Boy be absurd ซื่อบื้อนัก รักซะเลย !
เขียนโดย The_girl_sama
วันที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2556 เวลา 21.14 น.
แก้ไขเมื่อ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2556 02.31 น. โดย เจ้าของนิยาย
2) หนีออกจากกรง!!
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ“ขอโทษครับ ขอโทษจริงๆ คือผมไม่ตั้งใจ” นายนั่นก้มหัวแถมยังเอาทิชชู่มาเช็ดที่เท้ากับกางเกงฉัน
“ไม่ต้อง!!เอาทิชชู่มานี้เลย!” ฉันหยิบทิชชูจากมือเขา แล้วเอามาเช็ดตัวเอง ฉันน่าจะเชื่อนายทีนแต่แรกว่าไม่ต้องออกมามันอันตราย นายนี้อาจลอบวางสังหารฉันด้วยการเอาสารเคมีใส่ลงไปในกาแฟจากนั้นก็ทำหกใส่ฉันทำให้สารกัดแทะฉันแล้วก็ตาย!!
“ขอโทษจริงๆนะครับ ผมไม่ได้ตั้งใจ จะโกรธผมก็ได้แต่ขอล่ะอภัยให้ผมด้วย” นายเฮงซวยนั่นยกมือไหว้ยกใหญ่พวกพนักงานแห่กันมาดูสถานการณ์ นั่นมันยิ่งทำให้ฉันหงุดหงิด
“เฮ้ย!!พวกแกจะมายืนดูอะไรกันไม่มีงานทำรึไง!!” ฉันตะโกนไล่ทุกคนให้ออกห่างเพราะฉันต้องการจะคุยเป็นการส่วนตัว พวกมันค่อยๆทยอยไปทำงานทีละคนๆจนหายไปเกือบหมด ฉันจึงพูดความต้องการของตัวเอง
“นายมาจากสังกัดไหน” ฉันถามเสียงเรียบๆเพื่อระงับความโกรธที่มันกำลังพุ่งพวยออกมา
“สังกัดหรอครับ? อ่า....รู้จักเซนแมรี่ไฮสคูลไหม นั่นแหละผมอยู่ที่นั่น”
“นั่นมันโรงเรียน” ฉันหมายถึงทีมที่แกสังกัดอยู่เว้ย - -*
“ก็ใช่ไงครับโรงเรียน หรือคุณหมายถึงอย่างอื่น..” นายนี้เอามือเกาหัวแกรกๆ มารยาททรามนะเนี้ย ให้ตายสิ
“ใช่!ฉันหมายถึงอย่างอื่น” ฉันยืนกอดอกรอคำตอบจากนายมารยาททรามคนนี้
“คอนโดK น่ะครับ แถวๆนี้ล่ะ เดินตรงไปแล้วเลี้ยวซ้าย...”
“เว้ย!!ฉันหมายถึงสังกัดที่นายอยู่ไม่ใช่ที่อยู่ของนาย!!” ไอ้นี้ซื่อบื้อเป็นบ้า!
“สังกัดอะไรกันครับ เบอร์โทรศัพท์ผมหรอ ?” เอ๋? นายนี้มันกวนส้น หรือว่ามันไม่ได้มาจากสังกัดไหนเป็นแค่คนธรรมดาๆ รึเปล่า
“เสือบินกระต่ายวิ่ง” ฉันลองพูดรหัสโค้ดลับ ระหว่างครอบครัวเอมม่าแพนธ์กับแก๊งมาเฟียอื่นๆ ดูเหมือนนายนี้จะทำหน้าเครียด ไม่สิ...ทำหน้างงมากกว่า มันคงจะไม่ใช่มาเฟียที่จะมาลอบกัดฉัน
“เสือบินไม่ได้นะครับ..แถมกระต่ายต้องกระโดดด้วย” โอ้ย - -* ซื่อบื้อได้ใจ แกไม่สงสัยอะไรบ้างหรอ
“โอเค งั้นถ้าไม่มีอะไรฉันไปล่ะ” ฉันถือตะกร้าขนมแล้วเอาไปวางที่เคาเตอร์ คนคิดเงินมองหน้าฉันนิดหน่อยแล้วบอกยอดเงินที่จะจ่าย ฉันยื่นบัตรเครดิตไปจ่ายและกำลังรอเซ็นชื่อ
“คุณ คุณครับ..เดี๋ยวก่อน” นายซื่อบื้อนั่นอีกแล้วหรอ ต้องการอะไรจากฉันเนี้ย นายซื่อบื้อนั่นถือถ้วยกาแฟมาถ้วยหนึ่งแล้ววิ่งตรงมาจ่ายที่เคาเตอร์ฉัน
“อะไร” ฉันถามเมื่อเขาวางแก้วกาแฟลงตรงหน้า
“ผมขอโทษที่ทำของคุณหกนะครับ ผมจะซื้อให้ใหม่ เอาอันที่ดีกว่าเดิมด้วย อันนี้อร่อยมากๆผมรับรองเลย”
ก็แค่กาแฟแก้วเดียวทำไมต้องทำให้เป็นเรื่องใหญ่ย่ะ แต่ก็ดีไปอย่าง..อย่างน้อยเขาก็มาขอโทษฉันแหะ ไม่ได้มารยาททรามอย่างที่คิดนี่
“ไม่เป็นไรและขอบใจ สำหรับกาแฟแก้วใหม่” พนักงานให้ฉันเซ็นชื่อจ่ายเงิน ฉันถือถุงขนมข้างหนึ่งอีกข้างหนึ่งยกแก้วกาแฟเป็นเชิงขอบคุณให้เขา ตานั่นพยักหน้ารับนิดหน่อยแล้วส่งยิ้มมาให้ และวินาทีนั่น! ฉันเหมือนได้เห็นรอยยิ้มของเทวดาแวบนึง! แวบเดียวเท่านั้น! ฉันดูนายนั่นหล่อขึ้นมากเลยทีเดียว แต่ช่างเถอะ แค่คนแปลกหน้า ฉันไม่คิดจะผูกติดด้วยอยู่แล้ว
“เดี๋ยวครับคุณ”
“อะไรอีก” ฉันสบถออกมานิดหน่อยด้วยความรำคาญ ให้ฉันเดินไปที่รถอย่างสวยงามไม่ได้รึไง
“คือ..ผมยังรู้สึกผิดอยู่เลย คุณคงยังไม่คุ้นเคยกับที่นี้สินะ งั้นผมเป็นไกด์ให้ไหม?” ห้ะ? เป็นไกด์ ไม่แปลกหรอกที่นายจะเห็นหน้าฉันเหมือนพวกฝรั่งสวยโบ๊ะๆนั่น แต่นายไม่ได้สังเกตการณ์พูดของฉันรึไง ฉันพูดไทยชัดนะเว้ย!
“ไม่ต้อง ไม่ใช่ธุระของนาย” ฉันตอบไปเสียงเรียบพร้อมกับกำถุงขนมแน่นเพื่อไม่ให้มันหลุดออกมา ถือกาแฟแล้วซดไปกึบนึง ตอนที่ฉันกำลังซดกาแฟอยู่นั่น ฉันก็คิดอะไรขึ้นมาได้ ใช้นายนี้ให้เป็นประโยชน์ดีกว่า!!
“โอ้ยๆเดี๋ยวๆ!” ฉันรีบวางกาแฟแล้วเข้าไปจับตัวนายนั่น
“ฉันมีอะไรจะให้นายช่วยเยอะเลยล่ะ นายจะทำให้ฉันได้ไหมล่ะ”
“จะทำเท่าที่ทำได้ครับ” เขาพยักหน้าและยื่นนิ้วก้อยมาให้ เพื่อเป็นการสัญญา แต่ฉันไม่สนใจและพูดต่อ
“ฉันรู้ว่ามันเป็นการขอที่มากเกินไป แต่ก็นะ คืนนี้ฉันจะหนีออกจากบ้านเพราะฉะนั้น!นายต้องหาที่อยู่ใหม่ให้ฉัน”
“หา! หนีออกจากบ้าน คุณทำแบบนั้นทำไม!” อ๊าย!ตะโกนหาอะไรย่ะ
“ไม่ต้องถามมากเอาเบอร์นายมา คืนนี้ฉันจะนัดนายที่ไหนซักแห่งและนายต้องมา” ฉันชี้นิ้วสั่งเขาเป็นการด่วน เพราะฉันเห็นไอ้บอดี้การ์ดสี่ตัวนั่นมันเดินออกมาแล้ว ฉันหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อจะเมมเบอร์เอาไว้ นายนั่นบอกเบอร์โทรศัพท์เสร็จก็พูดขึ้น
“คุณจะโทรมาตอนไหน บางเวลาถ้าดึกมากผมก็ไม่ว่างนะ ส่วนเรื่องที่พัก ผมไม่รู้จะหาให้ได้ไหม..”
“นายต้องหาให้ได้!!สัญญาสิ!!” ฉันฝืนแกมบังคับนิ้วก้อยของตัวเองให้มันชี้โด่ขึ้นมาเพียงนิ้วเดียว เพื่อเป็นการทำสัญญาระหว่างฉันและนายซื่อบื้อนั่น
“โอเคๆ..ผมจะพยายามแล้วกันครับ..” นายซื่อบื้อนั่นตอบแบบไม่มั่นใจพร้อมกับเอานิ้วก้อยมาเกี่ยวกับนิ้วก้อยฉัน ฉันเขย่านิ้วขึ้นลงๆ พยักหน้ารับนิดหน่อยแล้วรีบวิ่งไปที่รถทันที
ปัง!
เสียงปิดประตูของฉันทำให้บอดี้การ์ดทั้งสี่คนหันมามองที่ตัวรถ แล้วพวกมันก็ทยอยเดินเข้ามาในรถ
“ไงเจ้ ไปซื้ออะไรม....ว้าว ขนม!” นายแฟ้บพูดขึ้นแต่สายตาของมันดันไปเห็นขนมที่ฉันซื้อมาซะก่อน พวกมันเลยรีบเข้ามาขยุ่มจุ้มจิ๋มกับถุงขนม อ้าว? แล้วกาแฟฉันล่ะ
“แล้วเจ้ไม่กินอะไรหรอครับ ซื้อมาซะเยอะเชียว” นายโฮมพูดขึ้นทำให้ฉันสะดุ้งเล็กน้อย
“เออ งั้นเดี๋ยวฉันมานะ พวกแกอย่าแย่งกันกินได้ไหม!” ฉันหันไปแว้ดใส่เจ้าพวกนั่น ก็ดูพวกมันสิ เลอะเทอะหมดเลย ทำตัวสบายเกินไปแล้วมั้ง ฉันรีบเปิดประตูรถแล้วเดินไปหยิบกาแฟ นายซื่อบื้อนั่นพยายามจะเข้ามาสื่อสารกับฉันแต่ฉันได้พูดขัดไว้ก่อน
“อย่าเข้ามาใกล้ นายชื่ออะไร!” ฉันตะโกนบอกแล้วหันหลังให้กับรถ ฉันไม่อยากจะถูกเจ้าพวกนั่นแซวหรอกนะ
“อ่า...ผมชื่อวินครับ คุณล่ะ” เขาหยุดยืนเพียงแค่นั่นแล้วตอบคำถาม
“ฉันชื่อซิน ฉันขอตัวล่ะ” แล้วฉันก็เดินลิ่วๆเข้าไปในตัวรถ ปิดประตูเสียงดังแล้วนั่งถอนหายใจ
“เจ้คุยกับใครน่ะ” นายทีนถามฉันขึ้น ทำให้ไอ้บอดี้การ์ดอีกสามคนหันมาสนใจเป็นจุดเดียวกัน
“เขาแค่พูดอะไรนิดหน่อย” ฉันตอบเสียงเรียบเพื่อปกปิดอาการตื่นเต้น เหมือนฉันโดนจับได้ว่ามีกิ๊กยังไงอย่างงั้นเลยแหะ
“พูดอะไรครับ รหัสลับรึเปล่า” ทีนี้นายอัจฉริยะเตี้ยแว่น นามว่าซิกถามขึ้นบ้าง อ่า พวกแกอย่ามาถามอะไรมากเลยฉันรำคาญ
“ไม่ใช่! เขามาถามว่าจะทิ้งถ้วยกาแฟนั่นรึเปล่า!” ฉันตะโกนขึ้นทำให้ทั้งสี่กลับไปนั่งที่เดิมและสงบดั้งสายน้ำในทันที
“โอเคครับเจ้ ไปกันเถอะ” นายโฮมพูดเร่ง คงรู้แล้วว่าฉันรำคาญ
ณ คอนโดซิกตี้ไนท์
กริ๊งๆ กริ๊งๆ
ฉันเดินมากดออดหน้าห้องของยัยเพื่อนตัวแสบเพียงคนเดียวเท่านั่น มีแค่ยัยนี้คนเดียวที่กล้าคบฉัน เพราะพ่อมันก็เป็นถึงนักธุระกิจรายใหญ่ที่ป๋าฉันเคยไปเยี่ยมเยือนบ่อยๆ คงพูดได้ว่าเราทั้งสองคนมีอะไรคล้ายๆกัน
“มาแล้วค่ะมาแล้ว ใครมาอีกล่ะเนี้ย” เสียงบ่นของยัยคัพเค้กดังขึ้น พร้อมกับที่ประตูเปิดออกเอง
“ไง ยัยเค้กส่วนประสมเน่า” ฉันต้องสแกนมันซะก่อน เผื่อจะมีใครปลอมตัวมาเป็นมัน
“อ้าว? ยัยซินเดอเรร่าตกอับนิเอง” ใช่เลยยัยนี้แหละ ยัยคัพเค้กเพื่อนสุดเลิฟของฉัน
“เออ ฉันว่าง เลยมาหา” ฉันเดินเข้าห้องยัยคัพเค้กไปแบบไม่รอฟังคำตอบและการอนุญาตของเจ้าของห้อง ยัยคัพเค้กคงรู้ว่าฉันเป็นคนยังไงมันเลยกดปิดประตูแล้วเดินตามฉันมานั่งที่โซฟาสีฟ้าเรียบๆ
“ไงแก มีเรื่องอะไรรึเปล่า” ยัยคัพเค้กมองหน้าฉันแบบจริงจัง มันคงจะรู้เรื่องในบางเรื่องแล้ว
“คืนนี้ฉันจะหนีออกจากบ้าน” ฉันตัดสินใจพูดไป ยัยคัพเค้กตาโตเป็นไข่ห่านแล้วทำท่าเลิ่กลั่ก
“เห้ยแก!! แกมีปัญญาหนีจากไอ้กรงเหล็กมรณะนั่นหรอ!” กรงเหล็กบ้านั่นมันก็หมายถึงบ้านฉันเองนี้ล่ะ
“ชู่ว!!เสียงดังทำไมว่ะ” ฉันเอามือปิดปากมันเอาไว้ เดี๋ยวเจ้าบอดี้การ์ดสี่คนที่อยู่หน้าห้องมันได้ยินแล้วจะเป็นเรื่องใหญ่ ยัยคัพเค้กพยักหน้านิดหน่อยฉันเลยเอามือออก เท่านั้นล่ะมันก็ซักถามฉันใหญ่
“แล้วแกจะไปอยู่ที่ไหน ถ้ามาบ้านฉันยังไงแกก็ไม่รอด นอกซะจากแกต้องไปหาที่อยู่ใหม่ แล้วแกจะไปตอนไหน ถ้าออกจากเจ้ากรงมรณะนั่นได้เมื่อไหร่โทรบอกฉันด่วนเลยนะ แล้วแกวางแผนว่ายังไงบ้าง..” ยัยคัพเค้กยังคงจ้อต่อไป ฉันเอามือออกจากแจ็กเก็ตสีดำเพื่อมาทำมือหยุด ยัยคัพเค้กชะงักเล็กน้อยแล้วมันก็เงียบในทันที
“ฉันไหว้วานคนให้ช่วยหาที่อยู่ให้แล้ว แน่นอนว่าต้องไม่ใช่โรงแรมแต่น่าจะเป็นห้องพัก”
“แกให้ใครช่วย อย่าบอกนะว่าบอดี้การ์ดสี่คนนั้น” เรื่องอะไรฉันจะให้มันช่วยล่ะย่ะ ในเมื่อฉันจะหนีออกจากบ้าน
“ไม่ใช่แน่นอน คนนอกน่ะ จะว่าคนแปลกหน้าก็ได้” ยัยคัพเค้กทำหน้าตกใจ แล้วพูดขัดขึ้น
“คนแปลกหน้า!? แกไปไว้ใจคนแปลกหน้าได้ไง ถ้ามันเกิดเป็นพวกแก๊งมาเฟียอื่นลักพาตัวแกเพื่อจะไปไถ่เงินล่ะ หัดคิดให้มันเยอะๆซะบ้าง!” ยัยคัพเค้กตะคอกใส่หน้าฉัน เอฟเฟ็กกระเด็นกระจาย ฉันเอาแจ็กเก็ตขึ้นมาเช็ดหน้านิดหน่อยแล้วทำมือ หยุด ยัยนั่นจากที่ตะโกนโหวกเหวกโวยว้ายก็ได้นั่งลงอย่างสงบเสงี่ยม ยัยคัพเค้กก็เหมือนใครหลายๆคนที่กลัวเวลาที่ฉันโกรธ เพราะงั้นไม่ค่อยมีใครกล้าแหย่มกับฉันสักเท่าไหร่
“แกเล่าแผนการมาให้ฟังเดี๋ยวนี้เลยนะ” ยัยคัพเค้กพูดเสียงเบาๆแล้วทำหน้าจริงจัง
“ฉันจะเก็บของทั้งหมดใส่กระเป๋าแล้วก็ปีนหน้าต่างหลังลงมาโดยใช้เชือกที่ฉันเตรียมไว้อาจเตรียมปืนเตรียมมีดไว้สักหน่อย ไว้ป้องกันตัว จากนั้นฉันก็จะปีนรั่วเพื่อออกไปข้างนอก แล้วโทรหาคนที่ฉันนัดไว้เพื่อให้เขามารับตัวฉันไปที่พัก” ยัยคัพเค้กพยักหน้าหงึกหงัก แล้วมันก็เอ๊ะใจเรื่องหนึ่งขึ้น
“เออ แล้วถ้าเกิดพวกบอดี้การ์ดเจอแก มีโอกาสสูงไหมที่แกจะแทงพวกเขา” นั่นสิ ก็อาจจะต้องทำ เพื่ออิสรภาพของฉัน แต่ฉันจะไม่ทำเจ็บมากหรอกน่า แต่พอให้หายคันไม้คันมือ
“อาจจะ ถ้าต้องทำจริงๆ”
“ถ้าแกไม่รอดจริงๆรีบโทรหาฉันนะ” จะให้โทรระหว่างตอนที่กำลังสู้รึไง - -*
“นั่งรอโทรศัพท์ไว้ได้เลย ฉันคิดว่ายังไงฉันก็ต้องรอด” ฉันยิ้มอย่างมั่นใจให้ยัยคัพเค้ก ยัยนั่นถอนหายใจแล้วโยนตัวลงบนโซฟาสีฟ้าอย่างแรง
“เห้อ!เป็นเพื่อนแกนี้ เหนื่อยดีจริงนะ” ทนๆหน่อยแล้วกันเพื่อน ฉันนั่งเล่นอยู่กับยัยคัพเค้กทั้งวัน ฉันไม่ห่วงหรอกว่าพวกบอดี้การ์ดจะเป็นยังไง พวกมันคงไปหาอะไรทำกันแล้วเพราะพวกนั้นรู้ดีว่ายังไงฉันก็ดูแลตัวเองได้ และทุกครั้งที่ฉันมาต้องกลับบ้านค่ำทุกครั้ง
แต่วันนี้ฉันกลับเร็วหน่อย เพราะต้องไปเก็บกระเป๋าและแอบไปเอามีดของป๋าฉันมาด้วย มีดป๋าฉันคมกว่าที่คิดนะ ตัดกระดาษยังขาด เสียดายที่ฉันเอาแค่มีดไปได้ ถ้ากระเป๋ามันยัดดาบไปได้จะดีมากเลย
และแล้วคืนนี้ก็มาถึง.. ระหว่างที่ฉันกำลังนั่งรอให้ไฟในบ้านปิดให้หมด ฉันก็ได้รับคมดาบไปพลาง คิดหนทางหนีเผื่อว่าฉันจะไม่รอดจริงๆ ฉันหันออกไปนอกหน้าต่างเล็กน้อย ไปสูดอากาศก่อนออกไปจากทีนี้สักหน่อยแล้วกัน ฉันเดินมานั่งตรงขอบหน้าต่างที่สูงเสียดฟ้า ไม่มีระเบียงให้เหยียบ ฉันเลยปล่อยขาอันยาวเรียวของฉันให้มันแกว่งไปมา ลมเย็นๆกระทบที่หน้าฉันเบาๆ อารมณ์แบบนี้ทำให้ฉันหายเครียดได้ตลอดเวลา ทุกๆครั้งที่สายลมกระทบมาที่หน้าของฉัน มันทำให้ฉันรู้สึกเบาหวิว
พรึบ! เสียงไฟในบ้านทั้งหมดถูกดับลงพร้อมกัน ทำให้ฉันไว้ตัวรีบย่องลงมาจากหน้าต่างและโยนกระเป๋าลงไปทางหน้าต่างหลังห้อง มองซ้ายมองขวาทางเคลียร์ ฉันจึงค่อยๆปล่อยเชือกลงไปแล้วหมัดตรึงไว้กับเตียงของฉัน ฉันดึงเชือกแรงๆเพื่อทดสอบว่ามันจะไม่หลุดออกมาง่ายๆ เมื่อแน่ใจแล้ว ฉันมองซ้ายขวาอีกทีไม่มีใคร ปฏิบัติการการไต่เชือกก็ได้ดำเนินต่อไป
ตุบ! ฉันกระโดดลงมาจากเชือกที่เพิ่งปีนไป มองซ้ายมองขวาอีกที เมื่อไม่มีใครแล้วฉันจึงหยิบกระเป๋าแล้วโกยทันที
ตึกๆๆๆ มาถึงมาตรการสุดท้ายคือ ฉันต้องปีนรั่วออกไป มองซ้ายมองขวาอีก เพื่อความแน่ใจว่าจะไม่มีใครมายุ่มย่ามระหว่างปีน ฉันโยนกระเป๋าข้ามรั่วไป จากนั้นก็ไต่กำแพงขึ้นไปเรื่อยๆ โห้ย~ ปีนอยากจริงเลย !
“นั่นใครน่ะ” เห้ย!! ใครมายืนอยู่อีกฟากของกำแพงฟ่ะ!? อย่าบอกนะว่าฉันจะไม่รอดจริงๆ คนของตระกูลเอมม่าแพนธ์รึเปล่า! อ๊าก หัวฉันคิดอะไรไม่ออกจริงๆ แต่ยังไงก็ต้องปีนต่อ จะให้มาหยุดกลางคันได้ไง
“ผมถามว่าใคร” ช่างมันเถอะ ขอปีนก่อนเว้ย!
“ถอยไป ฉันจะตกแล้ว!” ฉันตะโกนออกมา ก็มันจะตกจริงๆนี้หว้า จะเหินฟ้าแล้วนะเว้ยยยย
“เฮ้ย!!”
พลั่ก! ตูม!
อุ๊บ! ฉันเผลอใส่เข่าตานั่นซะแล้ว ดูสิจมลงไปในบ่อปลาแล้ว น่าสงสารนะ แต่ฉันรีบ ฮุฮุ ฉันหยิบกระเป๋าแล้วใส่เกียร์หมาทันที เย้ >< ! ในที่สุดฉันก็ออกมาได้แล้ว !!
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ