Phantom School
8.8
เขียนโดย Wondergirl
วันที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2556 เวลา 18.10 น.
20 บท
2 วิจารณ์
23.71K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 21.03 น. โดย เจ้าของนิยาย
15) ตอนพิเศษ:วันที่ทุกอย่างสิ้นไปกับตา
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ ในเย็นวันหนึ่งในปราสาทแห่งอาราจักรสีเทาหรือที่รู้จักกันในนามอาณาจักรแห่งความเป็นกลาง เราไม่มีขาวไม่มีดำ ไม่มีชั่วหรือดี ทุกคนสามารถอยู่ร่วมกันที่อาณาจักรนี้ได้หมด มันเป็นอาณาจักรในฝันของหลากหลายเผ่าพันธุ์และทุกชีวิตที่อยากกลับใจ...
ดูเหมือนจะวุ่นวาย... แต่ไม่เลยมันกลับปกติดีและสงบสุขอย่างยิ่งเพราะทุกชีวิตล้วนถูกเลือกเข้ามาอยู่อย่างเต็มใจไม่ได้เลือกมาอยู่เองตามความพอใจ
ข้ารู้สึกว่าทุกอย่างล้วนเป็นไปตามที่ข้าวางเอาไว้ทั้งหมดถึงแมเศัตรูของข้าจะยังคงตื้นรังควานไม่เลิกราก็ตามแต่ แต่อย่างน้อยลูกและภรรยาสุดที่รักก็ยังอยุ่เมืองภายในปกครองก็สงบสุขดี น่าประหลาดที่คนเหลวเป๋ว เละเทะ เกเร เจ้าเลห์และหล่อเหลาบาดใจอย่างข้าผู้นี้จะเป้นคนสร้างมันทั้งหมด ก็แหงกษัตริย์ส่วนใหญ่มีแต่ให้แก่หัวล้านหรือไม่ก้แก่หงำเงอะเคี้ยวสเต็กเนื้องู(?)ไม่เข้า
ในขณะที่ข้ากำลังนั่งมองเอกสารคำร้องอันน่าเบื่อหน่ายของพวกผู้ร้ายข้ามแดนอยู่นั้น ข้าก้อธิฐานให้ภรรยาสุดรักสุดหวงสุดแสนจะสวยเลิศและน่ารักที่สุดในสามภพ(?)ของข้าอุ้มลูกสาวแสนน่ารักไม่แพ้กันมาหาป๊ะป๋าผู้ตรากตรำ(?)ทำงานอย่างข้าบ้าง
ก๊อกๆๆ เสียงเคาะประตูติดต่อกัน3ครั้งดังขึ้น ข้าได้ยินแล้วแต่ข้ากลัวว่าจะเป็นพวกเสนาที่จะเอากองภูเขากระดาษมาถมห้องข้า(ป.ล. อะที่จริงมันคือเอกสารที่ข้าต้องจักการนั่นแหละ)
หลังจากเสียงเคาะเงียบไปได้3วิเศษๆประตูไม้อันแสนน่าสงสารของข้าก็หัก2ท่อนแล้วปลิวไปติดผนังด้านหลังห้อง ซึ่งมันเฉียดหัวข้าไปแค่1เซ็นเท่านั้น... ฮือๆ สงสัยข้าจะต้องเบิกเงินภาษีล่วงหน้ามาซื้อประตูเหล็กเสียแล้วไม่งั้นเพราะภรรยาสุดที่รักของข้า ข้าคงจะต้องเปลี่ยนประตูทุกครั้งที่นางมาหา...
"เซเรฟ! ทำไมเจ้าไม่เปิดประตูหา! ชอบให้ข้าใช้กำลังนักหรือไร!" หญิงสาวผมดำสลวยยาวถึงกลางหลังในชุดกระโปรงเีรียบสีฟ้าเดินตรงเข้ามาทุบโต๊ะทำงานของข้าจนยุบลงไปนิดหน่อย ในอ้อมแขนขวาของเธอมีเด็กผู้หญิงตัวน้อยสุดแสนน่ารักที่หน้าตาเหมือนแม่ไม่มีผิดเพี้ยนจนข้าหละเซ็งนิดๆที่ลุกสาวข้าคนนี้ไม่เหมือนข้าเลยซักนิด
อ้อ! ลูกสาวข้าอายุ3ขวบแล้วนะ น่ารักมาด้วย เรียกป๊ะป๋่าเป็นแล้วด้วยนะ อ่านออกเขียนได้ อะไรลุกสาวข้าจะน่ารักขนาดนี้โอ้~~~ ต่อให้เอาเจ้าหญิงจาก52แคว้นมาแลกข้าก็ไม่ให้ใครทั้งสิ้น (จากนักเขียนถึงเซเรฟ-แล้วใครมันจะแลกกับท่านมิทราบเจ้าคะ)
(จากเซเรฟถึงนักเขียนที่ยียวนกวนวัยรุ่น-มีหน้าที่เขียนก็เขียนไปสิฟ่ะ!)
เอาหละเรามาว่ากันต่อ อะแฮ่มๆ... หลังจากที่นางวางลูกสาวของข้าลงให้นางไปเดินเล่นรอบๆห้องแล้วนางก็เริ่มการเทศนามารธอน ซึ่งทำเอาข้าแยกแยะภาษาไปออกไปเป็นอาทิตย์ เพราะนางขุดสารพันภาษาเท่าที่จะหาได้มาด่าข้าตั้งแต่ภาษาของก็อบลินที่อยุ่ใต้ดินไปจนถึงภาษาภูตสวรรค์ที่อยู่บนฟ้า... แล้วทำไมข้าถึงต้องฟังรู้เรื่องทุกภาษาที่นางพูดด้วยหละ ฮือๆ ข้าอยากจะเกิดเป็นสิ่งมีชีวิตหูหนวกจริงๆ
ในคืนหนึ่งขณะที่ข้ากำลังหลับอยู่นั้น ข้าก็ได้ยินเสียงเอะอะโวยวายังออกมาจากนอกห้อง ซึ่งห้องของข้ามีผนังหนามากพอที่จะตัดเสียงทุกอย่าง น่าแปลกที่ข้ายังได้ยินเสียงเอะอะโวยวายพวกนี้อยู่... อืม เสียงเหมือนฝูงยุงบินผ่าน...
ข้าฟังไม่รู้เรื่องเฟ้ย! และแล้วข้าก็ทำการระเบิดประตูห้องนอนตัวเองทิ้งโดยลืมไปสนิทว่าข้าสามารถเปิดมันออกไปอย่างนุ่มนวลได้
ทางเดินด้านนอกเหลือแต่ศพทหารผู้ภักดีของข้าตายเกลื่อนกลานในสภาพที่ดูไม่ได้มากที่สุดและน่าสยดสยองมากที่สุด ผนังหินสีเทาของข้าบัดนี้ถูกย้อมด้วยสีแดงฉานของเลือดและแสงสีส้มของเปลวเพลิงที่กำลังแผดเผาปราสาทหลังงามและลบอาณาจักรของข้าออกจากแผนที่ให้เหลือจารึกไว้เพียงประวัติศาสตร์
ข้ารู้สึกเหมือนวิญญาณลอยออกจากปาก ทุกอย่างที่ข้าทุ่มเทมากว่าร้อยปีกำลังจะเหลือเพียงเถ้าถ่าน แต่นั่นยังไม่สำคัญเท่า...
ลูกสาวและคนรัก ด้วยความเป็นห่วงและลนลานทำอะไรไม่ถูกข้าจึงใช้เวทย์มนตืพาตัวเองให้มาถึงห้องนอนของหญิงอันเป็นที่รัก
ภายในห้องที่ควรจะมืดมิดกลับถูกอาบไปด้วยแสงสีส้มจากเปลวเพลิง หญิงสาวผมสีดำสนิทกอดเด็กสาวที่มีหน้าตาพิมพ์เดียวกันเอาไว้ในอ้อมแขน ร่างบอบบางเต็มไปด้วยรอยแผล ยางสู้จนไม่เหลืออะไรจะให้ใช้ปกป้องเด็กน้อยอีกแล้วนอกจากร่างกายอันอ่อนแอของตนเอง
ถึงกระนั้นข้าก็ทำได้เพียงแต่ยืนเฝ้ามอง... ทำไมข้าขยับไม่ได้ เข้าไปช่วยนางเอาไว้ไม่ได้ ปกป้องเอาไว้ไม่ได้เลย
ชายในชุดผ้าคลุมสีดำแทงดาบลงที่กลางอกของนาง เลือดสดๆไหลรินและเปรอะเปื้อนตัวของเด็กน้อยและฆาตรกร
ลูกสาวของข้ากอดร่างไร้วิญญาณของผู้เป็นแม่เอาไว้แน่น ใบหน้าเย็นชาไร้อารมณ์ใดๆดูน่าหวาดหวั่นเสียยิ่งกว่าฆาตรกรหรือการจากไปของหญิงอันเป็นที่รักต่อหน้าต่อตา เด็กน้อยตวัดดวงตาสีดำวาวมองร่างในผ้าคลุมนั้น
วินาทีถัดมา ศีรษะของเธอก็แยกออกจากร่างและตกลงข้างๆร่างไร้ชีวิตของหญิงผู้เป็นมารดา ส่วนฆาตรกรนั้นถูกเปิดเผยตัวตนพร้อมกับอัขระที่ถูกสลักฝังลงในผิวหนังว่า 'เลือดต้องล้างด้วยเลือด'
ข้าจดจำใบหน้าของผู้ที่สังหารลูกเมียของข้าได้ไม่เคยลืม... อนุชาของข้า ทำไมถึงทำกับพี่ได้ลงคอ...
"ท่านพ่อ!" เสียงหวานดังแว่วขึ้นในโสตประสาทอันพร่าเลือนพร้อมกับฝันร้ายที่จบลง ข้าลืมตาตื่นขึ้น ใบหน้าที่เห้นนั้นทำเอาข้าแทบจะรักษามาดเอาไว้ไม่อยู่... ดีจริงๆที่ลูกสาวของข้าได้คืนชีพมาหาข้าอีกครั้ง
"คิลล์เองเหรอ? หม่าม้าไปไหนซะหละ" ข้าถามนางด้วยน้ำเสียงเฉยชา
"เซเรฟ! บังอาจมากอู้งานต่อหน้าลูก!" และแล้วนางก็โผล่ออกมาข้างๆข้าด้วยร่างโปร่งแสงพร้อมกับเทศนาข้าต่อหน้าลูกด้วยภาษาเอลฟ์ ข้าจะดีใจดีไหมที่ภรรยาเก่งหลากภาษาใช้เวทย์และถอนเวทยืได้เกือบทุกชนิด
"จ้าๆ เนียร์ที่รัก มาให้หอมแก้มหน่อยสิ"
"ขนาดผีเจ้ายังไม่เว้น!"
ดูเหมือนจะวุ่นวาย... แต่ไม่เลยมันกลับปกติดีและสงบสุขอย่างยิ่งเพราะทุกชีวิตล้วนถูกเลือกเข้ามาอยู่อย่างเต็มใจไม่ได้เลือกมาอยู่เองตามความพอใจ
ข้ารู้สึกว่าทุกอย่างล้วนเป็นไปตามที่ข้าวางเอาไว้ทั้งหมดถึงแมเศัตรูของข้าจะยังคงตื้นรังควานไม่เลิกราก็ตามแต่ แต่อย่างน้อยลูกและภรรยาสุดที่รักก็ยังอยุ่เมืองภายในปกครองก็สงบสุขดี น่าประหลาดที่คนเหลวเป๋ว เละเทะ เกเร เจ้าเลห์และหล่อเหลาบาดใจอย่างข้าผู้นี้จะเป้นคนสร้างมันทั้งหมด ก็แหงกษัตริย์ส่วนใหญ่มีแต่ให้แก่หัวล้านหรือไม่ก้แก่หงำเงอะเคี้ยวสเต็กเนื้องู(?)ไม่เข้า
ในขณะที่ข้ากำลังนั่งมองเอกสารคำร้องอันน่าเบื่อหน่ายของพวกผู้ร้ายข้ามแดนอยู่นั้น ข้าก้อธิฐานให้ภรรยาสุดรักสุดหวงสุดแสนจะสวยเลิศและน่ารักที่สุดในสามภพ(?)ของข้าอุ้มลูกสาวแสนน่ารักไม่แพ้กันมาหาป๊ะป๋าผู้ตรากตรำ(?)ทำงานอย่างข้าบ้าง
ก๊อกๆๆ เสียงเคาะประตูติดต่อกัน3ครั้งดังขึ้น ข้าได้ยินแล้วแต่ข้ากลัวว่าจะเป็นพวกเสนาที่จะเอากองภูเขากระดาษมาถมห้องข้า(ป.ล. อะที่จริงมันคือเอกสารที่ข้าต้องจักการนั่นแหละ)
หลังจากเสียงเคาะเงียบไปได้3วิเศษๆประตูไม้อันแสนน่าสงสารของข้าก็หัก2ท่อนแล้วปลิวไปติดผนังด้านหลังห้อง ซึ่งมันเฉียดหัวข้าไปแค่1เซ็นเท่านั้น... ฮือๆ สงสัยข้าจะต้องเบิกเงินภาษีล่วงหน้ามาซื้อประตูเหล็กเสียแล้วไม่งั้นเพราะภรรยาสุดที่รักของข้า ข้าคงจะต้องเปลี่ยนประตูทุกครั้งที่นางมาหา...
"เซเรฟ! ทำไมเจ้าไม่เปิดประตูหา! ชอบให้ข้าใช้กำลังนักหรือไร!" หญิงสาวผมดำสลวยยาวถึงกลางหลังในชุดกระโปรงเีรียบสีฟ้าเดินตรงเข้ามาทุบโต๊ะทำงานของข้าจนยุบลงไปนิดหน่อย ในอ้อมแขนขวาของเธอมีเด็กผู้หญิงตัวน้อยสุดแสนน่ารักที่หน้าตาเหมือนแม่ไม่มีผิดเพี้ยนจนข้าหละเซ็งนิดๆที่ลุกสาวข้าคนนี้ไม่เหมือนข้าเลยซักนิด
อ้อ! ลูกสาวข้าอายุ3ขวบแล้วนะ น่ารักมาด้วย เรียกป๊ะป๋่าเป็นแล้วด้วยนะ อ่านออกเขียนได้ อะไรลุกสาวข้าจะน่ารักขนาดนี้โอ้~~~ ต่อให้เอาเจ้าหญิงจาก52แคว้นมาแลกข้าก็ไม่ให้ใครทั้งสิ้น (จากนักเขียนถึงเซเรฟ-แล้วใครมันจะแลกกับท่านมิทราบเจ้าคะ)
(จากเซเรฟถึงนักเขียนที่ยียวนกวนวัยรุ่น-มีหน้าที่เขียนก็เขียนไปสิฟ่ะ!)
เอาหละเรามาว่ากันต่อ อะแฮ่มๆ... หลังจากที่นางวางลูกสาวของข้าลงให้นางไปเดินเล่นรอบๆห้องแล้วนางก็เริ่มการเทศนามารธอน ซึ่งทำเอาข้าแยกแยะภาษาไปออกไปเป็นอาทิตย์ เพราะนางขุดสารพันภาษาเท่าที่จะหาได้มาด่าข้าตั้งแต่ภาษาของก็อบลินที่อยุ่ใต้ดินไปจนถึงภาษาภูตสวรรค์ที่อยู่บนฟ้า... แล้วทำไมข้าถึงต้องฟังรู้เรื่องทุกภาษาที่นางพูดด้วยหละ ฮือๆ ข้าอยากจะเกิดเป็นสิ่งมีชีวิตหูหนวกจริงๆ
ในคืนหนึ่งขณะที่ข้ากำลังหลับอยู่นั้น ข้าก็ได้ยินเสียงเอะอะโวยวายังออกมาจากนอกห้อง ซึ่งห้องของข้ามีผนังหนามากพอที่จะตัดเสียงทุกอย่าง น่าแปลกที่ข้ายังได้ยินเสียงเอะอะโวยวายพวกนี้อยู่... อืม เสียงเหมือนฝูงยุงบินผ่าน...
ข้าฟังไม่รู้เรื่องเฟ้ย! และแล้วข้าก็ทำการระเบิดประตูห้องนอนตัวเองทิ้งโดยลืมไปสนิทว่าข้าสามารถเปิดมันออกไปอย่างนุ่มนวลได้
ทางเดินด้านนอกเหลือแต่ศพทหารผู้ภักดีของข้าตายเกลื่อนกลานในสภาพที่ดูไม่ได้มากที่สุดและน่าสยดสยองมากที่สุด ผนังหินสีเทาของข้าบัดนี้ถูกย้อมด้วยสีแดงฉานของเลือดและแสงสีส้มของเปลวเพลิงที่กำลังแผดเผาปราสาทหลังงามและลบอาณาจักรของข้าออกจากแผนที่ให้เหลือจารึกไว้เพียงประวัติศาสตร์
ข้ารู้สึกเหมือนวิญญาณลอยออกจากปาก ทุกอย่างที่ข้าทุ่มเทมากว่าร้อยปีกำลังจะเหลือเพียงเถ้าถ่าน แต่นั่นยังไม่สำคัญเท่า...
ลูกสาวและคนรัก ด้วยความเป็นห่วงและลนลานทำอะไรไม่ถูกข้าจึงใช้เวทย์มนตืพาตัวเองให้มาถึงห้องนอนของหญิงอันเป็นที่รัก
ภายในห้องที่ควรจะมืดมิดกลับถูกอาบไปด้วยแสงสีส้มจากเปลวเพลิง หญิงสาวผมสีดำสนิทกอดเด็กสาวที่มีหน้าตาพิมพ์เดียวกันเอาไว้ในอ้อมแขน ร่างบอบบางเต็มไปด้วยรอยแผล ยางสู้จนไม่เหลืออะไรจะให้ใช้ปกป้องเด็กน้อยอีกแล้วนอกจากร่างกายอันอ่อนแอของตนเอง
ถึงกระนั้นข้าก็ทำได้เพียงแต่ยืนเฝ้ามอง... ทำไมข้าขยับไม่ได้ เข้าไปช่วยนางเอาไว้ไม่ได้ ปกป้องเอาไว้ไม่ได้เลย
ชายในชุดผ้าคลุมสีดำแทงดาบลงที่กลางอกของนาง เลือดสดๆไหลรินและเปรอะเปื้อนตัวของเด็กน้อยและฆาตรกร
ลูกสาวของข้ากอดร่างไร้วิญญาณของผู้เป็นแม่เอาไว้แน่น ใบหน้าเย็นชาไร้อารมณ์ใดๆดูน่าหวาดหวั่นเสียยิ่งกว่าฆาตรกรหรือการจากไปของหญิงอันเป็นที่รักต่อหน้าต่อตา เด็กน้อยตวัดดวงตาสีดำวาวมองร่างในผ้าคลุมนั้น
วินาทีถัดมา ศีรษะของเธอก็แยกออกจากร่างและตกลงข้างๆร่างไร้ชีวิตของหญิงผู้เป็นมารดา ส่วนฆาตรกรนั้นถูกเปิดเผยตัวตนพร้อมกับอัขระที่ถูกสลักฝังลงในผิวหนังว่า 'เลือดต้องล้างด้วยเลือด'
ข้าจดจำใบหน้าของผู้ที่สังหารลูกเมียของข้าได้ไม่เคยลืม... อนุชาของข้า ทำไมถึงทำกับพี่ได้ลงคอ...
"ท่านพ่อ!" เสียงหวานดังแว่วขึ้นในโสตประสาทอันพร่าเลือนพร้อมกับฝันร้ายที่จบลง ข้าลืมตาตื่นขึ้น ใบหน้าที่เห้นนั้นทำเอาข้าแทบจะรักษามาดเอาไว้ไม่อยู่... ดีจริงๆที่ลูกสาวของข้าได้คืนชีพมาหาข้าอีกครั้ง
"คิลล์เองเหรอ? หม่าม้าไปไหนซะหละ" ข้าถามนางด้วยน้ำเสียงเฉยชา
"เซเรฟ! บังอาจมากอู้งานต่อหน้าลูก!" และแล้วนางก็โผล่ออกมาข้างๆข้าด้วยร่างโปร่งแสงพร้อมกับเทศนาข้าต่อหน้าลูกด้วยภาษาเอลฟ์ ข้าจะดีใจดีไหมที่ภรรยาเก่งหลากภาษาใช้เวทย์และถอนเวทยืได้เกือบทุกชนิด
"จ้าๆ เนียร์ที่รัก มาให้หอมแก้มหน่อยสิ"
"ขนาดผีเจ้ายังไม่เว้น!"
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.4 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ