---LoveSad รักเลวๆ ของคนอย่างนาย---

9.0

เขียนโดย WinnerShadow

วันที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2556 เวลา 13.44 น.

  10 chapter
  11 วิจารณ์
  17.92K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 26 กันยายน พ.ศ. 2556 14.10 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

3) LoveSad --Chapter 3 เจ็บมันซ้ำๆ-- [NC]

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

     

Chapter 3

 

 

            ร่างบางเดินมานั่งที่เตียงคู่ขนาดใหญ่ภายในห้องนอนกว้างที่เป็นส่วนหนึ่งของคฤหาสน์หลังใหญ่นี่ หลังจากที่เขาถูกพามาโดยเด็กหนุ่มหน้าตาดีซึ่งเหมือนจะรู้จักกับเคลียร์เหมือนคนใกล้ตัว ร่างบางถูกบอกให้นั่งรอในห้องนี้ไปก่อน เพราะจะทำแผลที่ฝ่ามือให้ แน่นอนว่าตอนนี้มันด้านชาจนไม่รู้ว่ามันเจ็บขนาดไหน ตั้งแต่ที่เขาถูกข่าวลือของเคลียร์ที่สร้างขึ้นเล่นงาน เขาก็ไม่ค่อยยิ้มมานานมาก ถ้ายิ้มก็อาจจะให้แค่นัตสึกิกับริวเนะ

            “ขอโทษที่มาช้านะครับ แผลเป็นไงบ้าง?”

            เด็กหนุ่มผมดำหน้าตาเกลี้ยงเกลาเดินเข้ามาหาเขาที่เตียงพร้อมกล่องประถมพยาบาลที่มีทุกบ้านทุกครัวเรือน(ถ้าตามปกติ)  เด็กหนุ่มนั่งลงกับพื้นห้องโดยให้เมลท์นั่งบนเตียง ก่อนจะเริ่มเปิดกล่อง

            “ดะ..เดี๋ยวสิ!”

            “ครับ?”

            “ที่นี้นายเป็นผู้อาศัยนะ นั่งพื้นมันดูไม่ดี..”

            เด็กหนุ่มหน้าตาดีหัวเราะคิกคัก ก่อนจะเงยหน้าส่งยิ้มที่มีเสน่ห์ให้เมลท์ “ไม่ต้องคิดมาหรอกครับ ผมไม่ค่อยคิดมากเรื่องฐานะหรอก” เขาก้มลงเอาสำลีซับเลือดที่ไหลออกมามากมายหลังจากที่บนรถเขาได้เอาผ้าขนหนูมาซับเลือดจนมันชุ่มไปกว่าครึ่งผืน “ผมยังไม่ได้บอกชื่อผมให้คุณรู้เลยนิ”

            “อะ..อืม”

            “ผมชื่อ คิริยามะ เคน เป็นน้องชายของเคลียร์ครับ” เขาเงยหน้าขึ้นมาบอกชื่อเมลท์อีกครั้ง ก่อนจะก้มลงทำแผลให้อีกครั้งอย่างไม่กลัวเลือดที่ไหลออกมานั้น

            “ฉันชื่อ โอริซากะ เมลท์ ตอนอยู่ที่โรงเรียนขอบคุณมากนะ”

            “ไม่ต้องขอบคงขอบคุณหรอกครับ ผมแค่ทำตามหน้าที่น่ะ”

            “หน้าที่...?”

            “อ่อ! เปล่าๆ ไม่มีอะไรครับ” หลังจากที่เขาพูดจบซึ่งตรงกับตอนที่เขาซับเลือดจนหมดพอดี ใบหน้าหล่อเหลาของเคนหันไปหยิบแอลกอฮอล์ขวดเล็กภายในกล่อง ก่อนจะเงยหน้ามองเมลท์ที่กำลังมองการกระทำของเขาอย่างไม่ละสายตา “ทนแสบหน่อยนะครับ”

            “ฉันไม่เป็นไรหรอก  แค่นี้มันยังน้อยไปด้วยซ้ำ”

            “แหม่ๆ คุณเมลท์นี่แกร่งจริงๆ เลยนะครับ” เมื่อพูดจบก็เอาสำลีชุบแอลกอฮอล์และค่อยจิ้มลงที่แผลอย่างเบามือ มันรู้สึกแสบนิดหน่อย เพราะเป็นรอยกรีดจากคัตเตอร์ซึ่งเกิดเป็นรอยแผลยาว ร่างบางเริ่มมีสีหน้าแย่ขึ้นมาเมื่อทุกครั้งที่ถูกเอาสำลีชุบแอลกอฮอล์แป่ะ มันก็เหมือนจะแสบไปทั่วร่างกาย ทว่าเด็กหนุ่มที่นั่งด้านล่างกลับพูดปลอบโยนเขาเสมอ

            “ไม่แสบนะครับรุ่นพี่.. ผมจะทำเบาๆ นะ”

            รอยยิ้มที่ส่งยิ้มให้ทุกครั้งในเวลาที่ร่างบางรู้สึกแสบ มันเหมือนรอยยิ้มที่เคลียร์เคยมีให้เขาตอนที่ทำแผลให้ ภาพในอดีตย้อนเข้ามาในหัว ไม่ว่าจะ คำพูด.. การกระทำ.. และความรู้สึกที่มีต่อกัน.. ล้วนเป็นความรู้สึกดีๆ ซึ่งผมหลงรักเขามาตลอดตั้งแต่ตอนนั้น แต่ทว่ามันหายไปเพราะเขาเกิดคลั่งขึ้นมากับเรื่องที่นัตสึกิลูบหัวปลอบเขาเพียงเท่านั้น

            จาก ความอ่อนโยน ความรู้สึกดีๆ มันแปรเปลี่ยนเป็น ความโกรธ ความทรมาน ความเสียใจ ทุกวันนี้ผมไม่คิดอย่างอื่นนอกจากอยากจะตาย ถ้าหากว่าผมไม่ติดตรงที่ยังรักเขาอยู่ละก็นะ...

            “เสร็จแล้วครับ”

            พอรู้สึกตัวอีกที แผลของเขาก็ถูกจัดแจงด้วยผ้าก๊อซที่พันไว้เรียบร้อยโดยฝีมือของหนุ่มหล่อน้องชายของเคลียร์คนนี้ เขายิ้มให้เมลท์อย่างอ่อนโยน ก่อนจะนั่งลงบนเตียงข้างๆ ร่างบางที่กำลังมองแผลตัวเองที่ถูกทำไว้อย่างดี

            “ขอบคุณมากนะ เคน” เขาตัดสินใจพูดออกไปตามด้วยชื่อของเด็กหนุ่มข้างๆที่นั่งมองเขาอยู่ เมลท์คิดว่าตนเองไว้ใจเด็กคนนี้ได้ แต่ไม่รู้ว่าทำไมความรู้สึกมันเหมือนเขาเป็นคนขี้แกล้งแปลกๆ ก่อนที่ลางสังหรณ์ตามที่คิดจะเกิดขึ้น

            “อ๊ะ!”

            จู่ๆ ก็มีอะไรบางอย่างที่เป็นขนมาโดนที่หูของเขาจนเผลอร้องเสียงหลงออกมา ตามด้วยเสียงหัวเราะคิกคักเหมือนกำลังพยายามสะกดกลั้นของคนที่อาจจะเป็นคนขี้แกล้งซึ่งเมลท์คิดไว้ไม่มีผิด

            “คุณนี่น่ารักอย่างที่พี่เขาบอกเลยนะครับ”

            เคลียร์บอกเหรอ...?

            ว่าเราน่ารัก...

            “แล้วตอนนี้ละ หมอนั้นว่ายังไง?” เสียงของร่างบางดูเศร้าลงจนทำให้เคนถึงกลับหยุดหัวเราะแล้ววางไม้ที่ไว้เล่นกับแมวลงใต้เตียงก่อนจะเอนตัวนอนบนเตียงไปแล้วถอนหายใจ

            “ตั้งแต่เมื่อปีที่แล้วในช่วงเทอมสองละมั้ง? พี่ก็ไม่ติดต่อมาคุยเรื่องคุณอีกเลย”

            “งะ..งั้นเหรอ?” เสียงของร่างบางสั่นเครือทันที เขาไม่เข้าใจจริงๆ ว่าทำไมเคลียร์ต้องทำร้ายเขาแทบจะทุกวันแบบนี้ แถมยังทำเหมือนเขาเป็นที่ระบายความต้องการของเท่านั้น โดยไม่คิดที่จะมองเขาในแง่อื่น หรือแม้แต่จะกอดอย่างอ่อนโยนและมอบความอบอุ่นให้ ซึ่งตอนนี้ที่เขาไม่สามารถยิ้มได้ อาจจะเพราะหัวเราะที่ด้านชาเหมือนกับแผลที่ฝ่ามือว่า เขาขาดความอบอุ่นมานานเกินไป...

 

 

            ที่บ้านเคลียร์

          เคนขับรถสปอร์ตสีขาวมาส่งเมลท์ถึงหน้าบ้านเคลียร์ เมื่อลงจากรถเด็กหนุ่มไม่ลืมที่จะขอบคุณคนที่ช่วยเขาไว้ถึง 2 ครั้ง โดยการพอออกมาจากห้องเรียน และทำแผลให้  เมลท์ยิ้มให้เคนพลางโบกมือ ก่อนที่รถสปอร์ตสีขาวที่จะออกตัวจากไปโดยเสียงเครื่องยนต์ที่ไม่ดังอย่างพอเหมาะไม่รบกวนชาวบ้านละแวกนี้ เมื่อรถหายลับตาไป เมลท์จึงหันเดินเข้าประตูบ้านไป แต่ต้องตกใจเมื่อพบชายร่างสูงยืนกอดอกอยู่ที่หัวบันได

            “สงสัยจะล่อหรอกน้องฉันจนได้กันไปแล้วมั้ง?”

            “ปะ..เปล่านะ! ฉันไม่คิดจะทำแบบนั้น”

            “หึ ฉันหวังว่าหลังจากหมอนั้นทำแผลให้แกเสร็จ แกคงไปล่อหรอกคนในบ้านนั้นแทนน้องฉันหรอกนะ”

            “ในหัวทำด้วยอะไรน่ะ!? คิดแต่เรื่องแบบนี้เหรอไง!?”

            ทันทีที่พูดจบร่างบางก็ถูกกระชากจนเซไปที่แผงอกกว้างของชายร่างสูง ใบหน้าบ่งบอกถึงความเจ็บปวดทันที ก่อนจะต้องรับความเจ็บปวดที่แล่นผ่านน่าอกอีกครั้ง

            “แกกล้าตะคอกใส่ฉันงั้นเหรอ!? ไอ้หร่าน!!!”

            ผัวะ!

            ร่างบางตัวงอลงไปนั่งทันทีเมื่อโดนต่อยเข้าที่ท้องอย่างรุนแรง ใบหน้าบิดเบี้ยวไปด้วยความเจ็บปวดพร้อมกับเสียงครางด้วยความทรมานที่แผ่ไปตามตัว

            “หึ มานี่!!”

            ร่างบางถูกกระชากให้เดินตามไป ตอนนี้เขาเหมือนทั้งล้มทั้งยืน เจ็บไปทั้งตัว รวมถึงใจที่ช้ำมากๆ ด้วย

            ร่างบางถูกลาเข้ามาที่ห้องนอนก่อนจะโดนผลักให้นอนลงไป ร่างสูงไม่รอคอยขึ้นค่อมร่างบางแล้วก้มลงบดจูบอย่างรุนแรงและเร้าร้อนไม่คิดถึงริมฝีปากที่เปราะบางของร่างข้างใต้กายของตน

            “อื้อ..!”

            เสียงครางอย่างขัดขืนดังขึ้น สร้างความต้องการที่ดิบเถื่อนให้กับร่างสูงเป็นอย่างมาก ลิ้นร้อนสอดผ่านเข้ามารุกล้ำภายในโพลงปาก ลิ้นควานหาความหอมหวานภายในอย่างต้องการ ทว่าเคลียร์ไม่รอเวลา แล้วเริ่มถอดเสื้อของร่างบางอย่างรวดเร็วจนร่างบางขัดขืนแทบไม่ทันที่จะตั้งตัว

            “อย่า..ฉันเจ็บแผลที่มือ..อ๊ะ!”

            ยอดอกสีชมพูถูกเม้มและดูดอย่างสนุกสนานอย่างรุนแรงพอๆ กับรสจูบเมื่อครู่ กางเกงถูกปลดเปลือยทุกอย่าง ร่างสูงจับแกนกายแล้วรูดขึ้นลงเป็นจังหวะ ก่อนจะเลือนจากการเม้มปากมาเป็นการเม้มแกนกายของร่างบางและครอบครัวทั้งแกน ซึ่งสร้างความรู้สึกแย่ๆ ให้ร่างบางอย่างแปลกๆ

            “อ๊า..อ๊ะ..ไม่นะ..ยะ..หยุด อ๊ะ!”

            ระหว่างที่ครอบครองก็เอาลิ้นเลียเล่นเหมือนมันเป็นไอติมแท่ง ซึ่งตอนนี้ร่างบางใกล้จะถึงขีดสุดแล้ว ถ้าหากร่างสูงไม่หยุดซะก่อน

            “ฉันรู้นะว่าแกจะถึงแล้วน่ะ หึหึหึ”

            “ฮ๊า..ฮา หยุด..เถอะ..เคลียร์...”

            การที่ร่างบางเรียกชื่อของคนเหนือร่างอาจจะเป็นเรื่องที่คิดผิดก็ได้.. เพราะหลังจากที่ได้ยินแบบนั้น ไม่ถึง 5 วิร่างสูงก็ปลดกางเกงของตน แยกขาทั้งสองข้างของร่างบางแล้วจึงสอดแทรกความเจ็บชายเข้าทางหลังของร่างบางจนมิดลำซึ่งเกิดเสียงร้องเจ็บปวดขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่

            “อ๊า!!!”

            น้ำสีขาวขุ่นถูกปลดปล่อยออกมาหลังจากที่ร่างสูงกะจะทิ้งให้เสร็จพร้อมกัน ด้วยความโมโหจึงตบร่างบางจนหันก่อนจะขึ้นรอยแดงแสดงถึงความรุนแรงได้อย่างดี

            เพี๊ยะ!!

            “ไอ้หร่านเอ้ย!!!”

            “อ๊า! ฮา อ๊ะ อ๊า! ฮา..”

            เสียงเตียงเสียดสีกับพื้น.. เสียงของร่างกายกระทบกัน รวมไปถึงเสียงครางด้วยความเจ็บปวดที่ดังออกมาเหมือนคนกำลังจะตาย อาจไม่ใช่เพราะไม่ได้เปิดทางก่อน แต่อาจเป็นเพราะความรู้สึกที่เหมือนโดนหักหลัง โดนทำร้าย ที่มันจะย้อนกลับมาทุกครั้งที่มีอะไรกันด้วยโทสะ

            “แจกจ่ายร่างกายไปทั่วเลยนะ! ไอ้หร่าน!!”

            “อา! อื้อ..อืม..”

            ร่างสูงก้มลงประจูบปากที่ครางออกมาอย่างเจ็บปวดด้วยความต้องการที่ดิบเถื่อน ก่อนที่ทั้งคู่จะปลดปล่อยออกมาพร้อมกัน เปรอะเปื้อนหน้าท้องของร่างบางมากมาย

            “ฮา..ฮา..”

            เสียงแหบพร่าของทั้งคู่ดังก้องไปทั่วห้องนอนห้องกว้างนี้ ซึ่งมีเฟอร์นิเจอร์ไม่มาก แผลที่ฝ่ามือเริ่มเลือดไหลจากการกำมือแน่นในสถานการเมื่อครู่เดียว ร่างบางร้องโอดครวญอย่างเจ็บปวดเพราะแผลกับเลือกที่เริ่มซึมทะลุผ้าก๊อซออกมา

            “หึ เลือดออกจนได้นะ ไอ้หร่าน”

            “ลุก.. ฉันจะไปทำแผล..”

            “ไม่!!”

            เมื่อปฏิเสธก็จับกระชากร่างบางผลิกคว่ำแล้วยัดแกนกายเข้ามาอีกครั้ง เรียกเสียงครางของร่างบางที่ทรมานอีกครั้ง ร่างสูงเอามืออีกข้างกับแขนข้างของร่างบางล็อคไว้ด้านหลัง แล้วนึกสนุกมองดูมือที่มีแผลกำจิกที่นอนจนเลือดออกมาอย่างเห็นได้ชัด

            “อ๊า เจ็บ..ฮา”

            “หึ เจ็บก็เจ็บไปสิ มันไม่เกี่ยวกับฉันสักนิด”

            เขาไม่รู้สึกผิดเลยสินะ... จริงๆ ผมควรจะตายไปซะ.. อย่างน้อยๆ ก็หนีจากพันธนาการของเขาได้...

            ร่างสูงเอานิ้วที่เปื้อนคราบสอดเข้าไปในโพลงปากของร่างบางที่ตอนนี้ครางไม่หยุด

            “อ๊ะ อื้อ..อืม..อื้อ!”

            นิ้วของร่างสูงถูกเลียไปด้วยลิ้นที่เต็มไปด้วยน้ำลายอุ่นๆ ของร่างบาง น้ำตามากมายไหลรินเต็มใบหน้า สักวันเขาคงได้เห็นน้ำตาใสนี่เปลี่ยนเป็นสีเลือดเพราะร้องได้ทุกวันแน่นอน

            “อ๊า!!!!”

            ครั้งสุดท้ายสำหรับคืนนี้ที่ทั้งสองปลดปล่อยออกมาอีกครั้ง ร่างทับร่างนอนหอบเหนื่อย สติของเมลท์ค่อยๆ ดับวูบลงช้าๆ ใบหน้าที่แดงระเรือเต็มไปด้วยน้ำตา

            จริงๆ สภาพแบบนี้ก็สร้างความเจ็บปวดให้ผู้กระทำเช่นกัน...

            หากแต่เขาไม่สามารถหยุดทำแบบนี้ได้ ก็เท่านั้นเอง...

 

 

            วันต่อมา

            “ตื่นได้แล้ว!!”

            ยาวเช้าที่ถูกปลุกอย่างรุนแรงด้วยเสียงตะคอก จริงๆ ร่างบางตื่นตั้งนานแล้ว หากแต่เขารู้สึกไม่สบายเพราะปวดหัวและหายใจติดขัดตลอดตั้งที่ตื่นก่อนแล้วตั้ง 2 ชั่วโมง

            “เป็นอะไร? น่าแดงเชียว เป็นหวัดเหรอไง?”

            ร่างสูงเดินมานั่งข้างๆ ก่อนจะจับตามตัวที่เปลือยเปล่า ซึ่งไม่ทำหน้าตกใจหรือแปลกใจแม้แต่น้อย ที่ร่างกายของเมลท์ตัวร้อนขนาดนี้

            “ยังไงก็ทำแผลที่ฝ่ามือก่อน แล้วเดี๋ยวเอายากับเสื้อผ้ามาให้ วันนี้แกหยุดเรียนไปเลย”

            ถึงจะพูดด้วยเสียงที่เหมือนประชดประชัน แต่ทว่าร่างบางกลับหัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ ไม่รู้เพราะอะไรเหมือนกัน หากรู้สึกเหมือนความอบอุ่นซึ่งคล้ายเมื่อก่อนมันแล่นเข้ามาแทนที่ความเจ็บที่ได้รับเมื่อคืน

            เคลียร์หยิบกล่องพยาบาลกับเสื้อผ้าและยามาวางบนเตียง ก่อนจะเปิดกล่องแล้วหันมาแกะผ้าก๊อซที่เปื้อนเลือดออก เคลียร์ทำหน้านิ่งเฉยอย่างไม่สำนึกผิดซึ่งเมลท์คิดอยู่แล้วว่าต้องเป็นแบบนี้ มือถูกซับด้วยสำลีอีกครั้ง แล้วก็เช็ดด้วยสำลีชุบน้ำสลับกัน ก่อนจะเอาขวดแอลกอฮอล์มาเปิด

            “โอ้ย!!!”

            ความแสบมาพร้อมกับเสียงร้องทรมานเมื่อแอลกอฮอล์ถูกลาดลงบนฝ่ามือจนหมดขวดในคราเดียว น้ำตาเริ่มไหลรินออกมาต่อจากเมื่อคืน มันแสบจนสั่นอย่างรุนแรงลามไปตั้งแต่หัวจรดเท้า เมลท์เอามืออีกข้างกำข้อมือตัวเองพยายามประคองมือของตัวเองที่แสบระทวย เมื่อเงยหน้ามองผู้กระทำ ก็ถึงได้เห็นใบหน้าที่ตอนนี้มองเขาด้วยรอยยิ้มที่เลือดเย็นจนน่าขนลุก

            “หึ เป็นไง? แสบดีจนแทบจะตายเลยสิท่า!”

            “ฮึก..ฮือ...”

            “ทำแผลเองแล้วกัน! ฉันก็ตัวไปเรียนก่อนนะ ไอ้หร่าน!!”

            ปึง!

            เสียงประตูห้องปิดลง เหลือเพียงร่างบางที่กำลังนั่งร้องทรมานกับแผลที่มือ มองไปรอบห้องอย่างรู้สึกแย่ เขาไม่อยากจะอยู่ที่นี้เลย ตอนนี้เขาเหมือนจะแตกสะลายหายไปจนเป็นอากาศ แววตาแปรเปลี่ยนเป็นเหมือนร่างไร้วิญญาณ ถ้าเขาหนีได้ เขาก็อยากจะหนีไปเลยด้วยซ้ำ...

            เด็กหนุ่มมองแผลที่ฝ่ามือตัวเองอย่างเจ็บปวด...

            เสียงสะอื้นดังขึ้น ก่อนจะร้องเสียงดังเพื่อปลดปล่อยความเจ็บปวดร่วมหนึ่งปี...

            .

            .

            ใครก็ได้มารับผมไปที...

 

 

---------------------------------------------------------------

ขอบคุณที่มาเม้นเร่งนะคับ ผมรู้สึกถึงกำลังใจที่ล้นทะลักออกมาเลยละคับ
ขอบคุณนักอ่านจริงๆ นะคับ ที่แว่ะเข้ามาดูเมื่อมีขึ้น update ทุกครั้ง
ผมรักทุกคนที่แว่ะเข้ามาคับ :1:

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.2 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.2 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.6 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา