็นไรครับ”
หมอออกไป เธอคนนั้นก็เข้ามายึดพื้นที่ใกล้เตียง ที่ๆที่ผมนั่งเฝ้านอนเฝ้าพี่มันอยู่ประจำ มือเล็กตบไหล่พี่มันเบาๆ
“เซลอย่าทำหน้าน่ากลัวแบบนั้นสิ”
เธอพูดพี่มันอย่างร่าเริง แล้วหันมายิ้มเยาะใส่ผมก่อนจะพูดว่า
“นายก็เหมือนกัน อย่าป้อนความทรงจำมั่วๆให้เซลได้มั้ย เซลน่ะเป็นแฟนพี่นะ”
“ความทรงจำมั่วๆงั้นหรอ เรื่องจริงต่างหากล่ะ!! เธอน่ะแหละอย่ามาฉวยโอกาสตอนที่พี่เซลความจำเสื่อมได้มั้ย!!”
ผมตะโกนลั่น ใบหน้าผมร้อนผ่าวโดยเฉพาะขอบตาที่มีน้ำเอ่อขึ้นมาบดบังทำให้ผมมองอะไรก็เบลอไปหมด แค่พี่มันจำผมไม่ได้ก็มากพอแล้ว ยังจะมาฉวยโอกาสแย่งพี่มันไปอีก เลวที่สุด!!
“หน้าด้าน!!” ผมว่า
“นายมีสิทธิ์อะไรมาว่าแฟนชั้นห๊ะ!!!”
พี่มันดีดตัวขึ้นมาจากเตียงแล้วตะโกน ผมสะดุ้งถอยหลัง หยาดน้ำตาหล่นกระจายเต็มเสื้อ สายตาที่นั่นกำลังทำให้ผมกลัว
“ผมเป็นแฟนพี่!”
“ชั้นไม่มีทางคบกับผู้ชาย เลิกพูดได้แล้ว!”
“ไม่!! ก็ผมมีสิทธิ์พูดนี่ ผมมีปาก!!”
พี่มันท่าทางโมโหมากมือหนากำหมัดแน่นเขาอาจชกหน้าผมได้ทุกเมื่อถ้าผมพูดออกไป แล้วยังไงในเมื่อมันเป็นเรื่องจริง....ผมน่ะมีสิทธิ์สิ
“และสิทธิ์ที่ผมเป็นแฟนพี่ไง!!”
วืด~
หมับ!
“ไอ้เซล!!”
หมัดหนักแน่นถูกหยุดไว้ในมือพี่ต้าก่อนพี่ต้าจะสวนหมัดชกเข้าไปที่ใบหน้าของพี่เซล พี่มันหันมาจ้องพี่ต้าอย่างโมโหจัดพลางปาดเลือดที่มุมปาก
“มึงต่อยกูทำไม!”
“แล้วมึงจะต่อยซัลทำไม” พี่ต้าพูดสวนกลับทันที
“มันบอกว่ามันเป็นแฟนกู”
“ก็น้องเขาเป็นแฟนมึงไง”
“กูไม่เชื่อ แฟนกูคือเนย!”
“แฟนมึงคือซัล ไม่ใช่เนย!!”
“กูไม่สน แล้วก็ไปให้พ้นหน้าด้วยยืนอยู่ทำไม!!”
พี่มันหันมาตะคอกใส่ผม ผมสูดลมหายใจเข้าเต็มปอด เนยยืนมองผมพลางยิ้มอย่างคนมีชัยชนะ เธอชนะ แต่แค่ตอนนี้!! เพราะผมจะต้องทำให้พี่มันกลับมาเป็นเหมือนเดิมให้ได้ ผมรีบวิ่งออกไป อะไรๆก็เนย ตื่นมาก็เนย กูเป็นคนที่ดูแลมึงแท้ๆแต่ก็ไปขอบคุณมัน แล้วยังมาไล่กูแบบนี้อีก กูเป็นแฟนมึงนะ ทำไมมึงทำกับกูแบบนี้ละ!! ผมพยายามคิดว่าที่พี่มันพูดแรงๆทำตัวแบบนี้กับผมคงเป็นเพราะความจำเสื่อม แต่ผมก็อดรู้สึกน้อยใจและก็มันไม่ได้ หัวใจของผมตอนนี้มันสั่นคลอนเสียแล้ว อย่าทำห้มันร้าวและแตกสลายไปมากกว่านี้เลยนะ รีบๆจำผมให้ได้เร็วๆทีเถอะ
[Celsius]
“พอนึกอะไรออกบ้างมั้ย” ไอ้ต้าถามผม
“นึกไรอ่ะ” ผมพูดพลางกระดกน้ำเข้าปาก
“เฮ้อ~ น่าเอาบาสทุ่มหัวจริงๆ”
“หัวกู?”
“ป่าวหัวกู เผื่อจะความจำเสื่อม คนความจำเสื่อมนี่แม่ ง ดีไปหมดเลยนะ กินข้าวฟรี กินน้ำฟรี มีคนให้ลอกการบ้านแถมยังเลื่อนสอบได้ด้วย”
“สอบไปแล้วหรอ”
“เออดิ กูเกือบตกวิชาโลกและวิญญาณ ครูแกสอนทีกูจะนิพพาน-_-”
“ฮ่าๆ ครูบุญอ่ะนะ ยังไม่ตายอีกหรอแก่มากแล้วนะ”
“ปากมึงนี่นรกแด กจริงๆ-o-”
“ฮ่าๆ”
“อ่ะ! น้องซัล”
ผมมองตามสายตาไอ้ต้าไปยังมุมตึกใกล้ๆโรงยิมใกล้สนามบาสกลางแจ้ง
ผมว่าผมเห็นอะไรแว้บๆ ผมลุกเดินไปที่ข้างตึกทันคนตัวเล็กที่กำลังวิ่งหนีผมอยู่ ขามันสั้นหรือขาผมยาวเกินเลยเดินตามมันทัน
หมับ!
ผมดึงคอเสื้อมันไว้ ตัวมันที่กำลังวิ่งไปข้างหน้าสุดแรงพอโดนผมกระชากเบาๆก็เซล้มลงไปนั่งท่าตัวMอยู่ที่พื้น มันเงยหน้ามองก่อนจะรีบลุกพรวดจะวิ่งหนีอีกผมเลยใช้แขนล็อกคอมันซะเลย
“จะรีบไปไหน”
ผมถาม มันก้มหน้าไม่ตอบแต่พยายามแกะแขนผมที่ล็อกคอเล็กๆของมันอยู่ ผมเลยล็อกมันให้แน่นขึ้นอีก ส่วนแขนอีกข้างก็ล็อกตัวมันให้แผ่นหลังมันแนบชิดติดกับตัวผม มันก็ยังแกะไม่เลิก เอาดิยิ่งแงะกูยิ่งล็อก เอาให้เกยตื้นตายเลยคอยดู
“ถามว่าจะรีบไปไหน”
“แค่กๆ...หายใจไม่ออก!”
“ก็ตอบมาสิ”
“ล็อกแบบนี้ใครมันจะ..จะตอบได้วะ!!”
โป๊ก!
ผมโขกกระบาลมันไปหนึ่งที ไอ้เด็กนี่ตอบดีๆไม่เป็นหรือไง นี่ผมไปเก็บเด็กแบบนี้มาทำแฟนจริงๆหรอ ไอ้ต้ามันกรอกหูผมทุกวันเลยว่าผมเป็นแฟนมันแต่มันไม่เห็นเคยโทรมาหาหรือมาเยี่ยมผมที่บ้านเลยซักครั้ง แฟนกันเขาทำกันแบบนี้หรอ-*-
“ตอบดีๆ อย่าหลบหน้าด้วย”
มันก้มอีกแล้ว เออเจริญสั่งอย่างทำอย่าง เด็กไรเนี่ยดื้อชะมัดเลย
“รีบกลับบ้าน” มันตอบ
“บ้านไฟไหม้หรอ?”
มันเงยหน้ามองผมทันที ผมเลิกคิ้วขึ้นหน่อยๆอย่างกวนๆ มันกัดปากแล้วก็สะบัดหน้าหนี
“พี่ไม่อยากเจอหน้าผม ผมก็เลยรีบกลับไง”
มันบ่นอุบอิบกำท่อนแขนผม ผมรู้สึกหัวใจหวิวไปตามน้ำเสียงของมัน รู้สึกอยากกอดมันให้แน่นขึ้น ผมเผลอยกมือลูบหัวมันพอรู้ตัวผมก็ขยี้หัวมันแล้วก็ปล่อยมันออก
“กลับดีๆแล้วกัน”
มันพยักหน้ารับแล้วหันหลังไป มันหยุดเท้าตัวลงแล้วหันมาหาผมอีก จะให้กูไปส่งหรอ บ้านกูเองยังกลับไม่ถูกเลย วันนี้ถ้าคนขับรถไม่มาส่งก็มาไม่ถึงโรงเรียนเหมือนกัน-o-;;
“บายๆครับ”
มันโบกมือให้ผมแล้วก็เดินไป ผมยิ้มให้มันก่อนหยิบมือถือขึ้นมาอ่านข้อความ “คืนนี้โทรหานะ^^ ...เนย...” อ่า แฟนผมอีกคน ในความทรงจำตอนนี้อ่ะนะ แต่แฟนตัวจริงก็คงเป็นไอ้เด็กนั่นแหละ ถึงจะยอมรับไม่ได้ว่ามีแฟนเป็นผู้ชายก็เถอะแต่ทำไงได้ในเมื่อเป็นไปแล้วคงทำใจและต้องรีบๆจำทุกอย่างให้ได้เร็วๆละนะ เด็กนั่นก็ไปได้หน้าตาน่าเกลียดเกินกว่าผมจะรับได้ ออกจะน่ารักยิ่งกว่าผู้หญิงด้วย นั่นเป็นเหตุผลที่ผมยอมเป็นเกย์หรือป่าวนะ-_-;;
“แฮ่กๆ คุณหนูอยู่นี่เองตามหาซะทั่วเลย คุณท่านกำลังรออยู่ที่บ้านรีบกลับกันเถอะครับ^^”
พ่อบ้านในชุดเต็มยศยิ่งกว่าคอสเพลย์ยืนโค้งให้ผม อายชะมัดเลย เพราะอย่างนี้ถึงไม่อยากให้พวกพ่อบ้านมารับมาส่ง ไม่อยากกลับบ้านด้วย-_-*
“คุณหมีFee มาทางนี้หน่อย”
“เย้ๆ คุณหมี^O^”
ดวงตากลมโตสีน้ำตาลเหลือบมองไปยังลานทรายกว้างใกล้โรงเรียนอนุบาล แขนเล็กๆของเหล่านักเรียนตัวน้อยดึงทึ้งหมีสีขาวตัวใหญ่ที่ถือลูกโปร่งสีสันสดใสไว้ในมือ
“มาสคอสหรอ เหมือนของจริงเลย*o*”
รถจักรยานสีน้ำเงินถูกจอดพิงต้นไม้ไว้ไม่ไกล เขาก้าวเท้าเข้าไปมือก็กดโทรศัพท์มือถือเพื่อเปิดกล้อง
“คุณหมีของชั้น!!”
“ของเค้านะ>O<”
“ไม่ใช่ของเราต่างหาก คุณหมีมานี่><”
แขนปุกปุยถูกเด็กๆรุมยื้อแย่งไปมา หมีตัวใหญ่เริ่มเอียงไปเอียงมาตามแรงดึง ร่างบางปาดเหงื่อก่อนจะตัดสินใจเข้าไปช่วยคุณมีที่อยู่ท่ามกลางกลุ่มเด็กๆ
“นี่ๆ ดึงแบบนั้นคุณหมีก็เจ็บหมดสิครับ^^”
เด็กๆหยุดการกระทำแล้วหันมามองบุรุษใบหน้าสวยที่ย่อตัวเอามือเท้าเข่าตัวเองคุยกับพวกเขาอยู่
“ถึงพี่สาวจะน่ารักแต่ผมไม่ให้หมีกับพี่สาวหรอกนะ-///-”
เด็กน้อยบ่น ใบหน้าหวานยิ้มแห้งๆ ทำไมใครๆชอบคิดว่าเขาเป็นผู้หญิงนะ
“แต่ถ้าไปดึงคุณหมีแรงๆคุณหมีจะโกรธแล้วกลายร่างเป็นปีศาจนะ!”
เสียงหวานใสพูดหลอกล่อให้เหล่าเด็กน้อยปล่อยมือออกจากคุณหมีผู้น่าสงสาร
“พี่ดูการ์ตูนมากไปหรือป่าว-o-”
“พี่เขาต้องบ้าไปแล้วแน่ๆเลย-_-”
“หมีจะกลายเป็นปีศาจได้ไง-*-”
“ไปบ้านไปกินยาเหอะพี่-o-”
รอยยิ้มเขินๆผุดขึ้นอีกครั้ง แหมเด็กสมัยนี้กินเลิกกินหญ้าแล้วหรอ ฉลาดกันจริงๆเลย ร่างบางคิด
“ไปกันเถอะเจ้าหญิง!”
หมีขาวคว้าข้อมือบางแล้วรีบพาหนีออกไปจากวงล้อมของเด็กๆ เท้าเล็กๆวิ่งตามหมีขาวกันเป็นขบวน
“หยุดเดี๋ยวนี้น้า>O<”
“กลับมานะคุณหมี!!”
ทั้งสองยังคงวิ่งต่อไปอย่างไม่สนใจอะไร ร่างบางพยุงตัวเองให้วิ่งตามหมีตัวยักษ์ให้ทัน ถ้าวิ่งไม่ทันหน้าสวยๆของเขาต้องลงไปแนบบนพื้นถนนแน่ๆ
“อะ...แฮ่กๆ..จะไปไหน...หยุดได้แล้ว”
เสียงหอบปนเสียงพูด ใบหน้าใสขึ้นสีแดงจากอาการหอบอย่างรุนแรง หมีตัวยักษ์ชะลอฝีเท้าลงก่อนคุกเข่าต่อหน้าหนุ่มหน้าหวาน ในตากลมโตฉายแววมึนงง นี่มันเป็นรายการเรียลลิตี้อะไรหรือป่าว
“ทำอะไรน่ะ ...แฮ่กๆ”
ร่างบางย่อตัวลงเท้ามือกลับเข่าตัวเองแล้วหายใจสูดเอาอากาศเข้าไป มือขาวปุกปุยยื่นมาจับมือเล็กๆไว้
“ไปทานน้ำชากันนะครับ เจ้าหญิง”
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.4 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.4 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ