Phantom School

8.8

เขียนโดย Wondergirl

วันที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2556 เวลา 18.10 น.

  20 บท
  2 วิจารณ์
  23.67K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 21.03 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

16) ละครแห่งโศกนาฏกรรม(เปิดม่าน)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

     "อะไรนะ!" เซเรฟเอ่ยถามด้วยอารมณ์อันร้อนกรุ่น(เดือดแล้วมากกว่า)  เขาทุบกำปั้นของตนใส่โต๊ะหินอัคนีตัวโปรดจนหินเกิดรอยร้าวและยุบลงไปเล็กน้อย  เขามองลูกสาวของตนด้วยอารมณ์ที่ซับซ้อน  เขาเป็นห่วงเธออย่างมากยิ่งเธอมาบอกว่าจะขี่มังกรไปหาจุดกำเนิดมนต์ดำที่กำลังคืบคลานเข้ามาด้วยแล้วเขายิ่งห่วงจนจนความดันขึ้น

     "อย่างที่ท่านพ่อได้ยิน" คิลล์ยืนยันคำเดิมอย่างชัดเจนด้วยน้ำเสียงไร้อารมณ์ความรู้สึก

     "ที่รักจ๋า..." เซเรฟพูดเสียงอ่อนอย่างไม่หวงภาพลักษณ์กับภรรยาคน(หรือว่าตน)สวยของตัวเอง

     "ข้าไม่ห้ามลูก  เพราะคำทำนายข้าเป็นจริง..." เนียร์หลุบตาลงมองพื้น   เขากลับมาแล้ว...  มาเอาชีวิตของลูกของเรา "โศกนาฏกรรมนั้นมาเยือนจริงๆ.."

     ครื้นเปรี้ยง!  เสียงฟ้าผ่าดังขึ้นพร้อมกับเปลวเพลิงที่ลุกลามจากยอดหอคอยทางเหนือลงไปเรื่อยๆ...

     ไฟในห้องมืดดับลงและจุดติดขึ้นในไม่กี่วินาทีต่อมาทำให้ทุกคนในห้องล้วนแสดงอาการท่าทางประหลาดใจ  กลุ่มคนที่ยืนรออยุ่ด้านนอกรีบเข้ามาภายในห้องทำงานของผู้อำนวยการทันที  แต่เมื่อเข้ามาภายในห้องเซวีก็ถึงกับต้องยกมือปิดปากเอาไว้แน่นไม่ให้ตัวเองเผลอกรีดร้องออกไป  จีเคและแจ๊คต้องรีบถอยห่างออกมาจากผนังฝั่งซ้ายของประตูทันที  ส่วนไซด์ที่เข้ามาเป็นคนสุดท้ายเขายืนอยู่ระหว่างห้องกับทางเดินแล้วมองดูสิ่งที่ถูกแขวนไว้บนผนัง...

     ยูนิคอร์นขนที่ทองอร่ามถูกเลือดสีเงินบริสุทธิ์อาบโลมไปกว่าครึ่งตัว  เขาของมันถูกหักออก  ที่ลำคอถูกเสียบไว้ด้วยดาบสีดำที่แผ่ไอดำมืดออกมา  บนหลังมีรอยแผลแหวะหวะขนาดใหญ่ที่ยังคงมีเลือดสีเงินไหลซึมออกมาไม่ขาดสาย  ข้างลำตัวของมันถูกตีตราด้วยมนต์ดำเป็นคำพูดอันร้ายกาจว่า 'ธิดาแห่งความตายย่อมต้องลับไหลนิรันดร์'

     "น้องข้า..." เซเรฟพึมพำเสียงเบาพรางมองซากศพของยูนิคอร์น  เลือกสีเงินของมันค่อยๆแปดเปื้อนและกลายเป็นสีแดงคล้ำเฉกเช่นเลือดของม้าธรรมดา "ทำไมต้องทำแบบนี้..."

     "หลงผิดคิดฆ่าล้างญาติตนเพื่อพลังอำนาจ  ช่างน่าอนาถใจยิ่งนัก" เนียร์สายหัวไปมาเบาๆอย่างเอือมระอา  ฆ่าเธอก็ฆ่าแล้วไง  อาณาจักรก็ถล่มมันไปแล้วไง  ลูกของข้าเขาก้ฆ่าไปแล้วตั้งครั้งหนึ่งไม่ใช่หรือไร  แล้วนี่ยังจะเอาอะไรอีกในเมื่อเขาได้ทุกอย่างแล้ว "ไม่เข้าใจพวกมารจริงๆ...  มันต้องการอะไรกันแน่นนะ"

     "คิลล์ไม่ปลอดภัยในที่แห่งนี้อีกต่อไปแล้วนะ  ข้าว่าพานางไปหลบภัยแล้วใช้เวทย์กระจกเงาสร้างตัวปลอมเอาไว้ที่นี่ดีกว่า"ซีโร่กอดอกแล้วขมวดคิ้วครุ่นคิดอย่างจริงจัง  ใครจะยอมอยู่เฉยๆให้ฆ่าหละอีกอย่าง...  มารมันไม่ใช่ของหมูๆที่ต่อกรได้ง่ายๆซะด้วย 

     "ทำไมได้หรอกน่าไอ้รุ่นน้อง  ท้องฟ้าถูกปิดล้อมจนหมดแล้ว  ไปไหนได้ไม่ไกลก็โดนฆ่าอยู่ดี" ไซด์พูดขัดความคิดของซีโร่อย่างจริงจัง "ถ้าให้หนีเราไม่สู้อยู่ที่นี่แล้วฆ่ามันให้ได้มากที่สุดไม่ดีกว่าเหรอ" เขาเสนอความคิดที่ฟังดูเหมือนจะสิ้นคิดที่สุดแล้ว  แต่ไม่แน่มันอาจจะเป้นสิ่งที่ดีที่สุดในตอนนี้ที่ไม่ต้องมีความเสี่ยงอะไรเลยนอกจาก 'เสี่ยงตาย'

     "รุ่นพี่บ้าไปแล้วเหรอ!" เซวีและแจ๊คตะคอกใส่รุ่นพี่ที่น่าเคารพน่าเตะให้กลิ้งอย่างพร้อมเพรียง

     "ไม่ได้บ้่าสักหน่อย  แล้วใครมีทางเลือกอื่นหรือไง!" ไซด์โกรธจนเลือดขึ้นหน้า  เขากระชากคอเลื้อของแจ๊คแล้วดึงเด็กหนุ่มที่ตัวเล็กกว่ามาตะคอกใส่หน้า "หรือนายอยากจะใช้ทางเลือกอื่นที่ต้องสูญเสียไปทีละคน!"

     ในขณะที่พวกเขากำลังทะเลาะกันอยู่นั้นคิลล์ก็ฉกตัวจีเคหายไปจากในห้อง  พวกเธออกไปคุยกันที่ห้องที่อยู่ด้านบนห้องทำงานของผู้อำนวยการ

 

     "ทำไมต้องมาบอกข้า  ไม่บอกแจ๊คหรือเซวีหละ  หรือจะบอกมังกรของเจ้าก็ได้  เจ้านั้นไม่มีทางเอาไปบอกใครแน่" จีเคกดเสียงให้ต่ำและแผ่วจนแน่ใจว่าจะมีคนได้ยินแค่2คนที่อยุ่ในห้องเท่านั้น  เธอกอดอกแล้วตจ้องใบหน้าหวานอันเรียบเฉยของคู่สนทนา

     "ข้าไม่อยากให้แจ๊คลนลานจนทำอะไรได้ไม่เต็มที่  ไม่อยากให้เซวีร้องไห้  ไม่อยากให้อเล็กซิสต้องเป็นกังวล..."

     "ก็เลยที่จะบอกข้าเพราะข้าเก็บอาการได้ดีที่สุด?" เด็กสาวนัยน์ตาสีฟ้าครามเอ่ยตัดบทด้วยน้ำเสียงเย็นชาอันเป็นเอกลักษณ์ "เชื่อเถอะซีโร่ไม่ยอมแน่"

     "เจ้าจะบอกเขา?"

     "เพราะข้ารู้ว่าเจ้าต้องการให้เขารู้สิ่งที่เจ้าฝากไว้ให้เป็นคนสุดท้าย..." จีเคหลุบตาลงไม่ให้คู่สนทนาเห็นอารมณ์ความรู้สึกบนใบหน้าเธอ  ไหลมนของเธอสั่นเทาเล็กน้อย  มือขาวเรียวกำหมัดแน่นจนยิ่งซีดเข้าไปใหญ่ "ถ้าข้าช่วยข้าจะได้อะไรตอบแทนหรือไง?  เจ้าจะกลับมาหาข้าหรือไง?  ขนาดตัวเจ้าเองยังฝากคำสั่งเสียอย่าได้บอกให้ข้าเชื่ออะไร" เสียงของเธอแหบและสั่นเครือเหมือนเสียงคำรามทุ้มต่ำ

     "ขอร้องหละ..." เด็กสาวนัยน์ตาสีดำทมิฬหลับตาลงแล้วพูดเสียงเบาหวิว "แค่พวกเขาไม่ต้องมาตายพร้อมข้าก็พอแล้ว..."

     จีเคนิ่งอึ้งไปหนึ่งอึดใจก่อนจะเอ่ยถามว่า "ทำไม"

     "เพราะพวกเจ้าล้วนเป็นสมบัติของข้า..." คิลล์พูดด้วยน้ำเสียงเบาหวิวจนมีเธอได้ยินอยุ่ตนเดียว  เพราะเธอต้องใจให้เป้นอย่างนั้น  จีเคแค่ถามไม่ได้อยากได้ยินสักหน่อย...  นี่คงเป้นเพียงคำแก้ต่างให้ตัวเองได้ใจชื้นขึ้นเท่านั้นสินะ

     "อะไรนะ" จีเคถาม  แต่แล้วเธอก็ต้องผิดหวังเมื่อพบว่าตัวเองคุยกับอากาศ "ยัยบ้า...  ข้าตกลงแล้วเจ้าอย่าให้ข้าผิดหวังนะ..."

 

     เมื่อกลับมาที่ห้องของผู้อำนวยการพบว่าพวกเขาสงบลงแล้ว  ไซด์และแจ๊คมีลูกมะกรูดบวมเป่งอยู่บนหัวคนละลูก  วึ่งนั่นก็เป้นฝีมือของผีสาวสุดสวยตนเดียวในที่แห่งนี้  ส่วนเซเรฟก็นั่งปรึกษากับซีโร่อยู่ที่มุมหนึ่งของห้องที่ตอนนี้ถูกปกคลุมไปด้วยบรรยากาศดำมืดชวนอึดอัดมากที่สุด  

     "จีเค...  อย่าคืนคำนะ" คิลล์ลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดเช่นนั้นกับอีกฝ่ายแต่มันก็เป็นเพียงการขยับปากที่ไร้เสียงใดเล็ดลอดออกมาเท่านั้น

     "ข้าสู้ด้วย" คิลล์หันไปบอกกับผู้เป็นพ่อด้วยน้ำเสียงมุ่งมั่นแข็งกล้าแล้วยิ้มอวดฟันขาวสวย "ลูกโตแล้วนะท่านพ่อ"

     "ไม่..."

     "ข้ารู้ๆ  ไม่ต้องห้ามข้าเลยนะเจ้าบ้าขี้อาย  ข้าจะบอกอะไำรให้..." คิลล์พูดตัดบทซีโร่ที่กำลังจะขัดขวางการร่วมรบของเธอ "ในเมื่อเลือดมันแปดเปื้อนก็ย่อมต้องล้างด้วยเลือดเช่นกัน..." รอยยิ้มเหี้ยมปรากฏขึ้นบนใบหน้าหวานสวยของเด็กสาวราวกับว่ามือสังหารโหดผู้โด่งดังได้กลับมาฟื้นคืนชีพอีกครั้ง

      บนลำคอขาวเนียนของเด็กสาวผมดำลอนปรากฏรอยแผลเป็นสีคล้ำล้อมรอบเป็นแนวตรง  รอยยิ้มเหี้ยมค่อยๆเลือนหายไปเหลือไว้เพียงใบหน้าเรียบเฉยอันแฝงเร้นตัวความโกรธและเย็นชาในขณะเดียวกัน

 

     ใช่...  เลือดต้องล้างด้วยเลือด  ชีวิตก็ต้องแลกมันด้วยชีวิตเช่นกัน...

     

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.4 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา