Phantom School
8.8
เขียนโดย Wondergirl
วันที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2556 เวลา 18.10 น.
20 บท
2 วิจารณ์
23.73K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 21.03 น. โดย เจ้าของนิยาย
6) เหตุผล ไปหรือไม่?
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ หลังจากเรื่องวุ่นวายทั้งหมดจบลง นักเรียนทั้งหมดจึงแยกย้ายกันไปสำรวจเกาะลอยฟ้าเกาัต่างๆด้วยเหตุผลที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งแต่ละเกาะก็มีการกางเขตอาคมและบาเรียเอาไว้อย่างแน่นหนา ส่วนเหล่าอาจารย์และบุคลากรสำตัญในโรงเรียนนั้นก็ถูกเรียกไปประชุมจนหมด ทำให้วันนี้เป็นวันพักผ่อนของนักเรีัยนทุกช่วงชั้น
แต่ดูเหมือนจะมีนักเรียนคนหนึ่งยังไม่ได้พักนะ
หลังจากเปลี่ยนเสื้อผ้าไปเป็นชุดเครื่องแบบอย่างลวกๆแล้ว ซีโร่ก็วิ่งหน้าตั้งตามหาสัมผัสของเด็กสาวสุดแสนจะประหลาดจับใจคนหนึ่ง คราวนี้ยิ่งหาก็ยิ่งทำให้เขารู้สึกสังหรณืใจไม่ดีเพราะสัมผัสมันเลือนลางเหลือเกิน เหมือนทุกอย่างหลุดลอยไปในอากาศจนหมดสิ้น
"มีคนติดต่อมา มีคนติดต่อมา"เสียงเล็กๆของเด็กผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้น เขามองซ้ายมองขวาแล้วจึงตัดสินใจล้วงสมุดพกนักเรียนออกมา มันใช้อย่างนี้ได้ด้วยเหลือ
สมุดพกลอยขึ้นอยู่ในระดับสายตาตรงหน้าเขาแล้วคลี่กางออก ตัวหนังสือชุดหนึ่งปรากฏขึ้น มันเขียนว่า 'กรุณาถ่ายพลังเวทย์เพื่อเป็นการยืนยันตัวตน' แล้วมันก็ตกลงบนฝ่ามือของเด็กหนุ่มอีกครั้ง
ซีโร่ถ่ายพลังเวทย์อ่อนๆลงในสมุดพก ทำให้ตัวหนังสือชุดเดิมเลือนหายไปและปรากฏตัวหนังสือชุดใหม่ขึ้น
'สวัสดีตอนเช้านะ ไม่ต้องตามหาแล้วกลับมาที่ห้องพักของข้าที่หอเถอะ ทุกคนก็อยู่ด้วย พอเจ้าไปถึงแล้วเดี๋ยวก็เ้จอข้าเอง ป.ล.จากคนที่คุณกำลังคิดถึง'
เมื่ออ่านข้อความจบเขาก็เก็บมันเข้ากระเป๋าเสื้อโค้ททันที ซีโร่หันหน้าวิ่งกลับหอทางเหนือโดยใช้เวทย์น้ำแข็งเสริมเข้าไปด้วยทำให้เขาสามารถเคลื่อนไหวได้ลื่นไหวและเร็วขึ้น... และระหว่างทางในขณะที่เขากำลังวิ่ง(น่าจะสเก็ตมากกว่า)อยู่นั้นก็มีสาวมากหน้าหลายตาหยุดเดินแล้วมองเขาด้วยสายตาที่เขาให้นิยามว่า 'น่าขนลุกที่สุด' เพราะพวกเธอบางคนที่ไม่เก็บอาการกำลังวจะวิ่งออกมาปล้ำเขาอยู่นั่น
ให้ตายสิทำไมพอเป็นเวลากลางวันแล้วมันวุ่นวายจัง... สยองกว่าเมื่อคืนเยอะเลย ซีโร่ยิ้มแหยงๆแล้วเร่งสปีดไปยังหอพักเร็วขึ้น ด้วยเกรงว่าถ้าชะลอช้าหน่อยคงจะโดนลากเข้าป่าหรืออพุ่มไม้แถวๆนี้
ภายในห้องพักหมายเลข413ของหออัศวิน
เด็กหนุ่มสาว3ซึ่งเป็นเพื่อนเจ้าของห้องกำลังนั่งๆนอนอยู่ เพราะห้องนี้กว้างกว่าปกติจึงทำให้พวกเขาอยู่ได้โดยไม่เบียดกันจนหายใจไม่ออก
ก๊อก ก๊ิอก เสียงเคาะประตูดังขึ้น เด็กหนุ่มผมสีแดงเข้มดั่งสีของเลือดเดินไปเปิดประตูออกโดยหวังว่าผู้มาเยือนนั้นจะเป็นเจ้าของห้อง แต่ก็ไม่เพราะเขาคือเพื่อนร่วมสถานอีกคนหนึ่งต่างหากหละ
"เฮ้อ นึกว่าใคร เจ้าก็ถูกเรียกมาเหมือนกัน?"จีเคถอนหายใจแล้วเดินไปนั่งกอดเข่าที่ข้างตู้เสื้อผ้าอย่างเซ็งๆ ไหนบอกว่าพอทุกคนมาแล้วจะออกมาไง? เจ้าทำให้ข้ารุ้สึกไม่ไว้ใจอีแล้วนะ ให้ตายเถอะยัยคนนี้ แต่จะว่าไปนักดาเวทย์ปกติก็เอาแต่เหมือนกันหมดอยู่แล้วนี่ เธอเรื่อยคิดเรื่องไร้สาระระหว่างที่รอบุคคลที่ควรแก่การจะปรากฏตัวได้แล้ว
ยังไม่มางั้นเหรอ? เซวีคิดแล้วก็นั่นหยิบๆวางๆของบนโต๊ะเครื่องแป้งต่อย่างสนอกสนใจ ซึ่งน่าแปลกที่ไม่มีเครื่องสำอางอะไรนอกจากผงปีกผีเสื้อวิญญาณ มันเอาไว้ทำให้ร่องรอยจางลงหรือหายไป หรือว่าคิลล์จะมีแผลเป้นบนหน้ากันนะ? อืม... น่าคิดน่าคิด
"ขอโทษทีนะ พอดีว่าวันนี้มันวุ่นวายไปหน่อย"เสียงหวานใสอันแสนราบเรียบเสียงหนึ่งกล่าวขึ้นพร้อมกับร่างเพรียวบางที่กำลังเดินเข้ามาในห้อง... จากทางระเบียง เสื้อโค้ทของเธอหลุดรุ่ย จนเผยให้เห้นเสื้อกล้ามสีขาวที่อยู่ด้านใน ผมลอนยาวคลอเคลียบ่าของเธอดูแตกๆปราบๆไม่เป็นระเบียบเลยเหมือนเพิ่งไปฟัดกับใครมา
"ฮ่าฮ่าฮ่า เจ้าไปกัดกับมังกร(?)มาหรือไง สภาพดูไม่ได้เลย แอ่ก"แจ๊คมองเธอด้วยหน้าเหวอประมาณ3วิแล้วระเบิดเสียงหีัวเราะออกมาทำให้เด้กสาวผู้นั่งอยุ๋ข้างตุ้เสื้อผ้าต้องเดินมาตจับล็อกคอเอาไว้ "แค่กๆ จีเคข้า... หะ...จาย ม่ะออก แอะ"เขาพูดไม่เป็นศัพท์เนื่องจากแรงล็อกของเด็กสาวผู้ถูกฝึมาเป็นอย่างดี
จีเคคลายแขนออกแล้วปรายสายตาคมกริบมองอื่นฝ่าย ซึ่งสิ่งที่เะอได้กลับมากลับเป็นสายตาแง่งอนออดอ้อนแบบเด็กๆ "อย่า-ทำอีก" เธอกลืนคำด่้าหยาบคายลงท้องจนหมดกำชับกับอย่างดุดัน เด็กสาวหันหน้าเข้าหาผนังแล้วเริ่มกรนด่าเป็นภาษาปีศาจ
แน่นอนทุกคนในห้องฟังออกหมดจึงคลี่ยิ้มน้อยๆออกมาด้วยความขบขันเพื่อนสาวซึ่งกำลังด่าผนังอย่างออกรส
"ข้าสงสารผนังจัง"เซวีส่งสายตาเห็นใจไปให้ผนังผู้โชคร้ายซึ่งต้องรับเคราะห์โดนด่าแทนให้บ้าหัวสีแดงนิสัยเสีย ปากพาจน งี่เง่า หยาบคาย แถมนี้
"โอ๊ยจีเค เจ้าเลิกด่าผนังได้แล้ว ข้าสงสารมัน"แจ๊ครีบปรามทันทีอย่างทนไม่ได้ ก็ที่เธอด่าผนังอยู่หนะจริงๆแล้วเธอตั้งใจจะด่าเขามากกว่า นี่แหละหนาพวกบ้าเข้าใจยาก
"ด่าเจ้าแทนดีไหมหละ"จีเคหันไปทำหน้าเย็รนชาใส่เจ้าตัวดี สายตาบ่งบอกชัดว่าเอาจริงและความโกรธสะสมที่ยังไม่ได้ระบายให้สาใจ อย่าให้ข้าด่า ข้าจะด่าให้เจ้าเป็นคนดีเลยคอยดูเถอะเจ้าโจรสลัดขี้เหล้าเมายา บ้าเอ้ย ให้ตายสิ
"เราเข้าเรื่องกันเถอะ"คิลล์พูดพร้อมกับรอยยิ้มที่ริมฝีปากหน้ามองที่ใครเห็นก็เป็นต้องตกหลุมรัก เธอพูดต่อเมื่อเห็นว่าทุกคนหันมา "ข้าอยากจะถามว่าพวกเจ้าอยากกลับไปยังโลกเดิมไหม?" เธอไม่ได้อยากรุ้ไปทำไมหรอกอย่าคิดมาก ที่ถามก็เพราะอย่างรู้เฉยๆ ดูท่าแล้วในกลุ่มเะอไม่มีใครกระตือรือร้นต่อการหนีออกไปจากที่นี่เลย
"แค่นี่?"ทุกคนถามกลับเป็นเสียงเดียวกันอย่างสงสัย ที่เรียกมาเพราะเรื่องแค่นี้?
"ที่จริงก็อยากรู้เหตุผลด้วยอะนะ ก็เห็นเจ้าไม่กระตือรือร้นต่ออะไรเลย"เด็กสาวผู้เป็นคนเปิดประเด็นไหวไหล่แล้วนั่งลงบนเก้าอี้ข้างกาย นั่นสินะ แล้วทำไมเราไม่คิดจะหนีไปไหนเลยหละ... ทำไมกันหนอ เพราะที่นี่ข้าไม่จำเป็นต้องเอาชีวิตใครงั้นหรือ?
"ฮ่าฮ่าฮ่า ข้าเข้าใจแล้วว่าเข้าไม่เข้าใจว่าข้าอยากรู้อะไร แต่ช่างเถอะ ข้าจะบอกให้"แจ๊คหัวเราะร่าเมื่อเห็นท่าทางขบคิดของเด็กสาวซึ่งทำให้ดูไร้เดียงสาจนน่าถีบเพราะก่อนน่านี้ดูนิ่งๆ เงียบๆ ดูรู้ประสาดี แล้วไหงพลิกคาแร็คเตอร์กันได้ขนาดนี้ จะขำดีหรือจะหมั่นไส้ดี ฮ่า
"คำตอบคือไม่ ก่อนหน้านี้ก็ใช่ แต่ว่านะ... จะว่ายังไงดีหละ ข้ารู้สึกหมดห่วงแล้ว ทีแรกข้านึกว่าเรือข้าแตก เพราะตอนนั้นเราอยุ่ที่กลางพายุ แล้วอยุ่ดีๆข้าก็สลบไป ข้าเป็นห่วงลูกเรือข้า แต่ว่าผ.อ.เซเรฟ เขาบอกว่าเรือของข้าแตกแต่เขาทำให้ลูกเรือถูกพัดไปเทียบแผ่นดินใหญ่รับรองว่าไม่ตายและปลอดภัยดี ข้าจึงไม่ดิ้นรนที่จะกลับไป"เขาอธิบายแล้วยักไหล่ อยู่ที่นี่ก็ไม่เห็นจะเลวร้ายอะไร จะกลับไปเรือข้าก็ไม่มีแล้ว ลูกเรือก็คงแยกย้ายกันไปแล้ว ไม่ได้อะไรจริงๆ สู้พจญภัยบนนี้ยังจะดีกว่า
จีเคลุกขึ้นแล้วยืนพิงข้างตู้ เธอเริ่มพูดบ้าง "อืม... ถ้าอยากรู้ก็ไม่ใช่ปัญหาหรอก อย่างที่แจ๊คบอกไม่คิดที่จะไปจากที่นี่ ข้าไม่ห่วงอะไรแล้ว ข้าไม่ต้องเป็นบอดี้การ์ดให้ใครแล้ว แม่ฆ่าก็ปลอดภัยแล้ว ชีวิตที่เหลือจะยังไงก็ได้"
คิลล์พยักหน้ารับแล้วมองไปทางเซวีและซีโร่สลับกันไปมา เธอไม่เข้าใจว่าทำไมพวกเจ้าหญิงเจ้าชาย2คนนี้ถึงได้ไม่คิดจะกลับไปอยู่อย่างสำราญใจในพระราชวังใหญ่โต แล้วโตขึ้นปกครองแผ่นดินตัวเอง
ทั้ง2คนต่างเงียบอยุ่นานสองนาไม่มีใครคิดที่จะปริปากพูดเลย ซีโร่ก็เอาแต่นั่งหลับตาอยู่เฉยๆข้างๆเด็กสาวผมดำเป็นลอน
แต่แล้วในที่สุดเจ้าหญิงอีกคนก้ทนไม่ไหวกับความเงียบนี้
"เซวีพูดก่อนแล้วกันนะ" เธอยกมือขึ้นแล้วลุกยืนตัวตรงทันที "ข้าเกลียดชีวิตในวัง ข้าไม่ชอบที่นั่น พวกเขาเอาแต่ขีดกรอบให้ข้าเป็นหญิงงามผู้อ่อนแอที่ต้องอยุ่กับเย่าเฝ้ากับเรือน ทำอะไรไม่ได้นอกจากเย็บปักถักร้อย พวกเขาทำให้ข้ารุ้สึกไร้ค่าและชีวิตนี้ไม่สามารถแทนคุณใครได้ ดังนั้นต่อให้มันสบายจนถึงขั้นไม่ต้องทำอะไรเลยข้าก็ไม่เอาเด็ดขาด" เด็กสาวพูดอย่างดุดันและใส่อารมณืจนดูเกรงขามเหมือนอัศวินจริงๆที่มีอุดมการณืท่วมท้น เมื่อพูดจบเธอก็ทรุดตัวนั่งลงดัง ตึ้ง บอกให้รู้สึกอารมณืร้อนกรุ่น
เพื่ออุดมการณ์และความฝันสินะ ช่างน่าชื่นชมและบริสุทธิ์ยิ่ง เหมือนเด็กๆเลย... คิลล์มองเจ้าหญิงที่เพิ่งพูดอย่างใส่อารมณ์ด้วยความรู้สึกที่เอ็นดูปนขบขัน นี่เธอคนนี้ไม่เคยฟังประวัติศาสตร์เกี่ยวกับราชินีกู้แผ่นดินเลยหรือไรกันนะ เฮ้อ
เมื่อเห็นว่าเซวีพูดจบแล้วและเริ่มอารมณืเย็นลง เด็กหนุ่มผมเงินจึงลืมตาขึ้นอย่างช้าๆ "อืม... ตัวข้าก็ไม่อะไรมากหรอก ข้าก็ไม่ชอบวังนั่นและมีอีกหลายๆเหตุผลที่ข้าไม่สามารถบอกได้ บอกได้แค่ พวกเขาทนุถนอมข้าเสียจนยิ่งกว่าไข่ในหินเสียอีก ร่วมๆคือข้าเบื่อที่จะถูกปกป้องเอาใจใส่ตลอดเวลามันไม่มีความเป็นส่วนตัวและไม่สนุกเลย" พูดจบเขาก็เบ้ปากอย่างเด็กๆ ช่วยไม่ได้นี่...
"พวกข้าพูดหมดแล้ว เจ้าหละ คิลล์อย่าบอกนะว่าไม่ได้คิดอะไรแค่ขี้เกียจหนี"ซีโร่หันไปมองเด็กสาวอย่างอยากรุ้อยากเห็น เขาหละอยากรู้อย่างแรงกล้าว่าทำไมเธอถึงไม่คิดหนีไปไหน
"บิงโก" คิลล์ตวัดนิ้วชี้เรียวและนิ้วโป้งทำมือเหมือนกำลังเล็งยิงเด็กหนุ่มข้างกาย "ถูกต้อง ข้าไม่มีเหตุผลอะไรเลย อยู่ที่โลกโน้นข้าก็ไม่มีความสุข สู้รอดูว่าอยู่ที่นี่แล้วจะสุขเพียงใดย่อมดีกว่า" เมื่อเธอตอบจบก็ทำเอาหลายคนอย่างจะรุมสหบาทาเธอเหลือเกิน คิดว่าคนถามจะตอบได้ลึกซึ้งขนาดไหน ที่ไหนได้เปล่าเลย ถ้ากระตื้บให้ตายคาที่มากกว่า ถ้าไม่ติดว่าแม่คุณเก่งและดุมากเวลาสู้หละก็
"ช่างเถอะๆ เอาไว้อยู่ที่นี่ไปนานๆแล้วข้าค่อยถามเหตุผลที่พวกคิดจะอยู่ที่นี่ต่อดีกว่า" คิลล์ปัดมือไปมาอย่างหมดความสนใจ ให้ตายเถอะทำไมพวกเจ้าจะต้องมองด้วยสายตาจะกินเลือดกินเนื้อข้างั้นหละ เช๊อะก็คนนั้นไม่รู้จะพูดอะไรนี่หน่า
"อะแฮ่มๆ... อ่าโน นักเรียนที่เคารพทั้งหลาย ข้ามีเรื่องจะประกาศ จากที่ได้ลงมติกันแล้ว ไปๆมากลายๆเป็นว่าให้นักเรียนใหม่ทุกคนเลือกหาสาขาเข้ากันเลยโดยไม่ต้องรอเทอม2 จะปิดการเลือกสาขาในอีก2อาทิตย์ไม่ต้องรงไม่ต้องรีบ ฮ้าว ไปหละ"เสียงประการจบลงภายในห้องก็เงียบกริบไร้เสียงใด
"งั้นเดี๋ยวเราไปสำรวจเกาะนี้กันไหม?" คิลล์เสนอขึ้น
"ก็เข้าท่านะ"แล้วทั้งหมดก็พยักหน้าเห็นพ้องต้องกันว่าจะต้องไปลองเดินสำรวจดูเกาะลอยฟ้าแต่ละเกาะ เพราะไหนๆวันนี้ก็ไม่ต้องทำอะไรอยู่แล้วนี่นะ
แต่ดูเหมือนจะมีนักเรียนคนหนึ่งยังไม่ได้พักนะ
หลังจากเปลี่ยนเสื้อผ้าไปเป็นชุดเครื่องแบบอย่างลวกๆแล้ว ซีโร่ก็วิ่งหน้าตั้งตามหาสัมผัสของเด็กสาวสุดแสนจะประหลาดจับใจคนหนึ่ง คราวนี้ยิ่งหาก็ยิ่งทำให้เขารู้สึกสังหรณืใจไม่ดีเพราะสัมผัสมันเลือนลางเหลือเกิน เหมือนทุกอย่างหลุดลอยไปในอากาศจนหมดสิ้น
"มีคนติดต่อมา มีคนติดต่อมา"เสียงเล็กๆของเด็กผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้น เขามองซ้ายมองขวาแล้วจึงตัดสินใจล้วงสมุดพกนักเรียนออกมา มันใช้อย่างนี้ได้ด้วยเหลือ
สมุดพกลอยขึ้นอยู่ในระดับสายตาตรงหน้าเขาแล้วคลี่กางออก ตัวหนังสือชุดหนึ่งปรากฏขึ้น มันเขียนว่า 'กรุณาถ่ายพลังเวทย์เพื่อเป็นการยืนยันตัวตน' แล้วมันก็ตกลงบนฝ่ามือของเด็กหนุ่มอีกครั้ง
ซีโร่ถ่ายพลังเวทย์อ่อนๆลงในสมุดพก ทำให้ตัวหนังสือชุดเดิมเลือนหายไปและปรากฏตัวหนังสือชุดใหม่ขึ้น
'สวัสดีตอนเช้านะ ไม่ต้องตามหาแล้วกลับมาที่ห้องพักของข้าที่หอเถอะ ทุกคนก็อยู่ด้วย พอเจ้าไปถึงแล้วเดี๋ยวก็เ้จอข้าเอง ป.ล.จากคนที่คุณกำลังคิดถึง'
เมื่ออ่านข้อความจบเขาก็เก็บมันเข้ากระเป๋าเสื้อโค้ททันที ซีโร่หันหน้าวิ่งกลับหอทางเหนือโดยใช้เวทย์น้ำแข็งเสริมเข้าไปด้วยทำให้เขาสามารถเคลื่อนไหวได้ลื่นไหวและเร็วขึ้น... และระหว่างทางในขณะที่เขากำลังวิ่ง(น่าจะสเก็ตมากกว่า)อยู่นั้นก็มีสาวมากหน้าหลายตาหยุดเดินแล้วมองเขาด้วยสายตาที่เขาให้นิยามว่า 'น่าขนลุกที่สุด' เพราะพวกเธอบางคนที่ไม่เก็บอาการกำลังวจะวิ่งออกมาปล้ำเขาอยู่นั่น
ให้ตายสิทำไมพอเป็นเวลากลางวันแล้วมันวุ่นวายจัง... สยองกว่าเมื่อคืนเยอะเลย ซีโร่ยิ้มแหยงๆแล้วเร่งสปีดไปยังหอพักเร็วขึ้น ด้วยเกรงว่าถ้าชะลอช้าหน่อยคงจะโดนลากเข้าป่าหรืออพุ่มไม้แถวๆนี้
ภายในห้องพักหมายเลข413ของหออัศวิน
เด็กหนุ่มสาว3ซึ่งเป็นเพื่อนเจ้าของห้องกำลังนั่งๆนอนอยู่ เพราะห้องนี้กว้างกว่าปกติจึงทำให้พวกเขาอยู่ได้โดยไม่เบียดกันจนหายใจไม่ออก
ก๊อก ก๊ิอก เสียงเคาะประตูดังขึ้น เด็กหนุ่มผมสีแดงเข้มดั่งสีของเลือดเดินไปเปิดประตูออกโดยหวังว่าผู้มาเยือนนั้นจะเป็นเจ้าของห้อง แต่ก็ไม่เพราะเขาคือเพื่อนร่วมสถานอีกคนหนึ่งต่างหากหละ
"เฮ้อ นึกว่าใคร เจ้าก็ถูกเรียกมาเหมือนกัน?"จีเคถอนหายใจแล้วเดินไปนั่งกอดเข่าที่ข้างตู้เสื้อผ้าอย่างเซ็งๆ ไหนบอกว่าพอทุกคนมาแล้วจะออกมาไง? เจ้าทำให้ข้ารุ้สึกไม่ไว้ใจอีแล้วนะ ให้ตายเถอะยัยคนนี้ แต่จะว่าไปนักดาเวทย์ปกติก็เอาแต่เหมือนกันหมดอยู่แล้วนี่ เธอเรื่อยคิดเรื่องไร้สาระระหว่างที่รอบุคคลที่ควรแก่การจะปรากฏตัวได้แล้ว
ยังไม่มางั้นเหรอ? เซวีคิดแล้วก็นั่นหยิบๆวางๆของบนโต๊ะเครื่องแป้งต่อย่างสนอกสนใจ ซึ่งน่าแปลกที่ไม่มีเครื่องสำอางอะไรนอกจากผงปีกผีเสื้อวิญญาณ มันเอาไว้ทำให้ร่องรอยจางลงหรือหายไป หรือว่าคิลล์จะมีแผลเป้นบนหน้ากันนะ? อืม... น่าคิดน่าคิด
"ขอโทษทีนะ พอดีว่าวันนี้มันวุ่นวายไปหน่อย"เสียงหวานใสอันแสนราบเรียบเสียงหนึ่งกล่าวขึ้นพร้อมกับร่างเพรียวบางที่กำลังเดินเข้ามาในห้อง... จากทางระเบียง เสื้อโค้ทของเธอหลุดรุ่ย จนเผยให้เห้นเสื้อกล้ามสีขาวที่อยู่ด้านใน ผมลอนยาวคลอเคลียบ่าของเธอดูแตกๆปราบๆไม่เป็นระเบียบเลยเหมือนเพิ่งไปฟัดกับใครมา
"ฮ่าฮ่าฮ่า เจ้าไปกัดกับมังกร(?)มาหรือไง สภาพดูไม่ได้เลย แอ่ก"แจ๊คมองเธอด้วยหน้าเหวอประมาณ3วิแล้วระเบิดเสียงหีัวเราะออกมาทำให้เด้กสาวผู้นั่งอยุ๋ข้างตุ้เสื้อผ้าต้องเดินมาตจับล็อกคอเอาไว้ "แค่กๆ จีเคข้า... หะ...จาย ม่ะออก แอะ"เขาพูดไม่เป็นศัพท์เนื่องจากแรงล็อกของเด็กสาวผู้ถูกฝึมาเป็นอย่างดี
จีเคคลายแขนออกแล้วปรายสายตาคมกริบมองอื่นฝ่าย ซึ่งสิ่งที่เะอได้กลับมากลับเป็นสายตาแง่งอนออดอ้อนแบบเด็กๆ "อย่า-ทำอีก" เธอกลืนคำด่้าหยาบคายลงท้องจนหมดกำชับกับอย่างดุดัน เด็กสาวหันหน้าเข้าหาผนังแล้วเริ่มกรนด่าเป็นภาษาปีศาจ
แน่นอนทุกคนในห้องฟังออกหมดจึงคลี่ยิ้มน้อยๆออกมาด้วยความขบขันเพื่อนสาวซึ่งกำลังด่าผนังอย่างออกรส
"ข้าสงสารผนังจัง"เซวีส่งสายตาเห็นใจไปให้ผนังผู้โชคร้ายซึ่งต้องรับเคราะห์โดนด่าแทนให้บ้าหัวสีแดงนิสัยเสีย ปากพาจน งี่เง่า หยาบคาย แถมนี้
"โอ๊ยจีเค เจ้าเลิกด่าผนังได้แล้ว ข้าสงสารมัน"แจ๊ครีบปรามทันทีอย่างทนไม่ได้ ก็ที่เธอด่าผนังอยู่หนะจริงๆแล้วเธอตั้งใจจะด่าเขามากกว่า นี่แหละหนาพวกบ้าเข้าใจยาก
"ด่าเจ้าแทนดีไหมหละ"จีเคหันไปทำหน้าเย็รนชาใส่เจ้าตัวดี สายตาบ่งบอกชัดว่าเอาจริงและความโกรธสะสมที่ยังไม่ได้ระบายให้สาใจ อย่าให้ข้าด่า ข้าจะด่าให้เจ้าเป็นคนดีเลยคอยดูเถอะเจ้าโจรสลัดขี้เหล้าเมายา บ้าเอ้ย ให้ตายสิ
"เราเข้าเรื่องกันเถอะ"คิลล์พูดพร้อมกับรอยยิ้มที่ริมฝีปากหน้ามองที่ใครเห็นก็เป็นต้องตกหลุมรัก เธอพูดต่อเมื่อเห็นว่าทุกคนหันมา "ข้าอยากจะถามว่าพวกเจ้าอยากกลับไปยังโลกเดิมไหม?" เธอไม่ได้อยากรุ้ไปทำไมหรอกอย่าคิดมาก ที่ถามก็เพราะอย่างรู้เฉยๆ ดูท่าแล้วในกลุ่มเะอไม่มีใครกระตือรือร้นต่อการหนีออกไปจากที่นี่เลย
"แค่นี่?"ทุกคนถามกลับเป็นเสียงเดียวกันอย่างสงสัย ที่เรียกมาเพราะเรื่องแค่นี้?
"ที่จริงก็อยากรู้เหตุผลด้วยอะนะ ก็เห็นเจ้าไม่กระตือรือร้นต่ออะไรเลย"เด็กสาวผู้เป็นคนเปิดประเด็นไหวไหล่แล้วนั่งลงบนเก้าอี้ข้างกาย นั่นสินะ แล้วทำไมเราไม่คิดจะหนีไปไหนเลยหละ... ทำไมกันหนอ เพราะที่นี่ข้าไม่จำเป็นต้องเอาชีวิตใครงั้นหรือ?
"ฮ่าฮ่าฮ่า ข้าเข้าใจแล้วว่าเข้าไม่เข้าใจว่าข้าอยากรู้อะไร แต่ช่างเถอะ ข้าจะบอกให้"แจ๊คหัวเราะร่าเมื่อเห็นท่าทางขบคิดของเด็กสาวซึ่งทำให้ดูไร้เดียงสาจนน่าถีบเพราะก่อนน่านี้ดูนิ่งๆ เงียบๆ ดูรู้ประสาดี แล้วไหงพลิกคาแร็คเตอร์กันได้ขนาดนี้ จะขำดีหรือจะหมั่นไส้ดี ฮ่า
"คำตอบคือไม่ ก่อนหน้านี้ก็ใช่ แต่ว่านะ... จะว่ายังไงดีหละ ข้ารู้สึกหมดห่วงแล้ว ทีแรกข้านึกว่าเรือข้าแตก เพราะตอนนั้นเราอยุ่ที่กลางพายุ แล้วอยุ่ดีๆข้าก็สลบไป ข้าเป็นห่วงลูกเรือข้า แต่ว่าผ.อ.เซเรฟ เขาบอกว่าเรือของข้าแตกแต่เขาทำให้ลูกเรือถูกพัดไปเทียบแผ่นดินใหญ่รับรองว่าไม่ตายและปลอดภัยดี ข้าจึงไม่ดิ้นรนที่จะกลับไป"เขาอธิบายแล้วยักไหล่ อยู่ที่นี่ก็ไม่เห็นจะเลวร้ายอะไร จะกลับไปเรือข้าก็ไม่มีแล้ว ลูกเรือก็คงแยกย้ายกันไปแล้ว ไม่ได้อะไรจริงๆ สู้พจญภัยบนนี้ยังจะดีกว่า
จีเคลุกขึ้นแล้วยืนพิงข้างตู้ เธอเริ่มพูดบ้าง "อืม... ถ้าอยากรู้ก็ไม่ใช่ปัญหาหรอก อย่างที่แจ๊คบอกไม่คิดที่จะไปจากที่นี่ ข้าไม่ห่วงอะไรแล้ว ข้าไม่ต้องเป็นบอดี้การ์ดให้ใครแล้ว แม่ฆ่าก็ปลอดภัยแล้ว ชีวิตที่เหลือจะยังไงก็ได้"
คิลล์พยักหน้ารับแล้วมองไปทางเซวีและซีโร่สลับกันไปมา เธอไม่เข้าใจว่าทำไมพวกเจ้าหญิงเจ้าชาย2คนนี้ถึงได้ไม่คิดจะกลับไปอยู่อย่างสำราญใจในพระราชวังใหญ่โต แล้วโตขึ้นปกครองแผ่นดินตัวเอง
ทั้ง2คนต่างเงียบอยุ่นานสองนาไม่มีใครคิดที่จะปริปากพูดเลย ซีโร่ก็เอาแต่นั่งหลับตาอยู่เฉยๆข้างๆเด็กสาวผมดำเป็นลอน
แต่แล้วในที่สุดเจ้าหญิงอีกคนก้ทนไม่ไหวกับความเงียบนี้
"เซวีพูดก่อนแล้วกันนะ" เธอยกมือขึ้นแล้วลุกยืนตัวตรงทันที "ข้าเกลียดชีวิตในวัง ข้าไม่ชอบที่นั่น พวกเขาเอาแต่ขีดกรอบให้ข้าเป็นหญิงงามผู้อ่อนแอที่ต้องอยุ่กับเย่าเฝ้ากับเรือน ทำอะไรไม่ได้นอกจากเย็บปักถักร้อย พวกเขาทำให้ข้ารุ้สึกไร้ค่าและชีวิตนี้ไม่สามารถแทนคุณใครได้ ดังนั้นต่อให้มันสบายจนถึงขั้นไม่ต้องทำอะไรเลยข้าก็ไม่เอาเด็ดขาด" เด็กสาวพูดอย่างดุดันและใส่อารมณืจนดูเกรงขามเหมือนอัศวินจริงๆที่มีอุดมการณืท่วมท้น เมื่อพูดจบเธอก็ทรุดตัวนั่งลงดัง ตึ้ง บอกให้รู้สึกอารมณืร้อนกรุ่น
เพื่ออุดมการณ์และความฝันสินะ ช่างน่าชื่นชมและบริสุทธิ์ยิ่ง เหมือนเด็กๆเลย... คิลล์มองเจ้าหญิงที่เพิ่งพูดอย่างใส่อารมณ์ด้วยความรู้สึกที่เอ็นดูปนขบขัน นี่เธอคนนี้ไม่เคยฟังประวัติศาสตร์เกี่ยวกับราชินีกู้แผ่นดินเลยหรือไรกันนะ เฮ้อ
เมื่อเห็นว่าเซวีพูดจบแล้วและเริ่มอารมณืเย็นลง เด็กหนุ่มผมเงินจึงลืมตาขึ้นอย่างช้าๆ "อืม... ตัวข้าก็ไม่อะไรมากหรอก ข้าก็ไม่ชอบวังนั่นและมีอีกหลายๆเหตุผลที่ข้าไม่สามารถบอกได้ บอกได้แค่ พวกเขาทนุถนอมข้าเสียจนยิ่งกว่าไข่ในหินเสียอีก ร่วมๆคือข้าเบื่อที่จะถูกปกป้องเอาใจใส่ตลอดเวลามันไม่มีความเป็นส่วนตัวและไม่สนุกเลย" พูดจบเขาก็เบ้ปากอย่างเด็กๆ ช่วยไม่ได้นี่...
"พวกข้าพูดหมดแล้ว เจ้าหละ คิลล์อย่าบอกนะว่าไม่ได้คิดอะไรแค่ขี้เกียจหนี"ซีโร่หันไปมองเด็กสาวอย่างอยากรุ้อยากเห็น เขาหละอยากรู้อย่างแรงกล้าว่าทำไมเธอถึงไม่คิดหนีไปไหน
"บิงโก" คิลล์ตวัดนิ้วชี้เรียวและนิ้วโป้งทำมือเหมือนกำลังเล็งยิงเด็กหนุ่มข้างกาย "ถูกต้อง ข้าไม่มีเหตุผลอะไรเลย อยู่ที่โลกโน้นข้าก็ไม่มีความสุข สู้รอดูว่าอยู่ที่นี่แล้วจะสุขเพียงใดย่อมดีกว่า" เมื่อเธอตอบจบก็ทำเอาหลายคนอย่างจะรุมสหบาทาเธอเหลือเกิน คิดว่าคนถามจะตอบได้ลึกซึ้งขนาดไหน ที่ไหนได้เปล่าเลย ถ้ากระตื้บให้ตายคาที่มากกว่า ถ้าไม่ติดว่าแม่คุณเก่งและดุมากเวลาสู้หละก็
"ช่างเถอะๆ เอาไว้อยู่ที่นี่ไปนานๆแล้วข้าค่อยถามเหตุผลที่พวกคิดจะอยู่ที่นี่ต่อดีกว่า" คิลล์ปัดมือไปมาอย่างหมดความสนใจ ให้ตายเถอะทำไมพวกเจ้าจะต้องมองด้วยสายตาจะกินเลือดกินเนื้อข้างั้นหละ เช๊อะก็คนนั้นไม่รู้จะพูดอะไรนี่หน่า
"อะแฮ่มๆ... อ่าโน นักเรียนที่เคารพทั้งหลาย ข้ามีเรื่องจะประกาศ จากที่ได้ลงมติกันแล้ว ไปๆมากลายๆเป็นว่าให้นักเรียนใหม่ทุกคนเลือกหาสาขาเข้ากันเลยโดยไม่ต้องรอเทอม2 จะปิดการเลือกสาขาในอีก2อาทิตย์ไม่ต้องรงไม่ต้องรีบ ฮ้าว ไปหละ"เสียงประการจบลงภายในห้องก็เงียบกริบไร้เสียงใด
"งั้นเดี๋ยวเราไปสำรวจเกาะนี้กันไหม?" คิลล์เสนอขึ้น
"ก็เข้าท่านะ"แล้วทั้งหมดก็พยักหน้าเห็นพ้องต้องกันว่าจะต้องไปลองเดินสำรวจดูเกาะลอยฟ้าแต่ละเกาะ เพราะไหนๆวันนี้ก็ไม่ต้องทำอะไรอยู่แล้วนี่นะ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.4 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ