Phantom School

8.8

เขียนโดย Wondergirl

วันที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2556 เวลา 18.10 น.

  20 บท
  2 วิจารณ์
  24.27K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 21.03 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

4) ภายใต้แสงจันทร์สีเงิน(2)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

     ในยามราตรีที่ควรเงียบงัน  บนผืนฟ้าปริศนา

     ปราสาทหลังใหญ่เปิดไฟจนสว่างโล่งและวุ่นวายอยู่กับการตรัเตรียมสถานที่สำหรับงานเลี้ยงที่กำลังจะเริ่มในอีก30นาทีข้างหน้า  และไม่ได้มีเพียงเหล่าสัตว์ประหลาดและคณะครูเท่านั้นที่กำลังยุ่งอยู่  เพราะในหอพักอัศวินดำก็มีเจ้าชายองค์หนึ่งกำลังวุ่นอยู่กับการจัดแจงเสื้อผ้าและรวบรวมความกล้า

     และแน่นอนเขานั่งทำใจให้สงบอยู่หลายนาทีในขณะที่ใช้เวลาแต่งตัวเพียงไม่ถึง3นาทีด้วยซ้ำไป  แถมเขายังคิดว่าอีกฝ่ายนั้นช่างโหดร้ายที่ไม่ให้เวลาเขาทำใจมากกว่านี้(ให้แค่10นาทีแล้วต้องไปรับที่ห้อง)  ถึงแม้จะคิดโทษอีกฝ่ายแต่ก็ช่วยไม่ได้ที่พวกเขาปล่อยให้เวลาล่วงเลยไปเนิ่นนานกับการประลองจึงทำให้เหลือเวลาแค่30นาทีก่อนเริ่มงาน  

     เขากำลังนั่งอยู่ในห้องพักของตัวเอง  เขารู้สึกแปลกใจนิดๆที่หอนี้มีให้นักเรียนนอนห้องเดี่ยวทั้งๆที่หออื่นเข้าให้นอนกันอย่างอัดแน่นอย่างน้อยห้องละ2คน  แต่ช่างปะไรแบบนี้ก็ดีแล้ว  

     ภายในห้องก็ไม่ได้หรูหราอะไร  มีเตียงไม้หลังใหญ่กับหีบใส่ของใบใหญ่ที่ปลายเตียง  ตู้เสื้อผ้าไม้สีอ่อน  ตามขอบตู้จะถูกทาด้วยสีทองเพื่อความหรูหราเล็กๆน้อยๆ  โต๊ะโคมไฟสำหรับอ่านหนังสือและห้องน้ำเล้กๆภายในห้อง

     เด็กหนุ่มผมเงินสวมชุดเครื่องแบบเต็มยศของหออัศวินดำซึ่งถูกทางรุ่นพี่ไซด์จัดมาให้  มันไม่ค่อยต่างจากชุดนักเรียนเท่าไหร่  เป็นเสื้อโค้ทสีขาวกับกางเกงขาวสีดำ  บนอกซ้ายของเขาประดับด้วยเข็มกลัดรูปมังกรสีทองและพู่ไหมสีดำ  มันทำให้เขาดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้นและดูเหมือนเจ้าชายมากขึ้น 

     ซีโร่มองนาฬิกาแล้วก็ถึงกับตกอกตกใจ  

     อีก1นาทีครึ่ง...  

     เขาเห็นดังนั้นจึงรีบพุ่งไปเปิดประตูห้องและตัดสินใจจะออกไปให้เร็วที่สุดเพื่อไปรับเด็กสาวที่ห้องที่อยู้ด้านบนห้องเขา  แต่แล้วก็ต้องกลับเข้าไปในห้องอีกครั้งเพราะสังหรณ์ใจไม่ดี  เขาเปิดหีบแล้วหยิบคทาและดาบไปด้วยโดยให้เวทย์มนต์เก็บคทาเอาไว้ส่วนดาบก็เสียบไว้ที่หลัง...  เพราะเขาใช้ดาบใหญ่จะเสียบข้างเอวมันก้คงไม่ไหวอะนะ

     เมื่อเสร็จธุระและสบายใจแล้วเขาจึงได้รู้ว่าต้องรีบแล้ว  ซีโร่ไม่สามารถวิ่งขึ้นบันไดได้ทันอีกต่อไปเขาจึงต้องปีนระเบียงหน้าต่างเอา  ทั้งๆที่ไม่อยากทำเพราะมันเหมือนพวกโรคจิต

     

     เด็กหนุ่มเหวี่ยงตัวขึ้นไปบนระเบียงอย่างช่ำชองแล้วเปิดประตูกระจกเดินเข้าไปในห้อง  เด็กสาวผมดำกำลังหันมองเขาอยู่  เด็กหนุ่มรู้สึกเขินอายยิ่งกว่าเก่าเมื่อให้อีกฝ่ายเห็นว่าตนปืนขึ้นมาและประกอบกับใบหน้าหวานสวยของเด็กสาวยิ่งทำให้เขาเขินเข้าไปใหญ่

     คิลล์ไม่ได้ใส่ชุดเครื่องแบบอัศวินหรือเครื่องแบบนักเรียน  ชุดที่เธอใส่อยู่คือชุดราตรีสีขาวดำเรียบๆ  

     กระโปรงถูกตัดเย็นด้วยผ้า2ชิ้น  ด้านในเป็นผ้าสีขาวสะอาดยาวลงมาถึงเหนือหัวเข่า  ด้านนอกเป็นผ้าไหมแก้วโปร่งแสงสีดำ  ร่างส่วนบนถูกรัดให้เข้ารูปด้วยชุดรัดตัวสีดำ  แขนเสื้อสีขาวยาวบดบังท่อนแขนทั้งหมดเอาไว้ใต้ผืนแพรไหมอ่อนนุ่มแต่กลับเผยให้เห็นไหล่กลมหม่นอย่างชัดเจน

     บนลำคอยาวระหงมีสร้อยเชือกสีดำห้อยด้วยจี้รูปมังกรสีเงิน

     ถึงแม้เธอจะไม่ได้สวมเครื่องประดับอะไรมากมาย  ไม่ได้แต่งแต้มสีสันใดลงบนใบหน้า  แต่เธอก็ยังคงดูงดงามและน่ารัก

     "ข้าเพิ่งจะรู้นะนี่ว่าผู้ชายก้แต่งหน้า"เธอแกล้งหยอกเด็กหนุ่มด้วยใบหน้าที่เรียบเฉย  ซึ่งมันทำให้เธอดูเหมืนกำลังคิดเป้นจริงเป็นจังทั้งๆที่เธอรู้สึกขบขันกับท่าทางหน้าแดงของเพื่อนชายคนนี้

     เมื่อซีโร่ได้ยินคำพูดของเด็กสาวเขาก็ยิ่งหน้าแดงเข้าไปใหญ่  หนะ...หน้าข้าแดงขนาดนั้นเลยเหรอ  เขาสะบัดหน้าหนีไปทางอื่นเพื่อไม่ให้อีกฝ่ายเห็นพรางคิดหาข้อแก้ตัว  จะบอกว่าอย่างไรดี?  บอกไปว่าร้อนจะดีไหม?

     "ข้าล้อเจ้าเล่นหรอก" เธอพูดแล้วเดินไปจับมือของเด็กหนุ่มร่างสูง  ซึ่งนั่นทำให้อีกฝ่ายสะดุ้งเฮือกและคิดไปไกลอีกนิดจนถึงขั้นเหม่อลอย "ไปได้แล้วน่า" คิลล์ลากซีโร่เดินออกจากห้องไป  และแถบจะบอกได้เลยว่าเธอลากเขาไปจนกระทั่งถึงสถานที่จัดงาน

     สถานที่จัดงานนั้นคือสวนดอกไม้ใหญ่ที่อยู่ภายในตัวปราสาทคล้ายกับสวนที่อยู่ในหออัศวินดำ  เพียงแต่สวนดอกไม้ของที่นี่มีน้ำพุและดองไม้ที่จะบานเมื่อได้รับแสงจันทร์มากกว่า  แถมพื้นยังถูกปูด้วยหินอ่อนสีครีมและหินโปร่งแสง

     มีคนเริ่มมากันเยอะแล้ว  แต่ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นพวกรุ่นพี่เสียมากกว่าเพราะเด็กใหม่คนอื่นๆคงคิดหาทางจะออกไปจากที่นี่อยู่  คนปกติคงทำใจอยู่ที่นี่ไม่ได้หรอก  ที่จริงแล้วคิลล์ก็ไม่คิดที่จะอยุ่ที่นี่หรอกเพียงแต่ว่าถึงจะกลับไปเธอก็ไม่รู้จะกลับไปที่ไหนเท่านั้น  ถึงกลับไปอาชีพของเะอก็ไม่เปลี่ยน  การดำเนินชีวิตก็ไม่เปลี่ยน  ไม่มีอะไรสนุกๆให้ทำ

     "เฮ้  คิลล์  ซีโร่"เสียงโหวกเหวกโวยวายดังขึ้นจากด้านหลัง  

     ซีโร่หันไปมองและดึงมือคิลล์ให้หยุดเดินรอพวกเขา  เขาพบว่าตัวต้นเสียงนั้นยังอยู่ห่างไกลลิบโน่นแถมยังเดินมากับรุ่นพี่หัวทองอีกต่างหาก  ท่าทางจะเซวีหรือไม่ก็จีดคคงจะไปขอให้เขามาเป็นคู่เต้นรำด้วย  หรือรุ่นพี่ไซด์อาจจะไปขอให้เป็นคู่ควงเข้างาน

     พวกเขา4คนใส่ชุดที่ดูหลากสีมากเพราะแต่ละคนใส่ได้ไม่ซ้ำกันเลยทีเดียว  ซึ่งก็ไม่ต้องแปลกใจอะไรเพราะที่หอมีห้องเสื้อผ้าอยู่  ที่ซีดร่ใส่ชุดอัศวินของหอก็เพราะว่าเขาไม่ชอบพวกชุดสูทใหญ่ๆหรืออะไรรุงรัง  และดูเหมือนว่าแจ๊คก็คงจะเหมือนกันเพราะเขาใส่ชุดโจรสลัดสีแดงที่เข้มกว่าสีผมของตัวเองมา

     "คุณคิลล์ดูสวยมากเลยนะค่ะ"เมื่อเดินมาถึงเซวีก็ตรงเข้าไปทำตาเป็นประกายใส่เด็กสาวผมดำทันที  เธอสวมชุดราตรียาวสีชมพูอ่อนซึ่งขับให้เธอขาวขึ้น  ชายกระโปรงยาวรุ่มร่ามยาวปิดปายเท้า  ผมสีน้ำตาลเข้มถูกปล่อยสยายและดัดปลายให้ม้วนนิดๆ  ผมแสกข้างติดด้วยกิ๊บคริสตัลรูปมังกรสีฟ้า

     "ข้าว่าเจ้าน่ารักและสวยกว่าข้าอีก"คิลล์พูดแล้วยิ้มบางๆให้เด็กสาวตรงหน้า  

     รุ่นพี่ไซด์ทำหน้าเหลืออดใส่เซวีแล้วเสมองไปทางอื่นทำเหมือนไม่รุ้จักเพราะตอนนี้เริ่มมีคนหันมาสนใจพวกเขาเสียแล้ว  เขาสวมชุดเครื่องทรงจ้าชายสีน้ำเงิน  ผมสีทองยาวประบ่าถูกหวีแสกข้างเอาไว้และถักปลอยผมเป็นเปียเล็ก

     เขาเห็นว่ามีพวกนักเรียนหญิงมามุงทางเขาและพูดเกี่ยวกับทรงผมไหมของเขาว่าอย่างโน้นอย่างนี้  ซึ่งนั้นก็ทำให้เขาหันไปถลึงตาใส่ตัวยุ่งที่ทำให้หัวเขาเป็นแบบนี้

     "อะไร?  ข้าผิดอะไร"เซวีหันไปถลึงตาตอบแล้วเดินไปยืนใกล้คนจ้องหน้าหาเรื่อง

     "ทุกอย่างนั่นแหละไอ้รุ่นน้องตัวแสบ!" ไซด์พูดเสียงดังใส่เธอ

     "ฮ่าฮ่าฮ่า  ตลกชะมัดเลย  ว่าแต่ทำไมนายไม่ใส่ชุดเหมือนไอ้รุ่นพี่นั่นหละ"แจ๊คหัวเราะจนรู้สึกปวดท้อง  ที่จริงเขากลั้นหัวเราะไว้ตั้งนานแล้ว  เหมื่อยต้องจะตายชัก  แต่ทำไงได้หัวเราะไปเจอดาบสับคอหลุดกันพอดี 

     "ข้าไม่ชอบ" ซีโร่พูดพรางแบะปากอย่างเซ็งๆ "ใส่ยาก" เขาบอกเหตุผลที่ทำเอาแจ๊คลงไปชักดิ้นชักงออยู่บนพื้นเพราะตั้งแต่เขาเป็นโจรสลัดมาเขาไม่เคยเห็นเชื้อพระวงศ์คนไหนบ่นว่าชุดทรงใส่ยากมาก่อน

     "คิลล์"เสียงแหบแห้งเสียงหนึ่งเอ่ยขึ้นหลังจากที่เงียบมานานแสนนาน  จีเคนั้นสวมชุดทรงอัศวินสีฟ้าเดินดิ้นทอง  ลักษณะคล้ายๆกับชุกของซีโร่  เพียงแต่จะดุเข้ารุปมากกว่าเพราะเป็นชุดของผู้หญิง

     เจ้าของชื่อเลิกคิ้วแล้วมองเธออย่างสงสัย "อะไร" คิลล์ถามพรางยกมือชึ้นป้องปากหาวด้วยความเบื่อหน่าย

     "ขอโทษ" จีเคก้มหน้าลงแล้วพูดอย่างอายๆ "ข้า..."

     "เรื่องที่พวกเจ้าทุกคนแอบฟังข้ากับซีโร่หรือเรื่องที่ท้าข้าสู้?"คิลล์หลับตาลงแล้วพูดเสียงดังและไม่ใส่อารมณ์อะไร  ซึ่งนั่นทำให้หลายคนสะดุ้งเฮือกกันใหญ่เหลือแค่เด็กสาวผมตรงยาวเท่านั้นที่ไม่สะดุ้งตกใจ "เรื่อง-ไหน?"เธอย้ำด้วยน้ำเสียงที่ดังและชัดเจนอันน่าเกรงขาม  ข้าหละไม่ชอบจริงๆที่โดนแอบฟัง  

     ทุกความอึกทึกรอบตัวหยุดลงและเริ่มเงียบจนวังเวง  ผู้คนที่มุงดูรอบๆเริ่มรุ้จักหน้าที่ของตัวเองขึ้นมาทันที  พวกนั้นจึงรีบกลับเข้าไปเตรียมงานที่เหลือให้เสร็จหรือไม่ก็พูดคุยซุบซิบกันต่อ

     อึมครึมเป็นบ้าเลย  ซีโร่ยักไหล่แล้วปล่อยมือจากมือเรียวนุ่มของเด็กสาว  เขายกมือ2ข้างที่ระดับหน้าอกเป้นสัญญาณบอกเพื่อนๆผู้กระทำผิดได้รู้ว่าเขาไม่ห้ามเด็ดขาด  ตัวใครตัวมัน  เพราะเขาก็ไม่ชอบให้ใครแอบฟังเหมือนกันยิ่งเป็นเรื่องเมื่อสักครู่ด้วยแล้ว  ก็เรื่องแบบนี้มันต้องการความเป็นส่วนตัว  จริงไหม?

     "อ่า...  ขะ...  ข้า  ข้า  ข้าแค่...  อ้อ!  เดินผ่านไปเฉยๆ!  ข้าไม่ยินอะไรทั้งนั้นเล๊ยยยย"แจ๊คเริ่มบิดไปบิดมาแล้วก็โกหกอย่าง(โคตรจะ)ไม่แนบเนียบ  เขาแกล้งทำมึนแล้วเดินไปดึงจีเคเตรียมเข้างาน

     "แจ๊ค  ถ้ายังจะแถข้าจะขาดกับเจ้า"จีเคไม่แม้แต่จะมองหน้าเขาเธอขืนตัวไม่ให้ไปตามแรงมหาศาลของเด็กหนุ่ม "ทั้ง2เรื่องนั่นแหละ  ขอโทษจริงๆ  เพราะข้ารู้สึกระแวงไป'มาก'ข้าจึงแอบตามซีโร่ไปห่างเพื่อที่จะแอบฟังพวกเจ้าคุยกัน  ขอโทษจริง  'เรา'จะไม่ทำอีก" เธอพูดแลวถลึงตาใส่แจ๊คที่แบะปากใส่เธอ

     "ไม่เป็นไร  หายกัน" คิลล์พยักหน้าให้จีเคแล้วส่งยิ้มเหี้ยมไปให้แจ๊คและเซวีซึ่งตอนที่เธอมองไปนั้นทั้ง2หลบอยู่หลังคู่ควงของตนเรียบร้อยแล้ว "อย่าทำอีกก็พอแล้ว  ไปกันเถอะ" เธอพูดแล้วคล้อยแขนซีโร่เดินเข้างานไป

 

     งานเลี้ยงฉลองเริ่มขึ้น  ไวโอลินที่วางอยู่บนเก้าอี้ไม้สีขาวด้านข้างของงานเริ่มบรรเลงได้เองโดยไม่ต้องให้นักดนตรีจับคันสี  และเช่นเดียวกันกับเปียโนหลังใหญ่สีดำสนิท  

     บริเวณรอบน้ำพุมีนักเรียนบาวงคนควงคู่ของตนออกไปเต้นรำหรือไม่ก็ยืนคุยไร้สาระกันตามประสาเพื่อนหรือบางทีอาจจะมีคุ่รักแฝงตัวอยู่ด้วยก็เป็นไปได้  แต่แล้วไม่นานนักพวกเขาก็หยุดการกระทำพูดคุยไร้สาระเนื่องจากมีข่าวลือเรื่องอีเวนท์หลังของงานเลี่ยงแว่วเข้ามาในหู  พวกเขาจึงขบคิดกันเรื่องอีเวนท์หลักของปีนี้แทน

     แต่ว่าปกติแล้วจะไม่ค่อยมีอีเวนท์นักทั้งนักเรียนเก่าและนักเรียนใหม่จึงตื่นเต้นเหมือนกันหมด...  เว้นเสียงแต่พวกหัวรั้นที่คิดแต่จะออกไปจากที่นี่  ซึ่งไม่ยอมออกมาสนุกสนานเหมือนคนอื่นเอาซะบ้าง  เฮ้อ  ไอ้พวกแบบนี้มันมีได้ทุกงานสินะ

     "อีเวนท์?" ไซด์พูดเสียงสูงเป็นเชิงถามเมื่อรุ่นน้องซึ่งเป็นคู่ของเขาเอ่ยถามรายละเอียด "ปกติแล้วไม่ค่อยจะมีหรอก  อีกอย่างอีเวนท์หนะส่วนใหญ่แล้วเขาจะจัดกันเป็นหอ  ไม่เคยจัดรวมแบบนี้  ข้าก็ไปตรัสรู้ได้ยังไง" เขาตอบแล้วกลับไปให้ความสนใจกับไวน์ในแก้วอีกครั้ง  หวังว่าจะเป็นอะไรที่ไม่น่าเบื่อนะ

     "สัญชาตญาณความเป็นโจรสลัดของข้าบอกว่ามันเป็นเกมส์ค้นหา!"แจ๊คพูดแล้วก็กระดกเหล้าในขวดจนหมดเกลี้ยงในรวดเดียว "จีเคๆ  เจ้าคิดว่ามันเป็นอะไรหละ" เขาหันไปถามเด็กสาวข้างกาซึ่งยืนพิงเสาและหลับตาเหมือนกำลังหลับอยู่

     "สัญชาตญาณความเป็นบอดี้การ์ดของข้ามันบอกว่าอะไรก็ตามแต่ที่ไม่ใช่สิ่งที่คนเมาพูด" เธอตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบทั้งๆที่ยังคงหลับตาอยู่  ให้ตายสิถ้าอยากรุ้ว่าเกมส์อีเวนท์คืออะไรก็หันเพลา ๆ ไอ้เรื่องดื่มลงบ้างเถอะตาบ้า

     "ข้ายังไม่เมานะ!"แจ๊คเถียงแล้วกระแทกขวดใส่โต๊ะไม้ดัง'ตึ้ง' "แล้วเจ้าหละว่าไงซีโร่"

     คนโดนถามยกมือขึ้นกอดอกแล้วเหลือบตามองท้องฟ้าอย่างคุ่นคิด  มันคงเป็นอะไรที่พิศดารมากแน่ๆเลยหละ  แล้วเขาก็ยักไหล่ให้โดยไม่คิดจะบอกสิ่งที่เขากำลังคิดเพราะอีกฝ่ายน่าจะรุ้อยุ่แล้วหละนะ  ว่ามันต้องพิศดาร

     "คิลล์หละว่าไง"

     "ก็..."

     กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด   เสียงหวีดร้องด้วยความหวาดกลัวดังขึ้นพร้อมกับหญิงสาวผมทองซึ่งตะเกียดตะกายออกมาจากหลังพุ่มไม้  ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความหวาดกลัว  ในมือมีไมค์อยู่  ดูท่าเธอจะเป็นคนทำอีเวนท์หรือไม่ก็พิธีกร

     "สะสะสะสะสะ... ศพ   มีศพอยู่ตรงนี้!"เธอตะโกนด้วยเสียงแหลมปรี๊ดแล้วก็สลบไป  มีนักเรียนชาย2-3คนมาหามเธอไปนอนที่เปลญวนด้านหลังงาน

     "เอ่อ...  พวกเรา..." แจ๊คพูดพรางหันไปมองเพื่อนๆ 

     "ไปดูกันเถอะไอ้หนู  นี่อาจจะเป็นอีเวนท์ที่ว่า"ไซด์ตบไหล่เด็กหนุ่มดังป๊าบแล้วพุ่งเข้าไปดูสภาพศพเป็นคนแรก

     "เอ่อ..." แจ๊คยังคงยืนเอ่ออยู่กับที่โดยไม่คิดจะเดินไปดู  แต่จีเคและเซวีนั้นเดินไปดูเรียบร้อยแล้ว  นอกจากพวกเขายังมีนักเรียนหลายคนเสียด้วยที่เดินไปยืนมุงดูศพ  แต่แล้วเมื่อได้เห็นก็มีหลายคนล้มลงกองกับพื้นหรือไม่ก็สลบไป

     

    ถ้าคิดว่าบทนี้จบลงได้เรียบง่ายไป  ใช่คุณคิดถูกแต่จุดเริ่มต้มมันอยู่ตรงนี้

    จุดเริ่มตรงที่จะเปิดเผยความจริงของโลกและโรงเรียนนี้

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.4 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา