Boy be absurd ซื่อบื้อนัก รักซะเลย !
7.9
เขียนโดย The_girl_sama
วันที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2556 เวลา 21.14 น.
12 chapter
10 วิจารณ์
19.64K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2556 02.31 น. โดย เจ้าของนิยาย
1) การเริ่มต้นและโชคชะตา
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความเอี๊ยด เอี๊ยด
เสียงเตียงโยกย้ายไปมาคละเคล้ากับเสียงครางของสาวน้อยคนหนึ่ง ตอนนี้เธอถูกเปลือยกายทั้งท่อนล่างและท่อนบน ชายหนุ่มร่างกำยันสันทัด หน้าตาหล่อเหล้าเขาเองก็เปลือยกายทั้งท่อนล่างและท่อนบนเช่นกัน ทั้งสองร่วมรักกันมาได้สักพักในบ้านหลังใหญ่ของฝ่ายหญิง ฝ่ายหญิงเริ่มครางเสียงดังขึ้น จนกระทั่ง
“อ๊ากกกกก!!” หญิงสาวตะโกนเสียงดังลั่นพร้อมกับดิ้นไปมาบนเตียง ชายหนุ่มแปลกใจว่าตัวเองทำอะไรผิด เขาจึงคลานไปหาและแตะเข้าที่ขาของฝ่ายหญิง
“เลิกยุ่งกับฉันเลยไอ้เบื้อก!” หญิงสาวถีบลงที่กลางท้องของชายหนุ่มเต็มแรง เธอยืนดูสภาพตัวเองสักพักก็เดินไปจิกหัวของชายหนุ่มขึ้นมาใกล้ๆแล้วพูดว่า
“แกมันอ่อน!รู้ไหมว่าการที่แกมาบีบเอวฉันแรงๆมันทำให้เกิดรอย ไอ้ฟายเอ้ย!” หญิงสาวโมโหจัด เตะเข้าไปที่ลำตัวของชายหนุ่มอีกครั้ง ชายหนุ่มถึงกับล้มฟุบลงไปเลยทีเดียว จากนั้นเธอเดินไปที่ลิ้นชักเปิดมันออกมาช้าๆแล้วหยิบเงินจำนวนหนึ่งขึ้นมา
“เนี้ย!เงินสำหรับวันนี้ เอาไปซะแล้วไม่ต้องกลับมาอีก!!” หญิงสาวปาเงินใส่หน้าของชายหนุ่ม เขารีบเร่งใส่เสื้อผ้าของตัวเองแล้ววิ่งออกไป
“ให้ตายสิ ชีวิตแบบนี้น่าเบื่อจริงๆ” เธอบิดขี้เกียรออกมานิดหน่อยแล้วเดินไปใส่เสื้อผ้า ระหว่างที่กำลังใส่เสื้อในห้องแต่งตัวนั้น บอดี้การ์ดนามว่า ‘ทีน’ องครักษ์ประจำตัวของหญิงสาว ได้เดินมาถามถึงสาเหตุที่นายเหนือหัวของตัวเองไล่ผู้ชายคนนั้นออกไป
“เจ้ซินครับ ทำไมเจ้ไล่ไอ้นั้นไปล่ะ หนีเตลิดเปิดเปิงไปเลย” ทีนเดินมาหยุดอยู่ที่หน้าประตูห้องของเจ้านายที่เค้าเรียกว่า ‘เจ้ซิน’
“มันทำพลาด” ซินตอบกลับไปแบบเรียบๆไม่ทุกข์ร้อน ไม่มีการร้อนใจ
“ให้ผมตามตัวมันมาให้กระทืบไหมล่ะครับเจ้” ทีนพูดเอาใจเจ้านาย แต่ดูเหมือนเจ้านายของเขาจะไม่มีอารมณ์เล่นด้วย
“ไม่ต้องยุ่ง ฉันไล่มันไปแล้ว” เธอเดินออกมาจากห้องด้วยเสื้อกับกางเกงตัวเดิมที่เคยถอดไปแล้ว ซินมองทีนตาเขียวปั๊ด ทีนจึงได้แต่ก้มหน้าก้มตา หลบสายตาที่แสนเยือกเย็นและน่ากลัวของเจ้านายตัวเอง
“งั้นถ้า..ไม่มีอะไรแล้ว ผมขอตัวนะครับ” ทีนก้มหัวให้นายหญิงของเขา แล้วเดินปิดประตูออกจากห้องไป เมื่อหญิงสาวได้อยู่ตัวคนเดียว เธอจึงปล่อยให้ความโกรธโลดแล่น ด้วยการ ฉีก ข่วน ต่อย ถีบ ของทุกอย่างที่อยู่ในห้อง ข้าวของกระจัดกระจายไปตามที่ต่างๆ บางชิ้นไม่เหลือเค้าโครงเดิมเลยด้วยซ้ำ
“เห้อ~ ฉันอยากจะอัดคนจริงๆ ให้ตายสิ ฉันไม่ควรมาติดแง็กอยู่ในบ้านหลังโง่ๆหลังนี้เลย” เธอถอนหายใจแล้วนั่งอยู่บนขอบหน้าต่างเพื่อบ่นกับสายลมที่พัดผ่านความว่างเปล่าเข้ามา
ความเบื่อและเหงาทำให้เธอเริ่มทำตัวเป็นเด็กเก็บกด พ่อกับแม่ของเธอเป็นถึงเจ้าพ่อเจ้าแม่ที่คุมใต้ดิน คุมในหลายๆย่าน ทั้งสองกลัวลูกสาวตัวน้อยๆจะได้รับอันตราย พวกเขาจึงมีคำสั่งให้ทุกคนคุ้มครองและปกป้องซิน ถึงเจ้าตัวจะเอาตัวรอดได้ก็ตาม แต่เธอก็ยังคงเป็นลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนเพียงหนึ่งเดียวของเจ้าพ่อและเจ้าแม่ชื่อดังอยู่ดี เธอจำเป็นต้องได้รับการปกป้องเต็มพิกัด ทั้งตำรวจ ทหาร และบอดี้การ์ด เธอต้องพกพาไปทุกที่ ซินจึงคิดหาแผนหนีออกจากบ้านมาตลอด
มาถึงตอนนี้เธอคิดว่าเธอพร้อมแล้ว เธออายุ 18 มากพอที่จะหนีไปอยู่คนเดียวได้แล้ว เธอแค่อยากได้อิสระ ถ้าใครหามาให้ไม่ได้ก็ต้องไปหาเอง
คืนนี้จึงเป็นคืนสุดท้ายที่เธอจะอยู่บ้านนี้ถึงแม้จะรู้ดีว่าหนียังไงก็หนีไม่พ้น แต่เธอก็อยากจะลองดูสักครั้ง ซินนั่งคิดอยู่บนขอบหน้าต่างสูง ลมพัดเอื่อยๆมาโดนหน้าเธอ มันทำให้เธอคลายความเครียดและความโกรธลงได้ไปกว่าครึ่ง เธอเริ่มหันมายิ้มให้ตัวเองและเดินไปเปิดประตูลงไปข้างล่าง
“ทีน!ทีน!” ฉันยืนเรียกนายทีนอยู่ที่บันได สักพักทีนมันก็ยืนหอบแฮ่กๆอยู่ตรงหน้าฉัน
“ว่าไงครับเจ้!เรียกซะดังเชียว นึกว่าเกิดอะไรขึ้น..” ทีนส่งสายตาปานจะขาดใจตาย เพราะห่วงนายเหนือหัวจึงรีบวิ่งมาทั้งๆที่ตัวเองกำลังทำธุระอยู่
“จะเกิดอะไรขึ้นล่ะ นี้ฉันเลยนะไม่ใช่ลูกมาเฟียธรรมดาๆ” ไม่มีใครหน้าไหนเก็บฉันได้ตราบใดที่ฉันยังอยู่ในบ้าน แต่ถ้าเป็นคืนนี้ล่ะไม่แน่ หึหึ
“ครับๆแล้วเจ้มีอะไรล่ะ อยากได้ผู้ชายใหม่หรอ?” นายทีนทำหน้าสงสัย
“เปล่า ฉันอยากออกไปข้างนอกหน่อย”
“เอิ่ม.....เกรงว่าจะไม่ได้นะครับตอนนี้” นายทีนหน้าซีดทันทีที่พูดประโยคนั่นออกมา เพราะเขารู้ดีว่าจะเจออะไรถ้าขัดใจนายหญิงของตัวเอง
“อะไร!ทำไมออกไม่ได้!”
“คือ...ตอนนี้มันอันตรายเกินไป”
“นายก็ไปกับฉันเหมือนอย่างเคยสิ จะเอาอะไรมาก!” เรื่องมากจริง ทีนี้อะไรล่ะ! ตำรวจไม่พอ ทหารไม่พอ หรือข้างนอกกำลังทำสงครามกันแน่!?
“ไปน่ะไปได้ครับ แต่ตอนนี้พ่อกับแม่ของเจ้กำชับว่าไม่ให้เจ้ออกมาเด็ดขาด
“โอ้ย!!อย่าคิดเลยว่าจะห้ามฉัน ถ้านายทำได้ก็ลองดูสิย่ะ!” ฉันตั้งกาดเตรียมจะต่อยนายทีน แต่นายทีนกลับหน้าซีดและถอยออกไปง่ายๆ ยอมให้ฉันเดินผ่านไปอย่างสะดวก แต่จากนั้นมันก็ตามมานั่งข้างๆฉันในเบาะ พร้อมกับบอดี้การ์ดที่รู้จักกันดีตามมาอีกสามคน
“เฮ้ย เอาไอ้โฮมมาทำไม แกน่าจะรู้กันนะว่ารถฉันมันเล็ก” ฉันหันหลังไปด่านายโฮม ที่ตัวใหญ่เท่าบ้านเพราะเขาเป็นถึงนักสู้ผู้ยิ่งใหญ่แห่งบ้าน เอมม่าแพนร์ของฉันเลยทีเดียว
“ขอโทษครับเจ้ซิน ก็ผมอยากไปข้างนอกด้วย อยู่ในบ้านน่าเบื่อจะตาย”
“ใช่ๆเจ้ เฟลล่ะเบื๊อเบื่อ ขอติดรถไปด้วยคน” นายเฟลบอดี้การ์ดหน้ายิ้มอีกคนหนึ่งที่รู้จักกันมาตั้งนมนาน นายนี้ยิ้มได้ตลอดเวลาจริงๆ แต่ถึงกระนั้นถ้าถึงเวลาออกโรงนายนี้ก็ต่อยสู้ฟัดเหมือนกัน
“ไอ้แฟ้บ แกอย่ามาพูดเลย แกขอติดรถฉันเพื่อไปหาแม่แกกี่ครั้งแล้ว” แต่ในใจลึกๆฉันก็อยากไปหาแม่นายนี้แหะ ทั้งใจดี ใจบุญ แถมยังชมฉันเรื่อยอีกตั้งหาก
“ฮ่าๆ ตั้งฉายามันได้น่ารักดีฮะเจ้” ส่วนนี้เด็กใหม่ที่เพิ่งเข้ามาเมื่อเดือนก่อน ดูเหมือนเขาจะเป็นคนพูดเก่งและตีสนิทเร็ว ทำให้เราได้มารู้จักกัน ดูเหมือนเขาจะเป็นเด็กอัจฉริยะ การทดสอบด้านการต่อสู้และสติปัญหาของเขาสูงกว่าคนอื่นๆ อันนี้ก็น่าปลื้ม
“เจ้ครับ รีบเถอะผมว่า แล้วนี้เจ้คิดรึยังว่าจะไปไหน” นายทีนพูดขัดขึ้นทำให้ฉันหันมาตั้งหลักเหมือนเดิม
“แน่นอนสิ ฉันต้องไปหาเพื่อน” ฉันพูดขณะบิดกุญแจ ทั้งสี่คนรู้ดีว่าเมื่อฉันได้จับพวงมาลัยเมื่อไหร่ นรกมาเยือนเมื่อนั้น
ผ่านไป 10 นาที
“โห้ยเจ้คร้าบ~~ ผมจะอ้วกอยู่แล้ว เจ้จะเทพไปไหน” นายแฟ้บ(เฟล)บ่นขึ้นครั้งที่เท่าไหร่ไม่รู้ ฉันว่ามันน่าจะชินกันได้แล้วนะ นักสู้ภาษาอะไรแค่นี้ก็ทนกันไม่ได้
“เจ้ฮะ แวะปั๊มเหอะ ผมจะอ้วกแล้ว” อ้าว นี้นายเด็กอัจฉริยะเตี้ยแว่น แกก็เป็นไปกับเขาหรอ
“เจ้คร้าบ~~” นายทีนกับนายโฮม เรียกชื่อฉันพร้อมกัน มันทำให้ฉันหงุดหงิดและรีบจอด
“เอ้า!เร็วๆเลย ถ้าฉันซื้อของแล้วพวกแกยังไม่ออกมา โดนเก็บเรียงตัวแน่!!” ฉันเปิดล็อคประตู ทำให้นายบอดี้การ์ดทั้งสี่รีบวิ่งทุลักทุเลไปอ้วกทันที
“ให้ตายสิ มากับพวกนี้เกะกะดีจริงๆ” ฉันเดินบ่นตรงไปยังเซเว่น เมื่อเข้ามาได้ฉันเลยสูดลมหายใจรับแอร์เย็นๆเข้าปอด กินนมสักหน่อยจะได้สดชื่นยิ่งขึ้น
หมับ !
เสียงจับขวดนมของคนสองคนดังขึ้น นั้นคือเสียงฉันและไอ้ผู้ชายเฮงซวยที่ไหนไม่รู้ มันคิดจะหลอกจับมือหรอ ต้องมีสั่งสอนถ้าไม่ยกนมนี้ให้ฉัน
“อ่า..ขอโทษนะครับ เชิญคุณเอาขวดนี้ไปได้เลย” หืม? ทำไมให้ง่ายจัง แปลกแฮะ ฉันไม่เคยเจอใครที่ให้อะไรง่ายขนาดนี้ เอาเถอะถือว่าขอบใจล่ะกัน ฉันหยิบขวดนมแล้วเดินเลี่ยงไปทางชั้นวางขนม ขนมเต็มเลยกินอะไรดี แล้วฉันต้องซื้อฝากเจ้าพวกนั้นไหมเนี้ย อย่าบอกนะว่าต้องซื้อ -.-*
หมับ!
เสียงคว้าถุงขนมของคนสองคน ซึ่งก็คือฉันและนายเฮงซวยนั่นอีกแหละ! อะไรของมันนักหนา เป็นโรคจิตรึไงคอยตามอยู่นั่นแหละ หรือเพราะฉันสวยเกินไปมันเลยหลงเสน่ห์ฉัน !?
“นี้คุณ!”
“ขอโทษอีกทีนะครับ ผมไม่คิดว่าเราจะหยิบสิ่งๆเดียวกันอีกแล้ว” เขาก้มหัวให้ฉันหน่อยๆ แล้วเดินไปทางอื่น นายนี้เหมือนเดินหนีฉันเพราะรู้ว่าฉันกำลังจะด่ามัน ก็ดี ..ฉันไม่อยากมีเรื่องในร้านที่มีกล้องวงจรปิด
เซ็งเลยแหะ กวาดๆเอาไปให้หมดนิแหละ ฉันกวาดขนมทั้งแผงใส่ตระกร้าแล้วเดินไปชงกาแฟ อืม...กลิ่นกาแฟหอมรัญจวนใจจริงๆ
ตุบ! ซ่า!
“กรี๊ดดดดดด!!” พร้อมเสียงชะนีโห้ยหวนซึ่งก็คือฉันเอง โว้ย! มันทำกาแฟหกใส่ฉัน ไอ้เฮงซวยนั่นอีกแล้ว ฉันจะไม่ทนแล้วนะเว้ย!!
เสียงเตียงโยกย้ายไปมาคละเคล้ากับเสียงครางของสาวน้อยคนหนึ่ง ตอนนี้เธอถูกเปลือยกายทั้งท่อนล่างและท่อนบน ชายหนุ่มร่างกำยันสันทัด หน้าตาหล่อเหล้าเขาเองก็เปลือยกายทั้งท่อนล่างและท่อนบนเช่นกัน ทั้งสองร่วมรักกันมาได้สักพักในบ้านหลังใหญ่ของฝ่ายหญิง ฝ่ายหญิงเริ่มครางเสียงดังขึ้น จนกระทั่ง
“อ๊ากกกกก!!” หญิงสาวตะโกนเสียงดังลั่นพร้อมกับดิ้นไปมาบนเตียง ชายหนุ่มแปลกใจว่าตัวเองทำอะไรผิด เขาจึงคลานไปหาและแตะเข้าที่ขาของฝ่ายหญิง
“เลิกยุ่งกับฉันเลยไอ้เบื้อก!” หญิงสาวถีบลงที่กลางท้องของชายหนุ่มเต็มแรง เธอยืนดูสภาพตัวเองสักพักก็เดินไปจิกหัวของชายหนุ่มขึ้นมาใกล้ๆแล้วพูดว่า
“แกมันอ่อน!รู้ไหมว่าการที่แกมาบีบเอวฉันแรงๆมันทำให้เกิดรอย ไอ้ฟายเอ้ย!” หญิงสาวโมโหจัด เตะเข้าไปที่ลำตัวของชายหนุ่มอีกครั้ง ชายหนุ่มถึงกับล้มฟุบลงไปเลยทีเดียว จากนั้นเธอเดินไปที่ลิ้นชักเปิดมันออกมาช้าๆแล้วหยิบเงินจำนวนหนึ่งขึ้นมา
“เนี้ย!เงินสำหรับวันนี้ เอาไปซะแล้วไม่ต้องกลับมาอีก!!” หญิงสาวปาเงินใส่หน้าของชายหนุ่ม เขารีบเร่งใส่เสื้อผ้าของตัวเองแล้ววิ่งออกไป
“ให้ตายสิ ชีวิตแบบนี้น่าเบื่อจริงๆ” เธอบิดขี้เกียรออกมานิดหน่อยแล้วเดินไปใส่เสื้อผ้า ระหว่างที่กำลังใส่เสื้อในห้องแต่งตัวนั้น บอดี้การ์ดนามว่า ‘ทีน’ องครักษ์ประจำตัวของหญิงสาว ได้เดินมาถามถึงสาเหตุที่นายเหนือหัวของตัวเองไล่ผู้ชายคนนั้นออกไป
“เจ้ซินครับ ทำไมเจ้ไล่ไอ้นั้นไปล่ะ หนีเตลิดเปิดเปิงไปเลย” ทีนเดินมาหยุดอยู่ที่หน้าประตูห้องของเจ้านายที่เค้าเรียกว่า ‘เจ้ซิน’
“มันทำพลาด” ซินตอบกลับไปแบบเรียบๆไม่ทุกข์ร้อน ไม่มีการร้อนใจ
“ให้ผมตามตัวมันมาให้กระทืบไหมล่ะครับเจ้” ทีนพูดเอาใจเจ้านาย แต่ดูเหมือนเจ้านายของเขาจะไม่มีอารมณ์เล่นด้วย
“ไม่ต้องยุ่ง ฉันไล่มันไปแล้ว” เธอเดินออกมาจากห้องด้วยเสื้อกับกางเกงตัวเดิมที่เคยถอดไปแล้ว ซินมองทีนตาเขียวปั๊ด ทีนจึงได้แต่ก้มหน้าก้มตา หลบสายตาที่แสนเยือกเย็นและน่ากลัวของเจ้านายตัวเอง
“งั้นถ้า..ไม่มีอะไรแล้ว ผมขอตัวนะครับ” ทีนก้มหัวให้นายหญิงของเขา แล้วเดินปิดประตูออกจากห้องไป เมื่อหญิงสาวได้อยู่ตัวคนเดียว เธอจึงปล่อยให้ความโกรธโลดแล่น ด้วยการ ฉีก ข่วน ต่อย ถีบ ของทุกอย่างที่อยู่ในห้อง ข้าวของกระจัดกระจายไปตามที่ต่างๆ บางชิ้นไม่เหลือเค้าโครงเดิมเลยด้วยซ้ำ
“เห้อ~ ฉันอยากจะอัดคนจริงๆ ให้ตายสิ ฉันไม่ควรมาติดแง็กอยู่ในบ้านหลังโง่ๆหลังนี้เลย” เธอถอนหายใจแล้วนั่งอยู่บนขอบหน้าต่างเพื่อบ่นกับสายลมที่พัดผ่านความว่างเปล่าเข้ามา
ความเบื่อและเหงาทำให้เธอเริ่มทำตัวเป็นเด็กเก็บกด พ่อกับแม่ของเธอเป็นถึงเจ้าพ่อเจ้าแม่ที่คุมใต้ดิน คุมในหลายๆย่าน ทั้งสองกลัวลูกสาวตัวน้อยๆจะได้รับอันตราย พวกเขาจึงมีคำสั่งให้ทุกคนคุ้มครองและปกป้องซิน ถึงเจ้าตัวจะเอาตัวรอดได้ก็ตาม แต่เธอก็ยังคงเป็นลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนเพียงหนึ่งเดียวของเจ้าพ่อและเจ้าแม่ชื่อดังอยู่ดี เธอจำเป็นต้องได้รับการปกป้องเต็มพิกัด ทั้งตำรวจ ทหาร และบอดี้การ์ด เธอต้องพกพาไปทุกที่ ซินจึงคิดหาแผนหนีออกจากบ้านมาตลอด
มาถึงตอนนี้เธอคิดว่าเธอพร้อมแล้ว เธออายุ 18 มากพอที่จะหนีไปอยู่คนเดียวได้แล้ว เธอแค่อยากได้อิสระ ถ้าใครหามาให้ไม่ได้ก็ต้องไปหาเอง
คืนนี้จึงเป็นคืนสุดท้ายที่เธอจะอยู่บ้านนี้ถึงแม้จะรู้ดีว่าหนียังไงก็หนีไม่พ้น แต่เธอก็อยากจะลองดูสักครั้ง ซินนั่งคิดอยู่บนขอบหน้าต่างสูง ลมพัดเอื่อยๆมาโดนหน้าเธอ มันทำให้เธอคลายความเครียดและความโกรธลงได้ไปกว่าครึ่ง เธอเริ่มหันมายิ้มให้ตัวเองและเดินไปเปิดประตูลงไปข้างล่าง
“ทีน!ทีน!” ฉันยืนเรียกนายทีนอยู่ที่บันได สักพักทีนมันก็ยืนหอบแฮ่กๆอยู่ตรงหน้าฉัน
“ว่าไงครับเจ้!เรียกซะดังเชียว นึกว่าเกิดอะไรขึ้น..” ทีนส่งสายตาปานจะขาดใจตาย เพราะห่วงนายเหนือหัวจึงรีบวิ่งมาทั้งๆที่ตัวเองกำลังทำธุระอยู่
“จะเกิดอะไรขึ้นล่ะ นี้ฉันเลยนะไม่ใช่ลูกมาเฟียธรรมดาๆ” ไม่มีใครหน้าไหนเก็บฉันได้ตราบใดที่ฉันยังอยู่ในบ้าน แต่ถ้าเป็นคืนนี้ล่ะไม่แน่ หึหึ
“ครับๆแล้วเจ้มีอะไรล่ะ อยากได้ผู้ชายใหม่หรอ?” นายทีนทำหน้าสงสัย
“เปล่า ฉันอยากออกไปข้างนอกหน่อย”
“เอิ่ม.....เกรงว่าจะไม่ได้นะครับตอนนี้” นายทีนหน้าซีดทันทีที่พูดประโยคนั่นออกมา เพราะเขารู้ดีว่าจะเจออะไรถ้าขัดใจนายหญิงของตัวเอง
“อะไร!ทำไมออกไม่ได้!”
“คือ...ตอนนี้มันอันตรายเกินไป”
“นายก็ไปกับฉันเหมือนอย่างเคยสิ จะเอาอะไรมาก!” เรื่องมากจริง ทีนี้อะไรล่ะ! ตำรวจไม่พอ ทหารไม่พอ หรือข้างนอกกำลังทำสงครามกันแน่!?
“ไปน่ะไปได้ครับ แต่ตอนนี้พ่อกับแม่ของเจ้กำชับว่าไม่ให้เจ้ออกมาเด็ดขาด
“โอ้ย!!อย่าคิดเลยว่าจะห้ามฉัน ถ้านายทำได้ก็ลองดูสิย่ะ!” ฉันตั้งกาดเตรียมจะต่อยนายทีน แต่นายทีนกลับหน้าซีดและถอยออกไปง่ายๆ ยอมให้ฉันเดินผ่านไปอย่างสะดวก แต่จากนั้นมันก็ตามมานั่งข้างๆฉันในเบาะ พร้อมกับบอดี้การ์ดที่รู้จักกันดีตามมาอีกสามคน
“เฮ้ย เอาไอ้โฮมมาทำไม แกน่าจะรู้กันนะว่ารถฉันมันเล็ก” ฉันหันหลังไปด่านายโฮม ที่ตัวใหญ่เท่าบ้านเพราะเขาเป็นถึงนักสู้ผู้ยิ่งใหญ่แห่งบ้าน เอมม่าแพนร์ของฉันเลยทีเดียว
“ขอโทษครับเจ้ซิน ก็ผมอยากไปข้างนอกด้วย อยู่ในบ้านน่าเบื่อจะตาย”
“ใช่ๆเจ้ เฟลล่ะเบื๊อเบื่อ ขอติดรถไปด้วยคน” นายเฟลบอดี้การ์ดหน้ายิ้มอีกคนหนึ่งที่รู้จักกันมาตั้งนมนาน นายนี้ยิ้มได้ตลอดเวลาจริงๆ แต่ถึงกระนั้นถ้าถึงเวลาออกโรงนายนี้ก็ต่อยสู้ฟัดเหมือนกัน
“ไอ้แฟ้บ แกอย่ามาพูดเลย แกขอติดรถฉันเพื่อไปหาแม่แกกี่ครั้งแล้ว” แต่ในใจลึกๆฉันก็อยากไปหาแม่นายนี้แหะ ทั้งใจดี ใจบุญ แถมยังชมฉันเรื่อยอีกตั้งหาก
“ฮ่าๆ ตั้งฉายามันได้น่ารักดีฮะเจ้” ส่วนนี้เด็กใหม่ที่เพิ่งเข้ามาเมื่อเดือนก่อน ดูเหมือนเขาจะเป็นคนพูดเก่งและตีสนิทเร็ว ทำให้เราได้มารู้จักกัน ดูเหมือนเขาจะเป็นเด็กอัจฉริยะ การทดสอบด้านการต่อสู้และสติปัญหาของเขาสูงกว่าคนอื่นๆ อันนี้ก็น่าปลื้ม
“เจ้ครับ รีบเถอะผมว่า แล้วนี้เจ้คิดรึยังว่าจะไปไหน” นายทีนพูดขัดขึ้นทำให้ฉันหันมาตั้งหลักเหมือนเดิม
“แน่นอนสิ ฉันต้องไปหาเพื่อน” ฉันพูดขณะบิดกุญแจ ทั้งสี่คนรู้ดีว่าเมื่อฉันได้จับพวงมาลัยเมื่อไหร่ นรกมาเยือนเมื่อนั้น
ผ่านไป 10 นาที
“โห้ยเจ้คร้าบ~~ ผมจะอ้วกอยู่แล้ว เจ้จะเทพไปไหน” นายแฟ้บ(เฟล)บ่นขึ้นครั้งที่เท่าไหร่ไม่รู้ ฉันว่ามันน่าจะชินกันได้แล้วนะ นักสู้ภาษาอะไรแค่นี้ก็ทนกันไม่ได้
“เจ้ฮะ แวะปั๊มเหอะ ผมจะอ้วกแล้ว” อ้าว นี้นายเด็กอัจฉริยะเตี้ยแว่น แกก็เป็นไปกับเขาหรอ
“เจ้คร้าบ~~” นายทีนกับนายโฮม เรียกชื่อฉันพร้อมกัน มันทำให้ฉันหงุดหงิดและรีบจอด
“เอ้า!เร็วๆเลย ถ้าฉันซื้อของแล้วพวกแกยังไม่ออกมา โดนเก็บเรียงตัวแน่!!” ฉันเปิดล็อคประตู ทำให้นายบอดี้การ์ดทั้งสี่รีบวิ่งทุลักทุเลไปอ้วกทันที
“ให้ตายสิ มากับพวกนี้เกะกะดีจริงๆ” ฉันเดินบ่นตรงไปยังเซเว่น เมื่อเข้ามาได้ฉันเลยสูดลมหายใจรับแอร์เย็นๆเข้าปอด กินนมสักหน่อยจะได้สดชื่นยิ่งขึ้น
หมับ !
เสียงจับขวดนมของคนสองคนดังขึ้น นั้นคือเสียงฉันและไอ้ผู้ชายเฮงซวยที่ไหนไม่รู้ มันคิดจะหลอกจับมือหรอ ต้องมีสั่งสอนถ้าไม่ยกนมนี้ให้ฉัน
“อ่า..ขอโทษนะครับ เชิญคุณเอาขวดนี้ไปได้เลย” หืม? ทำไมให้ง่ายจัง แปลกแฮะ ฉันไม่เคยเจอใครที่ให้อะไรง่ายขนาดนี้ เอาเถอะถือว่าขอบใจล่ะกัน ฉันหยิบขวดนมแล้วเดินเลี่ยงไปทางชั้นวางขนม ขนมเต็มเลยกินอะไรดี แล้วฉันต้องซื้อฝากเจ้าพวกนั้นไหมเนี้ย อย่าบอกนะว่าต้องซื้อ -.-*
หมับ!
เสียงคว้าถุงขนมของคนสองคน ซึ่งก็คือฉันและนายเฮงซวยนั่นอีกแหละ! อะไรของมันนักหนา เป็นโรคจิตรึไงคอยตามอยู่นั่นแหละ หรือเพราะฉันสวยเกินไปมันเลยหลงเสน่ห์ฉัน !?
“นี้คุณ!”
“ขอโทษอีกทีนะครับ ผมไม่คิดว่าเราจะหยิบสิ่งๆเดียวกันอีกแล้ว” เขาก้มหัวให้ฉันหน่อยๆ แล้วเดินไปทางอื่น นายนี้เหมือนเดินหนีฉันเพราะรู้ว่าฉันกำลังจะด่ามัน ก็ดี ..ฉันไม่อยากมีเรื่องในร้านที่มีกล้องวงจรปิด
เซ็งเลยแหะ กวาดๆเอาไปให้หมดนิแหละ ฉันกวาดขนมทั้งแผงใส่ตระกร้าแล้วเดินไปชงกาแฟ อืม...กลิ่นกาแฟหอมรัญจวนใจจริงๆ
ตุบ! ซ่า!
“กรี๊ดดดดดด!!” พร้อมเสียงชะนีโห้ยหวนซึ่งก็คือฉันเอง โว้ย! มันทำกาแฟหกใส่ฉัน ไอ้เฮงซวยนั่นอีกแล้ว ฉันจะไม่ทนแล้วนะเว้ย!!
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7.4 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7.3 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.9 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ