Phantom School
เขียนโดย Wondergirl
วันที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2556 เวลา 18.10 น.
แก้ไขเมื่อ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 21.03 น. โดย เจ้าของนิยาย
16) ละครแห่งโศกนาฏกรรม(เปิดม่าน)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ"อะไรนะ!" เซเรฟเอ่ยถามด้วยอารมณ์อันร้อนกรุ่น(เดือดแล้วมากกว่า) เขาทุบกำปั้นของตนใส่โต๊ะหินอัคนีตัวโปรดจนหินเกิดรอยร้าวและยุบลงไปเล็กน้อย เขามองลูกสาวของตนด้วยอารมณ์ที่ซับซ้อน เขาเป็นห่วงเธออย่างมากยิ่งเธอมาบอกว่าจะขี่มังกรไปหาจุดกำเนิดมนต์ดำที่กำลังคืบคลานเข้ามาด้วยแล้วเขายิ่งห่วงจนจนความดันขึ้น
"อย่างที่ท่านพ่อได้ยิน" คิลล์ยืนยันคำเดิมอย่างชัดเจนด้วยน้ำเสียงไร้อารมณ์ความรู้สึก
"ที่รักจ๋า..." เซเรฟพูดเสียงอ่อนอย่างไม่หวงภาพลักษณ์กับภรรยาคน(หรือว่าตน)สวยของตัวเอง
"ข้าไม่ห้ามลูก เพราะคำทำนายข้าเป็นจริง..." เนียร์หลุบตาลงมองพื้น เขากลับมาแล้ว... มาเอาชีวิตของลูกของเรา "โศกนาฏกรรมนั้นมาเยือนจริงๆ.."
ครื้นเปรี้ยง! เสียงฟ้าผ่าดังขึ้นพร้อมกับเปลวเพลิงที่ลุกลามจากยอดหอคอยทางเหนือลงไปเรื่อยๆ...
ไฟในห้องมืดดับลงและจุดติดขึ้นในไม่กี่วินาทีต่อมาทำให้ทุกคนในห้องล้วนแสดงอาการท่าทางประหลาดใจ กลุ่มคนที่ยืนรออยุ่ด้านนอกรีบเข้ามาภายในห้องทำงานของผู้อำนวยการทันที แต่เมื่อเข้ามาภายในห้องเซวีก็ถึงกับต้องยกมือปิดปากเอาไว้แน่นไม่ให้ตัวเองเผลอกรีดร้องออกไป จีเคและแจ๊คต้องรีบถอยห่างออกมาจากผนังฝั่งซ้ายของประตูทันที ส่วนไซด์ที่เข้ามาเป็นคนสุดท้ายเขายืนอยู่ระหว่างห้องกับทางเดินแล้วมองดูสิ่งที่ถูกแขวนไว้บนผนัง...
ยูนิคอร์นขนที่ทองอร่ามถูกเลือดสีเงินบริสุทธิ์อาบโลมไปกว่าครึ่งตัว เขาของมันถูกหักออก ที่ลำคอถูกเสียบไว้ด้วยดาบสีดำที่แผ่ไอดำมืดออกมา บนหลังมีรอยแผลแหวะหวะขนาดใหญ่ที่ยังคงมีเลือดสีเงินไหลซึมออกมาไม่ขาดสาย ข้างลำตัวของมันถูกตีตราด้วยมนต์ดำเป็นคำพูดอันร้ายกาจว่า 'ธิดาแห่งความตายย่อมต้องลับไหลนิรันดร์'
"น้องข้า..." เซเรฟพึมพำเสียงเบาพรางมองซากศพของยูนิคอร์น เลือกสีเงินของมันค่อยๆแปดเปื้อนและกลายเป็นสีแดงคล้ำเฉกเช่นเลือดของม้าธรรมดา "ทำไมต้องทำแบบนี้..."
"หลงผิดคิดฆ่าล้างญาติตนเพื่อพลังอำนาจ ช่างน่าอนาถใจยิ่งนัก" เนียร์สายหัวไปมาเบาๆอย่างเอือมระอา ฆ่าเธอก็ฆ่าแล้วไง อาณาจักรก็ถล่มมันไปแล้วไง ลูกของข้าเขาก้ฆ่าไปแล้วตั้งครั้งหนึ่งไม่ใช่หรือไร แล้วนี่ยังจะเอาอะไรอีกในเมื่อเขาได้ทุกอย่างแล้ว "ไม่เข้าใจพวกมารจริงๆ... มันต้องการอะไรกันแน่นนะ"
"คิลล์ไม่ปลอดภัยในที่แห่งนี้อีกต่อไปแล้วนะ ข้าว่าพานางไปหลบภัยแล้วใช้เวทย์กระจกเงาสร้างตัวปลอมเอาไว้ที่นี่ดีกว่า"ซีโร่กอดอกแล้วขมวดคิ้วครุ่นคิดอย่างจริงจัง ใครจะยอมอยู่เฉยๆให้ฆ่าหละอีกอย่าง... มารมันไม่ใช่ของหมูๆที่ต่อกรได้ง่ายๆซะด้วย
"ทำไมได้หรอกน่าไอ้รุ่นน้อง ท้องฟ้าถูกปิดล้อมจนหมดแล้ว ไปไหนได้ไม่ไกลก็โดนฆ่าอยู่ดี" ไซด์พูดขัดความคิดของซีโร่อย่างจริงจัง "ถ้าให้หนีเราไม่สู้อยู่ที่นี่แล้วฆ่ามันให้ได้มากที่สุดไม่ดีกว่าเหรอ" เขาเสนอความคิดที่ฟังดูเหมือนจะสิ้นคิดที่สุดแล้ว แต่ไม่แน่มันอาจจะเป้นสิ่งที่ดีที่สุดในตอนนี้ที่ไม่ต้องมีความเสี่ยงอะไรเลยนอกจาก 'เสี่ยงตาย'
"รุ่นพี่บ้าไปแล้วเหรอ!" เซวีและแจ๊คตะคอกใส่รุ่นพี่ที่น่าเคารพน่าเตะให้กลิ้งอย่างพร้อมเพรียง
"ไม่ได้บ้่าสักหน่อย แล้วใครมีทางเลือกอื่นหรือไง!" ไซด์โกรธจนเลือดขึ้นหน้า เขากระชากคอเลื้อของแจ๊คแล้วดึงเด็กหนุ่มที่ตัวเล็กกว่ามาตะคอกใส่หน้า "หรือนายอยากจะใช้ทางเลือกอื่นที่ต้องสูญเสียไปทีละคน!"
ในขณะที่พวกเขากำลังทะเลาะกันอยู่นั้นคิลล์ก็ฉกตัวจีเคหายไปจากในห้อง พวกเธออกไปคุยกันที่ห้องที่อยู่ด้านบนห้องทำงานของผู้อำนวยการ
"ทำไมต้องมาบอกข้า ไม่บอกแจ๊คหรือเซวีหละ หรือจะบอกมังกรของเจ้าก็ได้ เจ้านั้นไม่มีทางเอาไปบอกใครแน่" จีเคกดเสียงให้ต่ำและแผ่วจนแน่ใจว่าจะมีคนได้ยินแค่2คนที่อยุ่ในห้องเท่านั้น เธอกอดอกแล้วตจ้องใบหน้าหวานอันเรียบเฉยของคู่สนทนา
"ข้าไม่อยากให้แจ๊คลนลานจนทำอะไรได้ไม่เต็มที่ ไม่อยากให้เซวีร้องไห้ ไม่อยากให้อเล็กซิสต้องเป็นกังวล..."
"ก็เลยที่จะบอกข้าเพราะข้าเก็บอาการได้ดีที่สุด?" เด็กสาวนัยน์ตาสีฟ้าครามเอ่ยตัดบทด้วยน้ำเสียงเย็นชาอันเป็นเอกลักษณ์ "เชื่อเถอะซีโร่ไม่ยอมแน่"
"เจ้าจะบอกเขา?"
"เพราะข้ารู้ว่าเจ้าต้องการให้เขารู้สิ่งที่เจ้าฝากไว้ให้เป็นคนสุดท้าย..." จีเคหลุบตาลงไม่ให้คู่สนทนาเห็นอารมณ์ความรู้สึกบนใบหน้าเธอ ไหลมนของเธอสั่นเทาเล็กน้อย มือขาวเรียวกำหมัดแน่นจนยิ่งซีดเข้าไปใหญ่ "ถ้าข้าช่วยข้าจะได้อะไรตอบแทนหรือไง? เจ้าจะกลับมาหาข้าหรือไง? ขนาดตัวเจ้าเองยังฝากคำสั่งเสียอย่าได้บอกให้ข้าเชื่ออะไร" เสียงของเธอแหบและสั่นเครือเหมือนเสียงคำรามทุ้มต่ำ
"ขอร้องหละ..." เด็กสาวนัยน์ตาสีดำทมิฬหลับตาลงแล้วพูดเสียงเบาหวิว "แค่พวกเขาไม่ต้องมาตายพร้อมข้าก็พอแล้ว..."
จีเคนิ่งอึ้งไปหนึ่งอึดใจก่อนจะเอ่ยถามว่า "ทำไม"
"เพราะพวกเจ้าล้วนเป็นสมบัติของข้า..." คิลล์พูดด้วยน้ำเสียงเบาหวิวจนมีเธอได้ยินอยุ่ตนเดียว เพราะเธอต้องใจให้เป้นอย่างนั้น จีเคแค่ถามไม่ได้อยากได้ยินสักหน่อย... นี่คงเป้นเพียงคำแก้ต่างให้ตัวเองได้ใจชื้นขึ้นเท่านั้นสินะ
"อะไรนะ" จีเคถาม แต่แล้วเธอก็ต้องผิดหวังเมื่อพบว่าตัวเองคุยกับอากาศ "ยัยบ้า... ข้าตกลงแล้วเจ้าอย่าให้ข้าผิดหวังนะ..."
เมื่อกลับมาที่ห้องของผู้อำนวยการพบว่าพวกเขาสงบลงแล้ว ไซด์และแจ๊คมีลูกมะกรูดบวมเป่งอยู่บนหัวคนละลูก วึ่งนั่นก็เป้นฝีมือของผีสาวสุดสวยตนเดียวในที่แห่งนี้ ส่วนเซเรฟก็นั่งปรึกษากับซีโร่อยู่ที่มุมหนึ่งของห้องที่ตอนนี้ถูกปกคลุมไปด้วยบรรยากาศดำมืดชวนอึดอัดมากที่สุด
"จีเค... อย่าคืนคำนะ" คิลล์ลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดเช่นนั้นกับอีกฝ่ายแต่มันก็เป็นเพียงการขยับปากที่ไร้เสียงใดเล็ดลอดออกมาเท่านั้น
"ข้าสู้ด้วย" คิลล์หันไปบอกกับผู้เป็นพ่อด้วยน้ำเสียงมุ่งมั่นแข็งกล้าแล้วยิ้มอวดฟันขาวสวย "ลูกโตแล้วนะท่านพ่อ"
"ไม่..."
"ข้ารู้ๆ ไม่ต้องห้ามข้าเลยนะเจ้าบ้าขี้อาย ข้าจะบอกอะไำรให้..." คิลล์พูดตัดบทซีโร่ที่กำลังจะขัดขวางการร่วมรบของเธอ "ในเมื่อเลือดมันแปดเปื้อนก็ย่อมต้องล้างด้วยเลือดเช่นกัน..." รอยยิ้มเหี้ยมปรากฏขึ้นบนใบหน้าหวานสวยของเด็กสาวราวกับว่ามือสังหารโหดผู้โด่งดังได้กลับมาฟื้นคืนชีพอีกครั้ง
บนลำคอขาวเนียนของเด็กสาวผมดำลอนปรากฏรอยแผลเป็นสีคล้ำล้อมรอบเป็นแนวตรง รอยยิ้มเหี้ยมค่อยๆเลือนหายไปเหลือไว้เพียงใบหน้าเรียบเฉยอันแฝงเร้นตัวความโกรธและเย็นชาในขณะเดียวกัน
ใช่... เลือดต้องล้างด้วยเลือด ชีวิตก็ต้องแลกมันด้วยชีวิตเช่นกัน...
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ