23 คดีกับเหล่าผีและนายนักสืบ
8.6
เขียนโดย กุหลาบราตรี
วันที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2556 เวลา 17.21 น.
23 คดี
11 วิจารณ์
30.82K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 12 เมษายน พ.ศ. 2557 18.30 น. โดย เจ้าของนิยาย
21) กระเป๋าปริศนา (ตอนจบ)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ ฉันกับนัตเตอร์เดินทางมาถึงที่บ้านของผู้ชายคนนั้นทันที
"เขาชื่อนนท์อยู่ที่นี่เมื่ออาทิตย์ที่แล้วตอนที่เขาถือกระเป๋ากลับมาก็จะออกจากบ้านทุกคืนไม่รู้เหมือนกันว่าออกไปทำอะไร" ลุงคนนั้นพูดเสียงดังฟังชัด
ลุงที่กำลังพูดอยู่นั้นชื่อว่าลุงวันอาศัยอยู่บ้านข้างๆ ในซอยที่แบบว่าไฟรายทางแทบจะไม่มีเลยแถมข้างทางยังมีพงหญ้า เศษขยะเกลื่อนกลาดไปหมดอีกด้วย
"แล้วจะทำไงต่อล่ะ" ฉันถามนัตเตอร์ทันที
"ลุงพอจะมีรูปของเขาบ้างหรือเปล่าครับ" นัตเตอร์ถามทันที
"ไม่มีหรอก" เป็นคำตอบที่ใจร้ายเพราะสักหน่อยถ้าไม่มีรูปของเขาแล้วฉันกับนัตเตอร์จะตามหาพวกเขาได้จากที่ไหนล่ะ
"แล้วรูปร่าง หน้าตาของเขาล่ะครับจำได้หรือเปล่า" นัตเตอร์ยังคงถามต่อไป
"ถ้าอยากรู้คงต้องไปถามเจ้าของร้านโทรศัพท์ที่หน้าปากซอยโน่น ผู้หญิงคนนั้นสนิทกับนนท์มากเลยนะเห็นไปหากันทุกวัน" ลุงคนนั้นพูดพร้อมชี้นิ้วไปทางที่หน้าปากซอย
"ขอบคุณค่ะ" ฉันพูดพร้อมกับดึงนัตเตอร์ให้เดินตามมาด้วยทันที
ที่หน้าปากซอย....
เจ้าของร้านโทรศัพท์ชื่อนัทหน้าตาดี หุ่นสวย ผมยาว (จะอธิบายทำไม) เมื่อเราลองถามถึงคนชื่อนนท์เธอก็ตอบทันทีว่าเคยรู้จักตอนสมัยเรียนบ้านเกิดของเขาอยู่ที่หัวหินและโชคดีมากๆ ที่เธอมีรูปของเขาหลายใบซะด้วย
เพราะคำบอกเล่าจากนัททำให้เราเดินทางมาที่หัวหิน
"เขาจะอยู่ที่นี่จริงๆ เหรอ" ฉันถามด้วยความไม่มั่นใจเลยสักนิดเพราะถ้าเขาไม่ได้อยู่ที่นี่ก็เสียค่าเดินทางฟรีน่ะสิ (งกทั้งที่นัตเตอร์เป็นคนจ่ายตังค์)
"ลองถามคนแถวนี้ก่อนดีกว่า" นัตเตอร์พูดพลางเดินถือรูปของคนที่ชื่อนนท์ไปถามชาวบ้านแถวนี้
ฉันกับนัตเตอร์แยกย้ายกันหาผู้ชายคนนี้แต่ก็ไม่ค่อยมีใครรู้จักเขาเลย จนล่วงเลยมาถึงตอนเที่ยงตรงซึ่งเป็นเวลาที่ฉันหิวมากและแดดก็ร้อนมากๆๆ ทำให้การตามหาครั้งนี้เริ่มมีอุปสรรค
"นี่นายเจอหรือเปล่า" ฉันถามทันทีเมื่อเดินมาเจอนัตเตอร์
"ยังเลย"
"ลองไปถามลุงคนนั้นเถอะ" ฉันชี้ไปที่ลุงที่กำลังจะเดินข้ามถนน
"ก็ได้"
โชคดีที่ลุงคนนั้นรู้จักคนที่ชื่อนนท์ด้วยเขาเล่าว่า นนท์มีอาชีพเป็นช่างภาพอิสระลูกชายของชาวประมงซึ่งเป็นเพื่อนของลุงเขานั่นแหละ
หลังจากที่รู้ว่าบ้านของนนท์อยู่ไหนฉันกับนัตเตอร์ก็มานั่งกินข้าวได้สักมีเมื่ออิ่มแล้วจึงมาแอบดูพฤติกรรมของคนที่ชื่อนนท์ต่อไป
"ฉันว่าเข้าไปถามเขาเลยดีมั้ย" ฉันพูดขึ้นในขณะที่ทุกอย่างเงียบสงบ
"ถ้าเขาหนีไปจะทำยังไง" นัตเตอร์ตอบอย่างใจเย็น
"ฉันลืมคิด"
เรานั่งแอบดูนนท์มาถึงเวลาสามทุ่มซึ่งยุงก็ไม่รู้ว่ามาจากไหนทำให้ฉันเริ่มโมโหที่ถูกมันกัดอยู่คนเดียว นนท์เดินเข้ามาในป่าช้าซึ่งที่นี่มียุงเยอะกว่าที่อื่นเลยแล้วไม่รู้ว่าเพราะอะไรมันถึงได้กัดฉันอยู่คนเดียว เฮ้อ น่าเบื่อ
"นัตเตอร์" ฉันพูดเสียงเบา
"มีอะไร"
"เขาจะเดินไปถึงไหนเนี่ยน่ากลัวจะตาย" ฉันบ่นทันที
"ก็บอกแล้วว่าไม่ต้องตามมา" นัตเตอร์เริ่มพูดด้วยความเบื่อหน่าย
ฉันกับนัตเตอร์หยุดเดินเพราะเขาเริ่มขุดหลุมเพื่อทำอะไรบางอย่างไม่นานนักเขาก็ทิ้งกระเป๋าลงไปในหลุมที่ขุดไว้แล้วก็รีบวิ่งออกจากป่าช้าอย่างรวดเร็ว
เมื่อนนท์วิ่งกลับไปนัตเตอร์ก็รีบวิ่งมาขุดแล้วยกกระเป๋าขึ้นไม่รู้ว่าเพราะอะไรนัตเตอร์ถึงมีอาการแบบว่าจะยกกระเป๋าขึ้นมาไม่ได้
"กระเป๋ามันหนักเหรอ" ฉันถามด้วยความแปลกใจ
"ก็หนักน่ะสิ อย่างกับมีคนมานอน...เฮ้ย หรือว่า..." เขาพูดเหมือนนึกอะไรขึ้นมาได้แล้วก็รีบเปิดกระเป๋าออกมาทันที
"กรี๊ด" ฉันร้องเสียงดังเมื่อเห็นว่าในกระเป๋ามีทั้งเลือดและชิ้นส่วนของคนอยู่ในนั้น
หลังจากนั้นตำรวจที่นัตเตอร์โทรเรียกก็มาถึง เราทั้งสองคนเล่าทุกอย่างให้ตำรวจฟัง....
"พรุ่งนี้ทุกอย่างก็จบ" นัตเตอร์พูดด้วยควายเหนื่อยใจ
"ทำไมนายพูดแบบนั้นล่ะ"
"เอาเถอะน่าเดี๋ยวเธอก็รู้เอง" นัตเตอร์พูดพร้อมเดินออกมาทันที
เช้าวันต่อมา...
ข่าวใหญ่เกี่ยวเศรษฐีที่จ้างให้นัตเตอร์สืบหากระเป๋าใบนั้นก็ออกมาทำให้รู้ความจริงว่าเธอสั่งฆ่าเมียน้อยของสามีตัวเองแล้วพยายามแยกชิ้นส่วนศพไว้ในกระเป๋าแต่ทุกอย่างก็พลาดเพราะนนท์ที่เข้าใจผิดว่าเป็นกระเป็าใส่อุปกรณ์ของตัวเองจึงหยิบติดมือไป
ความจริงอีกหนึ่งเรื่องคือเธอกำลังถูกสั่งล้มละลายนี่เป็นเหตุผลหนึ่งที่เธอสั่งฆ่าเมียน้อยคนนั้นเพราะสามีของเธอขู่ว่าจะหย่าและจะไปอยู่กินกับเมียน้อย
"เป็นถึงเศรษฐีไม่น่าทำแบบนี้เลย"
"ช่างเขาเถอะ" นัตเตอร์พูดแบบใจเย็นมากๆ
"พ่อพระจริงนะนายเนี่ย"
"น่าแปลกนะทำไมคราวนี้เธอถึงไม่เห็นผีเลยล่ะ" นัตเตอร์ถามฉันด้วยความแปลกใจ
"คงเป็นเพราะถูกแยกชิ้นส่วนมั้ง แล้วจะมาหาฉันยังไงล่ะละเอียดซะขนาดนั้น" ฉันพูดเมื่อนึกถึงศพที่เละจนแทบแยกไม่ออกว่าส่วนไหนเป็นส่วนไหน
แต่ทุกอย่างก็จบลงด้วยดีนะ
"เขาชื่อนนท์อยู่ที่นี่เมื่ออาทิตย์ที่แล้วตอนที่เขาถือกระเป๋ากลับมาก็จะออกจากบ้านทุกคืนไม่รู้เหมือนกันว่าออกไปทำอะไร" ลุงคนนั้นพูดเสียงดังฟังชัด
ลุงที่กำลังพูดอยู่นั้นชื่อว่าลุงวันอาศัยอยู่บ้านข้างๆ ในซอยที่แบบว่าไฟรายทางแทบจะไม่มีเลยแถมข้างทางยังมีพงหญ้า เศษขยะเกลื่อนกลาดไปหมดอีกด้วย
"แล้วจะทำไงต่อล่ะ" ฉันถามนัตเตอร์ทันที
"ลุงพอจะมีรูปของเขาบ้างหรือเปล่าครับ" นัตเตอร์ถามทันที
"ไม่มีหรอก" เป็นคำตอบที่ใจร้ายเพราะสักหน่อยถ้าไม่มีรูปของเขาแล้วฉันกับนัตเตอร์จะตามหาพวกเขาได้จากที่ไหนล่ะ
"แล้วรูปร่าง หน้าตาของเขาล่ะครับจำได้หรือเปล่า" นัตเตอร์ยังคงถามต่อไป
"ถ้าอยากรู้คงต้องไปถามเจ้าของร้านโทรศัพท์ที่หน้าปากซอยโน่น ผู้หญิงคนนั้นสนิทกับนนท์มากเลยนะเห็นไปหากันทุกวัน" ลุงคนนั้นพูดพร้อมชี้นิ้วไปทางที่หน้าปากซอย
"ขอบคุณค่ะ" ฉันพูดพร้อมกับดึงนัตเตอร์ให้เดินตามมาด้วยทันที
ที่หน้าปากซอย....
เจ้าของร้านโทรศัพท์ชื่อนัทหน้าตาดี หุ่นสวย ผมยาว (จะอธิบายทำไม) เมื่อเราลองถามถึงคนชื่อนนท์เธอก็ตอบทันทีว่าเคยรู้จักตอนสมัยเรียนบ้านเกิดของเขาอยู่ที่หัวหินและโชคดีมากๆ ที่เธอมีรูปของเขาหลายใบซะด้วย
เพราะคำบอกเล่าจากนัททำให้เราเดินทางมาที่หัวหิน
"เขาจะอยู่ที่นี่จริงๆ เหรอ" ฉันถามด้วยความไม่มั่นใจเลยสักนิดเพราะถ้าเขาไม่ได้อยู่ที่นี่ก็เสียค่าเดินทางฟรีน่ะสิ (งกทั้งที่นัตเตอร์เป็นคนจ่ายตังค์)
"ลองถามคนแถวนี้ก่อนดีกว่า" นัตเตอร์พูดพลางเดินถือรูปของคนที่ชื่อนนท์ไปถามชาวบ้านแถวนี้
ฉันกับนัตเตอร์แยกย้ายกันหาผู้ชายคนนี้แต่ก็ไม่ค่อยมีใครรู้จักเขาเลย จนล่วงเลยมาถึงตอนเที่ยงตรงซึ่งเป็นเวลาที่ฉันหิวมากและแดดก็ร้อนมากๆๆ ทำให้การตามหาครั้งนี้เริ่มมีอุปสรรค
"นี่นายเจอหรือเปล่า" ฉันถามทันทีเมื่อเดินมาเจอนัตเตอร์
"ยังเลย"
"ลองไปถามลุงคนนั้นเถอะ" ฉันชี้ไปที่ลุงที่กำลังจะเดินข้ามถนน
"ก็ได้"
โชคดีที่ลุงคนนั้นรู้จักคนที่ชื่อนนท์ด้วยเขาเล่าว่า นนท์มีอาชีพเป็นช่างภาพอิสระลูกชายของชาวประมงซึ่งเป็นเพื่อนของลุงเขานั่นแหละ
หลังจากที่รู้ว่าบ้านของนนท์อยู่ไหนฉันกับนัตเตอร์ก็มานั่งกินข้าวได้สักมีเมื่ออิ่มแล้วจึงมาแอบดูพฤติกรรมของคนที่ชื่อนนท์ต่อไป
"ฉันว่าเข้าไปถามเขาเลยดีมั้ย" ฉันพูดขึ้นในขณะที่ทุกอย่างเงียบสงบ
"ถ้าเขาหนีไปจะทำยังไง" นัตเตอร์ตอบอย่างใจเย็น
"ฉันลืมคิด"
เรานั่งแอบดูนนท์มาถึงเวลาสามทุ่มซึ่งยุงก็ไม่รู้ว่ามาจากไหนทำให้ฉันเริ่มโมโหที่ถูกมันกัดอยู่คนเดียว นนท์เดินเข้ามาในป่าช้าซึ่งที่นี่มียุงเยอะกว่าที่อื่นเลยแล้วไม่รู้ว่าเพราะอะไรมันถึงได้กัดฉันอยู่คนเดียว เฮ้อ น่าเบื่อ
"นัตเตอร์" ฉันพูดเสียงเบา
"มีอะไร"
"เขาจะเดินไปถึงไหนเนี่ยน่ากลัวจะตาย" ฉันบ่นทันที
"ก็บอกแล้วว่าไม่ต้องตามมา" นัตเตอร์เริ่มพูดด้วยความเบื่อหน่าย
ฉันกับนัตเตอร์หยุดเดินเพราะเขาเริ่มขุดหลุมเพื่อทำอะไรบางอย่างไม่นานนักเขาก็ทิ้งกระเป๋าลงไปในหลุมที่ขุดไว้แล้วก็รีบวิ่งออกจากป่าช้าอย่างรวดเร็ว
เมื่อนนท์วิ่งกลับไปนัตเตอร์ก็รีบวิ่งมาขุดแล้วยกกระเป๋าขึ้นไม่รู้ว่าเพราะอะไรนัตเตอร์ถึงมีอาการแบบว่าจะยกกระเป๋าขึ้นมาไม่ได้
"กระเป๋ามันหนักเหรอ" ฉันถามด้วยความแปลกใจ
"ก็หนักน่ะสิ อย่างกับมีคนมานอน...เฮ้ย หรือว่า..." เขาพูดเหมือนนึกอะไรขึ้นมาได้แล้วก็รีบเปิดกระเป๋าออกมาทันที
"กรี๊ด" ฉันร้องเสียงดังเมื่อเห็นว่าในกระเป๋ามีทั้งเลือดและชิ้นส่วนของคนอยู่ในนั้น
หลังจากนั้นตำรวจที่นัตเตอร์โทรเรียกก็มาถึง เราทั้งสองคนเล่าทุกอย่างให้ตำรวจฟัง....
"พรุ่งนี้ทุกอย่างก็จบ" นัตเตอร์พูดด้วยควายเหนื่อยใจ
"ทำไมนายพูดแบบนั้นล่ะ"
"เอาเถอะน่าเดี๋ยวเธอก็รู้เอง" นัตเตอร์พูดพร้อมเดินออกมาทันที
เช้าวันต่อมา...
ข่าวใหญ่เกี่ยวเศรษฐีที่จ้างให้นัตเตอร์สืบหากระเป๋าใบนั้นก็ออกมาทำให้รู้ความจริงว่าเธอสั่งฆ่าเมียน้อยของสามีตัวเองแล้วพยายามแยกชิ้นส่วนศพไว้ในกระเป๋าแต่ทุกอย่างก็พลาดเพราะนนท์ที่เข้าใจผิดว่าเป็นกระเป็าใส่อุปกรณ์ของตัวเองจึงหยิบติดมือไป
ความจริงอีกหนึ่งเรื่องคือเธอกำลังถูกสั่งล้มละลายนี่เป็นเหตุผลหนึ่งที่เธอสั่งฆ่าเมียน้อยคนนั้นเพราะสามีของเธอขู่ว่าจะหย่าและจะไปอยู่กินกับเมียน้อย
"เป็นถึงเศรษฐีไม่น่าทำแบบนี้เลย"
"ช่างเขาเถอะ" นัตเตอร์พูดแบบใจเย็นมากๆ
"พ่อพระจริงนะนายเนี่ย"
"น่าแปลกนะทำไมคราวนี้เธอถึงไม่เห็นผีเลยล่ะ" นัตเตอร์ถามฉันด้วยความแปลกใจ
"คงเป็นเพราะถูกแยกชิ้นส่วนมั้ง แล้วจะมาหาฉันยังไงล่ะละเอียดซะขนาดนั้น" ฉันพูดเมื่อนึกถึงศพที่เละจนแทบแยกไม่ออกว่าส่วนไหนเป็นส่วนไหน
แต่ทุกอย่างก็จบลงด้วยดีนะ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.8 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ