Sulfur Love (RE-Write)

9.2

เขียนโดย enzang2660

วันที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2556 เวลา 14.57 น.

  57 บท
  25 วิจารณ์
  132.69K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2556 17.52 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

18) คนร้ายในคดีนี้ก็คือ!?!

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

บทที่ 17

℃คนร้ายในคดีนี้ก็คือ!?!Ⓢ

               

                ผมหลบพวกเพื่อนๆโดยบอกว่าจะไปเข้าห้องน้ำแล้วก็ปีนหนีออกมาจากห้องน้ำ  ผมลากเท้าบุกป่าฝ่าลวดหนามมายืนตรงหน้าตึกร้างสีทึบขนาดใหญ่ที่โอบล้อมไปด้วยต้นกระถิ่นและต้นหญ้าที่สูงมิดหัว  ไม่ได้กลัวคำท้าทายในจดหมายหรอกนะ  แต่กลัวบรรยากาศที่เย็นยะเยือกนี่มากกว่า  ผมเหลือบมองไปยังกองซากประหลักหักพังของศาลเล็กๆที่วางเรียงรายอยู่เต็มหน้าตึก  ท้องฟ้าสีส้มเริ่มเปลี่ยนเป็นสีครึ้ม  ผมลอบกลืนน้ำลายเล็กน้อยก่อนยกนาฬิการขึ้นมาดูเวลา  เพิ่งจะหกโมงกว่าแท้ๆแต่ทำไมบรรยากาศมันชวนล่าท่าผีแบบนี้ คุณเจนนน คุณส่งจดหมายมาให้ผมใช่ม้ายยยย TOT

 

                แกร๊บ!

 

                “ใครน่ะ!?!”

                เวร!!  แม่บอกไม่ให้ร้องทักอะไรตอนมืดๆ –o-;;  ทำไมแม่สอนแล้วผมไม่จำแบบนี้งะTOT

                “มาเร็วดีนี่  ขึ้นมาดื่มชากันก่อนสิ”

                เสียงพูดดังลงมาจากด้านบน  ผมเงยหน้ามองขึ้นไปยังเธอคนนั้น   คนที่เข้ามาวีนผมวันแรกที่ผมเริ่มคบกับพี่เซล!!

                “เธอ....”

                “ใช่ฉันเองแหละ!”

                เธอบอกเสียงเข้มพร้อมแสยะยิ้มและจิกตามองผม  ถ้ายัยนี่ใส่ชุดไทยอยู่ละก็ผมคงวิ่งหนีไปแล้ว  ผมก็อยากรู้ว่าใครเป็นคนทำเรื่องทั้งหมดนี้!!  แต่ก่อนอื่น...

                “เธอชื่ออะไรอ่ะ-o-”

                “นี่แก! ไม่รู้จักฉันหรอ!!”

                “ถ้ารู้แล้วจะถามมั้ยละ-*-”

                “แก๊!!”

                “ไม่ต้องบอกล่ะ แค่อยากมาดูให้รู้ว่าไอ้พวกชอบสร้างความร้าวฉานให้คนอื่นมันคือใคร”

                “เหอะ! ต้องขอโทษด้วยนะ แต่ฉันบอกแล้วไงว่าให้แกเลิกกับพี่เซลซะ!!”

                ยัยนี่มันเป็นญาติฝั่งไหนของพี่ตูน บอดี้แสลมวะ  ว้ากอยู่ได้!! รำคาญโว้ย  จะตะโกนหาพ่อมึงหรออออ

                “ไม่เลิก!!  เธออยากจะทำอะไรก็เชิญเลย ฉันไม่ยอมแพ้ง่ายๆหรอก!”

                ผมตอบอย่างหนักแน่น  จ้องไปยังผู้หญิงที่ยืนอยู่ชั้นบนอย่างไม่วางตา  แค่เกือบโดนปล้ำ  โดนมากกว่านี้คงไม่เป็นไรหรอก และผมก็มั่นใจว่าในตอนที่ผมตกอยู่ในอันตราย  พี่มันจะต้องมาช่วยผมแน่ๆ ผมเชื่ออย่างนั้น

                “คงพูดกันไม่รู้เรื่องจริงๆสินะนายเนี่ย”

                เธอพูดเสียงเรียบพลางเดินเข้ามาใกล้ขอบชั้นสองที่ปราศจากสิ่งกีดขวาง 

                “ฉันว่าฉันพูดภาษาไทยชัดแล้วนะ”  ผมสวนกลับ

                ใบหน้าภายใต้เครื่องสำอางชั้นหนายิ้มเยาะออกมา  ทำให้ผมรู้สึกงงๆกับแม่นางเล็กน้อย  ไม่ได้เล่นมุกนะเว้ย  ไม่ต้องขำ!! 

 

                พรึ่บ!

 

                มือหนากดลงผ้าสีขาวปิดจมูกผมไว้แน่น  ใครวะ!! หายใจไม่ออกนะเว้ย  ผมดิ้นสะบัดตัวสุดแรงเกิดแต่กลิ่นหอมอ่อนๆทำให้เปลือกตาผมเริ่มหนักขึ้นเรื่อยๆจนไม่สามารถควบคุมมันได้อีก  ได้แต่ปล่อยให้สติจมดิ่งสู่ความว่างเปล่าเท่านั้น

[Celsius]

               

                ผมเดินหัวเสียอย่างหนัก  มือก็กดโทรออกหาไอ้เด็กซนที่แอบหนีผมไปไหนก็ไม่รู้   บอกให้ไอ้วิวมันเฝ้าไว้แล้วแท้ๆ  เผลอแว้บเดียวหาย  ตอนนี้ผมไม่อยากให้มันไปไหนมาไหนคนเดียวมันอันตราย(สำหรับมัน)  ไม่รู้ว่ามีใครพาตัวไปไหนอีกหรือป่าว  หน้าตายิ่งล่อลวงพวกโรคจิตได้ดีซะด้วย  คบกับมันแล้วผมอยากจะระเบิดสมองตัวเองทิ้งจริงๆ  ปวดหัววววว!!

                “ไม่เจอหว่ะ”

                ไอ้ต้าบอก  ผมให้มันไปแค่คนเดียวไหนหลับมาสองคน  มากับไอ้เด็กชมรมบอล  ไปเก็บได้แถวไหนละเนี่ย

                “กูก็โทรไม่ติด”

                จีพีอาร์เอสก็ไม่เปิดแล้วจะตามหายังไง  โทรหาแม่มันๆก็บอกยังไม่กลับบ้าน  แล้ววมันหายหัวไปไหน

               

                ตึก!

               

                “ไอโฟน!!”

                ไอ้ต้าร้องเมื่อผมเขวี้ยงไอโฟนลงไปเจาะพื้นเพื่อระบายอารมณ์  ในเมื่อมีมือถือแล้วโทรไม่ติดก็ไม่ต้องมีหรอกมั้ง

                “ไม่เอาก็บอกกูดิ มึงไม่ต้องทำหน้าซีเรียสขนาดนั้นหรอก”

                “มึงลองมาเป็นกูมั้ยละต้า?”

                “ให้กูไปเป็นแฟนซัลหรอ-o-”

                “-_-+”

                “ซัลคงไม่ได้อยู่ในโรงเรียนแล้วละกูว่า”

                ผมหันหลังมุ่งหน้าไปลานจอดรถ  ไม่หือไม่อือตอบโต้อะไรไอ้ต้ามัน ยังไงก็ต้องหาให้เจอถึงแม้จะไม่มีเบาะแสอะไรเลยก็ตาม  ผมขึ้นสตาร์ทรถคันสวยแล้วขับเลี้ยวโค้งแบบเหยียบคันเร่งมิด

 

                เอี๊ยด!

 

                “เซล!!”

                ผมเหยียบเบรกพร้อมกระชากเบรกมือเพื่อหยุดรถที่เกือบทะยานไปชนผู้หญิงที่ยืนขวางอยู่หน้ารถ  เธอตกใจถอยหลังเล็กน้อยแล้วกุมมือไว้ที่อกอย่างคนขวัญผวา  ผมรีบเปิดประตูลงไปดูเธอว่าเป็นอะไรหรือป่าว  หวังว่าไม่เป็นไรนะ เกือบติดคุกแล้วมั้ยละ!

                “เนย”   ผมเรียกชื่อเธอ

                “เซล! เซลต้องรีบไปช่วยซัลนะ”

                เธอบอก  มือเล็กยื่นมาเขย่าแขนผมแรงๆ

                “ซัลเป็นอะไร!”  ผมรีบถามเธอ

            “น่ะ..เนยได้ยินรุ่นน้องเนยที่ชอบเซลบอกว่า...”

                “ว่าอะไร!!”

                “เซลอย่าดุเนยซิ”

                เธอทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ที่ผมขึ้นเสียงใส่  ให้ตายเหอะ! ผมผิดที่ไปขึ้นเสียงถามสินะ 

                “โทษทีๆ ช่วยรีบๆเล่าหน่อยได้มั้ย”

                “รุ่นน้องบอกว่าจะจับตัวซัลไปไว้ที่ตึกร้างใกล้ๆโรงเรียนเซลน่ะ”

                “งั้นหรอ ขอบใจมากนะที่มาบอก”

                ผมจับไหล่เธอแล้วบอก  ก่อนรีบวิ่งขึ้นรถ  ซึ่งไอ้ต้าขึ้นมาอยู่ด้วยแล้วตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่รู้  ช่างเหอะ  ตอนนี้ไม่มีเวลามาคิดอะไรแล้ว  ต้องรีบแล้ว!!

                “เนยรู้ได้ไงวะ ว่าซัลหายไป”

                ไอ้ต้าเอ่ยขึ้น

                “กูก็ไม่รู้  แต่ที่รู้ๆกูรีบ”

                “มึงมองโลกในแง่ดีจังเนอะ ไม่สงสัยอะไรบ้างหรือไง”

                ผมชะงักมือที่กดปุ่มสตาร์ทรถ ก่อนจะโบกมือให้มันหุบปาก  ผมไม่อยากหาเรื่องให้หนักหัวอีก  ไว้กลับมาแล้วคอยว่ากันอีกทีดีกว่า  มันทำหน้าเซ็งจิตแล้วก็ยอมนั่งเงียบแต่โดยดี  ผมเหยียบคันเร่งอีก  แต่เนยก็วิ่งมาขวางอีก  เออกูจะได้ไปช่วยซัลมันมั้ยวะ!!

                “เซลเนยไปด้วยนะ”

                เสียงใสๆตะโกนเข้ามาในรถ  ผมทำหน้าหน่ายใจ  แต่ก่อนที่จะได้ปริปากปฏิเสธไปเธอก็พูดต่อซะก่อน

                “เนยคิดว่าเนยอาจจะไปห้ามน้องแพรวทันน่ะ”

                “ไม่ทันแล้วมั้ง จับไปแล้วหนิ”

                ไอ้ต้าพูดพลางทำลอยหน้าลอยตา  ทำหน้าน่าถีบชิบเลย  ผมถอนหายใจแล้วเอื้อมมือไปเปิดประตูข้างๆคนขับให้เธอ

                “รีบๆขึ้นมา อย่ายืนขวางหน้ารถ”

 

 

 

[Sulfur]

 

                ....หนักหัวจัง.....

                ปวดหัวมากๆเลย

                รู้สึกเหมือนข้อมือจะหลุดออกมาเลยด้วย

               

                “ตื่นซักที ฉันไม่มีน้ำมาราดหัวแกหรอกนะ!!”

                เสียงแว๊ดๆดังก้องในหัวโครงเครงของผม  ผมส่ายหน้าไล่ความมึนแล้วเงยหน้าขึ้นมองผู้หญิงตรงหน้าและอีกสองสามคนข้างๆเธอ

                “ได้ค่าจ้างแล้วก็ไปซะ”

                แบงค์สีเทาถูกควักออกจากกระเป๋าเงินใบสวยแล้วแจกจ่ายให้พวกผู้ชายที่ยืนรายล้อมอยู่  เมื่อมันรับเงินแล้วก็รีบลงบันไดไป  ทิ้งให้ผมในสภาพถูกมัดไว้กับคนโรคจิตที่เคยส่งคนมาเล่นงานผม

                “จะเล่นกายกรรมSMหรือไง ผูกกูไว้แบบนี้เนี่ย”

                ผมถาม  ยัยนี่มันรวบข้อมือผมผูกไว้กับนั่งร้านเก่าๆในตึก

                “ปากยังดีอยู่นี่!”

 

                เพี๊ยะ!

 

                มือเรียวฟาดลงบนใบหน้าผมอย่างเต็มแรง  ผมรู้สึกได้เลยว่าฟันมันชนกับกระพุ้งแก้มในโพรงปาก  ผู้หญิงสมัยนี้แรงควายจริงๆ

                “เหอะ! มีแรงแค่นี้เองหรอ”

 

                เพี๊ยะ!

 

                สิ้นเสียง0.01วินาทีหน้าผมก็เสไปอีกทาง  ผมเผยอยิ้มเล็กน้อยแล้วคายน้ำสีแดงออกจากปาก  

                “กล้ามากนะ!!”

                “อืม แล้วไงละ^^”

                “เหอะ อยากรู้จริงๆ ถ้าหน้าสวยๆของแกเกิดมีรอยแผลยาว....แบบนี้”

                แสงสีเงินจากปลายมีดสะท้อนกับแสงไปดวงเล็กในตึก  คมมีดเรียวไล้ไปตามข้างแก้มผมเบาๆ  ก่อนจะสร้างรอยเลือดให้ผม  หยดน้ำเหนียวข้นสีแดงไหลรินไปตามข้างแก้มและใบมีด  สร้างความพอใจให้คนตรงหน้าผมอย่างมาก  เธอหัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่งเหมือนเด็กได้ของรางวัลที่ถูกใจ

                “ไม่ปากดีต่อแล้วหรอ ฮ่าๆ เก่งนักไม่ใช่หรือไง”  เธอถาม

                “โรคจิต!”

                เธอกำมีดแน่น  นัยน์ตาเธอเบิกกว้างขึ้นอย่างน่ากลัว  มือเล็กหันปลายมีดแหลมคมมาจ่ออยู่ระดับคอผม  ผมเชิดหน้าขึ้นอัตโนมัติเพื่อหลบปลายมีดนั้นให้ได้มากที่สุด  ไม่น่าไปเล่นอะไรแพลงๆกับพวกโรจิตเลยแหะ  จะมีชีวิตกลับไปเจอหน้าพ่อกับแม่มั้ยเนี่ย  เฮ้อ~ กรรม

 

                “หยุดเดี๋ยวนี้นะ!!!”

 

                ร่างสูงโปร่งวิ่งมาหยุดอยู่ไม่ไกลจากผม  เขารู้ได้ยังไงว่าผมอยู่ที่นี่  ผมไม่ได้บอกใครเลยนะแถมยังแอบออกมาอย่างเงียบๆด้วย  เสียงฝีเท้าวิ่งดังขึ้นอีกระลอกก่อนจะปรากฏร่างของชายหนุ่มผมสีทองและผู้หญิงร่างเล็กแลดูบอบบาง

ปลายมีดคมละออกจากคอผมเล็กน้อย  มือเล็กๆสั่นเทา  นัยน์ตาสวยจับจ้องไปยังผู้หญิงอีกคนที่ยืนอยู่ข้างๆพี่เซล

                “พี่เนย!! พี่...พี่พาพี่เซลมาหรอ!!”

                เสียงแหลมตวาด ใบหน้าเธอดูขึงขังยิ่งกว่าเดิม  ผมขนลุกกับทาทีของเธอมาก  คนชื่อเนยยืนเกาะแขนแกร่งของพี่มันแล้วแอบแนบใบหน้าหลบสายตาอันเคืองแค้นของแพรวกับท่อนแขนลำสัน 

                “คะ...คือว่า”

                “พี่หักหลังแพรวหรอ!!”

                มือเล็กจิกลำแขนของคนตัวสูงไว้แน่นและไม่เปิดปากตอบอะไร  พี่เซลเอื้อมมือไปแตะมือเล็กนั่นเป็นเชิงปลอบขวัญ  แต่สำหรับผมมันเป็นภาพที่กรีดแทงให้ผมรู้สึกเจ็บยิ่งกว่าตอนโดนมีดกรีดหน้าซะอีก  ถึงจะรู้ว่าพี่มันเลิกกับคนชื่อเนยไปนานแล้วแต่ผมก็อดคิดไม่ได้  เพราะพี่มันยังทำท่าห่วงใยเธอคนนั้นอยู่

....ใจดีเกินไปแล้วนะ.....พี่น่ะ!

                “เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นกับซัลเป็นฝีมือเธอใช่มั้ย”

                พี่มันถามเสียงเรียบ  แต่แววตากลับไม่เรียบเฉยเอาซะเลย  พี่มันคงกำลังโมโหอยู่สินะ

                “....ใช่ แพรวเป็นคนทำ”  แพรวตอบ

                “เธอ!!”

                “แต่พี่เนยก็...”

                “ปล่อยซัลเถอะนะแพรว!!”

                เสียงหวานตะโกนขึ้นตัดบทสนทนาระหว่างพี่เซลกับแพรว  ผมต้องขอบคุณคนที่เกาะแขนแฟนผมอยู่สินะ!! อุส่าห์ช่วยผม

                “แพรววางมีดก่อนนะ” 

พี่ต้าที่ยืนนิ่งอยู่นานกล่าว  พี่เซลแกะมือที่ติดแน่นกับแขนออกแล้วเดินเข้ามาหาผม 

“อย่าเข้ามานะ!!”

 

ควับ!

 

มีคมตวัดตัดเชือกที่ผูกข้อมือผม  ทำให้ผมที่ยืนเขย่งปลายเท้าเอียงไปเอียงมาและเซล้ม  พี่มันตกใจจะเข้ามาประคองผม  แต่ไม่ทันจะเข้ามาถึงตัว  แพรวก็ล็อกคอและจ่อมีดไว้กับคอผมอีก

“อย่าเข้ามา”

เธอกดเสียงลง  วงแขนเล็กลากคอผมให้เดินตามเธอไป  ตอนนี้ผมยืนอยู่ที่ทางลงบันไดที่เก่าและพุพัง 

“ทำไมพี่เซลต้องรักมัน  ทั้งที่แพรวมองพี่เซลมาก่อนมัน  ทำไมละ  มันก็แค่เด็กปากดีคนนึง  ทำไมพี่ถึงรักมัน”

เสียงสั่นเครือเปล่งถาม  ผมรู้สึกถึงน้ำอุ่นๆที่ไหลลงบนไหล่ผม  แขนเล็กๆเริ่มคลายออกจากรอบคอผม ทำไมงั้นหรอ?  เป็นคำถามที่ผมก็อยากรู้อยู่เหมือนกัน  แต่พี่มันยังยืนเงียบและนิ่งไม่ตอบ  เพราะว่าแฟนเก่ายืนอยู่ด้วยหรอ  เลยไม่อยากตอบคำถามนี้....

“ทำไมกันนะ....”

ผมเอ่ยอย่างแผ่วเบา  มีดสีเงินถูกทิ้งลงกับพื้น   แพรวปล่อยแขนจากคอผมแล้วยกมือขึ้นปิดหน้าอำพรางหยาดน้ำตาที่ร่วงหล่นลงมา  ความรักทำให้เราทำอะไรเพื่อมันได้ทุกอย่าง   ทั้งที่มันทำให้เราเจ็บปวดเสมอ  แต่เราก็ยังแสวงหาและอยากจะครอบครองมัน

“ฮึก...ฮือๆ”

ร่างเล็กทรุดตัวนั่ง  ผมจะควรทำอย่างไรดีนะ  มีคนมาร้องไห้อยู่ตรงหน้าแบบนี้  ถึงจะเป็นคนที่คิดจะทำร้าย  ไม่สิ  ทำร้ายผมร่างกายผมเลยละ  ผมย่อตัวลงแล้วลูบหัวเธอเบาๆ 

 

เพี๊ยะ!

 

เธอปัดมือผมออกอย่างแรงแล้วมองผมอย่างตื่นตะหนก  และนั้นทำให้เธอเซหงายไปข้างหลัง 

“แพรว!”

ผมตะโกน ร่างเล็กๆกำลังลอยลงบันไดสูงลิ่วไป  ผมเอื้อมมือไปคว้าข้อมือเธอแล้วเหวี่ยงตัวแพรวขึ้นมาไว้ข้างบน   ส่วนผมก็ลงไปแทนที่แพรว  ผมหลับตารอรับผลจากการช่วยคนอื่นให้รอดแล้วตัวเองต้องมารับเคราะห์แทน 

“ซัล!!!”

เสียงตะโกนดังก้องของใครบ้างนะ ที่ตะโกนเรียกชื่อผม  ลมแรงพัดลู่ตัวผมไป  นานแค่ไหนกว่าจะตกถึงพื้นวะ  แล้วตกไปตายเลยได้มั้ย  ไม่อยากพิการอ่ะ

แต่ผมยังไม่ได้ฟังเหตุผลเลยว่าทำไมพี่มันถึงรักผม….

 

                ตุ๊บ!

 

                ผมตาโพรงทันที  จุกแต่ไม่เจ็บแหะ  ผมกวาดสายตามองรอบตัว  อ้อมแขนอบอุ่นที่คุ้นเคยโอบกอดผมไว้ทำให้ผมไม่เป็นอะไรมาก  แต่ว่าพี่มันสิ.....

                “พี่เซล!”

                ทุกคนวิ่งลงมายังชั้นล่าง  ผมเขย่าตัวพี่มันแรงๆเพื่อให้มันตื่น  จะลงมาช่วยผมทำไมนะ  ไอ้บ้าเอ้ย!!  แล้วสุดท้ายตัวเองก็มานอนจมกองเลือดแบบนี้!!  น้ำตาผมพรั่งพรูออกมา  ทำไมนอนนิ่งแบบนี้ละ  ตื่นขึ้นมาตอบอะไรบ้างซิ  ผมซบหน้าลงบนอกกว้างแล้วปล่อยโฮ  เสียงหัวใจยังเต้นเป็นจังหวะแต่ไม่มีการตอบสนองอะไรจากพี่มันเลย

                “ครับ ขอรถฉุกเฉินมาด่วนเลยนะครับ!! ไม่เอาร่วมกตัญญูกับปอเต็กตึ๊งนะครับ ครับๆ”

                พี่ต้าวางสายแล้วย่อตัวลงนั่งข้างๆผม

                “ใจเย็นๆนะซัล เซลมันต้องไม่เป็นไร”

                ผมพยักหน้าตอบเบาๆ พี่มันต้องไม่เป็นไร  ขอห้เป็นอย่างนั้นนะ  ตกลงมาขนาดนี้มันจะตายมั้ยอ่ะ!!

                “เซล..”

                “อย่ามาจับ!!”

                ผมตวาดแล้วมองหน้าอย่างหาเรื่อง  เมื่อคนชื่อเนยเอื้อมมือมาจับแขนแกร่งของพี่มัน  เธอผงะถอยไป ผมประคองใบหน้าหล่อมาวางไว้บนตัก  เข้าใจความรู้สึกของอังศุมาลินวันนี้แหละ  แต่ขออย่าให้พี่มันไปรอผมที่ทางช้างเผือกก่อนละ  ผมรู้ว่าผมรักพี่มันมาก!!  มากซะจนผมอธิบายไม่ได้ว่าเพราะอะไร  และผมคงขาดพี่มันไม่ได้....

                “พี่ต้องไม่เป็นไรนะ ต้องอยู่กับซัลนะ..”

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.4 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.4 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา