รักร้ายมนตร์สีดำ
เขียนโดย แวมไพร์สาว
วันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2556 เวลา 21.05 น.
แก้ไขเมื่อ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2556 22.29 น. โดย เจ้าของนิยาย
18) เชื่อได้ไหมนะ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
เมื่อถึงเวลาเราทุกคนก็ต้องจากๆสิ่งที่เรารักมากที่สุดฉันนั่งมองท้องฟ้ายามเย็นมองพระอาทิตย์ที่กำลังตกดินอย่างช้าๆมองแล้วก็รู้สึกเศร้าใจอย่างบอกไม่ถูกเหมือนกับเมื่อก่อนไม่เคยเห็นมาก่อนตอนนี่ฉันนั่งอยู่ที่ดาดฟ้าของอาคารเรียนร้างๆ
'เมื่อไรเธอจะเริ่มช่วยฉันสักที" นามิวิญญาสาวสวยถามฉันขึ้น
"อีกเดี๋ยวขอรอให้พระอาทิตย์ลับฟ้าก่อน" ฉันตอบวิญญาสาวก่อนจะนั่งเหม่อมองท้องฟ้าอีกครั้งไม่น่าเชื่อว่าวิญญาสาวที่ไม่เคยปรากฎตัวจะมาปรากฎให้ฉันเห็นเมื่อสองชั่วโมงที่แล้วแถมยังพูดเสียงใสไม่ยานคางเหมือนแต่ก่อน(เวลาฟังจะได้ไม่หงุดหงิดอีก)ซึ่งเป็นอะไรที่ดีมากสำหรับฉัน
"ระหว่างที่ฉันรอให้พระอาทิตย์ตกดินเธอลองเล่าเรื่องที่พอจำได้มาอีกสิ" ฉันพูดกับนามิโดยไม่หันไปมองเจ้าตัว
"อืม~ " นามิลากเสียงยาวและทำท่าเหมือนคิดหนัก
"จำท่อนไม้ได้"
"ท่อนไม้เหรอ?" ฉันขมวดคิ้วเข้าหากันก่อนจะใช้มือลูบคางอย่างคิดหนักเช่นกัน
"หรือว่าฉันจะถูกท่อนไม้ตีกันนะ" นั้นสินะน่าจะเป็นไปได้เหมือนกัน
"ไปเถอะ เราไปหาหลังฐานกัน" หลังจากที่พระอาทิตย์ลับขอบฟ้าแล้วฉันก็ชวนนามิไปหาหลังฐานในที่เกิดเหตุแต่เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุฉันก็เห็นไตเติ้ลกำลังวิ่งไปมาอยู่ที่หน้าห้องวิทยาศาสตร์ฉันเดินเข้าไปแตะที่ไหล่ไตเติ้ลช้าๆทำให้ไตเติ้ลตกใจสะดุ้ง
"ทะ เธอไปไหนมา ไอโซมันโมโหมากเลยนะรู้ไหมนึกว่าเธอจะเบี้ยวไม่มาทำงานซะแล้ว"
ไตเติ้ลรีบพูดอย่างหน้าตาตื่น ฉันมองหน้าไตเติ้ลก่อนด้วยอารมณ์นิ่งๆก่อนจะเดินผ่านไปอยากไม่สนใจฉันเปิดประตูเข้าไปข้างในห้องที่มีกลิ่นอับเหม็นไหม้เต็มไปหมดก่อนจะมองไปที่ชายร่างสูงเพียวที่ยืนทำหน้าเครียดอยู่ที่ตู้ใบใหญ่เมื่อชายตรงหน้าเห็นหญิงสาวก็รีบเดินตรงเข้าไปกระชากตัวหญิงสาวด้วยความโมโห
"เธอเป็นบ้าอะไรอยู่ๆก็คิดอยากจะหลบหน้าฉัน" ฉันมองหน้าโซระนิ่งๆก่อนจะกระชากมือตัวเองกลับมาแนบไว้ที่ข้างลำตัวตามเดิม
"เปล่าฉันไม่ได้หลบหน้านาย" ฉันก้มหน้าต่ำลงเพราะกลัวอีกฝ่ายจะจับพิรุดได้
"ก้มหน้าทำไม เธอรู้ไหมคนทำผิดหรือปิดบังอะไรไว้มักจะก้มหน้าก้มตาแบบนี่" โซระพูดก่อนจะใช้มือเรียวยาวเชิดคางฉันขึ้น
"ฉันได้เบาะแสใหม่แล้ว" ฉันใช้มือตัวเองปัดมือของโซระออกก่อนจะเริ่มพูดเรื่องงานเพื่อกลบเกลื่อนความประหม่าของตน
"เบาะแสใหม่?" โซระขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนจะหันไปมองที่หน้าประตูห้อง
"ยัยนั้นจำอะไรได้แล้วเหรอ" โซระชี้มือไปที่ๆนามิที่ยืนอยู่หน้าประตู ฉันหันไปมองหน้าโซระอย่างงง
"นายเห็นนามิ" ฉันมองหน้าโซระพร้อมทั้งขมวดคิ้วอย่างสังสัย
“ก็ไม่เชิงเห็นหรอก แต่ฉันสัมผัสได้น่ะ” ฉันเลิกคิ้วขึ้นเป็นเชิงจับผิด
“นายสัมผัสได้แม่นขนาดนั้นเชียว” ฉันกอดอกมองหน้าโซระอยากไม่เชื่อ
“ก็ ได้ฉันยอมรับว่าฉันโกหกเธอ จริงๆแล้วฉันก็มองเห็นวิญญาได้เหมือนเธอ” ฉันมองโซระด้วยอารมณ์นิ่งๆ แต่ในใจฉันมันว้าวุ่นเอามากๆเลย ความรู้สึกฉันตอนนี้เหมือนโดนไฟฟ้าแรงสูงช็อตเข้าอย่างจังชาไปทั้งตัว
“ละ แล้วนายใช้ให้ฉันมาทำงานด้วยทำไม นายหลอกฉันทำไม เพื่ออะไร!!!!” ฉันตะคอกใส่หน้าโซระพร้อมทั้งน้ำตาที่ไหลรินลงมาช้าๆ ไม่รู้ทำไมต้องร้องด้วยแต่มันเป็นความรู้สึกของคนถูกหลอก เหมือนเคยเจอมาก่อน เหมือนจะมีอะไรซ้ำรอยอีกครั้ง
“ไม่รู้สิ แค่ฉันเห็นเธอครั้งแรกฉันก็รู้สึกว่าเธอต้องมีอะไรบ้างอย่างที่น่าสนใจและน่าค้นหา พอมารู้ตัวอีกทีฉันก็หลอกเธอไปแล้ว“ ฉันมองคนตรงหน้าทั้งน้ำตาเหมือนกับมันเจ็บปวดมากที่โดนคนที่เรารักหลอก ฉันหันหลังเตรียมจะเดินออกจากห้องไป แต่ก็ต้องชะงักเมื่อโดนวงแขนแกร่งของคนข้างหลังสวมกอด
“ปล่อยฉัน นายไม่มีสิทธ์ทำกับฉันแบบนี่” ฉันพูดทั้งๆที่ใจเต้นตึกตัก บ้าชะมัดใจมันเต้นแรงเกินไปแล้วเดี๋ยวหมอนี่ได้ยินจะทำไงดี
“ปล่อยฉันสิ” ฉันพูดพร้อมทั้งดิ้นไปมา
“ไม่ปล่อย เธอฟังฉันก่อนนะ” โซระกอดฉันแน่นกว่าเดิม
‘ฟังหน่อยเถอะวารัน’ ฉันหันไปมองนามิที่ทำสายตาอ้อนวอนมาทางฉัน
“นายต้องการให้ฉันฟังอะไรมิทราบฟังเรื่องที่นายใช้ฉันเป็นเครื่องมือ หรือหลอกใช้ฉันเพื่อความสบายของตัวเอง” ฉันพูดอย่างเจ็บใจพร้อมทั้งมองไปทางอื่นที่ไม่มีทั้งผีและคน
“ไม่ใช่ เรื่องนี่เธอต้องตั้งใจฟังให้ดีๆนะ ฉันจะพูดแค่ครั้งเดียว” จะบอกอะไรกับฉันกันแน่แค่นี่ฉันก็เสียใจจะแย่อยู่แล้ว
“พูดมาสิ” ฉันกลั้นน้ำตาที่กำลังจะไหลลงมาอีกครั้ง พร้อมทั้งหันไปมองชายที่อยู่ด้านหลังเพื่อให้เห็นหน้าเขาชัดๆ
“ ฉัน คือ ฉัน ชอบ…” ฉันมองโซระนิ่งๆด้วยแววตาสังสัยอย่างมาก
“ชอบอะไรของนาย พูดให้มันชัดๆหน่อยสิ” ฉันพูดด้วยอารมณ์หงุดหงิด
“โถ่เว้ย ฉันชอบเธอไงเล่า ได้ยินหรือยัง”
“…………” ที่เงียบไม่ใช่อะไรแต่ตอนนี่ฉันกำลังอึ่งอยู่ ไม่น่าเชื่อว่าเขาก็ชอบฉัน
“พูดอะไรบ้างเซ่” ฉันมองหน้าโซระอึ้งๆปนไม่เชื่อ เขาเนี่ยนะชอบฉัน
“ฉันจะรู้ได้ไงว่านายไม่ได้หลอกฉันอีก” ฉันพูดพร้อมทั้งเอียงคอเล็กน้อยเป็นเชิงสังสัย
หมับ!
โซระไม่พูดอะไรก่อนจะจับฉันเข้าไปจูบ จะ จูบ หรอบ้าที่สุดจูบแรกของฉันไม่โรแมนติกเลยอ่ะ
“แบบนี่พอพิสูจน์ได้ไหมครับ” ฉันกลืนน้ำลายทีหนึ่งก่อนจะมองหน้าเขาอย่างอึ้งๆ
“ได้มั่ง” ฉันยิ้มให้เขาทีหนึ่งก่อนจะนึกขึ้นมาได้ว่ามีเรื่องอีกมากมายที่ฉันต้องเจอแน่ๆพรุ่งนี่แงๆ สุขได้แป๊ปเดียวเองทุกข์ก็กำลังตามมา แต่ถึงยังไงฉันก็สู้ตาย
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ