Phantom School

8.8

เขียนโดย Wondergirl

วันที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2556 เวลา 18.10 น.

  20 บท
  2 วิจารณ์
  24.27K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 21.03 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

6) เหตุผล ไปหรือไม่?

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

     หลังจากเรื่องวุ่นวายทั้งหมดจบลง  นักเรียนทั้งหมดจึงแยกย้ายกันไปสำรวจเกาะลอยฟ้าเกาัต่างๆด้วยเหตุผลที่แตกต่างกันออกไป  ซึ่งแต่ละเกาะก็มีการกางเขตอาคมและบาเรียเอาไว้อย่างแน่นหนา  ส่วนเหล่าอาจารย์และบุคลากรสำตัญในโรงเรียนนั้นก็ถูกเรียกไปประชุมจนหมด  ทำให้วันนี้เป็นวันพักผ่อนของนักเรีัยนทุกช่วงชั้น

     แต่ดูเหมือนจะมีนักเรียนคนหนึ่งยังไม่ได้พักนะ

     หลังจากเปลี่ยนเสื้อผ้าไปเป็นชุดเครื่องแบบอย่างลวกๆแล้ว  ซีโร่ก็วิ่งหน้าตั้งตามหาสัมผัสของเด็กสาวสุดแสนจะประหลาดจับใจคนหนึ่ง  คราวนี้ยิ่งหาก็ยิ่งทำให้เขารู้สึกสังหรณืใจไม่ดีเพราะสัมผัสมันเลือนลางเหลือเกิน  เหมือนทุกอย่างหลุดลอยไปในอากาศจนหมดสิ้น

     "มีคนติดต่อมา  มีคนติดต่อมา"เสียงเล็กๆของเด็กผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้น  เขามองซ้ายมองขวาแล้วจึงตัดสินใจล้วงสมุดพกนักเรียนออกมา  มันใช้อย่างนี้ได้ด้วยเหลือ

     สมุดพกลอยขึ้นอยู่ในระดับสายตาตรงหน้าเขาแล้วคลี่กางออก  ตัวหนังสือชุดหนึ่งปรากฏขึ้น  มันเขียนว่า 'กรุณาถ่ายพลังเวทย์เพื่อเป็นการยืนยันตัวตน' แล้วมันก็ตกลงบนฝ่ามือของเด็กหนุ่มอีกครั้ง

     ซีโร่ถ่ายพลังเวทย์อ่อนๆลงในสมุดพก  ทำให้ตัวหนังสือชุดเดิมเลือนหายไปและปรากฏตัวหนังสือชุดใหม่ขึ้น

     'สวัสดีตอนเช้านะ  ไม่ต้องตามหาแล้วกลับมาที่ห้องพักของข้าที่หอเถอะ  ทุกคนก็อยู่ด้วย  พอเจ้าไปถึงแล้วเดี๋ยวก็เ้จอข้าเอง  ป.ล.จากคนที่คุณกำลังคิดถึง'

     เมื่ออ่านข้อความจบเขาก็เก็บมันเข้ากระเป๋าเสื้อโค้ททันที  ซีโร่หันหน้าวิ่งกลับหอทางเหนือโดยใช้เวทย์น้ำแข็งเสริมเข้าไปด้วยทำให้เขาสามารถเคลื่อนไหวได้ลื่นไหวและเร็วขึ้น...  และระหว่างทางในขณะที่เขากำลังวิ่ง(น่าจะสเก็ตมากกว่า)อยู่นั้นก็มีสาวมากหน้าหลายตาหยุดเดินแล้วมองเขาด้วยสายตาที่เขาให้นิยามว่า 'น่าขนลุกที่สุด' เพราะพวกเธอบางคนที่ไม่เก็บอาการกำลังวจะวิ่งออกมาปล้ำเขาอยู่นั่น  

     ให้ตายสิทำไมพอเป็นเวลากลางวันแล้วมันวุ่นวายจัง...  สยองกว่าเมื่อคืนเยอะเลย  ซีโร่ยิ้มแหยงๆแล้วเร่งสปีดไปยังหอพักเร็วขึ้น  ด้วยเกรงว่าถ้าชะลอช้าหน่อยคงจะโดนลากเข้าป่าหรืออพุ่มไม้แถวๆนี้

     

     ภายในห้องพักหมายเลข413ของหออัศวิน

     เด็กหนุ่มสาว3ซึ่งเป็นเพื่อนเจ้าของห้องกำลังนั่งๆนอนอยู่  เพราะห้องนี้กว้างกว่าปกติจึงทำให้พวกเขาอยู่ได้โดยไม่เบียดกันจนหายใจไม่ออก

     ก๊อก  ก๊ิอก  เสียงเคาะประตูดังขึ้น  เด็กหนุ่มผมสีแดงเข้มดั่งสีของเลือดเดินไปเปิดประตูออกโดยหวังว่าผู้มาเยือนนั้นจะเป็นเจ้าของห้อง  แต่ก็ไม่เพราะเขาคือเพื่อนร่วมสถานอีกคนหนึ่งต่างหากหละ 

     "เฮ้อ  นึกว่าใคร  เจ้าก็ถูกเรียกมาเหมือนกัน?"จีเคถอนหายใจแล้วเดินไปนั่งกอดเข่าที่ข้างตู้เสื้อผ้าอย่างเซ็งๆ  ไหนบอกว่าพอทุกคนมาแล้วจะออกมาไง?  เจ้าทำให้ข้ารุ้สึกไม่ไว้ใจอีแล้วนะ  ให้ตายเถอะยัยคนนี้  แต่จะว่าไปนักดาเวทย์ปกติก็เอาแต่เหมือนกันหมดอยู่แล้วนี่  เธอเรื่อยคิดเรื่องไร้สาระระหว่างที่รอบุคคลที่ควรแก่การจะปรากฏตัวได้แล้ว

    ยังไม่มางั้นเหรอ?  เซวีคิดแล้วก็นั่นหยิบๆวางๆของบนโต๊ะเครื่องแป้งต่อย่างสนอกสนใจ  ซึ่งน่าแปลกที่ไม่มีเครื่องสำอางอะไรนอกจากผงปีกผีเสื้อวิญญาณ  มันเอาไว้ทำให้ร่องรอยจางลงหรือหายไป  หรือว่าคิลล์จะมีแผลเป้นบนหน้ากันนะ?  อืม...  น่าคิดน่าคิด

    "ขอโทษทีนะ  พอดีว่าวันนี้มันวุ่นวายไปหน่อย"เสียงหวานใสอันแสนราบเรียบเสียงหนึ่งกล่าวขึ้นพร้อมกับร่างเพรียวบางที่กำลังเดินเข้ามาในห้อง...  จากทางระเบียง  เสื้อโค้ทของเธอหลุดรุ่ย  จนเผยให้เห้นเสื้อกล้ามสีขาวที่อยู่ด้านใน  ผมลอนยาวคลอเคลียบ่าของเธอดูแตกๆปราบๆไม่เป็นระเบียบเลยเหมือนเพิ่งไปฟัดกับใครมา  

     "ฮ่าฮ่าฮ่า  เจ้าไปกัดกับมังกร(?)มาหรือไง  สภาพดูไม่ได้เลย  แอ่ก"แจ๊คมองเธอด้วยหน้าเหวอประมาณ3วิแล้วระเบิดเสียงหีัวเราะออกมาทำให้เด้กสาวผู้นั่งอยุ๋ข้างตุ้เสื้อผ้าต้องเดินมาตจับล็อกคอเอาไว้ "แค่กๆ  จีเคข้า... หะ...จาย  ม่ะออก  แอะ"เขาพูดไม่เป็นศัพท์เนื่องจากแรงล็อกของเด็กสาวผู้ถูกฝึมาเป็นอย่างดี

    จีเคคลายแขนออกแล้วปรายสายตาคมกริบมองอื่นฝ่าย  ซึ่งสิ่งที่เะอได้กลับมากลับเป็นสายตาแง่งอนออดอ้อนแบบเด็กๆ "อย่า-ทำอีก" เธอกลืนคำด่้าหยาบคายลงท้องจนหมดกำชับกับอย่างดุดัน  เด็กสาวหันหน้าเข้าหาผนังแล้วเริ่มกรนด่าเป็นภาษาปีศาจ  

     แน่นอนทุกคนในห้องฟังออกหมดจึงคลี่ยิ้มน้อยๆออกมาด้วยความขบขันเพื่อนสาวซึ่งกำลังด่าผนังอย่างออกรส

     "ข้าสงสารผนังจัง"เซวีส่งสายตาเห็นใจไปให้ผนังผู้โชคร้ายซึ่งต้องรับเคราะห์โดนด่าแทนให้บ้าหัวสีแดงนิสัยเสีย  ปากพาจน  งี่เง่า  หยาบคาย  แถมนี้

     "โอ๊ยจีเค  เจ้าเลิกด่าผนังได้แล้ว  ข้าสงสารมัน"แจ๊ครีบปรามทันทีอย่างทนไม่ได้  ก็ที่เธอด่าผนังอยู่หนะจริงๆแล้วเธอตั้งใจจะด่าเขามากกว่า  นี่แหละหนาพวกบ้าเข้าใจยาก

     "ด่าเจ้าแทนดีไหมหละ"จีเคหันไปทำหน้าเย็รนชาใส่เจ้าตัวดี  สายตาบ่งบอกชัดว่าเอาจริงและความโกรธสะสมที่ยังไม่ได้ระบายให้สาใจ  อย่าให้ข้าด่า  ข้าจะด่าให้เจ้าเป็นคนดีเลยคอยดูเถอะเจ้าโจรสลัดขี้เหล้าเมายา  บ้าเอ้ย  ให้ตายสิ

     "เราเข้าเรื่องกันเถอะ"คิลล์พูดพร้อมกับรอยยิ้มที่ริมฝีปากหน้ามองที่ใครเห็นก็เป็นต้องตกหลุมรัก  เธอพูดต่อเมื่อเห็นว่าทุกคนหันมา "ข้าอยากจะถามว่าพวกเจ้าอยากกลับไปยังโลกเดิมไหม?" เธอไม่ได้อยากรุ้ไปทำไมหรอกอย่าคิดมาก  ที่ถามก็เพราะอย่างรู้เฉยๆ  ดูท่าแล้วในกลุ่มเะอไม่มีใครกระตือรือร้นต่อการหนีออกไปจากที่นี่เลย

     "แค่นี่?"ทุกคนถามกลับเป็นเสียงเดียวกันอย่างสงสัย  ที่เรียกมาเพราะเรื่องแค่นี้?

     "ที่จริงก็อยากรู้เหตุผลด้วยอะนะ  ก็เห็นเจ้าไม่กระตือรือร้นต่ออะไรเลย"เด็กสาวผู้เป็นคนเปิดประเด็นไหวไหล่แล้วนั่งลงบนเก้าอี้ข้างกาย  นั่นสินะ  แล้วทำไมเราไม่คิดจะหนีไปไหนเลยหละ...  ทำไมกันหนอ  เพราะที่นี่ข้าไม่จำเป็นต้องเอาชีวิตใครงั้นหรือ?

     "ฮ่าฮ่าฮ่า  ข้าเข้าใจแล้วว่าเข้าไม่เข้าใจว่าข้าอยากรู้อะไร  แต่ช่างเถอะ  ข้าจะบอกให้"แจ๊คหัวเราะร่าเมื่อเห็นท่าทางขบคิดของเด็กสาวซึ่งทำให้ดูไร้เดียงสาจนน่าถีบเพราะก่อนน่านี้ดูนิ่งๆ  เงียบๆ  ดูรู้ประสาดี  แล้วไหงพลิกคาแร็คเตอร์กันได้ขนาดนี้  จะขำดีหรือจะหมั่นไส้ดี ฮ่า

     "คำตอบคือไม่  ก่อนหน้านี้ก็ใช่  แต่ว่านะ...  จะว่ายังไงดีหละ  ข้ารู้สึกหมดห่วงแล้ว  ทีแรกข้านึกว่าเรือข้าแตก  เพราะตอนนั้นเราอยุ่ที่กลางพายุ  แล้วอยุ่ดีๆข้าก็สลบไป  ข้าเป็นห่วงลูกเรือข้า  แต่ว่าผ.อ.เซเรฟ เขาบอกว่าเรือของข้าแตกแต่เขาทำให้ลูกเรือถูกพัดไปเทียบแผ่นดินใหญ่รับรองว่าไม่ตายและปลอดภัยดี  ข้าจึงไม่ดิ้นรนที่จะกลับไป"เขาอธิบายแล้วยักไหล่  อยู่ที่นี่ก็ไม่เห็นจะเลวร้ายอะไร  จะกลับไปเรือข้าก็ไม่มีแล้ว  ลูกเรือก็คงแยกย้ายกันไปแล้ว  ไม่ได้อะไรจริงๆ  สู้พจญภัยบนนี้ยังจะดีกว่า

     จีเคลุกขึ้นแล้วยืนพิงข้างตู้  เธอเริ่มพูดบ้าง "อืม...  ถ้าอยากรู้ก็ไม่ใช่ปัญหาหรอก  อย่างที่แจ๊คบอกไม่คิดที่จะไปจากที่นี่  ข้าไม่ห่วงอะไรแล้ว  ข้าไม่ต้องเป็นบอดี้การ์ดให้ใครแล้ว  แม่ฆ่าก็ปลอดภัยแล้ว  ชีวิตที่เหลือจะยังไงก็ได้"

     คิลล์พยักหน้ารับแล้วมองไปทางเซวีและซีโร่สลับกันไปมา  เธอไม่เข้าใจว่าทำไมพวกเจ้าหญิงเจ้าชาย2คนนี้ถึงได้ไม่คิดจะกลับไปอยู่อย่างสำราญใจในพระราชวังใหญ่โต  แล้วโตขึ้นปกครองแผ่นดินตัวเอง  

     ทั้ง2คนต่างเงียบอยุ่นานสองนาไม่มีใครคิดที่จะปริปากพูดเลย  ซีโร่ก็เอาแต่นั่งหลับตาอยู่เฉยๆข้างๆเด็กสาวผมดำเป็นลอน  

     แต่แล้วในที่สุดเจ้าหญิงอีกคนก้ทนไม่ไหวกับความเงียบนี้

     "เซวีพูดก่อนแล้วกันนะ" เธอยกมือขึ้นแล้วลุกยืนตัวตรงทันที "ข้าเกลียดชีวิตในวัง  ข้าไม่ชอบที่นั่น  พวกเขาเอาแต่ขีดกรอบให้ข้าเป็นหญิงงามผู้อ่อนแอที่ต้องอยุ่กับเย่าเฝ้ากับเรือน  ทำอะไรไม่ได้นอกจากเย็บปักถักร้อย  พวกเขาทำให้ข้ารุ้สึกไร้ค่าและชีวิตนี้ไม่สามารถแทนคุณใครได้  ดังนั้นต่อให้มันสบายจนถึงขั้นไม่ต้องทำอะไรเลยข้าก็ไม่เอาเด็ดขาด" เด็กสาวพูดอย่างดุดันและใส่อารมณืจนดูเกรงขามเหมือนอัศวินจริงๆที่มีอุดมการณืท่วมท้น  เมื่อพูดจบเธอก็ทรุดตัวนั่งลงดัง  ตึ้ง  บอกให้รู้สึกอารมณืร้อนกรุ่น

     เพื่ออุดมการณ์และความฝันสินะ  ช่างน่าชื่นชมและบริสุทธิ์ยิ่ง  เหมือนเด็กๆเลย...  คิลล์มองเจ้าหญิงที่เพิ่งพูดอย่างใส่อารมณ์ด้วยความรู้สึกที่เอ็นดูปนขบขัน  นี่เธอคนนี้ไม่เคยฟังประวัติศาสตร์เกี่ยวกับราชินีกู้แผ่นดินเลยหรือไรกันนะ  เฮ้อ  

     เมื่อเห็นว่าเซวีพูดจบแล้วและเริ่มอารมณืเย็นลง  เด็กหนุ่มผมเงินจึงลืมตาขึ้นอย่างช้าๆ "อืม...  ตัวข้าก็ไม่อะไรมากหรอก  ข้าก็ไม่ชอบวังนั่นและมีอีกหลายๆเหตุผลที่ข้าไม่สามารถบอกได้  บอกได้แค่  พวกเขาทนุถนอมข้าเสียจนยิ่งกว่าไข่ในหินเสียอีก  ร่วมๆคือข้าเบื่อที่จะถูกปกป้องเอาใจใส่ตลอดเวลามันไม่มีความเป็นส่วนตัวและไม่สนุกเลย" พูดจบเขาก็เบ้ปากอย่างเด็กๆ  ช่วยไม่ได้นี่...

     "พวกข้าพูดหมดแล้ว  เจ้าหละ  คิลล์อย่าบอกนะว่าไม่ได้คิดอะไรแค่ขี้เกียจหนี"ซีโร่หันไปมองเด็กสาวอย่างอยากรุ้อยากเห็น  เขาหละอยากรู้อย่างแรงกล้าว่าทำไมเธอถึงไม่คิดหนีไปไหน

     "บิงโก" คิลล์ตวัดนิ้วชี้เรียวและนิ้วโป้งทำมือเหมือนกำลังเล็งยิงเด็กหนุ่มข้างกาย "ถูกต้อง  ข้าไม่มีเหตุผลอะไรเลย  อยู่ที่โลกโน้นข้าก็ไม่มีความสุข  สู้รอดูว่าอยู่ที่นี่แล้วจะสุขเพียงใดย่อมดีกว่า" เมื่อเธอตอบจบก็ทำเอาหลายคนอย่างจะรุมสหบาทาเธอเหลือเกิน  คิดว่าคนถามจะตอบได้ลึกซึ้งขนาดไหน  ที่ไหนได้เปล่าเลย  ถ้ากระตื้บให้ตายคาที่มากกว่า  ถ้าไม่ติดว่าแม่คุณเก่งและดุมากเวลาสู้หละก็

     "ช่างเถอะๆ  เอาไว้อยู่ที่นี่ไปนานๆแล้วข้าค่อยถามเหตุผลที่พวกคิดจะอยู่ที่นี่ต่อดีกว่า" คิลล์ปัดมือไปมาอย่างหมดความสนใจ  ให้ตายเถอะทำไมพวกเจ้าจะต้องมองด้วยสายตาจะกินเลือดกินเนื้อข้างั้นหละ  เช๊อะก็คนนั้นไม่รู้จะพูดอะไรนี่หน่า 

     "อะแฮ่มๆ...  อ่าโน  นักเรียนที่เคารพทั้งหลาย  ข้ามีเรื่องจะประกาศ  จากที่ได้ลงมติกันแล้ว  ไปๆมากลายๆเป็นว่าให้นักเรียนใหม่ทุกคนเลือกหาสาขาเข้ากันเลยโดยไม่ต้องรอเทอม2  จะปิดการเลือกสาขาในอีก2อาทิตย์ไม่ต้องรงไม่ต้องรีบ  ฮ้าว  ไปหละ"เสียงประการจบลงภายในห้องก็เงียบกริบไร้เสียงใด

     "งั้นเดี๋ยวเราไปสำรวจเกาะนี้กันไหม?" คิลล์เสนอขึ้น

     "ก็เข้าท่านะ"แล้วทั้งหมดก็พยักหน้าเห็นพ้องต้องกันว่าจะต้องไปลองเดินสำรวจดูเกาะลอยฟ้าแต่ละเกาะ  เพราะไหนๆวันนี้ก็ไม่ต้องทำอะไรอยู่แล้วนี่นะ

 

     

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.4 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา