Boy be absurd ซื่อบื้อนัก รักซะเลย !

7.9

เขียนโดย The_girl_sama

วันที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2556 เวลา 21.14 น.

  12 chapter
  10 วิจารณ์
  19.44K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2556 02.31 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

2) หนีออกจากกรง!!

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

“ขอโทษครับ ขอโทษจริงๆ คือผมไม่ตั้งใจ” นายนั่นก้มหัวแถมยังเอาทิชชู่มาเช็ดที่เท้ากับกางเกงฉัน


“ไม่ต้อง!!เอาทิชชู่มานี้เลย!” ฉันหยิบทิชชูจากมือเขา แล้วเอามาเช็ดตัวเอง ฉันน่าจะเชื่อนายทีนแต่แรกว่าไม่ต้องออกมามันอันตราย นายนี้อาจลอบวางสังหารฉันด้วยการเอาสารเคมีใส่ลงไปในกาแฟจากนั้นก็ทำหกใส่ฉันทำให้สารกัดแทะฉันแล้วก็ตาย!!


“ขอโทษจริงๆนะครับ ผมไม่ได้ตั้งใจ จะโกรธผมก็ได้แต่ขอล่ะอภัยให้ผมด้วย” นายเฮงซวยนั่นยกมือไหว้ยกใหญ่พวกพนักงานแห่กันมาดูสถานการณ์ นั่นมันยิ่งทำให้ฉันหงุดหงิด


“เฮ้ย!!พวกแกจะมายืนดูอะไรกันไม่มีงานทำรึไง!!” ฉันตะโกนไล่ทุกคนให้ออกห่างเพราะฉันต้องการจะคุยเป็นการส่วนตัว พวกมันค่อยๆทยอยไปทำงานทีละคนๆจนหายไปเกือบหมด ฉันจึงพูดความต้องการของตัวเอง

 

“นายมาจากสังกัดไหน” ฉันถามเสียงเรียบๆเพื่อระงับความโกรธที่มันกำลังพุ่งพวยออกมา


“สังกัดหรอครับ? อ่า....รู้จักเซนแมรี่ไฮสคูลไหม นั่นแหละผมอยู่ที่นั่น”


“นั่นมันโรงเรียน” ฉันหมายถึงทีมที่แกสังกัดอยู่เว้ย - -*


“ก็ใช่ไงครับโรงเรียน หรือคุณหมายถึงอย่างอื่น..” นายนี้เอามือเกาหัวแกรกๆ มารยาททรามนะเนี้ย ให้ตายสิ


“ใช่!ฉันหมายถึงอย่างอื่น” ฉันยืนกอดอกรอคำตอบจากนายมารยาททรามคนนี้


“คอนโดK น่ะครับ แถวๆนี้ล่ะ เดินตรงไปแล้วเลี้ยวซ้าย...”


“เว้ย!!ฉันหมายถึงสังกัดที่นายอยู่ไม่ใช่ที่อยู่ของนาย!!” ไอ้นี้ซื่อบื้อเป็นบ้า!


“สังกัดอะไรกันครับ เบอร์โทรศัพท์ผมหรอ ?” เอ๋? นายนี้มันกวนส้น หรือว่ามันไม่ได้มาจากสังกัดไหนเป็นแค่คนธรรมดาๆ รึเปล่า


“เสือบินกระต่ายวิ่ง” ฉันลองพูดรหัสโค้ดลับ ระหว่างครอบครัวเอมม่าแพนธ์กับแก๊งมาเฟียอื่นๆ ดูเหมือนนายนี้จะทำหน้าเครียด ไม่สิ...ทำหน้างงมากกว่า มันคงจะไม่ใช่มาเฟียที่จะมาลอบกัดฉัน


“เสือบินไม่ได้นะครับ..แถมกระต่ายต้องกระโดดด้วย” โอ้ย - -* ซื่อบื้อได้ใจ แกไม่สงสัยอะไรบ้างหรอ


“โอเค งั้นถ้าไม่มีอะไรฉันไปล่ะ” ฉันถือตะกร้าขนมแล้วเอาไปวางที่เคาเตอร์ คนคิดเงินมองหน้าฉันนิดหน่อยแล้วบอกยอดเงินที่จะจ่าย ฉันยื่นบัตรเครดิตไปจ่ายและกำลังรอเซ็นชื่อ


“คุณ คุณครับ..เดี๋ยวก่อน” นายซื่อบื้อนั่นอีกแล้วหรอ ต้องการอะไรจากฉันเนี้ย นายซื่อบื้อนั่นถือถ้วยกาแฟมาถ้วยหนึ่งแล้ววิ่งตรงมาจ่ายที่เคาเตอร์ฉัน


“อะไร” ฉันถามเมื่อเขาวางแก้วกาแฟลงตรงหน้า


“ผมขอโทษที่ทำของคุณหกนะครับ ผมจะซื้อให้ใหม่ เอาอันที่ดีกว่าเดิมด้วย อันนี้อร่อยมากๆผมรับรองเลย”

     ก็แค่กาแฟแก้วเดียวทำไมต้องทำให้เป็นเรื่องใหญ่ย่ะ แต่ก็ดีไปอย่าง..อย่างน้อยเขาก็มาขอโทษฉันแหะ ไม่ได้มารยาททรามอย่างที่คิดนี่


“ไม่เป็นไรและขอบใจ สำหรับกาแฟแก้วใหม่” พนักงานให้ฉันเซ็นชื่อจ่ายเงิน ฉันถือถุงขนมข้างหนึ่งอีกข้างหนึ่งยกแก้วกาแฟเป็นเชิงขอบคุณให้เขา ตานั่นพยักหน้ารับนิดหน่อยแล้วส่งยิ้มมาให้ และวินาทีนั่น! ฉันเหมือนได้เห็นรอยยิ้มของเทวดาแวบนึง! แวบเดียวเท่านั้น! ฉันดูนายนั่นหล่อขึ้นมากเลยทีเดียว แต่ช่างเถอะ แค่คนแปลกหน้า ฉันไม่คิดจะผูกติดด้วยอยู่แล้ว


“เดี๋ยวครับคุณ”


“อะไรอีก” ฉันสบถออกมานิดหน่อยด้วยความรำคาญ ให้ฉันเดินไปที่รถอย่างสวยงามไม่ได้รึไง


“คือ..ผมยังรู้สึกผิดอยู่เลย คุณคงยังไม่คุ้นเคยกับที่นี้สินะ งั้นผมเป็นไกด์ให้ไหม?” ห้ะ? เป็นไกด์ ไม่แปลกหรอกที่นายจะเห็นหน้าฉันเหมือนพวกฝรั่งสวยโบ๊ะๆนั่น แต่นายไม่ได้สังเกตการณ์พูดของฉันรึไง ฉันพูดไทยชัดนะเว้ย!

 

“ไม่ต้อง ไม่ใช่ธุระของนาย” ฉันตอบไปเสียงเรียบพร้อมกับกำถุงขนมแน่นเพื่อไม่ให้มันหลุดออกมา ถือกาแฟแล้วซดไปกึบนึง ตอนที่ฉันกำลังซดกาแฟอยู่นั่น ฉันก็คิดอะไรขึ้นมาได้ ใช้นายนี้ให้เป็นประโยชน์ดีกว่า!!


“โอ้ยๆเดี๋ยวๆ!” ฉันรีบวางกาแฟแล้วเข้าไปจับตัวนายนั่น

 

“ฉันมีอะไรจะให้นายช่วยเยอะเลยล่ะ นายจะทำให้ฉันได้ไหมล่ะ”


“จะทำเท่าที่ทำได้ครับ” เขาพยักหน้าและยื่นนิ้วก้อยมาให้ เพื่อเป็นการสัญญา แต่ฉันไม่สนใจและพูดต่อ


“ฉันรู้ว่ามันเป็นการขอที่มากเกินไป แต่ก็นะ คืนนี้ฉันจะหนีออกจากบ้านเพราะฉะนั้น!นายต้องหาที่อยู่ใหม่ให้ฉัน”

 

“หา! หนีออกจากบ้าน คุณทำแบบนั้นทำไม!” อ๊าย!ตะโกนหาอะไรย่ะ


“ไม่ต้องถามมากเอาเบอร์นายมา คืนนี้ฉันจะนัดนายที่ไหนซักแห่งและนายต้องมา” ฉันชี้นิ้วสั่งเขาเป็นการด่วน เพราะฉันเห็นไอ้บอดี้การ์ดสี่ตัวนั่นมันเดินออกมาแล้ว ฉันหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อจะเมมเบอร์เอาไว้ นายนั่นบอกเบอร์โทรศัพท์เสร็จก็พูดขึ้น


“คุณจะโทรมาตอนไหน บางเวลาถ้าดึกมากผมก็ไม่ว่างนะ ส่วนเรื่องที่พัก ผมไม่รู้จะหาให้ได้ไหม..”


“นายต้องหาให้ได้!!สัญญาสิ!!” ฉันฝืนแกมบังคับนิ้วก้อยของตัวเองให้มันชี้โด่ขึ้นมาเพียงนิ้วเดียว เพื่อเป็นการทำสัญญาระหว่างฉันและนายซื่อบื้อนั่น


“โอเคๆ..ผมจะพยายามแล้วกันครับ..” นายซื่อบื้อนั่นตอบแบบไม่มั่นใจพร้อมกับเอานิ้วก้อยมาเกี่ยวกับนิ้วก้อยฉัน ฉันเขย่านิ้วขึ้นลงๆ พยักหน้ารับนิดหน่อยแล้วรีบวิ่งไปที่รถทันที


ปัง!


เสียงปิดประตูของฉันทำให้บอดี้การ์ดทั้งสี่คนหันมามองที่ตัวรถ แล้วพวกมันก็ทยอยเดินเข้ามาในรถ


“ไงเจ้ ไปซื้ออะไรม....ว้าว ขนม!” นายแฟ้บพูดขึ้นแต่สายตาของมันดันไปเห็นขนมที่ฉันซื้อมาซะก่อน พวกมันเลยรีบเข้ามาขยุ่มจุ้มจิ๋มกับถุงขนม อ้าว? แล้วกาแฟฉันล่ะ


“แล้วเจ้ไม่กินอะไรหรอครับ ซื้อมาซะเยอะเชียว” นายโฮมพูดขึ้นทำให้ฉันสะดุ้งเล็กน้อย


“เออ งั้นเดี๋ยวฉันมานะ พวกแกอย่าแย่งกันกินได้ไหม!” ฉันหันไปแว้ดใส่เจ้าพวกนั่น ก็ดูพวกมันสิ เลอะเทอะหมดเลย ทำตัวสบายเกินไปแล้วมั้ง ฉันรีบเปิดประตูรถแล้วเดินไปหยิบกาแฟ นายซื่อบื้อนั่นพยายามจะเข้ามาสื่อสารกับฉันแต่ฉันได้พูดขัดไว้ก่อน


“อย่าเข้ามาใกล้ นายชื่ออะไร!” ฉันตะโกนบอกแล้วหันหลังให้กับรถ ฉันไม่อยากจะถูกเจ้าพวกนั่นแซวหรอกนะ

 

“อ่า...ผมชื่อวินครับ คุณล่ะ” เขาหยุดยืนเพียงแค่นั่นแล้วตอบคำถาม


“ฉันชื่อซิน ฉันขอตัวล่ะ” แล้วฉันก็เดินลิ่วๆเข้าไปในตัวรถ ปิดประตูเสียงดังแล้วนั่งถอนหายใจ


“เจ้คุยกับใครน่ะ” นายทีนถามฉันขึ้น ทำให้ไอ้บอดี้การ์ดอีกสามคนหันมาสนใจเป็นจุดเดียวกัน


“เขาแค่พูดอะไรนิดหน่อย” ฉันตอบเสียงเรียบเพื่อปกปิดอาการตื่นเต้น เหมือนฉันโดนจับได้ว่ามีกิ๊กยังไงอย่างงั้นเลยแหะ


“พูดอะไรครับ รหัสลับรึเปล่า” ทีนี้นายอัจฉริยะเตี้ยแว่น นามว่าซิกถามขึ้นบ้าง อ่า พวกแกอย่ามาถามอะไรมากเลยฉันรำคาญ


“ไม่ใช่! เขามาถามว่าจะทิ้งถ้วยกาแฟนั่นรึเปล่า!” ฉันตะโกนขึ้นทำให้ทั้งสี่กลับไปนั่งที่เดิมและสงบดั้งสายน้ำในทันที


“โอเคครับเจ้ ไปกันเถอะ” นายโฮมพูดเร่ง คงรู้แล้วว่าฉันรำคาญ

 

 ณ คอนโดซิกตี้ไนท์

 

กริ๊งๆ กริ๊งๆ


     ฉันเดินมากดออดหน้าห้องของยัยเพื่อนตัวแสบเพียงคนเดียวเท่านั่น มีแค่ยัยนี้คนเดียวที่กล้าคบฉัน เพราะพ่อมันก็เป็นถึงนักธุระกิจรายใหญ่ที่ป๋าฉันเคยไปเยี่ยมเยือนบ่อยๆ คงพูดได้ว่าเราทั้งสองคนมีอะไรคล้ายๆกัน


“มาแล้วค่ะมาแล้ว ใครมาอีกล่ะเนี้ย” เสียงบ่นของยัยคัพเค้กดังขึ้น พร้อมกับที่ประตูเปิดออกเอง


“ไง ยัยเค้กส่วนประสมเน่า” ฉันต้องสแกนมันซะก่อน เผื่อจะมีใครปลอมตัวมาเป็นมัน


“อ้าว? ยัยซินเดอเรร่าตกอับนิเอง” ใช่เลยยัยนี้แหละ ยัยคัพเค้กเพื่อนสุดเลิฟของฉัน


“เออ ฉันว่าง เลยมาหา” ฉันเดินเข้าห้องยัยคัพเค้กไปแบบไม่รอฟังคำตอบและการอนุญาตของเจ้าของห้อง ยัยคัพเค้กคงรู้ว่าฉันเป็นคนยังไงมันเลยกดปิดประตูแล้วเดินตามฉันมานั่งที่โซฟาสีฟ้าเรียบๆ


“ไงแก มีเรื่องอะไรรึเปล่า” ยัยคัพเค้กมองหน้าฉันแบบจริงจัง มันคงจะรู้เรื่องในบางเรื่องแล้ว


“คืนนี้ฉันจะหนีออกจากบ้าน” ฉันตัดสินใจพูดไป ยัยคัพเค้กตาโตเป็นไข่ห่านแล้วทำท่าเลิ่กลั่ก


“เห้ยแก!! แกมีปัญญาหนีจากไอ้กรงเหล็กมรณะนั่นหรอ!” กรงเหล็กบ้านั่นมันก็หมายถึงบ้านฉันเองนี้ล่ะ


“ชู่ว!!เสียงดังทำไมว่ะ” ฉันเอามือปิดปากมันเอาไว้ เดี๋ยวเจ้าบอดี้การ์ดสี่คนที่อยู่หน้าห้องมันได้ยินแล้วจะเป็นเรื่องใหญ่ ยัยคัพเค้กพยักหน้านิดหน่อยฉันเลยเอามือออก เท่านั้นล่ะมันก็ซักถามฉันใหญ่


“แล้วแกจะไปอยู่ที่ไหน ถ้ามาบ้านฉันยังไงแกก็ไม่รอด นอกซะจากแกต้องไปหาที่อยู่ใหม่ แล้วแกจะไปตอนไหน ถ้าออกจากเจ้ากรงมรณะนั่นได้เมื่อไหร่โทรบอกฉันด่วนเลยนะ แล้วแกวางแผนว่ายังไงบ้าง..” ยัยคัพเค้กยังคงจ้อต่อไป ฉันเอามือออกจากแจ็กเก็ตสีดำเพื่อมาทำมือหยุด ยัยคัพเค้กชะงักเล็กน้อยแล้วมันก็เงียบในทันที


“ฉันไหว้วานคนให้ช่วยหาที่อยู่ให้แล้ว แน่นอนว่าต้องไม่ใช่โรงแรมแต่น่าจะเป็นห้องพัก”


“แกให้ใครช่วย อย่าบอกนะว่าบอดี้การ์ดสี่คนนั้น” เรื่องอะไรฉันจะให้มันช่วยล่ะย่ะ ในเมื่อฉันจะหนีออกจากบ้าน

 

“ไม่ใช่แน่นอน คนนอกน่ะ จะว่าคนแปลกหน้าก็ได้” ยัยคัพเค้กทำหน้าตกใจ แล้วพูดขัดขึ้น


“คนแปลกหน้า!? แกไปไว้ใจคนแปลกหน้าได้ไง ถ้ามันเกิดเป็นพวกแก๊งมาเฟียอื่นลักพาตัวแกเพื่อจะไปไถ่เงินล่ะ หัดคิดให้มันเยอะๆซะบ้าง!” ยัยคัพเค้กตะคอกใส่หน้าฉัน เอฟเฟ็กกระเด็นกระจาย ฉันเอาแจ็กเก็ตขึ้นมาเช็ดหน้านิดหน่อยแล้วทำมือ หยุด ยัยนั่นจากที่ตะโกนโหวกเหวกโวยว้ายก็ได้นั่งลงอย่างสงบเสงี่ยม ยัยคัพเค้กก็เหมือนใครหลายๆคนที่กลัวเวลาที่ฉันโกรธ เพราะงั้นไม่ค่อยมีใครกล้าแหย่มกับฉันสักเท่าไหร่


“แกเล่าแผนการมาให้ฟังเดี๋ยวนี้เลยนะ” ยัยคัพเค้กพูดเสียงเบาๆแล้วทำหน้าจริงจัง


“ฉันจะเก็บของทั้งหมดใส่กระเป๋าแล้วก็ปีนหน้าต่างหลังลงมาโดยใช้เชือกที่ฉันเตรียมไว้อาจเตรียมปืนเตรียมมีดไว้สักหน่อย ไว้ป้องกันตัว จากนั้นฉันก็จะปีนรั่วเพื่อออกไปข้างนอก แล้วโทรหาคนที่ฉันนัดไว้เพื่อให้เขามารับตัวฉันไปที่พัก” ยัยคัพเค้กพยักหน้าหงึกหงัก แล้วมันก็เอ๊ะใจเรื่องหนึ่งขึ้น


“เออ แล้วถ้าเกิดพวกบอดี้การ์ดเจอแก มีโอกาสสูงไหมที่แกจะแทงพวกเขา” นั่นสิ ก็อาจจะต้องทำ เพื่ออิสรภาพของฉัน แต่ฉันจะไม่ทำเจ็บมากหรอกน่า แต่พอให้หายคันไม้คันมือ


“อาจจะ ถ้าต้องทำจริงๆ”

 

“ถ้าแกไม่รอดจริงๆรีบโทรหาฉันนะ” จะให้โทรระหว่างตอนที่กำลังสู้รึไง - -*


“นั่งรอโทรศัพท์ไว้ได้เลย ฉันคิดว่ายังไงฉันก็ต้องรอด” ฉันยิ้มอย่างมั่นใจให้ยัยคัพเค้ก ยัยนั่นถอนหายใจแล้วโยนตัวลงบนโซฟาสีฟ้าอย่างแรง


“เห้อ!เป็นเพื่อนแกนี้ เหนื่อยดีจริงนะ” ทนๆหน่อยแล้วกันเพื่อน ฉันนั่งเล่นอยู่กับยัยคัพเค้กทั้งวัน ฉันไม่ห่วงหรอกว่าพวกบอดี้การ์ดจะเป็นยังไง พวกมันคงไปหาอะไรทำกันแล้วเพราะพวกนั้นรู้ดีว่ายังไงฉันก็ดูแลตัวเองได้ และทุกครั้งที่ฉันมาต้องกลับบ้านค่ำทุกครั้ง

 

     แต่วันนี้ฉันกลับเร็วหน่อย เพราะต้องไปเก็บกระเป๋าและแอบไปเอามีดของป๋าฉันมาด้วย มีดป๋าฉันคมกว่าที่คิดนะ ตัดกระดาษยังขาด เสียดายที่ฉันเอาแค่มีดไปได้ ถ้ากระเป๋ามันยัดดาบไปได้จะดีมากเลย

 

     และแล้วคืนนี้ก็มาถึง.. ระหว่างที่ฉันกำลังนั่งรอให้ไฟในบ้านปิดให้หมด ฉันก็ได้รับคมดาบไปพลาง คิดหนทางหนีเผื่อว่าฉันจะไม่รอดจริงๆ ฉันหันออกไปนอกหน้าต่างเล็กน้อย ไปสูดอากาศก่อนออกไปจากทีนี้สักหน่อยแล้วกัน ฉันเดินมานั่งตรงขอบหน้าต่างที่สูงเสียดฟ้า ไม่มีระเบียงให้เหยียบ ฉันเลยปล่อยขาอันยาวเรียวของฉันให้มันแกว่งไปมา ลมเย็นๆกระทบที่หน้าฉันเบาๆ อารมณ์แบบนี้ทำให้ฉันหายเครียดได้ตลอดเวลา ทุกๆครั้งที่สายลมกระทบมาที่หน้าของฉัน มันทำให้ฉันรู้สึกเบาหวิว

 

     พรึบ!  เสียงไฟในบ้านทั้งหมดถูกดับลงพร้อมกัน ทำให้ฉันไว้ตัวรีบย่องลงมาจากหน้าต่างและโยนกระเป๋าลงไปทางหน้าต่างหลังห้อง มองซ้ายมองขวาทางเคลียร์ ฉันจึงค่อยๆปล่อยเชือกลงไปแล้วหมัดตรึงไว้กับเตียงของฉัน ฉันดึงเชือกแรงๆเพื่อทดสอบว่ามันจะไม่หลุดออกมาง่ายๆ เมื่อแน่ใจแล้ว ฉันมองซ้ายขวาอีกทีไม่มีใคร ปฏิบัติการการไต่เชือกก็ได้ดำเนินต่อไป

 

     ตุบ! ฉันกระโดดลงมาจากเชือกที่เพิ่งปีนไป มองซ้ายมองขวาอีกที เมื่อไม่มีใครแล้วฉันจึงหยิบกระเป๋าแล้วโกยทันที

 

     ตึกๆๆๆ มาถึงมาตรการสุดท้ายคือ ฉันต้องปีนรั่วออกไป มองซ้ายมองขวาอีก เพื่อความแน่ใจว่าจะไม่มีใครมายุ่มย่ามระหว่างปีน ฉันโยนกระเป๋าข้ามรั่วไป จากนั้นก็ไต่กำแพงขึ้นไปเรื่อยๆ โห้ย~ ปีนอยากจริงเลย !


“นั่นใครน่ะ” เห้ย!! ใครมายืนอยู่อีกฟากของกำแพงฟ่ะ!? อย่าบอกนะว่าฉันจะไม่รอดจริงๆ คนของตระกูลเอมม่าแพนธ์รึเปล่า! อ๊าก หัวฉันคิดอะไรไม่ออกจริงๆ แต่ยังไงก็ต้องปีนต่อ จะให้มาหยุดกลางคันได้ไง


“ผมถามว่าใคร” ช่างมันเถอะ ขอปีนก่อนเว้ย!


“ถอยไป ฉันจะตกแล้ว!” ฉันตะโกนออกมา ก็มันจะตกจริงๆนี้หว้า จะเหินฟ้าแล้วนะเว้ยยยย


“เฮ้ย!!”


พลั่ก! ตูม!


อุ๊บ! ฉันเผลอใส่เข่าตานั่นซะแล้ว ดูสิจมลงไปในบ่อปลาแล้ว น่าสงสารนะ แต่ฉันรีบ ฮุฮุ ฉันหยิบกระเป๋าแล้วใส่เกียร์หมาทันที เย้ >< ! ในที่สุดฉันก็ออกมาได้แล้ว !!

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7.4 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7.3 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.9 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา