Enemy Love เฮ้! สุดหล่อฉันกำลังจะพิชิตใจนาย
-
เขียนโดย Essocia
วันที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2556 เวลา 20.05 น.
6 บท
0 วิจารณ์
9,278 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2556 20.38 น. โดย เจ้าของนิยาย
5) บทที่ 5
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ8.00
คณะที่ฉันกำลังนอนหลับอยู่ในห้องโดยไม่คิดที่จะตื่น สักพักฉันรู้สึกเหมือนมีใครมาดึงขา O[]O ระ..หรือว่าจะเป็นผี ที่เจ้าเอลกับคิดส์จับฉันมัดแล้วนั่งดูบ่อย ๆ ที่ ผู้ชายถูกแฟนที่ตายไปแล้วมาล้างแค้น แล้วมาเขย่าขา TOT ฉันไม่กล้าที่จะลืมตา ฉันเลยสะบัดขาแล้วพลิกตัวหนี สักพักฉันรู้สึกเหมือนเตียงยุบจากล่างสุด ค่อย ๆ ยุบขึ้นมาจนถึงระดับเอวฉัน ตายๆ! ผีมันคงคลานขึ้นมาแล้ว!!! ฉันนับ 1 ถึง 3 ในใจแล้วต้องลืมตา ๆ! ลืมตามาดูโลก กรี๊ดด! TOT ไอรีน ๆ ตั้งสติไว้ มันความฝัน - -** เตียงหยุดยุบ แต่มันมายุบตรงกลางหลังฉัน ผีโรคจิตหรืือเปล่าวะเนี่ย =_= ฉันตัดสินใจนับ 1 ถึง 3... 1... 2...
''สาม!!!'' ฉันโพล่งตะโกนสามออกไป พร้อมลืมตาแล้วยันตัวลุกอย่างเร็ว แต่ที่ฉันตกใจที่สุด เมื่อฉันยันตัวลุก เหมือนหน้าผากฉันถูกแนบกับปากใครสักคน ฉันกระพริบตาแล้วสังเกตุว่าอะไรอยู่หน้า ฉันมองเห็น คาง กับ คอของผู้ชาย ผู้ชาย ๆ แน่ เพราะมีกลิ่นเลออนอ่อน ๆ ติดตัวอยู่ ซึง... มีแค่คนเดียวที่ใช้มัน...อีตาเฟริส์!!
''เฮ้ยย ย!!'' ฉันถีบอีตาเฟริส์กระเด็นออกจากเตียงอย่างรวดเร็ว
''ใจเย็น ๆสิ - -'' เฟริส์เบี่ยงตัวหลบแล้วจับขาฉันไว้ ฉันนิ่งอย่างพักนึง
''ไอ้เฟริส์!! นายเข้ามาทำอะไรในห้องฉัน ไอ้โรคจิต!!'' ฉันโวยวายลั่น
''ก็ฉันเคาะประตูปลุกเธอ แล้วเธอไม่ยอมตื่น - -''
ฉันคงกลับสนิทมากจนไม่ได้ยินเสียงเคาะประตูของเฟริส์สินะ - -
''นายก็เขย่าฉันก็....''
ฉันยังพูดไม่เต็มคำเฟริส์ก็เอาขนมปังยัดปากฉัน แล้วยันตัวลุกออกจากที่นอน พร้อมพูดว่า
''ไม่ต้องพูดมาก รีบไปเเต่งตัวได้แล้ว วันนี้เธอต้องออกไปซื้อของกับฉันจำไม่ได้หรือไง - -''
เออเนอะ - - ฉันคาบขนมปังพร้อมมองเฟริส์กระพริบตาปริบ ๆ เฟริส์ยักไหล่แล้วเดินออกจากห้องฉันไปในที่สุด ฉันเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวแล้วเดินเข้าห้องน้ำ ฉันมองตัวเองในกระจกเกือบนาที แล้วเลื่อนมือขึ้นไปจับหน้าผากตัวเอง ฉันเริ่มคิดอะไรนิดๆ หน่อย ๆ ไม่ๆๆ มันก็แค่ริมฝีปากของคนโรคจิต - -* ฉันสะบัดหน้า แล้วอาบน้ำได้สัก 15 นาที ฉันเลือกใส่ เสื้อกางเกงติดกัน คู่กับรองเท้าส้นเตารีดที่ไม่สูงมากนัก พร้อมรวบผมแล้วมัดหางม้า พร้อมใส่กำไรข้อมือดอกโบว์ตั๋นสีดำไว้ข้อมือด้านขวา หลังจากเตรียมตัวเสร็จ ฉันเดินลงไปหาเฟริส์ที่ยืนอยู่ริมสระว่ายน้ำ ฉันอยากจะเดินไปเตะมหอนั่นตกน้ำสักปาบ แต่ฉันคงต้องตกลงไปเองแน่ ๆ - -''
30 นาทีต่อมา เรามาถึงห้าง C คนขับรถของตระกูลเดอลอซเช่ขับรถมาส่งฉันกับเฟริส์พร้อมทั้งรอกลับ เฟริส์ชวนฉันเข้าซูเปอร์มาร์เก็ตเพื่อซื้อของใช้กับของกินสำหรับไปเที่ยว เขาหยิบครีมกันแดดหลายขวดใส่รถเข็น (ซื้อเผื่อพี่น้องด้วย - -) หยิบขนมที่เขา-พี่น้องชอบ และ เครื่อมดื่มมาใส่รถเข็นจนเต็มคัน
''ไปเที่ยวคราวนี้ฉันมีเธอเป็นเพื่อนแล้ว'' เขนหันมายิ้มสดใสให้ฉัน
''เธอชอบอะไรก็หยิบมาใส่รถเข็นสิ''
ฉันหยิบน้ำผลไม้หนึ่งแพ็กกับเลย์รสพิซซ่าหนึ่งถุงใส่รถเข็น
''ซื้อแค่นี้พอที่ไหน เราไปกันตั้งสามวัน ขืนเธอเอาไปแค่นี้แล้วหมดภายในวันเดียว แล้วเธอมาขอฉันกินทำยังไง - -'' ว่าแล้วเฟริส์ก็หยิบน้ำผลไม้เพิ่มอีก 5 แพ็กและเลย์อีกหลายถุง
ซื้อของเสร็จเฟริส์พาฉันเอาของไปเก็บไว้ที่รถก่อน ต่อจากนั้นเขาก็ลากฉันมาที่แผนเสื้อผ้าสตรี เฟริส์เลือกหมวกปีกกว้างสีขาว คาดโบวฺสีชมพูมาลองสวมให้ฉัน
''ใบนี้ดูเข้ากับเธอ ใส่ถ่ายรูปออกมาสวยแน่ ๆ ตกลงเอาใบนี้นะ''
''อืม...''เสียงฉันแผ่วเบาเหมือนใจไม่ได้อยู่ที่หมวก แต่ไปอยู่ที่อื่นแทน ฉันรู้สึกว่าลมหายใจสะดุดค้าวเมื่อเฟริส์มายืนซ้อนอยู่ข้างหลังและมองฉันผ่านทางกระจก
เฟริส์ยังคะยั้นคะยอให้ฉันเลือกซื้อเสื้อผ้าสำหรับไปเที่ยวทะเบเพิ่ทอีก ฉันจึงเลือกแม็กซี่เดรสที่กระโปรงยาวประมาณเข้ามาสองชุดกับเสื้อกันหนาวไหมพรมสีครีมไว้ใส่เผื่อหนาวด้วย ตอนคิดเงินฉันตั้งใจว่าจะจ่ายเองเพราะมีแต่เสื้อผ้าของฉันทั้งนั้น แต่เฟริส์ดึงบัตรเครดิตจากกระเป๋าสตางค์แล้วยื่นให้พนักงานขายตัดหน้าฉัน
''นายจ่ายค่าของซูเปอร์มาร์เก็ตแล้ว ค่าเสื้อผ้าน่าจะให้ฉันเป็นคนจ่ายเองนะ''
''ไว้เดี๋ยวเธอค่อยเลี้ยงข้าวเที่ยงฉันละกัน ว่าแต่เธอไม่เปลี่ยนใจซื้อบิกินีจริงๆ เหรอ'' เฟริส์หลิ่วตาไปทางราวแขวนชุดว่ายน้ำ เหอะ ๆ ฝันไปเถอะ
''ไม่เปลี่ยนใจย่ะ!''
ฉันค้อนใส่เขา แล้วเฟริส์ก็หัวเราะเบา ๆ เขาช่างเป็นคนที่แสนกวนอย่างที่สุด แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ารอยยิ้มทะเล้นและเสียงสดใสนั้นทำให้เขาดูมีเสน่ห์อย่างเหลือล้น
หลังจากซื้อของเสร็จ ฉันก็ให้เฟริส์เป็นคนเลือกว่าอยากกินอะไรเป็นมือเที่ยง เขาบอกว่าอยากกินพิซซ่า เขาบอกว่าจะซื้อให้ป๊อกเด้ง ป๊อกกี้ ลูกหมาสุดที่รักของเขา - -เราจึงไปที่ร้านพิซซ่ากัน เขาสั่งพิซซ่าหน้าซีฟู้ด ส่วนฉันสั่งสปาเดตตี้กุ้ง*0* ระหว่างที่รออาหารเขาก็ชวนคุยเรื่อยเปื่อย ผู้ชายคนนี้ช่างมีพรสวรรค์ด้านชวนคุยจริง ๆ คิดว่าวัน ๆ เอาแต่ทำงาน หักอกเลดี้ซะอีก เหอะ ๆ จู่ ๆ ไม่รู้ทำไมฉันรู้สึกเหมือนมีคนมองฉันอยู่ตลอดเวลา ฉันกวาดสายตามองไปรอบ ๆ แล้วเลื่อนไปสบกัยดวงตาที่แสนคุ้นที่จ้องกลับมาคนๆนั้นนั่งอยู่ตรงมุมร้านห่างจากโต๊ะของฉันไปหลายแถว
''เธอมองอะไรเหรอ''
เฟริส์หันไปมองตาม ฉันเลยหยิบเมดูแล้วฟาดหน้าเฟริส์เบา ๆ
''มองไม่ได้นะ นายห้ามมอง - -''
''บอกดี ๆ ก็ได้ - -*''
ฉันชวนเฟริส์คุยเรื่องอื่นเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ แต่ฉันก็ไม่วายมองไปทางมุมร้านเป็นพัก ๆ คนๆนั้นยังคงจับจ้องมาที่ฉันโดยไม่ละลายสายตาไปไหน จะมองอะไรนักหนาฟะ - -*
''เธอไม่กินพิซซ่าเหรอ?''
''นายกินไปเต๊อะ - -''
เพราะฉันหมดความอยากอาหารโดยสิ้นเชิง
''ฉันกินหมดถาดคนเดียวไม่ไหวหรอก อ่ะนี่ ลองชิมหน่อย'' เขาหยิบชิ้นพิซซ่ามาจ่อที่ปากฉัน พอเห็นฉันนิ่งเขาก็คะยั้นคะยอ
''ลองสักคำแล้วจะติดใจ น่านะ!''
ช่างตื้อจริง ๆ เลยหมอนี่ ฉันตัดคำรำคาญด้วยการอ้าปากกัดพิซซ่าคำหนึ่ง
''อร่อยใช่มั้ย?''
''อืม''
''งั้นกินเยอะ ๆ จะได้โตไว ๆ นะเบบี๋''
''บอกกี่ครั้งแล้วว่าอยากเรียกฉันว่าเบบี๋''
''ก็ฉันเป็นพี่เลี้่ยงเํธอนี่เบบี๋''
จากหางตาฉันเห็นคนๆนั้นลุกเดินตรงมาทางนี้ หรือว่าเขาจะมาหาฉัน ลางสังหรณ์ของฉันเตือนว่าอย่าให้เขาทำความรู้จักกับเฟริส์เลยจะดีกว่า ฉันรีบลุกพรวดขึ้น
''ขอตัวไปเข้าห้องน้ำแป๊ปเด้อ*0*''
''อือ เธอจะสั่งอะไรมั้ย ฉันจะได้สั่งไว้ให้''
''ไม่ๆ ฉันอิ่มแล้ว''
''อิ่มอะไร เธอกินไปนิดเดียวเองนะ - -''
คนๆนั้นเดินเข้ามาใกล้แล้ว เป้าหมายของเขาชัดเจนว่ากำลังเดินตรงมาหาฉัน
''งั้นเดี๋ยวฉันกลับมากินพิซซ่าต่อนะ!!''
ฉันรีบตัดบทแล้วเผ่นออกจากร้านล่อให้คนๆนั้นเดินตามออกมา และเขาก็ตามมาจริง ๆ ฉันจ้ำอ้างเดินออกมาให้พ้นจากร้านพิซซ่าและผ่อนฝีเท้าเมื่อถึงปากทางแยกเข้าห้องน้ำ
''ไอรีน'' เขาฉุดแขนฉันไว้
''ฉันไม่ได้จะหนีนาย แค่เดินมาให้พ้นจากหน้าร้านพิซซ่าเท่าันั้น''
''หมอนั่นเป็นใคร''
ฮาร์ชถามฉันด้วยน้ำเสียงเญ้นเยียบประดุจน้ำแข็งขั้วโลก นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มจ้องลึกเข้ามาในดวงตาฉันอย่างคาดคั้นวางอำนาจ เขาเป็นคนที่ต้องการสิ่งใดแล้วต้องได้ ภายนอกดูท่าทางเย็นชา แต่หากโมโหเดือดขึ้นมาเมื่อไหร่ก็สามารถกลายเป็นคนที่เลือดร้อนดุจเปลวเพลิง รูปลักษณ์ของเขาเป็นที่หลงใหลของสาว ๆ ด้วยส่วนสูงร้อยแปดสิบเซ็นติเมตร ใบหน้าคมเข้มติดจะโหดเถื่อน เส้นผมตัดสไตล์สีดำสนิท นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มคมกริบดุจหมาป่านักล่าที่จ้องจะตะปบเหยื่อ จมูกโด่งเป็นสัน และริมฝีปากที่สาว ๆ โหวตว่าอยากจะจูบด้วยที่สุด
เราเป็นเพื่อนกันตั้งแต่ ม.ต้น ฉันรู้เรื่องส่วนตัวของเขาแทบทุกเรื่อง แต่ไม่เคยคาดเดาความคิดของฮาร์ชได้เลย และไม่เข้าใจว่าเห็นดีอะไรในตัวโรสถึงได้ตอบตกลงคบกับยัยหนามแหลมนั่นเมื่อ สามเดือนก่อน ซึ่งโรสเป็นฝ่ายสารภาพฮาร์ช
''เฟริส์คิส เชส เดอลอซเช่''
''มิน่า ถึงคุ้นหน้า ที่แท้ก็เป็นพวกเดอลอซเช่''
เขาย่อมคุ้นหน้าเฟริส์เป็นธรรมดาเพราะเดอลอซเช่เป็นคนดัง - -อีกอย่าง..พวกเดอลอซเช่กฌยังโด่งดังในหมู่สาว ๆ ที่คลั่งไคล้หนุ่มรูปงาน
''แล้วเธอมากับเขาได้ไง''
''ฉันมาซื้อของ เคนะ??''
''อืม ๆ... กลับบ้านเร็ว ๆ ล่ะ ฉันไปละ''
''อ่า...บับบาย..''ฉันโบกมือและยิ้มให้ฮาร์ชที่เดินจากไป ยัยโรสก็เดินมาหาฉัน แล้วจู่ ๆ ก็เข้ามาถามฉัน - -
''ไอรีน เธอคิดว่าฉันควรบอกเลิกฮาร์ชหรือเปล่า??''
''เธอบอกเลิกฮาร์ชไม่ได้นะ!!''
''ทำไมล่ะ - -''
เพราะฉันไม่อยากให้ฮาร์ชเจ็บปวด หากฮาร์ชถูกทรยศหักหลัง เขาก็จะปิดประตูหัวใจไม่รักใครอีกต่อไป ซึ่งมันเป็นเหตุผลที่โรสจะไม่รับฟังงั้นจะเอาอะไรมาอ้างล่ะ ไอรีน ๆ คิด ๆๆ จริงสิ มีอยู่วิธีหนึ่งที่สารมารถหยุดยั้งไม่ให้โรสบอกเลิกฮาร์ชได้
''มันจะเป็นการบอกเลิกที่เปล่าประโยชน์ เพราะฉันตั้งใจจะพิชิตหัวใจของเฟริส์ระหว่างที่อาศัยอยู่ใต้ชายคาเดียวกับเขา ฉันมีโอกาศได้ใกล้ชิดกับเฟริส์มากกว่าเธอเป็นไหน ๆ ฉันจะทำทุกวิถีทางเพื่อครอบครองหัวใจของเฟริส์ ฉะนั้นฉันขอแนะนำด้วยความหวังดีว่าอย่าบอกเลิกฮาร์ชเลย ไม่เช่นนั้นเธออาจกลายเป็นคนไร้คู่ในวันวาเลนไทน์ปีหน้า ในขณะที่ฉันกลายเป็นหญิงสาวผู้โชคดีที่คนทั้งร.รต่างอิจฉา *0*''
''ฉันไม่เชื่อว่าเฟริส์จะเลือกเธอ เธอมันก็แค่หน้าตาสวย แต่ฉันทั้งสวย ทั้งมีเสน่ห์ ใครๆ ก็ตกหลุมรักได้ทั้งนั้น ไม่เว้นแม้กระทั่งฮาร์ชที่ขึ้นชื่อว่าตกหลุมรักเลดี้ง่ายที่สุด''
''เดี๋ยวเธอก็ได้รู้ ช่วงวันหยุดปีใหม่นี้ฉันจะไปเที่ยวพัทยากับพวกเฟริส์ และเพื่อน ๆ และเธอก็ไม่เกี่ยวเลย และฉันจะใช้บรรยายกาศโรแมนติกของทะเลพิชิตหัวใจเฟริส์มาครอบครองให้ได้!''
''หึ แล้วฉันจะรอดูความล้มเหลวของเธอ ตอนนี้ฉันจะชะลอการบอกเลิกฮาร์ชไว้ก่อน รอให้เธอหน้าแตกกลับมาจากทะเล แล้วฉันค่อยบอกเลิกฮาร์ชทีหลัง'' โรสหมุนกายเดินจากไป ฉันจึงรีบพูดเตือนหล่อน
''เฮ้!! ทางที่ดีเธออย่ากลับไปที่ร้านพิซซ่าจะดีกว่านะ เพราะเฟริส์รอฉันอยู่ที่นั่น ขอแนะนำให้โทรเรียกฮาร์ชไปที่อื่น ไม่อย่างนั้นความแตกแน่ว่าเธอกำลังคบกับฮารฺ์ชอยู่ - -*''
''น่าแปลกใจที่เธอไม่แฉเรื่องความลับของฉัน แต่กลับกลัวว่าความจะแตก.. หรือว่าเธอแคร์ความรู้สึกของฮารฺ์ชถึงได้ห้ามไม่ให้ฉันบอกเลิกเขา'' โรสอ่านใจฉันได้ทะลุโปร่ง
''เหอะ ๆ - -''
''เป็นคนดีจังนะ แต่ความดีชนะใจผู้ชายไม่ได้หรอกนะ ต้องใช้เสน่ห์มารยาหญิงเท่านั้น ซึ่งดูท่าว่าเธอคงไม่มี''
''ใครว่าไม่มี! ฉันเป็นถึงนางแบบเลยนะเห้ย!! ถึงจะไม่ใช่เประเด็นนี้.. ฉันแค่ไม่งัดเสน่ห์ออกมาใช้ต่างหาก - -*''
''งั้นเหรอไว้ฉันจะรอดูผลงานของเธอละกัน บาย'' โรสเดินยิ้มเยาะจากไป
ฉันไม่รู้ว่าจะหาเรื่องใส่ตัวได้หรือเปล่า อีกทั้งไม่มั่นใจว่าะพิชิตหัวใจเฟริส์สำเร็จมั้ย แต่ในเมื่อตัดสินใจว่าจะปดป้องความรู้สึกของฮาร์ชก็ต้องทุ่มสุดตัวว่าแต่ฉันจะพิชิตใจเฟริส์ด้วยวิธีไหน ฉันหว่านเสน่ห์ไม่เป็น ยั่วผู้ชายก็ไม่เป็น แถมเฟริส์ก็กวนประสาทเกินกว่าจะทำใจหว่านเสน่ห์ลงภารกิจนี้บอกได้คำเดียวว่า "หิน!!''
คณะที่ฉันกำลังนอนหลับอยู่ในห้องโดยไม่คิดที่จะตื่น สักพักฉันรู้สึกเหมือนมีใครมาดึงขา O[]O ระ..หรือว่าจะเป็นผี ที่เจ้าเอลกับคิดส์จับฉันมัดแล้วนั่งดูบ่อย ๆ ที่ ผู้ชายถูกแฟนที่ตายไปแล้วมาล้างแค้น แล้วมาเขย่าขา TOT ฉันไม่กล้าที่จะลืมตา ฉันเลยสะบัดขาแล้วพลิกตัวหนี สักพักฉันรู้สึกเหมือนเตียงยุบจากล่างสุด ค่อย ๆ ยุบขึ้นมาจนถึงระดับเอวฉัน ตายๆ! ผีมันคงคลานขึ้นมาแล้ว!!! ฉันนับ 1 ถึง 3 ในใจแล้วต้องลืมตา ๆ! ลืมตามาดูโลก กรี๊ดด! TOT ไอรีน ๆ ตั้งสติไว้ มันความฝัน - -** เตียงหยุดยุบ แต่มันมายุบตรงกลางหลังฉัน ผีโรคจิตหรืือเปล่าวะเนี่ย =_= ฉันตัดสินใจนับ 1 ถึง 3... 1... 2...
''สาม!!!'' ฉันโพล่งตะโกนสามออกไป พร้อมลืมตาแล้วยันตัวลุกอย่างเร็ว แต่ที่ฉันตกใจที่สุด เมื่อฉันยันตัวลุก เหมือนหน้าผากฉันถูกแนบกับปากใครสักคน ฉันกระพริบตาแล้วสังเกตุว่าอะไรอยู่หน้า ฉันมองเห็น คาง กับ คอของผู้ชาย ผู้ชาย ๆ แน่ เพราะมีกลิ่นเลออนอ่อน ๆ ติดตัวอยู่ ซึง... มีแค่คนเดียวที่ใช้มัน...อีตาเฟริส์!!
''เฮ้ยย ย!!'' ฉันถีบอีตาเฟริส์กระเด็นออกจากเตียงอย่างรวดเร็ว
''ใจเย็น ๆสิ - -'' เฟริส์เบี่ยงตัวหลบแล้วจับขาฉันไว้ ฉันนิ่งอย่างพักนึง
''ไอ้เฟริส์!! นายเข้ามาทำอะไรในห้องฉัน ไอ้โรคจิต!!'' ฉันโวยวายลั่น
''ก็ฉันเคาะประตูปลุกเธอ แล้วเธอไม่ยอมตื่น - -''
ฉันคงกลับสนิทมากจนไม่ได้ยินเสียงเคาะประตูของเฟริส์สินะ - -
''นายก็เขย่าฉันก็....''
ฉันยังพูดไม่เต็มคำเฟริส์ก็เอาขนมปังยัดปากฉัน แล้วยันตัวลุกออกจากที่นอน พร้อมพูดว่า
''ไม่ต้องพูดมาก รีบไปเเต่งตัวได้แล้ว วันนี้เธอต้องออกไปซื้อของกับฉันจำไม่ได้หรือไง - -''
เออเนอะ - - ฉันคาบขนมปังพร้อมมองเฟริส์กระพริบตาปริบ ๆ เฟริส์ยักไหล่แล้วเดินออกจากห้องฉันไปในที่สุด ฉันเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวแล้วเดินเข้าห้องน้ำ ฉันมองตัวเองในกระจกเกือบนาที แล้วเลื่อนมือขึ้นไปจับหน้าผากตัวเอง ฉันเริ่มคิดอะไรนิดๆ หน่อย ๆ ไม่ๆๆ มันก็แค่ริมฝีปากของคนโรคจิต - -* ฉันสะบัดหน้า แล้วอาบน้ำได้สัก 15 นาที ฉันเลือกใส่ เสื้อกางเกงติดกัน คู่กับรองเท้าส้นเตารีดที่ไม่สูงมากนัก พร้อมรวบผมแล้วมัดหางม้า พร้อมใส่กำไรข้อมือดอกโบว์ตั๋นสีดำไว้ข้อมือด้านขวา หลังจากเตรียมตัวเสร็จ ฉันเดินลงไปหาเฟริส์ที่ยืนอยู่ริมสระว่ายน้ำ ฉันอยากจะเดินไปเตะมหอนั่นตกน้ำสักปาบ แต่ฉันคงต้องตกลงไปเองแน่ ๆ - -''
30 นาทีต่อมา เรามาถึงห้าง C คนขับรถของตระกูลเดอลอซเช่ขับรถมาส่งฉันกับเฟริส์พร้อมทั้งรอกลับ เฟริส์ชวนฉันเข้าซูเปอร์มาร์เก็ตเพื่อซื้อของใช้กับของกินสำหรับไปเที่ยว เขาหยิบครีมกันแดดหลายขวดใส่รถเข็น (ซื้อเผื่อพี่น้องด้วย - -) หยิบขนมที่เขา-พี่น้องชอบ และ เครื่อมดื่มมาใส่รถเข็นจนเต็มคัน
''ไปเที่ยวคราวนี้ฉันมีเธอเป็นเพื่อนแล้ว'' เขนหันมายิ้มสดใสให้ฉัน
''เธอชอบอะไรก็หยิบมาใส่รถเข็นสิ''
ฉันหยิบน้ำผลไม้หนึ่งแพ็กกับเลย์รสพิซซ่าหนึ่งถุงใส่รถเข็น
''ซื้อแค่นี้พอที่ไหน เราไปกันตั้งสามวัน ขืนเธอเอาไปแค่นี้แล้วหมดภายในวันเดียว แล้วเธอมาขอฉันกินทำยังไง - -'' ว่าแล้วเฟริส์ก็หยิบน้ำผลไม้เพิ่มอีก 5 แพ็กและเลย์อีกหลายถุง
ซื้อของเสร็จเฟริส์พาฉันเอาของไปเก็บไว้ที่รถก่อน ต่อจากนั้นเขาก็ลากฉันมาที่แผนเสื้อผ้าสตรี เฟริส์เลือกหมวกปีกกว้างสีขาว คาดโบวฺสีชมพูมาลองสวมให้ฉัน
''ใบนี้ดูเข้ากับเธอ ใส่ถ่ายรูปออกมาสวยแน่ ๆ ตกลงเอาใบนี้นะ''
''อืม...''เสียงฉันแผ่วเบาเหมือนใจไม่ได้อยู่ที่หมวก แต่ไปอยู่ที่อื่นแทน ฉันรู้สึกว่าลมหายใจสะดุดค้าวเมื่อเฟริส์มายืนซ้อนอยู่ข้างหลังและมองฉันผ่านทางกระจก
เฟริส์ยังคะยั้นคะยอให้ฉันเลือกซื้อเสื้อผ้าสำหรับไปเที่ยวทะเบเพิ่ทอีก ฉันจึงเลือกแม็กซี่เดรสที่กระโปรงยาวประมาณเข้ามาสองชุดกับเสื้อกันหนาวไหมพรมสีครีมไว้ใส่เผื่อหนาวด้วย ตอนคิดเงินฉันตั้งใจว่าจะจ่ายเองเพราะมีแต่เสื้อผ้าของฉันทั้งนั้น แต่เฟริส์ดึงบัตรเครดิตจากกระเป๋าสตางค์แล้วยื่นให้พนักงานขายตัดหน้าฉัน
''นายจ่ายค่าของซูเปอร์มาร์เก็ตแล้ว ค่าเสื้อผ้าน่าจะให้ฉันเป็นคนจ่ายเองนะ''
''ไว้เดี๋ยวเธอค่อยเลี้ยงข้าวเที่ยงฉันละกัน ว่าแต่เธอไม่เปลี่ยนใจซื้อบิกินีจริงๆ เหรอ'' เฟริส์หลิ่วตาไปทางราวแขวนชุดว่ายน้ำ เหอะ ๆ ฝันไปเถอะ
''ไม่เปลี่ยนใจย่ะ!''
ฉันค้อนใส่เขา แล้วเฟริส์ก็หัวเราะเบา ๆ เขาช่างเป็นคนที่แสนกวนอย่างที่สุด แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ารอยยิ้มทะเล้นและเสียงสดใสนั้นทำให้เขาดูมีเสน่ห์อย่างเหลือล้น
หลังจากซื้อของเสร็จ ฉันก็ให้เฟริส์เป็นคนเลือกว่าอยากกินอะไรเป็นมือเที่ยง เขาบอกว่าอยากกินพิซซ่า เขาบอกว่าจะซื้อให้ป๊อกเด้ง ป๊อกกี้ ลูกหมาสุดที่รักของเขา - -เราจึงไปที่ร้านพิซซ่ากัน เขาสั่งพิซซ่าหน้าซีฟู้ด ส่วนฉันสั่งสปาเดตตี้กุ้ง*0* ระหว่างที่รออาหารเขาก็ชวนคุยเรื่อยเปื่อย ผู้ชายคนนี้ช่างมีพรสวรรค์ด้านชวนคุยจริง ๆ คิดว่าวัน ๆ เอาแต่ทำงาน หักอกเลดี้ซะอีก เหอะ ๆ จู่ ๆ ไม่รู้ทำไมฉันรู้สึกเหมือนมีคนมองฉันอยู่ตลอดเวลา ฉันกวาดสายตามองไปรอบ ๆ แล้วเลื่อนไปสบกัยดวงตาที่แสนคุ้นที่จ้องกลับมาคนๆนั้นนั่งอยู่ตรงมุมร้านห่างจากโต๊ะของฉันไปหลายแถว
''เธอมองอะไรเหรอ''
เฟริส์หันไปมองตาม ฉันเลยหยิบเมดูแล้วฟาดหน้าเฟริส์เบา ๆ
''มองไม่ได้นะ นายห้ามมอง - -''
''บอกดี ๆ ก็ได้ - -*''
ฉันชวนเฟริส์คุยเรื่องอื่นเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ แต่ฉันก็ไม่วายมองไปทางมุมร้านเป็นพัก ๆ คนๆนั้นยังคงจับจ้องมาที่ฉันโดยไม่ละลายสายตาไปไหน จะมองอะไรนักหนาฟะ - -*
''เธอไม่กินพิซซ่าเหรอ?''
''นายกินไปเต๊อะ - -''
เพราะฉันหมดความอยากอาหารโดยสิ้นเชิง
''ฉันกินหมดถาดคนเดียวไม่ไหวหรอก อ่ะนี่ ลองชิมหน่อย'' เขาหยิบชิ้นพิซซ่ามาจ่อที่ปากฉัน พอเห็นฉันนิ่งเขาก็คะยั้นคะยอ
''ลองสักคำแล้วจะติดใจ น่านะ!''
ช่างตื้อจริง ๆ เลยหมอนี่ ฉันตัดคำรำคาญด้วยการอ้าปากกัดพิซซ่าคำหนึ่ง
''อร่อยใช่มั้ย?''
''อืม''
''งั้นกินเยอะ ๆ จะได้โตไว ๆ นะเบบี๋''
''บอกกี่ครั้งแล้วว่าอยากเรียกฉันว่าเบบี๋''
''ก็ฉันเป็นพี่เลี้่ยงเํธอนี่เบบี๋''
จากหางตาฉันเห็นคนๆนั้นลุกเดินตรงมาทางนี้ หรือว่าเขาจะมาหาฉัน ลางสังหรณ์ของฉันเตือนว่าอย่าให้เขาทำความรู้จักกับเฟริส์เลยจะดีกว่า ฉันรีบลุกพรวดขึ้น
''ขอตัวไปเข้าห้องน้ำแป๊ปเด้อ*0*''
''อือ เธอจะสั่งอะไรมั้ย ฉันจะได้สั่งไว้ให้''
''ไม่ๆ ฉันอิ่มแล้ว''
''อิ่มอะไร เธอกินไปนิดเดียวเองนะ - -''
คนๆนั้นเดินเข้ามาใกล้แล้ว เป้าหมายของเขาชัดเจนว่ากำลังเดินตรงมาหาฉัน
''งั้นเดี๋ยวฉันกลับมากินพิซซ่าต่อนะ!!''
ฉันรีบตัดบทแล้วเผ่นออกจากร้านล่อให้คนๆนั้นเดินตามออกมา และเขาก็ตามมาจริง ๆ ฉันจ้ำอ้างเดินออกมาให้พ้นจากร้านพิซซ่าและผ่อนฝีเท้าเมื่อถึงปากทางแยกเข้าห้องน้ำ
''ไอรีน'' เขาฉุดแขนฉันไว้
''ฉันไม่ได้จะหนีนาย แค่เดินมาให้พ้นจากหน้าร้านพิซซ่าเท่าันั้น''
''หมอนั่นเป็นใคร''
ฮาร์ชถามฉันด้วยน้ำเสียงเญ้นเยียบประดุจน้ำแข็งขั้วโลก นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มจ้องลึกเข้ามาในดวงตาฉันอย่างคาดคั้นวางอำนาจ เขาเป็นคนที่ต้องการสิ่งใดแล้วต้องได้ ภายนอกดูท่าทางเย็นชา แต่หากโมโหเดือดขึ้นมาเมื่อไหร่ก็สามารถกลายเป็นคนที่เลือดร้อนดุจเปลวเพลิง รูปลักษณ์ของเขาเป็นที่หลงใหลของสาว ๆ ด้วยส่วนสูงร้อยแปดสิบเซ็นติเมตร ใบหน้าคมเข้มติดจะโหดเถื่อน เส้นผมตัดสไตล์สีดำสนิท นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มคมกริบดุจหมาป่านักล่าที่จ้องจะตะปบเหยื่อ จมูกโด่งเป็นสัน และริมฝีปากที่สาว ๆ โหวตว่าอยากจะจูบด้วยที่สุด
เราเป็นเพื่อนกันตั้งแต่ ม.ต้น ฉันรู้เรื่องส่วนตัวของเขาแทบทุกเรื่อง แต่ไม่เคยคาดเดาความคิดของฮาร์ชได้เลย และไม่เข้าใจว่าเห็นดีอะไรในตัวโรสถึงได้ตอบตกลงคบกับยัยหนามแหลมนั่นเมื่อ สามเดือนก่อน ซึ่งโรสเป็นฝ่ายสารภาพฮาร์ช
''เฟริส์คิส เชส เดอลอซเช่''
''มิน่า ถึงคุ้นหน้า ที่แท้ก็เป็นพวกเดอลอซเช่''
เขาย่อมคุ้นหน้าเฟริส์เป็นธรรมดาเพราะเดอลอซเช่เป็นคนดัง - -อีกอย่าง..พวกเดอลอซเช่กฌยังโด่งดังในหมู่สาว ๆ ที่คลั่งไคล้หนุ่มรูปงาน
''แล้วเธอมากับเขาได้ไง''
''ฉันมาซื้อของ เคนะ??''
''อืม ๆ... กลับบ้านเร็ว ๆ ล่ะ ฉันไปละ''
''อ่า...บับบาย..''ฉันโบกมือและยิ้มให้ฮาร์ชที่เดินจากไป ยัยโรสก็เดินมาหาฉัน แล้วจู่ ๆ ก็เข้ามาถามฉัน - -
''ไอรีน เธอคิดว่าฉันควรบอกเลิกฮาร์ชหรือเปล่า??''
''เธอบอกเลิกฮาร์ชไม่ได้นะ!!''
''ทำไมล่ะ - -''
เพราะฉันไม่อยากให้ฮาร์ชเจ็บปวด หากฮาร์ชถูกทรยศหักหลัง เขาก็จะปิดประตูหัวใจไม่รักใครอีกต่อไป ซึ่งมันเป็นเหตุผลที่โรสจะไม่รับฟังงั้นจะเอาอะไรมาอ้างล่ะ ไอรีน ๆ คิด ๆๆ จริงสิ มีอยู่วิธีหนึ่งที่สารมารถหยุดยั้งไม่ให้โรสบอกเลิกฮาร์ชได้
''มันจะเป็นการบอกเลิกที่เปล่าประโยชน์ เพราะฉันตั้งใจจะพิชิตหัวใจของเฟริส์ระหว่างที่อาศัยอยู่ใต้ชายคาเดียวกับเขา ฉันมีโอกาศได้ใกล้ชิดกับเฟริส์มากกว่าเธอเป็นไหน ๆ ฉันจะทำทุกวิถีทางเพื่อครอบครองหัวใจของเฟริส์ ฉะนั้นฉันขอแนะนำด้วยความหวังดีว่าอย่าบอกเลิกฮาร์ชเลย ไม่เช่นนั้นเธออาจกลายเป็นคนไร้คู่ในวันวาเลนไทน์ปีหน้า ในขณะที่ฉันกลายเป็นหญิงสาวผู้โชคดีที่คนทั้งร.รต่างอิจฉา *0*''
''ฉันไม่เชื่อว่าเฟริส์จะเลือกเธอ เธอมันก็แค่หน้าตาสวย แต่ฉันทั้งสวย ทั้งมีเสน่ห์ ใครๆ ก็ตกหลุมรักได้ทั้งนั้น ไม่เว้นแม้กระทั่งฮาร์ชที่ขึ้นชื่อว่าตกหลุมรักเลดี้ง่ายที่สุด''
''เดี๋ยวเธอก็ได้รู้ ช่วงวันหยุดปีใหม่นี้ฉันจะไปเที่ยวพัทยากับพวกเฟริส์ และเพื่อน ๆ และเธอก็ไม่เกี่ยวเลย และฉันจะใช้บรรยายกาศโรแมนติกของทะเลพิชิตหัวใจเฟริส์มาครอบครองให้ได้!''
''หึ แล้วฉันจะรอดูความล้มเหลวของเธอ ตอนนี้ฉันจะชะลอการบอกเลิกฮาร์ชไว้ก่อน รอให้เธอหน้าแตกกลับมาจากทะเล แล้วฉันค่อยบอกเลิกฮาร์ชทีหลัง'' โรสหมุนกายเดินจากไป ฉันจึงรีบพูดเตือนหล่อน
''เฮ้!! ทางที่ดีเธออย่ากลับไปที่ร้านพิซซ่าจะดีกว่านะ เพราะเฟริส์รอฉันอยู่ที่นั่น ขอแนะนำให้โทรเรียกฮาร์ชไปที่อื่น ไม่อย่างนั้นความแตกแน่ว่าเธอกำลังคบกับฮารฺ์ชอยู่ - -*''
''น่าแปลกใจที่เธอไม่แฉเรื่องความลับของฉัน แต่กลับกลัวว่าความจะแตก.. หรือว่าเธอแคร์ความรู้สึกของฮารฺ์ชถึงได้ห้ามไม่ให้ฉันบอกเลิกเขา'' โรสอ่านใจฉันได้ทะลุโปร่ง
''เหอะ ๆ - -''
''เป็นคนดีจังนะ แต่ความดีชนะใจผู้ชายไม่ได้หรอกนะ ต้องใช้เสน่ห์มารยาหญิงเท่านั้น ซึ่งดูท่าว่าเธอคงไม่มี''
''ใครว่าไม่มี! ฉันเป็นถึงนางแบบเลยนะเห้ย!! ถึงจะไม่ใช่เประเด็นนี้.. ฉันแค่ไม่งัดเสน่ห์ออกมาใช้ต่างหาก - -*''
''งั้นเหรอไว้ฉันจะรอดูผลงานของเธอละกัน บาย'' โรสเดินยิ้มเยาะจากไป
ฉันไม่รู้ว่าจะหาเรื่องใส่ตัวได้หรือเปล่า อีกทั้งไม่มั่นใจว่าะพิชิตหัวใจเฟริส์สำเร็จมั้ย แต่ในเมื่อตัดสินใจว่าจะปดป้องความรู้สึกของฮาร์ชก็ต้องทุ่มสุดตัวว่าแต่ฉันจะพิชิตใจเฟริส์ด้วยวิธีไหน ฉันหว่านเสน่ห์ไม่เป็น ยั่วผู้ชายก็ไม่เป็น แถมเฟริส์ก็กวนประสาทเกินกว่าจะทำใจหว่านเสน่ห์ลงภารกิจนี้บอกได้คำเดียวว่า "หิน!!''
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ