พ่ายรัก
เขียนโดย กวางตุ้ง
วันที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2556 เวลา 19.59 น.
แก้ไขเมื่อ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2556 22.44 น. โดย เจ้าของนิยาย
5) พ่ายรัก5
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
“อ้าว วันนี้ไม่กลับคอนโดกับพี่เหรอรัก” ฬีรนันท์ ถามน้องสาวที่ยังนั่งดูทีวี มือก็หยิบขนมเข้าปาก
“ไม่อะค่ะพี่ฬี อีก2อาทิตย์รักมีสอบ จะจบปี3ละ อีกปีเดียว ว่าจะอ่านหนังสือที่บ้านนี่แหละค่ะ อยู่ห้องโน่นเดี๋ยวเหงาตาย พี่ฬีก็ไปทำงานอีก อยู่นี่ดีกว่ามีของกินอร่อยๆให้กินตลอด” รักษณาตอบพี่สาว
“ย่ะ แม่คุณ ก็อ่านหนังสือซะด้วยนะ เออ พี่ถามหน่อยสิ คุยอะไรกับนายกลางไว้ ก็พรุ่งนี้หมอนั่นจะเข้าไปหาพี่ บอกจะคุยเรื่องรัก” ฬีรนันท์เดินมานั่งข้างๆ
“อืม เรื่องอะไรเหรอคะ รักก็ไม่รู้สิ ไม่เห็นพี่กลางเขาจะว่าอะไรนี่ เอ๊ะ!!หรือว่า” รักษณานึกขึ้นมาได้ถึงเรื่องที่กวินพูดกับเธอในร้านเมื่อคืนก่อน
“หืม เรื่องอะไรเหรอ” ฬีรนันท์เลิกคิ้ว ทำไมน้องเธอต้องทำหน้าตกใจขนาดนั้น
“รักไม่รู้นะพี่ฬี ว่าใช่หรือเปล่า แต่เห็นพี่กลางเขาว่าอยากขอหมั้นรักอะ ก็ไม่รู้พี่เขาพูดเล่นหรือยังไง แต่รักปัดให้ไปบอกกับพี่ฬีอ่ะ ไม่คิดว่าพี่กลางเขาจะเอาจริง แต่มันก็อาจจะไม่ใช่ก็ได้นะ”
“อือ แล้วรักล่ะ อยากหมั้นไว้ก่อนไหม ตอนนี้ก็คบกันอยู่แล้วนี่”ฬีรนันท์ลองหยั่งเชิงน้องสาว อยากรู้ว่าคิดอย่างไร
“ไม่หรอกค่ะพี่ฬี ให้รักเรียนจบก่อนดีกว่าค่อยคิดเรื่องแบบนี้ รักจะเอาอย่างพี่ฬี ทำงานเลี้ยงตัวเองก่อน ชีวิตคู่ค่อยว่ากันทีหลัง” รักษณายิ้มอย่างจริงใจ เธอคิดแบบนั้นจริงๆ อยากทำงานก่อน เลี้ยงตัวเองให้ได้ ศึกษากันไปสักพักก่อน ถ้าเกิดอะไรขึ้น จะได้ไม่เสียใจภายหลัง ที่ตัดสินใจเร็วเกินไป
“ก็ดี เพราะถ้านายกลางมาคุยเรื่องนี้ พี่จะได้ให้คำตอบเขาได้ถูก ว่าแต่เราไปทำอะไรให้เขาอยากจะตีตราจองเราปะหนะ” เจอสายตาคาดคั้นปนขำจากพี่สาวรักษณาถึงกับทำอะไรไม่ถูก เธอไม่ได้คิดถึงเหตุการณ์ที่ตัวเองทำ แต่คิดถึงเหตุการณ์หลังจากนั้นต่างหาก
“ไม่มีอะไรมากหรอกค่ะ ก็ที่ไปเที่ยวกันรักไปเต้นกับแตงโม นานไปหน่อยมั้งคะ”
“น้องพี่มีคนหวงเพิ่มแล้วละสิ ท่าทางจะมากกว่าพวกพี่อีกนะเนี่ย พี่ว่าจะไปหาแตงโม พี่ลืมเลย”
“เดี๋ยวรักว่าจะไปหาลุงเกียรติกับแตงโมพอดี พี่ฬีจะไปกับรักก่อนไหม แล้วค่อยกลับ” รักษณาว่าจะไปถามภัครมนต์ซะหน่อยว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมทั้งรัทธชัยและภัครมนต์ถึงมีท่าทีแปลกๆทั้งคู่
“ไม่ละจ้ะ งั้นเดี๋ยวพี่กลับก่อนละ มีอะไรก็โทรหาพี่นะ” ฬีรนันท์คว้ากระเป๋ากับกุญแจรถแล้วก็เดินออกไปทันที
“เป็นอะไร เห็นเด็กมาบอกว่าแกอยากพบพี่” ศรัณย์ เกรียงไกรเดชเดินออกมาจากห้องทำงาน
“จะว่าไงดีละพี่รัณ คือผมมีเรื่องอยากปรึกษานะพี่ แต่ไม่รู้จะเริ่มยังไง” กวิน ลูกพี่ลูกน้องของศรัณย์ ที่ดูแลบริหารโรงแรมและรีสอร์ทในเครือ ST หรืออีกชื่อคือ สายธาร ชื่อของย่าของพวกเขา ที่ถูกส่งต่อมารุ่นต่อรุ่น คุณปู่คุณย่า สร้างมันขึ้นมา คุณพ่อคุณแม่ของเขาและของกวินเป็นผู้สานต่อ จนตอนนี้พวกเขาเป็นผู้สืบทอด และขยายให้มันเติบโต ก้าวไกล กวินเข้ามารับตำแหน่งหลังจากเรียนจบปริญญาโทได้ไม่นานก็พาโรงแรมและรีสอร์ทในเครือST เติบโตเข้าสู่สากล
“เอ้า แกไม่เล่า แล้วพี่จะรู้ไหมเนี่ย” ศรัณย์ ขมวดคิ้ว อะไรที่มันทำให้ลูกพี่ลูกน้องเขาแลขาดความมั่นใจขนาดนี้
“คือ ผมอยากหมั้นกับผู้หญิงคนหนึ่งนะพี่ แต่มันติดปัญหาอยู่”
“ทำไม อาภาไม่ชอบแฟนแกหรอ คบมานานแล้วเหรอไงถึงอยากจะหาห่วงผูกคอ” ศรัณย์เป็นผู้ชายอีกคนหนึ่งที่หวงแหนความโสดมาก เขาไม่ค่อยเข้าใจกวินทำไมถึงอยากหาห่วงมาผูกคอ ผู้หญิงพวกชอบสร้างความวุ่นวาย น่ารำคาญ อ้อ ยกเว้นแม่เขา
“เปล่าหรอกครับ ม๊าเขายังไม่รู้ แต่คิดว่าไม่น่าจะมีปัญหา เพราะป๊า ม๊าแล้วก็พี่ใหญ่เคยเจอรักแล้วทั้งนั้น ก็ชอบเธอกันทุกคน”
“อ้าว ทางก็โล่งนี่ ติดอะไร”
“ปัญหามันอยู่ที่พี่ฬีพี่สาวของรักเขานะครับ ผมไม่แน่ใจจะอนุญาตหรือเปล่า คุยกับพี่สาวของรักนะ เครียดกว่าคุยกับพ่อแม่ของรักซะอีก”
“ขนาดนั้นเลยเหรอ พี่สาวของแฟนนายอายุเท่าไหร่นะ”
“ประมาณ28 แล้วมั้งครับ แต่พี่แก ไม่ค่อยจะยิ้มกับคนนอกนะ เคร่งขรึม แล้วก็ดุๆหน่อย คนละขั้วกับรักเลยล่ะครับ รักเขาจะยิ้มแย้ม อารมณ์ดี ขี้อ้อน”
“คงจะใส่แว่นหนาเตอะ เหมือนป้าแก่อะดิ เคร่งขรึม เครียดซะขนาดนั้น”
“ไม่นะพี่รัณ จะบอกว่ามาดป้าแก่ก็ไม่ใช่หรอก พี่ฬีแกสวย หุ่นดี ผิวขาว แค่แกเย็นชาไปหน่อย ถ้าเทียบกับรักนะตัวเล็กๆ ผิวขาวอมชมพู ผมสีน้ำตาลเป็นลอนเป็นนางฟ้า พี่ฬีคงเป็นแม่มดแต่คงเป็นแม่มดสมัยใหม่นะ ผมก็บอกไม่ถูกหรอกพี่รัณ แค่รู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างในใจ”
“เขากีดกันแกเหรอ หรือไม่ให้คบหรือไง” ชักสงสัย อะไรของมันวนไปวนมา งานการที่ว่ายากๆก็แก้ปัญหาได้ดีนี่นา แค่ผู้หญิงคนเดียว เห๊อะ!
“เปล่าหรอก ไม่ได้กีดกันอะไร แต่ก็ไม่ได้เปิดมากมาย ผมก็ไม่รู้ รู้แต่ว่าถ้าจะหมั้นกับรักให้ได้ ต้องให้พี่ฬีอนุญาต ไม่งั้นอย่าหวัง”
“ไหนแกบอกพ่อกับแม่เขาคุยง่ายกว่า แล้วทำไมไม่เข้าไปคุยกับพ่อแม่เขาละ”ศรัณย์ หาทางที่ง่ายกว่านั้น ถ้าคุยกับพี่มันยากก็คุยกับพ่อแม่เขาสะเลย
“ผมว่าถึงพ่อแม่เขาอนุญาตนะ ถ้าพี่ฬีบอกไม่ ก็ไม่มีทางหรอก”เขาถึงมานั่งกลุ้มยังงี้ไง ถ้ามันง่ายขนาดนั้น ทำไมเขาต้องมาชอบผู้หญิงที่มีพี่สาวขี้หวงด้วยนะเนี่ย
“แล้วเขาไม่มีแฟนหรือไง อายุเกือบจะเลข3 แล้วนี่”
“ไม่มีนะพี่ รักเล่าให้ฟังว่าเคยมี แต่ก็เลิกมานานแล้ว อืม จะ 5 ปีแล้วมั้งที่เลิก”
“เตรียมขึ้นคานเลย ถ้างั้น ฮ่าฮ่าฮ่า”
“ไปว่าเขา พี่รัณจะ35อยู่แล้วเป็นตัวเป็นตนก็ยังไม่มี คุณป้าเขาถึงได้เครียดอยู่ทุกวี่ทุกวัน กลัวไม่มีหลานสืบนามสกุลต่อ อย่าลืมนะพี่ เกรียงไกรเดช มีพี่เป็นทายาทคนเดียวนะ ลูกของพี่จะต้องสืบสกุลต่อ ของผมมันพรหมเทพ ไม่ได้สืบยาวเหมือนพี่นะ แต่ผมว่าพี่ฬีก็เหมาะกับพี่นะ คงทันกันน่าดู” อีกหนึ่งก็พยัคฆ์ร้าย อีกด้านก็แม่มด คงสนุกถ้าจับมาเจอกัน
“ไม่ต้องมาช่วยพี่หรอก แล้วเขาทำงานอะไร”
“ก็เป็นกรรมการผู้จัดการ บริษัทที่ทั้งออกแบบ แล้วก็ผลิตอัญมณี นะ รักเขาว่าพี่ฬีเริ่มจากการเป็นพนักงานธรรมดา ความสามารถล้วนๆเลยนะที่ก้าวไปถึงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการนะ”กวิน ยอมรับเลยฬีรนันท์เก่งจริงๆ อาจมีโอกาส และความโชคดีเข้ามามีส่วนบ้าง แต่ถ้าความสามารถไม่โดนตาจริงๆก็คงยาก
“อืม แล้วแกนัดคุยกับเขาเมื่อไหร่ล่ะ”
“พรุ่งนี้นะพี่ ว่าจะไปคุยที่ห้องทำงานพี่เขา เลยมานั่งกลุ้มอยู่นี่ไง”
“ก็ลองคุยตรงๆดูไปก่อน เขาว่ามายังไง ค่อยว่ากัน แต่ออกมาคุยข้างนอกดีกว่า คุยที่ทำงานมันถิ่นเขา ความรู้สึกมันจะโดนข่มแล้วมันจะพูดลำบาก เขาจะเหมือนมีอำนาจเหนือเรา นัดเที่ยงที่ร้านอาหารเงียบๆใกล้ที่ทำงานเขาดีกว่า” ศรัณย์ให้แง่คิดในมุมของการทำธุรกิจ บรรยากาศก็มีส่วน
“ก็ดีนะ ไปดูหน้าแม่มดกับผมไหมล่ะ พี่รัณ”
“ขอคิดดูก่อน ว่าจะสามารถปลีกเวลามาได้หรือเปล่า”
“ขอรับ ท่านประธานใหญ่ ขอบพระคุณมากครับที่สละเวลาให้ผมปรึกษา แล้วคุณป้ากับคุณลุงไปไหนละครับ ไม่เห็นเลย”
“ไปสวีทกับตามประสาคนแก่นะ เลี้ยงอาหารมูลนิธิเด็กที่คุณแม่เขาอุปการะอยู่นะ”
“ก็ลูกชายท่านไม่มีหลานให้เลี้ยงซะที ท่านเลยไปหาเด็กข้างนอกเลี้ยงแทน”
“เออ แกนั่นแหละ เอาตัวเองให้รอดเถอะ อยู่ทานข้าวด้วยกันก่อนไหมล่ะ อีกสักพักเด่วก็กลับกันมาแล้ว”
“ไม่ละพี่รัณ ม๊าเขาลงครัวทำกับข้าวเอง ยังไงวันนี้ต้องกลับไปทาน งั้นผมกลับก่อนนะพี่ หวังว่าพรุ่งนี้พี่คงปลีกเวลามาดูหน้าแม่มดได้นะ” กวินบอกพี่ชาย ก่อนเดินกลับบ้านของเขา พื้นที่ของตระกูลนี้ค่อนข้างกว้าง จึงสร้างบ้านให้อยู่ในละแวกเดียวกัน แต่ก็ห่างกันพอสมควรเพื่อความเป็นส่วนตัวของแต่ละหลังนั่นเอง
คำว่าแม่มดที่กวินพูดถึง ทำให้เขาจินตนาการถึงผู้หญิงในผับที่เขาเจอ สวย หุ่นดี และร้าย ที่สามารถทำให้เขานึกถึงเสมอตอนที่สมองว่าง อย่างเช่นเวลานี้ คำว่าแม่มดคงเหมาะกับเธอที่สุด เพราะคาถาที่เธอร่ายใส่เขา มันทำให้เขาคิดถึงเธอซะจริง แค่ริมฝีปากเบาๆกับรสชาติเหล้าหวานๆ แต่เขาอยากชิมริมฝีปากของแม่มดมากกว่าว่าจะหวานเหมือนเหล้าแก้วนั้นหรือเปล่า ‘ฬีรนันท์ค่ะ’
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ