FYC! ค่ายนี้มีแต่...
เขียนโดย แคมป์
วันที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2556 เวลา 23.53 น.
แก้ไขเมื่อ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2556 21.23 น. โดย เจ้าของนิยาย
12) เมื่อโทร. หาแม่
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความFYC 12
“โทร. หาใครน่ะอินฮยอง?”
เสียงทุ้มดังขัดจังหวะเมื่อฉันหยิบโทรศัพท์มือถือของตัวเองขึ้นมากดเบอร์ของใครบางคน เขาที่ชะเง้อหน้ามาจากห้องครัว เห็นฉันที่นอนคว่ำหน้าอยู่บนโซฟาก็ไม่รอช้าเลยที่จะละสิ่งที่ตัวเองกำลังทำเป็นเดินดุ่มๆ มาหาฉันแทน เขาไม่ว่าอะไร แต่ใช้โอกาสในช่วงที่ฉันกำลังเอ๋อฉกโทรศัพท์ขึ้นไปดู
“แม่?”
ฉันหน้ามุ่ยทันที ยันกายให้ลุกขึ้นแล้วคว้าโทรศัพท์กลับคืนมาด้วยความไม่พอใจ ได้ไงกัน! ถึงนี่จะผ่านมาสิบห้าวันแล้ว ถึงแม้ว่าเราสองคนจะสนิทกันมากขึ้นกว่าเก่า และใช้ของส่วนตัวร่วมกันได้ในบางอย่าง แต่ฉัน...ฉันก็ไม่ได้ชอบให้ใครมายุ่งกับโทรศัพท์ของฉันหรอกนะ!
ฉันไม่พูดอะไรอีกหลังจากแย่งโทรศัพท์มาจากนายนั่นได้ ตอนนี้...สิ่งที่ฉันทำ คงมีแต่นั่งพิงหลังกับโซฟานิ่งๆ จ้องมองเบอร์ของแม่แล้วก็ได้แต่...
“เฮ้อ...” ถอนใจออกมาแผ่วๆ
“คิดถึงแม่เหรอ?”
ฉันขมวดคิ้วนิดๆ รู้สึกขัดใจกับคำถาม...หึ! ไม่คิดถึงเลยมั้ง จากบ้านมาตั้งสิบห้าวันเข้าไปแล้ว นี่ยังไม่มีโอกาสได้โทร. ไปหาแม่เลย เฮ้อ...คิดแล้วก็อยากจะกดปุ่มสีเขียวจัง...แต่ฉัน...ก็ยังยั้งมือไว้ด้วยเพราะไม่แน่ใจว่าการโทร. ไปหาแม่ครั้งนี้ มันจะเป็นการฝืนกฎข้อใดข้อหนึ่งหรือเปล่า คือฉันไม่แน่ใจไง เพราะถ้าได้มาอยู่ในค่ายแบบนี้แล้ว ก็แน่นอนล่ะว่าการติดต่อกับคนภายนอกมันคงไม่ดีกับตัวฉันแน่ เฮ้อ...
“เอางี้มะ?”
“อะไร?” ฉันเงยหน้ามุ่ยๆ มองเขาที่ตัดสินใจหมุนตัวเดินเข้าไปในห้องนอน ก่อนจะเดินกลับออกมาพร้อมโทรศัพท์ของเขาที่อยู่ในมือ เขาเดินมาถึงก็ยื่นให้
“อ่ะ ถ้าอยากจะโทร. หาแม่ก็ใช้ของฉันโทร. ดีกว่า”
ฉันมองโทรศัพท์ในมือของเขาสลับกับหน้าของเขาอย่างไม่เข้าใจและ...ไม่แน่ใจ
“เอ่อ...จะดีเหรอคุณ ถ้าเกิดว่าพวกทางค่ายเขารู้เข้า คุณอาจจะซวยได้นะ” พอมานึกถึงตรงแล้ว ฉันก็ได้แต่มองเจ้าโทรศัพท์ของนายเจซัคอย่างเสียดาย
“หึ ซวยเหรอ? ถ้าฉันซวยเพราะพวกมันได้ ก็ไม่ต้องมาเรียกฉันว่าเจซัค อัลเบ็ท!” ฉันกระพริบตาปริบๆ มองใบหน้าเหี้ยมนิดๆ ของนายเจซัคที่เพียงไม่นานเขาก็ตวัดสายตากลับมามองฉันพร้อมกับเขย่าสิ่งที่อยู่ในมือ
“เอ้า เร็วๆ เข้าสิ ก่อนที่ฉันจะเปลี่ยนใจ...แล้วแม่ของเธอก็จะต้องทนคิดถึงเธอต่อไปอีกนาน! ท่านจะต้องเป็นห่วงเธอ...ว่าเธอจะอยู่สุขสบายดีรึเปล่านะ? จะกินอิ่มนอนหลับรึเปล่านะ?...เฮ้อ! เธอนี่มันลูกอกตัญญูจริงๆ เลยนะ ปล่อยให้แม่...”
“โอ๊ย! พอๆๆๆๆ หยุดพล่ามหยุดบ่นได้และ” ฉันหน้ายุ่งมู่ทู่ พลางกระชากโทรศัพท์ของเขามาถือไว้ในมือ ไอ้บ้าเอ้ย! ฉันไม่ใช่ลูกอกตัญญูซะหน่อย =0=;;
ฉันได้ยินเขาหัวเราะเบาๆ ก่อนที่จะรู้สึกว่าร่างสูงนั้นได้เดินกลับเข้าไปในครัวอีกครั้ง
ฉันมองโทรศัพท์ของเขาในมือ แล้วก็เกิดลังเลขึ้นมาอีก...ฉันอยากโทร. นะ อยากมากด้วย! แต่...แต่เขาจะไม่เป็นไรจริงๆ เหรอ??
และเหมือนเขาจะสัมผัสได้ถึงพลังงานบางอย่างในตัวฉันที่คงเปล่งรัศมีแรงไปหน่อย แรงไปถึงในครัว เขาถึงได้...
“ฉันจะนับหนึ่งถึงสามนะ ถ้าเธอยังคงลังเลอยู่อีก...หนึ่ง...!”
!!!!!!
“เฮ้ย!!! โทร. แล้วๆๆๆๆ”
ฉันระดมกดเบอร์ยิกๆๆ ทันทีเมื่อเสียงทุ้มตะโกนดังออกมาจากในครัว พอฉันยกเจ้าโทรศัพท์ขึ้นแนบหูเท่านั้นแหละ...สติก็เพิ่งกลับมาอยู่กับตัว และทำให้รู้ว่าฉันถูกเขาแกล้งอีกแล้ว ฮึ่ม~ - -*
ฉันปรายตามองไปยังร่างสูงที่ยืนยิ้มๆ หั่นผักอยู่ในครัวอย่างสบายอกสบายใจ
[สวัสดีค่ะ ซองโกนึมพูดค่ะ]
ฉันสะดุ้งเฮือก ตาลีตาเหลือกเมื่อได้ยินปลายสายทักขึ้น ฉันน้ำตาคลอทันทีที่ได้ยินเสียงของแม่...เสียงนุ่มหวานละมุน เสียงของผู้หญิงใจดีที่ฉันคิดถึงตลอดสิบห้าวัน
“แม่ขา...”
ฉันเรียกแม่เสียงสั่น พยายามไม่ร้องไห้ให้ท่านเป็นห่วง แต่มันก็อดไม่ได้อ่ะ! ฉันทำไม่ได้จริงๆ เพราะเพียงแค่ได้ยินเสียงแม่เท่านั้น แค่เสียงแม่เท่านั้นที่ทำให้ฉันคิดถึงท่านจนต้องปลดปล่อยน้ำตาออกมา
[อินฮยอง...]
“ค่ะ” ฉันสะอึกสะอื้น เสียงของแม่เมื่อกี้นั้นทั้งแหบโหยและเหมือนกับจะตกใจไม่น้อย
[อินฮยอง! นั่นหนูใช่มั้ยลูก!]
ฉันยิ้มกว้างทั้งน้ำตา เมื่อเสียงของแม่ทั้งสั่นและดูจะดีใจที่เป็นฉัน ฉันปาดน้ำหูน้ำตาจนมือพันไปหมด พลางกรอกเสียงที่ควบคุมไม่ค่อยได้เพื่อจะคุยกับแม่ที่ป่านนี้คงจะร้องไห้ไม่ต่างจากฉันหรอก
“ค่ะแม่ หนู...หนูเอง หนูคิดถึงแม่นะคะ”
[ฮือๆๆ แม่ก็คิดถึงหนูจ้ะ แม่คิดถึงหนูจนนอนไม่หลับ ฮือๆๆๆ เป็นยังไงบ้างฮึลูก อยู่ที่ค่ายสบายดีมั้ย? ลำบากมั้ย? มีใครรังแกหนูรึเปล่า? แล้ว...แล้ว...]
ฉันหัวเราะ กับคำถามที่พุ่งยิงมาเป็นชุดของแม่
“ไม่มีหรอกค่ะ ไม่มีใครรังแกหนูทั้งนั้น หนูอยู่ที่นี่สบายดีค่ะแม่ กินอิ่ม นอนหลับ เหมือนมาเที่ยวเกาะเล่นๆ มากกว่ามาเข้าค่ายอีกค่ะ แม่ไม่ต้องเป็นห่วงหนูนะคะ อีกไม่นานหนูก็จะกลับไปกินทักกางจองของแม่แล้ว รอหนูอีกห้าวันนะคะแม่”
ฉันยิ้มกว้าง เพราะได้ยินเสียงของแม่หัวเราะมาตามปลายสาย
[จ้ะ แล้วนี่หนูอยู่กับใครอ่ะลูก ทำไมเสียง...มันเงียบแปลกๆ หนูอยู่คนเดียวเหรอ? แล้ว...แล้วยองแอ กับเจบีล่ะ พวกหนูไม่ได้อยู่ด้วยกันหรอกเหรอลูก???]
คราวนี้ฉันยิ้มไม่ออกกับคำถามที่พุ่งยิงมาเป็นชุดที่สอง เพราะคำตอบที่ฉันจะตอบไปมันคงไม่ดีแน่ๆ ถ้าฉันจะตอบแม่ไปตรงๆ
“อินฮยอง! อาหารเสร็จแล้วนะ!”
เฮือก!!!
[อินฮยอง นั่นเสียงใครอ่ะลูก เสียงผู้ชายใช่มั้ย???]
“เอ่อ...” ฉันถึงกับพูดอะไรไม่ออก รู้สึกใบ้กินขึ้นมากะทันหันเมื่อแม่ถามออกมาอย่างนี้ ฉันร้องซี้ด เหลือบตามองไอ้คุณชายเจซัคที่ดันตะโกนออกมาได้! นายนั่นนะ...รู้ทั้งรู้ว่าฉันคุยกับแม่อยู่ แล้วนี่...จะตะโกนเรียกหาพระแสงระเบิดอะไรว้า~T^T
[อินฮยอง! ตอบแม่มา!]
“เอ่อ...คืองี้ค่ะแม่ ใช่ค่ะ เสียงผู้ชายค่ะ แต่...แต่มันเป็นเสียงของพวกพี่ๆ ทางค่ายอ่ะค่ะแม่ คือเขาเรียกให้หนูให้ไปกินข้าว...แหะๆ” ฉันยิ้มแหยๆ ให้โทรศัพท์ และหวังว่าแม่จะเชื่อฉันด้วยอ่ะนะ T-T
“อินฮยอง! มากินเร็วๆ สิ เดี๋ยวอาหารก็เย็นหมดหรอก!”
[...]
“เอ่อ...ค่า!! เดี๋ยวหนูจะรีบไปนะคะพี่เจซัค แป๊บนึงนะค้า!!”
ฉันทำหน้าเหมือนจะร้องไห้เมื่อแม่เงียบไป เอ่อ...นี่แม่จะเชื่อฉันมั้ยเนี่ย TT
“เอ่อ...แม่คะ งั้นวันนี้แค่นี้ก่อนนะคะ คือพี่เขาเรียกให้ไปกินข้าวแล้วอ่ะ นี่ทุกคนก็นั่งประจำที่กันหมดแล้ว ถ้าขืนหนูไปช้า มีหวัง...ได้ถูกทำโทษแหงเลย” ฉันปาดเหงื่อ แล้วหันไปมองรอบๆ ตัว...เหอะ ทุกคนเหรอ? ในนี้จะมีใครนอกจากฉันกับ...ไอ้นายเจซัคนั่น!
[...อ่ะจ้ะ ไม่เป็นไร แล้วไว้วันหลังแม่จะโทร. มาหาใหม่นะลูก]
“ค่ะแม่ ^^”
[จ้ะ งั้นหนูรีบไปเถอะ เดี๋ยวจะโดนพี่เขาลงโทษเอา]
ฉันปรายตามองไปทาง ‘พี่เขา’ ที่ยืนเท้าสะเอวมองฉันมาจากในครัว ทั้งฉันและเขาหน้ามู่ทู่ไม่แพ้กันหรอก ชิ!
“ค่ะ หนูรักแม่นะคะ”
[จ้ะ แม่ก็รักหนูนะ อินฮยอง]
ฉันยิ้มกับโทรศัพท์ รอให้แม่วางสายไปก่อนแล้วฉันค่อยกดวางสายตามบ้าง เฮ้อ...อยากจะคุยกับแม่ต่อจัง แต่...ฮึ่ย! =_=*
ฉันลุกขึ้นพรวดจากโซฟา แล้วเดินฉับๆ เข้าไปในครัวด้วยท่าทางหาเรื่อง
“เอ้า! เอาไป ขอบคุณสำหรับโทรศัพท์ และก็...เสียงตะโกนเมื่อกี้นะ” ฉันแยกเขี้ยวใส่เขา รอจนเขายื่นมือมารับนั่นล่ะ ฉันถึงได้กระแทกก้นนั่งลงบนเก้าอี้ จ้องอาหารน่าตาน่ากินบนโต๊ะด้วยสายตาเหมือนอยากจะกินเลือดคนมากกว่า
“อะไร...นี่...คนเขาอุตส่าห์ให้ยืมโทร. หาแม่แล้วยังจะมาทำหน้าแบบนี้อีก แล้วดูคำขอบคุณเมื่อกี้ดิ๊ จริงใจซะเปล่า”
ฉันเผยอปากเหวอๆ เงยหน้ามองร่างสูงที่กำลังถอดผ้ากันเปื้อนออกแล้วค่อยแทรกตัวเข้ามานั่งลงฝั่งตรงข้ามกับฉัน นี่...นี่เขากล้าพูดออกมาได้ยังไงเนี่ย!? และดูทำเสียงเข้า...เฮอะ!
“นี่คุณ แล้วสิ่งที่คุณทำไปนี่มันน่าขอบคุณมากเลยรึไง ใช่! เรื่องที่คุณให้ยืมโทรศัพท์น่ะ ฉันขอบคุณจริงๆ จากใจเลย แต่...แต่ไอ้การที่คุณตะโกนเรียกฉันเสียงดังขนาดนั้นน่ะ ฉันควรจะขอบคุณคุณด้วยรึเปล่า?” ฉันว่าหน้ายุ่ง หันกกลับมาตักข้าวคำแรกใส่ปากด้วยอาการกระแทกกระทั้นเหลือเกิน
นายเจซัคเลิกคิ้ว มือทั้งสองเริ่มจับช้อนส้อม
“เอ้า ก็ฉันแคร์เธอนะเนี่ยอินฮยอง ที่ฉันตะโกนไปก็เพราะกลัวว่าเธอจะได้กินอาหารที่มันเย็นชืดจนไม่อร่อยหรอก...เฮ้อ ไอ้ฉันรึก็อุตส่าห์หวังดีแท้ๆ แต่คนเขาไม่เห็นค่านี่สิ...มันน่าน้อยใจมั้ยเนี่ย”
ฉันตักข้าวคำที่สองเข้าปากอย่างแรง แล้วเคี้ยวหงับๆ พลางจ้องใบหน้าคมเขม็ง
ส่วนนายนั่นเองก็เอาแต่นั่งทำหน้าเศร้า พลางตักข้าวกินไปอย่างเงียบๆ ไม่พูดไม่จาอะไรอีก เหอะ! แอคติ้งดีจังนะพ่อคุณ!
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ