Decisive wars สู่จุดเริ่มต้นของทุกสิ่ง

7.2

เขียนโดย CyCloEclipse

วันที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2556 เวลา 11.46 น.

  44 ตอน
  5 วิจารณ์
  49.88K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 22 กันยายน พ.ศ. 2556 20.52 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

3) สู่จุดเริ่มต้นของทุกสิ่ง

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

"ขอร้องล่ะ!! อย่าทำอะไรว่าที่ภรรยาของผมเลยนะ!! คุณมิรัน!!!"


ไม่น่าเชื่อว่าทันทีที่ฮิซาชิตะโกนคำนี้ออกไป สาวน้อยผมฟ้าที่กำลังล็อคแขนเขาอยู่ก็ปล่อยมือออกจากเขาทันที ท่าทีของเธอนั้นดูประหลาดใจมากที่อยู่ๆมีเด็กที่ไหนก็ไม่รู้มาสะกดรอยตามเธอไปทุกหนแห่ง ซ้ำเด็กคนนั้นยังรู้จักชื่อของเธออีกด้วย งานนี้ไม่ให้แปลกใจก็เวอร์แล้วล่ะ..!


"เธอ...รู้จักชื่อจริงฉันได้ยังไง..!"

มิรันทำหน้าเหวอใส่ฮิซาชิในร่างเด็กน้อยที่อยู่ตรงหน้า มันก็ไม่แปลกหรอกที่เธอจะรู้สึกอ้ำอึ้งทำอะไรไม่ถูก เพราะในสมัยของเธอนี้ มนุษย์ที่ชื่อโคริคาวะ ฮิซาชิยังไม่เกิดขึ้นมาเลยด้วยซ้ำ...



"ก็เมื่อ17ปีก่อน... คุณเป็นคนเข้ามาคุยกับผมเอง แถมยังขอร้องให้ผมช่วยดูแลน้องสาวของคุณให้อีก จำไม่ได้เหรอครับ!!"

"ห-หา..!?"

วิธีพูดของฮิซาชินั้นผิดเป็นอย่างมาก อันที่จริงเขาน่าจะรู้อยู่แล้วว่าช่วงเวลาที่เขาอยู่นี้เป็นเวลา27ปีก่อนที่ตัวเขายังไม่เกิดมาเลยด้วยซ้ำ แล้วมิรันจะไปรู้จักเขาได้ยังไง...



"ก็เมื่อ17ปีที่แล้ว คุณมิรันเดินเข้ามาหาผมที่กำลังเดินกลับบ้านให้ช่วยดูแลน้องสาวของคุณ ให้ผมช่วยดูแลยัยมิคาสะให้เติบโตไปในทางที่ถูกต้อง แถมคุณยังฝากให้ผมช่วยฉุดยัยชิบุกิ... ยัยสคริวล่ากลับขึ้นมาจากความมืดอีกด้วย คุณจะบอกว่าคุณจำไม่ได้เหรอครับ!"


ถึงจะงงๆและจับใจความของคำพูดที่ได้ฟังมาไม่ได้แม้แต่อย่างเดียว ถึงแม้ว่าเรื่องที่ฮิซาชิเล่าไปทั้งหมดนั้นจะเป็นจุดที่สามารถสร้างไม่เข้าใจของคนในสมัยก่อนที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับเรื่องราวพวกนั้นที่เกิดขึ้น มิรันก็พอที่จะเข้าใจความรู้สึกของเขาและพาเด็กคนนั้นไปยังบ้านของเธอเพื่อที่จะได้ฟังเรื่องที่เขาต้องการจะเล่าให้ฟังอย่างละเอียด


และเมื่อฮิซาชิเข้าไปในบ้านของเธอเรียบร้อยแล้ว เขาก็รู้สึกตื่นเต้นจนเนื้อสั่นไม่หยุด... ฮิซาชิไม่เคยนึกฝันมาก่อนเลยว่าที่แท้บ้านของมิรันนั้นต่อมาจะกลายเป็น "บ้านของเขาเอง" ในเวลาต่อมา



"ที่นี่...ไม่ได้เปลี่ยนไปเลยสักนิด"


ข้าวของเครื่องใช้ทุกอย่างภายในบ้านหลังนั้นยังคงตั้งอยู่ที่เดิมแม้ว่าฮิซาชิจะจากที่แห่งนี้มากว่าสองสัปดาห์แล้วก็ตาม... อันที่จริงแล้ว ข้าวของทุกอย่างในบ้านยังคงตั้งอยู่ที่เดิมแม้ว่าบ้านหลังนี้จะถูกส่งต่อให้ฮิซาชิจนถูกทำลายไปในการต่อสู้กับเหล่าไกอาในอีก27ปีต่อจากนี้ก็ตาม ทุกสิ่งในบ้านแห่งนี้ดูบางตาลงจากที่เขาคุ้นเคยมาก อาจจะเพราะในช่วงเวลานี้มีผู้อยู่อาศัยเพียงมิรันคนเดียวก็ได้...


แต่มิรันก็เริ่มกระบวนการสอบปากคำเด็กน้อยที่สามารถเรียกชื่อจริงของเธอได้ถูกต้องทันทีโดยไม่เปิดโอกาสให้เขาได้ขึ้นไปรำลึกความหลังที่ชั้นสอง เนื่องจากเธอรู้โดยสัญชาตญาณว่าหากปล่อยให้เขาขึ้นไปที่ชั้นบนละก็...กว่าจะได้สอบปากคำเขาก็อีกนาน!


ซึ่งฮิซาชิก็ให้ความร่วมมือกับเธอเป็นอย่างดี...



"ช่วงเวลาที่ผมจากมาคือในอีก27ปีต่อจากนี้... ระหว่างช่วงเวลาที่จะถึงนั้น บ้านนี้มีสมาชิกอยู่รวมทั้งหมด10คน แต่ละคนก็ก่อเรื่องหนวกหูกันไปตามลักษณะของตัวเอง ตอนนั้นพวกเราใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันอย่างสันติถึงต่างฝ่ายจะเป็นศัตรูกันก็เถอะ... แต่เพราะการเปิดฉากโจมตีของพวกที่พวกผมเรียกว่า"ผู้นำมาซึ่งความวิบัติ" พวกเราได้เข้าต่อสู้กับพวกมันอย่างสุดกำลัง แต่เพราะระดับพลังที่ต่างชั้นกันเกินไปทำให้สมาชิกในบ้านเริ่มลดลงทีละคนๆจนเหลือแค่ผมคนเดียว..."


เด็กชายที่รู้เหตุการณ์ที่เกี่ยวกับการต่อสู้ของseiriทุกอย่างในอนาคตอันห่างไกลได้เปิดปากเล่าทุกอย่างที่เขารู้ให้seiriที่เขารู้จักเป็นคนที่สองนับตั้งแต่ที่เขาได้รู้ความจริงเรื่องที่น้องสาวต่างสายเลือดของเขาคือหนึ่งในเหล่าseiriที่รอดชีวิตอยู่เพียงหยิบมือ...


"แล้ว...ในตอนนั้นฉันไปอยู่ไหนเหรอ ในสิบคนที่ว่านั่นมีฉันรวมอยู่ด้วยหรือเปล่า!?"


พอได้ยินคำถามย้อนของมิรันเข้า ฮิซาชิก็เริ่มมือสั่นด้วยความกลัวและความเศร้า เขาไม่ยอมพูดอะไรอีกเลยจนเวลาผ่านไปหลายนาที...

"ในตอนนั้น... เหล่าแองเจลอยด์...อควารอยด์...เทอร์รารอยด์...ถูกพวกมันฆ่าไปจนหมด ไม่เหลือแม้แต่คนเดียว..! รวมทั้งคุณด้วย... อันที่จริงคือ คุณตายไปตั้งแต่ก่อนที่จะเกิดสงครามนั่นซะอีก!"


"ทุกชีวิตบนโลกถูกพวกมันล้างเผ่าพันธุ์จนเกือบหมด แม้แต่ในเวลาที่ผมกำลังเล่าให้คุณฟังอยู่นี่... พวกมันก็กำลังสังหารเผ่าพันธุ์มนุษย์ไปเรื่อยๆไม่มีหยุด ต่อให้เอามนุษย์ทั้งโลกมานับรวมกันก็คงเหลือไม่ถึงสิบล้านคนด้วยซ้ำ..."


พอได้ฟังที่ฮิซาชิเล่ามาทั้งหมด มิรันก็เริ่มมีเสียงสะอื้นเล็กน้อยออกมาจากปากที่ปิดสนิทของเธอ สาวน้อยเอามือปิดปากเอาไว้แน่นราวกับไม่อยากให้ฮิซาชิเห็นริมฝีปากที่สั่นระรัวอันเป็นสิ่งที่พวกผู้หญิงเห็นเป็นสิ่งที่ไม่อยากให้ใครเห็นของเธอ


"โกหก..! โกหกกันใช่ไหม! ที่พูดมาทั้งหมดนั่นไม่จริงใช่ไหม..."

มิรันก้มหน้าลงไปร้องไห้อย่างช้าๆ น้ำใสๆที่ตาของเธอหยดลงใส่ไม้ปูพื้นจนแฉะไปหมด ฮิซาชิจึงกอดเธอเอาไว้ให้ร้องไห้ระบายเอาความรู้สึกด้านลบของเธอออกมาจนหมด
.
.
.
.



"แล้ว... ที่บอกว่าฉันฝากให้นายดูแลน้องสาวของฉันน่ะ... คนไหนเหรอ..!"

หลังจากผ่านไปราวชั่วโมงได้ จิตใจอันสั่นเทาของมิรันก็ค่อยๆสงบลงทีละนิดจนสามารถพูดได้เป็นปกติ เธอเริ่มถามย้อนในสิ่งที่ฮิซาชิพูดเอาไว้เมื่อเริ่มเรื่อง...


"นั่นสิครับ... เธอคนนั้นมีหน้าตาคล้ายกับคุณมากจนเหมือนกับเป็นฝาแฝดเลยล่ะ เพียงแต่เกิดหลังจากคุณเท่านั้นเอง..."

"จริงสิครับ! ผมยังไม่รู้อายุของคุณมิรันเลย... คุณอายุเท่าไหร่เหรอครับ"


ฮิซาชิเริ่มเปิดประเด็นถามกลับถึงสิ่งที่ผู้หญิงไม่อยากจะให้ผู้ชายรู้สักเท่าไหร่ แต่อาจจะเพราะในตอนนี้ร่างกายของฮิซาชิจะเป็นแค่เด็ก5ขวบเท่านั้นล่ะมั้ง...ที่ทำให้เธอยิ้มให้เป็นสัญญาณบอกว่าพร้อมจะตอบคำถามที่เป็นความลับที่สุดของผู้หญิงให้ผู้ชายตรงหน้าได้รู้


"เธออยากรู้จริงๆเหรอ... รู้แล้วหนาวแน่!"

ถึงตอนนี้ฮิซาชิก็กลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ อายุของพี่สาวของมิคาสะที่เขาต้องคุ้มครองนั้นจะเท่าไหร่กันนะ... อาจจะมากกว่าเขาในตอนนี้เกือบสองเท่าเลยก็ได้เพราะขนาดพวกมิคาสะหรือโยโซระจะมีอายุเพิ่มขึ้นจากตอนที่เจอกันครั้งแรกถึงห้าปีแล้วก็ยังมีร่างกายคงอยู่ที่สาวมัธยมปลายเท่านั้นเอง...

แต่แล้วคำตอบที่ฮิซาชิได้รับจากปากของมิรันเองนั้น...ได้ทำลายสามัญสำนึกที่เขามีไปจนหมดสิ้น!!



"อายุร่างมนุษย์ของฉันราวๆ14ขวบ... แต่ฉันเพิ่งจะเกิดมามีอายุแค่2ปีเท่านั้นเอง!"


มิรันยิ้มให้กับฮิซาชิอย่างแจ่มใส ทำให้เด็กชายตัวน้อยตรงหน้าเธออึ้งไปพักใหญ่ เขาไม่เคยคิดเลยว่ามิคาสะจะมีพี่สาวอายุห่างกันแค่8ปีเท่านั้น หรืออันที่จริงที่ฮิซาชิคิดอยู่... มิรันที่เขาพบกันครั้งแรกจนถึงครั้งสุดท้ายที่พวกเขาได้พบหน้ากันพร้อมหน้ากันนั้นมีรูปร่างเป็นสาวมัธยมปลายหรือเด็กเฟรชชี่ปีหนึ่งเท่านั้นเอง


"ทีนี้ตาฉันถามเธอบ้างล่ะนะ... ในอนาคตที่เธอมานี่ฉันมีน้องสาวด้วยเหรอ!?"

คราวนี้มิรันเป็นฝ่ายยิงคำถามใส่เด็กชายที่ได้ใช้สิทธิ์ในการถามคำถามเธอราวกับเป็นบทสัมภาษณ์ที่เปิดโอกาสให้ทั้งสองฝ่ายสลับกันถามได้ตามใจชอบ ซึ่งคราวนี้ได้ทำให้ฮิซาชิถึงกับใช้ความคิดอย่างเคร่งเครียด ก็เพราะ...


"เอ่อ... ถ้านับเท่าที่ผมรู้จักก็มีอยู่สามคนล่ะครับ มิคาสะคนนึง... ยูนะกับชิบุกิคงจะนับด้วยล่ะมั้ง!? แล้วอควารอยด์ที่โดนโยโซระฆ่าตายไปก่อนที่จะเข้ามาอาศัยด้วยกันก็นับด้วยล่ะมั้ง..."

"ชิบุกิ..?" มิรันเริ่มงงกับคำพูดของเขาขึ้นมาแล้ว แน่นอนว่าสาวน้อยที่ยังมีชีวิตอยู่ไม่ถึงสมัยของฮิซาชินั้นย่อมไม่มีวันรู้จักชิบุกิที่แม้แต่ฮิซาชิยังเพิ่งจะรู้จักมาได้ราวๆสองเดือนได้แน่ๆ


"ชื่อชิบุกิเป็นชื่อที่มิคาสะตั้งให้น่ะครับ... ชื่อจริงของยัยนั่นคือ "สคริวล่า"... ประมาณนี้ล่ะมั้ง"


ไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือเปล่า... แต่ฮิซาชิรู้สึกได้ว่ามิรันอึ้งไปแป๊บนึงหลังจากที่เขาพูดชื่อสคริวล่าออกมา อันที่จริง... มิรันรู้สึกแปลกใจมาตั้งแต่ที่ฮิซาชิบอกว่าเธอมีน้องสาวแล้ว!

และในตอนนั้นเอง ฮิซาชิก็นึกขึ้นได้ว่าเขามีสิ่งหนึ่งที่ต้องทำเมื่อเจอกับเธอ... เขาล้วงเอาอะไรบางอย่างในกระเป๋ากางเกงผ้าบางสีออกม่วงขึ้นมาให้สาวน้อยตรงหน้าได้ดู


"เจ้านี่มัน..."

มิรันรู้สึกสนใจกับสิ่งที่ฮิซาชิล้วงออกมาจากกระเป๋ากางเกงของเขา ถึงแม้ว่าเสื้อผ้าเดิมและของที่อยู่ข้างในนั้นตอนที่ฮิซาชิบินเข้าหลุมอากาศจนมาโผล่ที่นี่จะถูกเอาออกไปจนเกลี้ยงตอนเข้าโรงพยาบาล ฮิซาชิก็ยังไม่ลืมที่จะคว้ามันใส่กระเป๋ากางเกงของชุดผู้ป่วยก่อนที่จะหนีออกมาจากโรงพยาบาลแห่งนั้น


"ไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อนเลยแฮะ!"

"นี่คือแกนปีกของมิคาสะที่ผมพูดถึงตั้งแต่แรกน่ะ... ที่คุณมิรันจะไม่เคยเห็นก็ไม่แปลกเพราะยัยนั่นเกิดหลังจากตอนนี้ไปอีก5-6ปีได้"


ฮิซาชิพูดขึ้นระหว่างที่เดินไปหยิบน้ำจากตู้เย็นมาดื่มแก้กระหาย คอของเขาแห้งผากเพราะตั้งแต่ที่ฟื้นขึ้นมาที่โรงพยาบาลก็ไม่ได้ดื่มน้ำอื่นนอกจากเหงื่อตัวเองตอนที่วิ่งหนีนายแพทย์ที่พยายามจะพาเขาส่งต่อให้ฝ่ายจิตเวชรับผิดชอบต่อแม้แต่หยดเดียว


"ฉันไม่ได้หมายถึงอย่างนั้นหรอก... แต่ฉันไม่เคยเห็นแกนปีกลักษณะแบบนี้มาก่อนเลย"

มิรันเปรียบเปรยแกนปีกชิ้นนั้นขณะที่เธอยกมันขึ้นมาดู ถึงแม้ว่าการมองด้วยตาเปล่าของมนุษย์จะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นแกนปีกของใครหรือเป็นแกนปีกแบบไหน แต่แกนปีกของมิคาสะเป็นแค่แกนปีกคงรูปทั่วๆไปเท่านั้นเอง ซึ่งต่างจากของมิรันที่เป็นแกนปีกแปรรูปซึ่งมีความซับซ้อนยิ่งกว่า ซึ่งนั่นอาจจะทำให้มิรันรู้สึกแปลกใจในรูปร่างของส่วนประกอบร่างกายที่ไม่สามารถเห็นได้"หากว่าseiriที่เป็นเจ้าของยังคงมีชีวิตอยู่"ก็เป็นได้...



แต่ฮิซาชิกลับรู้สึกว่ามันไม่ใช่แค่นั้น... ความรู้สึกนี้ราวกับว่าอุปกรณ์เสถียรพลังชิ้นนี้มีอะไรบางอย่างที่มิรันไม่เคยเห็นมาก่อนแม้แต่ในแกนปีกของเผ่าพันธุ์seiriคนอื่นๆ ราวกับว่ายิ่งฮิซาชิยิ่งล้วงลึกเข้าไปในปริศนาของเหล่าseiri เรื่องราวที่น่าสับสนและกระทบกระทั่งกันเองในสมองของเขาก็ยิ่งเพิ่มขึ้นทุกขณะ

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
6.7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
6.8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา