---LoveSad รักเลวๆ ของคนอย่างนาย---
เขียนโดย WinnerShadow
วันที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2556 เวลา 13.44 น.
แก้ไขเมื่อ 26 กันยายน พ.ศ. 2556 14.10 น. โดย เจ้าของนิยาย
2) LoveSad --Chapter 2 เลือดตา--
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
Chapter 2
สมองขาวโพลนไปหมด ดวงตามัวพร่าจนเกือบมองไม่เห็น นี่ผ่านมากี่ชั่วโมงแล้วนะ ที่ผมต้องทนมาเป็นที่ระบายให้เขา.. สัตว์ที่หิวกระหายจนแทบจะกินผมได้ทั้งตัว ตอนนี้ก็ 4 ทุ่มแล้ว ผ่านมาประมาณห้าถึงหกชั่วโมงแล้ว ที่ผมต้องเสร็จเขา ไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง
ผัวะ!
“อั่ก!”
“ใครบอกให้แกหลับน่ะห๊ะ!!?”
เสียงตะคอกของเขาที่เต็มไปด้วยความโกรธนั้น มันทำให้ผมหยุดน้ำตาที่ไหลรินไม่ได้เลยแม้แต่ครั้งเดียว มันไม่ใช่น้ำตาจากความเจ็บที่โดนต่อยท้อง แต่เป็นความเจ็บปวดที่แล่นเข้าหาน่าอกทุกครั้งที่ได้ยินเขาตะคอกหรือทำสีหน้าเย็นชาใส่
น้ำตามากมายพรั่งพรูออกมาอย่างอดไม่ได้ หากแต่เขากลับไม่สนใจ ก่อนจะต่อยมาที่ท้องผมอีกครั้ง
ผัวะ!
“ร้องหาอะไร!?”
อีกครั้งที่เขาตะคอก คืออีกครั้งที่ผมเริ่มสะอื้นพร้อมกับน้ำตาที่ตอนนี้จะกลายเป็นสายเลือดอยู่แล้ว เขาไม่ได้สนใจว่าผมจะทรมานหรือเจ็บปวดรึเปล่า เขาไม่เคยสนใจความรู้สึกของผมแม้แต่นิดเดียว แม้แต่ที่โรงเรียนที่ผมโดนรังแกต่อหน้าต่อตา เขาก็ยังเย็นชาใส่ผม แล้วไปนั่งหัวเราะอย่างสะใจแทน
“น่ะ..นาย..เห็นฉัน ฮึก เป็นตัวอะไร..?” ผมตัดสินใจถาม
“หา..?” เขาทำหน้างง
“ฮึก..ฮือ...”
“แหม่ๆ ก็บอกแล้วไงว่าฉันนายเป็นแค่ของเล่นและหร่านๆ คนหนึ่งเท่านั้นน่ะ ฮ่าฮ่าฮ่า”
งั้นเหรอ..? ผมไม่ใช่มนุษย์หรือเพื่อนของเขาสินะ
ตอนนี้ผมเป็นแค่.. ของเล่น และ ไอ้หร่านคนหนึ่ง สินะ
เช้ารุ่งขึ้น
ตึง! ตึง! ตึง!
เสียงเคาะประตูอย่างรุนแรงดังขึ้นในระหว่างที่เด็กหนุ่มร่างบางกำลังนอน โดยมีผ้าห่มเพียงผืนเดียวที่ปิดบังร่างกายเล็กๆ นี่ไว้ ใบหน้าของเด็กหนุ่มดูเพลีย และแดงแปลกๆ ตามัวๆตื่นขึ้นแล้วมองไปรอบๆ ห้อง ก่อนจะสะดุ้งรู้สึกตัว เมื่อเสียงเคาะประตูมันดังขึ้นอีกครั้ง
ตึง! ตึง! ตึง!
“จะนอนกินบ้านกินเมืองเหรอไง!!? ตื่นได้แล้วโว้ย!!”
ร่างบางเอาผ้าห่มมาปิดบังร่างกายตัวเอง ก่อนจะลุกเดินตรงไปที่ประตูห้องนอนนี้ เมื่อเปิดประตูออกก็พบเด็กหนุ่มร่างสูงที่กำลังแสยะยิ้มอย่างพึงพอใจเมื่อเห็นว่าร่างบางมีเพียงผ้าห่มผืนเดียวที่ช่วยไว้
“สมแล้วละนะที่หร่าน ยังไม่ใส่เสื้อแล้วเดินมาเปิดประตูเลยนิหว่า”
ผมผิดเหรอ...?
“วันนี้วิชาพละก็เข้าเรียนด้วยละ จะได้โชว์รอยที่คอหรือตามตัวนั้นไง ฮ่าฮ่าฮ่า”
อ่อเหรอ..? นี่สินะที่เขาเรียกว่า รอยยิ้มเกิดจากความทรมานของคนอื่น ทั้งๆ ที่ตอนนี้รู้สึกปวดหัวยังไงก็ไม่รู้ โลกหมุนไปหมดเลยแห่ะ
“เป็นอะไร? หน้าแดงขนาดนั้นน่ะ”
“ปะ..เปล่า ฉันขอไปอาบน้ำก่อน นายไปก่อนเลยก็ได้”
“แกไม่มีสิทธิมาสั่งฉัน!!!”
ปึก!
หนังสือเล่มหน้าโยนมาโดนที่ไหล่ของร่างบางจนเกือบเซ หากแต่มันกลับเจ็บจนอยากจะร้องไห้ เมื่อเขาหันไปเห็นรอยยิ้มสะใจบนใบหน้าของร่างสูงที่ดูจะพึงพอใจกับสิ่งที่ตนทำเมื่อกี้ ก่อนที่ร่างบางจะหันหน้าหนีแล้วรีบเดินเข้าห้องน้ำไป
น้ำตากลับมาไหลอีกครั้ง...
“ฮึก! ฮือ..ฮือ...”
มันเจ็บ.. เจ็บ.. มันทรมานเกินไปแล้ว...
ตึง!!
“ร้องไห้เหรอไง!?”
เสียงเคาะมาพร้อมกับเสียงตะคอกอย่างประชดประชันอีกครั้ง ร่างบางสะดุ้งขึ้น แล้วเอามืออุดหูไม่อยากได้ยินเสียงที่โหดร้ายนั้น
“อยากร้องก็ร้องออกมาดังๆ สิว่ะ!! ฮ่าฮ่าฮ่า”
ทำไม..ทำไมละ? ผมเริ่มเดินผิดมาตั้งแต่เมื่อไร?
มันเจ็บนะ เจ็บมากๆ ด้วย ช่วยหยุดเสียงหัวเราะนั้นซะทีเถอะ!
“ฮึก..ฮือ...”
“ฮ่าฮ่าฮ่าๆๆๆ”
ที่โรงเรียน (คาบพละ)
ตึง ตึง ตึง เอี๊ยด เอี๊ยด
เสียงลูกบาสกระทบพื้นโรงยิ้มพร้อมกับเสียงเสียดสีของรองเท้าและพื้น ร่างบางที่อยู่ในชุดเสื้อยืดและกางเกงวอร์มขายาวกำลังนั่งมองมนุษย์ร่วมห้องที่กำลังวิ่งไปมาเพื่อแย่งลูกบาสในมือของเพื่อนตนเอง ผมรู้สึกเกลียดการแย่งชิงในกรณีคล้ายๆ แบบนั้นสุดๆ
“ไงเพื่อน” ริวเนะเดินมาพร้อมโบกมือเพื่อทักทายผมที่นั่งอยู่คนเดียวข้างสนาม
“หวัดดี”
“เอ่อ...” ริวเนะทำท่าเหมือนจะพูดอะไรบางอย่าง ก่อนจะยิ้มแห้ง “สีหน้าไม่ดีเลยนะ ไม่สบายรึเปล่า?”
“อ่อเปล่าหรอก แค่รู้สึกไม่ชอบกีฬาบาสน่ะ”
“อ้าว ไงงั้นละเพื่อน”
“นายไม่คิดว่ามันแปลกเหรอ? ว่าการรุมแย้งของจากคนหนึ่งคนไปเพื่อผลประโยชน์ของตัวเองน่ะ มันแย่ที่สุด” ผมพูดพลางมองไปที่สนาม นักเรียนชายหนึ่งคน โดนอีกสี่รุม มันสะท้อนภาพที่เขาโดนรังแกไม่มีผิด
“แต่ก็มีเพื่อนร่วมด้วยช่วยกันอีกนิ”
“นั้นสินะ... แต่ถ้าหากว่าเพื่อนของเจ้านั้นไม่คิดจะสนใจหรือช่วยเหลือละก็ ผู้ชายคนนั้นก็จะเสียใจและทรมานที่โดนหักหลังสิเนอะ”
“....”
เมื่อผมพูดจบริวเนะก็เงียบไป ก่อนจะเดินมาตบไหล่ผมด้วยเหตุผลบางอย่าง
“เมื่อวานที่นายกลับบ้านไปน่ะ ฉันไม่รู้หรอกนะว่าไอ้เลือดเย็นนั้นมันทำอะไรนายบ้าง แต่ฉันว่านายควรหยุดเรื่องทั้งหมดโดยการทิ้งเรื่องเก่าๆ แล้วมาให้แก๊งฉันปกป้องนายไม่ดีกว่าเหรอไง” จริงอยู่ว่าสิ่งที่ริวเนะพูดมันอาจจะช่วยผมได้ แต่มันก็ไม่เสมอไปจริงๆ
ในเมื่อผมมีพันธนาการของเคลียร์อยู่กับตัวเยอะขนาดนี้
“เพราะไอ้รอยที่มันทำไว้เหรอไง?” ริวเนะเหมือนอ่านใจผมได้เสมอ
ใช่..มันเป็นรอยดูดจากปากของเขามากมาย รวมไปถึงรอยหมัดและรอยขีดข่วนที่เขาเป็นคนทำ ถึงผมจะหนีไปได้มันก็ดี แต่ถ้าเป็นแบบนั้นมันก็จะสร้างความเดือดร้อนให้กับ ริวเนะ มากขึ้นไปอีก
“ฉันว่านายไปดูแลลูกน้องของนายดีกว่านะริวเนะ เรื่องของฉันไว้ก่อนเถอะ”
“อะไรน่ะนั้น พูดอย่างกับว่าลูกน้องของฉันสำคัญกว่าตัวนายอีกอย่างงั้นแหละ” ริวเนะพูดพลางขยี้หัวตัวเองตามแบบฉบับว่าผมไปขัดใจเขานั้นเอง
“หึ ไม่รู้สินะ แต่ฉันไม่เป็นอะไรหรอก”
ในขณะที่ผมกำลังจะลุก ร่างของผมก็ทรุดหวบลงไปนั่งทันที ตาลายไปหมด แถมยังรู้สึกแย่อีกต่างหาก ริวเนะรีบพยุงผมอย่างรวดเร็ว
“เฮ้ย!? เป็นอะไรน่ะเมลท์ ทำใจดีๆ ไว้นะ! เฮ้ย!”
สติของผมเลือนหายไปในทันที...
ห้องพยาบาล
“อึก..อืม...”
ผมค่อยๆ ลืมตาตื่นที่ห้องเพดานขาว รอบด้านเป็นผ้าม่านสีออกเทาๆ นั้นหมายความว่าผมถูกอุ้มมาที่ห้องพยาบาลโดยฝีมือของริวเนะไม่ผิดแน่
“รู้สึกตัวแล้วเหรอเมลท์?” เสียงนี้...?
“คุณนัตสึกิ...” ผมเรียกชายหนุ่มที่ทำหน้าบอกบุญไม่รับอยู่ข้างเตียงนอนนี้
“ให้ตายสิ ถ้าไม่สบายก็ไม่น่ามาเรียนนะ แถมยังรอยช้ำตามตัวอีก นี่เรากลายเป็นคนซุ่มซ่ามไปแล้วเหรอไงน่ะ” นัตสึกิพูดพลางเดินไปเปิดตู้ยาตู้ใหญ่ที่อยู่ข้างโต๊ะทำงาน แล้วหยิบบางอย่างเดินกลับมาที่เตียง โดยมียาและน้ำมาด้วย
“เอ้า เป็นยาแก้หวัด จะได้หาย”
“ขอบคุณครับ..” ผมรับยามา ก่อนจะทานคู่กับน้ำ เขามองผมพลางยิ้มอย่างอ่อนโยน ภาพที่เห็นตอนนี้มันเหมือนที่เคลียร์เคยทำให้ผมตอนไม่สบาย เขาดูแลผม เป็นห่วง และคอยมาเยี่ยมทำอาหารให้ทานเสมอ แต่ตอนนี้ไม่ใช่.. เขากลายเป็นปีศาจ กลายเป็นคนโหดร้ายทารุณ ที่ทำกับผมโดยไม่สนความรู้สึกของผมเลยแม้แต่นิดเดียว
“เป็นอะไรเหรอเมลท์ เห็นเงียบไป”
“เปล่าครับ ผมแค่..”
ปึง!
“ใครบอกให้แกมาที่นี้!!”
“เคลียร์!” คุณนัตสึกิตกใจพลางเรียกชื่อคนที่ผมพึ่งจะนึกไปเมื่อกี้ หากแต่เคลียร์ไม่สนใจแล้วเดินมาที่ผม ก่อนจะบับข้อมือผมอย่างรุนแรง
“โอ้ย!”
“เจ็บเหรอไง? ดี..จะได้จำว่าอย่ามาที่นี้อีก!!” เขาตะคอกผมอีกแล้ว นี่มันครั้งที่เท่าไรแล้วนะที่รู้สึกว่าความเจ็บมันแล่นเข้ามาที่น่าอกน่ะ
“เคลียร์ เมลท์เขาไม่สบายนะ! นายควรจะปล่อยวางซะบ้าง!”
“แกมีสิทธิมาพูดเหรอไง!?” เคลียร์หันไปตะคอกใส่นัตสึกิ ก่อนจะกระชากร่างบางให้ลุกออกจากเตียงเดินออกไป ปล่อยให้นัตสึกิที่ยืนมองตัวเองอย่างสมเพชที่ทำอะไรไม่ได้
“ขอโทษนะเมลท์ สักวัน..ฉันจะพานายออกมาเอง...”
ที่ห้องเรียน
“เฮ้ย! ฉันเอาของเล่นมาให้ดูของดีแล้วโว้ย!” เคลียร์ผลักผมเข้ามาในห้องเรียน เมื่อทุกคนในห้องเห็นผมก็เริ่มปริหัวเราะออกมาอย่างสะใจโดยไม่มีเหตุผล แต่เมื่อผมหันไปถึงได้รู้ว่า สิ่งที่ทุกคนกำลังทำอยู่ตอนนี้คืออะไร พวกเราหัวเราะเพราะ...
‘ไอ้ขายตัว’
‘ไอ้ค้าบริการ’
‘ไอ้ขี้แพ้’
และคำอีกมากมายที่เขียนอยู่เต็มกระดานดำที่อาจารย์ไว้สอน ผมที่เห็นจึงรีบหาแปลงลบกระดาน แต่มันไม่มี ไม่มีเลยสักอันเดียว
“ทำไมไม่ใช้มือลบละว่ะ!?”
“ฮ่าฮ่าฮ่า”
เสียงจากคนในห้องคนหนึ่งดังขึ้น ผมที่ได้ยินแบบนั้นจึงเข้าใจว่าพวกนั้นเอาแปลงลบกระดานไปซ่อนโดยจงใจให้ผมใช้มือลบเองนั้นเอง ช่วยไม่ได้ อีกไม่กี่นาทีอาจารย์จะเข้าสอนแล้ว ผมจึงเอามือถูเพื่อลบกระดานให้เสร็จโดยเร็ว แต่ว่า...
กึด!
“โอ้ย!” ที่มือของผมมีเลือกออกเป็นทางยาว เลือดไหลออกมาเป็นหยด ผมล้มลงกับพื้นเพราะความเจ็บที่แล่นไปทั่วทั้งตัวกับแผลที่โดนกรีดบนฝ่ามือ
คัตเตอร์...
ใบมีดคัตเตอร์ติดอยู่ระหว่างร่องของกระดานดำ ผมโดนสิ่งนี้สินะ..
“ฮ่าฮ่าฮ่า สมน้ำหน้า!!” เสียงของเคลียร์ดังไปทั่วห้องเรียน ผมเหลือบมองไปที่เขาที่นั่งอยู่ข้างหน้า หากแต่ต้องตกใจเมื่อที่ด้านนอกห้องมีนักเรียนห้องอื่นมากกว่า 10 คนกำลังยืนมองมาที่ผมอย่างสะใจปนความสนุก พวกเขาเห็นผมเป็นตัวตลกเหรอไง?
“ไม่ลบให้หมดละห๊ะ!?” เคลียร์ตะคอกใส่ผมเป็นครั้งที่ร้อย
ปึง!
แปลงลบกระดานลอยมาโดนเข้าที่กระดานตรงหน้าผม จนสร้างความตกใจให้คนทั้งห้องที่ไม่รู้เรื่องแปลงที่ลอยมาเลย
“ผมให้ยืมครับ รุ่นพี่...”
เด็กหนุ่มผมดำ ดวงตาสีน้ำเงิน แต่งตัวเรียบร้อย ท่าทางเหมือนเป็นลูกคุณหนู ใบหน้าเกลี้ยงเกลาจนคิดว่าเป็นเทวดา สร้างความหลงให้ผู้หญิงภายในห้องเรียนนี้เป็นอย่างดี เขายืนอยู่ในกลุ่มคนที่มามุงที่ด้านนอก คนที่มุงค่อยๆ ถอยห่างออกมาเหมือนกลัวอะไรบางอย่าง
“พวกรุ่นพี่เนี้ย.. ท่าจะว่างกันน่าดูเลยนะครับ” เขารูปด้วยสีหน้าเย็นชาแต่ก็มองมาที่ผม ก่อนจะเดินเข้าเรียนมาอย่างไม่เกรงกลัวตรงมาที่ผม
“แก...” เคลียร์เริ่มพูดด้วยเสียงที่น่ากลัว “แกกลับมาทำไม..?”
“ก็ผมเป็นห่วงนิ” เขาพยุงผมลุกขึ้นแล้วจับที่มือผมอย่างอ่อนโยน “ว่าพี่จะยังเป็นเพื่อนที่ดีกับคุณเมลท์รึเปล่า? แต่สงสัยผมจะหวังมากเกินไปสินะ..”
“มาต้องมายุ่งเรื่องคนอื่น แกกลับไปเรียนที่ต่างไปประเทศน่ะดีแล้ว!!”
“ไม่เอาน่า.. ผมตั้งใจว่าจะมาตามหาแฟนที่นี้ด้วย เพราะฉะนั้นพี่ก็ควรจะหาได้แล้วนะ” เขาเหลือบมองผมแวบหนึ่ง ตอนนี้ผมอาจจะทำสีหน้าไม่ค่อยดีอยู่ก็ได้ “พ่อกับแม่ฝากมาบอกว่า เดือนหน้าจะกลับมาที่นี้ ให้พาลูกสะใภ้ไปด้วย แต่ดันมาโหดร้ายแบบเนี้ย คงยังหาไม่ได้ละมั้ง?”
“มันจะมากไปแล้วนะเว้ย!!”
“ใครกันแน่ที่มากไปแล้วน่ะ!!!”
เมื่อชายผมดำคนนี้ตะคอดใส่เคลียร์ ก็ทำให้เขากัดฟันกรอด นั้นหมายความว่าเคลียร์ไม่สามารถทำอะไรคนๆ นี้ได้เพราะมีอะไรบางอย่าง
“คุณมากับผมนะครับรุ่นพี่..”
“อะ..อืม”
เด็กหนุ่มรุ่นน้องยิ้มให้ผมอย่างอ่อนโยน มันช่างดูเหมือนรอยยิ้มของเคลียร์แปลกๆ เขาพาผมเดินออกมาไปท่ามกลางสายตาของนักเรียนทั้งห้องและส่วนที่มุงอยู่ มือที่ได้แผลถูกกุมไว้อย่างอ่อนโยน
“คุณคงไปที่ห้องพยาบาลไม่ได้สินะ แถมยังหน้าแดงและตัวร้อนขนาดนี้ ไม่สบายรึเปล่า?”
“คงงั้น..มั้งนะ?”
“งั้นไปที่บ้านผมแล้วกัน เดี๋ยวผมจะทำแผลให้ แล้วจะได้นอนพักอย่างสบายใจที่ไม่ต้องไปโดนคนบ้าเลือดแบบนั้นทำร้ายน่ะ”
“เอ๋..?”
เขารู้ได้ยังไง...?
แถมยังวิธีพูดคุยกับเคลียร์เมื่อกี้อีก มันเหมือนรู้จักกันมาก่อนหน้านี้ยังไงอย่างงั้น...
รอยยิ้มที่คล้ายกันก็อีก...
หรือว่า...
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ