Phantom School

8.8

เขียนโดย Wondergirl

วันที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2556 เวลา 18.10 น.

  20 บท
  2 วิจารณ์
  23.70K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 21.03 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

3) ภายใต้แสงจันทร์สีเงิน(1)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
     เด็กสาวผมดำทั้งสองเดินออกไปจากปราสาทและตรงไปสะพานทางเชื่อมระหว่างเกาะลอยฟ้า  ซึ่งอีกเกาะที่พวกเธอจะไปนั้นเป็นลานโล่งๆที่ไม่มีขอบกั้น
     ตรงหน้าสะพานมีก็อบลินตัวเขียวยืนอยู่  ถึงแม้ว่านี่จะถึงยามราตรีแล้วแต่เขาก็ต้องอยู่เฝ้าที่นี่  แต่ทว่าถึงแม้จะเป้นเวลาหัวค่ำแต่ลานโล่งแจ้งแห่งนี้กลับไม่มืดอย่างที่ควรเป็นในยามกลางคืน  แสงจันทร์สีเงินนวลตาให้ความสว่างที่นี่  มันมองเด็กทั้ง5ด้วยความฉงนสงสัย  เห็นดังนั้นคิลล์จึงเดินเข้าไปหาและพูดบางอย่างกับเขาด้วยภาษาประหลาดซึ่งคนอื่นๆฟังไม่ออก  เขาหัวเราะออกมาเสียงดังแล้วยอมหลีกทางให้เด็กๆเดินไปยังลานโล่งๆของอีกเกาะ
     ด้วยความสงสัยซีโร่เดินเข้าไปสะกิดเด็กสาวเพื่อสอบถามสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อสักครู่ "เจ้าพูดอะไรกับเขา"เด็กหนุ่มผมเงินถาม  ถึงแม้เขาจะเป้นเจ้าชายและรุ้จักในหลายๆภาษาแต่เขาไม่รุ้จริงๆว่านี่ภาษาอะไรกันแน่  หรือจะเป็นภาษาโบราณ?
     "ข้าจะประลอง"คิลล์ตอบสั้นๆตรงคำถาม  ซึ่งนั่นก็ยังคงไม่คลายข้อสงสัยของคนอื่นๆ  เธอจงใจไม่ใช่ว่าเธอไม่รู้ว่าซีโร่หรือคนอื่นๆอยากรู้อะไร  เธอขี้เกียจอธิบายว่าทำไมเธอถึงได้เรียนภาษาประหลาดๆพวกนี้ได้
     "เจ้าพูดภาษาอะไรของเจ้า"แจ๊คขมวดคิดถาม  เขาเป็นโจรสลัดเขาย่อมรู้จักภาษาของพวกหัวการค้าและเจ้าเลห์อย่างก็อบลินแต่เขาแปลไม่ออกจริงๆว่าเธอพูดอะไรกับก็อบลินตนนั้น
     "อย่าได้สน"เธอพูดสั้นๆพรางเดินไปอยู่อีกข้างของสนามประลองและปล่อยให้จีเคยืนปิดทางออกเข้าไว้  เหมือนจะบอกว่า  เธอต่อให้อีกฝ่ายหนีได้จนถึงสุดปลายเส้นทาง  ถ้าคู่ต่อสู้ของเธอไม่ใช่บอดี้การ์ดแต่เป็นอัศวินอย่างเซวีหละก็  อีกฝ่ายคงเดือดจนวิ่งมากระซวกเธอเป็นแน่แท้
     น่าสงสัย...  ไม่น่าไว้ใจจริงๆเลย  จีเคคิดในใจพรางตวัดดาบฝ่าอากาศเป็นสัญญาณเริ่มการประลอง  เธอพุ่งเข้าใส่คิลล์อย่างไม่ลังเลหวังจะทะลวงร่างบางที่หยุดนิ่งอยู่อีกฟากให้ตกฟ้ากันไปข้าง  ไม่หลบงั้นหรือ?
     คิลล์ย่อตัวลงในขณะที่ระยะห่างของปลายดาบและอกเหลือเพียงไม่ถึงเซ็น  เธอเงื้อมือไปด้านหลังแล้วต่อยหนักๆเข้าที่ท้องของจีเคทำให้เธอกระเด็กนถอยหลังไปหลายก้าว  ดาบกระเด็นหลุดออกจากมือ  พุ่งเข้ามาไม่ยั้งแรงไว้แบบนั้น...  ไม่เป็นมืออาชีพเอาซะเลย  เธอจุ๊ปากเบาๆแล้วเดินไปคิดจะหยิบดาบของร่างที่นอนหมอบอยู่กับพื้นขึ้นมาหักทิ้งแต่ทว่า...
     ดาบนั้นหายไปในพริบตาและปรากฏขึ้นอีกครั้งที่ด้านหลังของเธอพร้อมกับเจ้าของของมันที่กระอักเลือดออกมาคำใหญ่ๆ
     "โอ้  สงสัยบอดี้การ์ดจะอึดกว่าที่คิดนิดหน่อย"คิลล์พึมพำเบาๆพร้อมกับหลบคมดาบที่กระหน่ำแทงใส่เธอราวกับห่าฝน  อย่างนี้สิถึงจะสนุก  ไม่ใช่อะไรที่ไม่มีทางสู้  เธอคิดแล้วกระโดดขึ้นกลางอากาศใช้ไหล่ของจีเคเป้นเบาะส่งตัวไปด้านหลัง
    จีเคเสียหลักเล็กน้อยแต่ก็ยังคงสามารถหันกลับไปกระหน่ำแทงใส่คิลล์ต่อได้  ถึงแม้ความเร็วจะตกไปมากแต่ก็ยังคงเร็วใช้ได้  
    "ฮึ  นักดาบเวทย์ที่ไหนกัน  ดาบก็ไม่มี  เวทย์ก็ไม่ใช้"จีเคคำรามเสียงดังเพื่อทำให้เพื่อนของตัวเองเกิดความลังเลใจและไม่ไว้ใจผู้หญิงคนนี้  เธอดูอันตราย...  
    "ถ้ายังจะเล่นอยู่ข้าก็ไม่ใช้ให้เจ้าเห็นหรอกนะ  จีเค"คิลล์พูดในขณะที่หลบคมดาบด้วยท่าทางสบายๆเช่นเดิม  ข้ารู้น่าว่าเจ้าใช้เวทย์ได้  เธอยิ้มมุมปากอย่างนึกสนุกแล้วจับจังหวะที่คมดาบแทงเข้ามาครั้งต่อไป  มือเรียวบางปัดดาบหล่นลงพื้นอีกครั้ง  เธอตีลังกาหนีออกไปอย่างรวดเร็ว "มีอย่างอื่นนอกจากดาบไหม...?"
    "คิลล์ระวัง!"เสียงของซีโร่ตะดกนล่นทำให้เธอต้องหันไปมองทางเขา
    ใบมีดลมงั้นเหรอ  ก็มีพิษมีภัยเหมือนกันนี่  เธอเอี้ยวตัวหลบด้วยท่าทางพิศดารราวกับไม่มีกระดูก  แต่ด้วยความที่ใบมีดลมนั้นไม่สามารถมองเห็นได้เธอจึงโดนมันเฉือนเนื้อจนเลือดออกเล็กน้อย  
     ดาบสั้น2เล่มปรากฏขึ้นในมือของเด็กสาวผมดำเป็นลอน  เธอควงดาบทั้ง2เล่มในมือเป็นวงกลมแล้วเริ่มเป็นฝ่ายรุกบ้าง  
     เมื่อเห็นเช่นนั้นจีเคจึงร่ายม่านอากาศเอาไว้รอบกาย  สายลมพัดเอื่อยๆรอบตัวของเธอนั้นคมกริบจนทำให้ใบไม้และเศษหญ้าที่ร่วงหล่นกลายเป็นเศษเล็กเศษน้อย  เหล่าผู้ชมเริ่มกระวนกระวายและกลืนน้ำลายยากขึ้นเริ่มๆ  พวกเขาไม่แม้จะกระพริบตา  โดยเฉพาะหนึ่งในนั้นที่กำลังคาดเดาเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้น
     ดาบสั้น2เล่มฟันผ่าม่านลมได้อย่างง่ายดายโดยที่มันไม่สามารถทิ้งบาดแผลไว้บนร่างของคิลล์ได้เลย  เธอฟาดสันดาบเข้าไปที่ท้ายทอยของบอดี้การ์ดสาว  ความรู้สึกปวดประสาทแล่นแปลบขึ้นสมอง...  เธอถูกไฟฟ้าช็อค?  แต่ก็คงไม่สำคัญเพราะไฟฟ้าแค่นี้ไม่ระคายหรอก  แถมอีกฝ่ายก็ทรุดกับพื้นไปแล้วด้วย
     "เก่งนะแต่ดูออกง่ายไปหน่อย"คิลล์ทรุดเข่าลงข้างหนึ่งแล้วกระซิบข้างหูจีเค  เธอรู้ว่าอีกฝ่ายยังไม่หมดสลบเต็มที่  ซึ่งนั้นทำให้บางอย่างที่ถูกเปิดผนึกไม่ยอมสงบลงเสียทีแต่เธอก็ไม่ได้สนใจอะไรมันนัก  พอพูดจบก็ลุกขึ้นยืนพร้อมกับพยุงร่างอ่อนปวกเปียกนั้น  บางที...  การที่หมาป่าสู้กันเองมันก็สนุกกว่าไล่ล่ากระต่ายนะ  หึหึหึ
     "จีเค...แพ้?"แจ๊คทำสีหน้าไม่อยากเชื่อ  เธอเป็นผู้หญิงที่ถึกมากเท่าที่เขาเคยรู้จักเชียวนะ  
     "จีเค  ไม่ได้แพ้"คิลล์ตอบพรางส่งร่างอ่อนยวบในอ้อมแขนให้กับเด็กหนุ่มผมแดง "ถ้านางใช้วิชาได้อย่างนักดาบเวทย์..."เธอกระตุกยิ้มที่มุมปากอย่างนึกสนุก "บางทีคงจะมีหวัง" พูดจบเด็กสาวก็เดินไปหาเพื่อนหนุ่มหัวหงอก...  เอ้ย  หัวเงิน
     "ทำไมถึงสู้เหมือนไม่ตั้งใจอย่างนั้นหละ"ซีโร่ขบฟันกรามแล้วตะคอกใส่เธอเป็นภาษาพ่อมดซึ่งเขาแน่ใจว่ามีเธอกับเขาฟังรู้เรื่องกันแค่2คนเพราะภาษาของพ่อมดนั้นยากมากและมีการพลิกแพลงหลายหลาก  เขาหละหัวใจแทบวายทุกทีที่เห็นเธอคล้ายจะพลาดท่า  ให้ตายสิอยู่กับเธอคนนี้เขาคงได้ตายด้วยหัวใจแหงๆ
     "ผลไม้ที่ยังไม่สุกงอม..."คิลล์พูดตอบเป็นภาษาพ่อมดเช่นกันแต่เบากว่าและเยือกเย็นกว่ามาก "ย่อมฝาดและไม่น่าลิ้มลอง  ข้าจะรอจนมันสุกงอมและหอมหวานเสียก่อนจึงจะเด็ดกิน" พูดจบเธอก็เดินผ่านเข้าไปอย่างไร้ซุ่มเสียงและสัมผัสใดๆ
     เด็กหนุ่มสาวที่เหลืออีก3คนรู้สึกสั่นสะท้านอย่างบอกไม่ถูก  โดยเฉพาะกับเซวีและแจ๊คซึ่งเป็นโจรสลัดและอัศวิน  จัดเป็นพวกไวต่อภัยอันตราย  พวกเขารู้สึกได้ถึงความบ้าคลั่งและอำมหิตที่ถูกทอดทิ้งไว้ยังที่แห่งนี้
     "นางเป็นใครกันแน่..."แจ๊คเอ่ยถามเบาๆ  และคนที่เขาถามก็ไม่มีทางพ้นซีโร่ซึ่งเขาเจออยู่คิลล์ 
     "นั่นคือสิ่งที่ 'ข้า' ต้องรู้ให้ได้" ซีโร่พูดทิ้งท้ายไว้แล้วเดินตัวปลิวตามเด็กสาวประหลาดผู้ซึ่งเพิ่งจะจากไปเมื่อสักครู่นี้  ที่เธอพูดหมายความว่ายังไงกัน...  จะฆ่า?  เขาขบคิดในขณะที่เดินไปยังหอพักของตน  โดยหวังว่าจะเจอเด็กสาวและได้ถามไถถึงความรุ้สึกเสียววาบที่เกิดขึ้นกับตน  น่าแปลกที่เขาไม่รู้สึกกลัวฆาตกรผู้เป็นที่โจษจันนางนี้เลยแม้แต่น้อย
     
     ณ  สวนดอกไม้ในหอพักทางเหนือ  ซึ่งเต็มไปด้วยไม้นานาพันธุ์และมีสระน้ำเล็กๆ(แต่ลึก)
     แสงจันทร์ค่อยๆส่องลงมายังลานผักผ่อนกลางหอพักทรงกลม  มือสังหารผู้คลุ้มคลั่งนั่งมองสุงขึ้นไปยังท้องฟ้าที่ถูกล้อมกรอบวงกลมเอาไว้  ความกระหายการต่อสู้ของเธอค่อยๆลดลงและลดลงจนกลับเป็นปกติ  แต่จิตใจลึกๆแล้วกลับยังไม่สงบอย่างที่ควรจะเป็น
     เธอรู้สึกไม่สงบเพราะตอนเธอกระซิบบอกจีเคเธอรู้สึกเหมือนจะต้องฆ่าเพื่อปิดบังความลับ  รู้สึกกะหายกลิ่นคาวเลือด  เธอรู้สึกแย่ที่คิดจะฆ่าเด็สาวที่โตกว่าเธอคนนั้น  สัญชาตญาณของเธอเตือนให้รู้ว่าจีเคกำลังสงสัยและคิดจะชักจูงคนอื่นให้สงสัยตาม  ทั้งๆที่ถ้าเธอทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นและไม่เกี่ยวข้อง  เธอก็จะสามารถหลุดไปได้แล้วแท้ๆ
     "หึหึ  ให้ตายเถอะ..."คิลล์ยกมือขึ้นบดบังใบหน้าส่วนบนแล้วหัวเราะในลำคอเหมือนกำลังเยาะเย้ยตัวเอง  ถ้าข้าฆ่าจีเคไป  คนพวกนั้นคงจะหวาดกลัวข้าและซีโร่ก็คงจะเตือนพวกเขาว่าข้าเป็นใคร  แล้วทีนี่ข้าก็จะต้องฆ่าพวกเขาทุกคน...  ชีวิตข้ามันมีแต่คาวเลือดจริงๆ
     รอยยิ้มเยาะหายไปจากริมฝีปากทันที  มีคนกำลังมาเธอคิดในขณะที่กำลังรวบรวมสมาธิเพื่อที่จะรุ้ได้ว่ามากันกี่คนและกี่ทาง
     "มาแอบงีบอะไรอยู่แถวนี้กัน"เสียงของเด็กหนุ่มอันแสนคุ้นเคยอย่างบอกไม่ถูกดังขึ้นแต่ไกล  และไม่นานเขาก็มานั่งอยู่ข้างๆเธอ
     "โดนเจอจนได้นะ"คิลล์พึมพำเสียงราบเรียบแล้วเก็บบทสรุปของตัวเองไว้ในใจ
     "จอมเวทย์อย่างข้าหนะ  ตามหาคนได้สบายๆอยู่แล้ว"เขาเอนหลังลงพิงพนักเก้าอี้หินอ่อนอย่างสบายอารมณ์  แต่เมื่อสังเกตุว่าอีกฝ่ายดูท่าจะไม่มีอารมณ์มาเล่นกับเขา  เขาจึงเข้าประเด็นทันที "เธอมีจิตบ้าคลั่งอยู่ในตัวสินะ" นี่คือสิ่งที่เขาคิดพิจารณาในขณะที่เดินหาเด็กสาวคนนี้
     จิตบ้าคลั่งก็คือความบ้าคลั่งนั่นเอง  เพียงแต่จะถูกสะกดเอาไ้ว้  มันจะตื่นขึ้นด้วยวิธีใดวิธีหนึ่งหรือความรู้สึกใดความรู้สึกหนึ่งของผู้ที่มีมันอยู่  เช่น  หวาดกลัว  คลั่งไคล้  ตื่นเต้น  เป็นต้น  และในกรณีของคิลล์นั้น  เธออาจจะสามารถปลุกจิตบ้าคลั่งได้ด้วยการล่าหรือการต่อสู้  และเธอก็สามารถที่จะควบคุมมันได้ในระดับหรึ่งเช่นกัน  ซึ่งถือว่าเป็นส่วนน้อยมากสำหรับคนที่มีจิตบ้าคลั่ง
     "ใช่"เธอตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบไร้ความรู้สึกเช่นเคยแล้วจึงลดมือลงจากใบหน้า  ดวงตาค่อยๆกระพริบช้าๆเพื่อขับไล่ความสับสนปนเป "ข้าอาจจะไม่ร่วมงานเลี้ยงนี้  มันยังไม่สงบเท่าที่ควร" เธอพูดแล้วมองขึ้นไปยังท้องฟ้าเช่นเดิม  ดวงจันทร์สีเงินลอยเด่นอยู่กลางหัวทำให้มันยิ่งสว่างขึ้นมาก  บางทีเธอควรจะไปที่ห้องของตัวเองแล้วนอนพักสักครู่...
     ดูท่าทางจะหดหู่ใจนะ  "คงจะไม่ได้หรอกนะ" ซีโร่ลุกขึ้นยืนแล้วเดินไปอยู่ตรงหน้าของเด็กสาวผมดำ  คุกเข่าลงข้างหนึ่งแล้วยื่นมือซ้ายไปจับมือขวาของเธอเอาไว้
     เด็กสาวรู้สึกมึนงงกับการกระทำของเด็กหนุ่ม  แต่เธอคิดว่าตัวเองควรยืนขึ้น  
     ซีโร่สูดหายใจเข้าลึกๆและรวบรวมความกล้าที่มีอยู่น้อยนิดในการคุยกับเพศตรงข้าม "เจ้าจะยอมเป็นคู่ควงของข้าในคืนรื่นเริงนี้ได้หรือไม่"เขาพูดจบก็จ้องหน้าของอีกฝ่ายเขม็ง  ซึ่งเด็กสาวก็กำลังจ้องหน้าเขาอยู่เหมือนกัน  นี่ถ้าเจ้าปฏิเสธข้าคงไม่รู้จะเอาหน้าไปมุดไว้ที่รูไหน  ถึงแม้จะคิดเช่นนั้นแต่เขาก็จริงจังมากทีเดียว
     คิลล์ยิ้มน้อยๆให้เขาแล้วพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า "ด้วยความยินดี" เธอรู้สึกอยากจะหัวเราะให้ฟันร่วง  ทั้งๆที่เขาก็รู้อยู่แก่ใจว่า  เธอเป็นคนไม่ดี  บ้าคลั่ง  เป็นฆาตกร  ทั้งๆที่เด็กสาวสวยๆดีๆก็มีถมไปแต่เขาก็ยังจะมาชวนเธอ  ไม่บ้าก็งี่เง่าแล้วหละ  ช่างเป็นคนที่ทำอะไรไม่เข้าเรื่องจริงๆ...  แต่ถึงกระนั้นเธอก็ไม่คิดจะปฏิเสธ
     ซีโร่แบมือขวาออก  คริสตัลเริ่มก่อนตัวจากกลางฝ่ามือเขาเป็นเส้นเล็กๆและสานตัวกันเป็นดอกกุหลาบสีฟ้าอ่อน  เขาลุกขึ้นแล้วทัดมันไว้ที่ข้างหูของเธอ
     "เอาหละ  เจ้าหญิงคิลล์  คืนนี้ท่านคงจะต้องเต้นรำกับข้าเพียงคนเดียวเสียแล้ว  เพราะข้าไม่ชอบแลกคู่ควง"เด็กหนุ่มพูดด้วยสีหน้าจริงจัง  แก้มขาวผ่องของเขาขึ้นสีระเรื่อเล็กน้อยจากอาการเขิน  ให้ตายสีไอ้แก้มบ้าเจ้าจะแดงทำมะเขือเทศอะไรเนี่ย!
     "แน่นอน  แต่อย่าลืมซะหละ"คิลล์ยิ้มกว้างขึ้นอีกนิดซึ่งยิ่งทำให้เธอดูน่ารักขึ้นอีกเสียจนคนมองไม่กล้าจะกระพริบตา  เพราะกลัวว่ามันจะเป็นภาพฝันที่พร้อมจะหายไปได้ทุกเมื่อ  เธอดึงมือของร่างสูงทำให้เขาเซมาข้างๆตัวเธอแล้วจึงกระซิบว่า "ข้าคนเดียวเท่านั้น"
     ใบหน้าของซีโร่ขึ้นสีแดงสุกเสียจนไม่เหลือมาดความเป็นเจ้าชาย...  ซึ่งที่จริงก็ไม่มีอยู่ตั้งแต่แรกแล้ว  เขาตั้งหลักทันทีแล้วหันไปหาร่างบางที่แกล้งให้เขาหน้าแดงเล่น  แต่ก็ไม่พบเสียแล้ว  
     ฟิ้ว  ลมสายหนึ่งพัดผ่านเข้ามาพร้อมกับประดาษโน๊ตสีดำแผ่นน้อย  บนนั้นมีข้อความที่เขียนด้วยดินสอสีเงินว่า 'อีก10นาทีอย่าลืมมารับข้าด้วหละ' เขารู้สึกประหลาดใจ  ไม่ใช่เพราะสีของกระดาษหรือข้อความในกระดาษ  แต่เป็นเพราะทันทีที่อ่านจบกระดาษนั้นก็กลายเป็นเศษขี้เถ้าทันที
     เด็กหนุ่มผมเงินยิ้มกริ่มที่ริมฝีปากน่ามองแล้วเดินกลับห้องเพื่อไปเตรียมตัวสำหรับงานเลี้ยงฉลอง
 
     เมื่อพวกเขาจากไปร่างที่แอบอยู่ในเงามืดก็พลันเคลื่อนกายออกมา  แจ๊ค  เซวีและจีเคซึ่งเพิ่งฟื้นไข้ต่างก็ยิ้มกรุ้มกริ้มที่แล้วเดินจากไปเพื่อเตรียมตัวไปงานเลี้ยง  และอีกอย่างที่พวกเขาควรจะเตรียมแต่ไม่ได้เตรียมก็คือเตรียมพบกับท่าทางไม่เป็นมิตรและสุดสยองของใครบางคน
 
     แต่เมื่อพวกเขาจากไปก็มีเงาอีกกลุ่มหนึ่งเคลื่อนกายออกมา  พวกมันดูไม่เป็นมิตรและน่าประหวั่นพรั่นพรึง
 
     งานเลี้ยงในค่ำคืนนี้จะเป้นเช่นไรกันนะ

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.4 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา