Sulfur Love (RE-Write)
9.2
เขียนโดย enzang2660
วันที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2556 เวลา 14.57 น.
57 บท
25 วิจารณ์
132.70K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2556 17.52 น. โดย เจ้าของนิยาย
15) คำถามที่อยากรู้กับคำตอบที่ไม่อาจบอก(1)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความบทที่ 14
℃คำถามที่อยากรู้กับคำถามที่ไม่อาจบอก(1)Ⓢ
“ไอ้ซาลลลลลลลลลล>o<!!”
“มึงจะตะโกนทำมายยยยยย>O<”
“ถ้ากูไม่แล้วมึงจะได้ยินหรอ>O<!”
“ห๊ะ! ว่าไรนะ>O<”
ผมกับไอ้ไอซ์ยืนว้ากคุยกันอยู่กลางคอนเสิร์ตของ “ฟาเรนไฮต์” คนไทยที่ไปเป็นนักร้องอยู่ที่ญี่ปุ่น ไอ้ไอซ์มันหาบัตรมาให้ แต่มันไกลจากหน้าเวทีโคตรๆเลยอ่ะ ทำไมฟาเรนต์จังตัวเท่ามดเลยอ๊า!!
“กูปวดฉี่ไปเป็นเพื่อนกูหน่อยยยยยยยย>O<”
“ออกไปแล้วกูจะเข้ามาใหม่ยังงายยยย>O<!!”
“ไว้ค่อยมาวันอื่นก็ด้ายยย”
“วันนี้มันรอบสุดท้ายเว้ยยยย กลั้นไว้ก่อนนนน”
“ไอ้ซาลลลลลTOT”
ผมทนมองภาพไอ้ไอซ์ดิ้นไปมาพลางกุมช้างน้อย เฮ้อ~ ทำตัวน่าเกลียดได้อีกนะมึงเนี่ย ตอนนี้เป็นช่วงฟาเรนต์เข้าไปพักพอดีเลยมีโชว์อื่นขึ้นมาแทน ไปก็ไปวะ
“เดินเร็วๆดิ๊” ผมบอกมัน
“ให้กูขี่คอมึงไปดีกว่า กูจะราดแล้วววว”
มันพูด ถ้ากูให้มึงขี่คอแล้วเสื อกปล่อยราดบนคอกู กูจะทำไงละ ไอ้เวรนี่-_-**
ผมพามันเดินออกมาเรื่อยๆก็เจอกับ ผู้ชายตัวเล็กๆ ใบหน้าหวานใส ผิวขาวอมชมพูในชุดหนังสีดำมันวาว นั่นมัน!! ฟาเรนต์จัง*O* พระเจ้าต้องขอบคุณที่ไอ้ไอซ์เกิดปวดฉี่ขึ้นมา!!
“นั่น! ฟาเรนต์นี่นาไปขอลายเซ็นต์กัน >//<”
ไอ้ไอซ์ชี้พลางกระโดดเกาะผม
“ได้ข่าวว่ามึงปวดฉี่นะ รีบๆไปเลยเดี๋ยวกูขอแทนให้”
ผมบอกพร้อมโบกมือไล่มัน
“กูจะถ่ายรูปด้วยยย>3<”
“กูจะไปยืนถ่ายแทนมึงเอง ไปได้แล้วววว”
ผมตะโกนแล้วพลักมันให้เดิน ฟาเรนต์จังหันหน้าควับมองมาทางพวกผมพอดี เขาฉีกยิ้มกว้างให้พวกผมและก้าวเท้าเข้ามาหา อยากจะกรี๊ดจังโว้ยยย>///<!!
“พี่เซลลลลลล^O^”
อะเระ! รู้ชื่อแฟนผมได้ไงเนี่ย ผมกับไอ้ไอซ์มองตามฟาเรนต์ที่เดินผ่านเราไปราวกับธาตุอากาศ เขาเดินตรงเข้าไปกอด ไอ้พี่เซลOoO!!!
“พี่หายใจไม่ออก ฟา-_-;”
พี่มันดันฟาเรนต์ออกจากเอว ฟาเรนต์ทำแก้มป่องๆอย่างไม่สบอารมณ์ รู้จักกันได้ยังไงหะเนี่ย แล้วทำไมฟาเรนต์ต้องเข้าไปกอดด้วยล่ะ>.<!
“ก็ผมคิดถึงพี่นี่นา มาจูบทีสิ>3<”
ปลายเท้าเล็กๆเขย่งสูงขึ้นพร้อมกับใบหน้าหวานสวยที่ลอยเข้าไปใกล้จนริมฝีปากจะประทับกัน ไอ้ฟาเรนต์!! นั่นมันแฟนกูนะเว้ยยย! ไอ้บ้าเซลมึงก็ไม่หลบเขานะ!!
“เลิกเล่นได้แล้วน่า มีคนอยู่แถวนี้ไม่เห็นหรอ”
พี่มันพูดก่อนที่พี่มันจะหันมาเจอพวกผม ผมก็ลากไอ้ไอซ์มาเก็บหลังกำแพงแล้ว รู้จักกันไม่พอ กอดกันด้วย แถมจะจูบกันด้วย นี่มึงยังเป็นแฟนกูอยู่หรือป่าววววว
“ไหนอ่ะดอกไม้O.o” ฟาเรนต์ถาม
“เปลืองตังค์ช่วงนี้ชอต-_-” พี่มันตอบ
“พี่เซลอ่ะ-3-”
ฟาเรนต์พูดพลางเข้าไปกอดแขนแล้วเอาหน้าถูๆไถๆกับแขนไอ้พี่เซล จะมากไปแล้วนะ เดี๋ยวองค์ลงแล้วจะวงแตก!!
“ไอซ์ กูไม่ดูคอนต่อแล้วนะ” ผมพูด
“ตามใจมึงเหอะ ว่าแต่แฟนมึงไปรู้จักกับคนดังระดับเอเชียแบบนั้นได้ไงว้า>//<” มันพูด
“กูจะไปรู้หรอ กิ๊กหมายเลขหนึ่งมั้ง-*-”
“กูว่ามึงอ่ะกิ๊ก ใครจะบ้าเอาคนดังมาทำกิ๊กวะ!”
“ไปตายในห้องน้ำเลยไป-_-++”
ผมพูดแล้วเดินลงบันไดหนีไฟไป ไม่อยากยืนดูฉากสวีทชวนคลื่นไส้ แต่ผมได้ยินเสียงลงส้นเท้าหนักๆวิ่งไล่หลังผมมา ไอ้ไอซ์หรอ-o-?
“ซัลจริงๆด้วย^^”
มือแกร่งกระตุกคอเสื้อผมจากด้านหลังจนผมเซเข้าไปอยู่ในอ้อมแขนพี่มัน มาหากูทำไมกูมันก็แค่กิ๊กไม่ใช่หรอ>O<!!
“อะไร-_-+”
ผมถามมันแล้วพยายามดันตัวออกจากอ้อมแขน
“เป็นไรเนี่ยดูอารมณ์ไม่ดี เดี๋ยวมันจะไม่ดีต่อลูกเรานะ^^”
มันพูดพลางเอามือลูบๆท้องผม มึงบ้าปะเนี่ย ลูกแบบนั้นกูไม่มีหรอก>O<!
“ลูกตรงนั้นไม่มีหรอก มีแต่ตรงนี้อ่ะ-o-”
ผมพูดแล้วชี้ลงไปที่ลูกชายตัวเอง พี่มันเลื่อนมือลงไปเรื่อยๆเพื่อจะสัมผัสหยอกล้อกับลูกชายผม ผมก็อาจจะไม่ว่ามันถ้าจะอะไรๆแบบนี้ในห้อง-///- แต่นี่ที่จัดงานคอนเสิร์ตของกิ๊กมัน!!
เพี๊ยะ!
ผมปัดมือมันอย่างแรง มันทำหน้าเหวอไปนิดนึงที่เห็นผมเป็นแบบนี้ แต่คนผิดอ่ะก็มึงอ่ะแหละ!
“เป็นไร?”
มันถามผมด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง
“ไม่มีไร” ผมบอก
“หรือว่าเห็นพี่ยืนกอดกับฟา แล้วเกิดหึงO.o”
ฟา! เรียกชื่อกันแบบสนิทสนมกันด้วย>O<!! แล้วยังมีหน้ามาถามอีกนะ นี่ไม่เห็นจริงๆหรอว่ากูยืนอยู่ตรงนั้นอ่ะ อย่าทำเหมือนโลกนี้มีพวกมึงแค่สองตัวนะ!!
“กลับไปหาฟาอะไรนั่นของพี่เถอะ ผมจะกลับบ้านแล้ว-_-!”
“ฟาก็ไปโชว์ต่อแล้วอ่ะ พี่มาเป็นกำลังใจให้เฉยๆ”
เหอะ! ให้กำลังใจ ถ้าจูบๆกันไปซะกำลังใจคงเต็มเปี่ยมเลยซินะ -_-**
“พี่กับฟาน่ะเป็น...”
“ไม่ต้องพูด!!”
“ฟังก่อนดิ”
“เข้าใจแล้ว เงียบไปเลย-_-”
“เข้าใจแล้วจริงอ่ะ”
“อย่าเซ้าซี้มากได้ป่ะ-_-+”
“ครับๆ-o-;”
ผมสะบัดหน้าหนีแล้วจ้ำอ้าวออกไปจากจุดๆนั้นอย่างรวดเร็ว แต่ไอ้เสาไฟฟ้าเคลื่อนที่มันก็เดินตามผมมาอยู่ดี กลับไปหาน้องฟามึงโน่นนนนนนน>O<
“ไปกินสุกี้กันป่ะ จะได้ใจเย็นๆ”
จะให้กูใจเย็นแต่ชวนกูไปแด กของร้อนเนี่ยนะ ใช้สมองส่วนไหนคิดเนี่ยไอ้บ้านี่!!
“เลี้ยงด้วยละกัน -3-”
ผมยอมนั่งร่วมโต๊ะให้มันเลี้ยงสุกี้ที่ MJ ชั้นล่างของฮอลล์ แต่ผมสงสัยว่ามันจะเลี้ยงผักผมอย่างเดียวหรือป่าว เพราะผมหย่อนหมูลงไปมันก็ฉกไปกินหมดเลย ผมงี้ได้กินแต่ผักจนตัวจะเขียวเป็นผักบุ้งอยู่ละ-*-
“พี่สนิทกับฟาเรนไฮต์หรอ เห็นเรียกฟา-.-”
ผมลองเปิดประเด็นถาม จริงๆอยากจะตะโกนถามเลยว่า พวกมึงเป็นอะไรกันนนน>O<
“เคยอยู่บ้านเดียวกันก็ต้องสนิทดิ^^”
ตึง!
ผมทุบโต๊ะอย่างแรงจนน้ำจิ้มสุกี้แทบกระจาย เคย! อยู่บ้านเดียวกันหรอ-o-!
“เป็นอะไรหรอซัลO.o”
มันถาม ผมสายหน้าเบาๆแล้วหยิบเยือกน้ำมารินใส่แก้วน้ำข้างกายที่ว่างเปล่า ตอนนี้สมองผมขาวโพลนไปหมด คิดอะไรไม่ออกเลย เหมือนมีใครเอาหินมาทุ่มใส่หัวเลย=o=
อึกๆ
“ซะ...ซัล นั่นมันน้ำซุปนะ-o-;”
พี่มันบอก อ่อ มิน่าละรสชาติมันเค็มๆแปลกๆ-_-;;
“อร่อยดี” ผมบอก
“บอกไว้เลยว่าพี่กับฟาไม่ได้เป็นอย่างที่ซัลคิดนะ^^”
“ซัลคิดอะไรหรอ ป่าวนี่-.-”
“ซึน!”
“ป่าวซะหน่อย-o-!”
“หึ! อย่ามานั่งร้องไห้ที่หลังแล้วกัน^^”
“ผมไม่ร้องหรอก ผมไม่ได้คิดว่าฟาเรนต์จะเป็นเด็กในฮาเร็มพี่ซะหน่อย”
“จะถามเรื่องนี้สินะ^^”
“ไม่ได้ถามซะหน่อย>O<”
“โอเคครับๆ พี่กับฟาไม่ได้กิ๊กกัน^^”
“แล้วทำไมต้องกอดกันอ่ะ จะจูบกันด้วย-*-”
“หึงหรออออออ^O^”
“จะกินหมู-////-”
ผมมองตะเกียบผมที่คีบเนื้อหมูไว้เศษ 1 ส่วน 4 อีก 3 ส่วนที่เหลือไอ้คนตรงข้ามผมมันคีบไว้ ปล่อยๆให้กูเขมือบบ้างดิ มึงแด กไปหลายจานแล้วนะ ชิ้นสุดท้ายแล้วนะเฟ้ย-_-*
“คนท้องผูกต้องกินผักเยอะๆสิ” มันบอก
“ใครท้องผูก-o-!”
“ซัลไง ทำหน้าเหมือนคนปวด..”
“อย่ามาพูดXXXตอนกำลังกินข้าวนะเว้ย>O<!”
ผมยกตะเกียบชี้หน้าว่ามัน ถ้าหลุดคำนั้นออกผมคงกินไม่ลง ภาพมันจะลอยไปลอยมาอยู่ในจานอาหาร ไอ้ข้าวโพดอ่อนที่อยู่ในชามผมนี่มันยิ่งสีใกล้เคียงอยู่ด้วย
“เสร็จ!”
สิ้นเสียงพี่มันชิ้นเนื้อชิ้นสุดท้ายในหม้อก็ลอยละลิ่วลงลำคอไป แถมมันยักคิ้วให้ผมหนึ่งทีอีกต่างหาก ผมพลาดซะแล้ว.... เวรกรรม-O-!!
“รู้ไว้ซะว่าไอ้ชิ้นเมื่อกี้คือเนื้อหมูชิ้นสุดท้ายที่พี่จะได้กินในชาตินี้-__-++”
ผมเอ่ยเสียงเรียบ มันขมวดคิ้วเข้าหากันเล็กน้อยอย่างงงๆ
“คือ?”
“บังอาจมาแย่งกิน ตายซะเถออออออออะ>O<!!”
ผมลูกขึ้นบีบคอโยกหัวให้มันคายชิ้นเนื้อออกมา ในเมื่อผมไม่ได้กินมันก็ต้องไม่ได้กินซิ แบบนี้ถึงจะเรียกว่าเท่าเทียมมมม>O<!!
“แค่กๆ แค่ก”
“อย่ามาสำออยคายออกมาซะ!!”
เศษชิ้นเนื้อค่อยๆกระเด็นออกจากปากมัน ทำไมชิ้นมันเล็กจังวะ อย่าบอกนะว่ามึงให้กระเพาะย่อยไปแล้ว กร๊าซซซซซ !! กินถึงขั้น Digestion!! ไอ้เลววววววว>O<~
“เหวอ! คุณลูกค้าครับใจเย็นๆก่อนครับOoO!”
พนักงานผ้าเขียววิ่งมาลากผมออกจากเจ้าสัตว์กินเนื้อ(เอามาจากท่านฮิบาริ-o-) ผมดันตัวออกจากพนักงานอย่ามาเกาะแกะแถวเอวกูได้มั้ยกูยิ่งบ้าจี้อยู่ด้วย-o-!
“แค่กๆ ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวเช็คบิลเลยดีกว่า^^;;”
ใบหน้าขาวขึ้นสีแดงเถือกเพราะอาการสำลัก เหอะๆ ไม่สงสารหรอกนะจะบอกให้ ผมยืนกอดอกรอมันอยู่หน้าร้าน สายตาคมกริบปราดมองมาทางผมอย่างไม่สบอารมณ์
“ซัลไม่ผิดนะ พี่สำลักเองอ่ะ-3-”
“ถ้าไม่มีปลวกที่ไหนมาบีบคอ พี่ก็คงไม่สำลักหรอก-_-+”
“ปลวกที่เก้าอี้มั้ง?”
“อืม เตี้ยๆ สั้นๆ ป้อมๆเหมือนไส้เดือนอ่ะ”
“-_-++”
“เป็นไรทำหน้า....แค่กๆ”
“เสียดายหมูไม่เข้าหลอดลม”
“เหอะ! ถ้าพี่ตายนะจะมาหลอกซัลคนแรกเลย^^”
“งั้นจงมีชีวิตอยู่ต่อไปเถอะ-o-;;”
ผมยิ่งกลัวๆอยู่ด้วยดิ(Writer:ไม่อยากพูดถึงเลยแต่งนิยายตอนดึกๆซะด้วย-o-;;) ขนาดเวลาอาบน้ำตอนดึกๆผมยังตั้งเปิดประตูห้องน้ำทิ้งไว้เลย (นายเอกเราเปิดโอกาสให้พวกโรคจิตสอดส่องเต็มที่^^;)
ฮวบ!
อยู่ๆร่างสูงก็ทรุดฮวบลงไปนั่งชันเข่าอยู่กับพื้น มีกี้ยังทำหน้ากวนteenอยู่เลยแท้ๆ ผมรีบย่อตัวนั่งข้างๆมันเพื่อถามอาการ
“เป็นไรน่ะ”
“อ่า สงสัยจะกินของที่แพ้เข้าไปแน่ๆเลย”
“แพ้ไรอ่ะ”
“แพ้ความน่ารักของซัล^^”
“ไปตายซะ-o-!”
ผมสปิงตัวขึ้นทันทีเล่นมุกไม่ดูเวล่ำเวลาเล๊ยยยย น่าส่งไปเกิดใหม่ซะ ผมมองไอ้คนที่เก๊กชันเข่าไม่เลิก ตะคริวกินหรือไง ลุกไม่ได้เนี่ย-_-*
“ลุกขึ้นมาได้ละๆ” ผมบอก
“....................”
“ไปแล้วนะเว้ย!”
“จะ....จะ..อ้วก”
ผมรีบกระชากตัวมันขึ้นมาทันทีแล้วลากมันวิ่งไปหาห้องน้ำอย่างด่วนๆ เสือกแด กหมูไปเยอะไง แย่งของผมไปด้วยกรรมตามสนองเลย(ใช่เวลามาสมน้ำหน้ามั้ยเนี่ย)
ร่างสูงนั่งนิ่งสนิทอยู่บนม้านั่งตัวยาว ผมนั่งลงข้างๆมัน หน้าพี่แกซีดมากอ่ะ ก็เลยปล่อยออกมาซะหมดไส้หมดพุงเลยนี่นา พี่มันยกมือขึ้นบีบขมับตัวเองเบาๆ ผมเลยเอามือมันออกแล้วนวดด้วยมือผมแทน
“ปวดหัวหรอ” ผมถาม
“นิดหน่อย”
“กลับบ้านเลยมั้ย”
“ขับรถไม่ไหวอ่ะ”
“แท็กซี่ไง”
“พี่เอารถมาอ่ะ ใครจะขับกลับอ่ะ-o-”
“ไว้ใจซัลปะละ เดี๋ยวซัลขับไปส่งเอง”
“ส่งบ้านหรอ”
“เหอะ! วัด^^”
“-o-;;”
“อ่า งั้นซัลไปซื้อยามาให้นะ รอแปป”
ผมรีบวิ่งไปร้านยาป้ายเขียวๆที่อยู่ชั้นใต้ดินใกล้ลานจอดรถของฮอลล์ เหนื่อยไม่กลัวแล้วตอนนี้ มันมีคนกำลังจะตายรอยาอยู่>O<
“แฮ่กๆ เออ ขอยาแก้ปวดหัวหน่อยครับ”
ป้าแก่ๆที่หลังเคาเตอร์ขยับหนังสือพิมพ์ลงแล้วหรี่ตามองผม เห็นแบบนี้ก็มีปัญญาจ่ายค่ายานะครับรับรอง ชูแปดนิ้วเลยเอ้า!
“ลื้อจาเอายาอารายละ”
เธอลุกจากเก้าอี้แล้วเกาะเคาเตอร์ถามผม
“พาราก็ได้ครับๆ”
“ห๊ะ! ลื้อว่าไรนะจะพาคนป่วยไปศาลาหรอ วัดอยู่ทางโน่นแน่ะ”
“ไม่ช่ายยยย ผมไม่ได้พาไปศาลาครับ ผมจะเอาพารา>O<”
“คาระโอเกะหรอ มันอยู่ชั้นสอง-o-”
“พาราครับยายยยยย>O<”
“ลื้อไปใครห๊ะ กล้ามาเรียกอั้วว่ายาย อั้วไปเป็นญาติลื้อตอนไหน-o-!”
พอเรียกยายหน่อยดันหูดีขึ้นมาเชียว เมื่อไหร่กูจะได้พาราวะเนี่ยยย กล้าจะไปถึงอีกไอ้พี่เซลมันคงได้สมองแตกตายกันพอดี ได้ไปศาลาจริงๆแน่-o-!
“ยายครับพาราคับ-_-*”
“ลื้อ!”
“ครับ! รื้อออกมาซะทีเหอะรอนานแล้วแค่พาราแผงนึงเนี่ย-o-!!”
“บอกว่าจะเอาพาราก็จบไปนานเลี้ยว โฮ่ๆ”
ยายแกเดินส่ายก้นไปหยิบพารามาให้ผมแผงนึง แล้วไอ้ที่เริ่มๆร่ายมานี่ผมบอกยายแกว่าผมจะเอาพาราไม่ใช่หรอ!
“สาบสิบ ค่าเสียเวลาอั้ว!”
ใครมันเป็นคนเสียกันแน่ฟะ-*-
“อะไรนะ สามบาทหรอO.o” ผมบอก
“สามสิบ สามสิบ-o-!”
“สามบาทๆ อ่ะ นี่ครับ^^”
ผมยิ้มให้แกแล้วก็ควักเหรียญบาทสามเหรียญวางที่เคาเตอร์แล้วก็เดินออกมาจากร้าน
“กลับมาเดี๋ยวนี่นะ ไอ้โจงงงงง แกยังจ่ายอั้วไม่ครบเลย>O<”
เสียงแกตะโกนลั่นไล่หลังผมมา สงสัยผมจะติดเชื้อหูหนวกมาซะแล้วล่ะ ยายแกพูดอะไรไม่ได้ยินเล๊ยยยยยยยย^O^
“อะไรนะครับให้ฟรีหรอ ขอคุณนะครับ สามบาทถือเป็นค่าเสียเวลาของยายแล้วกันนะ^^”
“ไอ้เด็กเลวววววววววววว”
“พ่อแม่ผมสอนมาดีครับๆ^^”
“กลับมาเดี๋ยวนี้นะ ไอ้เด็กเลวววว”
“ว่าผมเป็นเด็กเลวอ่ะ งอนแล้วไม่จ่ายที่เหลือด้วย-3-”
“จ่ายอีกเจ็ดบาทก็ยังดีน่อTT”
“ฮะๆ ติดไว้ก่อนไว้ชาติหน้าผมจะมาจ่ายยายนะ ไปละ บายๆ^^”
ผมเห็นรองเท้านันยงยวนลอยข้ามหัวผมไปสองข้าง ปาแม่นเหลือเกิ๊น ขนาดยืนเป็นเป้าให้แล้วยังปาไม่โดนผมอีก ช่างเหอะ! ผมว่าผมรีบๆไปดีกว่า เดี๋ยวคนรอยามันจะเดี้ยงไปซะก่อน
หมับ!
ผมเซล้มไปนั่งกองอยู่บนพื้นจากแรงดึงทางด้านหลัง ผมเงยหน้าขึ้นมองบุรุษแปลกหน้า ใครน่ะ หรือว่ายากูซ่าร้านยา-o-!
“นายชื่อซัลเฟอร์ใช่มั้ย”
ไอ้คนใส่แว่นกันแดดถามผม พวกมันมีกันสามถึงสี่คน แถมสวมเสื้อแจ็คเก็ตหนังซะด้วย ไม่ต้องบอกก็รู้ว่ามึงเป็นผู้ร้ายแน่นอน เรื่องอะไรกูต้องบอกว่านั่นชื่อกูอ่ะ-o-
“ไม่ตอบ...”
คนผมเกรียนๆพูด แล้วมันก็เอามือมาบีบคางผมให้อ้าปากตอบมัน ผมปัดมือมันออกแล้วลุกเดินหนี
หมับ!
“จะไปไหนคุยกันก่อนซิ”
ไอ้หัวทองเหลืองดึงเอวผมไปกอดไว้ มากไปแล้วนะมึง!!
ตึ๊บ!
ผมกระแทกส้นเท้าลงไปบนเท้ามัน มันตกใจปล่อยตัวผมออก ผมพยายามวิ่งหนีอีกแต่โดนพวกมันที่เหลือดักหน้าไว้
“จะคุยอะไรว่ามา!”
ผมตะคอก
“ไม่เชิงคุยหรอก แค่เล่นกันนิดๆหน่อยๆเอง”
ไอ้แว่นดำพูด
“ไม่ว่าง กลับไปเล่นกับพ่อมึงโน่น!”
“ปากดีจริงๆนะ จัดการแม่ งเลย!”
“จะทำไรอ่ะ!?!”
ชายสองคนเข้ามาล็อกลากตัวผมไปยังมุมมืดในลานจอดรถ ผมออกแรงยกเท้าถีบมันเป็นเหตุให้ผมโดนซัดหมัดเข้าท้องเต็มๆ เล่นซะผมลงไปนอนตัวนอนเป็นกุ้งในหม้อสุกี้เลย บ้าจริงจุกชะมัดเลย
“เฮ้ยมึงตั้งกล้อง มึงรีบๆถอดเสื้อผ้ามัน”
ไอ้แว่นดำสั่งการลูกน้อง แล้วไอ้หัวท้องกับคนใส่เสื้อลายเสือก็จับผมถอดเสื้อผ้า ผมใช้มือปัดป้องร่างกายจากมือสกปรกนั่น
เพี๊ยะ!
“มึงกล้าตบกูหรอ!!!”
ไอ้หัวทองตะโกน มันบีบคางผมแรงๆแล้วสะบัดทิ้ง ผมหันไปถมน้ำลายใส่ใส่หน้าเหียกๆของมันแล้วยิ้มอย่างสะใจ แล้วมันเงื้อมือสูงเตรียมตบหน้าผมทันที เอาสิกูไม่กลัวมึงหรอก!! แอ่นหน้าให้ตบด้วยเอ้า!!
“ตบสิ กูกลัวมึงตายหา(+l)อ่ะ!!”
ผมกระแทกเสียงใส่
“อย่า! เดี๋ยวหน้าตาน่ารักๆจะเสียโฉมเอา”
ไอ้คนเสื้อลายเสือที่ล็อกตัวผมพูดขึ้น มันลูบไล้ไปบนผิวบริเวณหน้าอกผมที่โผล่พ้นเสื้อออกมา ผมควรขอบใจมันดีมั้ยที่ไม่ได้แก้ผ้าผมจนหมด แค่ถอดเสื้อกับปลดซิปกางเกง!
“ไอ้สัส!! มึงไปตะ...อุ๊บ!”
ผมตะโกนด่ามันแต่ถูกปิดปากไว้ เวรกรรม! ผมพยายามกัดมือมันแต่มันปิดปากผมซะแน่นเลย ผมรู้สึกถึงรสเค็มๆในช่องปากไม่รู้ว่ารสของเลือดผมหรือมือโสโครกนี่กันแน่ บ้าแม่ งคงจนถึงขั้นไม่มีสบู่ล้างมือเลยสินะ!!
“มึงตั้งกล้อง มึงถ่าย”
ไอ้แว่นดำสั่งการลูกน้องเสร็จก็หันมายิ้มกริมใส่ผม ก่อนจะเอื้อมมือล้วงเข้ามาในเขตความเป็นชายของผม ผมทำหน้าตื่นตกใจ ร้องเสียงอู้อี้ด่าทอมัน ดิ้นรนขยับตัวหนีออกให้ได้ แต่ผมก็โดนพวกมันซัดเข้ากลางท้องอีก
“ไม่ต้องกลัวก็แค่ถ่ายรูปเล่นเฉยๆ อ่อ แล้วคนจ้างฉันเขาก็ฝากมาบอกแกว่า..”
ไอ้แว่นดำเว้นวรรคครู่หนึ่งก่อนพูดต่อว่า
“เลิกยุ่งกับคนชื่อเซลซะ ถ้าไม่เลิกจะโดนหนักกว่านี้”
ผมร้องถามมันว่าเจ้านายมันคือใครแต่เสียงที่ลอดออกไปกลับฟังไม่ได้ศัพท์เลย เลิกปิดปากกูทีเหอะ สัส!! มือหยาบกร้านที่รุกล้ำเข้ามาเริ่มขยับส่วนสำคัญของผมไปมา ก่อนเร่งจังหวะขึ้นเรื่อยๆ พร้อมกับแสงชัตเตอร์ที่สว่างวาบ แล้วน้ำสีขาวขุ่นก็ถูกบีบให้ออกมา พวกมันหัวเราะอย่างพอใจ ผมสะกดกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่เลยต้องปล่อยให้มันไหลออกมา ผมนี่มันเลวจริงๆ ทั้งที่เป็นคนอื่นที่ไม่ใช่พี่เซลมาทำกับผมแบบนี้แต่ผมกลับถึงจุดที่ปล่อยน้ำโสมมนี่ออกมาได้ ผมรู้สึกขยะแขยงร่างกายตัวเองจัง แค่ถูกเร้านิดหน่อยก็ถึง...ที่สุดซะแล้ว ผมมันเลวที่สุด!! เลวมากๆเลย!!!
“ไม่ต้องร้องไห้หรอกน่า แค่เล่นด้วยนิดหน่อยเองนะ^^”
สัส! ยิ้มหาพ่อมึงหรอ!! ผมจ้องหน้าพวกมันแบบอาฆาตแค้น อยากจะลุกเอาพวกแม่ งไปเผานั่งยางจริงๆ มือสกปรกของไอ้หัวทองจิกหัวผมให้เงยหน้ามองเลนต์กล้องที่จับจ้องใบหน้าผมอยู่
“เฮ้ย!! ตรงนั้นทำอะไรกันอยู่น่ะ!!!”
ผู้ชายในเครื่องแบบสีฟ้าตะโกนลั่นลานจอดรถ เขาวิ่งถือไม่กระบองคู่ใจเข้ามาหาพวกมัน พวกมันเลยแตกกระเจิงรีบวิ่งหนี
“เฮ้ย! หนีเร็ว!!”
“หยุดเดี๋ยวนี้นะเว้ย!!”
รปภ.วิ่งเข้ามาสำรวจผมที่อยู่ในสภาพไม่ต่างอะไรกันขอทานข้างถนน ทรงผมยุ่งเหยิงเหมือนคนบ้า เสื้อผ้าหลุดลุ่ยไม่มีชิ้นดีเลย สภาพแบบนี้ไม่อยากให้ใครเห็นเลย!
“นายๆ เป็นอะไรมากหรือป่าว ไปโรงพักมั้ยเดี๋ยวฉันพาไป”
เขาถามผม ผมส่ายหน้าหน่อยๆ ไปโรงพักแจ้งความว่าผมโดนกลุ่มผู้ชายรุมทำอนาจารหรอ ถ้าไปแจ้งละก็พี่มันต้องรู้แน่ๆเลย ผมไม่อยากให้พี่มันรู้เลย ไม่อยากให้พ่อกับแม่รู้ด้วย ทั้งที่ผมเป็นผู้ชายแท้ๆแต่กำลังจะโดนข่มขืนนี่มันเรื่องบ้าชัดๆ ใครจะกล้าบากหน้าไปแจ้งความกันเล่า!
“ไปพักในห้องรปภ.ก่อนมั้ย”
เขาถามผมอีก ผมส่ายหัวพลางแต่งตัวใหม่ให้เรียบร้อย ผมหยิบแผงยาแก้ปวดหัวในกระเป๋ากางเกงที่ยับยู่ยี่ออกมาดู แล้วยื่นไปให้รปภ.ข้างหน้าผม
“ฝากเอาไปให้ผู้ชายที่นั่งอยู่ตรงข้ามร้านโดนัทชั้น 2 หน่อยนะครับ”
เขารับไปแล้วก้มลงมองผมเหมือนอยากจะถามว่าผมเป็นอะไรมากมั้ยอีกรอบนึง ผมได้แต่ยิ้มเจื่อนๆให้เขาหน่อยๆ
“แค่เกือบโดนปล้ำมันไม่เป็นไรหรอกครับ แต่คนที่รอยาจากผมอาจจะเป็นอะไรไปก็ได้ ถ้าคุณไม่รีบเอายาไปให้เขา”
“นายไม่เป็นอะไรจริงๆหรอ กลับบ้านมั้ย ฉันจะเรียกแท็กซี่ให้”
“ขอบคุณครับ เดี๋ยวผมจัดการเอง”
“เอ่อ....”
“ฝากด้วยนะครับ^^”
ผมยิ้มให้เขาอีก เขาทำหน้าเป็นห่วงผมมาก ซึ้งในน้ำใจของเขาจริงๆ แล้วเขาก็รีบวิ่งเอายาไปส่งให้พี่เซล ผมถอยหลังนั่งพิงกำแพงแล้วปล่อยให้หยาดน้ำตาหล่นล่วงลงมาอีกครั้ง การที่ผมคบกับพี่เซลมันทำให้ชีวิตผมวุ่นวายขนาดมีคนจ้องทำร้ายเลยหรอ ทำไมล่ะ? เขาเป็นใครกัน? แล้วผมไปทำอะไรให้เขาหรอ? เขาถึงต้องมาทำร้ายผมแบบนี้! ตอนนี้ผมทั้งรู้สึกผิดที่ร่างกายดันมีปฏิกิริยาไปตามการกระทำทรามๆของพวกมัน ทั้งที่มันควรจะซื่อสัตย์กับคนที่ผมรักแค่คนเดียวแท้ๆ ผมรู้สึกเหนื่อยขึ้นมาหน่อยๆแล้วละกับการคบกันโดยมีคนคอยปองร้าย ผมควรจะยอมแพ้แล้วเลิกยุ่งกับพี่มันดีมั้ย แต่ผมรักพี่มัน! รักมากที่สุด!! ผมชันเข่าขึ้นมากอดไว้ เล็กคมๆก็จิกต้นแขนตัวเองให้มีกำลังใจเข้มแข็งขึ้น เพื่อยืนสู้ต่อเพื่อความรักของผม ผมตัดสิ้นใจแล้วว่าจะไม่ยอมแพ้เด็ดขาด!!! ไม่ว่าไอ้คนๆนั้นมันจะเป็นใคร อยากจะกลั่นแกล้งผมยังไงก็เชิญ จะทำหนักกว่านี้ก็ได้ ผมจะแบกรับไว้โดยไม่ปริปากบอกให้พี่มันไม่สบายใจเด็ดขาด ถนนทุกเส้นไม่ได้โรยไว้ด้วยกลีบกุหลาบ แต่ถูกโรยไว้ด้วยอุปสรรคที่ต้องฝ่าฟันไป และไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นหลังจากนี้ ผมจะฝ่ามันไปให้ได้!!!
℃คำถามที่อยากรู้กับคำถามที่ไม่อาจบอก(1)Ⓢ
“ไอ้ซาลลลลลลลลลล>o<!!”
“มึงจะตะโกนทำมายยยยยย>O<”
“ถ้ากูไม่แล้วมึงจะได้ยินหรอ>O<!”
“ห๊ะ! ว่าไรนะ>O<”
ผมกับไอ้ไอซ์ยืนว้ากคุยกันอยู่กลางคอนเสิร์ตของ “ฟาเรนไฮต์” คนไทยที่ไปเป็นนักร้องอยู่ที่ญี่ปุ่น ไอ้ไอซ์มันหาบัตรมาให้ แต่มันไกลจากหน้าเวทีโคตรๆเลยอ่ะ ทำไมฟาเรนต์จังตัวเท่ามดเลยอ๊า!!
“กูปวดฉี่ไปเป็นเพื่อนกูหน่อยยยยยยยย>O<”
“ออกไปแล้วกูจะเข้ามาใหม่ยังงายยยย>O<!!”
“ไว้ค่อยมาวันอื่นก็ด้ายยย”
“วันนี้มันรอบสุดท้ายเว้ยยยย กลั้นไว้ก่อนนนน”
“ไอ้ซาลลลลลTOT”
ผมทนมองภาพไอ้ไอซ์ดิ้นไปมาพลางกุมช้างน้อย เฮ้อ~ ทำตัวน่าเกลียดได้อีกนะมึงเนี่ย ตอนนี้เป็นช่วงฟาเรนต์เข้าไปพักพอดีเลยมีโชว์อื่นขึ้นมาแทน ไปก็ไปวะ
“เดินเร็วๆดิ๊” ผมบอกมัน
“ให้กูขี่คอมึงไปดีกว่า กูจะราดแล้วววว”
มันพูด ถ้ากูให้มึงขี่คอแล้วเสื อกปล่อยราดบนคอกู กูจะทำไงละ ไอ้เวรนี่-_-**
ผมพามันเดินออกมาเรื่อยๆก็เจอกับ ผู้ชายตัวเล็กๆ ใบหน้าหวานใส ผิวขาวอมชมพูในชุดหนังสีดำมันวาว นั่นมัน!! ฟาเรนต์จัง*O* พระเจ้าต้องขอบคุณที่ไอ้ไอซ์เกิดปวดฉี่ขึ้นมา!!
“นั่น! ฟาเรนต์นี่นาไปขอลายเซ็นต์กัน >//<”
ไอ้ไอซ์ชี้พลางกระโดดเกาะผม
“ได้ข่าวว่ามึงปวดฉี่นะ รีบๆไปเลยเดี๋ยวกูขอแทนให้”
ผมบอกพร้อมโบกมือไล่มัน
“กูจะถ่ายรูปด้วยยย>3<”
“กูจะไปยืนถ่ายแทนมึงเอง ไปได้แล้วววว”
ผมตะโกนแล้วพลักมันให้เดิน ฟาเรนต์จังหันหน้าควับมองมาทางพวกผมพอดี เขาฉีกยิ้มกว้างให้พวกผมและก้าวเท้าเข้ามาหา อยากจะกรี๊ดจังโว้ยยย>///<!!
“พี่เซลลลลลล^O^”
อะเระ! รู้ชื่อแฟนผมได้ไงเนี่ย ผมกับไอ้ไอซ์มองตามฟาเรนต์ที่เดินผ่านเราไปราวกับธาตุอากาศ เขาเดินตรงเข้าไปกอด ไอ้พี่เซลOoO!!!
“พี่หายใจไม่ออก ฟา-_-;”
พี่มันดันฟาเรนต์ออกจากเอว ฟาเรนต์ทำแก้มป่องๆอย่างไม่สบอารมณ์ รู้จักกันได้ยังไงหะเนี่ย แล้วทำไมฟาเรนต์ต้องเข้าไปกอดด้วยล่ะ>.<!
“ก็ผมคิดถึงพี่นี่นา มาจูบทีสิ>3<”
ปลายเท้าเล็กๆเขย่งสูงขึ้นพร้อมกับใบหน้าหวานสวยที่ลอยเข้าไปใกล้จนริมฝีปากจะประทับกัน ไอ้ฟาเรนต์!! นั่นมันแฟนกูนะเว้ยยย! ไอ้บ้าเซลมึงก็ไม่หลบเขานะ!!
“เลิกเล่นได้แล้วน่า มีคนอยู่แถวนี้ไม่เห็นหรอ”
พี่มันพูดก่อนที่พี่มันจะหันมาเจอพวกผม ผมก็ลากไอ้ไอซ์มาเก็บหลังกำแพงแล้ว รู้จักกันไม่พอ กอดกันด้วย แถมจะจูบกันด้วย นี่มึงยังเป็นแฟนกูอยู่หรือป่าววววว
“ไหนอ่ะดอกไม้O.o” ฟาเรนต์ถาม
“เปลืองตังค์ช่วงนี้ชอต-_-” พี่มันตอบ
“พี่เซลอ่ะ-3-”
ฟาเรนต์พูดพลางเข้าไปกอดแขนแล้วเอาหน้าถูๆไถๆกับแขนไอ้พี่เซล จะมากไปแล้วนะ เดี๋ยวองค์ลงแล้วจะวงแตก!!
“ไอซ์ กูไม่ดูคอนต่อแล้วนะ” ผมพูด
“ตามใจมึงเหอะ ว่าแต่แฟนมึงไปรู้จักกับคนดังระดับเอเชียแบบนั้นได้ไงว้า>//<” มันพูด
“กูจะไปรู้หรอ กิ๊กหมายเลขหนึ่งมั้ง-*-”
“กูว่ามึงอ่ะกิ๊ก ใครจะบ้าเอาคนดังมาทำกิ๊กวะ!”
“ไปตายในห้องน้ำเลยไป-_-++”
ผมพูดแล้วเดินลงบันไดหนีไฟไป ไม่อยากยืนดูฉากสวีทชวนคลื่นไส้ แต่ผมได้ยินเสียงลงส้นเท้าหนักๆวิ่งไล่หลังผมมา ไอ้ไอซ์หรอ-o-?
“ซัลจริงๆด้วย^^”
มือแกร่งกระตุกคอเสื้อผมจากด้านหลังจนผมเซเข้าไปอยู่ในอ้อมแขนพี่มัน มาหากูทำไมกูมันก็แค่กิ๊กไม่ใช่หรอ>O<!!
“อะไร-_-+”
ผมถามมันแล้วพยายามดันตัวออกจากอ้อมแขน
“เป็นไรเนี่ยดูอารมณ์ไม่ดี เดี๋ยวมันจะไม่ดีต่อลูกเรานะ^^”
มันพูดพลางเอามือลูบๆท้องผม มึงบ้าปะเนี่ย ลูกแบบนั้นกูไม่มีหรอก>O<!
“ลูกตรงนั้นไม่มีหรอก มีแต่ตรงนี้อ่ะ-o-”
ผมพูดแล้วชี้ลงไปที่ลูกชายตัวเอง พี่มันเลื่อนมือลงไปเรื่อยๆเพื่อจะสัมผัสหยอกล้อกับลูกชายผม ผมก็อาจจะไม่ว่ามันถ้าจะอะไรๆแบบนี้ในห้อง-///- แต่นี่ที่จัดงานคอนเสิร์ตของกิ๊กมัน!!
เพี๊ยะ!
ผมปัดมือมันอย่างแรง มันทำหน้าเหวอไปนิดนึงที่เห็นผมเป็นแบบนี้ แต่คนผิดอ่ะก็มึงอ่ะแหละ!
“เป็นไร?”
มันถามผมด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง
“ไม่มีไร” ผมบอก
“หรือว่าเห็นพี่ยืนกอดกับฟา แล้วเกิดหึงO.o”
ฟา! เรียกชื่อกันแบบสนิทสนมกันด้วย>O<!! แล้วยังมีหน้ามาถามอีกนะ นี่ไม่เห็นจริงๆหรอว่ากูยืนอยู่ตรงนั้นอ่ะ อย่าทำเหมือนโลกนี้มีพวกมึงแค่สองตัวนะ!!
“กลับไปหาฟาอะไรนั่นของพี่เถอะ ผมจะกลับบ้านแล้ว-_-!”
“ฟาก็ไปโชว์ต่อแล้วอ่ะ พี่มาเป็นกำลังใจให้เฉยๆ”
เหอะ! ให้กำลังใจ ถ้าจูบๆกันไปซะกำลังใจคงเต็มเปี่ยมเลยซินะ -_-**
“พี่กับฟาน่ะเป็น...”
“ไม่ต้องพูด!!”
“ฟังก่อนดิ”
“เข้าใจแล้ว เงียบไปเลย-_-”
“เข้าใจแล้วจริงอ่ะ”
“อย่าเซ้าซี้มากได้ป่ะ-_-+”
“ครับๆ-o-;”
ผมสะบัดหน้าหนีแล้วจ้ำอ้าวออกไปจากจุดๆนั้นอย่างรวดเร็ว แต่ไอ้เสาไฟฟ้าเคลื่อนที่มันก็เดินตามผมมาอยู่ดี กลับไปหาน้องฟามึงโน่นนนนนนน>O<
“ไปกินสุกี้กันป่ะ จะได้ใจเย็นๆ”
จะให้กูใจเย็นแต่ชวนกูไปแด กของร้อนเนี่ยนะ ใช้สมองส่วนไหนคิดเนี่ยไอ้บ้านี่!!
“เลี้ยงด้วยละกัน -3-”
ผมยอมนั่งร่วมโต๊ะให้มันเลี้ยงสุกี้ที่ MJ ชั้นล่างของฮอลล์ แต่ผมสงสัยว่ามันจะเลี้ยงผักผมอย่างเดียวหรือป่าว เพราะผมหย่อนหมูลงไปมันก็ฉกไปกินหมดเลย ผมงี้ได้กินแต่ผักจนตัวจะเขียวเป็นผักบุ้งอยู่ละ-*-
“พี่สนิทกับฟาเรนไฮต์หรอ เห็นเรียกฟา-.-”
ผมลองเปิดประเด็นถาม จริงๆอยากจะตะโกนถามเลยว่า พวกมึงเป็นอะไรกันนนน>O<
“เคยอยู่บ้านเดียวกันก็ต้องสนิทดิ^^”
ตึง!
ผมทุบโต๊ะอย่างแรงจนน้ำจิ้มสุกี้แทบกระจาย เคย! อยู่บ้านเดียวกันหรอ-o-!
“เป็นอะไรหรอซัลO.o”
มันถาม ผมสายหน้าเบาๆแล้วหยิบเยือกน้ำมารินใส่แก้วน้ำข้างกายที่ว่างเปล่า ตอนนี้สมองผมขาวโพลนไปหมด คิดอะไรไม่ออกเลย เหมือนมีใครเอาหินมาทุ่มใส่หัวเลย=o=
อึกๆ
“ซะ...ซัล นั่นมันน้ำซุปนะ-o-;”
พี่มันบอก อ่อ มิน่าละรสชาติมันเค็มๆแปลกๆ-_-;;
“อร่อยดี” ผมบอก
“บอกไว้เลยว่าพี่กับฟาไม่ได้เป็นอย่างที่ซัลคิดนะ^^”
“ซัลคิดอะไรหรอ ป่าวนี่-.-”
“ซึน!”
“ป่าวซะหน่อย-o-!”
“หึ! อย่ามานั่งร้องไห้ที่หลังแล้วกัน^^”
“ผมไม่ร้องหรอก ผมไม่ได้คิดว่าฟาเรนต์จะเป็นเด็กในฮาเร็มพี่ซะหน่อย”
“จะถามเรื่องนี้สินะ^^”
“ไม่ได้ถามซะหน่อย>O<”
“โอเคครับๆ พี่กับฟาไม่ได้กิ๊กกัน^^”
“แล้วทำไมต้องกอดกันอ่ะ จะจูบกันด้วย-*-”
“หึงหรออออออ^O^”
“จะกินหมู-////-”
ผมมองตะเกียบผมที่คีบเนื้อหมูไว้เศษ 1 ส่วน 4 อีก 3 ส่วนที่เหลือไอ้คนตรงข้ามผมมันคีบไว้ ปล่อยๆให้กูเขมือบบ้างดิ มึงแด กไปหลายจานแล้วนะ ชิ้นสุดท้ายแล้วนะเฟ้ย-_-*
“คนท้องผูกต้องกินผักเยอะๆสิ” มันบอก
“ใครท้องผูก-o-!”
“ซัลไง ทำหน้าเหมือนคนปวด..”
“อย่ามาพูดXXXตอนกำลังกินข้าวนะเว้ย>O<!”
ผมยกตะเกียบชี้หน้าว่ามัน ถ้าหลุดคำนั้นออกผมคงกินไม่ลง ภาพมันจะลอยไปลอยมาอยู่ในจานอาหาร ไอ้ข้าวโพดอ่อนที่อยู่ในชามผมนี่มันยิ่งสีใกล้เคียงอยู่ด้วย
“เสร็จ!”
สิ้นเสียงพี่มันชิ้นเนื้อชิ้นสุดท้ายในหม้อก็ลอยละลิ่วลงลำคอไป แถมมันยักคิ้วให้ผมหนึ่งทีอีกต่างหาก ผมพลาดซะแล้ว.... เวรกรรม-O-!!
“รู้ไว้ซะว่าไอ้ชิ้นเมื่อกี้คือเนื้อหมูชิ้นสุดท้ายที่พี่จะได้กินในชาตินี้-__-++”
ผมเอ่ยเสียงเรียบ มันขมวดคิ้วเข้าหากันเล็กน้อยอย่างงงๆ
“คือ?”
“บังอาจมาแย่งกิน ตายซะเถออออออออะ>O<!!”
ผมลูกขึ้นบีบคอโยกหัวให้มันคายชิ้นเนื้อออกมา ในเมื่อผมไม่ได้กินมันก็ต้องไม่ได้กินซิ แบบนี้ถึงจะเรียกว่าเท่าเทียมมมม>O<!!
“แค่กๆ แค่ก”
“อย่ามาสำออยคายออกมาซะ!!”
เศษชิ้นเนื้อค่อยๆกระเด็นออกจากปากมัน ทำไมชิ้นมันเล็กจังวะ อย่าบอกนะว่ามึงให้กระเพาะย่อยไปแล้ว กร๊าซซซซซ !! กินถึงขั้น Digestion!! ไอ้เลววววววว>O<~
“เหวอ! คุณลูกค้าครับใจเย็นๆก่อนครับOoO!”
พนักงานผ้าเขียววิ่งมาลากผมออกจากเจ้าสัตว์กินเนื้อ(เอามาจากท่านฮิบาริ-o-) ผมดันตัวออกจากพนักงานอย่ามาเกาะแกะแถวเอวกูได้มั้ยกูยิ่งบ้าจี้อยู่ด้วย-o-!
“แค่กๆ ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวเช็คบิลเลยดีกว่า^^;;”
ใบหน้าขาวขึ้นสีแดงเถือกเพราะอาการสำลัก เหอะๆ ไม่สงสารหรอกนะจะบอกให้ ผมยืนกอดอกรอมันอยู่หน้าร้าน สายตาคมกริบปราดมองมาทางผมอย่างไม่สบอารมณ์
“ซัลไม่ผิดนะ พี่สำลักเองอ่ะ-3-”
“ถ้าไม่มีปลวกที่ไหนมาบีบคอ พี่ก็คงไม่สำลักหรอก-_-+”
“ปลวกที่เก้าอี้มั้ง?”
“อืม เตี้ยๆ สั้นๆ ป้อมๆเหมือนไส้เดือนอ่ะ”
“-_-++”
“เป็นไรทำหน้า....แค่กๆ”
“เสียดายหมูไม่เข้าหลอดลม”
“เหอะ! ถ้าพี่ตายนะจะมาหลอกซัลคนแรกเลย^^”
“งั้นจงมีชีวิตอยู่ต่อไปเถอะ-o-;;”
ผมยิ่งกลัวๆอยู่ด้วยดิ(Writer:ไม่อยากพูดถึงเลยแต่งนิยายตอนดึกๆซะด้วย-o-;;) ขนาดเวลาอาบน้ำตอนดึกๆผมยังตั้งเปิดประตูห้องน้ำทิ้งไว้เลย (นายเอกเราเปิดโอกาสให้พวกโรคจิตสอดส่องเต็มที่^^;)
ฮวบ!
อยู่ๆร่างสูงก็ทรุดฮวบลงไปนั่งชันเข่าอยู่กับพื้น มีกี้ยังทำหน้ากวนteenอยู่เลยแท้ๆ ผมรีบย่อตัวนั่งข้างๆมันเพื่อถามอาการ
“เป็นไรน่ะ”
“อ่า สงสัยจะกินของที่แพ้เข้าไปแน่ๆเลย”
“แพ้ไรอ่ะ”
“แพ้ความน่ารักของซัล^^”
“ไปตายซะ-o-!”
ผมสปิงตัวขึ้นทันทีเล่นมุกไม่ดูเวล่ำเวลาเล๊ยยยย น่าส่งไปเกิดใหม่ซะ ผมมองไอ้คนที่เก๊กชันเข่าไม่เลิก ตะคริวกินหรือไง ลุกไม่ได้เนี่ย-_-*
“ลุกขึ้นมาได้ละๆ” ผมบอก
“....................”
“ไปแล้วนะเว้ย!”
“จะ....จะ..อ้วก”
ผมรีบกระชากตัวมันขึ้นมาทันทีแล้วลากมันวิ่งไปหาห้องน้ำอย่างด่วนๆ เสือกแด กหมูไปเยอะไง แย่งของผมไปด้วยกรรมตามสนองเลย(ใช่เวลามาสมน้ำหน้ามั้ยเนี่ย)
ร่างสูงนั่งนิ่งสนิทอยู่บนม้านั่งตัวยาว ผมนั่งลงข้างๆมัน หน้าพี่แกซีดมากอ่ะ ก็เลยปล่อยออกมาซะหมดไส้หมดพุงเลยนี่นา พี่มันยกมือขึ้นบีบขมับตัวเองเบาๆ ผมเลยเอามือมันออกแล้วนวดด้วยมือผมแทน
“ปวดหัวหรอ” ผมถาม
“นิดหน่อย”
“กลับบ้านเลยมั้ย”
“ขับรถไม่ไหวอ่ะ”
“แท็กซี่ไง”
“พี่เอารถมาอ่ะ ใครจะขับกลับอ่ะ-o-”
“ไว้ใจซัลปะละ เดี๋ยวซัลขับไปส่งเอง”
“ส่งบ้านหรอ”
“เหอะ! วัด^^”
“-o-;;”
“อ่า งั้นซัลไปซื้อยามาให้นะ รอแปป”
ผมรีบวิ่งไปร้านยาป้ายเขียวๆที่อยู่ชั้นใต้ดินใกล้ลานจอดรถของฮอลล์ เหนื่อยไม่กลัวแล้วตอนนี้ มันมีคนกำลังจะตายรอยาอยู่>O<
“แฮ่กๆ เออ ขอยาแก้ปวดหัวหน่อยครับ”
ป้าแก่ๆที่หลังเคาเตอร์ขยับหนังสือพิมพ์ลงแล้วหรี่ตามองผม เห็นแบบนี้ก็มีปัญญาจ่ายค่ายานะครับรับรอง ชูแปดนิ้วเลยเอ้า!
“ลื้อจาเอายาอารายละ”
เธอลุกจากเก้าอี้แล้วเกาะเคาเตอร์ถามผม
“พาราก็ได้ครับๆ”
“ห๊ะ! ลื้อว่าไรนะจะพาคนป่วยไปศาลาหรอ วัดอยู่ทางโน่นแน่ะ”
“ไม่ช่ายยยย ผมไม่ได้พาไปศาลาครับ ผมจะเอาพารา>O<”
“คาระโอเกะหรอ มันอยู่ชั้นสอง-o-”
“พาราครับยายยยยย>O<”
“ลื้อไปใครห๊ะ กล้ามาเรียกอั้วว่ายาย อั้วไปเป็นญาติลื้อตอนไหน-o-!”
พอเรียกยายหน่อยดันหูดีขึ้นมาเชียว เมื่อไหร่กูจะได้พาราวะเนี่ยยย กล้าจะไปถึงอีกไอ้พี่เซลมันคงได้สมองแตกตายกันพอดี ได้ไปศาลาจริงๆแน่-o-!
“ยายครับพาราคับ-_-*”
“ลื้อ!”
“ครับ! รื้อออกมาซะทีเหอะรอนานแล้วแค่พาราแผงนึงเนี่ย-o-!!”
“บอกว่าจะเอาพาราก็จบไปนานเลี้ยว โฮ่ๆ”
ยายแกเดินส่ายก้นไปหยิบพารามาให้ผมแผงนึง แล้วไอ้ที่เริ่มๆร่ายมานี่ผมบอกยายแกว่าผมจะเอาพาราไม่ใช่หรอ!
“สาบสิบ ค่าเสียเวลาอั้ว!”
ใครมันเป็นคนเสียกันแน่ฟะ-*-
“อะไรนะ สามบาทหรอO.o” ผมบอก
“สามสิบ สามสิบ-o-!”
“สามบาทๆ อ่ะ นี่ครับ^^”
ผมยิ้มให้แกแล้วก็ควักเหรียญบาทสามเหรียญวางที่เคาเตอร์แล้วก็เดินออกมาจากร้าน
“กลับมาเดี๋ยวนี่นะ ไอ้โจงงงงง แกยังจ่ายอั้วไม่ครบเลย>O<”
เสียงแกตะโกนลั่นไล่หลังผมมา สงสัยผมจะติดเชื้อหูหนวกมาซะแล้วล่ะ ยายแกพูดอะไรไม่ได้ยินเล๊ยยยยยยยย^O^
“อะไรนะครับให้ฟรีหรอ ขอคุณนะครับ สามบาทถือเป็นค่าเสียเวลาของยายแล้วกันนะ^^”
“ไอ้เด็กเลวววววววววววว”
“พ่อแม่ผมสอนมาดีครับๆ^^”
“กลับมาเดี๋ยวนี้นะ ไอ้เด็กเลวววว”
“ว่าผมเป็นเด็กเลวอ่ะ งอนแล้วไม่จ่ายที่เหลือด้วย-3-”
“จ่ายอีกเจ็ดบาทก็ยังดีน่อTT”
“ฮะๆ ติดไว้ก่อนไว้ชาติหน้าผมจะมาจ่ายยายนะ ไปละ บายๆ^^”
ผมเห็นรองเท้านันยงยวนลอยข้ามหัวผมไปสองข้าง ปาแม่นเหลือเกิ๊น ขนาดยืนเป็นเป้าให้แล้วยังปาไม่โดนผมอีก ช่างเหอะ! ผมว่าผมรีบๆไปดีกว่า เดี๋ยวคนรอยามันจะเดี้ยงไปซะก่อน
หมับ!
ผมเซล้มไปนั่งกองอยู่บนพื้นจากแรงดึงทางด้านหลัง ผมเงยหน้าขึ้นมองบุรุษแปลกหน้า ใครน่ะ หรือว่ายากูซ่าร้านยา-o-!
“นายชื่อซัลเฟอร์ใช่มั้ย”
ไอ้คนใส่แว่นกันแดดถามผม พวกมันมีกันสามถึงสี่คน แถมสวมเสื้อแจ็คเก็ตหนังซะด้วย ไม่ต้องบอกก็รู้ว่ามึงเป็นผู้ร้ายแน่นอน เรื่องอะไรกูต้องบอกว่านั่นชื่อกูอ่ะ-o-
“ไม่ตอบ...”
คนผมเกรียนๆพูด แล้วมันก็เอามือมาบีบคางผมให้อ้าปากตอบมัน ผมปัดมือมันออกแล้วลุกเดินหนี
หมับ!
“จะไปไหนคุยกันก่อนซิ”
ไอ้หัวทองเหลืองดึงเอวผมไปกอดไว้ มากไปแล้วนะมึง!!
ตึ๊บ!
ผมกระแทกส้นเท้าลงไปบนเท้ามัน มันตกใจปล่อยตัวผมออก ผมพยายามวิ่งหนีอีกแต่โดนพวกมันที่เหลือดักหน้าไว้
“จะคุยอะไรว่ามา!”
ผมตะคอก
“ไม่เชิงคุยหรอก แค่เล่นกันนิดๆหน่อยๆเอง”
ไอ้แว่นดำพูด
“ไม่ว่าง กลับไปเล่นกับพ่อมึงโน่น!”
“ปากดีจริงๆนะ จัดการแม่ งเลย!”
“จะทำไรอ่ะ!?!”
ชายสองคนเข้ามาล็อกลากตัวผมไปยังมุมมืดในลานจอดรถ ผมออกแรงยกเท้าถีบมันเป็นเหตุให้ผมโดนซัดหมัดเข้าท้องเต็มๆ เล่นซะผมลงไปนอนตัวนอนเป็นกุ้งในหม้อสุกี้เลย บ้าจริงจุกชะมัดเลย
“เฮ้ยมึงตั้งกล้อง มึงรีบๆถอดเสื้อผ้ามัน”
ไอ้แว่นดำสั่งการลูกน้อง แล้วไอ้หัวท้องกับคนใส่เสื้อลายเสือก็จับผมถอดเสื้อผ้า ผมใช้มือปัดป้องร่างกายจากมือสกปรกนั่น
เพี๊ยะ!
“มึงกล้าตบกูหรอ!!!”
ไอ้หัวทองตะโกน มันบีบคางผมแรงๆแล้วสะบัดทิ้ง ผมหันไปถมน้ำลายใส่ใส่หน้าเหียกๆของมันแล้วยิ้มอย่างสะใจ แล้วมันเงื้อมือสูงเตรียมตบหน้าผมทันที เอาสิกูไม่กลัวมึงหรอก!! แอ่นหน้าให้ตบด้วยเอ้า!!
“ตบสิ กูกลัวมึงตายหา(+l)อ่ะ!!”
ผมกระแทกเสียงใส่
“อย่า! เดี๋ยวหน้าตาน่ารักๆจะเสียโฉมเอา”
ไอ้คนเสื้อลายเสือที่ล็อกตัวผมพูดขึ้น มันลูบไล้ไปบนผิวบริเวณหน้าอกผมที่โผล่พ้นเสื้อออกมา ผมควรขอบใจมันดีมั้ยที่ไม่ได้แก้ผ้าผมจนหมด แค่ถอดเสื้อกับปลดซิปกางเกง!
“ไอ้สัส!! มึงไปตะ...อุ๊บ!”
ผมตะโกนด่ามันแต่ถูกปิดปากไว้ เวรกรรม! ผมพยายามกัดมือมันแต่มันปิดปากผมซะแน่นเลย ผมรู้สึกถึงรสเค็มๆในช่องปากไม่รู้ว่ารสของเลือดผมหรือมือโสโครกนี่กันแน่ บ้าแม่ งคงจนถึงขั้นไม่มีสบู่ล้างมือเลยสินะ!!
“มึงตั้งกล้อง มึงถ่าย”
ไอ้แว่นดำสั่งการลูกน้องเสร็จก็หันมายิ้มกริมใส่ผม ก่อนจะเอื้อมมือล้วงเข้ามาในเขตความเป็นชายของผม ผมทำหน้าตื่นตกใจ ร้องเสียงอู้อี้ด่าทอมัน ดิ้นรนขยับตัวหนีออกให้ได้ แต่ผมก็โดนพวกมันซัดเข้ากลางท้องอีก
“ไม่ต้องกลัวก็แค่ถ่ายรูปเล่นเฉยๆ อ่อ แล้วคนจ้างฉันเขาก็ฝากมาบอกแกว่า..”
ไอ้แว่นดำเว้นวรรคครู่หนึ่งก่อนพูดต่อว่า
“เลิกยุ่งกับคนชื่อเซลซะ ถ้าไม่เลิกจะโดนหนักกว่านี้”
ผมร้องถามมันว่าเจ้านายมันคือใครแต่เสียงที่ลอดออกไปกลับฟังไม่ได้ศัพท์เลย เลิกปิดปากกูทีเหอะ สัส!! มือหยาบกร้านที่รุกล้ำเข้ามาเริ่มขยับส่วนสำคัญของผมไปมา ก่อนเร่งจังหวะขึ้นเรื่อยๆ พร้อมกับแสงชัตเตอร์ที่สว่างวาบ แล้วน้ำสีขาวขุ่นก็ถูกบีบให้ออกมา พวกมันหัวเราะอย่างพอใจ ผมสะกดกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่เลยต้องปล่อยให้มันไหลออกมา ผมนี่มันเลวจริงๆ ทั้งที่เป็นคนอื่นที่ไม่ใช่พี่เซลมาทำกับผมแบบนี้แต่ผมกลับถึงจุดที่ปล่อยน้ำโสมมนี่ออกมาได้ ผมรู้สึกขยะแขยงร่างกายตัวเองจัง แค่ถูกเร้านิดหน่อยก็ถึง...ที่สุดซะแล้ว ผมมันเลวที่สุด!! เลวมากๆเลย!!!
“ไม่ต้องร้องไห้หรอกน่า แค่เล่นด้วยนิดหน่อยเองนะ^^”
สัส! ยิ้มหาพ่อมึงหรอ!! ผมจ้องหน้าพวกมันแบบอาฆาตแค้น อยากจะลุกเอาพวกแม่ งไปเผานั่งยางจริงๆ มือสกปรกของไอ้หัวทองจิกหัวผมให้เงยหน้ามองเลนต์กล้องที่จับจ้องใบหน้าผมอยู่
“เฮ้ย!! ตรงนั้นทำอะไรกันอยู่น่ะ!!!”
ผู้ชายในเครื่องแบบสีฟ้าตะโกนลั่นลานจอดรถ เขาวิ่งถือไม่กระบองคู่ใจเข้ามาหาพวกมัน พวกมันเลยแตกกระเจิงรีบวิ่งหนี
“เฮ้ย! หนีเร็ว!!”
“หยุดเดี๋ยวนี้นะเว้ย!!”
รปภ.วิ่งเข้ามาสำรวจผมที่อยู่ในสภาพไม่ต่างอะไรกันขอทานข้างถนน ทรงผมยุ่งเหยิงเหมือนคนบ้า เสื้อผ้าหลุดลุ่ยไม่มีชิ้นดีเลย สภาพแบบนี้ไม่อยากให้ใครเห็นเลย!
“นายๆ เป็นอะไรมากหรือป่าว ไปโรงพักมั้ยเดี๋ยวฉันพาไป”
เขาถามผม ผมส่ายหน้าหน่อยๆ ไปโรงพักแจ้งความว่าผมโดนกลุ่มผู้ชายรุมทำอนาจารหรอ ถ้าไปแจ้งละก็พี่มันต้องรู้แน่ๆเลย ผมไม่อยากให้พี่มันรู้เลย ไม่อยากให้พ่อกับแม่รู้ด้วย ทั้งที่ผมเป็นผู้ชายแท้ๆแต่กำลังจะโดนข่มขืนนี่มันเรื่องบ้าชัดๆ ใครจะกล้าบากหน้าไปแจ้งความกันเล่า!
“ไปพักในห้องรปภ.ก่อนมั้ย”
เขาถามผมอีก ผมส่ายหัวพลางแต่งตัวใหม่ให้เรียบร้อย ผมหยิบแผงยาแก้ปวดหัวในกระเป๋ากางเกงที่ยับยู่ยี่ออกมาดู แล้วยื่นไปให้รปภ.ข้างหน้าผม
“ฝากเอาไปให้ผู้ชายที่นั่งอยู่ตรงข้ามร้านโดนัทชั้น 2 หน่อยนะครับ”
เขารับไปแล้วก้มลงมองผมเหมือนอยากจะถามว่าผมเป็นอะไรมากมั้ยอีกรอบนึง ผมได้แต่ยิ้มเจื่อนๆให้เขาหน่อยๆ
“แค่เกือบโดนปล้ำมันไม่เป็นไรหรอกครับ แต่คนที่รอยาจากผมอาจจะเป็นอะไรไปก็ได้ ถ้าคุณไม่รีบเอายาไปให้เขา”
“นายไม่เป็นอะไรจริงๆหรอ กลับบ้านมั้ย ฉันจะเรียกแท็กซี่ให้”
“ขอบคุณครับ เดี๋ยวผมจัดการเอง”
“เอ่อ....”
“ฝากด้วยนะครับ^^”
ผมยิ้มให้เขาอีก เขาทำหน้าเป็นห่วงผมมาก ซึ้งในน้ำใจของเขาจริงๆ แล้วเขาก็รีบวิ่งเอายาไปส่งให้พี่เซล ผมถอยหลังนั่งพิงกำแพงแล้วปล่อยให้หยาดน้ำตาหล่นล่วงลงมาอีกครั้ง การที่ผมคบกับพี่เซลมันทำให้ชีวิตผมวุ่นวายขนาดมีคนจ้องทำร้ายเลยหรอ ทำไมล่ะ? เขาเป็นใครกัน? แล้วผมไปทำอะไรให้เขาหรอ? เขาถึงต้องมาทำร้ายผมแบบนี้! ตอนนี้ผมทั้งรู้สึกผิดที่ร่างกายดันมีปฏิกิริยาไปตามการกระทำทรามๆของพวกมัน ทั้งที่มันควรจะซื่อสัตย์กับคนที่ผมรักแค่คนเดียวแท้ๆ ผมรู้สึกเหนื่อยขึ้นมาหน่อยๆแล้วละกับการคบกันโดยมีคนคอยปองร้าย ผมควรจะยอมแพ้แล้วเลิกยุ่งกับพี่มันดีมั้ย แต่ผมรักพี่มัน! รักมากที่สุด!! ผมชันเข่าขึ้นมากอดไว้ เล็กคมๆก็จิกต้นแขนตัวเองให้มีกำลังใจเข้มแข็งขึ้น เพื่อยืนสู้ต่อเพื่อความรักของผม ผมตัดสิ้นใจแล้วว่าจะไม่ยอมแพ้เด็ดขาด!!! ไม่ว่าไอ้คนๆนั้นมันจะเป็นใคร อยากจะกลั่นแกล้งผมยังไงก็เชิญ จะทำหนักกว่านี้ก็ได้ ผมจะแบกรับไว้โดยไม่ปริปากบอกให้พี่มันไม่สบายใจเด็ดขาด ถนนทุกเส้นไม่ได้โรยไว้ด้วยกลีบกุหลาบ แต่ถูกโรยไว้ด้วยอุปสรรคที่ต้องฝ่าฟันไป และไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นหลังจากนี้ ผมจะฝ่ามันไปให้ได้!!!
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.4 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.4 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ