Sulfur Love (RE-Write)

9.2

เขียนโดย enzang2660

วันที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2556 เวลา 14.57 น.

  57 บท
  25 วิจารณ์
  132.70K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2556 17.52 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

12) เผชิญหน้า

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
บทที่ 11
℃ เผชิญหน้ากันⓈ
 
                ผมรีบตื่นเช้าแหกขี้ตาเพื่อตื่นไปรับแฟนสุดน่ารักของผม   หวังว่าคราวนี้คงไม่หนีไปโรงเรียนก่อนอีกนะ--;   เรื่องเมื่อวานผมยังไม่ได้สะสางเลยกะว่าจะสะสางวันนี้ให้เรียบร้อย  เพราะเมื่อวานโทรไปถามเพื่อนที่โรงเรียนนั้น    มันบอกว่าเธอคนนั้นกลับบ้านไปแล้ว   สงสัยญาติจะเสียกะทันหันผมก็เลยปล่อยไปก่อนหนึ่งวัน^^+   ผมขับรถมาเรื่อยๆเสียได้ไม่ได้ถอยเฟอร์ฯจากบ้านมารับ   พอดีไอ้น้องรักเคลมันดันขับไปเที่ยวตั้งแต่เมื่อวาน  เช้ามามันก็ยังไม่กลับ   เอารถสามกิ่งมารับมันดูไม่เท่เลยแหะ-_-;
ผมเคยเล่าเรื่องครอบครัวผมหรือยังนะ  น่าจะยัง  ก็คนเขียนเล่นส่งบทให้ซัลมันคนเดียวนี่นา-_-;   ผมเป็นพี่ใหญ่สุดของบ้าน  มีน้องอีก 3 คนครับ  คนรองเคลวินกับโรเมอร์  มันเป็นแฝดกัน   ผมก็ไม่รู้ว่าใครมันออกมาก่อนกันขนาดพยาบาลยังไม่รู้เลย--;   พวกมันเลยชอบเถียงกันเรื่องใครเกิดก่อน  เคลเป็นพวกใจร้อนวอนตาย  ส่วนโรมเป็นพวกเด็กเรียนครับ  ตอนนี้เรียนอยู่ที่นิวซีแลนด์(ไปเรียนรีดนมวัว  มันบอก-o-;)ส่วนน้องคนสุดท้องชื่อฟาเรนไฮต์   ตอนนี้เดบิวอยู่ที่ญี่ปุ่น   ผมก็ไปๆมาๆระหว่างบ้านกับคอนโดอ่ะนะ  ไม่ค่อยอยากอยู่บ้าน  พ่อแต่งงานใหม่   คุณแม่ใหม่ก็ชอบมองพวกผมแบบแปลกๆ(ถ้าแด กได้คงเรียบร้อยไปแล้ว-*-)   ผมก็กลัวน้องๆ(และตัวเอง)จะถูกเขมือบ  เลยส่งพวกน้องๆไปอยู่ที่อื่นซะ  ส่วนไอ้เคลมันเอาตัวรอดได้เลยหมดห่วงไป
“ซาลลลลลล!!”
ผมตะโกนเรียกมันอยู่หน้าบ้าน  เพราะผมหาออดบ้านมันไม่เจอ  ไม่นานก็ปรากฏร่างสาวสวยในชุดผ้ากันเปื้อนโผล่มาต้อนรับผมด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม    
                “สวัสดีครับคุณแม่(เมีย)^^”
                ผมพูดพลางยกมือไหว้
                “มารับซัลจังหรอ  ซัลยังไม่ตื่นเลย  เดี๋ยวแม่ไปปลุกให้นะ^^”
                “เอ่อ..... ไม่เป็นไรครับ  เดี๋ยวผมมาใหม่^^”
                “เข้าไปกินข้าวเช้าในบ้านก่อนสิจ๊ะ^^”
                “ผมไม่ชอบกินข้าวเช้าน่ะครับ”
                “ตายแล้ว! ไม่ได้นะจ๊ะ  ต้องกิน มาๆเร็ว”
                มือเล็กๆดึงข้อมือผมให้เดินตามไป  บานประตูเลื่อนถูกเปิดออก   ชายใบหน้าเรียวในกรอบแว่นขยับหนังสือพิมพ์ลงเล็กน้อยก่อนหรี่ตามองผมอย่างไม่ค่อยเป็นมิตร   ผมส่งยิ้มให้หน่อยๆพร้อมยกมือไหว้คุณพ่อตา^^
                “ทำไมแม่ให้คนแปลกหน้าเข้ามาในบ้านง่ายๆแบบนี้-_-+”
                คุณพ่อตาเอ่ย 
                “แปลกที่ไหนกันพ่อ  นี่เซลเซียสเพื่อนซัลจ้า^^”
                คุณแม่ยายเอ่ยแล้วหันมาขยิบตาใส่ผม  อยากบอกนะว่าคุณแม่ยายรู้OoO!!
                “เซลนั่งนี่นะ  เดี๋ยวแม่ไปเตรียมอาหารอีกชุดก่อน”
                คุณแม่ยายกดไหล่ผมให้นั่งลงที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้ามกับคุณพ่อตา  ช่างเลือกที่ได้ดีจริงๆเลยนะครับ^^;  
                “รีบๆกินซะซิ”
                เสียงห้าวๆ เอ่ยบอกผม  ผมมองจานเบคอนหน่อยๆ  ไอ้ตรงนี้คงเป็นที่ไอ้ตัวเล็กมันสินะ   ผมค่อยๆเอามีดกรีดๆแผ่นเบคอนก่อนจิ้มเข้าปาก   ผมเงยหน้าสบตาคุณพ่อตา
                “เอ่อ.... หน้าผมมีอะไรแปลกหรอครับ-o-;” ผมถาม
                “มองไม่ได้หรือไง-_-+” เขาตอบ
                “ป่าวคับ^^”
                แค่รู้สึกกระเดือกอาหารไม่ค่อยได้น่ะ  เล่นจ้องซะขนาดนี้มันทำให้ผมรู้สึกเกร็งยิ่งกว่าคนอยู่ในบ้าน AF ซะอีก  งับๆ)-o-(
                “ท่ากินสุภาพจังนะ  ไม่ยักรู้ว่าซัลมีเพื่อนอยู่ม.ปลายปี2ด้วย”
                “อ่อ  ที่บ้านผมหัดมาแบบนี้น่ะครับ”
                “ท่าทางที่บ้านจะรวยไม่เบานี่”
                “ไม่รวยหรอกครับ  แค่มีรถขับเฉยๆ”
                “ฉันรู้นะว่าแกมาในฐานะอะไร-_-+”
                “เก่งจังเลยนะครับ  ดีเหมือนกันจะได้ไม่ต้องอธิบายมาก^^”
                “ไม่คิดว่าหล่อๆอย่างแกจะมีรสนิยมชอบผู้ชายด้วยกัน-_-+”
                “อ่า  ผมก็คิดมาก่อนเหมือนกัน-.-”
                “อย่ามาย้อนฉันนะ!!”
                “ป่าวครับคุณพ่อตาO.o”
                “ใครให้แกเรียกฉันว่าพ่อตาห๊ะ-o-!!”
                “งั้น Father in law ล่ะกัน^^”
                “ฉันไม่ได้โง่อังกฤษนะเว้ย>O<!!”
                “ผมไม่ได้พูดว่าคุณพ่อโง่เลยซักคำนะครับ^^”
                “แก๊!!!
                “ใจเย็นๆสิครับ  หยาบคายจังเลยนะครับ^^”
                “ลูกฉันจะต้องเป็นชายชาตรีเท่านั้นโว้ยยย>O<!!”
                เหอะๆ  สายไปแล้วละครับ  ให้กลับมามาดแมนสมใจคุณพ่อคงไม่ทันแล้วล่ะ  เพราะผมยัดเยียดเพศแม่ให้มันไปเรียบร้อยแล้ว ^^
                “ซัลจังมาแล้วจ้า  ไปนั่งโน่นๆ^^”
                ผมหันไปมองหนุ่มน้อยหน้าหวานในชุดนักเรียน  วันนี้ติดกิ๊บด้วยน่ารักชะมัดเลย>.<    ผมมองหน้าผมแล้วส่งยิ้มให้   มันเอามือไขว่หลังแล้วยืนบิดๆไปมา  โฮกกกก!!  น่ารักเกินไปแล้ว  ถ้าไม่ติดว่าพ่อกับแม่มันอยู่ตรงนี้ผมจะจับมันกดกลางโต๊ะซะเลย-.,-
                “ซัล!  วันนี้นึกยังไงติดกิ๊บห๊ะ -_-? ” พ่อมันถาม
                “ก็.... ผมหน้ามันยาวจิ้มตาน่ะฮะ  เลยติดไว้o.o”
                มันทำหน้าบ๊องแบ๊วพลางเอามือแตะๆกิ๊ฟบนหัว  อยากกินมันแทนข้าวจังเว้ย>O<!!
                “ถ้าผมมันเกะกะนักก็ไปโกนออกซะไป-_-”
                “เอ่อ...”
                หน้ามันเจื่อนลงเล็กน้อย  อะไรกันครับคุณพ่อ  ลูกชายคุณพ่อออกจะน่ารัก(น่ากลืนกิน)ขนาดนี้  ดันไล่ให้ไปโกนหัวเนี่ยนะ-o-!
                “พ่อก็! ซัลจังทำทรงนี้ก็น่ารักดีออก>3<”
                คุณแม่ยายบอก
“น่ารัก?  มันใช้กับผู้หญิง!!”
                พ่อตาเถียง  เหอะ!  ก็ตอนทำไม่ปรึกษากันให้ดีๆละว่าจะให้ออกมาเป็นผู้ชายหล่อ-*-   แล้วน่ารักมันผิดตรงไหนคร้าบบบบ!!
                “ทำไงได้ละก็ลูกเราหน้าน่ารักเหมือนผู้หญิงนี่!!”
                “ผมให้คุณเลี้ยงลูกให้เป็นผู้ชายนะ  ไม่ใช่ให้เป็นตุ๊ด!!”
โอ้ยๆ  อย่าจุดชนวนเพลิงกันกลางบ้านสิครับ~  ผมมองดวงตากลมโตของมันที่ตอนนี้เริ่มมีน้ำใสๆไหลออกมาแล้ว  กูจะทำยังไงดี OoO!?!
“นี่คุณ! มันจะมากไปแล้วนะ”
“หึ! หวังว่าตอนเด็กๆคุณคงไม่เอาตุ๊กตาบาร์บี้มาให้ลูกเล่นหรอกนะ”
 
ตึง!
 
“ผมไปโรงเรียนก่อนนะครับ!”
ซัลลุกขึ้นแล้วเดินออกไป  ผมดึงข้อมือเล็กๆนั่นไว้ก่อน  มันก้มหน้าลงไม่สบตาใครผมเหลือบมองหน้าแม่มันและพ่อมันที่ดูตกใจกับอาการของมัน
“กินข้าวก่อนนะ  แม่ซัลอุส่าห์ทำให้^^”
ผมยิ้มให้มัน  มันค่อยๆย่อตัวลงนั่งที่เดิม  ผมหยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมากางออกแล้ววางทาบหน้ามัน
“ง่วงนอนมากหรือไง  เช็ดหน้าซะ^^”
ผมพูดพลางเอามือออก  แต่มือเล็กๆกลับวางทับมือผมไว้  ผมรู้สึกถึงน้ำอุ่นๆที่ซึมผ่านผ้าเช็ดหน้าผืนบางนั่น   ถ้าผมจะดึงตัวมันเข้ามากอดตอนนี้  จะเป็นไรมั้ยนะ?
“ไหนๆก็มารับแล้ว  ฝากไปส่งซัลที่โรงเรียนด้วยแล้วกัน”
ร่างสูงถอนหายใจยาวแล้วพูดก่อนเดินลับหายไป  ผมพยักหน้ารับหน่อยๆ  แม่ซัลนั่งลงตรงข้ามซัล   ใบหน้าเธอดูเจ็บปวดอย่างบอกไม่ถูก  พ่อแม่ที่ทำลูกร้องไห้เขาเป็นแบบนี้กันทุกคนสินะ  ลูกร้องไห้พ่อแม่ก็อยากร้องตาม  ช่างเป็นครอบครัวที่น่ารักดีจัง  อนาคตผมก็อยากจะมาอยู่ด้วยนะ
“ทานข้าวนะซัล  แม่ขอโทษแทนพ่อด้วยนะที่พูดคำนั้น...กับลูก”
มือสวยเลื่อนมากุมมือเล็กๆไว้อย่างอ่อนโยน  เจ้าตัวเล็กเปิดผ้าเช็ดหน้าออกแล้วยิ้มให้แม่มันคลายสีหน้าโศกเศร้าลง  สรุปว่าเรื่องนี้ผมเป็นคนผิดสินะ  ไม่น่ามาเลย-o-;; ซัลตักข้าวผัดเข้าปากไปพลางมองผมกับแม่มันสลับกัน   ไม่นานมันก็กินหมดผมเดินออกมารอมันนอกบ้านเตรียมสตาร์ทรถคันสวยทันที
“นี่ๆ ปั่นจักรยานไปได้มั้ย*o*”
                เสียงใสๆเอ่ยถามผม  เอ่อ....น้องครับ  พี่ขับรถสี่ล้อมารับแต่น้องกลับอยากไปรถสองล้อเนี่ยนะ  ขับมามันเปลืองน้ำมันนะเว้ย!
                “ก็ได้”
                ใครจะกล้าปฏิเสธมันละ   ทำไมผมยอมมันง่ายๆอย่างนี้เนี่ย~  ผมขออนุญาติแม่มันฝากรถไว้ที่บ้านก่อนแล้วตอนเย็นผมจะมาเอา   ผมเดินไปขึ้นจักรยานคันเตี้ยๆสำหรับคนเตี้ยๆขี่   ถ้าให้ผมขี่ผมคงปวดขาน่าดูเลยละ--;
                “ซัลขี่!”
                ผมบอกมันพลางถอยตัวลงมานั่งเบาะหลัง  มันมองหน้าผมอย่าเหวอๆ  คิดจะซ้อนผมละซิ  ฮ่าๆ
                “อะไรกัน  ให้ผมขี่พาหมีควายไปโรงเรียนเนี่ยนะ-o-!”
                มันพูด  เรียกหมีเฉยๆไม่ว่า  แต่ไม่เอาควายได้มั้ย--*  มันยอมขึ้นมานั่งปั่น   ผมเอามือดึงเสื้อมันไว้  กลัวหล่นครับ  มันเล่นปั่นส่ายไปส่ายมา   แล่นเข้าหารถชาวบ้านไปทั่ว    นี่มันจะพาผมไปโรงเรียนหรือไปโรงพยาบาลกันแน่ -_-;;
 
                “ถึงแล้วๆ ลงมาๆ”
                มันกระโดดลงจากจักรยานเฉย   แล้วทิ้งผมไว้บนรถจักรยานที่แกว่งไปมา  มึงจะฆ่ากูหรอออ!!
                “เร็วๆสิเดี๋ยวก็ไม่ทันดูพอดี”
                มันหันมากวักมือเรียกผม   ผมวิ่งตามมันไป  มันปีนขึ้นไปบนต้นไม้ต้นใหญ่ที่ริมรั้วกั้นจุดชมวิว  จะดูวิวหรอ  แต่ผมว่าจุดชมวิวใกล้ๆรั้วที่เขากั้นเขตไว้ให้มันก็น่าจะมองเห็นแล้วไม่ใช่หรอ  จะถ่อขึ้นไปทำซาก-o-!
                “ไหนๆดูไร ”
ผมถามมันหลังจากตะเกียดตะกายขึ้นมานั่งบนกิ่งเดียวกับมันได้สำเร็จ  มันปีนต้นไม่เก่งมาก   เป็นหง้อคงกลับชาติมาเกิดแหงมๆ  ผมมองบรรยากาศรอบที่เงียบสงบ  มีคนวิ่งไปมาอยู่ในสวนอยู่นิดหน่อย  มองไปไกลๆก็เห็นตึกสูงกับถนนที่คับคั่งไปด้วยรถยนต์   อย่าบอกนะว่าให้ขึ้นมานั่งปลงสังขารบนนี้
“เห็นยังๆ*o*” มันถาม
“ไม่ได้ตาบอด” ผมตอบ
“ถ่ายรูปไว้ดิ”
“ถ่ายไรอ่ะ ตึกๆๆๆ เพื่อ?”
“โง่จริงๆด้วย-_-”
มันบ่น  ผมกำหมัดทุบหัวมันไปทีนึงข้อหามาว่าผมโง่  มันทำแก้มป่องๆพลางลูบหัวตัวเอง   มันล้วงมือเข้ามาในกระเป๋ากางเกงผม  เฮ้ย!  มาทำแบบนั้นกันบนนี้ไม่ได้นะ>///<
“โฮ้~ ใช้ไอโฟนด้วยหรอ *o*”
อะไรกันแค่หยิบโทรศัพท์หรอกหรอ  -.-;
“นี่ไงๆ ดูสิ”
มันยื่นมือถือมาให้ผมดู  รูปพระอาทิตย์ที่ขึ้นระหว่างตึกทรงกระบอกสองตึกธรรมดาๆไม่ใช่หรอ   ผมเงยหน้ามองเงาสีส้มอ่อนๆที่สะท้อนบนหน้าต่างกระจกของตึกสองตึกนั่น    มันเป็นรูปหัวใจ!!   ผมหันมองใบหน้าหวานที่อมยิ้มหน่อยๆ  มึงน่ารักไปแล้วนะรู้ตัวม้ายยยย>O<!!
“ถ่ายรูปกัน”
ผมลุกขึ้นยืนบนกิ่งไม้แล้วยื่นมือให้มันลุกตามผม   ถ้าตกจะได้ตกลงไปพร้อมกันไง  เอ้ย!  ไม่ใช่  แค่อยากเล่นบทเอ็ดเวิร์ดกับเบลล่าเอง^^ (Writer:จริงๆแล้วเค้าชอบอลิซมากกว่า)
                “ทำมือรูปหัวใจด้วยดิ”
                มันพูด  แล้วจะทำยังไงละนั่น  มือนึงถือกล้อง(มือถือ)เตรียมถ่าย อีกมือจับกิ่งไม้ข้างบนไว้--;
                “เขยิบไปหน่อยดิ  ตัวพี่บังเงารูปหัวใจหมดแล้ว”
พี่เขยิบจนจะสุดปลายไม้แล้วน้อง  อีกก้าวนึงพี่ได้ดิ่งลงไปเยี่ยมท่านยมแน่ๆ
“เอ้า เร็วๆนะจะถ่ายแล้ว”
ผมปล่อยมือออกจากกิ่งแล้วเอาไปประกบกับมือมันให้เป็นรูปหัวใจครอบเงาสีส้มๆบนตึก แล้วกดถ่ายทันที 
 
แชะ!
 
ผมรีบนั่งลงบนกิ่งไม้ไม่อยากยืนรับลมนาน  เดี๋ยววิญญาณผมจะลอยตามลมไปซะก่อน
“หัวใจเบี้ยวไปข้างนึงอ่ะ”
มันชี้ไปที่จอมือถือ  ก็ไซส์มือมันกันผมต่างกันมากนี่หว่า  มันเลยกลายเป็นหัวใจโตข้างนึง  อีกข้างเล็กนิดเดียว  อยากถ่ายอีกรูปจัง
“โอ๊ย! อะไรเข้าตาวะ”
ผมร้อง  เจ้าตัวเล็กรีบชะโงกหน้าเข้ามาด้วยผมทันที  มือเล็กๆจับหน้าผมให้มองตากันชัดๆ  ใบหน้าหวานอยู่ห่างจากผมเพียงไม่ถึงสิบเซนฯ ผมอดไม่ได้ที่จะลอบมองริมฝีปากสีลูกกวาดนั่นและอดไม่ได้ที่จะก้มลงไปลิ้มรสหวานที่คุ้นเคยนั่น
 
แชะ!
 
สิ้นเสียงกิ่งไม้ก็สั่นแรงจนผมตกใจต้องรีบคว้าคนตัวเล็กเข้ามาไว้ในอ้อมแขน   ถ้ามึงจะสะดุ้งแรงขนาดพังบ้านได้แบบนี้   แนะนำว่าอย่ามาอยู่ใกล้กู  เกือบตายคู่แล้วมั้ยละ-o-;;
“พี่อ่ะ ถ่ายทำไม>///<”
มันว่าพลางประทุษร้ายผม  ผมแกล้งเอียงตัวเขย่ากิ่งไม้มันรีบกอดตัวผมไว้แน่น   รักผมมาจนอยากให้ตายตามกันไปสินะ  ผมมองรูป 4 ชอตในมือแล้วยิ้มอย่างพอใจ  ไม่ไปเรียนแล้วจะกลับไปไปไรท์รูปเก็บไว้ซักร้อยแผ่นกันหาย^///^
“เหมือนซัลรุกพี่ก่อนเลยอ่ะ ฮ่าๆ”
มันทำหน้างอนๆก่อนผลักผม  มึงจะฆ่ากูหรอออ  เดี๋ยวก็เป็นหม้ายหรอก
-o-!ผมมองร่างเล็กๆที่กระดึบลงไปจากต้นไม้แล้วผมก็รีบตามมันลงไป
“รอบนี้พี่ขี่เลย” มันบอก
“แล้วไม่อยากขี่แล้วหรอ”
ผมบอกมัน  อยู่ๆมันก็หน้าแดงแป๊ดขึ้นมา  คิดอะไรลามกๆละสิ  ว่าแต่ผมมันอ่ะคิดเยอะกว่าผมอีก  ผมกระโดดขึ้นรถแล้วมันก็ขึ้นซ้อนผม
“จับดิ  อยากลงไปวัดพื้นหรือไง” ผมบอก
“ปั่นๆไปเหอะน่า-///-”
                ผมเลิกคิ้วมองมันก่อนถีบที่ปั่นแรงๆให้รถทะยานไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว   จนคนข้างหลังร้องเสียงหลงเลยทีเดียว   วงแขนเล็กๆโอบเอวผมไว้แน่นพลางซุกใบหน้าลงบนแผ่นหลังของผม
“พี่เซล” เสียงหวานๆเอ่ยเรียกผม
“อะไร”
                ผมถามกลับไป  วงแขนน้อยโอบรัดผมมายิ่งขึ้น  ลมหายใจร้อนๆเป่าผ่านเสื้อบางๆของผม   ผมเลื่อนมือข้างนึงไปกุมมือมันไว้  บรรยากาศรอบข้างล้วนเป็นใจ  ดอกไม้ริมทางพลางยิ้มแย้มเบิกบานต้อนรับพวกเรา   ผมสูดหายใจเข้าลึกๆเพื่อรอฟังสิ่งที่มันอยากจะบอกผม   
“พี่เซล...”
“หือ?”
“ผมลืมกระเป๋า -o-;”
 
 
 
                “ไอ้ต้าเย็นนี้กูไม่ซ้อมบาสนะ”
                ผมบอกไอ้หัวทองที่กำลังยืนโบกมือไล่พวกเด็กชมรมฟุตบอล
                “ตามใจมึงเหอะ” มันหันมาตอบผม
                “ไปเซนต์แมทเทอร์เป็นเพื่อนกูหน่อย”
                “ไปหาเนยหรอ”
                “เออ”
                “ซัลรู้มั้ย”
                “ไม่”
                “มึงเลวมาก-_-!”
                “ด่ากูซะงั้น-o-;”
                “มึงจะไปหาแฟนเก่า  แล้วจะให้กูชมมึงอ่อ”
                “กูจะไปสะสางเรื่องบางอย่าง”
                “เรื่องอะไร”
                “เดี๋ยวกูเล่าให้ฟังระหว่างทาง ไปเร็วเดี๋ยวกูกลับมารับซัลไม่ทัน”
                ผมพูดพลางดันหลังไอ้ต้าให้ไปเปลี่ยนชุด  ขอโดดซ้อมวันนึงเถอะ   ไอ้นี่ก็เดินช้าจริง  ผมเลยถีบกลางหลังมันไปที  มันหันมาแผ่รังสีใส่ผม  แล้วก็เดินเชิดหนีไป
                “หายใจเข้าก็ซัล หายใจออกก็ซัล ฟันกันไปกี่รอบแล้วพี่”
                ผมตวัดสายตาอันคมกริบไปมองหน้า  ไอ้เด็กปากเสียในชมรม   หน้าแม่ งก็ห่างไกลกับคำว่าหล่ออยู่แล้ว  สงสัยอยากให้ผมศัลยกรรมหน้าให้ใหม่สินะ-_-++
                “หน้ามึงเหียกมากแต่ไม่ต้องไปยันฮีหรอก  เดี๋ยวกูจะฟันหัวมึงให้ขาดมึงก็ดูดีขึ้นละ-_-++”
                มันทำหน้าเหวอๆก่อนเมื่อได้รับรังสีจิตสังหารจากผม  ผมเดินไปรอไอ้ต้าที่หน้าโรงเรียน   ไม่นานมันก็เดินขยี้หัวออกพร้อมทำหน้าเซ็งๆ
                “รถมึงอ่ะ” มันถามผม
                “กูจอดไว้บ้านซัล” ผมตอบ
                “แล้วจะไปยังไง-_-?”
                “เดินไง”
                “งั้นมึงเดินไปคนเดียวเหอะ-o-!”
                “มึงเพื่อนกูไม่ใช่หรอ><”
                “ใครเพื่อนมึง  มั่วล่ะ”
                “เดินๆ ทำตัวให้มันฟิตสมเป็นนักกีฬาหน่อยดิ”
 
                มันทำหน้าประมาณว่า “โลกจะแตกมึงให้กูไปแบกกระสอบทรายวิ่งข้ามซาฮาร่าดีกว่า”   --;  ถึงจะยังไงก็ช่างเหอะ  ผมต้องลากมันไปกับผมให้ได้!!
 
 
 
                                ไม่เกิน 30 ก้าว (เว่อร์จริงๆ)พวกผมก็มายืนรออยู่ที่หน้าโรงเรียนเซนต์แมทเทอร์  เด็กโรงเรียนนี้เลิกช้ากว่าโรงเรียนผม  หวังว่าวันนี้คงจะได้เจอเธอนะ เนย!!
                “อ้าว เซลมาทำไรที่นี่น่ะ^^”
                ใบหน้าหวานใสส่งยิ้มพลางเดินเข้ามาใกล้ผม
                “มาหาเธอไง” ผมตอบ
                “ใช้คำว่าเธอ ฟังดูห่างเหินกันจังเลยนะ-3-”
                “หรอ ขอโทษละกัน”
                “เซลมีอะไรกับเนยหรือป่าว ทำไมมาดักรอเนยแบบนี้ละ”
                ถ้าไม่มีเรื่องสำคัญจริงๆ ผมคงไม่ลากขามาเหยียบที่นี่หรอก  ผมมองเธอด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง  ไอ้ต้าผลุบหน้ากับกำแพง  มันคงไม่อยากเข้ามาสอดเรื่องนี้เท่าไหร่  ถึงผมจะเล่าให้มันฟังแล้วก็เถอะ
                “เธอส่งข้อความนี่มาให้ฉันใช่มั้ย”
                ผมพูดพลางยื่นมือถือไปตรงหน้าเธอ
                “เซลก็มีเบอร์เนยไม่ใช่หรอ  นี่มันใช่เบอร์เนยที่ไหนล่ะ”
                “ใช่โทรศัพท์เพื่อนส่งมาใช่มั้ย”
                “ป่าวนี่  ทำไมเนยต้องส่งข้อความแบบนั้นไปด้วยล่ะ”
                “ก็เพราะเธอรู้ว่าฉันคบกับซัลแล้วไง”
                “คิกๆ อะไรกัน นี่เซลคบกับเด็กนั่นแล้วหรอ  เซลเปลี่ยนสถานะไปเป็นกิ๊กชาวบ้านตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย^^”
                “เป็นแฟน!”
                ผมย้ำเธออีกรอบ 
                “แสดงว่าเด็กนั่นคบซ้อนทีเดียวสองคนน่ะสิ!!”
                เสียงหวานตะโกนดังลั่นบริเวณโดยรอบ  ใบหน้าเธอเปลี่ยนจากสีขาวซีดเป็นแดงจัด   มือเล็กๆเกร็งจิกฝ่ามือตัวเองแน่น
                “ป่าว  กับคนที่ชื่อพีค มันเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน”
                “จะบอกว่าพี่พีคหลอกเนยหรอ”
                “ถ้าฉลาดพอก็น่าจะเข้าใจที่พูด…”
                “แหม.. ปากร้ายจังเลยนะเซล”
                เธอยิ้มอีกครั้ง  ประชดผมอยู่สินะ  แต่จริงๆผมก็ปากไม่ดีมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้วล่ะ  ไม่เชื่อลองย้อนไปอ่านบทนำได้เลย(ขายของๆ55+)
                “ที่ฉันจะมาพูดวันนี้ก็แค่อยากให้เธอเลิกยุ่งกับซัล!!”
                ผมประกาศก้าวให้เธอได้ยินเต็มสองรูหู   ใบหน้าสวยฉายแววขบขันแต่ผมไม่ตลกด้วยหรอกนะ  จริงจังอยู่นะเนี่ย!
                “เนยยังไม่ได้ทำอะไรเลยนะเซล”
                “แล้วที่เธอส่งคนมะ...”
                “เนยบอกว่าไม่ได้ยุ่งอะไรกับเด็กนั่น  ทำไมเซลไม่ลองโทรไปหาคนที่ส่งข้อความมาล่ะ”
                ผมนิ่ง  หน้าเธอดูจริงจังมาก  เหมือนว่าที่ผมพูดไปนั้นเป็นการใส่ร้ายเธอ   นั่นสิ  ทำไมผมไม่ลองโทรไปนะ
                “ไอ้เซล กูว่ากลับเหอะ”
 
                ไอ้ต้าเรียกผมทันที  เมื่อมันเห็นว่าเนยทำหน้าจะร้องไห้แล้ว   ทำไมกูต้องเป็นคนทำชาวบ้านร้องไห้อยู่เรื่อย-o-;
                “ขอโทษที่เข้าใจเธอผิดนะ” ผมพูด
                “อืม  ถ้าเซลมีเรื่องไรก็บอกเนยได้  ยังไงเนยก็เป็นเพื่อนเซลนะ  และเนยก็จะไม่กีดกันซัลกับเซลด้วย”
                “...................”
                “ความสุขของเซลก็คือความสุขของเนยเหมือนกัน”
                ผมหันหลังลากคอไอ้เพื่อนประกอบฉากกลับโรงเรียน  ความสุขของผมก็เหมือนความสุขของเนยงั้นหรอ  ทำไมชอบพูดให้ความหวังคนอื่นอยู่เรื่อยเลยนะเนยเนี่ย   ผมก็ดีใจที่เนยพอจะเข้าใจซัลบ้างแล้ว  ส่วนปัญหาเรื่องแฟนปลอมๆคงต้องให้คนชื่อพีคมาเคลียร์กับเนยเองแล้วละ      
                “สุดท้ายกูก็มีบทพูดแค่ท่อนเดียว-*-”
                ไอ้ต้าบ่น
                “ดีล่ะ ไม่เปลืองน้ำลาย กูคอแห้งละ ไปหาน้ำแดกกัน”
                ผมพูด
                “มึงเชื่อจริงๆหรอว่าเนยไม่ได้ทำ”
                “ตอนนี้กูยังเชื่อใจเนยอยู่”
                “เหอะ  แล้วซัลล่ะ”
                “กูก็เชื่อใจ  มึงถามไรมึงเนี่ย”
                “ป่าว  แต่น้ำมันราดไฟ ไฟมันจะลุกง่ายนะ-_-”
                “มึงหมายถึงถ่านไฟเก่าหรือป่าว-_-?”
                “เออๆ กูจำผิด”
                “สำนวนวิบัติหมดมึงนี่-*-”
                “ยิ่งใกล้กันยิ่งหวั่นไหว  เดี๋ยวเสือกไปชอบกันอีก  มึงก็จะทิ้งซัล!”
                “บอกไว้เลย ยังไงซัลก็คือคนเดียวที่กูรัก”
                “..............”
                “ตอนนี้กูรักใครไม่ได้แล้ว”
                “..............”
                “....เพราะหมดหัวใจกู  ให้มันคนเดียว...”
                ผมเงยหน้ามองท้องฟ้าสีครามที่ดูสดใสคล้ายกับร้อยยิ้มของเจ้าตัวเล็ก  ผมรักใครไม่ได้แล้วจริงๆ  ตอนนี้ห้องหัวใจผมมันเต็มตื้นจนแทบจะเอ่อล้นออกมาอยู่แล้ว
                “ไอ้เซล”
                “ไรมึง”
                “เลี่ยนสาดดดดด”       (**สาด ประมาณว่าสุดๆน่ะ ไม่ใช่คำหยาบนะ><)
                               

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.4 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.4 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา