Phantom School
8.8
เขียนโดย Wondergirl
วันที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2556 เวลา 18.10 น.
20 บท
2 วิจารณ์
23.71K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 21.03 น. โดย เจ้าของนิยาย
4) ภายใต้แสงจันทร์สีเงิน(2)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ ในยามราตรีที่ควรเงียบงัน บนผืนฟ้าปริศนา
ปราสาทหลังใหญ่เปิดไฟจนสว่างโล่งและวุ่นวายอยู่กับการตรัเตรียมสถานที่สำหรับงานเลี้ยงที่กำลังจะเริ่มในอีก30นาทีข้างหน้า และไม่ได้มีเพียงเหล่าสัตว์ประหลาดและคณะครูเท่านั้นที่กำลังยุ่งอยู่ เพราะในหอพักอัศวินดำก็มีเจ้าชายองค์หนึ่งกำลังวุ่นอยู่กับการจัดแจงเสื้อผ้าและรวบรวมความกล้า
และแน่นอนเขานั่งทำใจให้สงบอยู่หลายนาทีในขณะที่ใช้เวลาแต่งตัวเพียงไม่ถึง3นาทีด้วยซ้ำไป แถมเขายังคิดว่าอีกฝ่ายนั้นช่างโหดร้ายที่ไม่ให้เวลาเขาทำใจมากกว่านี้(ให้แค่10นาทีแล้วต้องไปรับที่ห้อง) ถึงแม้จะคิดโทษอีกฝ่ายแต่ก็ช่วยไม่ได้ที่พวกเขาปล่อยให้เวลาล่วงเลยไปเนิ่นนานกับการประลองจึงทำให้เหลือเวลาแค่30นาทีก่อนเริ่มงาน
เขากำลังนั่งอยู่ในห้องพักของตัวเอง เขารู้สึกแปลกใจนิดๆที่หอนี้มีให้นักเรียนนอนห้องเดี่ยวทั้งๆที่หออื่นเข้าให้นอนกันอย่างอัดแน่นอย่างน้อยห้องละ2คน แต่ช่างปะไรแบบนี้ก็ดีแล้ว
ภายในห้องก็ไม่ได้หรูหราอะไร มีเตียงไม้หลังใหญ่กับหีบใส่ของใบใหญ่ที่ปลายเตียง ตู้เสื้อผ้าไม้สีอ่อน ตามขอบตู้จะถูกทาด้วยสีทองเพื่อความหรูหราเล็กๆน้อยๆ โต๊ะโคมไฟสำหรับอ่านหนังสือและห้องน้ำเล้กๆภายในห้อง
เด็กหนุ่มผมเงินสวมชุดเครื่องแบบเต็มยศของหออัศวินดำซึ่งถูกทางรุ่นพี่ไซด์จัดมาให้ มันไม่ค่อยต่างจากชุดนักเรียนเท่าไหร่ เป็นเสื้อโค้ทสีขาวกับกางเกงขาวสีดำ บนอกซ้ายของเขาประดับด้วยเข็มกลัดรูปมังกรสีทองและพู่ไหมสีดำ มันทำให้เขาดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้นและดูเหมือนเจ้าชายมากขึ้น
ซีโร่มองนาฬิกาแล้วก็ถึงกับตกอกตกใจ
อีก1นาทีครึ่ง...
เขาเห็นดังนั้นจึงรีบพุ่งไปเปิดประตูห้องและตัดสินใจจะออกไปให้เร็วที่สุดเพื่อไปรับเด็กสาวที่ห้องที่อยู้ด้านบนห้องเขา แต่แล้วก็ต้องกลับเข้าไปในห้องอีกครั้งเพราะสังหรณ์ใจไม่ดี เขาเปิดหีบแล้วหยิบคทาและดาบไปด้วยโดยให้เวทย์มนต์เก็บคทาเอาไว้ส่วนดาบก็เสียบไว้ที่หลัง... เพราะเขาใช้ดาบใหญ่จะเสียบข้างเอวมันก้คงไม่ไหวอะนะ
เมื่อเสร็จธุระและสบายใจแล้วเขาจึงได้รู้ว่าต้องรีบแล้ว ซีโร่ไม่สามารถวิ่งขึ้นบันไดได้ทันอีกต่อไปเขาจึงต้องปีนระเบียงหน้าต่างเอา ทั้งๆที่ไม่อยากทำเพราะมันเหมือนพวกโรคจิต
เด็กหนุ่มเหวี่ยงตัวขึ้นไปบนระเบียงอย่างช่ำชองแล้วเปิดประตูกระจกเดินเข้าไปในห้อง เด็กสาวผมดำกำลังหันมองเขาอยู่ เด็กหนุ่มรู้สึกเขินอายยิ่งกว่าเก่าเมื่อให้อีกฝ่ายเห็นว่าตนปืนขึ้นมาและประกอบกับใบหน้าหวานสวยของเด็กสาวยิ่งทำให้เขาเขินเข้าไปใหญ่
คิลล์ไม่ได้ใส่ชุดเครื่องแบบอัศวินหรือเครื่องแบบนักเรียน ชุดที่เธอใส่อยู่คือชุดราตรีสีขาวดำเรียบๆ
กระโปรงถูกตัดเย็นด้วยผ้า2ชิ้น ด้านในเป็นผ้าสีขาวสะอาดยาวลงมาถึงเหนือหัวเข่า ด้านนอกเป็นผ้าไหมแก้วโปร่งแสงสีดำ ร่างส่วนบนถูกรัดให้เข้ารูปด้วยชุดรัดตัวสีดำ แขนเสื้อสีขาวยาวบดบังท่อนแขนทั้งหมดเอาไว้ใต้ผืนแพรไหมอ่อนนุ่มแต่กลับเผยให้เห็นไหล่กลมหม่นอย่างชัดเจน
บนลำคอยาวระหงมีสร้อยเชือกสีดำห้อยด้วยจี้รูปมังกรสีเงิน
ถึงแม้เธอจะไม่ได้สวมเครื่องประดับอะไรมากมาย ไม่ได้แต่งแต้มสีสันใดลงบนใบหน้า แต่เธอก็ยังคงดูงดงามและน่ารัก
"ข้าเพิ่งจะรู้นะนี่ว่าผู้ชายก้แต่งหน้า"เธอแกล้งหยอกเด็กหนุ่มด้วยใบหน้าที่เรียบเฉย ซึ่งมันทำให้เธอดูเหมืนกำลังคิดเป้นจริงเป็นจังทั้งๆที่เธอรู้สึกขบขันกับท่าทางหน้าแดงของเพื่อนชายคนนี้
เมื่อซีโร่ได้ยินคำพูดของเด็กสาวเขาก็ยิ่งหน้าแดงเข้าไปใหญ่ หนะ...หน้าข้าแดงขนาดนั้นเลยเหรอ เขาสะบัดหน้าหนีไปทางอื่นเพื่อไม่ให้อีกฝ่ายเห็นพรางคิดหาข้อแก้ตัว จะบอกว่าอย่างไรดี? บอกไปว่าร้อนจะดีไหม?
"ข้าล้อเจ้าเล่นหรอก" เธอพูดแล้วเดินไปจับมือของเด็กหนุ่มร่างสูง ซึ่งนั่นทำให้อีกฝ่ายสะดุ้งเฮือกและคิดไปไกลอีกนิดจนถึงขั้นเหม่อลอย "ไปได้แล้วน่า" คิลล์ลากซีโร่เดินออกจากห้องไป และแถบจะบอกได้เลยว่าเธอลากเขาไปจนกระทั่งถึงสถานที่จัดงาน
สถานที่จัดงานนั้นคือสวนดอกไม้ใหญ่ที่อยู่ภายในตัวปราสาทคล้ายกับสวนที่อยู่ในหออัศวินดำ เพียงแต่สวนดอกไม้ของที่นี่มีน้ำพุและดองไม้ที่จะบานเมื่อได้รับแสงจันทร์มากกว่า แถมพื้นยังถูกปูด้วยหินอ่อนสีครีมและหินโปร่งแสง
มีคนเริ่มมากันเยอะแล้ว แต่ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นพวกรุ่นพี่เสียมากกว่าเพราะเด็กใหม่คนอื่นๆคงคิดหาทางจะออกไปจากที่นี่อยู่ คนปกติคงทำใจอยู่ที่นี่ไม่ได้หรอก ที่จริงแล้วคิลล์ก็ไม่คิดที่จะอยุ่ที่นี่หรอกเพียงแต่ว่าถึงจะกลับไปเธอก็ไม่รู้จะกลับไปที่ไหนเท่านั้น ถึงกลับไปอาชีพของเะอก็ไม่เปลี่ยน การดำเนินชีวิตก็ไม่เปลี่ยน ไม่มีอะไรสนุกๆให้ทำ
"เฮ้ คิลล์ ซีโร่"เสียงโหวกเหวกโวยวายดังขึ้นจากด้านหลัง
ซีโร่หันไปมองและดึงมือคิลล์ให้หยุดเดินรอพวกเขา เขาพบว่าตัวต้นเสียงนั้นยังอยู่ห่างไกลลิบโน่นแถมยังเดินมากับรุ่นพี่หัวทองอีกต่างหาก ท่าทางจะเซวีหรือไม่ก็จีดคคงจะไปขอให้เขามาเป็นคู่เต้นรำด้วย หรือรุ่นพี่ไซด์อาจจะไปขอให้เป็นคู่ควงเข้างาน
พวกเขา4คนใส่ชุดที่ดูหลากสีมากเพราะแต่ละคนใส่ได้ไม่ซ้ำกันเลยทีเดียว ซึ่งก็ไม่ต้องแปลกใจอะไรเพราะที่หอมีห้องเสื้อผ้าอยู่ ที่ซีดร่ใส่ชุดอัศวินของหอก็เพราะว่าเขาไม่ชอบพวกชุดสูทใหญ่ๆหรืออะไรรุงรัง และดูเหมือนว่าแจ๊คก็คงจะเหมือนกันเพราะเขาใส่ชุดโจรสลัดสีแดงที่เข้มกว่าสีผมของตัวเองมา
"คุณคิลล์ดูสวยมากเลยนะค่ะ"เมื่อเดินมาถึงเซวีก็ตรงเข้าไปทำตาเป็นประกายใส่เด็กสาวผมดำทันที เธอสวมชุดราตรียาวสีชมพูอ่อนซึ่งขับให้เธอขาวขึ้น ชายกระโปรงยาวรุ่มร่ามยาวปิดปายเท้า ผมสีน้ำตาลเข้มถูกปล่อยสยายและดัดปลายให้ม้วนนิดๆ ผมแสกข้างติดด้วยกิ๊บคริสตัลรูปมังกรสีฟ้า
"ข้าว่าเจ้าน่ารักและสวยกว่าข้าอีก"คิลล์พูดแล้วยิ้มบางๆให้เด็กสาวตรงหน้า
รุ่นพี่ไซด์ทำหน้าเหลืออดใส่เซวีแล้วเสมองไปทางอื่นทำเหมือนไม่รุ้จักเพราะตอนนี้เริ่มมีคนหันมาสนใจพวกเขาเสียแล้ว เขาสวมชุดเครื่องทรงจ้าชายสีน้ำเงิน ผมสีทองยาวประบ่าถูกหวีแสกข้างเอาไว้และถักปลอยผมเป็นเปียเล็ก
เขาเห็นว่ามีพวกนักเรียนหญิงมามุงทางเขาและพูดเกี่ยวกับทรงผมไหมของเขาว่าอย่างโน้นอย่างนี้ ซึ่งนั้นก็ทำให้เขาหันไปถลึงตาใส่ตัวยุ่งที่ทำให้หัวเขาเป็นแบบนี้
"อะไร? ข้าผิดอะไร"เซวีหันไปถลึงตาตอบแล้วเดินไปยืนใกล้คนจ้องหน้าหาเรื่อง
"ทุกอย่างนั่นแหละไอ้รุ่นน้องตัวแสบ!" ไซด์พูดเสียงดังใส่เธอ
"ฮ่าฮ่าฮ่า ตลกชะมัดเลย ว่าแต่ทำไมนายไม่ใส่ชุดเหมือนไอ้รุ่นพี่นั่นหละ"แจ๊คหัวเราะจนรู้สึกปวดท้อง ที่จริงเขากลั้นหัวเราะไว้ตั้งนานแล้ว เหมื่อยต้องจะตายชัก แต่ทำไงได้หัวเราะไปเจอดาบสับคอหลุดกันพอดี
"ข้าไม่ชอบ" ซีโร่พูดพรางแบะปากอย่างเซ็งๆ "ใส่ยาก" เขาบอกเหตุผลที่ทำเอาแจ๊คลงไปชักดิ้นชักงออยู่บนพื้นเพราะตั้งแต่เขาเป็นโจรสลัดมาเขาไม่เคยเห็นเชื้อพระวงศ์คนไหนบ่นว่าชุดทรงใส่ยากมาก่อน
"คิลล์"เสียงแหบแห้งเสียงหนึ่งเอ่ยขึ้นหลังจากที่เงียบมานานแสนนาน จีเคนั้นสวมชุดทรงอัศวินสีฟ้าเดินดิ้นทอง ลักษณะคล้ายๆกับชุกของซีโร่ เพียงแต่จะดุเข้ารุปมากกว่าเพราะเป็นชุดของผู้หญิง
เจ้าของชื่อเลิกคิ้วแล้วมองเธออย่างสงสัย "อะไร" คิลล์ถามพรางยกมือชึ้นป้องปากหาวด้วยความเบื่อหน่าย
"ขอโทษ" จีเคก้มหน้าลงแล้วพูดอย่างอายๆ "ข้า..."
"เรื่องที่พวกเจ้าทุกคนแอบฟังข้ากับซีโร่หรือเรื่องที่ท้าข้าสู้?"คิลล์หลับตาลงแล้วพูดเสียงดังและไม่ใส่อารมณ์อะไร ซึ่งนั่นทำให้หลายคนสะดุ้งเฮือกกันใหญ่เหลือแค่เด็กสาวผมตรงยาวเท่านั้นที่ไม่สะดุ้งตกใจ "เรื่อง-ไหน?"เธอย้ำด้วยน้ำเสียงที่ดังและชัดเจนอันน่าเกรงขาม ข้าหละไม่ชอบจริงๆที่โดนแอบฟัง
ทุกความอึกทึกรอบตัวหยุดลงและเริ่มเงียบจนวังเวง ผู้คนที่มุงดูรอบๆเริ่มรุ้จักหน้าที่ของตัวเองขึ้นมาทันที พวกนั้นจึงรีบกลับเข้าไปเตรียมงานที่เหลือให้เสร็จหรือไม่ก็พูดคุยซุบซิบกันต่อ
อึมครึมเป็นบ้าเลย ซีโร่ยักไหล่แล้วปล่อยมือจากมือเรียวนุ่มของเด็กสาว เขายกมือ2ข้างที่ระดับหน้าอกเป้นสัญญาณบอกเพื่อนๆผู้กระทำผิดได้รู้ว่าเขาไม่ห้ามเด็ดขาด ตัวใครตัวมัน เพราะเขาก็ไม่ชอบให้ใครแอบฟังเหมือนกันยิ่งเป็นเรื่องเมื่อสักครู่ด้วยแล้ว ก็เรื่องแบบนี้มันต้องการความเป็นส่วนตัว จริงไหม?
"อ่า... ขะ... ข้า ข้า ข้าแค่... อ้อ! เดินผ่านไปเฉยๆ! ข้าไม่ยินอะไรทั้งนั้นเล๊ยยยย"แจ๊คเริ่มบิดไปบิดมาแล้วก็โกหกอย่าง(โคตรจะ)ไม่แนบเนียบ เขาแกล้งทำมึนแล้วเดินไปดึงจีเคเตรียมเข้างาน
"แจ๊ค ถ้ายังจะแถข้าจะขาดกับเจ้า"จีเคไม่แม้แต่จะมองหน้าเขาเธอขืนตัวไม่ให้ไปตามแรงมหาศาลของเด็กหนุ่ม "ทั้ง2เรื่องนั่นแหละ ขอโทษจริงๆ เพราะข้ารู้สึกระแวงไป'มาก'ข้าจึงแอบตามซีโร่ไปห่างเพื่อที่จะแอบฟังพวกเจ้าคุยกัน ขอโทษจริง 'เรา'จะไม่ทำอีก" เธอพูดแลวถลึงตาใส่แจ๊คที่แบะปากใส่เธอ
"ไม่เป็นไร หายกัน" คิลล์พยักหน้าให้จีเคแล้วส่งยิ้มเหี้ยมไปให้แจ๊คและเซวีซึ่งตอนที่เธอมองไปนั้นทั้ง2หลบอยู่หลังคู่ควงของตนเรียบร้อยแล้ว "อย่าทำอีกก็พอแล้ว ไปกันเถอะ" เธอพูดแล้วคล้อยแขนซีโร่เดินเข้างานไป
งานเลี้ยงฉลองเริ่มขึ้น ไวโอลินที่วางอยู่บนเก้าอี้ไม้สีขาวด้านข้างของงานเริ่มบรรเลงได้เองโดยไม่ต้องให้นักดนตรีจับคันสี และเช่นเดียวกันกับเปียโนหลังใหญ่สีดำสนิท
บริเวณรอบน้ำพุมีนักเรียนบาวงคนควงคู่ของตนออกไปเต้นรำหรือไม่ก็ยืนคุยไร้สาระกันตามประสาเพื่อนหรือบางทีอาจจะมีคุ่รักแฝงตัวอยู่ด้วยก็เป็นไปได้ แต่แล้วไม่นานนักพวกเขาก็หยุดการกระทำพูดคุยไร้สาระเนื่องจากมีข่าวลือเรื่องอีเวนท์หลังของงานเลี่ยงแว่วเข้ามาในหู พวกเขาจึงขบคิดกันเรื่องอีเวนท์หลักของปีนี้แทน
แต่ว่าปกติแล้วจะไม่ค่อยมีอีเวนท์นักทั้งนักเรียนเก่าและนักเรียนใหม่จึงตื่นเต้นเหมือนกันหมด... เว้นเสียงแต่พวกหัวรั้นที่คิดแต่จะออกไปจากที่นี่ ซึ่งไม่ยอมออกมาสนุกสนานเหมือนคนอื่นเอาซะบ้าง เฮ้อ ไอ้พวกแบบนี้มันมีได้ทุกงานสินะ
"อีเวนท์?" ไซด์พูดเสียงสูงเป็นเชิงถามเมื่อรุ่นน้องซึ่งเป็นคู่ของเขาเอ่ยถามรายละเอียด "ปกติแล้วไม่ค่อยจะมีหรอก อีกอย่างอีเวนท์หนะส่วนใหญ่แล้วเขาจะจัดกันเป็นหอ ไม่เคยจัดรวมแบบนี้ ข้าก็ไปตรัสรู้ได้ยังไง" เขาตอบแล้วกลับไปให้ความสนใจกับไวน์ในแก้วอีกครั้ง หวังว่าจะเป็นอะไรที่ไม่น่าเบื่อนะ
"สัญชาตญาณความเป็นโจรสลัดของข้าบอกว่ามันเป็นเกมส์ค้นหา!"แจ๊คพูดแล้วก็กระดกเหล้าในขวดจนหมดเกลี้ยงในรวดเดียว "จีเคๆ เจ้าคิดว่ามันเป็นอะไรหละ" เขาหันไปถามเด็กสาวข้างกาซึ่งยืนพิงเสาและหลับตาเหมือนกำลังหลับอยู่
"สัญชาตญาณความเป็นบอดี้การ์ดของข้ามันบอกว่าอะไรก็ตามแต่ที่ไม่ใช่สิ่งที่คนเมาพูด" เธอตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบทั้งๆที่ยังคงหลับตาอยู่ ให้ตายสิถ้าอยากรุ้ว่าเกมส์อีเวนท์คืออะไรก็หันเพลา ๆ ไอ้เรื่องดื่มลงบ้างเถอะตาบ้า
"ข้ายังไม่เมานะ!"แจ๊คเถียงแล้วกระแทกขวดใส่โต๊ะไม้ดัง'ตึ้ง' "แล้วเจ้าหละว่าไงซีโร่"
คนโดนถามยกมือขึ้นกอดอกแล้วเหลือบตามองท้องฟ้าอย่างคุ่นคิด มันคงเป็นอะไรที่พิศดารมากแน่ๆเลยหละ แล้วเขาก็ยักไหล่ให้โดยไม่คิดจะบอกสิ่งที่เขากำลังคิดเพราะอีกฝ่ายน่าจะรุ้อยุ่แล้วหละนะ ว่ามันต้องพิศดาร
"คิลล์หละว่าไง"
"ก็..."
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด เสียงหวีดร้องด้วยความหวาดกลัวดังขึ้นพร้อมกับหญิงสาวผมทองซึ่งตะเกียดตะกายออกมาจากหลังพุ่มไม้ ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความหวาดกลัว ในมือมีไมค์อยู่ ดูท่าเธอจะเป็นคนทำอีเวนท์หรือไม่ก็พิธีกร
"สะสะสะสะสะ... ศพ มีศพอยู่ตรงนี้!"เธอตะโกนด้วยเสียงแหลมปรี๊ดแล้วก็สลบไป มีนักเรียนชาย2-3คนมาหามเธอไปนอนที่เปลญวนด้านหลังงาน
"เอ่อ... พวกเรา..." แจ๊คพูดพรางหันไปมองเพื่อนๆ
"ไปดูกันเถอะไอ้หนู นี่อาจจะเป็นอีเวนท์ที่ว่า"ไซด์ตบไหล่เด็กหนุ่มดังป๊าบแล้วพุ่งเข้าไปดูสภาพศพเป็นคนแรก
"เอ่อ..." แจ๊คยังคงยืนเอ่ออยู่กับที่โดยไม่คิดจะเดินไปดู แต่จีเคและเซวีนั้นเดินไปดูเรียบร้อยแล้ว นอกจากพวกเขายังมีนักเรียนหลายคนเสียด้วยที่เดินไปยืนมุงดูศพ แต่แล้วเมื่อได้เห็นก็มีหลายคนล้มลงกองกับพื้นหรือไม่ก็สลบไป
ถ้าคิดว่าบทนี้จบลงได้เรียบง่ายไป ใช่คุณคิดถูกแต่จุดเริ่มต้มมันอยู่ตรงนี้
จุดเริ่มตรงที่จะเปิดเผยความจริงของโลกและโรงเรียนนี้
ปราสาทหลังใหญ่เปิดไฟจนสว่างโล่งและวุ่นวายอยู่กับการตรัเตรียมสถานที่สำหรับงานเลี้ยงที่กำลังจะเริ่มในอีก30นาทีข้างหน้า และไม่ได้มีเพียงเหล่าสัตว์ประหลาดและคณะครูเท่านั้นที่กำลังยุ่งอยู่ เพราะในหอพักอัศวินดำก็มีเจ้าชายองค์หนึ่งกำลังวุ่นอยู่กับการจัดแจงเสื้อผ้าและรวบรวมความกล้า
และแน่นอนเขานั่งทำใจให้สงบอยู่หลายนาทีในขณะที่ใช้เวลาแต่งตัวเพียงไม่ถึง3นาทีด้วยซ้ำไป แถมเขายังคิดว่าอีกฝ่ายนั้นช่างโหดร้ายที่ไม่ให้เวลาเขาทำใจมากกว่านี้(ให้แค่10นาทีแล้วต้องไปรับที่ห้อง) ถึงแม้จะคิดโทษอีกฝ่ายแต่ก็ช่วยไม่ได้ที่พวกเขาปล่อยให้เวลาล่วงเลยไปเนิ่นนานกับการประลองจึงทำให้เหลือเวลาแค่30นาทีก่อนเริ่มงาน
เขากำลังนั่งอยู่ในห้องพักของตัวเอง เขารู้สึกแปลกใจนิดๆที่หอนี้มีให้นักเรียนนอนห้องเดี่ยวทั้งๆที่หออื่นเข้าให้นอนกันอย่างอัดแน่นอย่างน้อยห้องละ2คน แต่ช่างปะไรแบบนี้ก็ดีแล้ว
ภายในห้องก็ไม่ได้หรูหราอะไร มีเตียงไม้หลังใหญ่กับหีบใส่ของใบใหญ่ที่ปลายเตียง ตู้เสื้อผ้าไม้สีอ่อน ตามขอบตู้จะถูกทาด้วยสีทองเพื่อความหรูหราเล็กๆน้อยๆ โต๊ะโคมไฟสำหรับอ่านหนังสือและห้องน้ำเล้กๆภายในห้อง
เด็กหนุ่มผมเงินสวมชุดเครื่องแบบเต็มยศของหออัศวินดำซึ่งถูกทางรุ่นพี่ไซด์จัดมาให้ มันไม่ค่อยต่างจากชุดนักเรียนเท่าไหร่ เป็นเสื้อโค้ทสีขาวกับกางเกงขาวสีดำ บนอกซ้ายของเขาประดับด้วยเข็มกลัดรูปมังกรสีทองและพู่ไหมสีดำ มันทำให้เขาดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้นและดูเหมือนเจ้าชายมากขึ้น
ซีโร่มองนาฬิกาแล้วก็ถึงกับตกอกตกใจ
อีก1นาทีครึ่ง...
เขาเห็นดังนั้นจึงรีบพุ่งไปเปิดประตูห้องและตัดสินใจจะออกไปให้เร็วที่สุดเพื่อไปรับเด็กสาวที่ห้องที่อยู้ด้านบนห้องเขา แต่แล้วก็ต้องกลับเข้าไปในห้องอีกครั้งเพราะสังหรณ์ใจไม่ดี เขาเปิดหีบแล้วหยิบคทาและดาบไปด้วยโดยให้เวทย์มนต์เก็บคทาเอาไว้ส่วนดาบก็เสียบไว้ที่หลัง... เพราะเขาใช้ดาบใหญ่จะเสียบข้างเอวมันก้คงไม่ไหวอะนะ
เมื่อเสร็จธุระและสบายใจแล้วเขาจึงได้รู้ว่าต้องรีบแล้ว ซีโร่ไม่สามารถวิ่งขึ้นบันไดได้ทันอีกต่อไปเขาจึงต้องปีนระเบียงหน้าต่างเอา ทั้งๆที่ไม่อยากทำเพราะมันเหมือนพวกโรคจิต
เด็กหนุ่มเหวี่ยงตัวขึ้นไปบนระเบียงอย่างช่ำชองแล้วเปิดประตูกระจกเดินเข้าไปในห้อง เด็กสาวผมดำกำลังหันมองเขาอยู่ เด็กหนุ่มรู้สึกเขินอายยิ่งกว่าเก่าเมื่อให้อีกฝ่ายเห็นว่าตนปืนขึ้นมาและประกอบกับใบหน้าหวานสวยของเด็กสาวยิ่งทำให้เขาเขินเข้าไปใหญ่
คิลล์ไม่ได้ใส่ชุดเครื่องแบบอัศวินหรือเครื่องแบบนักเรียน ชุดที่เธอใส่อยู่คือชุดราตรีสีขาวดำเรียบๆ
กระโปรงถูกตัดเย็นด้วยผ้า2ชิ้น ด้านในเป็นผ้าสีขาวสะอาดยาวลงมาถึงเหนือหัวเข่า ด้านนอกเป็นผ้าไหมแก้วโปร่งแสงสีดำ ร่างส่วนบนถูกรัดให้เข้ารูปด้วยชุดรัดตัวสีดำ แขนเสื้อสีขาวยาวบดบังท่อนแขนทั้งหมดเอาไว้ใต้ผืนแพรไหมอ่อนนุ่มแต่กลับเผยให้เห็นไหล่กลมหม่นอย่างชัดเจน
บนลำคอยาวระหงมีสร้อยเชือกสีดำห้อยด้วยจี้รูปมังกรสีเงิน
ถึงแม้เธอจะไม่ได้สวมเครื่องประดับอะไรมากมาย ไม่ได้แต่งแต้มสีสันใดลงบนใบหน้า แต่เธอก็ยังคงดูงดงามและน่ารัก
"ข้าเพิ่งจะรู้นะนี่ว่าผู้ชายก้แต่งหน้า"เธอแกล้งหยอกเด็กหนุ่มด้วยใบหน้าที่เรียบเฉย ซึ่งมันทำให้เธอดูเหมืนกำลังคิดเป้นจริงเป็นจังทั้งๆที่เธอรู้สึกขบขันกับท่าทางหน้าแดงของเพื่อนชายคนนี้
เมื่อซีโร่ได้ยินคำพูดของเด็กสาวเขาก็ยิ่งหน้าแดงเข้าไปใหญ่ หนะ...หน้าข้าแดงขนาดนั้นเลยเหรอ เขาสะบัดหน้าหนีไปทางอื่นเพื่อไม่ให้อีกฝ่ายเห็นพรางคิดหาข้อแก้ตัว จะบอกว่าอย่างไรดี? บอกไปว่าร้อนจะดีไหม?
"ข้าล้อเจ้าเล่นหรอก" เธอพูดแล้วเดินไปจับมือของเด็กหนุ่มร่างสูง ซึ่งนั่นทำให้อีกฝ่ายสะดุ้งเฮือกและคิดไปไกลอีกนิดจนถึงขั้นเหม่อลอย "ไปได้แล้วน่า" คิลล์ลากซีโร่เดินออกจากห้องไป และแถบจะบอกได้เลยว่าเธอลากเขาไปจนกระทั่งถึงสถานที่จัดงาน
สถานที่จัดงานนั้นคือสวนดอกไม้ใหญ่ที่อยู่ภายในตัวปราสาทคล้ายกับสวนที่อยู่ในหออัศวินดำ เพียงแต่สวนดอกไม้ของที่นี่มีน้ำพุและดองไม้ที่จะบานเมื่อได้รับแสงจันทร์มากกว่า แถมพื้นยังถูกปูด้วยหินอ่อนสีครีมและหินโปร่งแสง
มีคนเริ่มมากันเยอะแล้ว แต่ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นพวกรุ่นพี่เสียมากกว่าเพราะเด็กใหม่คนอื่นๆคงคิดหาทางจะออกไปจากที่นี่อยู่ คนปกติคงทำใจอยู่ที่นี่ไม่ได้หรอก ที่จริงแล้วคิลล์ก็ไม่คิดที่จะอยุ่ที่นี่หรอกเพียงแต่ว่าถึงจะกลับไปเธอก็ไม่รู้จะกลับไปที่ไหนเท่านั้น ถึงกลับไปอาชีพของเะอก็ไม่เปลี่ยน การดำเนินชีวิตก็ไม่เปลี่ยน ไม่มีอะไรสนุกๆให้ทำ
"เฮ้ คิลล์ ซีโร่"เสียงโหวกเหวกโวยวายดังขึ้นจากด้านหลัง
ซีโร่หันไปมองและดึงมือคิลล์ให้หยุดเดินรอพวกเขา เขาพบว่าตัวต้นเสียงนั้นยังอยู่ห่างไกลลิบโน่นแถมยังเดินมากับรุ่นพี่หัวทองอีกต่างหาก ท่าทางจะเซวีหรือไม่ก็จีดคคงจะไปขอให้เขามาเป็นคู่เต้นรำด้วย หรือรุ่นพี่ไซด์อาจจะไปขอให้เป็นคู่ควงเข้างาน
พวกเขา4คนใส่ชุดที่ดูหลากสีมากเพราะแต่ละคนใส่ได้ไม่ซ้ำกันเลยทีเดียว ซึ่งก็ไม่ต้องแปลกใจอะไรเพราะที่หอมีห้องเสื้อผ้าอยู่ ที่ซีดร่ใส่ชุดอัศวินของหอก็เพราะว่าเขาไม่ชอบพวกชุดสูทใหญ่ๆหรืออะไรรุงรัง และดูเหมือนว่าแจ๊คก็คงจะเหมือนกันเพราะเขาใส่ชุดโจรสลัดสีแดงที่เข้มกว่าสีผมของตัวเองมา
"คุณคิลล์ดูสวยมากเลยนะค่ะ"เมื่อเดินมาถึงเซวีก็ตรงเข้าไปทำตาเป็นประกายใส่เด็กสาวผมดำทันที เธอสวมชุดราตรียาวสีชมพูอ่อนซึ่งขับให้เธอขาวขึ้น ชายกระโปรงยาวรุ่มร่ามยาวปิดปายเท้า ผมสีน้ำตาลเข้มถูกปล่อยสยายและดัดปลายให้ม้วนนิดๆ ผมแสกข้างติดด้วยกิ๊บคริสตัลรูปมังกรสีฟ้า
"ข้าว่าเจ้าน่ารักและสวยกว่าข้าอีก"คิลล์พูดแล้วยิ้มบางๆให้เด็กสาวตรงหน้า
รุ่นพี่ไซด์ทำหน้าเหลืออดใส่เซวีแล้วเสมองไปทางอื่นทำเหมือนไม่รุ้จักเพราะตอนนี้เริ่มมีคนหันมาสนใจพวกเขาเสียแล้ว เขาสวมชุดเครื่องทรงจ้าชายสีน้ำเงิน ผมสีทองยาวประบ่าถูกหวีแสกข้างเอาไว้และถักปลอยผมเป็นเปียเล็ก
เขาเห็นว่ามีพวกนักเรียนหญิงมามุงทางเขาและพูดเกี่ยวกับทรงผมไหมของเขาว่าอย่างโน้นอย่างนี้ ซึ่งนั้นก็ทำให้เขาหันไปถลึงตาใส่ตัวยุ่งที่ทำให้หัวเขาเป็นแบบนี้
"อะไร? ข้าผิดอะไร"เซวีหันไปถลึงตาตอบแล้วเดินไปยืนใกล้คนจ้องหน้าหาเรื่อง
"ทุกอย่างนั่นแหละไอ้รุ่นน้องตัวแสบ!" ไซด์พูดเสียงดังใส่เธอ
"ฮ่าฮ่าฮ่า ตลกชะมัดเลย ว่าแต่ทำไมนายไม่ใส่ชุดเหมือนไอ้รุ่นพี่นั่นหละ"แจ๊คหัวเราะจนรู้สึกปวดท้อง ที่จริงเขากลั้นหัวเราะไว้ตั้งนานแล้ว เหมื่อยต้องจะตายชัก แต่ทำไงได้หัวเราะไปเจอดาบสับคอหลุดกันพอดี
"ข้าไม่ชอบ" ซีโร่พูดพรางแบะปากอย่างเซ็งๆ "ใส่ยาก" เขาบอกเหตุผลที่ทำเอาแจ๊คลงไปชักดิ้นชักงออยู่บนพื้นเพราะตั้งแต่เขาเป็นโจรสลัดมาเขาไม่เคยเห็นเชื้อพระวงศ์คนไหนบ่นว่าชุดทรงใส่ยากมาก่อน
"คิลล์"เสียงแหบแห้งเสียงหนึ่งเอ่ยขึ้นหลังจากที่เงียบมานานแสนนาน จีเคนั้นสวมชุดทรงอัศวินสีฟ้าเดินดิ้นทอง ลักษณะคล้ายๆกับชุกของซีโร่ เพียงแต่จะดุเข้ารุปมากกว่าเพราะเป็นชุดของผู้หญิง
เจ้าของชื่อเลิกคิ้วแล้วมองเธออย่างสงสัย "อะไร" คิลล์ถามพรางยกมือชึ้นป้องปากหาวด้วยความเบื่อหน่าย
"ขอโทษ" จีเคก้มหน้าลงแล้วพูดอย่างอายๆ "ข้า..."
"เรื่องที่พวกเจ้าทุกคนแอบฟังข้ากับซีโร่หรือเรื่องที่ท้าข้าสู้?"คิลล์หลับตาลงแล้วพูดเสียงดังและไม่ใส่อารมณ์อะไร ซึ่งนั่นทำให้หลายคนสะดุ้งเฮือกกันใหญ่เหลือแค่เด็กสาวผมตรงยาวเท่านั้นที่ไม่สะดุ้งตกใจ "เรื่อง-ไหน?"เธอย้ำด้วยน้ำเสียงที่ดังและชัดเจนอันน่าเกรงขาม ข้าหละไม่ชอบจริงๆที่โดนแอบฟัง
ทุกความอึกทึกรอบตัวหยุดลงและเริ่มเงียบจนวังเวง ผู้คนที่มุงดูรอบๆเริ่มรุ้จักหน้าที่ของตัวเองขึ้นมาทันที พวกนั้นจึงรีบกลับเข้าไปเตรียมงานที่เหลือให้เสร็จหรือไม่ก็พูดคุยซุบซิบกันต่อ
อึมครึมเป็นบ้าเลย ซีโร่ยักไหล่แล้วปล่อยมือจากมือเรียวนุ่มของเด็กสาว เขายกมือ2ข้างที่ระดับหน้าอกเป้นสัญญาณบอกเพื่อนๆผู้กระทำผิดได้รู้ว่าเขาไม่ห้ามเด็ดขาด ตัวใครตัวมัน เพราะเขาก็ไม่ชอบให้ใครแอบฟังเหมือนกันยิ่งเป็นเรื่องเมื่อสักครู่ด้วยแล้ว ก็เรื่องแบบนี้มันต้องการความเป็นส่วนตัว จริงไหม?
"อ่า... ขะ... ข้า ข้า ข้าแค่... อ้อ! เดินผ่านไปเฉยๆ! ข้าไม่ยินอะไรทั้งนั้นเล๊ยยยย"แจ๊คเริ่มบิดไปบิดมาแล้วก็โกหกอย่าง(โคตรจะ)ไม่แนบเนียบ เขาแกล้งทำมึนแล้วเดินไปดึงจีเคเตรียมเข้างาน
"แจ๊ค ถ้ายังจะแถข้าจะขาดกับเจ้า"จีเคไม่แม้แต่จะมองหน้าเขาเธอขืนตัวไม่ให้ไปตามแรงมหาศาลของเด็กหนุ่ม "ทั้ง2เรื่องนั่นแหละ ขอโทษจริงๆ เพราะข้ารู้สึกระแวงไป'มาก'ข้าจึงแอบตามซีโร่ไปห่างเพื่อที่จะแอบฟังพวกเจ้าคุยกัน ขอโทษจริง 'เรา'จะไม่ทำอีก" เธอพูดแลวถลึงตาใส่แจ๊คที่แบะปากใส่เธอ
"ไม่เป็นไร หายกัน" คิลล์พยักหน้าให้จีเคแล้วส่งยิ้มเหี้ยมไปให้แจ๊คและเซวีซึ่งตอนที่เธอมองไปนั้นทั้ง2หลบอยู่หลังคู่ควงของตนเรียบร้อยแล้ว "อย่าทำอีกก็พอแล้ว ไปกันเถอะ" เธอพูดแล้วคล้อยแขนซีโร่เดินเข้างานไป
งานเลี้ยงฉลองเริ่มขึ้น ไวโอลินที่วางอยู่บนเก้าอี้ไม้สีขาวด้านข้างของงานเริ่มบรรเลงได้เองโดยไม่ต้องให้นักดนตรีจับคันสี และเช่นเดียวกันกับเปียโนหลังใหญ่สีดำสนิท
บริเวณรอบน้ำพุมีนักเรียนบาวงคนควงคู่ของตนออกไปเต้นรำหรือไม่ก็ยืนคุยไร้สาระกันตามประสาเพื่อนหรือบางทีอาจจะมีคุ่รักแฝงตัวอยู่ด้วยก็เป็นไปได้ แต่แล้วไม่นานนักพวกเขาก็หยุดการกระทำพูดคุยไร้สาระเนื่องจากมีข่าวลือเรื่องอีเวนท์หลังของงานเลี่ยงแว่วเข้ามาในหู พวกเขาจึงขบคิดกันเรื่องอีเวนท์หลักของปีนี้แทน
แต่ว่าปกติแล้วจะไม่ค่อยมีอีเวนท์นักทั้งนักเรียนเก่าและนักเรียนใหม่จึงตื่นเต้นเหมือนกันหมด... เว้นเสียงแต่พวกหัวรั้นที่คิดแต่จะออกไปจากที่นี่ ซึ่งไม่ยอมออกมาสนุกสนานเหมือนคนอื่นเอาซะบ้าง เฮ้อ ไอ้พวกแบบนี้มันมีได้ทุกงานสินะ
"อีเวนท์?" ไซด์พูดเสียงสูงเป็นเชิงถามเมื่อรุ่นน้องซึ่งเป็นคู่ของเขาเอ่ยถามรายละเอียด "ปกติแล้วไม่ค่อยจะมีหรอก อีกอย่างอีเวนท์หนะส่วนใหญ่แล้วเขาจะจัดกันเป็นหอ ไม่เคยจัดรวมแบบนี้ ข้าก็ไปตรัสรู้ได้ยังไง" เขาตอบแล้วกลับไปให้ความสนใจกับไวน์ในแก้วอีกครั้ง หวังว่าจะเป็นอะไรที่ไม่น่าเบื่อนะ
"สัญชาตญาณความเป็นโจรสลัดของข้าบอกว่ามันเป็นเกมส์ค้นหา!"แจ๊คพูดแล้วก็กระดกเหล้าในขวดจนหมดเกลี้ยงในรวดเดียว "จีเคๆ เจ้าคิดว่ามันเป็นอะไรหละ" เขาหันไปถามเด็กสาวข้างกาซึ่งยืนพิงเสาและหลับตาเหมือนกำลังหลับอยู่
"สัญชาตญาณความเป็นบอดี้การ์ดของข้ามันบอกว่าอะไรก็ตามแต่ที่ไม่ใช่สิ่งที่คนเมาพูด" เธอตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบทั้งๆที่ยังคงหลับตาอยู่ ให้ตายสิถ้าอยากรุ้ว่าเกมส์อีเวนท์คืออะไรก็หันเพลา ๆ ไอ้เรื่องดื่มลงบ้างเถอะตาบ้า
"ข้ายังไม่เมานะ!"แจ๊คเถียงแล้วกระแทกขวดใส่โต๊ะไม้ดัง'ตึ้ง' "แล้วเจ้าหละว่าไงซีโร่"
คนโดนถามยกมือขึ้นกอดอกแล้วเหลือบตามองท้องฟ้าอย่างคุ่นคิด มันคงเป็นอะไรที่พิศดารมากแน่ๆเลยหละ แล้วเขาก็ยักไหล่ให้โดยไม่คิดจะบอกสิ่งที่เขากำลังคิดเพราะอีกฝ่ายน่าจะรุ้อยุ่แล้วหละนะ ว่ามันต้องพิศดาร
"คิลล์หละว่าไง"
"ก็..."
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด เสียงหวีดร้องด้วยความหวาดกลัวดังขึ้นพร้อมกับหญิงสาวผมทองซึ่งตะเกียดตะกายออกมาจากหลังพุ่มไม้ ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความหวาดกลัว ในมือมีไมค์อยู่ ดูท่าเธอจะเป็นคนทำอีเวนท์หรือไม่ก็พิธีกร
"สะสะสะสะสะ... ศพ มีศพอยู่ตรงนี้!"เธอตะโกนด้วยเสียงแหลมปรี๊ดแล้วก็สลบไป มีนักเรียนชาย2-3คนมาหามเธอไปนอนที่เปลญวนด้านหลังงาน
"เอ่อ... พวกเรา..." แจ๊คพูดพรางหันไปมองเพื่อนๆ
"ไปดูกันเถอะไอ้หนู นี่อาจจะเป็นอีเวนท์ที่ว่า"ไซด์ตบไหล่เด็กหนุ่มดังป๊าบแล้วพุ่งเข้าไปดูสภาพศพเป็นคนแรก
"เอ่อ..." แจ๊คยังคงยืนเอ่ออยู่กับที่โดยไม่คิดจะเดินไปดู แต่จีเคและเซวีนั้นเดินไปดูเรียบร้อยแล้ว นอกจากพวกเขายังมีนักเรียนหลายคนเสียด้วยที่เดินไปยืนมุงดูศพ แต่แล้วเมื่อได้เห็นก็มีหลายคนล้มลงกองกับพื้นหรือไม่ก็สลบไป
ถ้าคิดว่าบทนี้จบลงได้เรียบง่ายไป ใช่คุณคิดถูกแต่จุดเริ่มต้มมันอยู่ตรงนี้
จุดเริ่มตรงที่จะเปิดเผยความจริงของโลกและโรงเรียนนี้
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.4 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ