กลัวดีนักรักซ่ะให้เข็ด (Twin Love at First Sight)
เขียนโดย aregayha
วันที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2556 เวลา 23.59 น.
แก้ไขเมื่อ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2556 00.13 น. โดย เจ้าของนิยาย
2) [ตอนที่ 2]กลัวดีนักรักซ่ะให้เข็ด (Twin Love at Fir
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
นิยาย [ตอนที่ 2]กลัวดีนักรักซ่ะให้เข็ด (Twin Love at First Sight)
บ่ายโมงหน้าโรงหนัง
ฉันเดินมาถึงก็เจอริวนั่งรออยู่
ที่ โซฟากำมะหยี่สีแดงหน้าโรงหนังริวอยู่ในชุดเล่นเขาใส่เสื้อเชิ้ตแขนสั้นสีดำ และกางเกงขายาวสีขาวเขาแต่ตัวเป็นผู้ใหญ่ดูดีเหมาะกับเขาเลยฉันเลยเดินยิ้ม ไปทักริวทันที
"มารอนานรึยัง" ฉันยิ้มหวานถามเขา
"ไม่นานหรอก" ริวยิ้มตอบฉัน
"นานดิรอตั้งนาน"
และฉันก็หุบยิ้มลงทันทีก่อนจะหันไปมองเสียงผู้ชายที่ดังมาจากด้านหลังของริ วและฉันก็พบเรียวในชุดเชื้อยืดสีขาวลายแปลกๆ กางเกงยีนส์ขายาวขนาดเขาใส่แค่นี้ยังเท่ห์มากๆ ไม่ใช่เวลามาชื่นชมความหล่อของเรียวนะ ฉันควรจะสงสัยว่าเขามาทำไมต่างหาก
"ทำไมนายมาอยู่ที่นี่ได้" ฉันถามพลางชี้หน้าเรียว
"ก็มาดูหนังสิมาโรงหนังจะให้มานั่งจั้มจี้เรอะ"
เรียวทำหน้าตายียวนกวนประสาทสุดๆ ทำให้ฉันแทบกรี้ด! เพราะคำพูดกวนๆ ของเขา
"ปากเสีย" ฉันว่าเรียว
"เธอว่าฉันปากเสียเหรอลองชิมดูสิปากฉันออกจะหอมหวานอร่อย"
ฉันถึงกับอ้าปากค้างทันทีกับคำพูดของเรียวและริวที่นั่งอยู่ก็ทำหน้าปวดหัวทันที
"ฉันไม่ชิมมันแน่ๆ ทุเรศ" ฉันด่าใส่หน้าเรียว
"เรียวพอเถอะฉันไม่เข้าใจเลยนายจะตามด้วยทำไม" ริวหันไปทำหน้าบึ้งใส่เรียวที่เปลี่ยนสีหน้าเป็นไม่รู้ไม่ชี้ได้ในทันที
"ก็อยากมาดูหนัง" เรียวตอบ
"ทำไมนายต้องมากับฉันแล้วก็แอลลี่ถ้านายอยากมาดูหนังนายก็ไปชวนพวกเพื่อนนายหรือสาวๆ ของนายมาก็ได้นี่เรียว"
ริวถามได้ตรงคำถามมากฉันก็สงสัยเหมือนกันว่าเรียวจะตามมาด้วยทำไม
"วันนี้ฉันอยากมาดูกับนายเข้าใจยัง"
เป็นอะไรที่ไร้เหตผลสุดๆ เลยเขามาเพื่อป่วนเดทของฉันกับริวแน่นอนเลย นายมันเป็นตัวขัดขวางความสุขของฉันจริงๆ ด้วยเรียว
หลังจากจากซื้อตั๋วหนังเรียบร้อยฉันก็ให้ริวและเรียวเดินเข้าไปในโรงก่อน เพราะฉันมาเข้าห้องน้ำแต่พอฉันจะเดินเข้าโรงหนังฉันก็ต้องหยุดชะงักทันที เพราะความมืดที่แสนจะน่ากลัวอยู่ตรงหน้าฉันนั่นเอง แบบอาจจะฟังดูพิลึกนะแต่เกิดมาฉันไม่เคยมาดูหนังในโรงหนังเลยฉันก็เลยไม่รู้ ว่าในโรงหนังมันมืดมากขนาดนี้และฉันก็กลัวความมืดที่สุดด้วย ตอนนี้พนักงานเปิดประตูโรงหนังเริ่มมองฉันที่หน้าซีดด้วยความงง ก่อนที่เรียวที่ดูเหมือนเพิ่งเดินออกมาจากห้องน้ำเพื่อกำลังจะเข้าโรงก็ต้อง หยุดถามฉันอย่างสงสัยเช่นกัน
"แอลลี่ทำไมไม่เข้าไป"
และเรียวก็พยายามจะดึงแขนฉันเข้าไปในความมืดที่แสนจะน่ากลัวนั้นทำให้ฉันได้ แต่ยืนตัวแข็งและไม่ยอมเข้าไป ก็ฉันกลัวความมืดนี่มันน่ากลัวในนั้นจะมีอะไรน่ากลัวๆ อยู่รึเปล่าก็ไม่รู้ ความคิดของฉันคิดไปต่างๆ นาๆ สุดจะบรรยายแล้ว
"เธอทำตัวแข็งทำไมไม่เข้าไปดูหนังเหรอ" เรียวจ้องหน้าฉันด้วยความสงสัย
"ไม่ฉันเข้าไปในนั้นไม่ได้" ฉันบอกเขาพลางทำหน้าเหมือนจะร้องให้
"ทำไม" เรียวถามอย่างสงสัย
"ฉันกลัวฉันเข้าไปในนั้นไม่ได้จริงๆ นายเข้าไปเถอะเรียวแล้วก็ฝากบอกริวด้วยว่าฉันรู้สึกไม่สบายต้องกลับก่อน"
พอพูดจบฉันก็เดินออกจากที่นั่นทันที และเรียวก็เดินมาดึงแขนของฉันเอาไว้ฉันเลยเงยหน้าขึ้นไปมองเขาอย่างสงสัยเขาตามฉันมาทำไม
"เธอไม่สบายจะให้ฉันปล่อยเธอกลับคนเดียวได้ไงฉันจะไปส่งเอง"
พอเรียวพูดจบเขาก็เดินจับแขนฉันลงบันไดเลื่อนทันที ทำตอนนี้ฉันถึงรู้สึกว่าเรียวเป็นผู้ชายที่แมนดีเหลือเกินนะ เขาเป็นห่วงฉันด้วยเหรอจะว่าไปเขาก็นิสัยดีเหมือนกันนะถึงจะปากร้ายไปก็เถอะ ฉันแอบยิ้มก่อนจะแอบมองหน้าหล่อๆ ของเรียวด้วยเช่นกัน
เรียวพาฉันมาที่ลานจอดรถก่อนที่เขาจะเปิดกุญแจรถสปอร์ตสีดำคันหรู มันทำให้ฉันมองเขาตาโตอย่าบอกนะว่ารถเขานะมันดูแพงมาก
"ขึ้นรถสิฉันจะไปส่งที่บ้านเอง"
ฉันขึ้นรถทันทีก่อนจะมานั่งมองเรียวอย่างสงสัย
"รถนายเหรอ"
"ใช่พ่อซื้อให้เธอชอบล่ะสิ"
เรียวหันมายักคิ้วใส่ฉันแบบกวนๆ พลางยิ้มที่มุมปากอย่าเจ้าเล่ห์ก่อนที่เขาจะขับรถออกจากห้าง
"จริงสิแอลลี่ที่เธอบอกว่ากลัวตอนอยู่หน้าโรงหนังเธอกลัวอะไรเหรอ"
"เปล่าหรอกแค่รู้สึกเหมือนไม่สบายขึ้นมากระทันหันก็แค่นั้นเอง"
ถ้าฉันบอกเขาว่าฉันกลัวความมืดเพราะฉันเป็นโฟเบียมีหวังฉันต้องโดนเขาแกล้งแน่ๆ และคนอื่นคงรู้กันหมดฉันเลยเลือกที่จะโกหกดีที่สุด
"แต่ตอนนี้ฉันว่าหน้าเธอก็ดูปกติแล้วนะ"
"ไม่หรอก"
และเรียวก็หยิบมือถือในกระเป๋าออกมารับสายที่โทรมาพอดี
"แอลลี่ไม่สบายเลยต้องพากลับบ้านก่อนนะนายดูหนังเสร็จแล้วกลับเองเลยแล้วกัน"
แล้วเรียวก็วางสายไปทันทีต้องเป็นริวที่โทรมาแน่ๆ แบบนี้เดทครั้งแรกของฉันก็พังหมดนะสิอยากร้องให้
"ทำไมทำหน้าเหมือนจะร้องให้"
เรียวหันมาถามฉันทำไมเขาถึงสังเกตฉันดีขนาดนี้นะ
"เพราะวันนี้เป็นเดทแรกของฉันแท้ๆ แต่มันกับ...."
ยังไม่ทันที่ฉันจะพูดจบเรียวก็พูดแทรกขึ้นมาก่อนทันที
"งั้นฉันจะพาไปหาอะไรสนุกๆ ทำแล้วกันเธอจะได้รู้สึกดีขึ้น"
พอพูดจบเรียวก็ขับรถพาฉันไปไหนก็ไม่รู้แล้วอะไรที่เขาบอกว่าจะพาฉันไปหาอะไร สนุกๆ ทำหรือว่าเขาจะพาฉันไปทำอะไรอย่างว่ากรี้ดด! ไม่เอานะฉันยังเป็นสาวน้อยบริสุทธิ์อยู่นะแม้แต่จูบก็ยังไม่เคยเลยไม่ได้นะ และระหว่างที่ฉันกำลังคิดอะไรที่มันโอเวอร์อยู่รถของเราก็ขับมาที่สวนสนุก ตกลงฉันคงคิดมากไปเองคนเดียวนั่นแหละเพราะที่ๆ เรียวพาฉันมามันคือสวนสนุก
"สวนสนุกเหรอ" ฉันพูด
"ใช่ไปหาอะไรสนุกๆ เล่นกัน" เรียวดึงมือฉันให้เดินตามเขาไป
"รถไฟเหาะตีลังกานี่แหละสนุกสุดยอด"
ฉันยืนและเงยหน้าขึ้นไปจ้องมองรถไฟเหาะตีลังกาที่เรียวว่าสนุกและฉันก็ได้ยินเสียง
กรี้ดดด!!
เสียงคนที่อยู่บนรถไฟเหาะตีลังกาลอยมาตามลมและฉันก็สัมผัสได้ถึงความน่ากลัวของเจ้าเครื่องเล่นชนิดนี้ได้ทันที
"ไม่เล่นถ้านายจะเล่นนายก็เล่นไปคนเดียวเถอะ" ฉันบอกเรียวที่กำลังทำหน้าหงุดหงิดใส่ฉันอยู่ ถึงเขาจะหงุดหงิดฉันก็ไม่สนฉันจับเสาไฟแถวนั้นไว้แน่นไม่ยอมไปกับเรียวแต่ เขาก็ฉุดกระชากลาก (ใช้คำนี้เหมาะแล้ว) จนฉันขึ้นมานั่งอยู่บนรถไฟเหาะตีหลังกาด้วยร่างที่สั่นระริกเหมือนลูกหมาตก น้ำ
"ไม่ต้องกลัวนะฉันอยู่ทั้งคน"
จู่ๆ เรียวก็เอามือของเขามาจับมือของฉันไว้แน่นจนฉันรู้สึกว่าปลอดภัยจนไม่ทันได้ สังเกตเลยว่าเจ้ารถไฟหายนะ (เปลี่ยนชื่อให้ใหม่เอง) ก็ออกมาได้สักพักแล้วและมันก็กำลังจะดิ่งลงแล้วสูงจังและก็ดิ่งลงไปตามลาง ด้วยความเร็วสูงจนปากฉันสั่นไปหมด
กรี้ดดด!!!!
ช่วยด้วยแม่จ๋า! ฉันร้องเสียงดังด้วยความกลัวสุดขีดจนฉี่แทบราดกางเกงน่ากลัวหนูอยากลงแม่จ๋าช่วยแอลลี่ด้วยแงๆ
พอลงมาจากรถไฟหายนะนั่นแล้วฉันก็ยืนแทบไม่ไหวเลยมานั่งพักที่ม้านั่ง ส่วนเรียวก็ยิ้มไม่หุบเพราะเขาได้แกล้งฉันสมใจเขาแล้วนะสิ
"ต่อไปเล่นอะไรอีกดี"
"นายยังจะเล่นอีกเหรอ" ฉันถามเรียวด้วยใบหน้าอยากร้องให้
"ใช่สิ"
"งั้นต่อไปฉันเลือกบ้าง"
และฉันก็เลือกขึ้นกระเช้าลอยฟ้าที่สูงมากเพราะฉันอยากขึ้นมานั่งดูวิวและฉัน ก็ได้ดูวิวสวยๆ จริงๆ วิวบนกระเช้าสวยมากจนฉันยิ้มออกมาอย่างมีความสุข
"บนนี้วิวสวยมาก"
ฉันหันไปมองเรียวที่กำลังนั่งดูวิวเหมือนฉันตอนนี้เขาเองก็กำลังยิ้มอย่างสด ใสแบบที่ฉันไม่เคยเห็นเขายิ้มแบบนี้มาก่อนเลยเวลาที่แสงแดดส่องกระทบผมสี้ น้ำตาลทองของเรียวมันทำให้เขาดูโดดเด่นและก็หล่อมากจนฉันไม่อยากละสายคาจาก ใบหน้าที่แสนจะงดงามของเขาเลยจู่ๆ เรียวก็หันมามองหน้าฉัน ฉันเลยรีบหันหน้าทำเป็นมองวิวด้านล่างทันทีอย่างอายๆ
พอเราลงมาจากกระเช้าเราก็เดินไปดูนู่นนี่จนมาถึงบริเวณที่มีคนมุมกันอยู่เป็นจำนวนมากฉันกับริวเลยเดินเข้าไปดูว่าเขาดูอะไรกัน
หน้าสีขาว จมูกเหมือนลูกบอลสีแดง ผมหยิกฝูสีเขียว สวมชุดหลายๆ สี
แบบนี้ชัดเลยว่ามันคือตัวตลกและทันทีที่ฉันเห็นฉันก็เอาแต่กรี้ดไม่หยุด เพราะตัวตลกเป็นอะไรที่ฉันทั้งเกลียดและกลัวที่สุดเวลาเจอแบบนี้ปกติฉันก็จะ กรี้ดลั่นจนลืมอายเลย
กรี้ดดด!!!!
ทุกคนหันมามองฉันกันหมดทุกคน และฉันก็รู้สึกตาลายขึ้นมาและภาพทุกๆ อย่างก็ค่อยๆ มืดลงๆ และดับสนิท
ฉันลืมตาขึ้นมาอีกทีก็พบว่าตัวเองนอนอยู่ในโรงพยาบาลแล้วและพ่อของฉันซึ่งก็คือคุณหมอแอลก็เดินเข้ามาภายในห้องพอดี
"พ่อค่ะ"
"แอลลี่ไม่เป็นอะไรใช่รึเปล่า"
พ่อถามฉันอย่างเป็นห่วงในขณะที่ฉันยังคงเบลอๆ อยู่ว่าเกิดอะไรขึ้น
"หนูเป็นอะไรไปคะ"
"ลูกกรี้ดและก็เป็นลมหมดสติไปเพราะลูกเห็นตัวตลกดีนะที่เพื่อนลูกพามาส่งโรงพยาบาล"
คำว่าเพื่อนที่พ่อพูดทำให้ฉันพยายามทบทวนเหตการณ์ก่อนหน้านี้จริงสิเรียวเขา พาฉันมาที่นี่เหรอแล้วตอนนี้เขาไปไหนแล้วไม่เห็นเลย ฉันพยายามมองหาเขารอบห้องแต่ก็ไม่เห็น
"ผู้ชายที่พาหนูมาส่งเขาไปไหนแล้วคะคุณพ่อ"
"ลูกหมายถึงเรียวนะเหรอพ่อบอกให้เขากลับไปพักผ่อนที่บ้านแล้ว"
กลับบ้านไปพักผ่อนแล้วเหรอ ฉันเลยหันไปหาพ่ออีก
"พ่อว่าแปลกรึเปล่าแอลลี่ไม่เห็นกลัวหรือกรี้ดเวลาอยู่ต่อหน้าเรียวเลย"
พ่อมองฉันก่อนจะยิ้มหวานๆ ให้ฉัน
"พ่อก็ว่าแปลกพ่อคงต้องหาข้อมูลเพิ่มดูบ้าง"
ขอถูกใจคอมเม้นให้นักแต่งด้วยน่ะจะได้รู้ว่ามีคนติดตามอ่านจร้า ^^
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ