Phantom School
เขียนโดย Wondergirl
วันที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2556 เวลา 18.10 น.
แก้ไขเมื่อ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 21.03 น. โดย เจ้าของนิยาย
3) ภายใต้แสงจันทร์สีเงิน(1)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความเด็กสาวผมดำทั้งสองเดินออกไปจากปราสาทและตรงไปสะพานทางเชื่อมระหว่างเกาะลอยฟ้า ซึ่งอีกเกาะที่พวกเธอจะไปนั้นเป็นลานโล่งๆที่ไม่มีขอบกั้น
ตรงหน้าสะพานมีก็อบลินตัวเขียวยืนอยู่ ถึงแม้ว่านี่จะถึงยามราตรีแล้วแต่เขาก็ต้องอยู่เฝ้าที่นี่ แต่ทว่าถึงแม้จะเป้นเวลาหัวค่ำแต่ลานโล่งแจ้งแห่งนี้กลับไม่มืดอย่างที่ควรเป็นในยามกลางคืน แสงจันทร์สีเงินนวลตาให้ความสว่างที่นี่ มันมองเด็กทั้ง5ด้วยความฉงนสงสัย เห็นดังนั้นคิลล์จึงเดินเข้าไปหาและพูดบางอย่างกับเขาด้วยภาษาประหลาดซึ่งคนอื่นๆฟังไม่ออก เขาหัวเราะออกมาเสียงดังแล้วยอมหลีกทางให้เด็กๆเดินไปยังลานโล่งๆของอีกเกาะ
ด้วยความสงสัยซีโร่เดินเข้าไปสะกิดเด็กสาวเพื่อสอบถามสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อสักครู่ "เจ้าพูดอะไรกับเขา"เด็กหนุ่มผมเงินถาม ถึงแม้เขาจะเป้นเจ้าชายและรุ้จักในหลายๆภาษาแต่เขาไม่รุ้จริงๆว่านี่ภาษาอะไรกันแน่ หรือจะเป็นภาษาโบราณ?
"ข้าจะประลอง"คิลล์ตอบสั้นๆตรงคำถาม ซึ่งนั่นก็ยังคงไม่คลายข้อสงสัยของคนอื่นๆ เธอจงใจไม่ใช่ว่าเธอไม่รู้ว่าซีโร่หรือคนอื่นๆอยากรู้อะไร เธอขี้เกียจอธิบายว่าทำไมเธอถึงได้เรียนภาษาประหลาดๆพวกนี้ได้
"เจ้าพูดภาษาอะไรของเจ้า"แจ๊คขมวดคิดถาม เขาเป็นโจรสลัดเขาย่อมรู้จักภาษาของพวกหัวการค้าและเจ้าเลห์อย่างก็อบลินแต่เขาแปลไม่ออกจริงๆว่าเธอพูดอะไรกับก็อบลินตนนั้น
"อย่าได้สน"เธอพูดสั้นๆพรางเดินไปอยู่อีกข้างของสนามประลองและปล่อยให้จีเคยืนปิดทางออกเข้าไว้ เหมือนจะบอกว่า เธอต่อให้อีกฝ่ายหนีได้จนถึงสุดปลายเส้นทาง ถ้าคู่ต่อสู้ของเธอไม่ใช่บอดี้การ์ดแต่เป็นอัศวินอย่างเซวีหละก็ อีกฝ่ายคงเดือดจนวิ่งมากระซวกเธอเป็นแน่แท้
น่าสงสัย... ไม่น่าไว้ใจจริงๆเลย จีเคคิดในใจพรางตวัดดาบฝ่าอากาศเป็นสัญญาณเริ่มการประลอง เธอพุ่งเข้าใส่คิลล์อย่างไม่ลังเลหวังจะทะลวงร่างบางที่หยุดนิ่งอยู่อีกฟากให้ตกฟ้ากันไปข้าง ไม่หลบงั้นหรือ?
คิลล์ย่อตัวลงในขณะที่ระยะห่างของปลายดาบและอกเหลือเพียงไม่ถึงเซ็น เธอเงื้อมือไปด้านหลังแล้วต่อยหนักๆเข้าที่ท้องของจีเคทำให้เธอกระเด็กนถอยหลังไปหลายก้าว ดาบกระเด็นหลุดออกจากมือ พุ่งเข้ามาไม่ยั้งแรงไว้แบบนั้น... ไม่เป็นมืออาชีพเอาซะเลย เธอจุ๊ปากเบาๆแล้วเดินไปคิดจะหยิบดาบของร่างที่นอนหมอบอยู่กับพื้นขึ้นมาหักทิ้งแต่ทว่า...
ดาบนั้นหายไปในพริบตาและปรากฏขึ้นอีกครั้งที่ด้านหลังของเธอพร้อมกับเจ้าของของมันที่กระอักเลือดออกมาคำใหญ่ๆ
"โอ้ สงสัยบอดี้การ์ดจะอึดกว่าที่คิดนิดหน่อย"คิลล์พึมพำเบาๆพร้อมกับหลบคมดาบที่กระหน่ำแทงใส่เธอราวกับห่าฝน อย่างนี้สิถึงจะสนุก ไม่ใช่อะไรที่ไม่มีทางสู้ เธอคิดแล้วกระโดดขึ้นกลางอากาศใช้ไหล่ของจีเคเป้นเบาะส่งตัวไปด้านหลัง
จีเคเสียหลักเล็กน้อยแต่ก็ยังคงสามารถหันกลับไปกระหน่ำแทงใส่คิลล์ต่อได้ ถึงแม้ความเร็วจะตกไปมากแต่ก็ยังคงเร็วใช้ได้
"ฮึ นักดาบเวทย์ที่ไหนกัน ดาบก็ไม่มี เวทย์ก็ไม่ใช้"จีเคคำรามเสียงดังเพื่อทำให้เพื่อนของตัวเองเกิดความลังเลใจและไม่ไว้ใจผู้หญิงคนนี้ เธอดูอันตราย...
"ถ้ายังจะเล่นอยู่ข้าก็ไม่ใช้ให้เจ้าเห็นหรอกนะ จีเค"คิลล์พูดในขณะที่หลบคมดาบด้วยท่าทางสบายๆเช่นเดิม ข้ารู้น่าว่าเจ้าใช้เวทย์ได้ เธอยิ้มมุมปากอย่างนึกสนุกแล้วจับจังหวะที่คมดาบแทงเข้ามาครั้งต่อไป มือเรียวบางปัดดาบหล่นลงพื้นอีกครั้ง เธอตีลังกาหนีออกไปอย่างรวดเร็ว "มีอย่างอื่นนอกจากดาบไหม...?"
"คิลล์ระวัง!"เสียงของซีโร่ตะดกนล่นทำให้เธอต้องหันไปมองทางเขา
ใบมีดลมงั้นเหรอ ก็มีพิษมีภัยเหมือนกันนี่ เธอเอี้ยวตัวหลบด้วยท่าทางพิศดารราวกับไม่มีกระดูก แต่ด้วยความที่ใบมีดลมนั้นไม่สามารถมองเห็นได้เธอจึงโดนมันเฉือนเนื้อจนเลือดออกเล็กน้อย
ดาบสั้น2เล่มปรากฏขึ้นในมือของเด็กสาวผมดำเป็นลอน เธอควงดาบทั้ง2เล่มในมือเป็นวงกลมแล้วเริ่มเป็นฝ่ายรุกบ้าง
เมื่อเห็นเช่นนั้นจีเคจึงร่ายม่านอากาศเอาไว้รอบกาย สายลมพัดเอื่อยๆรอบตัวของเธอนั้นคมกริบจนทำให้ใบไม้และเศษหญ้าที่ร่วงหล่นกลายเป็นเศษเล็กเศษน้อย เหล่าผู้ชมเริ่มกระวนกระวายและกลืนน้ำลายยากขึ้นเริ่มๆ พวกเขาไม่แม้จะกระพริบตา โดยเฉพาะหนึ่งในนั้นที่กำลังคาดเดาเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้น
ดาบสั้น2เล่มฟันผ่าม่านลมได้อย่างง่ายดายโดยที่มันไม่สามารถทิ้งบาดแผลไว้บนร่างของคิลล์ได้เลย เธอฟาดสันดาบเข้าไปที่ท้ายทอยของบอดี้การ์ดสาว ความรู้สึกปวดประสาทแล่นแปลบขึ้นสมอง... เธอถูกไฟฟ้าช็อค? แต่ก็คงไม่สำคัญเพราะไฟฟ้าแค่นี้ไม่ระคายหรอก แถมอีกฝ่ายก็ทรุดกับพื้นไปแล้วด้วย
"เก่งนะแต่ดูออกง่ายไปหน่อย"คิลล์ทรุดเข่าลงข้างหนึ่งแล้วกระซิบข้างหูจีเค เธอรู้ว่าอีกฝ่ายยังไม่หมดสลบเต็มที่ ซึ่งนั้นทำให้บางอย่างที่ถูกเปิดผนึกไม่ยอมสงบลงเสียทีแต่เธอก็ไม่ได้สนใจอะไรมันนัก พอพูดจบก็ลุกขึ้นยืนพร้อมกับพยุงร่างอ่อนปวกเปียกนั้น บางที... การที่หมาป่าสู้กันเองมันก็สนุกกว่าไล่ล่ากระต่ายนะ หึหึหึ
"จีเค...แพ้?"แจ๊คทำสีหน้าไม่อยากเชื่อ เธอเป็นผู้หญิงที่ถึกมากเท่าที่เขาเคยรู้จักเชียวนะ
"จีเค ไม่ได้แพ้"คิลล์ตอบพรางส่งร่างอ่อนยวบในอ้อมแขนให้กับเด็กหนุ่มผมแดง "ถ้านางใช้วิชาได้อย่างนักดาบเวทย์..."เธอกระตุกยิ้มที่มุมปากอย่างนึกสนุก "บางทีคงจะมีหวัง" พูดจบเด็กสาวก็เดินไปหาเพื่อนหนุ่มหัวหงอก... เอ้ย หัวเงิน
"ทำไมถึงสู้เหมือนไม่ตั้งใจอย่างนั้นหละ"ซีโร่ขบฟันกรามแล้วตะคอกใส่เธอเป็นภาษาพ่อมดซึ่งเขาแน่ใจว่ามีเธอกับเขาฟังรู้เรื่องกันแค่2คนเพราะภาษาของพ่อมดนั้นยากมากและมีการพลิกแพลงหลายหลาก เขาหละหัวใจแทบวายทุกทีที่เห็นเธอคล้ายจะพลาดท่า ให้ตายสิอยู่กับเธอคนนี้เขาคงได้ตายด้วยหัวใจแหงๆ
"ผลไม้ที่ยังไม่สุกงอม..."คิลล์พูดตอบเป็นภาษาพ่อมดเช่นกันแต่เบากว่าและเยือกเย็นกว่ามาก "ย่อมฝาดและไม่น่าลิ้มลอง ข้าจะรอจนมันสุกงอมและหอมหวานเสียก่อนจึงจะเด็ดกิน" พูดจบเธอก็เดินผ่านเข้าไปอย่างไร้ซุ่มเสียงและสัมผัสใดๆ
เด็กหนุ่มสาวที่เหลืออีก3คนรู้สึกสั่นสะท้านอย่างบอกไม่ถูก โดยเฉพาะกับเซวีและแจ๊คซึ่งเป็นโจรสลัดและอัศวิน จัดเป็นพวกไวต่อภัยอันตราย พวกเขารู้สึกได้ถึงความบ้าคลั่งและอำมหิตที่ถูกทอดทิ้งไว้ยังที่แห่งนี้
"นางเป็นใครกันแน่..."แจ๊คเอ่ยถามเบาๆ และคนที่เขาถามก็ไม่มีทางพ้นซีโร่ซึ่งเขาเจออยู่คิลล์
"นั่นคือสิ่งที่ 'ข้า' ต้องรู้ให้ได้" ซีโร่พูดทิ้งท้ายไว้แล้วเดินตัวปลิวตามเด็กสาวประหลาดผู้ซึ่งเพิ่งจะจากไปเมื่อสักครู่นี้ ที่เธอพูดหมายความว่ายังไงกัน... จะฆ่า? เขาขบคิดในขณะที่เดินไปยังหอพักของตน โดยหวังว่าจะเจอเด็กสาวและได้ถามไถถึงความรุ้สึกเสียววาบที่เกิดขึ้นกับตน น่าแปลกที่เขาไม่รู้สึกกลัวฆาตกรผู้เป็นที่โจษจันนางนี้เลยแม้แต่น้อย
ณ สวนดอกไม้ในหอพักทางเหนือ ซึ่งเต็มไปด้วยไม้นานาพันธุ์และมีสระน้ำเล็กๆ(แต่ลึก)
แสงจันทร์ค่อยๆส่องลงมายังลานผักผ่อนกลางหอพักทรงกลม มือสังหารผู้คลุ้มคลั่งนั่งมองสุงขึ้นไปยังท้องฟ้าที่ถูกล้อมกรอบวงกลมเอาไว้ ความกระหายการต่อสู้ของเธอค่อยๆลดลงและลดลงจนกลับเป็นปกติ แต่จิตใจลึกๆแล้วกลับยังไม่สงบอย่างที่ควรจะเป็น
เธอรู้สึกไม่สงบเพราะตอนเธอกระซิบบอกจีเคเธอรู้สึกเหมือนจะต้องฆ่าเพื่อปิดบังความลับ รู้สึกกะหายกลิ่นคาวเลือด เธอรู้สึกแย่ที่คิดจะฆ่าเด็สาวที่โตกว่าเธอคนนั้น สัญชาตญาณของเธอเตือนให้รู้ว่าจีเคกำลังสงสัยและคิดจะชักจูงคนอื่นให้สงสัยตาม ทั้งๆที่ถ้าเธอทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นและไม่เกี่ยวข้อง เธอก็จะสามารถหลุดไปได้แล้วแท้ๆ
"หึหึ ให้ตายเถอะ..."คิลล์ยกมือขึ้นบดบังใบหน้าส่วนบนแล้วหัวเราะในลำคอเหมือนกำลังเยาะเย้ยตัวเอง ถ้าข้าฆ่าจีเคไป คนพวกนั้นคงจะหวาดกลัวข้าและซีโร่ก็คงจะเตือนพวกเขาว่าข้าเป็นใคร แล้วทีนี่ข้าก็จะต้องฆ่าพวกเขาทุกคน... ชีวิตข้ามันมีแต่คาวเลือดจริงๆ
รอยยิ้มเยาะหายไปจากริมฝีปากทันที มีคนกำลังมาเธอคิดในขณะที่กำลังรวบรวมสมาธิเพื่อที่จะรุ้ได้ว่ามากันกี่คนและกี่ทาง
"มาแอบงีบอะไรอยู่แถวนี้กัน"เสียงของเด็กหนุ่มอันแสนคุ้นเคยอย่างบอกไม่ถูกดังขึ้นแต่ไกล และไม่นานเขาก็มานั่งอยู่ข้างๆเธอ
"โดนเจอจนได้นะ"คิลล์พึมพำเสียงราบเรียบแล้วเก็บบทสรุปของตัวเองไว้ในใจ
"จอมเวทย์อย่างข้าหนะ ตามหาคนได้สบายๆอยู่แล้ว"เขาเอนหลังลงพิงพนักเก้าอี้หินอ่อนอย่างสบายอารมณ์ แต่เมื่อสังเกตุว่าอีกฝ่ายดูท่าจะไม่มีอารมณ์มาเล่นกับเขา เขาจึงเข้าประเด็นทันที "เธอมีจิตบ้าคลั่งอยู่ในตัวสินะ" นี่คือสิ่งที่เขาคิดพิจารณาในขณะที่เดินหาเด็กสาวคนนี้
จิตบ้าคลั่งก็คือความบ้าคลั่งนั่นเอง เพียงแต่จะถูกสะกดเอาไ้ว้ มันจะตื่นขึ้นด้วยวิธีใดวิธีหนึ่งหรือความรู้สึกใดความรู้สึกหนึ่งของผู้ที่มีมันอยู่ เช่น หวาดกลัว คลั่งไคล้ ตื่นเต้น เป็นต้น และในกรณีของคิลล์นั้น เธออาจจะสามารถปลุกจิตบ้าคลั่งได้ด้วยการล่าหรือการต่อสู้ และเธอก็สามารถที่จะควบคุมมันได้ในระดับหรึ่งเช่นกัน ซึ่งถือว่าเป็นส่วนน้อยมากสำหรับคนที่มีจิตบ้าคลั่ง
"ใช่"เธอตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบไร้ความรู้สึกเช่นเคยแล้วจึงลดมือลงจากใบหน้า ดวงตาค่อยๆกระพริบช้าๆเพื่อขับไล่ความสับสนปนเป "ข้าอาจจะไม่ร่วมงานเลี้ยงนี้ มันยังไม่สงบเท่าที่ควร" เธอพูดแล้วมองขึ้นไปยังท้องฟ้าเช่นเดิม ดวงจันทร์สีเงินลอยเด่นอยู่กลางหัวทำให้มันยิ่งสว่างขึ้นมาก บางทีเธอควรจะไปที่ห้องของตัวเองแล้วนอนพักสักครู่...
ดูท่าทางจะหดหู่ใจนะ "คงจะไม่ได้หรอกนะ" ซีโร่ลุกขึ้นยืนแล้วเดินไปอยู่ตรงหน้าของเด็กสาวผมดำ คุกเข่าลงข้างหนึ่งแล้วยื่นมือซ้ายไปจับมือขวาของเธอเอาไว้
เด็กสาวรู้สึกมึนงงกับการกระทำของเด็กหนุ่ม แต่เธอคิดว่าตัวเองควรยืนขึ้น
ซีโร่สูดหายใจเข้าลึกๆและรวบรวมความกล้าที่มีอยู่น้อยนิดในการคุยกับเพศตรงข้าม "เจ้าจะยอมเป็นคู่ควงของข้าในคืนรื่นเริงนี้ได้หรือไม่"เขาพูดจบก็จ้องหน้าของอีกฝ่ายเขม็ง ซึ่งเด็กสาวก็กำลังจ้องหน้าเขาอยู่เหมือนกัน นี่ถ้าเจ้าปฏิเสธข้าคงไม่รู้จะเอาหน้าไปมุดไว้ที่รูไหน ถึงแม้จะคิดเช่นนั้นแต่เขาก็จริงจังมากทีเดียว
คิลล์ยิ้มน้อยๆให้เขาแล้วพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า "ด้วยความยินดี" เธอรู้สึกอยากจะหัวเราะให้ฟันร่วง ทั้งๆที่เขาก็รู้อยู่แก่ใจว่า เธอเป็นคนไม่ดี บ้าคลั่ง เป็นฆาตกร ทั้งๆที่เด็กสาวสวยๆดีๆก็มีถมไปแต่เขาก็ยังจะมาชวนเธอ ไม่บ้าก็งี่เง่าแล้วหละ ช่างเป็นคนที่ทำอะไรไม่เข้าเรื่องจริงๆ... แต่ถึงกระนั้นเธอก็ไม่คิดจะปฏิเสธ
ซีโร่แบมือขวาออก คริสตัลเริ่มก่อนตัวจากกลางฝ่ามือเขาเป็นเส้นเล็กๆและสานตัวกันเป็นดอกกุหลาบสีฟ้าอ่อน เขาลุกขึ้นแล้วทัดมันไว้ที่ข้างหูของเธอ
"เอาหละ เจ้าหญิงคิลล์ คืนนี้ท่านคงจะต้องเต้นรำกับข้าเพียงคนเดียวเสียแล้ว เพราะข้าไม่ชอบแลกคู่ควง"เด็กหนุ่มพูดด้วยสีหน้าจริงจัง แก้มขาวผ่องของเขาขึ้นสีระเรื่อเล็กน้อยจากอาการเขิน ให้ตายสีไอ้แก้มบ้าเจ้าจะแดงทำมะเขือเทศอะไรเนี่ย!
"แน่นอน แต่อย่าลืมซะหละ"คิลล์ยิ้มกว้างขึ้นอีกนิดซึ่งยิ่งทำให้เธอดูน่ารักขึ้นอีกเสียจนคนมองไม่กล้าจะกระพริบตา เพราะกลัวว่ามันจะเป็นภาพฝันที่พร้อมจะหายไปได้ทุกเมื่อ เธอดึงมือของร่างสูงทำให้เขาเซมาข้างๆตัวเธอแล้วจึงกระซิบว่า "ข้าคนเดียวเท่านั้น"
ใบหน้าของซีโร่ขึ้นสีแดงสุกเสียจนไม่เหลือมาดความเป็นเจ้าชาย... ซึ่งที่จริงก็ไม่มีอยู่ตั้งแต่แรกแล้ว เขาตั้งหลักทันทีแล้วหันไปหาร่างบางที่แกล้งให้เขาหน้าแดงเล่น แต่ก็ไม่พบเสียแล้ว
ฟิ้ว ลมสายหนึ่งพัดผ่านเข้ามาพร้อมกับประดาษโน๊ตสีดำแผ่นน้อย บนนั้นมีข้อความที่เขียนด้วยดินสอสีเงินว่า 'อีก10นาทีอย่าลืมมารับข้าด้วหละ' เขารู้สึกประหลาดใจ ไม่ใช่เพราะสีของกระดาษหรือข้อความในกระดาษ แต่เป็นเพราะทันทีที่อ่านจบกระดาษนั้นก็กลายเป็นเศษขี้เถ้าทันที
เด็กหนุ่มผมเงินยิ้มกริ่มที่ริมฝีปากน่ามองแล้วเดินกลับห้องเพื่อไปเตรียมตัวสำหรับงานเลี้ยงฉลอง
เมื่อพวกเขาจากไปร่างที่แอบอยู่ในเงามืดก็พลันเคลื่อนกายออกมา แจ๊ค เซวีและจีเคซึ่งเพิ่งฟื้นไข้ต่างก็ยิ้มกรุ้มกริ้มที่แล้วเดินจากไปเพื่อเตรียมตัวไปงานเลี้ยง และอีกอย่างที่พวกเขาควรจะเตรียมแต่ไม่ได้เตรียมก็คือเตรียมพบกับท่าทางไม่เป็นมิตรและสุดสยองของใครบางคน
แต่เมื่อพวกเขาจากไปก็มีเงาอีกกลุ่มหนึ่งเคลื่อนกายออกมา พวกมันดูไม่เป็นมิตรและน่าประหวั่นพรั่นพรึง
งานเลี้ยงในค่ำคืนนี้จะเป้นเช่นไรกันนะ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ