THE SUN เพราะว่ารัก กูถึงต้องร้าย!!! (Yaoi'Boys love )
เขียนโดย Musun
วันที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2556 เวลา 15.55 น.
แก้ไขเมื่อ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 14.25 น. โดย เจ้าของนิยาย
2) THE SUN :1
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความTHE SUN :1
บรืนนนนนนนน
กรี๊ดดดดด ว้ากกกกกกกกกกกกกก
เสียงเครื่องยนต์ ดังกระหึ่มพร้อมกับอัฟฟ่า โรมิโอ สีดำที่มีผมเป็นผู้บังคับพวงมาลัย แล่นเข้าสู่สนาม พร้อมกับเสียงกรีดร้องของผู้ชมในวันนี้ บนอัฒจรรย์ตอนนี้กำลังเฮฮา คึกคลื้นได้อีก ยิ่งพอผมนำอัฟฟ่า โรมิโอ ลูกรักของลงสนามมาเสียงกรีดร้องยิ่งดังขึ้นไปอีกบ่งบอกได้ถึงความป่าเถื่อนดีแท้ ผมนั้งมองบรรยากาศที่คุ้นเคยอยู่ในรถเงียบๆด้วยสายตาที่ไม่บ่งบอกอารมณ์ใดๆกี่ปีแล้วนะที่สายตาของผมคู่นี้มันไม่ท้อประกายและแสดงความรู้สึกออกมาเลย....
ผมเบนสายตาไปยังกลุ่มคนอีกกลุ่มที่อยู่ไม่ไกลและก็แสยะยิ้มออกมาเมื่อเห็นว่าคู่แข่งของผมวันนี้คือใคร ผู้ชายตัวสูงที่ประมาณทางสายตาแล้วน่าจะอยู่ที่187ผิวขาวหน้าตาจัดว่าหล่อเลยทีเดียว ยืนพิง BMW Z4 สีดำ ที่มองเผินๆเหมือนรถหรูๆธรรมดา แต่เพราะผมอยู่ในวงการนี้นานพอที่จะดูออกว่ารถคันนี้ทำไว้แข่ง หึ! แต่ขอโทษเถอะ ถึงรถจะดูดีแค่ไหนแต่ถ้าคนขับมันห่วย ค่าของสมการก็เท่ากับX และก็นะผมน่ะไม่ได้อ่อนขนาดนั้นหรอก ตอนนี้เป็นเวลาตี2 ซึ่งผมจะลงแข่งในรอบสุดท้ายซึ่งเป็นรอบที่มีแต่ระดับ'ตัวท็อป'ทั้งนั้น ดังนั้นเดิมพันในรอบนี้จึงสูงมาก และรอบนี้ถ้าผมชนะผมจะได้ เงินเล็กๆน้อยๆแค่2แสนกว่าๆแต่ถ้าผมแพ้ อัฟฟ่า โรมิโอ คู่บารมีก็จะโดนยึดไป ซึ่งผมไม่มีวันยอม อัฟฟ่า โรมิโอ คันนี้ อยู่กับผมมาตั้งแต่ผมเริ่มแข่งใหม่ๆมันเป็นรถที่พวกมาฆีย์ปรับแต่งขึ้นมาเพื่อผมโดยเฉพาะ ผมจึงรักรถคันนี้มากถึงมันจะไม่ใช่ของผมก็ตามเถอะ แต่ถ้ามีใครอยากจะลองดี ผมก็พร้อมจะสนองให้มันรู้ว่า ผมน่ะ ' มีดี ' กว่าที่พวกมันคิด
ก๊อกๆ เสียงเคาะกระจกทางฝั่งข้างคนขับทำให้ผมที่นั่งประเมินคู่แข่งอยู่สะดุ้งนิดๆ ก่อนจะหันไปมองตำแหน่งที่เกิดเสียงแล้ว ถึงได้รู้ว่าคนที่มันมาเคาะกระจกเรียกผมเนี่ย คือได้ห้ากุมารเพื่อนผม ที่ตอนนี้แต่ละตัวยืนเก๊กหน้านิ่งที่ใครๆมองแล้วก็ต้องพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าแม่งหล่อ - -
"มีไร" ผมลดกระจกลงถาม
" ลงมานี้แปบดิ" มาฆีย์บอกด้วยน้ำเสียงนิ่งๆแต่กูรู้ว่ามึงกำลังบังคับกูอยู่
ปึง!
"มีไร ว่ามา กูต้องการสมาธิก่อนแข่ง" ลงมาเหยียบพื้นปุบผมก็ยิงคำถามพวกมันที
"มั่นใจแค่ไหน มึงรู้ใช่ไหมว่าคู่แข่งมึงวันนี้มันเป็นใคร " เสียงนิ่งๆที่เจือไปด้วยความเป็นห่วงเอ่ยถามออกมาสายตาที่ทอดมองมาทอประการความห่วงใยจนผมเริ่มหงุดหงิด เหอะ!ทำไมผมจะไม่รู้ว่าคู่แข่งผมวันนี้เป็นใครมันน่ะดังจะตายในวงการนักแข่ง แต่คิดเหรอว่าผมจะกลัว แค่นี้ไม่สกิดต่อมอะไรกูหรอกครับเรื่องแบบนี้มันวัดกันที่ลีลาและฝ่าตีน
"ไอ้ไนท์ จากทีมของพี่กราฟฝีมือลำดับต้นๆของทีม สถิติการแข่งแพ้สองครั้งครั้งแรกแพ้พี่กราฟ ครั้งที่สองแพ้มาฆีย์และครั้งที่สามมันต้องแพ้กู" ผมตอบแล้วยักคิ้วกวนๆพอให้รู้ว่ากูชิล ฮ่าๆ
"มั่นใจไปนะมึง ถ้าแพ้มากูจะขำให้" หนุ่มหน้าใสตามสเป็กบอยแบนด์เกาหลีเอ่ยขึ้นและเสียงของมันเรียกสายตาดุๆของผมได้เป็นอย่างดี
"ปากหมานะสัสเพ้นท์ " ผมด่ามันแบบเคืองๆ ตีนกระตุกนิดๆที่อยู่ๆมันมาพูดจาไม่เข้าหูแบบนี้
" ใจเย็นๆน่าซอลเพ้นท์มันแค่ล้อเล่นไม่อยากให้เคลียดกันอีกอย่างที่มันพูดก็ถูกนะ ซอลน่ะมั่นใจเกินไปนะครับซอลก็รู้ว่าพวกมันพิษสงรอบตัว ผมไม่อยากให้ซอลประมาทนะครับ" พอยท์แฝดผู้พี่ของไอ้เพ้นท์พูดขึ้น มาอย่างกับเทพบุตรเลยเว้ยคนนี้ ผมละแปลกใจจริงๆว่าทำไมพระเจ้าถึงสงเทพบุตรอย่างพ้อยท์ให้มาเกิดเป็นพี่ของไอ้ปากหมาเพ้นท์ด้วยนะ และมาเป็นเพื่อนกับผู้ชายห่ามๆอย่างมาฆีย์ทั้งๆที่พ้อยท์เป็นผู้ชายที่มาดคุณชายมาก
" เราไม่ได้ประมาทนะพอยท์ แต่ที่เราพูดแบบนี้เพราะเรามั่นใจถ้าเราลงแข่งแล้วใจยังกล้าๆกลัวๆว่าจะแพ้หรือชนะ เราว่าเราไม่แข่งยังจะดีกว่า เพราะแค่ความมั่นใจยังไม่มีแล้วเราจะเอาอะไรไปชนะล่ะ" ผมพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง ทุกครั้งที่ผมแข่งผมมั่นใจเพราะผมจะไม่แพ้ ผมรู้ว่าพวกมันเป็นห่วง แต่ผมรู้ว่าตัวเองทำอะไรอยู่ แค่นี้ก็พอแล้วผมน่ะเชื่อมั่นในตัวเองที่สุดแล้ว
" เฮ้อ!! เอาเถอะๆเถียงกับมึงแล้วกูปวดสมองชิบหายเลยวะซอล" มาฆีย์พูดพร้อมส่ายหน้าพอให้รู้ว่ามันเอือมกับความดื้อแพ่งของผมมากขนาดให้ แต่ใครสนว่ะ กูมั่นซะอย่าง
" ชิ! ทำมาพูด ห่วงเค้าก็บอกมาเถอะตัวเธอ" ผมแซวมันกับพร้อมเข้าไปเอาหัวไหล่กระแซะๆมันด้วยท่าทีขี้เล่น เพื่อให้มันคลายเคลียดขึ้นมาบาง ก็ดูมันดิขมวดคิ้วซะจนแทบจะผูกโบว์อยู่แล้ว
" รู้แล้วก็เลิกทำให้เป็นห่วงสักทีเถอะ" มันจ้องหน้าตอบผมนิ่งๆ แบบที่บอกทางสายตาว่า กูไม่มีอารมณ์จะเล่นอะไรประมาณนั้น
"เอาน่าๆ มันไม่มีไรหรอกกูก็แข่งออกจะบ่อยมาห่วงไรตอนนี้วะ " พอเห็นมันไม่เล่นด้วยผมก็เลยบ่นกระปอดกระแปดไปตามเรื่องตามราว ไอ้ห่า กูอุส่าห์จะเปลี่ยนบรรยากาศให้ดีขึ้นหน่อยดันไม่เล่นกับกูอีก หยิ่งเหรอแสสสส(ได้แต่บ่นในใจ 555)
"พวกกูจะไม่ห่วงเลยนะถ้าคู่แข่งมึงไม่ใช่ไอ้พวกนั้น มึงก็รู้ไม่ใช่เหรอซอลว่าพวกกูไม่ถูกกัน กูกลัวว่าพวกมันจะเล่นไม่ซื่อ ถ้ามันทำกับพวกกูกูจะไม่พูดเลยนะ แต่กูกลัวว่ามันจะทำกับมึงซึ่งกูไม่ยอมแน่ๆ มึงรู้ใช่ไหมซอล"
มาถึงตรงนี้ผมเลือกที่จะเงียบ เพราะคำพูดของดิสโก้ผู้ชายที่ดูเป็นผู้ใหญ่ที่สุดทั้งๆที่มันก็อายุเท่าๆกับพวกผม ทำไมผมจะไม่รู้ ผมรู้ว่ามาฆีย์กับเพื่อนๆของมันไม่กินเส้นกับพวกพี่กราฟ ทุกครั้งที่มันเจอกันต้องมีปะทะแทบทุกรอบ และผมก็รู้ว่าสิ่งที่พวกมันกลัวก็คือตัวผม พวกมันมักจะบอกผมเสมอว่าไม่ว่าใครจะทำอะไรมันมันก็ไม่สน แต่ถ้าหน้าไหนบังอาจมาแตะต้องผมพวกมันไม่ยอม ซึ้งผมก็ขอบคุณมันนะที่เป็นเดือดเป็นร้อนแทนผมขนาดนี้ แต่ขอเถอะผมเป็นผู้ชายนะ มันหน้ายินดีเหรอที่จะมีผู้ชายตัวควายๆมาปกป้องอยู่แบบนี้ ผมตอบได้เลยว่า 'ไม่' ผมดูแลตัวเองได้และอีกอย่างนะ ผมไม่ชอบให้ใครมาปกป้องเพราะผมไม่อยากกลายเป็นคนอ่อนแอ...
"ว่าไงพวก ดูท่าทางพวดมึงดูเคลียดๆนะ ทำไมเหรอ? หรือว่ากลัวแพ้กู? แต่กูว่าไม่ต้องกลัวหรอกมั้งเพราะผลมันก็เห็นๆกันอยู่ ว่าแต่วันนี้แข่งเสร็จแล้วซอลสุดสวยสนใจจะไปต่อกับพี่ไหมจ๊ะ " จากที่ตอนนี้ตึงเคลียดอยู่แล้วพอมีเสียงเห่าหอนของใครบางคนที่เดินเข้ามาพร้อมกับเพื่อนมันอีกสองสามคนดังขึ้นมันก็ยิ่งทำให้สถานการณ์ดูมาคุแปลกๆ ซึ่งบอกตรงๆมันไม่ใช่แนวของซอล - -
" อยู่เงียบๆก็ไม่ต้องกลัวใครไม่รู้ว่ามึงจัญไรหรอกนะไอ้ไนท์" ผมหันไปพูดกับมันด้วยน้ำเสียงและสีหน้านิ่งๆที่เป็นเอกลักษณ์ของผมอยู่แล้ว
"ปากแบบนี้อยากมีผัวหลายคนไหมจ้ะสุดสวย" มันไม่สะทกสะท้านกับคำด่าของผมแถมยังตอบกับด้วยท่าทีสะบายๆที่มองยังไงก็รู้ว่า แม่งกวนตีนผมอยู่
" สวยพ่องดิ ไปไกลๆตีนกูเลยนะ แล้วหน้าอย่างพวกมึงอ่ะ อย่าหวังเลยว่าจะได้เห็นขาอ่อนกู ให้กูเอากับพวกมึงนะกูเอานิ้วแหย่เองยังเสียวกว่าอีกสัส"ผมพูดพร้อมปลายตามองพวกมันที่ละคน เหอะ! รู้จักไอ้ซอลน้อยไปล่ะพวกมึง
"หึ ปากดี" เสียงหัวเราะเยาะเบาๆที่ดังออกมาจากปากของผู้ชายตัวสูงที่ยืนอยู่ข้างหลังไอ้ไนท์ทำให้ผมต้องหันไปมองอย่างเคืองๆ แม่งกล้าดียังไงวะมาหาว่ากูปากดี
เมื่อหันไปมองทางแหล่งกำเนิดเสียงทำให้ผมที่กำลังเตรียมคำพูดเจ็บๆแสบๆไว้เอาคืนไอ้ตัวที่มันว่าผมเมื่อกี้ ก็ถึงกับชะงักกึกเมื่อสบสายตาเข้ากับคนตัวสูงที่ยืนกอดอกตีหน้านิ่งไม่สื่ออารมณ์ใดที่มองผมอยู่เช่นเดียวกันมันเป็นผู้ชายที่ตัวสูงพอๆกับมาฆีย์แต่มันหนากว่ามาฆีย์มาก ใบหน้าคมที่รับกับคิ้วหนาและดวงตาคมกริบได้เป็นอย่างดีไหนจะจมูกที่โด้งเป็นสันและริมฝีปากสีคล้ำนิดๆที่ผมพอจะมองออกว่ามันเกิดจากการสูบบุหรี่เครื่องหน้าที่ลงตัวกันอย่างดี ผู้ชายคนนี้ทำให้ผมเข้าใจคำว่า'เฟอร์เฟ็คแมน' ได้เป็นอย่างดี แต่ทำไมนะ ทำไมผมถึงได้รู้สึกคุ้นเคยกับนัยตาสีน้ำตาลอ่อนคู่นั้นแปลกๆ มันเหมือนกับว่าผมเคยรู้จักเจ้าของดวงตาคู่นั้น แต่ผมกับคิดไม่ออกว่าผมเคยเจอผู้ชายที่ดูดีขนาดนี้ที่ไหน
"หึ จ้องเพื่อนกูขนาดนั้นอย่าบอกนะว่าหลงเสน่ห์เพื่อนกูน่ะ " เสียงพูดเยาะๆที่หลุดออกมาจากปากของไอ้ไนท์ทำให้สติผมคืนเข้าร่าง แม่งกูเผลอจ้องไอ้หล่อนั้นนานไปหน่อยเหรอวะเนี่ย ดูดิมันยิ้มมุมปากและส่งเสียง'หึ' ในลำคอเยาะเย้ยกูอีกสาสสสส
"ไปเห่าไกลๆไปไอ้ไนท์" ภูมิที่ยืนนิ่งเป็นเสากิโลอยู่นานพูดขึ้นเรียบๆด้วยน้ำเสียงที่ทุ่มต่ำฟังแล้วขนลุกพิกล แต่ไม่รู้ว่าผมรู้สึกไปเองหรือเปล่านะว่าตอนนี้เหมือนตัวเองเป็นหลุมยังไงก็ไม่รู้ ก็ดูพวกมันดิสูง180 อัพทุกคนแถมยังหุ่นสมเป็นชายชาตรีแล้วย้อนกลับมาดูตัวเองสูง170ผิวขาวและตัวบางกว่าผู้ชายปรกติแม่งกูนี้หุ่นนายเอกนิยายวายชัดๆ(ก็แกเป็นนายเอกนิยายวายไงย่ะ)
" อ่าว มึงยังพูดเป็นอยู่เหรอภูมิกูนึกว่ามึงลืมปากไว้ที่บ้านซะอีก" นั้นไงไอ้ไนท์แม่งหันไปแขวะคุณชายภูมินทร์ที่ยืนนิ่งเป็นหุ่นขี้ผึ้ง(?)จนได้ ห่านี้ปากหมาชิบหายเลย
"กูเอาปากมาหรือเปล่ามันก็เรื่องของกูแต่ถ้ามึงยังไม่หยุดเห่า กูจะทำให้มึงรู้ว่ากู'มีปาก'ไว้ทำอะไร"
"..........."
เงียบเลยทีนี้สิ้นคำพูดของภูมิทุกสับสิ่ง รอบตัวเงียบลงทันตาเห็น ร่างสูงที่เอ่ยคำพูดก้ำกวมเมื่อกี้กระตุกยิ้มมุมปากเยาะๆกับปฏิกิริยาที่ทุกคนแสดงออกกับคำพูดของมัน ภูมิมองหน้าฝั่งตรงข้ามด้วยท่าทีนิ่งๆก่อนจะพูดต่อเรียบๆแต่เชือดใจคนฟัง
"คนเราน่ะ ถ้า'มีดี' เค้าจะโชว์กันตอนลงสนาม แต่ไอ้'พวกกากๆ' มันก็มักจะเห่าคนอื่นเขาไปทั่ว"
!!!!!!!!!
"ไอ้สัส!! มึงด่ากูเหรอ!!" เหมือนสตั๊นไป3วิ ก่อนที่มันจะได้สติแล้วทำท่าจะกระโจนใส่ภูมิที่ทำเพียงแค่ยืนนิ่งๆแล้วมองอีกฝ่ายด้วยสายตาคมกริบคู่นั้น
"กูพูดตามที่เห็นไม่ได้ว่าใครแต่ใครอยากได้ก็รับไปสิ หึ" เสียงเรียบนิ่งไม่บงบอกอารมณ์พูดออกมาอีกและยังคงยืนนิ่งไม่ไหวติงเหมือนเดิม แม่งปากปราสัยน้ำใจเชือดคอจริงๆเพื่อนกู - -
"ไอ้สัส!!!" ไอ้ไนท์ได้แต่ดิ้นกระแด่วๆด้วยความโมโหและพยายามที่จะเข้ามาทำร้ายภูมิที่ยืนนิ่งอยู่แบบฉันไม่กลัว แต่มันก็ทำอะไรภูมิไม่ได้เพราะมันโดนไอ้หล่อเพื่อนมันที่ยืนอยู่ข้างหลังรั้งคอเสื้อเอาไว้ เลยทำอะไรไม่ได้
"มึงอยู่นิ่งๆได้ไหมไนท์ แหกปากโวยวายเป็นตุ๊ดไปได้ ส่วนมึงนะไอ้เตี้ย ถ้าแน่จริงก็อย่าหลบอยู่แต่ข้างหลังไอ้พวกเปรตนี้ แสดงออกมาให้พวกกูเห็นหน่อยสิว่ามึง'มีดี'อะไรบ้าง" ไอ้หล่อมันพูดกับเพื่อมันประโยคแรกก่อนจะหันมาพูดกับผมที่มีพวกเปรตห้าตัวยืนบังอยู่ด้วยน้ำเสียงดูถูก แล้วที่ผมรับไม่ได้ที่สุดในประโยคที่มันพูดเมื่อกี้ก็คือมันด่าผมว่าเตี้ย ไอ้สัส!กูไม่ได้เตี้ยนะแต่พวกมึงเสือกสูงกว่ากูทำไมฟระ
" ไอ้สัส!!มึงว่าใครเตี้ยวะ แล้วก็นะคนอย่างกูมีดีมากกว่าที่พวกมึงคิดก็แล้วกัน"
"หึ งั้นเหรอ ไหนแสดงหน่อยสิว่ามีดีอะไร" มันพูดแล้วปล่อยไอ้ไนท์ให้เพื่อนอีกคนคุมก่อนจะเดินเข้ามาเผชิญหน้ากับผมที่ก้าวออกมายืนอยู่หน้าไอ้พวกเปรตทั้งห้า ผมน่ะ เป็นพวกฆ่าได้แต่หยามไม่ได้ รักศักดิ์ศรีเท่าชีวิตและคำพูดของไอ้หน้าหล่านี้มันก็กระตุกต่อมรักศักดิ์ศรีของผมได้เป็นอย่างดี
" ฆีย์กูขอเปลี่ยนคู่แข่งได้ไหม" ปากผมพูดกับมาฆีย์แต่ตาผมยังคงจ้องสบตากับคนตัวสูงที่อยู่ตรง
หน้าเขม็ง ซึ้งคนตรงหน้าก็สบตาผมนิ่งๆไม่แสดงอารมณ์ใดๆออกมาสักนิดมีเพียงมุมปากสวยที่ยกยิ้มขึ้นมานิดๆเหมือนกำลังมีเรื่องสนุกให้ทำ แล้วหันหลังเดินจากไปเงียบๆ
"มึงจะทำอะไรซอล" น้ำเสียงที่กดให้ต่ำเพื่อไม่ให้แสดงอารมณ์ใดๆของมาฆีย์ที่ยืนอยู่หลังผมถามขึ้น น้ำเสียงมันตอนนี้ที่แสดงออกมาเหมือนไม่รู้สึกอะไรแต่ผมรู้ว่ามันกำลังเป็นห่วงผม แต่ขอเถอะกูดื้อขนาดไหนมึงก็น่าจะรู้ ฝันไปเถอะว่ากูจะกลัวกับคำเสียงนั้นของมึง ห่า กูนึกว่าจะแน่ ผมมองตามหลังพวกมันไปและก็ต้องสะดุ้งเฮือกเมื่อสายตาคมๆของคนที่ด่าว่าผมปากดีหันมาสบตากับผมและมุมปากของมันยกขึ้นนิดๆตอนที่สบตากับผม เหมือนกับว่ามันกำลังเจอเรื่องสนุก ผมไม่เคยเจอคนแบบนี้ผมเดาทางมันไม่ออกจริงๆ แต่ผมว่านะหลังจากวันนี้ผมคงต้องระวังตัวมากขึ้นกว่าเดิมอีกหลายเท่าตัว เพราะเหมือนมีอะไรบางอย่างบอกกับผมว่า ชีวิตของผมนับจากวินาทีนี้มันจะไม่สงบอีกต่อไป....
---------------------------------------------------------------
ทุกเม้นของคนอ่านคือกำลังใจของคนเขียน
X
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ